Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving
ทดสอบเรื่องเกียร์ล็อคกับ 2400 โค้ง
พี่ต้น:
เห็นคนที่ทดสอบเขาบอกว่าถ้าไม่เกิน95 ไม่เป็นไรครับ พอถึง95 มันจะล๊อคเลยอ่ะครับ เขาดูจากสมาร์ทเกจครับ
ตูมตาม:
--- อ้างจาก: ต้น ที่ 20 เมษายน 2013, 12:32:24 ---เห็นคนที่ทดสอบเขาบอกว่าถ้าไม่เกิน95 ไม่เป็นไรครับ พอถึง95 มันจะล๊อคเลยอ่ะครับ เขาดูจากสมาร์ทเกจครับ
--- End quote ---
มายืนยันว่าไม่เป็นเช่นนั้นครับ.....ตอนขึ้นภูทับเบิกแล้วเกียร์ล็อค...อุณหภูมิที่สมาร์ทเกตผมอยู่ที่ 90-91 องศา เท่านั้นครับ
แต่ความเข้าใจผิดคิดว่าเกียร์ล็อคนั้นมาจากอุณหภูมิของเครื่องนั้นก็คงมีสาเหตุมาจากการขึ้นทางชันครับ......เพราะเกียร์ล็อคจะเกิดขึ้นเมื่อขึ้นทางชัน.....ในการขึ้นทางชัน load ของเครื่องมาก.....อุณหภูมิของเครื่องจะเพิ่มขึ้นตาม load ที่เพิ่มขึ้น เป็นปกติ......และเกียร์ล็อคก็ดันมาเกิดตอนที่ขึ้นทางชัน และอุณหภูมิในตอนขึ้นทางชันก็จะขึ้นสูงกว่าปกติ.....ดังนั้นความเข้าใจที่ว่าอุณหภูมิที่สูงจะทำให้เกียร์ล็อคจึงอาจเกิดขึ้นได้ครับ (มันเป็นปกติ อย่างที่บอก เกียร์จะล็อคเมื่อขึ้นทางชันซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิเครื่องขึ้นสูงกว่าปกติ)
แต่ความเข้าใจนี้ ถ้าเข้าใจเพียงว่า อุณหภูมิสูงจะทำให้เกียร์ล็อค จึงไม่คลาดเคลื่อนจากความจริงมากนัก (ทั้งๆที่สาเหตุโดยตรงอาจไม่ใช่อุณหภูมิก็ตาม) อันนี้ก็ไม่เป็นไร......แต่ถ้าเกิดการแปลกลับข้างกัน กลายเป็นว่าอุณหภูมิต่ำเกียร์จะไม่ล็อค อันนี้จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงมากขึ้นครับ......เพราะมันจะกลายเป็นว่าถ้าขึ้นทางชันช่วงอากาศเย็น อุณหภูมิเครื่องไม่สูง....เกียร์จะไม่ล็อค......อันนี้คลาดเคลื่อนจากความจริงแน่นอน.....อย่างที่บอกครับพี่ต้น....ผมลองแล้วตอนขึ้นภูทับเบิก......อุณหภูมิเครื่องไม่สูงมาก (90-91) มันก็ล็อคครับ....ถ้าเติมคันเร่งแรงในจังหวะขึ้น และ ECU เปลี่ยนเกียร์ให้
พี่ต้น:
ขอบคุณครับพี่ตาม สรุปว่า ต้องค่อยๆเติมคันเร่งใช่ไหมครับ อันนี้แก้ปัญหาเกียร์ล๊อคได้100% ไหมครับ
ตูมตาม:
เอาละครับ....หลังจากได้ลองทดสอบกับ 2400 โค้ง ช่วงไป-กลับ แม่สอด-อุ้มผาง...และบวกด้วยขากลับจาก แม่สอด-ตาก.....ผมมีข้อแนะนำสำหรับการขับรถขึ้นเขา และป้องกันอาการเกียร์ล็อคดังนี้ครับ
1. ให้ใช้เกียร์ + - หรือ Paddle Shift แล้วแต่ใครจะมีตัวไหนนะครับ......ให้ใช้อุปกรณ์นี้ตั้งแต่ยังขับอยู่บนทางราบ ก่อนขึ้นเขาครับ.....ไม่ใช่ใช้ตอนก่อนขึ้นทางที่ชันนะครับ.....ใช้ตั้งแต่ทางราบก่อนขึ้นเขาเลย.....คือเมื่ออยู่ที่ตีนเขาก่อนขึ้นเขาซัก 4-5 กิโล ให้ปรับมาใช้อุปกรณ์เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองเลยครับ.....เพื่อให้ ECU อันแสนฉลาดโคตรของเรารู้เลยว่า.....ต่อไปนี้กรูจะเปลี่ยนเกียร์เองแล้วนะ......มรึงไม่ต้องเฉือก
2. เมื่อขึ้นทางชัน ไม่ว่าจะชันมาก หรือชันน้อย......ให้ลดเกียร์ลงมาที่เกียร์ 2 (เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองนะครับ).....ถ้าทางชันไม่มากนัก แล้วเปลี่ยนลงมาเกียร์ 2 แล้วรอบสูงเกิน....ค่อยเปลี่ยนกลับไปที่เกียร์ 3 แล้วค่อยขึ้นต่อครับ
3. ระมัดระวังในเวลาเติมคันเร่งเมื่อขึ้นทางชัน......ระลึกว่าขึ้นทางชันควรขึ้นช้าๆ....ไม่ใช่ขับขึ้นทางชันเหมือนขับพื้นราบ....ค่อยๆเติมคันเร่ง....อย่ายัดคันเร่ง......ถ้าค่อยๆเติมคันเร่งแล้ว รถยังไม่มีแรงขึ้น (กรณีทางชันมาก)....ให้ใช้การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำช่วย แทนการยัดคันเร่ง
4. ใช้เกียร์ให้มากกว่าคันเร่ง.......ในการขับขึ้นทางชัน การควบคุมความเร็วของรถ ไม่ว่าจะเพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็วในขณะขึ้นทางชัน ให้ใช้เกียร์ในการช่วยควบคุมให้มากไว้ครับ.....อย่าพึ่งพอเพียงการเติมคันเร่งเท่านั้น....ถ้าไม่ใช้เกียร์ เดี๋ยว ECU มันจะฉลาด เห็นว่าไม่ใช้เกียร์ เลยล็อคไว้ให้ใช้เกียร์เดียวมันซะเลย
5. ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์กล่องคันเร่งไฟฟ้า....ให้ปิด หรือปรับลงมาอยู่ในโหมดต่ำๆ....เพื่อให้ ECU ทราบการกดคันเร่งจริงๆของเรา....ไม่งั้น ECU จะโดนหลอกจากกล่องคันเร่งไฟฟ้า (กล่องคันเร่งไฟฟ้าจะหลอกว่าเรากดเยอะแล้ว ทั้งๆที่เรากดน้อย) พอเราหลอก ECU มากๆ ไปๆมาๆ ECU มันเลยหลอน พาลล็อคเกียร์ให้เราซะเลย
ด้วยวิธีการนี้....ผมสามารถขับ 164โล ขึ้น-ลงเขา กับ 1219โค้ง ระหว่างแม่สอด-อุ้มผาง ได้โดยไม่มีอาการเกียร์ล็อคเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ
ตูมตาม:
สำหรับการแก้ไขปัญหาเมื่อเกียร์ล็อคแล้วนะครับ....ในการขับขากลับจากอุ้มผาง-แม่สอด ผ่าน 1219 โค้ง 164โลเช่นเดิม....ผมลองขับให้เกียร์มันล็อค แล้วลองแก้ปัญหาดูว่ามันจะแก้ได้อย่างไรบ้างนะครับ....สรุปได้ดังนี้ครับ
1. จอด.....วิธีนี้เหมือนที่พี่จ่าบอกเลยครับ....หาที่ปลอดภัยจอดเลยครับ....เปลี่ยนเกียร์จาก D มาที่ N หรือ P....ซักแป๊บเดียว...กลับมาเข้าเกียร์ D ใหม่แล้วออกตัว อาการเกียร์ล็อคจะหายไปครับ
2. ประคองคันเร่งขับช้าๆ.....ถ้าไม่จอด หรือไม่มีที่จะจอด....สามารถแก้ได้ด้วยการประคองรถ ขับเกียร์ 2 ไปแบบช้าๆ แต่ห้ามกดคันเร่งแรงนะครับ....ได้แค่ประคองคันเร่งเบาๆ ให้รอบรถ (ในตอนอยู่ที่เกียร์2) ให้อยู่ซักประมาณ 2 พันรอบ ไปซักพักนึง (หลายนาทีอยู่นะครับ)......หลังจากนั้นอาการล็อคเกียร์จะหายไปครับ....แต่การขับแบบประคองแบบนี้ความเร็วจะน้อยมาก รถจะช้ามาก.....โดยเฉพาะเมื่อขับขึ้นเขา......ดังนั้นต้องขับอย่างระวังนะครับ และควรให้สัญญาณรถที่ตามมาข้างหลังให้แซงเราไปได้เมื่อทางสะดวกด้วยครับ
สิ่งที่ไม่ควรทำเวลาเกิดอาการเกียร์ล็อค
1. อย่าสติแตก....อย่าตื่นเต้น อย่าตกใจ รถมันไม่ได้เป็นอะไรครับ.....ดังนั้นไม่ต้องตื่นเต้น ตั้งสติให้ดี แล้วแก้ปัญหาอย่างที่ผมบอก
2. อย่ายัดคันเร่งซ้ำ.....ส่วนใหญ่เมื่อเกิดเหตุการณ์เกียร์ล็อคแล้ว....เรามักยัดคันเร่งซ้ำเข้าไปอีก เพราะต้องการให้รถไปเร็วขึ้น....หรืออาจคิดว่าการเติมคันเร่งแล้วเกียร์จะเปลี่ยนไปเป็นเกียร์ 3 ให้......ไม่มีประโยชน์ครับ....ยิ่งกดคันเร่ง ECU ยิ่งเข้าใจว่าเรายังไม่ผ่านทางชัน....มันจะยิ่งล็อคเกียร์ไม่ให้เปลี่ยนไปอีก
3. ไม่ต้องพยายามเปลี่ยนเกียร์.....เมื่อมันล็อคแล้ว....ไม่ต้องพยายามครับ....ไม่มีประโยชน์.....เกรงว่าบางท่านจะมัวแต่เปลี่ยนเกียร์จนเกิดอันตรายครับ......เมื่อเกียร์ล็อค (คือลองเปลี่ยนเกียร์ทีนึงแล้วมันไม่เปลี่ยน) ก็ไม่ต้องพยายามแล้วครับ.....พยายามประคองขับให้ปลอดภัยครับ.....อย่าลืมว่าตอนเกียร์ล็อคคือตอนกำลังขึ้นเขาทางชัน.....อันตรายนะครับถ้าเสียสมาธิมาพยายามเปลี่ยนเกียร์.....ตั้งสติ ตั้งสมาธิกับการขับต่อไปให้ปลอดภัยดีกว่าครับ.....ความพยายามเปลี่ยนเกียร์ของท่านมีแต่สูญเปล่าครับ
4. เลือกทางแก้ปัญหาที่ผมให้ไว้ 2 ทาง......จะจอด หรือจะขับประคองต่อจนอาการล็อคหายไปก็เลือกเอา.....แต่ส่วนตัวเท่าที่ลองมานะครับ......ถ้ามีที่จอดได้อย่างปลอดภัย ผมแนะนำให้จอดครับ จะปลอดภัยกว่า.....การประคองรถต่อไป หมายความว่าเราต้องขับในเกียร์ 2 ต่อไปเรื่อยๆ......มันจะลำบากกว่า เพราะเราต้องขับบนเกียร์ และความเร็วที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ค่อยชิน....ไหนจะระวังทางโค้ง ไหนจะระวังรถสวนทางมา ยังต้องมากังวลกับรถด้านหลังจะมาจึ้ตูดด่าอีก......สติ สมาธิ ไม่ดี อาจเกิดอุบัติเหตุได้ครับ.....ดังนั้นแนะนำว่าเลือกทางเดียวกับพี่จ่าครับ...จอดเลยครับ ปลอดภัยสุด
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version