ถ้าอย่างงั้นรถแต่งเครื่องมาก็เหมาะที่จะเอาวาล์วน้ำตัวอุณหภูมิต่ำนี้ไปใส่??
ก็ไม่จำเป็นเสมอไปอีกเช่นกันครับ.....ต้องพิจารณาระดับการแต่ง ระดับการจูนของรถคันนั้นๆด้วยครับ....ต้องดูว่าการแต่งหรือจูนนั้นทำให้เกิดผลกระทบอย่างไรต่ออุณหภูมิใช้งานของเครื่องยนต์ด้วยครับ.....คือถ้าแต่งมาก จูนมาก ผลกระทบทำให้ความร้อนขึ้นสูงมาก เลยช่วงที่เหมาะสมไป....อันนี้เอามาใส่ก็สามารถทำได้ครับ....แต่ถ้าแต่งไม่มากนัก จูนพอประมาณ ส่งผลกระทบต่อความร้อนบ้าง ไม่มาก.....ยังสามารถคงระดับความร้อนอยู่ในช่วงเหมาะสมได้....อันนี้อาจไม่จำเป็นต้องเสี่ยง...เพราะหากนำมาใช้ก็จะเสี่ยงกับอาการ Low Temp. Hazard ครับ......ดังนั้นการจะนำวาล์วน้ำตัวเปิดอุณหภูมิต่ำนี้มาใช้หรือไม่ ไม่ได้ดูที่แต่งหรือไม่นะครับ.....ดูที่แต่งแล้วมีผลต่ออุณหภูมิใช้งานหรือไม่ต่างหาก
งั้นทำไมรถในปามาเนียถึงไม่มีใครใช้วาล์วน้ำตัวนี้กัน เห็นรถก็แต่งๆกันมาทั้งนั้น??
ก็นั่นแหละครับ......อย่างที่บอก....มันขึ้นกับการแต่งการจูนนั้นมีผลกระทบต่อระดับความร้อนมากน้อยแค่ไหน....ในปามาเนีย แนวทางการแต่งรถนั้นถูกวางไว้โดยให้อยู่ในกรอบของ Safety Factor ที่เครื่องยนต์ถูกออกแบบมา....ไม่ได้แต่งมากมาย หรือจูนเยอะแยะ.....ยังคงเป็นการแต่งปรับจูนโดยคำนึงถึงว่าเป็นรถครอบครัว รถใช้งานที่ต้องใช้ทุกวัน ใช้เป็นประจำ......ดังนั้นการปรับแต่งปรับจูนที่ทำกันในปามาเนียจะให้อยู่ภายใต้ Safety Factor .... แต่งจูนเพื่อลดจุดด้อยของรถ ...เพื่อให้ใช้งานได้ดีในชีวิตประจำวัน โดยที่ไม่ต้องมีการ maintenance สูงกว่ารถปกติ....ง่ายๆคือเพิ่มเติม แก้ไขจุดอ่อนของรถสแตนดาร์ดครับ.....ที่ว่าแรงๆๆๆๆในบ้านปามาเนีย...เอาเข้าสนามแข่ง...โน่นแหละครับรั้งอยู่ท้ายๆ...เพราะการแต่งจูนไม่ได้ทำมาแข่งขัน....ดังนั้นเท่าที่ได้เห็นมาการแต่งการจูนที่ทำในระดับของปามาเนียนี้....วาล์วน้ำตัวเดิมบวกกับระบบระบายความร้อนเดิมของรถยังสามารถทำงานได้ สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้แล้วครับ......เลยไม่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนครับ.........ส่วนการปรับแต่งปรับจูนที่ที่อื่นๆเขาทำนั้น...อาจทำให้แรงได้มากกว่า อันนี้แล้วแต่เจ้าของรถจะชอบครับ...และหากการปรับแต่งนั้นมีผลทำให้อุณหภูมิมันสูงขึ้นมาก...การเอาวาล์วน้ำตัวเปิดต่ำนี้มาใช้ก็เหมาะสมแล้ว
หลักการประมาณนี้แหละครับพี่ไซ....ยาวไปหน่อยขออภัยครับ