คลิกอ่านขั้นตอนการสมัครสมาชิกบ้านปามาเนีย
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อ้างจาก: พี่ทศ@ปามาเนีย ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2013, 14:32:47ยังขาด "ไห" เดี๋ยวเอามานำเสนอ "ไหขึ้นรถฟรี"หรือเปล่า พี่ทศ
ยังขาด "ไห" เดี๋ยวเอามานำเสนอ
แอบมองมาสองวันละ เมื่อไรจะเฉลยเนี่ยปล.ตอนสมัครเวปนี้ ช่วงแรกๆที่ดูแฟนก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เปิดปามาเนียเมื่อไหร่ เมียมายืนข้างหลังทุกที 555 สงสัยจะกลัวอาการ แหกเรื้อรัง
อ้างจาก: joke8671 ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 11:40:55แอบมองมาสองวันละ เมื่อไรจะเฉลยเนี่ยปล.ตอนสมัครเวปนี้ ช่วงแรกๆที่ดูแฟนก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เปิดปามาเนียเมื่อไหร่ เมียมายืนข้างหลังทุกที 555 สงสัยจะกลัวอาการ แหกเรื้อรังใจเย็นๆครับพี่โจ๊ก หม้องามๆจะเอามาโชว์กันง่ายๆได้ไงครับ หม้อนี้ virgin ซะด้วยนะครับ ....
อ้างจาก: ตูมตาม ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 20:24:43อ้างจาก: joke8671 ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2013, 11:40:55แอบมองมาสองวันละ เมื่อไรจะเฉลยเนี่ยปล.ตอนสมัครเวปนี้ ช่วงแรกๆที่ดูแฟนก็ยังไม่สนใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เปิดปามาเนียเมื่อไหร่ เมียมายืนข้างหลังทุกที 555 สงสัยจะกลัวอาการ แหกเรื้อรังใจเย็นๆครับพี่โจ๊ก หม้องามๆจะเอามาโชว์กันง่ายๆได้ไงครับ หม้อนี้ virgin ซะด้วยนะครับ .... แต่พี่สุแอบไปลูบมาก่อนแล้ว แกยังโทรมาเล่าให้ฟังเลยว่า...พี่นะหม้อสวยว่ะ 5555
สวัสดีพี่ๆที่เฝ้าติดตามเรื่องหม้อๆทุกท่าน ..... ได้เวลามาเฉลยซะทีว่าหม้อที่ว่านี้มันคืออะไรกันน้อ .....หม้อที่ผมหมายถึงในที่นี้คือเจ้านี่ครับCredit ภาพจาก www.radiator-th.comถูกต้องครับ....มันคือ "หม้อน้ำ" ของน้องปาเรานั่นเอง จริงๆเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นเมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว....มีเหตุการณ์ผ่านเข้ามามากมาย....มีหลายสาเหตุปัจจัยเกิดขึ้น.....มีข้อมูลจากหลายแหล่ง....มีคำปรึกษาจากพี่ๆหลายท่าน.....กว่าจะรวบรวมมาเป็นข้อมูลจากประสบการณ์ (เน้นนะครับ จากประสบการณ์ ภาคทฤษฎีไม่ค่อยถนัด) ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังในที่นี้ครับเรื่องราวมันยาว.....คงจะเป็นมหากาพย์เรื่องหนึ่งให้พี่ๆที่สนใจติดตามได้เพลิดเพลินกันนะครับ
ตอนที่1 จุดเริ่มต้นของความร้อน (แรง)ต้องขอบอกก่อนว่าน้องปาผมเป็น Y11 2.5VG Turbo 4x4 นะครับ.....ดังนั้นข้อมูลทั้งหมด ที่ผมจะนำมาแชร์ในครั้งนี้เป็นข้อมูลที่มีพื้นฐานมาจากรถรุ่นนี้นะครับ....สำหรับรถรุ่นอื่นๆ เดี๋ยวรอพี่ๆท่านอื่นคงจะมาแชร์กันบ้าง เรื่องราวต้องย้อนไปตั้งแต่ต้นปี 2011 เมื่อผมตัดสินใจที่จะซื้อน้องปา......เริ่มต้นด้วยการหาข้อมูลต่างๆ หลายแหล่ง....ถึงแม้ผมจะชอบหลายๆอย่างในน้องปา แต่ก็ติดใจอยู่ตรงที่ขนาดของเครื่องกับขนาดของรถ....คือผมเคยใช้ Honda CRV และ Accord เครื่อง 2.4 ซึ่งเป็นเครื่องเบนซิน ซึ่งผมก็ยังรู้สึกว่าเครื่อง 2.4 สำหรับรถทั้ง 2 รุ่นนั้นจะพอรับได้อยู่ในเรื่องของอัตราเร่ง และการออกตัว ซึ่งเครื่อง Honda นั้นขึ้นชื่อว่าจี๊ดจ๊าดอยู่แล้วในเรื่องของการออกตัว.....แต่เมื่อเทียบกับน้องปา เครื่อง 2.5 ถึงแม้จะใส่ VG Turbo เข้ามา แต่ต้องแบกน้ำหนักเกือบ 2 ตัน และเป็นเครื่องดีเซลที่ไม่ถนัดในเรื่องของอัตราเร่งอยู่แล้ว....ผมก็เลยสงสัยว่ามันจะอืดมากมายขนาดไหน จะแบกน้ำหนักตัวถังที่หนักขนาดนั้นได้ยังงัย ..... ซึ่งผลการ test drive ที่โชว์รูม ผมก็พอทราบว่าน้องปาเราออกตัวค่อนข้างช้า ต้องรอรอบให้ Turbo ทำงาน ถึงจะลากเจ้าตัวถังหนักๆนี่ไปได้......ไม่ถูกใจวัยรุ่นอย่างผมเท่าไหร่.....แต่เมื่อเทียบกับทุกอย่างแล้ว....ผมก็ยังตัดสินใจซื้อน้องปา....และคิดว่าเรื่องอัตราเร่ง การออกตัว เดี๋ยวค่อยไปแก้ไขเอา หลังจากจองน้องปาเรียบร้อยแล้ว...ผมก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการตกแต่งต่างๆ การปรับปรุงประสิทธิภาพของน้องปาให้ดียิ่งขึ้น......และได้มาอ่านพบ review ของพี่นะ พี่อ๊อด ในบ้านปาโซไซตี้.....ตั้งแต่นั้นมาผมก็เข้ามาอ่าน ศึกษา comment และ review ของพี่นะ พี่อ๊อด ตลอด........อ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็อ่านไป......จนสรุปในใจได้ว่า เอาละ กล่องข้าวน้อย 2 ที่พี่นะ พี่อ๊อด review นี่แหละน่าจะช่วยแก้ปัญหาผมได้......จนพี่นะจัด meeting ที่ร้าน iFRIT ครั้งที่ 1 ตอนนั้นผมยังไม่ได้รถ....รู้สึกเสียดายมาก ไม่ได้ไปร่วมเพราะยังไม่มีรถ แถมไม่รู้จักใคร....ออกแนวเขินๆ ไม่กล้าไป......งานครั้งนั้นผ่านไป ผมได้มานั่งอ่าน review จากพี่ๆที่เขาไปร่วมงาน ไปติดกล่องอะไรกันว่ามันดียังไง.......ก็คิดเอาในใจว่า.....เอาละรอได้รถก่อนเหอะ ร้านอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราเท่าไหร่ เดี๋ยวมั่วเข้าไปติดเองที่ร้านก็ได้วะ จนมาช่วงกลางๆปี ผมได้รับน้องปาขาวมาครอบครองสมใจ......หลังจากได้มา ผมก็เริ่มศึกษาการใช้งานจากประสบการณ์จริง...ลองขับ ลองลุย ลองวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน.....ถือได้ว่าเป็นรถที่ดีทีเดียว แต่ก็มีสิ่งที่ไม่ชอบอยู่ 2-3 อย่างที่วางแผนไว้ว่าจะปรับปรุงประสิทธิภาพของน้องปาซักหน่อย.....และ 1 ในนั้นก็คือ เรื่องอัตราเร่ง การออกตัว ที่คาใจมาตั้งแต่ก่อนซื้อ.......ก็หาข้อมูลให้มากขึ้น พบว่าเรื่องกล่องอะไรนี่มันมีหลายค่าย หลายสำนักอยู่....บางสำนักเขาว่าดี แต่แพงจัง....บางสำนักก็จะเอาแต่แรง ประมาณซื้อปาแต่จะโมให้มันกลายเป็นเฟอร์รารี่ว่างั้น.....สำนักเหล่านี้ยังไม่เข้าตาผมเท่าไหร่...เพราะผมเน้นเป็นรถใช้งานประจำวัน แค่อยากจะปรับปรุงจุดอ่อนของน้องปาเท่านั้น ไม่ได้แต่งเอาไว้เข้าสนามแข่ง หรือขึ้นไปวิ่งลู่ไดโนบ้าพลังอะไรแบบนั้น.......จึงกลับมาที่กล่องข้าวน้อย ที่พี่นะ พี่อ๊อดได้ review เอาไว้ ซึ่ง concept ของพี่นะ พี่อ๊อด ตรงใจผมมาก ตรงที่ว่า ไม่เน้นเอาแรงจนเสีย safety factor ของเครื่องไป.....เน้นปรับปรุงประสิทธิภาพของรถให้ดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานประจำวัน เหมาะกับเป็นรถครอบครัว....ไม่เน้นแรงแบบบ้าพลัง.....ถ้าบ้าพลังแบบนั้นไม่ต้องซื้อปาครับ ผมมี Civic FD เครื่อง 2.0 แต่งซะจะเป็น transformer อยู่แล้ว......ถึงจะถูกใจ แต่ก็ยังไม่ได้เข้าไปติดนะครับ ด้วยความกลัวที่ว่า เราจะไปคุยกับร้านรู้เรื่องหรือเปล่าวะเนี่ย.....กล่องอะไรก็ไม่รู้ มีท้ายรงท้ายราง แมร่งอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ แถมด้วยอุด EGR ไรนี่อีก....โอ้ยเยอะ....เข้าไปคนเดียว คุยไม่รู้เรื่อง อายเขาอีก........เก็บความอยากไว้ต่อไปครับ....หาข้อมูลไปเรื่อยๆ....รอไปเรื่อยๆ .... ประมาณว่า ไม่รีบว่างั้น เดชบุญ (หรือบาปหว่า ) จากนั้นไม่นาน พี่นะก็จัด meeting ที่ร้าน iFRIT อีกครั้งเป็น meeting ครั้งที่ 2......... คราวนี้แหละ ไม่พลาด พร้อมละตรู ได้ กับเขาซักทีละทีนี้ .....แต่ก่อนหน้าจะถึงวัน meeting ไม่นาน.....มี review มาจากพี่ท่านนึง (ขอสงวนนามไว้นะครับ) รถเค้าเป็นรุ่นเดียวกับผมเป๊ะๆเลย 2.5VG Turbo 4x4......ลงกล่องข้าวน้อยเรียบร้อย.....แต่มีปัญหาเรื่องความร้อนครับ....พี่ท่านนั้นมา post review ในเชิงสอบถามพี่นะ พี่อ๊อด แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดมากนัก....ผมก็ทราบแค่ว่า รถพี่แกติดกล่องข้าวน้อยแล้วเครื่องร้อน......เอาละซิ ลังเลแล้วซิผม....เท่าที่อ่านข้อมูลดันเป็นรุ่นนี้รุ่นเดียวซะด้วย....พวก ขับเคลื่อน 2 ล้อก็ไม่เป็น พวกเครื่อง 3.2 ก็ไม่ร้อน.......กลับไปนอนคิดอีกหลายตลบว่าจะเอายังงัย.......สุดท้าย....เอาวะ.....เป็นไงเป็นกัน....ลองกันดูซักตั้ง...ยังงัยก็คงมีพี่ๆคอยให้คำแนะนำกันบ้างละวะว่าจะแก้ยังงัย......เห็นว่ามันเป็นกล่องมาเสียบ...ถ้าไม่ไหว ก็ถอดทิ้งซะ.....และปลอบใจตัวเองอีกหน่อยว่า อาจเป็นที่รถพี่ท่านนั้นคนเดียวก็ได้ม้าาาาาาาาาาาาาาาง ก็ไม่เห็นมีคนอื่นๆที่มาติดเขามาบ่นนี่หน่า ทั้งหมดนั้นจึงเป็นที่มาของความร้อน(แรง) ในน้องปาขาวอวบของผมครับ....ใน meeting ครั้งที่ 2 ที่พี่นะ พี่อ๊อดจัดนั้น....ผมได้ติดกล่องข้าวน้อย2....ซึ่งมาพร้อม smart gauge....เป็นอุปกรณ์การเสริมประสิทธิภาพเครื่องยนต์ชิ้นแรกในน้องปาผมครับ และผมก็มาทราบเมื่อหลังติดเสร็จแล้วว่า รถผมเป็นคันที่ 2 เท่านั้นที่เป็น รุ่น 2.5VG Turbo 4x4 ที่เข้ามาติดกล่องข้าวน้อย2 ณ เวลานั้น ซวยแล้วตรู(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ตอนที่ 2 โมเครื่องใหม่ หัวใจร้อนรุ่ม (ร้อนมว๊าาาาาาาาาก)เอาละครับ มาต่อกันในตอนที่ 2.........ตอนที่ผมติดกล่องข้าวน้อยนั้น พี่นะมีออกโปรโมชั่น อุด EGR ฟรี ทำท้ายรางฟรี.....ประมาณว่า step 1 กับ step 2 เสียเงินเท่ากัน.....งั้นช้าอยู่ใย...จัด step2 ไปเลยพี่อย่าช้า.......ตอนนั้นปัญหาเรื่องเครื่องร้อนถูกลบเลือนไปด้วยบรรยากาศเม้ากันมันหยดในงาน meeting....ได้เห็นรถแต่งงามๆหลายๆคัน...มัวแต่นั่งฟังพี่นะ พี่อ๊อด คุยจนเพลิน.....รถผมอยู่คิวที่ 4 หรือ 5 นี่แหละ ที่จะติดกล่องข้าวน้อย......ผ่านไปถึงประมาณเที่ยง....มีพี่คนนึง (ทราบทีหลังว่าคือพี่ปอนด์) มาบอกว่า พี่ๆ รถพี่เสร็จแล้ว ลองเอาไปเทสดู........ ......ในที่สุดจะได้ลองน้องปาโฉมใหม่แล้ว.....ไม่รอช้าครับ กระโดดขึ้นรถ.....มาเห็นไอ้เจ้า smart gauge นั่งทำหน้าเศร้าๆอยู่หน้ารถ พร้อมตัวเลขแมวอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด....พี่ปอนด์คนเดิมเดินมาสอนบอกวิธีการใช้มัน ปรับยังงัย ตั้งค่ายังงัย กันขโมยตั้งแบบไหน ค่านี้หมายถึงอะไร ค่าโน้นหมายถึงอะไร...... ....สารภาพเลย....ไอ้ที่พี่ปอนด์อธิบายมานั้น ผมจำได้แค่ 5% ที่เหลืออีก 95% ใส่พานส่งคืนพี่ปอนด์ไปหมดตั้งกะ 5 นาทีหลังพี่ปอนด์อธิบายจบ เอาหละ...เสร็จพิธีกรรมอบรมการใช้งานละ...ลองจริงกันเลย.....พอถอยรถตั้งลำออกจากซอยได้ปุ๊บ.....กดเลยครับ .....ได้ยินเสียงดัง "เอี๊ยยยยยยยยยยยยยยยด" เสียงยางเบิร์นล้อฟรี....โอ้ววววว ไม่น่าเชื่อ แค่กล่องเล็กๆใบเดียวจะทำให้รถเครื่องดีเซล ใหญ่ หนัก ขนาดนี้ออกตัวล้อฟรีได้ .......ผมยกคันเร่งนิดนึง เพื่อไม่ให้มันฟรีทิ้งซะหมด......รอบตกลงนิดแล้วกดต่อเลยครับ......เจ้าปาขาวก็ทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว......ครั้งแรกที่ขับต้องบอกเลยว่า อืม.....ออกตัวดีขึ้นเยอะ.....กดปุ๊บเป็นมา ไม่ต้องรอรอบ.....แบบนี้ซิถึงจะกระฉับกระเฉงหน่อย......ในใจผมนึกถึงแต่ความแรง อัตราเร่งที่ดีขึ้น ทำให้น้องปากลายเป็นรถที่น่าขับมากขึ้นแยะเลย ....ถูกใจวัยรุ่นอย่างผมว่างั้น .......แต่ทันใดนั้นเอง .....ก็มีเสียง "ปี๊ดดดดดดดดดด" ดังมาจาก Smart Gauge ผมเหลือบตาไปมอง......เห็นมีไฟเตือนขึ้นที่ค่า ECT (Engine Coolant Temperature).....ค่านี้เป็นค่าเดียวละมั้งที่ผมจำได้จากการอธิบายของพี่ปอนด์ทั้งหมด.....เหลือบไปมองตัวเลข......ทะลุ 100 องศาไปแล้ว........ตอนนั้น review ของพี่ที่มาติดก่อนผมแว๊บบบบบเข้ามาในหัวทันที.....พร้อมกับนึกในใจว่า เอาแล้วตรู งานเข้าซะแล้ว.....อาการเดียวกันเลย....เครื่องร้อนแหงๆ......แต่ยังตั้งสติครับ....ไม่ตื่นจนเกินไป....ยกคันเร่งขึ้นก่อน.....สายตาเหลือบไปมองที่เข็มวัดอุณหภูมิที่หน้าปัดน้องปา......อ้าว..เฮ้ย....ทำไมเข็มมันไม่ขยับวะ.....แล้ว smart gauge มันร้องเตือนได้ไง ตกลงมันร้อนหรือเปล่าหว่า........หลายคำถามแว๊บเข้ามาในหัว.....หรือเข็มวัดอุณหภูมิเราจะเสีย.....หรือ Smart Gauge มันจะอ่านค่าเพี้ยน.....แล้วนี่ตกลงมันร้อนหรือเปล่าวะเนี่ย....เง็ง .......เก็บคำถามพวกนี้ไว้ก่อน....ตั้งสติ.....ขับต่อ.....กดคันเร่งเบาๆ....มองดูค่า ECT ที่ Smart gauge เห็นตัวเลขความร้อนเริ่มลดลงจาก 100 กว่า ลงมาเหลือ 98-99.....Smart Gauge หยุดร้อง.......ขับไปเรื่อยๆ ในใจก็คิดโน่นคิดนี่....เริ่มกลุ้ม เริ่มเซ็ง......จนมาถึงถนนอักษะ อันเป็นสถานที่ลองรถประจำของพี่ๆที่ไปใช้บริการที่ร้าน iFRIT.....จดรถสงบนิ่ง....ตั้งสติก่อน.......มันเป็นที่รถ....หรือมันเป็นที่คน คนที่ผมหมายถึงก็คือตัวผมเองครับ.....และหมายถึงวิธีการขับของผม....ตอนออกจากร้านมา ด้วยความมันกดคันเร่งซะมิด....เป็นไปได้ที่เครื่องเมื่อมีการปรับแต่ง ความร้อนก็เพิ่มขึ้น วิธีการขับของเราอาจจะผิดก็ได้.....พอคิดได้แบบนี้ก็ลองใหม่ครับ....ไม่ใช่วิธีขับแบบใหม่นะครับ....ลองขับมันแบบเดิมนั่นแหละ....ดูซิว่ามันจะร้องเตือนอีกมั๊ย.....ว่าแล้วก็กดเป็นเต็มเหนี่ยวครับ.....ออกตัวอย่างแรง กดค้าง ลากรอบ.....ผลคือ Smart gauge ร้องเตือน...ความร้อนขึ้นไปเกิน 100 อีกครั้ง.....ok ยกคันเร่ง เบาเครื่อง กลับรถ มาจอด เตรียมลองรอบต่อไป......รอบแรก แสดงว่าการขับแบบกดมิด แช่นาน แบบนี้คงไม่เหมาะกับรถ....แต่ก็ยังแปลกใจว่า ตลอดเวลาที่ขับ ไอ้เข็มความร้อนนี่มันไม่เห็นจะขยับเลย......ไม่เป็นไร ช่างมันก่อนเรื่องเข็ม.....ลองใหม่....คราวนี้ลองกดไม่มิด เอาแบบค่อยๆขึ้น แต่กดแช่ยาวๆ....ผลก็คือ อุณหภูมิ ยังขึ้นเกิน 100 อยู่ดี....ลองแบบนี้อยู่หลายรอบ บางรอบก็ไม่เกินร้อยแต่ก็อยู่ประมาณ 99 บางรอบก็เกินร้อย....ฟังเสียง smart gauge เตือนจนปวดหูเอาละ....จอดรถ...คิดก่อน....เอ ถ้าเป็นแบบนี้ มันก็ขับไม่ได้เลยซิ มันร้องเตือนตลอด ความร้อนทะลุ 100 ได้ง่ายๆ แบบนี้จะขับยังงัยหว่า......คิดไปคิดมา...เอ้า....ลองใหม่.....ลองแบบค่อยๆเติมคันเร่งในรอบต้น และใช้วิธี กดแล้วยก ยกแล้วกด ค่อยๆเติมแบบนี้ไปเรื่อยๆ....ผลคือความร้อนไม่เกิน 100 ละ....มาวนเวียนอยู่ที่ 97-99....ลองอยู่หลายรอบก็เป็นเหมือนเดิม.....เอาละโว้ย เจอวิธีขับแล้ว......ไม่เป็นไร ขับแบบนี้ไปก่อน เดี๋ยวไปหาข้อมูลอย่างอื่นก่อนแล้วค่อยว่ากัน....อย่างน้อยก็พอขับไปได้ อุณหภูมิ ไม่สูงเกินจนร้องเตือนก็ ok แล้ว.....และอย่างน้อยก็ได้รอบต้นดีขึ้น เพียงแต่ต้องเปลี่ยนวิธีขับเล็กน้อย.....จากนั้นก็เลยกลับไปที่ร้าน iFRITหลังจากกลับมาที่ร้านก็มาอัพเดทให้พี่ปอนด์ฟังเรื่องความร้อน และเรื่องวิธีขับที่ทั้งทำให้ร้อน และวิธีที่ประคองไม่ให้ร้อนได้.....ได้รับการอธิบายจากพี่ปอนด์ว่า ไม่ต้องตกใจกับการเตือนของ smart gauge ที่มันเตือนไม่ใช่บอกว่าเครื่องพังแล้ว แต่เป็นการเตือนเพื่อบอกว่า ให้ยกคันเร่งหน่อย ถ้าเหยียบต่อหนูจะพังแล้วนะ......อ๊ะ....อย่างงี้พอได้ ไม่ใช่เตือนว่าพังแล้ว แต่เตือนว่าถ้ากดต่อจะพัง....อย่างงี้ถ้ามันเตือนแล้วถอนคันเร่งก็ยังพอทันนิ.... ...เอาละอย่างน้อยยังพอขับได้ ไม่ต้องถอดกล่องทิ้ง......พี่ปอนด์บอกว่าให้ลองใช้ไปก่อน เก็บข้อมูลมาแชร์กัน แล้วเดี๋ยวมาหาวิธีแก้ปัญหากันอีกทีสรุป....จากงาน meeting ครั้งนั้น....ผมได้แรงสมใจ และได้ร้อนมาเป็นของแถม พร้อมคำถามในใจอีกเพียบที่ยังต้องไปหาคำตอบต่อไป (โปรดติดตามตอนต่อไป คืนนี้ไปนอนก่อนละคร้าาาาบ)