Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Technics, Maintenance & Problem solving => ข้อความที่เริ่มโดย: หยก วาฬน้ำเงิน ที่ 10 กันยายน 2014, 23:06:48
-
สวัสดีครับเพื่อนๆปามาเนีย วันนี้ผมมีเรื่องราวที่คิดว่าน่าสนใจและจะเป็นกรณีศึกษาให้กับสมาชิกบ้านปามาเนียของเราได้จดจำไว้เป็นข้อมูลและอาจนำไปเป็นอุทาหรณ์สอนใจต่อไป เรื่องที่ผมจะเขียนเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วยของเจ้าวาฬน้ำเงิน (รถปาเจโร่คู่ใจของผม) และการวิเคราะห์อาการของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นต้นเหตุให้เกิดอาการป่วยดังกล่าว
ตอนที่ 1: อารัมภบท
ก่อนที่จะเข้าเรื่องผมขออนุญาตเท้าความสักเล็กน้อยเพื่อปูพื้นให้พวกพี่ๆมีความเข้าใจเกี่ยวกับเจ้าวาฬน้ำเงินก่อนสักเล็กน้อยเพื่อที่จะอ่านเรื่องราวได้อย่างปะติดปะต่อและจะได้เข้าใจเรื่องราวไปพร้อมๆกันนะครับ คือว่าเจ้าวาฬน้ำเงินของผมถือกำเนิดที่ศูนย์มิตซูฯ ย่านพระราม 3 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ตลอดเวลาที่ผ่านมาวาฬน้ำเงินได้เข้ารับการตรวจร่างกายและเปลี่ยนถ่ายอะไหล่ที่จำเป็นตามโปรแกรมของศูนย์มาตรฐานมิตซูฯ มาโดยตลอดไม่เคยขาด จนกระทั่งผมเริ่มสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมืออาชีพของช่างและผู้ควบคุมช่างของศูนย์ดังกล่าว ดังนั้นหลังจากเข้าเช็คระยะ 40,000 กม.ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปใช้บริการของอีกศูนย์หนึ่งในละแวกใกล้เคียงกัน ซึ่งผมคาดหวังว่าสถานที่แห่งใหม่นี้จะเป็นที่พึ่งของเจ้าวาฬน้ำเงินทดแทนศูนย์เดิมได้ แต่ผมคิดผิดถนัด ครั้งนี้การตัดสินใจของผมเปรียบเสมือน “หนีเสือปะจระเข้” แท้ๆ...
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ คือว่ารถของผม (เจ้าวาฬน้ำเงิน) ครบกำหนดเช็คระยะ 50,000 กม. ผมจึงได้เปลี่ยนไปใช้บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและเช็คระยะที่ศูนย์แห่งหนึ่งย่านถนนสาทรเหนือเพื่อรักษาสิทธิในการรับประกันตามสมุดคู่มือของมิตซูฯ เหมือนที่ทุกท่านทำเป็นปกตินั่นล่ะครับ และที่ศูนย์นี้นี่เองทำให้ผมเกิดความประทับใจอยู่หลายเรื่อง ตั้งแต่ช่วยแก้อาการเกี่ยวกับเบรคที่ศูนย์เดิมเป็นผู้สร้างปัญหาให้ผม ทั้งช่วยเคลมเปลี่ยนเทอร์โบลูกใหม่ และเคลมเปลี่ยนแกนพวงมาลัยให้ผมใหม่ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเชื่อสนิทใจว่าที่นี่จะเป็นที่พึ่งพิงของเจ้าวาฬน้ำเงินของผมได้ต่อไปอีกหลายปี จนกระทั่งวันที่ 19 มิถุนายน 2557 วันที่ผมพาเจ้าปาวาฬเข้าไปตรวจเช็คสภาพพร้อมเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งตามกำหนด 100,000 กม. ที่เลขไมล์ 100,099 กม.
ผมเข้าใจว่าในวันนั้นทางศูนย์น่าจะมีลูกค้าเข้าใช้บริการไม่มากเท่าไหร่ เพราะทีแรกแจ้งกับผมว่าจะขอแยกให้บริการเป็น 2 วันคือวันแรกตรวจเช็คตามระยะ 100,000 กม.ก่อนแล้วให้ผมมารับรถกลับ วันรุ่งขึ้นนำรถมาส่งที่ศูนย์แต่เช้าเพื่อเข้าโปรแกรมเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งอีก 1 วัน และสามารถนำรถกลับได้ในวันเดียวกัน แต่ต่อมาทางศูนย์โทรมาแจ้งว่าวันนี้จะจัดการรถผมให้เสร็จทั้งสองอย่างเลยภายในวันเดียว พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องเข้ามาอีก ได้ฟังดังนั้นผมจึงคิดว่าเป็นเรื่องดีเพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มอีก 1 วันจึงบอกทางศูนย์ให้ดำเนินการไปตามนั้น โดยไม่อาจรู้เลยว่าเหตุการณ์ในวันนั้นจะทำให้เจ้าวาฬน้ำเงินป่วยหนักเข้าขั้นรุนแรงจนต้องเข้ารับการรักษาโดยด่วนในเวลาต่อมา
(http://upic.me/i/mz/img048.jpg)
(http://upic.me/i/0a/img049.jpg)
(http://upic.me/i/o1/img050.jpg)
ป.ล. ตามปกติเมื่อพี่ๆนำรถเข้าศูนย์มาตรฐานของมิตซูฯ ทางศูนย์จะระบุในใบเสร็จรับเงิน (บางแห่งจะขึ้นป้ายบอกกล่าวผู้มาใช้บริการอย่างชัดเจน) ว่ารับประกันผลงาน 6 เดือนหรือ 10,000 กม. ซึ่งถือเป็นมาตรฐานของมิตซูฯ ที่ศูนย์บริการทุกแห่งต้องยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติปกติของศูนย์มิตซูฯมาตรฐานทั่วๆไปอยู่แล้ว
-
ตอนที่ 2: น้ำดันมหันตภัยเงียบ
หลังจากชำระค่าบริการและค่าอะไหล่ต่างๆในราคามาตรฐานศูนย์ วันนั้นผมรับรถกลับมาใช้งานตามปกติและรถก็ไม่ได้มีอาการผิดปกติอันเกิดจากการใช้งานตามปกติให้เห็นแต่อย่างใด ในระหว่างนั้นผมได้มีโอกาสลองอัพเกรดท่อไอเสียจากท่อเดิมเป็นท่อ HKS Hipower ตามที่พี่ๆหลายท่านได้นำข้อมูลมารีวิวไว้แล้วในบ้านเรา และหลังจากติดตั้งท่อใหม่มาส่วนใหญ่ผมก็ใช้งานในเมืองเป็นส่วนใหญ่ มีโอกาสเดินทางไกลไปต่างจังหวัดเพียงครั้งเดียวคือในระหว่างวันหยุดยาวช่วงวันแม่ที่ผ่านมา โดยผมขับเจ้าวาฬน้ำเงินเดินทางไปเยี่ยมคารวะญาติผู้ใหญ่ที่จังหวัดนครสวรรค์และขับกลับภายในวันเดียวกัน
ตามปกติอุณหภูมิ (Temp) ที่อ่านได้จาก Smart Gauge (SMG) จะอยู่ระหว่าง 85-89 องศาและไม่เคยแตะถึง 90 องศาเลยสักครั้งถ้าไม่ได้ขับขึ้นสะพานทางด่วนแล้วกดแช่ยาวๆ แต่หลังจากทริปนั้นผมเริ่มรู้สึกว่าเจ้าวาฬน้ำเงินเริ่มมีอาการตัวร้อนผิดปกติ ถึงจะยังไม่มากเท่าไหร่แต่ก็ไม่น่าใช่อาการปกติอย่างแน่นอน กล่าวคือรถจะมีอุณหภูมิสูงเกิน 90 องศาหลังจากขับขึ้นที่จอดรถบนชั้น 7 ของอาคารจอดรถ ซึ่งตามปกติแล้วผมจะสังเกตทุกครั้งก่อนดับเครื่องว่า Temp จะอยู่ประมาณ 85+/- ไม่เกิน 2 องศา แต่ผมก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดปกติร้ายแรงอะไรเพียงแค่แปลกใจเฉยๆเท่านั้น
หลังจากนั้นวันที่ 16 สิงหาคม 2557 ผมขับเจ้าวาฬน้ำเงินไปส่งญาติผู้ใหญ่ที่สนามบินดอนเมืองโดยใช้อาคารจอดรถที่ Terminal 2 และผมมักจะเลือกจอดที่ชั้น 3 ของอาคารจอดรถเป็นประจำเนื่องจากเป็นชั้นเดียวกับทางเดินที่เชื่อมต่อไปยังอาคารผู้โดยสารจะได้ไม่ต้องขึ้นลงลิฟท์หลายครั้ง แต่การจะขึ้นไปที่ชั้นนี้ได้นั้นพี่ๆที่เคยไปจะทราบว่าต้องไต่ทางชันขึ้นไปโดยใช้ความเร็วต่ำอยู่หลายสเต็ป ในจังหวะที่กำลังจะดับเครื่องยนต์มาสังเกตตรง SMG พบว่า Temp ขึ้นมาอยู่ที่ 95 องศาและกำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ทำไงดีล่ะทีนี้...ผมคิดในใจ เอาวะดับเครื่องเลยดีกว่า ไม่งั้น Temp มันอาจจะวิ่งขึ้นไปอีก SMG มันต้องร้องแน่ๆ (ปกติผมจะตั้งให้ SMG ร้องเตือนเมื่ออุณหภูมิขึ้นไปถึง 99 องศา) แต่วินาทีนั้นผมตระหนักดีแล้วว่าต้องมีความไม่ปกติอย่างใดอย่างหนึ่งกับเจ้าปาวาฬอย่างแน่นอน...เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร!!!
ในระหว่างที่เดินไปยังอาคารผู้โดยสารผมร้อนใจมากว่าอาการตัวร้อนดังกล่าวเกิดจากสาเหตุอะไร ก้มมองนาฬิกาบอกเวลาประมาณสี่โมงเย็นกว่าๆ จึงรีบกดโทรศัพท์ไปถามหัวหน้าช่างที่ศูนย์ประจำย่านถนนสาทรเหนือที่ว่า หลังจากเล่าอาการให้หัวหน้าช่างฟังแล้วก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ลองเอามือหมุดพัดลมฟรีปั๊มดูว่ามันหนืดๆมือหรือเปล่า ผมบอกกับช่างว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่กับรถ เดี๋ยวทำธุระเสร็จแล้วจะลองตรวจดู
หลังจากส่งญาตผู้ใหญ่ขึ้นเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว ผมกับผบ.ก็กลับมาที่รถอีกครั้งลองเอามือหมุนพัดลมฟรีปั๊มดูก็ปรากฎว่ามันหนืดๆฝืดๆเป็นปกติดี ผมภาวนาในใจขอให้อาการตัวร้อนนั้นหายไปเถิด...เพี่ยง พอสตาร์ทรถก็ธรรมดาครับ Temp ตกลงไปอยู่ที่ประมาณ 70 กว่าๆเพราะจอดไว้ร่วม 2 ชั่วโมง จึงได้ขับออกไปตามปกติระหว่างขับก็กังวลว่าความร้อนจะขึ้นมาอีกหรือเปล่า เลยพลอยไม่กล้าเหยียบคันเร่งได้แต่ประคองที่ความเร็วพื้นๆไปเรื่อยๆ ต่อมาพอออกเส้นพระราม 5 ถนนค่อนข้างโล่ง ผมลืมเรื่องอาการตัวร้อนไปชั่วขณะเลยไม่ได้มอง SMG แต่ก็ยังประคองความเร็วอยู่ที่ไม่เกิน 110 กม./ชม. อยู่ๆ SMG มันก็ร้องเตือนขึ้นมาอีกครั้งคราวนี้ร้องยาวเลยครับ ผมยอมรับว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกได้แต่ประคองรถค่อยๆเข้าจอดข้างทาง ขณะนั้น SMG แสดงผล Temp อยู่ที่ 102 องศา (ในขณะที่เกจ์ความร้อนบนแผงหน้าปัทม์คอนโซลยังแสดงค่าความร้อนเป็นปกติอยู่)
หลังจากที่สับสนอยู่ช่วงหนึ่งใจหนึ่งก็คิดว่ารอเครื่องเดินเบาอีกสักพัก Temp มันคงจะลดลงไปเองมั้ง แต่พอเห็นว่านานแล้ว Temp ก็ยังไม่ยอมลดเลยตัดสินใจดับเครื่องยนต์กับเดินไปเปิดฝากระโปรงหน้า และรีบโทรหาพี่ท่านนึงในบ้านที่เคยมีปัญหาเรื่องความร้อนมาก่อนก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ตรวจดูบริเวณหม้อน้ำแต่อย่าเพิ่งเปิดฝาหม้อน้ำนะ ตรวจดูคร่าวๆพบว่าน้ำในหม้อพักน้ำของหม้อน้ำถูกดันจนล้นออกมาทางท่อน้ำล้น ที่รู้เพราะว่าเห็นคราบน้ำยาหม้อน้ำเปื้อนอยู่ตรงข้างๆหม้อกรองอากาศ ขณะนั้นผมคิดอะไรไม่ออกแต่เนื่องจากผบ.นั่งมาด้วยเลยคิดว่าทำยังไงก็ได้ให้ขับรถออกไปได้ก่อน เลยตัดสินใจปิดการทำงานของกล่องปิ่นโตเหลือไว้แต่กล่องคันเร่งแล้วสตาร์ทรถขับประคองไปจนถึงบ้าน
-
ตอนที่ 3: ความลับที่ถูกเปิดเผย
คืนเดียวกันนั้นเอง (16 สิงหาคม 2557) ที่พี่ๆปามาเนียมีการนัดรวมตัวกันเพื่อปรึกษารูปแบบงานประจำปีกันที่บ้านพี่โย หลังจากทำธุระส่วนตัวที่บ้านเสร็จเรียบร้อยจึงตามไปสมทบ หลังจากประชุมเรื่องคอนเซ็ปงานประจำปีเสร็จเรียบร้อยพวกพี่ๆก็พากันมารุมวิเคราะห์อาการรถผม เหตุการณ์หลังจากนี้พวกเราได้ตรวจพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเจ้าวาฬน้ำเงินอยู่ 3 อย่างด้วยกันอันได้แก่
1. น้ำในหม้อน้ำขาดหายไปบางส่วนจนต้องใช้น้ำจากก๊อกน้ำสะอาดมาเติมลงไปที่ฝาหม้อน้ำประมาณ 750 cc. (ครึ่งขวดน้ำอัดลม 1.5 ลิตร)
2. น้ำยาหม้อน้ำที่อยู่ในรถผมไม่ใช่น้ำยาหม้อน้ำมาตรฐานของมิตซูฯ สันนิษฐานว่าเป็นน้ำยาหม้อน้ำที่มีวางขายตามร้านคาร์แคร์ทั่วไป เนื่องจากสีของน้ำยาหม้อน้ำของมิตซูจะเป็นสีเขียวใสมรกต แต่น้ำยาหม้อน้ำที่อยู่ในรถผมมีสีเขียวขุ่นและสะท้อนแสง
3. เมื่อเปิดฝาหม้อน้ำสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ พบว่ามีฟองอากาศขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 0.5-1.0 ซม.ผุดขึ้นมาจากด้านในหม้อน้ำตลอดเวลา
พี่ๆช่วยกันวิเคราะห์สาเหตุ
(http://upic.me/i/o6/20140817_000035.jpg)
น้ำยาหม้อน้ำในรถผม (สีเขียวสะท้อนแสง)
(http://upic.me/i/xw/20140817_144055.jpg)
น้ำยาหม้อน้ำของมิตซูฯ (สีเขียวแฟนต้า)
(http://upic.me/i/x1/20140910_194556_zpspbpngifz.jpg)
คลิปอาการที่ตรวจพบครั้งแรก
http://www.youtube.com/watch?v=AOxgkjhsF9c
จากการสันนัษฐานของพี่ๆผู้สันทัดกรณีต่างฟันธงว่าอาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากปะเก็นฝาสูบแล็บ หรือถ้าจะร้ายแรงกว่านั้นก็คือฝาสูบโก่งตัวเนื่องจากความร้อนสะสมในเครื่องยนต์แล้วระบายไม่ทัน แต่สาเหตุมันเกิดจากอะไรล่ะ???!!!
เช้าวันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม 2557 ผมนำรถเข้าไปให้ที่ศูนย์เดิมย่านถนนสาทรเหนือเพื่อแจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นและตรวจสอบอาการที่พบ ตอนที่เจอหัวหน้าช่างผมถามว่าทำไมที่ศูนย์ไม่ใช้น้ำยาหม้อน้ำของมิตซูล่ะ? ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นนโยบายของแต่ละศูนย์ซึ่งสามารถกำหนดเองได้ว่าจะใช้น้ำยาหม้อน้ำของอะไรก็ได้ ผมนึกในใจว่าจริงเหรอฟร่ะ??? นี่เราเข้าศูนย์มาตรฐานมิตซูแต่ไม่ใช้น้ำยาหม้อน้ำของมิตซู แล้วไม่เคยมีใครบอกให้ผมทราบเรื่องนี้มาก่อนเลยครับให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้
หลังจากส่งรถให้ศูนย์แล้วผมได้โทรศัพท์ไปสอบถาม Call Center ของมิตซูสำนักงานใหญ่ (MMTH) ที่หมายเลข 02-529-9500 ผมต้องการทราบว่าการที่ศูนย์บริการมาตรฐานของมิตซูฯไม่ใช้น้ำยาหม้อน้ำของมิตซูแต่ใช้ของที่หาซื้อได้ทั่วไปตามตลาดนัดนั้นทางสำนักงานใหญ่ทราบเรื่องหรือไม่ และอนุญาตให้ดำเนินการตามนั้นหรือเปล่า ทางเจ้าหน้าที่สอบถามข้อมูลรถพร้อมรายละเอียดการเข้าซ่อม และแจ้งว่าจะประสานงานไปยังศูนย์บริการดังกล่าวเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและจะติดต่อกลับในภายหลัง
หลังจากทิ้งรถไว้ทั้งวันตอนเย็นกลับไปรับรถหัวหน้าช่างได้แจ้งว่ารถผม “ปกติ” ให้รับรถกลับไปใช้งานได้ หลังจากรับรถกลับมาในวันนั้นผมคิดทันทีว่าการทำงานของช่างที่ศูนย์นี้ต้องมีอะไรไม่ปกติแน่ๆ ขนาดพวกพี่ๆที่ไม่ใช่ช่างยังสันนิษฐานได้ว่าอาการทั้ง 3 อย่างดังกล่าวน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ช่างศูนย์กลับบอกว่าปกติให้ผมรับรถกลับไปใช้ได้โดยไม่พยายามตรวจหาสาเหตุที่มาของอาการดังกล่าวแต่อย่างใด เย็นวันนั้นผมขับรถกลับบ้านด้วยความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งเพราะรู้แน่ๆว่ารถมันไม่ปกติและศูนย์ยังไม่ได้แก้ไขอะไรให้ผมเลย
วันรุ่งขึ้นผมตัดสินใจนำรถเข้าไปให้ทางศูนย์ตรวจเช็คอาการซ้ำอีกครั้ง คราวนี้ผมขอให้หัวหน้าช่างติดเครื่องยนต์เปิดฝาหม้อน้ำรถผมเทียบกับรถคันอื่นอีก 2 คันที่จอดอยู่ในศูนย์นั้น ผลปรากฎว่ารถผมมีการแตกต่างจากรถอีก 2 คันอย่างชัดเจน กล่าวคือรถผมมีฟองอากาศผุดขึ้นมาจากด้านในตลอเวลาในขณะที่รถอีก 2 คันนั้นน้ำในหม้อน้ำจะนิ่งไม่มีฟองอากาศผุดออกมา ผมถามหัวหน้าช่างว่าอย่างที่เห็นนี้แสดงว่ารถผมมีอาการไม่เหมือนกับรถคันอื่นที่จอดอยู่ในศูนย์ อย่างนี้ยังจะบอกว่ารถผมปกติอีกเหรอครับ? ช่างมีอาการอ้ำอึ้งไม่ตอบคำถามผม ได้แต่ขอรับรถไว้ตรวจสอบอาการซ้ำอีกครั้ง
เย็นวันนั้นผมโทรไปสอบถามความคืบหน้าปรากฎว่าทางศูนย์ตรวจสอบอาการรถยังไม่เสร็จ ผมเลยบอกว่าอย่างนั้นผมทิ้งรถไว้ให้ 1 คืนเพื่อให้ศูนย์มีเวลาตรวจสอบอาการรถเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งวัน จากการสอบถามวิธีการที่ศูนย์ใช้ในการตรวจสอบเบื้องต้นคือการอัดแรงดัน 2 psi เข้าไปในหม้อน้ำแล้วคอยดูว่าแรงดันคงที่หรือไม่ ถ้าหากพบว่าแรงดันตกลงแสดงว่าหม้อน้ำอาจมีการรั่ว อีกวิธีหนึ่งที่ทางศูนย์ใช้ตรวจสอบคือการสตาร์ทรถผมทิ้งไว้ทั้งวันแล้วคอยดูความร้อนว่าขึ้นไปถึงเท่าไหร่ นอกจากนี้ผมยังได้รับการบอกเล่าจากหัวหน้าช่างว่าได้นำรถของผมออกไปวิ่งจับอาการบนทางด่วนที่ความเร็วประมาณ 130 กม./ชม.แต่ก็ไม่พบว่ามีอาการ Overheat เกิดขึ้นกับรถผมแต่อย่างใด
-
ตอนที่ 4: วิชาตัวเบาขั้นเทพ
เช้าวันที่ 21 สิงหาคม 2557 ผมนัดหมายกับพี่ตูมตามเข้าไปที่ศูนย์ด้วยกันเพื่อสอบถามอาการและอยากจะทราบว่าทางศูนย์จะจัดการอย่างไรกับเรื่องนี้ เมื่อเข้าไปที่ศูนย์ผมกับพี่ตูมตามก็พบกับหัวหน้าช่างและรถผมจอดรออยู่เตรียมให้เจ้าของมารับกลับไป พี่ตูมตามได้ขอให้หัวหน้าช่างเปิดฝาหม้อน้ำรถผมและสตาร์ทรถเพื่อทดสอบ สักพักก็เริ่มมีฟองอากาศผุดขึ้นมาจากหม้อน้ำเหมือนเดิม แต่ผมสังเกตว่ายังมีอีกหนึ่งอาการที่เพิ่มขึ้นมาจากก่อนที่จะนำรถเข้าศูนย์ อาการที่ว่าคือน้ำในหม้อน้ำดันตัวจนล้นออกมาจากหม้อน้ำหกเรี่ยราดลงบนพื้นด้านหน้าต้วรถ และเมื่อได้รับคำถามว่า “พี่ช่วยบอกหน่อยได้ไหมครับว่าอาการอย่างนี้คือปกติหรือไม่ปกติ?” หัวหน้าช่างไม่กล้าตอบคำถามด้วยตัวเองเข้าไปเรียกผู้จัดการศูนย์ออกมาเจรจา
อาการน้ำดันนองเต็มพื้น
(http://upic.me/i/es/20140821_142752.jpg)
พี่ตามกำลังช่วยตรวจสอบอาการเจ้าปาวาฬ
(http://upic.me/i/au/20140821_142808.jpg)
คลิปแสดงอาการน้ำดันในวันไปรับรถ 21 สิงหาคม 2557
http://www.youtube.com/watch?v=lUSfCIY8aqg
สักพักผู้จัดการศูนย์ก็ออกมาบอกว่าเขาไม่สามารถตัดสินได้ว่าอาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับรถผมนั้นเรียกว่าปกติหรือไม่ปกติ เขาไม่ได้กำลังปฏิเสธความรับผิดชอบแต่เขาต้องดำเนินการตามขั้นตอนของ MMTH โดยการแจ้งให้ทาง MMTH ส่งช่างเข้ามาตรวจสอบซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเป็นวันไหน และในการตรวจสอบนั้นผมจะต้องทิ้งรถไว้ให้เขาถอดชิ้นส่วนต่างๆออกมาทำการทดสอบด้วย เช่น บอกว่าจะต้องถอดวาล์วน้ำในรถผมออกมาลองต้มดูว่าวาล์วเปิดมั๊ย ถ้าเปิดๆที่อุณหภูมิเท่าไหร่ ฯลฯ อ่านมาถึงตอนนี้ผมมีคำถามอยากจะถามพวกพี่ๆที่ติดตามอ่านเรื่องราวของผมมาโดยตลอดว่าถ้าเป็นรถพี่ๆจะเลือกดำเนินการอย่างไรระหว่าง
1. ยอมรับข้อเสนอของศูนย์ที่จะให้ MMTH ส่งคนมาตรวจสอบอาการรถ โดยอาจต้องทิ้งรถไว้ให้เขาตรวจสอบซึ่งจะใช้ระยะเวลานานแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาจะทำอะไรกับเราเราบ้างก็ไม่รู้ รถจะเสียหายเพิ่มขึ้นอีกแค่ไหนก็ไม่รู้ เขาจะรับผิดชอบความเสียหายเหล่านั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ เราจะไม่ได้ใช้รถที่เรารักไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แล้วเรื่องในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไปก็ไม่รู้ ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง เทียบกับ
2. รับรถกลับไปซ่อมเองแล้วจบเรื่องราวยืดเยื้อนี้ซะเพราะเราเป็นคนทำมาหากินไม่ได้มีเวลาว่างเอารถตัวเองมาให้ใครถอดเข้าถอดออกจนมีความเสียหายต่อเนื่องเกิดขึ้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นพวกพี่จะแน่ในได้อย่างไรว่าศูนย์จะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดเพิ่มเติมจากการทดสอบเหล่านั้น แต่ที่แน่ๆคือพี่ต้องเสียเวลาและเสียสุขภาพจิตอย่างมากแน่ๆ!!!
ในสถานการณ์แบบเดียวกันนี้ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะเลือกตัดสินใจเหมือนกับที่ผมเลือก ซึ่งในวันนั้นหลังจากปรึกษากับพี่นะและพี่ตูมตามแล้วผมตัดสินใจรับรถกลับมาซ่อมเองเพราะเป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้ผมได้รถกลับมาใช้ในสภาพเดิม แต่ความรู้สึกของผมในวันนั้นคือผมต้องรับภาระทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพื่อพิสูจน์ความผิดพลาดที่ผมไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้นตั้งแต่แรก สิ่งที่เกิดขึ้นกับรถผมอาจจะเป็นผลมาจากความไม่สมบูรณ์ของอะไหล่จากโรงงานผู้ผลิตหรืออาจเกิดจากขั้นตอนการดำเนินการที่บกพร่องโดยช่างของศูนย์ที่ไม่ได้ไล่อากาศในหม้อน้ำรถผมให้ดีในวันที่เข้าเช็ค 100,000 กม. แต่สิ่งเหล่านี้ไม่มีทางเลยที่จะได้รับการพิสูจน์จากฝั่งผู้ขาย/ผู้ผลิต ในฐานะลูกค้า/ผู้บริโภคเรากลับต้องรับภาระในการพิสูจน์ความผิดปกติเหล่านั้นไว้เองโดยปราศจากการสนับสนุนช่วยเหลือจากบริษัทผู้ผลิต/ผู้ให้บริการใดๆทั้งสิ้น แต่เอาหล่ะ...ผมขอจบเรื่องราวระหว่างผมกับศูนย์บริการไว้เพียงเท่านี้นะครับ ต่อไปจะกล่าวถึงเรื่องการจัดซ่อมเจ้าปาวาฬของผมต่อไปเลยละกัน
ป.ล. วันที่ 25 สิงหาคม 2557 ทางศูนย์ Call Center ของ MMTH ติดต่อผมกลับมาโดยแจ้งว่าตามปกติอะไหล่หรือวัสดุสิ้นเปลืองที่ทางมิตซูฯมีการผลิตเองอยู่แล้ว เช่น น้ำยาหม้อน้ำหรือของเหลวต่างๆสำหรับใช้กับเครื่องยนต์นั้น มีข้อกำหนดให้ศูนย์บริการต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของทางมิตซูฯเท่านั้น ในกรณีที่ทางมิตซูไม่มีผลิตภัณฑ์ที่ตีตรายี่ห้อของมิตซูเองก็จะอนุโลมโดยถือเป็นสิทธิ์ของศูนย์ที่จะพิจารณาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้ออื่นเป็นการทดแทนได้ และในกรณีที่ผมได้สอบถามไปก่อนหน้านี้นั้นถือว่าศูนย์แห่งนี้ได้กระทำผิดหลักเกณฑ์ของทางมิตซูและกำลังถูก MMTH พิจารณาโทษอยู่ครับ[/i]
-
ตอนที่ 5: ทางรอดของวาฬน้ำเงิน
เย็นวันอังคารที่ 26 สิงหาคม 2557 ผมนำเจ้าปาวาฬไปส่งที่ศูนย์อนามัยประจำตำบลที่ไว้ใจได้แห่งหนึ่ง เนื่องจากหมอประจำอนามัยเคยทราบอาการเจ้าปาวาฬมาก่อนหน้านี้แล้วจึงตระเตรียมหยูกยาและห้องผ่าตัดไว้พร้อมสรรพสำหรับรักษาอาการตัวร้อนของเจ้าปาวาฬโดยด่วนที่สุด (ขออนุญาตนำภาพถ่ายบางส่วนที่ได้รับการแชร์จากพี่ตูมตามมาลงไว้ด้วยนะครับ) :L4399: :L4399:
(http://upic.me/i/av/1409632485165_zpsnbzgtetf.jpg)
ตะกรันจับกันเป็นก้อนด้านในท่อน้ำหล่อเย็น
(http://upic.me/i/x8/1409632531978_zpsgnstbhnd.jpg)
(http://upic.me/i/53/1409632534091_zpsjss7kccz.jpg)
จุดที่ปะเก็นแล็บจนน้ำสามารถวิ่งผ่านเข้าไปในลูกสูบได้
(http://upic.me/i/iv/1409632537548_zps1ffmstbo.jpg)
(http://upic.me/i/he/1409632544377_zpsqxgykoyq.jpg)
(http://upic.me/i/ml/1409632549198_zpsilvhjhqf.jpg)
สภาพเครื่องหลังทำความสะอาดเรียบร้อยเตรียมประกอบร่าง
(http://upic.me/i/o7/1409632575855_zps8bb9gcgg.jpg)
(http://upic.me/i/3y/1409632588974_zpsed4hosvn.jpg)
สภาพฝาสูบที่โดนปาดออกไป 0.4 มม.
(http://upic.me/i/kv/1409632584612_zpsxzevfmpa.jpg)
(http://upic.me/i/5z/1409632580260_zpszfi3vk2e.jpg)
พ่นปะเก็นทองแดงเพื่อเสริมความแข็งแรงของปะเก็นใหม่
(http://upic.me/i/dl/1410142567446_zpsfphcohrj.jpg)
จัดน็อต+ปะเก็นใหม่ทั้งหมดเพื่อเสริมความแข็งแรงของเครื่องยนต์
(http://upic.me/i/z6/1410142562504_zpseeb9uh1j.jpg)
(http://upic.me/i/do/1409632566132_zpsfqkajj29.jpg)
(http://upic.me/i/yo/1409632557510_zpsnj4m5ln8.jpg)
คราบตะกรันที่ยังตกค้างอยู่ในระบบระบายความร้อน
(http://upic.me/i/02/20140906_163332.jpg)
(http://upic.me/i/ly/20140907_100733.jpg)
สภาพวาล์วน้ำเดิมที่ถูกตะกรันเกาะจนยัน
(http://upic.me/i/2l/20140906_163431.jpg)
(http://upic.me/i/un/20140906_163444.jpg)
น้ำในหม้อน้ำในการไล่น้ำครั้งแรกหลังจากประกอบเครื่องใหม่ๆ
(http://upic.me/i/jk/20140907_131848.jpg)
ผ่านไปซักพัก
(http://upic.me/i/xv/20140907_132503.jpg)
(http://upic.me/i/89/20140907_132917.jpg)
เศษตะกอน/ตะกรันที่ยังคงเหลืออยู่ในระบบหล่อเย็นหลังจากถ่ายน้ำออกแล้วหลายครั้ง
(http://upic.me/i/3h/20140907_151434_zpszh3exe6z.jpg)
(http://upic.me/i/ca/20140907_154214_zpsobyfoozo.jpg)
พาเจ้าปาวาฬไปอาบน้ำครั้งแรกหลังออกจากสถานีอนามัย
(http://upic.me/i/yi/20140907_175217_zps4y5jggfq.jpg)
-
ตอนที่ 6: ปัจฉิมบท
ปัจจุบันเจ้าวาฬน้ำเงินของผมอาการกลับมาเป็นปกติแล้วครับ แต่ยังคงอยู่ในระยะเฝ้าดูอาการของหมอเจ้าของไข้อยู่ครับ วันเสาร์ที่จะถึงนี้ยังต้องเข้าไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำยาหม้อน้ำและกรองโซล่าอีกครั้ง สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ผ่านไปได้ด้วยดี ผมต้องขออนุญาตกล่าวขอบคุณบุคคลดังต่อไปนี้ที่มีส่วนช่วยให้เจ้าปาวาฬสีน้ำเงินของผมได้กลับมาเริงร่าท้าแดดฝนอีกครั้งหนึ่งครับ
• ขอบคุณพี่ตูมตามที่ให้คำแนะนำและคำปรึกษา ตลอดจนความใส่ใจคอยไปควบคุมดูแลการจัดซ่อมตลอดระยะเวลาที่ลูกผมป่วยอยู่
• ขอบคุณพี่นะรัชดาสำหรับคำแนะนำและคำปรึกษาในการดำเนินการตั้งแต่ลูกผมเพิ่งเริ่มจะมีอาการป่วยใหม่ๆ
• ขอบคุณพี่อ้วนทับเบิกที่ช่วยวิเคราะห์อาการ และฟันธงว่าอะไรบ้างที่น่าจะได้รับความเสียหายตลอดจนคำแนะนำเพิ่มเติมในการแก้ไข
• ขอบคุณพี่กิตติที่ช่วยจัดหาขวดเปล่ามากรอกน้ำและนำมาเติมรถผมในวันแรกที่ลูกผมป่วย
• ขอบคุณพี่โยเจ้าของสถานที่สำหรับตรวจสอบอาการในวันแรกที่ลูกผมป่วย
• ขอบคุณพี่ทศพี่โอที่เป็นกังวลแทนผม คอยหาแผนผังไดอะแกรมมาช่วยวิเคราะห์ว่าต้นเหตุแห่งความเสียหายน่าจะเกิดมาจากจุดใดในวันแรกที่ทราบเรื่องทางไลน์
• ขอบคุณพี่ๆปามาเนียทุกคนที่ช่วยลุ้นอยู่ข้างๆ และคอยสอบถามอาการจนกระทั่งลูกรักผมหายป่วย
• ขอบคุณช่างแจ้หมออนามัยที่คอยใสใจดูแลลูกผมตั้งแต่วันแรกที่ส่งเข้าสถานีอนามัยจนวันที่แข็งแรงกลับมาร่าเริงได้อีกครั้ง
:sd23: :sd23: :sd23:
-
สรุปปัญหาเกิดจากการใช้น้ำยาหม้อน้ำตัวสีเขียวสะท้อนแสงใช่ไหมครับ
เดี๋ยวต้องไปเปิดดูมั่งแล้ว ว่าเราใช้แบบไหน
ขอบคุณพี่หยกสำหรับข้อมูลและการรีวิวการรักษาเจ้าวาฬน้ำเงินครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
-
ดูท่าจะเรื่องยาวใช่ไหมครับพี่หยก
ยังไม่ได้อ่าน แต่ขอคอมเม้นก่อน :L2734:
-
สรุปปัญหาเกิดจากการใช้น้ำยาหม้อน้ำตัวสีเขียวสะท้อนแสงใช่ไหมครับ
เดี๋ยวต้องไปเปิดดูมั่งแล้ว ว่าเราใช้แบบไหน
ขอบคุณพี่หยกสำหรับข้อมูลและการรีวิวการรักษาเจ้าวาฬน้ำเงินครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
ต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาอาจมาจากหลายๆสาเหตุครับพี่โจ้ แต่อย่างหนึ่งที่สันนิษฐานว่ามีส่วนที่ทำให้ปัญหาเลวร้ายลงก็คือน้ำยาหม้อน้ำสีสะท้อนแสงที่พี่โจ้เข้าใจแหละครับ คาดว่าทางศูนย์คงจะเติมน้ำยาหม้อน้ำแบบนี้ให้ผมมาตั้งแต่แรก และด้วยระยะเวลานานเข้าจึงทำให้เกิดตะกรันเกาะที่ผนังด้านในของระบบระบายความร้อนจนไปบล็อกการถ่ายเทความร้อน ทำให้ความาร้อนถ่ายเทได้ไม่สะดวกครับ
อีกสาเหตุหนึ่งอาจมาจากการที่ช่างของศูนย์ไล่อากาศออกจากหม้อน้ำไม่หมดในวันที่ผมเข้าเช็ค 100,000 กม.และมีการเปลี่ยนปั๊มน้ำด้วย หรืออีกข้ออาจเกิดจาก Defect ของชิ้นส่วนเสื้อสูบและฝาสูบมาตั้งแต่การประกอบก็เป็นได้ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้เราไม่สามารถที่จะพิสูจน์ทราบได้เลยครับ
ดูท่าจะเรื่องยาวใช่ไหมครับพี่หยก
ยังไม่ได้อ่าน แต่ขอคอมเม้นก่อน :L2734:
ที่จริงถ้าผมไม่ยอมจบเรื่องก็คงจะยาวแหละครับพี่หนึ่ง แต่ผมไม่มีเวลาไปเสียกับศูนย์และสนง.ใหญ่มิตซู เลยตัดสินใจซ่อมเองเพื่อตัดปัญหาครับ
-
สรุปปัญหาเกิดจากการใช้น้ำยาหม้อน้ำตัวสีเขียวสะท้อนแสงใช่ไหมครับ
เดี๋ยวต้องไปเปิดดูมั่งแล้ว ว่าเราใช้แบบไหน
ขอบคุณพี่หยกสำหรับข้อมูลและการรีวิวการรักษาเจ้าวาฬน้ำเงินครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
น่านไงๆเดี๋ยวจาเข้าใจผิดกันไปใหญ่
ส่วนนึงคือน้ำยาหม้อน้ำที่ไม่ได้คุณภาพครับ
แต่ประเด็นหลักคือการไล่อากาศในหม้อน้ำมากกว่าครับพี่โจ้
เครื่องมันร้อนจัดฝาเลยโก่งน้ำจึงดันไง
-
ต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหาอาจมาจากหลายๆสาเหตุครับพี่โจ้ แต่อย่างหนึ่งที่สันนิษฐานว่ามีส่วนที่ทำให้ปัญหาเลวร้ายลงก็คือน้ำยาหม้อน้ำสีสะท้อนแสงที่พี่โจ้เข้าใจแหละครับ คาดว่าทางศูนย์คงจะเติมน้ำยาหม้อน้ำแบบนี้ให้ผมมาตั้งแต่แรก และด้วยระยะเวลานานเข้าจึงทำให้เกิดตะกรันเกาะที่ผนังด้านในของระบบระบายความร้อนจนไปบล็อกการถ่ายเทความร้อน ทำให้ความาร้อนถ่ายเทได้ไม่สะดวกครับ
ขอบคุณพี่หยกครับสำหรับข้อมูล
จากรูปที่เห็นคราบตะกรันก็เยอะมากเลยนะครับ
ก็อาจจะมีผลเหมือนกันนะครับ
น่านไงๆเดี๋ยวจาเข้าใจผิดกันไปใหญ่
ส่วนนึงคือน้ำยาหม้อน้ำที่ไม่ได้คุณภาพครับ
แต่ประเด็นหลักคือการไล่อากาศในหม้อน้ำมากกว่าครับพี่โจ้
เครื่องมันร้อนจัดฝาเลยโก่งน้ำจึงดันไง
พอดีรถผมซื้อมามือ 2 ด้วยน่ะครับพี่ไซ
เลยไม่รู้ว่าเจ้าของเก่าเขาดูแลมาอย่างไร
แต่ถ้าใช้น้ำยาหม้อน้ำแบบพี่หยก ก็คงเปลี่ยนก่อนเป็นการกันไว้ก่อนน่าจะดีกว่าครับ
-
เจอเคลสพี่หยกไป เรื่องน๊อตหลุดของผมเล็กไปเลย
ป.ล. ผมก็กังวลใจทุกครั้งเวลาเอารถไปเข้าศูนย์
-
ขอบคุณพี่หยก สำหรับข้อมูลและ review เรื่องปาวาฬป่วยครั้งนี้ครับ :L6428: :L6428:
และดีใจด้วยที่น้องปาวาฬหายป่วยแล้ว ถึงแม้จะยังอยู่ในขั้นดูอาการ แต่ก็ยังดีกว่าตัวร้อนตลอดเวลา :L2734: :L2734:
ผมมีข้อมูล และ VDO ที่ถ่ายไว้อีกพอสมควร เดี๋ยวนำมาลงประกอบให้ครับ
:L4399: :L4399:
-
ตอนที่ 5: ทางรอดของวาฬน้ำเงิน
ผ่านไปซักพัก
(http://upic.me/i/xv/20140907_132503.jpg)
(http://upic.me/i/89/20140907_132917.jpg)
ผมยังงงอยู่ว่า น้าในหม้อน้ำออกมาเป็นสีนี้ได้ยังงัย งง :L2761: :L2761: อะไรที่ทำให้มันกลายเป็นสีแบบนี้ได้นะ :L2761: :L2761: เห็นแล้วน่ากลัวมาเลย :L2739: :L2739:
-
พี่หยก แชร์ประสบการณ์ปัญหาที่พบได้ละเอียด และมีประโยชน์มากครับ :L2734:
ว่าแต่พี่หยก นายพรานไปไหนครับ :L2739:
-
:sd23: ขอบคุณพี่หยกครับ อ่านจนจบได้ความรู้และเห็นภาพเข้าใจเรื่องราวละเอียดมากๆ จะได้คอยติดตาม ดูแลรถของตัวเองด้วยครับ แม้ว่าจะเข้าศูนย์ตลอดก็ตาม :L4387: :L4387:
และดีใจด้วยครับที่วาฬน้ำเงินกลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง :sd24: :sd24:
-
:sd23: หายดี ซ่ะทีคับ. จุดเล็กๆ ที่ศูนย์มองข้าม นี่อาจเป็นเรื่องใหญ่เลยก้อได้คับ
เรื่องโทษ ที่ MMTH. พิจารณาคงไม่น่าจะมีหรอกคับ. โชคดีคับ ที่พี่พยกหายแล้วคับ. :L2900:
-
ผมดูแล้ว หลอนครับ ปาผมตอนสี่หมื่น จำไม่ได้ว่าช่วงสี่หมื่นโล ศูนย์กฤษฎาสะพานใหม่ เอาน้ำยาหม้อน้ำของแท้ใส่ให้อะป่าวครับ :L2761: :sd06: :sd06:
ป.ล.ขอบพระคุณพี่หยกและพี่ปามาเนีย ที่แชร์ความรู้ครับ :sd23: :sd23:
-
ขอบคุณครับพี่หยกสำหรับข้อมูล :sd23: และยินดีด้วยที่เจอต้นเหตุของปัญหามาแชร์ให้ฟัง :L2900:
-
:L6419: ก่อนนั้นรถที่ใช้บริการศูนย์ดูดีมีชาติตะกูล
แต่ตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจ :sd21: :sd21:
ขอขอบคุณพี่หยกมากเลยครับได้ความรู้เพิ่ม :L6428:
-
แค่ช่วยเอานํ้ามาให้กรอกเข้าหม้อนํ้าก็ได้รับเครดิตด้วยอะ ขอบคุณครับพี่หยก :sd23:
กรณีศึกษานี้ของพี่หยก ส่วนตัวมองไปที่ตัวบุคคลมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ครับ ตั้งแต่เรื่องฝีมือ ความรู้ ประสบการ์ณและความรับผิดชอบ :sd30:
ถามว่าถ้ากรณีนี้เกิดขึ้นกับคนใช้รถทั่วๆไปที่ต้องพึ่งพา0อย่างเดียว ชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไรหน๊อ :L2761: :L2739: :sd06: :L4391:
-
ขอบคุณพี่หยก :sd23: ที่ช่วยแบ่งปันประสบการณ์ ให้ไว้เป็นกรณีศึกษา
สิ่งที่รู้สึกได้ทันทีเลยหลังจากอ่านจบก็คือ เวลาเราเอารถเข้าศูนย์ ไม่ควรเดินไปห้องพักรับรองเด็ดขาด
แล้วถ้าเห็นอะไรดูแล้วไม่ปกติ ควรรีบถามหาคำตอบ อย่าเกรงใจ เพราะพังมาไม่มีใครสน
สิ่งที่สำคัญอันสุดท้าย ตรวจเช็ค 100,000 กิโล ทำให้ผมตัดสินใจได้ทันทีว่า ผมทำอู่นอกดีกว่าครับ
ขอให้รถพี่หยก เจ้าปลาวาฬ หายไวไวนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
-
ผมยังงงอยู่ว่า น้าในหม้อน้ำออกมาเป็นสีนี้ได้ยังงัย งง :L2761: :L2761: อะไรที่ทำให้มันกลายเป็นสีแบบนี้ได้นะ :L2761: :L2761: เห็นแล้วน่ากลัวมาเลย :L2739: :L2739:
ผมสงสัยจำเลยอยู่ 2 อย่างระหว่างสเปรย์ทองแดงที่พ่นเคลือบปะเก็นฝาสูบ หรือไม่ก็เป็นคราบตะกรันที่ตกค้างสะสมอยู่ในระบบเป็นเวลานานแรมปีครับพี่ตาม แต่ช่างบอกว่าสีของปะเก็นทองแดงไม่เหมือนสีของน้ำที่ถูกไล่ออกมา เลยไม่รู้ครับว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่ :sd06: :sd06:
พี่หยก แชร์ประสบการณ์ปัญหาที่พบได้ละเอียด และมีประโยชน์มากครับ :L2734:
ว่าแต่พี่หยก นายพรานไปไหนครับ :L2739:
สงสัยนายพรานกำลังไปตามล่านกเหยี่ยวตัวนั้นฐานทำให้ Error Code โชว์ครับพี่อิฐ :sd42: :sd42:
เจอเคลสพี่หยกไป เรื่องน๊อตหลุดของผมเล็กไปเลย
ป.ล. ผมก็กังวลใจทุกครั้งเวลาเอารถไปเข้าศูนย์
:sd23: ขอบคุณพี่หยกครับ อ่านจนจบได้ความรู้และเห็นภาพเข้าใจเรื่องราวละเอียดมากๆ จะได้คอยติดตาม ดูแลรถของตัวเองด้วยครับ แม้ว่าจะเข้าศูนย์ตลอดก็ตาม :L4387: :L4387:
และดีใจด้วยครับที่วาฬน้ำเงินกลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง :sd24: :sd24:
ผมดูแล้ว หลอนครับ ปาผมตอนสี่หมื่น จำไม่ได้ว่าช่วงสี่หมื่นโล ศูนย์กฤษฎาสะพานใหม่ เอาน้ำยาหม้อน้ำของแท้ใส่ให้อะป่าวครับ :L2761: :sd06: :sd06:
ป.ล.ขอบพระคุณพี่หยกและพี่ปามาเนีย ที่แชร์ความรู้ครับ :sd23: :sd23:
ขอบคุณครับพี่หยกสำหรับข้อมูล :sd23: และยินดีด้วยที่เจอต้นเหตุของปัญหามาแชร์ให้ฟัง :L2900:
:L6419: ก่อนนั้นรถที่ใช้บริการศูนย์ดูดีมีชาติตะกูล
แต่ตอนนี้รู้สึกไม่มั่นใจ :sd21: :sd21:
ขอขอบคุณพี่หยกมากเลยครับได้ความรู้เพิ่ม :L6428:
ขอบคุณพี่หยก :sd23: ที่ช่วยแบ่งปันประสบการณ์ ให้ไว้เป็นกรณีศึกษา
สิ่งที่รู้สึกได้ทันทีเลยหลังจากอ่านจบก็คือ เวลาเราเอารถเข้าศูนย์ ไม่ควรเดินไปห้องพักรับรองเด็ดขาด
แล้วถ้าเห็นอะไรดูแล้วไม่ปกติ ควรรีบถามหาคำตอบ อย่าเกรงใจ เพราะพังมาไม่มีใครสน
สิ่งที่สำคัญอันสุดท้าย ตรวจเช็ค 100,000 กิโล ทำให้ผมตัดสินใจได้ทันทีว่า ผมทำอู่นอกดีกว่าครับ
ขอให้รถพี่หยก เจ้าปลาวาฬ หายไวไวนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ สมัยนี้ความจริงใจและสุจริตใจมันหายากครับ เราต้องดูแลตัวเองและต้องช่วยดูแลกันและกันครับ :L4399: :L4399:
:sd23: หายดี ซ่ะทีคับ. จุดเล็กๆ ที่ศูนย์มองข้าม นี่อาจเป็นเรื่องใหญ่เลยก้อได้คับ
เรื่องโทษ ที่ MMTH. พิจารณาคงไม่น่าจะมีหรอกคับ. โชคดีคับ ที่พี่พยกหายแล้วคับ. :L2900:
ผมก็คิดว่าคงไม่มีโทษอะไรตามพี่อั๋นว่ามาแหละครับ แค่เล่นละครหาทางลงให้ตัวเองก็แค่นั้น แต่อย่างน้อยพี่ๆก็ทราบแล้วว่า MMTH Call Center ตอบผมมายังไง
แค่ช่วยเอานํ้ามาให้กรอกเข้าหม้อนํ้าก็ได้รับเครดิตด้วยอะ ขอบคุณครับพี่หยก :sd23:
กรณีศึกษานี้ของพี่หยก ส่วนตัวมองไปที่ตัวบุคคลมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ครับ ตั้งแต่เรื่องฝีมือ ความรู้ ประสบการ์ณและความรับผิดชอบ :sd30:
ถามว่าถ้ากรณีนี้เกิดขึ้นกับคนใช้รถทั่วๆไปที่ต้องพึ่งพา0อย่างเดียว ชะตากรรมของเขาจะเป็นเช่นไรหน๊อ :L2761: :L2739: :sd06: :L4391:
เกิดจากตัวบุคคลล้วนๆครับพี่กิต สุจริตหรือทุจริตคนที่ต้องรับผลแห่งการกระทำก็คือลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ (ข่าววงในแจ้งว่าถ้าวัดจากประวัติการเข้ารับบริการของศูนย์นี้ผมจะต้องถูกจัดว่าเป็นลูกค้าระดับ A+ เลยด้วยซ้ำครับ แต่ดูเค้าทำกับผมสิครับ!!!)
-
:L4365: ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ สรุปว่าสำหรับน้องปาต้องใช้น้ำยาหม้อน้ำแท้ศูนย์เท่านั้น ถ้าสี่หมื่นโลต้องไปยืนคอยดูแล้ว :sd10:
-
:L4399: ขอบคุณคะ....สำหรับข้อมูลดีๆ และแชร์ประสบการณ์เพื่อทราบ ต่อไปคงต้องตรวจสอบหลังการใช้บริการของศูนย์แต่ละครั้งล่ะ...ว่าศูนย์ใช้อะไรใส่เข้าไปในรถเราบ้าง :L2758: และยินดีด้วยคะ...ที่ปลาวาฬพี่หยกกลับมาใช้งานได้ตามปกติ... :L2734:
-
ความเห็นแก่ตัว หรือขาดจรรยาบรรณทางวิชาชีพ กฎหมายบ้านเราก็เอาใจพวกนักลงทุนต่างชาติ จนลืมเจ้าของประเทศ. (กรณีนี้ต้องปรึกษาพี่เปี่ยม)
ดีใจกับพี่หยกที่ปลาวาฬกลับมาว่ายน้ำได้เหมือนเดิม แม้จะอยูในช่วงกายภาพบำบัด และเฝ้าติดตามอาการจากหมอแจ้. ส่วนมาตราการต่อไปจะดำเนินการเช่นไร อย่าลืมเรียกผมไปชูป้ายละ :L2754:
ว่าแต่ นายพรานอิฐ โดนอีแร้ง เอ้ย เหยี่ยว จิก รอดเปล่านี่. :L2739: :L2754:
-
:L2758: ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่หยก :sd23: ยินดีกับเจ้าวาฬน้ำเงินด้วยครับกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมแล้ว :sd10:
เห็นด้วยกับความคิดของพี่กิตครับ :L2734: ช่างศูนย์ที่เก่งๆก็มีครับ(ส่วนน้อย)แต่เราก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ศูนย์ไหน เข้าศูนย์แต่ละครั้งผมจะคอย :L4365: ส่องดูตลอดว่าเขาจะทำอะไรกับรถเราบ้าง :L2761: ขนาดแปะสติ๊คเกอร์ไว้ที่ฝาครอบกรองอากาศว่าห้ามเป่าพี่ท่านยังจะถอดออกไปเป่าน่าตาเฉย :sd06: :sd06:
-
วาฬน้ำเงินหายป่าวแล้วดีใจด้วยครับพี่หยก
ผ่าตัดรอบนี้ใช้ยาวอีกแสนโลไม่ต้องทำอะไรแล้ว(หรือเปล่า) ฟาดเคราะห์ชุดใหญ่ไปครับ :L2756:
-
ผมได้รับคำตอบจากพี่หยกแล้วครับ กรณีนำนมค.ไปเองแล้วครับ
ดีใจด้วยครับที่รถกลับมาปรกติ เห็นภาพน้ำแล้วสยองครับ :L2758:
-
กรณีนี้ ถ้าพี่ๆ สมาชิกเข้ามาแล้วอ่านผ่านตาบ้างน่าจะช่วยได้เยอะเลยคับในกรณีแบบนี้อ่ะคับ.
อย่างน้อยคงยัง.....ไม่รีบไปนั่งที่ห้องรับรองลูกค้าตามศูนย์แล้วล่ะคับ
คงอยู่ หน้ารถกับช่างที่ศูนย์ กันไปเลยคับ. :sd42:
-
ขอบคุณครับพี่หยก ที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมช่างศูนย์ (บางคน) :sd30: ผมก็เคยเจอมาในรถยนต์คันเก่า เกิดจากผมเองด้วยส่วนหนึ่งซึ่งไม่ได้ดูแลรถเท่าที่ควร ปล่อยให้น้ำแห้ง เป็นสีชานมเหมือนพี่หยกเลยแต่ของผมข้นกว่า (คล้ายๆโคลน) ท่อยางระเบิดออกเลยครับเนื่องจากแรงดัน ดับกลางทางด่วน พารถเข้าอู่ซ่อม ให้ช่างตรวจเช็คเปลี่ยนท่อยางที่แตก เปลี่ยนวาว์ลน้ำ (ตอนนั้นไม่มีความรู้เลย) ก็คิดว่าคงปกติแล้ว รับรถมาประมาณ 3-4 วัน ขับไปประมาณ 30 กิโลได้ยินเสีย โป๊ะ คิดในใจเอาอีกแล้ว ท่อยางแตกแน่ๆ เปิดดู ท่อยางที่ต่อกับหม้อน้ำด้านบนหลุดออก จึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าใส่ท่อยางเติมน้ำ โทรถามช่าง ช่างฟังธงว่า ฝาสูบโก่งแน่ๆ แต่จะทำยังไงให้ขับกลับบ้านได้ตอนนั้น เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ เติมน้ำให้เต็มแล้วเปิดฝาหม้อน้ำไว้ ไม่ต้องปิดฝาแล้วขับกลับ (ในใจคิดว่าจะรอดไหมเนี้ย) ขับๆมาเรื่อยๆ หยุดจอดแวะเติมน้ำเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านได้ จึงเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ :L4387: :L4387:
-
ยินดีด้วยพี่หยก ที่ปาวาฬหายป่วยแล้ว
-
แรงขึ้นอีก ปาดฝาด้วย 0.4 ม.ม ร้านล้างรถพื้นหมากรุกขาวดำ คุ้นๆนะ พี่หยก ยังไงก็ขอให้เป็นรถหายเป็นปกตินะครับ :sd10: :sd10: :sd10:
-
ผมได้รับคำตอบจากพี่หยกแล้วครับ กรณีนำนมค.ไปเองแล้วครับ
ดีใจด้วยครับที่รถกลับมาปรกติ เห็นภาพน้ำแล้วสยองครับ :L2758:
get เร็วจริงนะครับพี่เล็ก :L2900: :L2900: :L2904: :sd42: :sd42:
ขอบคุณครับพี่หยก ที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ได้รับรู้ถึงพฤติกรรมช่างศูนย์ (บางคน) :sd30: ผมก็เคยเจอมาในรถยนต์คันเก่า เกิดจากผมเองด้วยส่วนหนึ่งซึ่งไม่ได้ดูแลรถเท่าที่ควร ปล่อยให้น้ำแห้ง เป็นสีชานมเหมือนพี่หยกเลยแต่ของผมข้นกว่า (คล้ายๆโคลน) ท่อยางระเบิดออกเลยครับเนื่องจากแรงดัน ดับกลางทางด่วน พารถเข้าอู่ซ่อม ให้ช่างตรวจเช็คเปลี่ยนท่อยางที่แตก เปลี่ยนวาว์ลน้ำ (ตอนนั้นไม่มีความรู้เลย) ก็คิดว่าคงปกติแล้ว รับรถมาประมาณ 3-4 วัน ขับไปประมาณ 30 กิโลได้ยินเสีย โป๊ะ คิดในใจเอาอีกแล้ว ท่อยางแตกแน่ๆ เปิดดู ท่อยางที่ต่อกับหม้อน้ำด้านบนหลุดออก จึงแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าใส่ท่อยางเติมน้ำ โทรถามช่าง ช่างฟังธงว่า ฝาสูบโก่งแน่ๆ แต่จะทำยังไงให้ขับกลับบ้านได้ตอนนั้น เวลาเที่ยงคืนกว่าๆ เติมน้ำให้เต็มแล้วเปิดฝาหม้อน้ำไว้ ไม่ต้องปิดฝาแล้วขับกลับ (ในใจคิดว่าจะรอดไหมเนี้ย) ขับๆมาเรื่อยๆ หยุดจอดแวะเติมน้ำเรื่อยๆ จนมาถึงบ้านได้ จึงเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่งเลยครับ :L4387: :L4387:
เหตุการณ์คล้ายๆของผมครับพี่โอ๊ต แต่ผมพลาดตรงที่ไปไว้ใจศูนย์บริการมากเกินไปครับ คิดว่าเอารถเข้าศูนย์มิตซูมาตรฐานมาตลอดตั้งแต่ออกรถ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเช็คระยะอยู่ในโปรแกรมมาตลอด แต่ลืมคิดไปว่ายังมีศูนย์บริการประเภทนี้อยู่ ถ้าทางสนญ.มิตซูไม่คิดที่จะแก้ไขอะไก็คงจะตกเป็นกรรมของผู้ใช้รถกันละครับ :'( :'( :'(
แรงขึ้นอีก ปาดฝาด้วย 0.4 ม.ม ร้านล้างรถพื้นหมากรุกขาวดำ คุ้นๆนะ พี่หยก ยังไงก็ขอให้เป็นรถหายเป็นปกตินะครับ :sd10: :sd10: :sd10:
ขอบคุณครับพี่ต้น ร้านใหม่ที่พี่พูดถึงน่ะผมรู้แล้วนะว่าร้านไหน ขับผ่านอยู่ทุกวัน ไม่นึกว่าจะเป็นที่นั่น :L2904: :L2906: :L2897: :L2758:
-
ยินดีด้วยพี่หยก ที่ปาวาฬหายป่วยแล้ว
ขอบคุณครับพี่จิรศิษฎ์ ไปคาราวานต่างประเทศอย่าลืมถ่ายรูปสวยๆกลับมาฝากกันบ้างนะครับ :L2904: :L2754: :L2754: :L2897:
-
ผมเข้าศูนย์นี้ มาตั้งเเต่ออกรถใหม่ๆ เลยอ่ะ
ต้องรีบไปเช็คน้ำยาหม้อน้ำแล้ว...........
ขอบคุณมากครับ พี่หยกที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆและประสพการณ์ครับพี่หยก ขอให้ปาของพี่หยกหายเป็นปกติครับ :sd23:
-
ยินดีด้วยครับที่ รถหายเป็นปกติแล้ว น่าเจ็บใจที่อุตส่าห์ไว้ใจศูนย์ แต่กลับบริการห่วยกว่าอู่ข้างนอกอีก และขอบคุณที่ช่วยแชร์เป็นความรู้ครับ :L4399:
-
ยินดีด้วยนะครับพี่หยกที่วาฬน้ำเงินหายป่วย และขอขอบคุณพี่มากที่รีวิวความรู้ดีมาให้เป็นความรู้ครับ :sd23: :sd23:
-
ผมเข้าศูนย์นี้ มาตั้งเเต่ออกรถใหม่ๆ เลยอ่ะ
ต้องรีบไปเช็คน้ำยาหม้อน้ำแล้ว...........
ขอบคุณมากครับ พี่หยกที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆและประสพการณ์ครับพี่หยก ขอให้ปาของพี่หยกหายเป็นปกติครับ :sd23:
ยินดีด้วยครับที่ รถหายเป็นปกติแล้ว น่าเจ็บใจที่อุตส่าห์ไว้ใจศูนย์ แต่กลับบริการห่วยกว่าอู่ข้างนอกอีก และขอบคุณที่ช่วยแชร์เป็นความรู้ครับ :L4399:
ยินดีด้วยนะครับพี่หยกที่วาฬน้ำเงินหายป่วย และขอขอบคุณพี่มากที่รีวิวความรู้ดีมาให้เป็นความรู้ครับ :sd23: :sd23:
ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รีวิวเป็นประโยชน์กับพี่ๆทุกท่านนะครับ :L4399: :L4399:
-
ดีใจด้วยครับที่เจ้าปลาวาฬของพี่หยก หายป่วยแล้ว :L2734:
-
:sd23: :sd23:สำหรับแชร์ข้อมูลดีๆ และประสบการณ์จาก "O"ครับ พี่หยก :sd23: :sd23:
-
ความเห็นแก่ตัว หรือขาดจรรยาบรรณทางวิชาชีพ กฎหมายบ้านเราก็เอาใจพวกนักลงทุนต่างชาติ จนลืมเจ้าของประเทศ. (กรณีนี้ต้องปรึกษาพี่เปี่ยม)
ดีใจกับพี่หยกที่ปลาวาฬกลับมาว่ายน้ำได้เหมือนเดิม แม้จะอยูในช่วงกายภาพบำบัด และเฝ้าติดตามอาการจากหมอแจ้. ส่วนมาตราการต่อไปจะดำเนินการเช่นไร อย่าลืมเรียกผมไปชูป้ายละ :L2754:
ว่าแต่ นายพรานอิฐ โดนอีแร้ง เอ้ย เหยี่ยว จิก รอดเปล่านี่. :L2739: :L2754:
แนวทางตามกฎหมายนะครับ
1.ร้อง สคบ.(เสือกระดาษ)
2.ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคตามพรบ.วีธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ผู้บริโภคฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาล มีเจ้าพนักงานคดีร่างคำฟ้องให้ เราควรมีพยานหลักฐานที่เพียบพร้อมนำสืบด้วย
หลักการสำคัญคดีผู้บริโภคเน้นไกล่เกลี่ยครับ ไกล่ไม่ได้ กำหนดประเด็น นัดสืบพยาน เสร็จแล้วตัดสิน ส่วนเรื่องนี้จะฟ้องใครได้บ้าง ขออนุญาตไม่ให้ความคิดเห็นนะครับ
-
:sd23:
เอาใจช่วย พี่หยกครับ ขอให้เจ้าวาฬน้ำเงินขิงพี่หยกหายขาดจากอาการตัวร้อนครับ
สงสัยผมเข้าศุนย์คราวหน้า คงต้องหิ้วน้ำยาหม้อน้ำ เข้าไปอีกรายการนึง แน่เลย
-
ดีใจด้วยครับที่เจ้าปลาวาฬของพี่หยก หายป่วยแล้ว :L2734:
:sd23: :sd23:สำหรับแชร์ข้อมูลดีๆ และประสบการณ์จาก "O"ครับ พี่หยก :sd23: :sd23:
:sd23:
เอาใจช่วย พี่หยกครับ ขอให้เจ้าวาฬน้ำเงินขิงพี่หยกหายขาดจากอาการตัวร้อนครับ
สงสัยผมเข้าศุนย์คราวหน้า คงต้องหิ้วน้ำยาหม้อน้ำ เข้าไปอีกรายการนึง แน่เลย
ขอบคุณพี่กอบ พี่ตี๋ พี่ย้งครับ :L2758: ยินดีที่ข้อมูลเป็นประโยชน์ครับ :L4399:
-
วันนี้ลองไปส่องมาละ ของเราน้ำยาหม้อน้ำเป็นสีมรกตแฮะ
:L2904: :L2904:
-
วันนี้ลองไปส่องมาละ ของเราน้ำยาหม้อน้ำเป็นสีมรกตแฮะ
:L2904: :L2904:
ดีใจด้วยครับพี่โจ้ สบายใจไปเปลาะหนึ่งละ :L2734:
-
:L2736: ผมก็โทรเช็คกับน้องที่สนิทในศูนย์ ก็โอครับ "อ้อ รถพี่ธีใช้ของศูนย์มาตลอดครับ" ยกเว้นน้ำมันเครื่อง :L2734:
-
ดีใจด้วยครับพี่หยก ที่เจ้าวาฬน้ำเงิน กลับมาเป็นปกติ แล้วครับ
-
:L2736: ผมก็โทรเช็คกับน้องที่สนิทในศูนย์ ก็โอครับ "อ้อ รถพี่ธีใช้ของศูนย์มาตลอดครับ" ยกเว้นน้ำมันเครื่อง :L2734:
ยินดีด้วยครับพี่ธี :L2732:
ดีใจด้วยครับพี่หยก ที่เจ้าวาฬน้ำเงิน กลับมาเป็นปกติ แล้วครับ
ขอบคุณครับพี่เต้ย รถพี่จัดการไปถึงไหนแล้วครับ เอาใจช่วยครับพี่เต้ย ขอให้ได้น้องปาคันใหม่มาขับไวๆนะครับ :L2756:
-
ผมทำการแก้ไขคลิปในตอนที่ 4 แล้วนะครับ พี่ๆสามารถเข้าไปดูได้แล้วครับ :L4399:
-
อ่านกระทู้นี้จบต้องไปดูน้ำหล่อเย็นด่วนเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ คงต้องมี SMG ติดรถบ้างแล้วครับ :sd23:
-
:L2736: ผมก็โทรเช็คกับน้องที่สนิทในศูนย์ ก็โอครับ "อ้อ รถพี่ธีใช้ของศูนย์มาตลอดครับ" ยกเว้นน้ำมันเครื่อง :L2734:
:sd42: อย่างนี้เรียกว่า....นั่งกันไม่ติดเลยคับพี่ธี. :sd42:
อ้าว....! แล้วผมจะเช็คยังไงล่ะเนี่ย. ไม่มีใครสนิทสัก ศูนย์ เลยคับ. :sd42: เริ่มหวั่นๆ เเล้วคับ.
-
แนวทางตามกฎหมายนะครับ
1.ร้อง สคบ.(เสือกระดาษ)
2.ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคตามพรบ.วีธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ผู้บริโภคฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาล มีเจ้าพนักงานคดีร่างคำฟ้องให้ เราควรมีพยานหลักฐานที่เพียบพร้อมนำสืบด้วย
หลักการสำคัญคดีผู้บริโภคเน้นไกล่เกลี่ยครับ ไกล่ไม่ได้ กำหนดประเด็น นัดสืบพยาน เสร็จแล้วตัดสิน ส่วนเรื่องนี้จะฟ้องใครได้บ้าง ขออนุญาตไม่ให้ความคิดเห็นนะครับ
ถ้า รู้เร็วกว่านี้น่ะคับ. ......! โดน.
:sd27: :sd27: :sd27:
ของขึ้นคับ. ของขึ้น. :sd42:
-
ขอบคุณพี่หยกที่มาแชร์ประสพการณ์ครับ :sd23: ต่อไปคงจะไม่หลงคารมณ์"ขอเชิญนั่งรอห้องรับรองเลยค่ะ ชา กาแฟ ขนม ลูกอม น้ำหวาน ไอติม เชิญตามสบายเลยค่ะ คิดรวมในค่าอะไหล่แล้วค่ะ" :L2739:
-
ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจ :L2900:
ขอบคุณพี่หยกมากๆครับ สำหรับข้อมูล :L4399: :L4399:
-
ถ้า รู้เร็วกว่านี้น่ะคับ. ......! โดน.
:sd27: :sd27: :sd27:
ของขึ้นคับ. ของขึ้น. :sd42:
อะไรขึ้น !! ครับพี่อั๋น ;D ;D
-
แนวทางตามกฎหมายนะครับ
1.ร้อง สคบ.(เสือกระดาษ)
2.ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคตามพรบ.วีธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ผู้บริโภคฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาล มีเจ้าพนักงานคดีร่างคำฟ้องให้ เราควรมีพยานหลักฐานที่เพียบพร้อมนำสืบด้วย
หลักการสำคัญคดีผู้บริโภคเน้นไกล่เกลี่ยครับ ไกล่ไม่ได้ กำหนดประเด็น นัดสืบพยาน เสร็จแล้วตัดสิน ส่วนเรื่องนี้จะฟ้องใครได้บ้าง ขออนุญาตไม่ให้ความคิดเห็นนะครับ
การนำสืบในส่วนนี้ ค่อนข้างยากครับ เพราะจะต้องใช้ผู้ชำนาญการโดยเฉพาะครับ บทสรุปจึงลงเอยที่ ผู้บริโภคตัดปัญหา เสียเวลา ซ่อมเองดีฟ่า :L2754:
-
ขอบคุณพี่หยกที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ
ขอบคุณพี่ ๆ ในคลับที่ช่วยเป็นธุระต่าง ๆ ให้บรรลุไปด้วยดี
-
ขอให้รถของพี่หยกไม่เกิดปัญหาอีกครับ ศูนย์บริการชอบเอาเรื่องเวลามาเป็นจุดที่ทำให้พวกเราไม่อยากตอแยด้วย ถามว่าเกิดจากอะไร แก้ยังไง เสร็จเมื่อไหร่ รับประกันยังไง ไม่ตอบซักอย่าง ต้องรอคำตอบจากศูนย์ใหญ่ก่อน เป็นทุกยี่ห้อครับพี่ คนที่ต้องใช้รถทำงานทุกวันอย่างเราไม่มีเวลามาต่อความยาวสาวความยืดกับพวกนี้หรอกได้แต่รอวันที่ กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคบ้านเราจะบังคับได้เข้มงวดเหมือนอย่างต่างประเทศ ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือเปล่าครับ ผมก็ได้ความรู้จากในเวบนี่แหละครับที่จะไปคอยสังเกตุรถว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าความรู้เรื่องช่างก็ไม่ค่อยมี
สุดท้ายก็ดีใจด้วยครับที่หาสาเหตุเจือและแก้ไขได้ทันครับพี่ :L2904:
-
แนะนำพี่ๆให้หาเกจ์วัดอุณหภูมิ (Temp) ติดเพิ่มจะช่วยได้เยอะทีเดียว(ถึงแม้จะไม่ได้เสพกล่องต่างๆ)
เพราะเจ้าเกจ์วัดอุณหภูมิที่ติดมากับรถมันพึ่งอะไรมากไม่ได้จริงๆนะครับ
บางครั้งอุณหภูมิขยับไป 100+ แล้วไอ้เจ้าอุณหภูมิที่ติดมากับรถยังนิ่งสงบอยู่ที่จุดเดิม
ลงทุนไม่มากแต่จะช่วยกันเครื่องยนต์ของเราพังก่อนวัยอันควร
ส่วนจะติดรุ่นใหนก็เลือกได้ตามใจชอบ ขอให้วัดได้ต่าที่เที่ยงตรงเป็นพอ
-
Smg ของพี่ ปกติไม่เกิน 90 แต่ของผมนี่มันจะวนเวียนอยู่ที่ 89 90 91 92 ตลอดเลย ส่วนใหญ่จะ 89-90 รถผม ปกติ มั๊ยครับเนี่ย
-
Smg ของพี่ ปกติไม่เกิน 90 แต่ของผมนี่มันจะวนเวียนอยู่ที่ 89 90 91 92 ตลอดเลย ส่วนใหญ่จะ 89-90 รถผม ปกติ มั๊ยครับเนี่ย
ต้องดูที่ความเร็วด้วยครับ
-
ต้องดูที่ความเร็วด้วยครับ
พี่อ้วน แพ้ทาง037มั้ย วันงานมิตปิ่นโต จะเอาไปให้แก้แพ้ครับด้วย :L4398: :sd23: :sd01:
-
พี่อ้วน แพ้ทาง037มั้ย วันงานมิตปิ่นโต จะเอาไปให้แก้แพ้ครับด้วย :L4398: :sd23: :sd01:
:L2758: :sd23: :L2736:
-
วันนี้แวะไปล้างแผลผ่าตัด+เปลี่ยนผ้าพันแผลที่อนามัยมาเลยเก็บภาพมาฝากเผื่อจะเป็นประโยชน์กับพวกพี่ๆครับ
อันดับแรกถ่ายน้ำยาหม้อน้ำเดิมทิ้งเปลี่ยนใหม่เพื่อความชัวร์ครับ
(http://upic.me/i/vh/20140913_101004.jpg)
น้ำยาหม้อน้ำแท้มิตซูที่ใช้งานมาครบ 1 สัปดาห์
(http://upic.me/i/tx/20140913_101539.jpg)
ต่อไปก็ถ่ายน้ำมันเกียร์ แต่ตรวจพบการรั่วซึมเลยถือโอกาสถอดแคร้งมาทากาวใหม่ซะเลย
(http://upic.me/i/0s/20140913_103000.jpg)
เมื่อถอดแคร้งน้ำเกียร์ออกมาจะเจอแบบนี้ครับ
(http://upic.me/i/8a/20140913_103857.jpg)
พบว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพสีดำปี๋เหมือนน้ำมันเครื่องเลย
(http://upic.me/i/du/20140913_105826.jpg)
น้ำมันเกียร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในแคร้ง
(http://upic.me/i/au/20140913_103824.jpg)
เมื่อครั้งเข้าเช็คระยะที่ศูนย์นี้ก็ระบุมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วยตามรายการที่ 7 ผ่านมาแค่ 20,000 กว่าโลไหงสีมันดำอย่างนี้เล่า...ได้เปลี่ยนจริงหรือเปล่า???
(http://upic.me/i/72/img046.jpg)
ตรวจดูไส้กรองน้ำมันเกียร์ท่าทางจะตันแล้วเหมือนกัน
(http://upic.me/i/bt/20140913_105715.jpg)
(http://upic.me/i/tu/20140913_105738.jpg)
เลยถือโอกาสเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ซะเลย
(http://upic.me/i/0k/20140913_132530.jpg)
เปรียบเทียบของเดิมกับของใหม่แกะซอง
(http://upic.me/i/ed/20140913_132452.jpg)
แม่เหล็กในแคร้งมีเศษผงเหล็กมาเกาะเพียบ มีทั้งหมด 3 ชิ้น
(http://upic.me/i/r3/20140913_115051.jpg)
ล้างแล้วเป็นแบบนี้
(http://upic.me/i/bx/20140913_115156.jpg)
วางแม่เหล็กตามตำแหน่งเดิม+ทากาวปะเก็นแคร้ง
(http://upic.me/i/wz/20140913_133333.jpg)
ด้วยกาวทาปะเก็นตัวนี้
(http://upic.me/i/zj/20140913_132729.jpg)
เสร็จแล้วประกอบแคร้งกลับคืน
(http://upic.me/i/z3/20140913_134015.jpg)
เปลี่ยนกรองโซล่าเสียใหม่
(http://upic.me/i/4l/20140913_132601.jpg)
น้ำมันเกียร์ตัองเป็นสีนี้เสมอครับ
(http://upic.me/i/xp/20140913_140511.jpg)
(http://upic.me/i/xx/20140913_143115.jpg)
ต่อด้วยการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง Castrol Edge Titanium Pick-Up 5w-30
(http://upic.me/i/c4/screenshots_2014-09-15-11-23-10.jpg)
เติมน้ำหม้อน้ำ + ติดเครื่องเดินเบาไล่อากาศประมาณ 20 นาทีก็เป็นอันเสร็จพิธี คราวนี้เจ้าวาฬน้ำเงินของผมก็หายเป็นปกติ 100% ซะที :L2736:
-
ผมเพิ่มเอกสารหลักฐานการเข้าเช็คระยะ 100,000 กม. พร้อมใบเสร็จรับเงินค่าเปลี่ยนชุดสายพานไทม์มิ่งที่หน้าแรกให้แล้วครับ :L2736:
-
:sd23: สวัสดีคับ.
:sd21: เรื่องของพี่หยกเพิ่งจบไปแบบไม่ค่อยhappy คับ. :sd21:
แต่หลังจากนั้นได้รถที่มีคุณภาพมากขึ้น. กลับมาคับ. :L2900:
ขอบคุณพี่หยก. สำหรับ.คำแนะนำต่างๆ. น่ะคับ.
:L4387: :L4387: :L4387: :L4387:
ผมขออนุญาติต่อ เลยน่ะคับ หลังจากคิดอยู่ 2 วันเต็มๆกับ ผ.บ คับ.
เรื่องราว. ของสถานที่เดียวกัน ให้พี่ๆ สมาชิกได้ฟังเพื่อ ได้รับ ความรู้ และความเข้าใจเพิ่มเติมเลยน่ะคับ
ก่อนหน้านี้ ได้มีการเล่าเรื่องของผมให้พี่ๆทีมงานได้รับฟังบางส่วนแล้วคับ.
พี่ๆทีมงานอยากให้นำเสนอเรื่องของผม ต่อ สมาชิก บ้านเราบ้างคับเผื่อมีประโยชน์ กับใครหลายๆคนคับ
เรื่องนี้ย้อนหลังไป หลายเดือนก่อนน่ะคับ. วันที่ผมตัดสินใจไป วางเงินจองรถ คับ หลัก!!!หมื่นคับ.
ตอนนั้นสนใจในรถน้องปามากคับ จนไม่ได้ดูถึงรายละเอียดอย่างอื่นเลยคับผม. รู้แค่ว่า TV มีโฆษณา
ว่า ( รถปาเจโร่ ผ่อน 0%) คับ เลยต้องรีบคับ. ตั้งใจว่าอยากได้ตัว ที่top สุดคับ แต่ราคา ส่วนตัวราคาสูงเกินสู้ไม่ไหวคับ
จึงได้เริ่มต้นเจรจากับเซลคับ. เค้าเเนะนำให้เอาตัวรองลงมาคับ. ซึ่งจะมีของแถมให้เหมือนกันหมดคับ.
ผมเลยถามไปตรงประเด็นเลยคับ ว่า ที่ติด ป้ายอยู่หน้ากระจกที่รถปาเจโร่(รถโชว์)ว่า ดอกเบี้ย 0%. เนี้ย ปาเจโร่ด้วย ถูกไหมคับ
ทางเซล บอกว่าไม่คับ ส่วนลด0% เฉพาะ ตัว top สุดคับ.
:sd21: ถ้าไม่เอาตัว top. เงื่อนไขตามปกติคับ...คือเสียดอกเบี้ย. :sd21:
พี่เซลบอกว่า "แต่ว่าสามารถ ทำให้ได้ คุ้มค่าแน่นอนคับ. ถ้าผมดาวเยอะ ไม่มีปัญหาเลยคับ
ตอนนั้นผมวางเงินดาวน์เยอะมากคับหมดกระปุกเลยคับหลัก !!!!! แสนคับ.
ตอนนั้นเข้าใจตรงกันกับแฟนว่า ได้ 0% คับ. ตามที่พี่เซลเค้าว่าน่ะคับ.
เลยไปคุยเรื่องของที่จะแถมกันคับ.แล้วก้อมีการจ่ายค่าของแต่งเพิ่มเติมนิดหน่อยคับตามแนวๆของผมพร้อมกับทำสัญญาจองเลยคับ. พอหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก่อนจะเข้าไปจ่ายเงินดาวน์คับ ทางเซลแจ้งมาว่าไม่สามารถช่วยเรื่องดอก 0% ได้ เพราะว่าต้องเป็นตัว top อย่างเดียวคับ ผมเลยคุยกับเค้าแนวๆปฎิเสธไปคับเพราะว่าเค้าบอกให้เข้ามาคุยก่อนมีทางช่วยอยู่คับเลยนัดวันกันเข้าไปคุยคับ ทางเซล เค้าบอกตรงๆว่ากลัวผมปฎิเสธมากเพราะว่าถ้าผมยกเลิกการจองเงินจองผมไม่ได้คืนแน่ๆ(พี่เซลเค้าเป็นห่วงคับ)เพราะเเจ้งเอาไว้เเล้ว ผมกับผ.บ ก้อเสียดายเงินดาวน์คับ หลายหมื่นอยู่คับสรุปคือว่าตอนนั้นอยากได้รถจนไม่รับรู้เรื่องอื่นๆไปเลยคับ ทางเซลเลยแจ้งอย่างเดียวเลยคับว่าจะจัดไฟแนนซ์ให้ผม ซึ่งทางศูนย์ได้มี ธนาคารที่สามารถจัดการเรื่องผ่อนชำระให้ได้เพียงธนาคารเดียวเท่านั้น ไม่มีให้ผมเลือกหรือเปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ล่ะธนาคารเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยผ่อนรถมาแล้ว2รุ่นคับเลยพอจะเข้าใจระบบไฟแนนซ์บ้างคับ ส่วนใหญ่เซลรถจะเเจ้งว่าคุณลูกค้าสามารถ...เลือกได้ว่าจะผ่อนกับธนาคารอะไรคับเพราะลูกค้า...สามารถเปรียบเทียบในส่วนของดอกเบี้ยได้คับ. ที่เคยผ่อนรถคันเก่าๆมาจะเป็นแบบนี้คับ
แต่นี้อะไรไม่แน่ใจคับ ผมกับผ.บ งง มากคับ. ดาวน์รถไป หลัก!!!!!แสนคับ :L2739: เกือบจะครึ่งนึงของราคาน้องปาแล้วคับ
ยังไม่สามารถเลือกธนาคารที่จะจัดไฟแนนซ์ได้อีกคับ แถมดอกเบี้ยที่ต้องรับเอาไว้คับ สูงพอสมควรคับ (จัดfullsetได้2ชุดเลยคับ)
สุดท้ายผมกับแฟนต้องยอมคับเพราะว่าไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลยคับ กลัวที่จะเสียเงินจองด้วยล่ะคับ :sd42: เลยตกลงดาวน์ หลัก!!!!! แสนคับ พร้อมดอกเบี้ยที่เลือกธนาคารไม่ได้คับ(สูงกว่าปกติด้วยคับ). หลังจากนั้นก้อรอรับรถเลยคับ. ระหว่างรอรับรถในอีกไม่กี่วัน ตามประสาคนชอบแต่งคับ
สั่ง สคู้ปกันชนหลัง,กระจกมองมุมด้านหน้าของฟอร์จูนเนอร์แท้,หางหลังทรงศูนย์,ติดฟิลม์3m บานหน้าเพิ่มเติมคับแล้วหุ้มเบาะหนังใหม่คับ สรุปวันที่รับรถมีกระจกมองมุมคับสั่งของรุ่นอื่นที่ไม่ได้สั่งมาติดให้คับ เจาะติดตัวรถ เรียบร้อยเลยคับ ใช้น้อตเกียวปล่อยยิงคับ จบข่าวเอาออกก้อไม่สวย ไม่อยากจะมีเรื่องด้วยแล้วคับ ทางผ.บ บอกว่าสวยดี ผมเลย ยอมๆไปคับ. ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าอยากขับรถไปให้พ่อ/แม่ผมดูคับ(พ่อ/แม่ผมเค้าจะเป็นคนเอาพวงมาลัยมาคล้องรถให้ผมทุกครั้งที่ออกรถใหม่คับ (แต่ไม่ได้ออกบ่อยๆหรอกคับ :sd42: )
เลยรีบนำรถกลับบ้านคับ. หลังจากนั้นก้อได้เข้ามา พูดคุย และได้เป็นส่วนนึงของบ้านนี้คับ. :L2900:
เวลา อยู่บ้านได้ ดูทีวีและเจอโฆษณา ดอกเบี้ย0% อยู่บ่อยๆคับ. ยังบ่นๆว่าเป็นการโฆษณาหลอกลูกค้าเลยคับ
ไม่บอกให้หมดว่าดอกเบี้ย0% เฉพาะตัว top นี่น่า. โกหกลูกค้าเต็มๆ. ปรากฎว่าผมเข้าใจผิดคับ.
หลังจากใช้รถมาได้สักระยะ. พอดีมีโอกาส ได้ไปทานข้าวนอกบ้านคับ
แล้วเจอน้องปาสีน้ำตาลขับเข้ามาแถวๆที่ผมกินข้าวพอดีคับ ป้ายแดงเหมือนกันเลยคับ
(ขอดูหน้าหน่อยคับ แหมป้ายแดงเหมือนๆกันเลย)
สรุปคนที่ลงมาเป็นเพื่อนผมคับ เลยได้มีโอกาสได้พูดคุยกันคับ
เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนของผมดาวน์รถน้องปาไป หลัก !แสน คับ แต่ดอกเบี้ย แค่....fullset.1 ชุดเองคับ.
:L6419: ผมเลยเกิดความโมโหคับ
ดาวน์รถยังไม่ถึง....ครึ่งนึงของผมเลยทำไม....ดอกเบี้ยถูกกว่าตั้งครึ่งนึง น่ะคับ.
:sd06: เริ่มจะนั่งไม่ติดแล้วคับ. เลยลองถามไปที่สำนักงานใหญ่ดูเลยคับ
ปรากฎว่า ได้สอบถามเเละรับคำแนะนำดูแล้ว..... รถน้องปาผม ได้ .....ดอกเบี้ย 0%. จริงๆด้วยคับ.
ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยคับ. คิดอย่างเดียวว่าพลาดแล้ว
เพราะว่ามีสัญญาเช่าซื้อรถ เป็นหลักฐานแล้วคงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ.
รถก้อเอามาขับเเล้ว. ล้อแม็ก ก้อเปลี่ยนแล้ว. เครียดมาก คับ
ลองโทรกลับไปหาเซลดูคับ.พูดเรื่องดอกเบี้ย.เค้าบอกผมว่า เค้าได้เเจ้งตรงส่วนดอกเบี้ยผมแล้ว ว่ามีดอกเบี้ยเท่าไหร่
ผ่อนกี่เดือนรวมเป็นเงินเท่าไหร่ ผมยอมรับเงื่อนไขแล้ว มีสัญญา.ยินยอมรับเเล้ว.
ทำอะไรไม่ได้แล้วเรื่องทางธนาคารก้อ....อนุมัติไปแล้ว. ....ยกเลิกไม่ได้เเล้ว......แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ของแถมก้อแถมให้แล้ว. ตอนนั้นก้อเริ่มเถียงกันคับเรื่องของแถมเพราะเซลบอกว่าแจ้งเรื่องของแถมให้เยอะกว่าลูกค้าท่านอื่นแล้ว
เซ้าเค้าบอกว่า""ถือว่าคุ้มมากถ้าเทียบกับดอกเบี้ยคับ. (ของแถมมูลค่าไม่เกิน2หมื่น)คับ.
:sd27: ให้ผมยอมรับเรื่องดอกเบี้ยไปล่ะกันจะได้จบๆลงกันด้วยดีคับ.
ผมเลยแจ้งเรื่องของแถม เลยคับ ว่า
- เบาะหนัง ขาด เเก้ 2 รอบคับ ยังไม่หายเลยเลิกแก้คับ หนักกว่าเดิม เลื่อนเบาะไม่ได้คับจนถึงตอนนี้คับ
- หางหลังทรงศูนย์ ตอนถอดๆไม่ออกคับ มีการหยอดกาวร้อน / กาวตราช้างเอาไว้คับ สีติดตามออกมาเป็นเเถบคับ
ตอนนั้นจะเปลี่ยนหางออสซี่พอดีคับ
ได้มีโอกาส เจอพี่ตามพี่ตามบอก"ระวังจะเจอพวกหางเดิมๆหยอดกาวตราช้างมาน่ะคับถอดยากมาก" แจ๊กพ๊อตเลยคับ
- กระจกมองมุมด้านหน้าได้ของปลอมมาคับแล้วมองอะไรไม่ได้คับติดมาเปี้ยว คับถอดไม่ได้คับ เป็นรูคับ.
- ฟิลม์หลังเป็นฟองอากาศคับ กลับไปให้ดูแล้ว บอกว่ายังมองผ่านได้อยู่คับร้านที่มาติดให้แจ้งว่าไม่ถือว่าเสียคับไม่เปลี่ยน
ให้คับผมต้อง. :L2736: ออกมาแก้งานเองแล้วคับ.
จน :sd23: สุดท้ายผมเลย เข้าไป ปรึกษา ทนายที่รู้จักกัน คับ.
เค้าได้สอบถาม กับ หน่วยงานที่สามารถให้คำปรึกษาได้คับ(เกี่ยวกับผู้บริโภคคับ) แนะนำดีมากคับ.
เลยได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดน กรณีนี้คับ.ไล่ชื่อกันสักพักอ้าว เพื่อนผมก้อโดนคับ. คราวนี้คุยกันสนุกเลยคับ
เพราะ.........ที่เดียวกันคับ. :sd42:
หลังจากนั้นเลยโทรไปคุยกับทางเซล เลยคับว่าเรื่องราวทั้งหมดมี....หน่วยงานเกี่ยวกับผู้บริโภค...รับทราบแล้วคับ
. มีทนาย เตรียมเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้วคับ
แล้วได้รับจดหมายยืนยันจากทาง สำนักงานใหญ่. (รับรองในเรื่องของดอกเบี้ยเดือนนั้นๆที่จัดโปรโมชั่นมีอยู่จริง)
.ทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการหลอกลูกค้าจริง. มีเอกสาร ยืนยัน จากสำนักงาน
ได้บอกพี่เซล ท่านนั้นว่า.....เราไม่ใช่คนที่จะมาหาเงิน ด้วยการขูดรีดเวลาคนอื่นเค้าล้มหรอกคับ
:L2901: แต่......อยากจะให้คืนตรงส่วนของดอกเบี้ยที่ผมไม่ควรจะเสียไป
เอากลับคืนมาให้ผมในแบบที่ยังมีความรู้สึกดีๆต่อกันดีกว่าคับ
ต่างคนต่างต้องทำมาหากิน. ผมแจ้งเค้าว่า เดี๋ยวจะติดต่อไปอีกทีนึงคับ. ปล่อยให้พี่เค้าคิดสัก เปปนึงคับ
หลังจากนั้น
ผมได้รับการตอบกลับมาอีกไม่กี่วันคับ. ว่า...พี่เค้าไม่ได้ตั้งใจคับ
. เพราะว่าเค้ากำลังจะ(เหมือนกับได้ขึ้นตำแหน่ง)ผมเรียกไม่ถูกอ่ะคับ
เลยต้องรีบทำยอดคับ. จังหวะนั้น คงเจอผมพอดีคับ.(ถูกรางวัลพอดีคับ) :sd42: เค้ายอมรับผิดทุกอย่างคับ.
เเต่เค้าไม่มีคืนให้ผมตอนนี้คับ เนื่องจากพี่เค้ายังมีลูกเล็กค่าใช้จ่ายเยอะคับ
ผมก้อเห็นใจเค้าคับ มีลูกเหมือนกัน เลยคุยกันว่าค่อยๆผ่อนเป็นเดือนๆ ไปคับ.
หลังจากนั้น ก้อผ่อนตามเวลาบ้างช้าบ้างคับตามปกติคับ.
จนถึงสุดท้าย เดือนนี้(ทางเซลขายรถต้อง...ผ่อนชำระดอกเบี้ยแทนลูกค้าครบหมดพอดีคับ)
แล้วจังหวะที่
:sd21: .....พี่หยกเจอปัญหาพอดีคับ.
และบวกกับพี่ทีมงานอยากให้ พี่ๆสมาชิกได้รับทราบถึงปัญหาที่สมาชิกได้เจอมาคับ
:L4387: เอาไว้เป็นความรู้เพิ่มเติมคับ
.....สุดท้าย ผมต้องขออภัยด้วยน่ะครับที่ได้เอ่ย ชื่อเรียก. หรือบริษัท หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาในกระทู้นี้คับ
เรื่องทั้งหมด มีแค่ผมกับพี่เซลขายรถ 2 คนคับ :sd23: :sd23:
ทุกอย่างที่เขียนลงมาไม่ได้ อยากจะทำให้ใครเดือดร้อน หรือเสียหายคับ.
ตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดีคับแค่คิดว่าสิ่งที่นำเสนอมานี่จะเป็นประโยชน์กับใครไม่มากก้อน้อยคับ.
:sd23: :sd23: :sd23: เรียบเรียง 4 ช.ม คับ เพื่อไม่ทำให้ใครเดือดร้อนที่สุดคับ
ของพระคุณมากคับที่ รบกวนเวลามานั่งอ่าน เรื่องราวของผมคับ. :sd23: :sd23:
:L2894:
( จะเช้าพอดีคับ อีกสักเปปนึงออกไปซื้อโจ้กมากินเป็นอาหารเช้าพอดีคับ. :sd42: )
-
จำให้ขึ้นใจเลยครับ ........ซื้อรถอย่าหวังของแถม........ให้ตรวจสอบดวกเบี้ยหลายๆเจ้าด้วยนะครับจะได้ไม่ต้องเสียใจไปอีกหลายปี
เอาของแถมมาเป็นส่วนลดดีกว่าครับ คำว่าของแถมมันก็คือของแถม จะหาคุณภาพหรือความปราณีตแทบไม่มี
สู้เอาส่วนลดไปหาร้านแต่งข้างนอกดีกว่าครับ
:sd23:
-
อ่านเรื่องของพี่อั๋นแล้วของขึ้นเลยครับ :L2740: ผมไม่แปลกใจเลยที่สมาชิกเราต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ที่ศูนย์สาทรแห่งนี้ ตอนที่คุยกันผจก.ฝ่ายบริการเขาบอกเองว่างานเขาเยอะ เขาปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ ช่างแต่ละคนเลยต้องทำงานอย่างเร่งรีบวันละอย่างน้อย 4 คันต่อช่าง 1 คน แต่ศูนย์นี้คงได้แต่ยกมือไหว้ลูกค้ากล่าวขอโทษเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขี้นโดยไม่ได้เคยคิดหาทางป้องกันใดๆให้ลูกค้าเลย เพราะความเสียหายต่างๆที่เกิดจากช่างไร้ฝีมือหรือเด็กฝึกงานที่จ้างมาแบบ No Skill นั้นมันสร้างความเสียหายให้กับรถลูกค้าในระยะยาว แต่ผจก.ฝ่ายบริการคงไม่เคยสำเหนียกว่าความเสียหายนั้นไม่ใด้เกิดกับรถของเขาเองหรือรถของคนในครอบครัวเขา ผมเดาว่าผู้บริหารศูนย์นี้คงไม่ได้ขับรถมิตซูหรือไม่ก็คงไม่เข้ามาใช้บริการศูนย์ของตัวเองอย่างแน่นอนเพราะน่าจะรู้ดีว่าลูกน้องตัวเองมีศักยภาพแค่ไหน ทำงานยังไง
ในความเป็นจริง ถ้าศูนย์จะเพิ่มปริมาณรถที่เข้ารับบริการอย่างน้อยก็ควรรักษาระดับมาตรฐานเอาไว้ให้ดี อาจเพิ่มช่าง ทำโอที หรือไม่ก็งดรับรถเพิ่มเมื่อโควต้าช่างเต็มในแต่ละวัน อีกอย่างที่สำคัญอย่างยิ่งคือถ้างานไม่เสร็จในวันเดียวกันก็อย่าเร่งงาน ให้บอกลูกค้าไปตามความเป็นจริง ผมเชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยินดีทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เพื่อให้ได้รับบริการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ถ้าเกรงว่ารถจะค้างไปอีกวัน วันรุ่งขึ้นก็จะเสียโควต้ารับรถใหม่คุณขอเก็บค่าแรงเพิ่มก็ได้ ลูกค้าเข้าใจน่าจะยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
ผมบอกตามตรงนะครับ ผมยอมจ่ายแพงเข้าศูนย์นี้เพราะคาดหวังการบริการมาตรฐานแบบมืออาชีพ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือความหลอกลวง มาตรฐานงานที่ต่ำกว่าอู่ข้างถนน แถมด้วยความไม่รับผิดชอบของผู้จัดการศูนย์ โยนภาระทุกอย่างให้ลูกค้าเกรด A+ แบบผมอย่างหน้าด้านๆ ที่จริงหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นและได้เข้าไปพูดคุยกับผจก.ศูนย์แล้วผมก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะรับผิดชอบอะไรหรอกครับ ฟังจากสไตล์การพูดคุยแล้วยังไงก็ไม่รับผิดชอบ ถึงปากจะบอกว่าไม่ปฏิเสธแต่ในใจคงคิดว่ายังไงก็ไม่รับ ขอให้มันรีบๆออกไปให้พ้นๆก็พอ คงจะคิดอย่างนั้น
ความจริงค่าซ่อมรถผมเบ็ตเสร็จ 30,000 กว่าบาทก็ไม่ได้มากมายอะไร แลกกับชื่อเสียงและความไว้วางใจที่มีมานานและใช้เวลาในการสั่งสมเป็นแรมปี ผมอยากถามว่ามันคุ้มกันไหม? ผจก.อาจคิดว่าอีกไม่นานก็ลาออกอาจะไม่ได้ทำงานที่ศูนย์นี้ตลอดไป แต่เจ้าของธุรกิจหรือแม้แต่สำนักงานใหญ่มิตซูบิชิมอเตอร์ ควรสำเหนียกว่าศรัทธาที่สั่นคลอนสักวันมันก็พังลงได้เหมือนกัน อย่างน้อยถึงรถมิตซูจะยังคงวิ่งอยู่บนท้องถนนต่อไป แต่ศูนย์สาทรของคุณจะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปได้อีกนานแค่ไหน นั่นคงเป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์จากสาธารณชนต่อไป ขอให้ศูนย์นี้จงเจริญ (ฮวบๆ) ครับ
:L4399: :L4399: :L4399:
-
ขอบคุณข้อมูลจากพี่อั๋น พี่หยกจริงๆครับ :L4399: :L4399:
-
ส่วนตัวแล้วยังไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อรถมือ 1 จากศูนย์เลยไม่ค่อยรู้เรื่องการต่อกรกับเซลล์สักเท่าไหร่
ปาคันที่ใช้อยู่นี่ก็เจอมาแบบฟลุ๊คๆ หาเอาจากเวปตลาดรถกับ dealfish และได้ซื้อกับเจ้าของรถโดยตรงครับ
แถมได้รถมาสภาพดีมากๆด้วย ก็ถือว่าโชคดีละครับกับปาคันนี้
แต่ฟังจากที่พี่อี๋นเล่ามาก็จะเก็บไว้เป็นข้อมูลล่ะครับว่าถ้าวันนึงมีโอกาศซื้อรถป้ายแดงกับเขา ต้องระวังเรื่องอะไรบ้าง
ขอขอบคุณพี่อั๋นสำหรับข้อมูลครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
-
ขอบคุณครับพี่หยก ม้อมูลแน่นมากเลยครับ
-
:L2758: :sd23: :L2736:
แสดงว่าพี่อ้วนแพ้หนัก ต้องจัด :sd27: :sd27: :sd27: :sd27: :L2736: :L2736: :L2736: :L4398:
-
:sd23: สวัสดีคับ.
:sd21: เรื่องของพี่หยกเพิ่งจบไปแบบไม่ค่อยhappy คับ. :sd21:
แต่หลังจากนั้นได้รถที่มีคุณภาพมากขึ้น. กลับมาคับ. :L2900:
ขอบคุณพี่หยก. สำหรับ.คำแนะนำต่างๆ. น่ะคับ.
:L4387: :L4387: :L4387: :L4387:
ผมขออนุญาติต่อ เลยน่ะคับ หลังจากคิดอยู่ 2 วันเต็มๆกับ ผ.บ คับ.
เรื่องราว. ของสถานที่เดียวกัน ให้พี่ๆ สมาชิกได้ฟังเพื่อ ได้รับ ความรู้ และความเข้าใจเพิ่มเติมเลยน่ะคับ
ก่อนหน้านี้ ได้มีการเล่าเรื่องของผมให้พี่ๆทีมงานได้รับฟังบางส่วนแล้วคับ.
พี่ๆทีมงานอยากให้นำเสนอเรื่องของผม ต่อ สมาชิก บ้านเราบ้างคับเผื่อมีประโยชน์ กับใครหลายๆคนคับ
เรื่องนี้ย้อนหลังไป หลายเดือนก่อนน่ะคับ. วันที่ผมตัดสินใจไป วางเงินจองรถ คับ หลัก!!!หมื่นคับ.
ตอนนั้นสนใจในรถน้องปามากคับ จนไม่ได้ดูถึงรายละเอียดอย่างอื่นเลยคับผม. รู้แค่ว่า TV มีโฆษณา
ว่า ( รถปาเจโร่ ผ่อน 0%) คับ เลยต้องรีบคับ. ตั้งใจว่าอยากได้ตัว ที่top สุดคับ แต่ราคา ส่วนตัวราคาสูงเกินสู้ไม่ไหวคับ
จึงได้เริ่มต้นเจรจากับเซลคับ. เค้าเเนะนำให้เอาตัวรองลงมาคับ. ซึ่งจะมีของแถมให้เหมือนกันหมดคับ.
ผมเลยถามไปตรงประเด็นเลยคับ ว่า ที่ติด ป้ายอยู่หน้ากระจกที่รถปาเจโร่(รถโชว์)ว่า ดอกเบี้ย 0%. เนี้ย ปาเจโร่ด้วย ถูกไหมคับ
ทางเซล บอกว่าไม่คับ ส่วนลด0% เฉพาะ ตัว top สุดคับ.
:sd21: ถ้าไม่เอาตัว top. เงื่อนไขตามปกติคับ...คือเสียดอกเบี้ย. :sd21:
พี่เซลบอกว่า "แต่ว่าสามารถ ทำให้ได้ คุ้มค่าแน่นอนคับ. ถ้าผมดาวเยอะ ไม่มีปัญหาเลยคับ
ตอนนั้นผมวางเงินดาวน์เยอะมากคับหมดกระปุกเลยคับหลัก !!!!! แสนคับ.
ตอนนั้นเข้าใจตรงกันกับแฟนว่า ได้ 0% คับ. ตามที่พี่เซลเค้าว่าน่ะคับ.
เลยไปคุยเรื่องของที่จะแถมกันคับ.แล้วก้อมีการจ่ายค่าของแต่งเพิ่มเติมนิดหน่อยคับตามแนวๆของผมพร้อมกับทำสัญญาจองเลยคับ. พอหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก่อนจะเข้าไปจ่ายเงินดาวน์คับ ทางเซลแจ้งมาว่าไม่สามารถช่วยเรื่องดอก 0% ได้ เพราะว่าต้องเป็นตัว top อย่างเดียวคับ ผมเลยคุยกับเค้าแนวๆปฎิเสธไปคับเพราะว่าเค้าบอกให้เข้ามาคุยก่อนมีทางช่วยอยู่คับเลยนัดวันกันเข้าไปคุยคับ ทางเซล เค้าบอกตรงๆว่ากลัวผมปฎิเสธมากเพราะว่าถ้าผมยกเลิกการจองเงินจองผมไม่ได้คืนแน่ๆ(พี่เซลเค้าเป็นห่วงคับ)เพราะเเจ้งเอาไว้เเล้ว ผมกับผ.บ ก้อเสียดายเงินดาวน์คับ หลายหมื่นอยู่คับสรุปคือว่าตอนนั้นอยากได้รถจนไม่รับรู้เรื่องอื่นๆไปเลยคับ ทางเซลเลยแจ้งอย่างเดียวเลยคับว่าจะจัดไฟแนนซ์ให้ผม ซึ่งทางศูนย์ได้มี ธนาคารที่สามารถจัดการเรื่องผ่อนชำระให้ได้เพียงธนาคารเดียวเท่านั้น ไม่มีให้ผมเลือกหรือเปรียบเทียบดอกเบี้ยของแต่ล่ะธนาคารเลย ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเคยผ่อนรถมาแล้ว2รุ่นคับเลยพอจะเข้าใจระบบไฟแนนซ์บ้างคับ ส่วนใหญ่เซลรถจะเเจ้งว่าคุณลูกค้าสามารถ...เลือกได้ว่าจะผ่อนกับธนาคารอะไรคับเพราะลูกค้า...สามารถเปรียบเทียบในส่วนของดอกเบี้ยได้คับ. ที่เคยผ่อนรถคันเก่าๆมาจะเป็นแบบนี้คับ
แต่นี้อะไรไม่แน่ใจคับ ผมกับผ.บ งง มากคับ. ดาวน์รถไป หลัก!!!!!แสนคับ :L2739: เกือบจะครึ่งนึงของราคาน้องปาแล้วคับ
ยังไม่สามารถเลือกธนาคารที่จะจัดไฟแนนซ์ได้อีกคับ แถมดอกเบี้ยที่ต้องรับเอาไว้คับ สูงพอสมควรคับ (จัดfullsetได้2ชุดเลยคับ)
สุดท้ายผมกับแฟนต้องยอมคับเพราะว่าไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายเลยคับ กลัวที่จะเสียเงินจองด้วยล่ะคับ :sd42: เลยตกลงดาวน์ หลัก!!!!! แสนคับ พร้อมดอกเบี้ยที่เลือกธนาคารไม่ได้คับ(สูงกว่าปกติด้วยคับ). หลังจากนั้นก้อรอรับรถเลยคับ. ระหว่างรอรับรถในอีกไม่กี่วัน ตามประสาคนชอบแต่งคับ
สั่ง สคู้ปกันชนหลัง,กระจกมองมุมด้านหน้าของฟอร์จูนเนอร์แท้,หางหลังทรงศูนย์,ติดฟิลม์3m บานหน้าเพิ่มเติมคับแล้วหุ้มเบาะหนังใหม่คับ สรุปวันที่รับรถมีกระจกมองมุมคับสั่งของรุ่นอื่นที่ไม่ได้สั่งมาติดให้คับ เจาะติดตัวรถ เรียบร้อยเลยคับ ใช้น้อตเกียวปล่อยยิงคับ จบข่าวเอาออกก้อไม่สวย ไม่อยากจะมีเรื่องด้วยแล้วคับ ทางผ.บ บอกว่าสวยดี ผมเลย ยอมๆไปคับ. ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าอยากขับรถไปให้พ่อ/แม่ผมดูคับ(พ่อ/แม่ผมเค้าจะเป็นคนเอาพวงมาลัยมาคล้องรถให้ผมทุกครั้งที่ออกรถใหม่คับ (แต่ไม่ได้ออกบ่อยๆหรอกคับ :sd42: )
เลยรีบนำรถกลับบ้านคับ. หลังจากนั้นก้อได้เข้ามา พูดคุย และได้เป็นส่วนนึงของบ้านนี้คับ. :L2900:
เวลา อยู่บ้านได้ ดูทีวีและเจอโฆษณา ดอกเบี้ย0% อยู่บ่อยๆคับ. ยังบ่นๆว่าเป็นการโฆษณาหลอกลูกค้าเลยคับ
ไม่บอกให้หมดว่าดอกเบี้ย0% เฉพาะตัว top นี่น่า. โกหกลูกค้าเต็มๆ. ปรากฎว่าผมเข้าใจผิดคับ.
หลังจากใช้รถมาได้สักระยะ. พอดีมีโอกาส ได้ไปทานข้าวนอกบ้านคับ
แล้วเจอน้องปาสีน้ำตาลขับเข้ามาแถวๆที่ผมกินข้าวพอดีคับ ป้ายแดงเหมือนกันเลยคับ
(ขอดูหน้าหน่อยคับ แหมป้ายแดงเหมือนๆกันเลย)
สรุปคนที่ลงมาเป็นเพื่อนผมคับ เลยได้มีโอกาสได้พูดคุยกันคับ
เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนของผมดาวน์รถน้องปาไป หลัก !แสน คับ แต่ดอกเบี้ย แค่....fullset.1 ชุดเองคับ.
:L6419: ผมเลยเกิดความโมโหคับ
ดาวน์รถยังไม่ถึง....ครึ่งนึงของผมเลยทำไม....ดอกเบี้ยถูกกว่าตั้งครึ่งนึง น่ะคับ.
:sd06: เริ่มจะนั่งไม่ติดแล้วคับ. เลยลองถามไปที่สำนักงานใหญ่ดูเลยคับ
ปรากฎว่า ได้สอบถามเเละรับคำแนะนำดูแล้ว..... รถน้องปาผม ได้ .....ดอกเบี้ย 0%. จริงๆด้วยคับ.
ตอนนั้นทำอะไรไม่ถูกเลยคับ. คิดอย่างเดียวว่าพลาดแล้ว
เพราะว่ามีสัญญาเช่าซื้อรถ เป็นหลักฐานแล้วคงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ.
รถก้อเอามาขับเเล้ว. ล้อแม็ก ก้อเปลี่ยนแล้ว. เครียดมาก คับ
ลองโทรกลับไปหาเซลดูคับ.พูดเรื่องดอกเบี้ย.เค้าบอกผมว่า เค้าได้เเจ้งตรงส่วนดอกเบี้ยผมแล้ว ว่ามีดอกเบี้ยเท่าไหร่
ผ่อนกี่เดือนรวมเป็นเงินเท่าไหร่ ผมยอมรับเงื่อนไขแล้ว มีสัญญา.ยินยอมรับเเล้ว.
ทำอะไรไม่ได้แล้วเรื่องทางธนาคารก้อ....อนุมัติไปแล้ว. ....ยกเลิกไม่ได้เเล้ว......แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
ของแถมก้อแถมให้แล้ว. ตอนนั้นก้อเริ่มเถียงกันคับเรื่องของแถมเพราะเซลบอกว่าแจ้งเรื่องของแถมให้เยอะกว่าลูกค้าท่านอื่นแล้ว
เซ้าเค้าบอกว่า""ถือว่าคุ้มมากถ้าเทียบกับดอกเบี้ยคับ. (ของแถมมูลค่าไม่เกิน2หมื่น)คับ.
:sd27: ให้ผมยอมรับเรื่องดอกเบี้ยไปล่ะกันจะได้จบๆลงกันด้วยดีคับ.
ผมเลยแจ้งเรื่องของแถม เลยคับ ว่า
- เบาะหนัง ขาด เเก้ 2 รอบคับ ยังไม่หายเลยเลิกแก้คับ หนักกว่าเดิม เลื่อนเบาะไม่ได้คับจนถึงตอนนี้คับ
- หางหลังทรงศูนย์ ตอนถอดๆไม่ออกคับ มีการหยอดกาวร้อน / กาวตราช้างเอาไว้คับ สีติดตามออกมาเป็นเเถบคับ
ตอนนั้นจะเปลี่ยนหางออสซี่พอดีคับ
ได้มีโอกาส เจอพี่ตามพี่ตามบอก"ระวังจะเจอพวกหางเดิมๆหยอดกาวตราช้างมาน่ะคับถอดยากมาก" แจ๊กพ๊อตเลยคับ
- กระจกมองมุมด้านหน้าได้ของปลอมมาคับแล้วมองอะไรไม่ได้คับติดมาเปี้ยว คับถอดไม่ได้คับ เป็นรูคับ.
- ฟิลม์หลังเป็นฟองอากาศคับ กลับไปให้ดูแล้ว บอกว่ายังมองผ่านได้อยู่คับร้านที่มาติดให้แจ้งว่าไม่ถือว่าเสียคับไม่เปลี่ยน
ให้คับผมต้อง. :L2736: ออกมาแก้งานเองแล้วคับ.
จน :sd23: สุดท้ายผมเลย เข้าไป ปรึกษา ทนายที่รู้จักกัน คับ.
เค้าได้สอบถาม กับ หน่วยงานที่สามารถให้คำปรึกษาได้คับ(เกี่ยวกับผู้บริโภคคับ) แนะนำดีมากคับ.
เลยได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่โดน กรณีนี้คับ.ไล่ชื่อกันสักพักอ้าว เพื่อนผมก้อโดนคับ. คราวนี้คุยกันสนุกเลยคับ
เพราะ.........ที่เดียวกันคับ. :sd42:
หลังจากนั้นเลยโทรไปคุยกับทางเซล เลยคับว่าเรื่องราวทั้งหมดมี....หน่วยงานเกี่ยวกับผู้บริโภค...รับทราบแล้วคับ
. มีทนาย เตรียมเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้วคับ
แล้วได้รับจดหมายยืนยันจากทาง สำนักงานใหญ่. (รับรองในเรื่องของดอกเบี้ยเดือนนั้นๆที่จัดโปรโมชั่นมีอยู่จริง)
.ทุกอย่าง สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการหลอกลูกค้าจริง. มีเอกสาร ยืนยัน จากสำนักงาน
ได้บอกพี่เซล ท่านนั้นว่า.....เราไม่ใช่คนที่จะมาหาเงิน ด้วยการขูดรีดเวลาคนอื่นเค้าล้มหรอกคับ
:L2901: แต่......อยากจะให้คืนตรงส่วนของดอกเบี้ยที่ผมไม่ควรจะเสียไป
เอากลับคืนมาให้ผมในแบบที่ยังมีความรู้สึกดีๆต่อกันดีกว่าคับ
ต่างคนต่างต้องทำมาหากิน. ผมแจ้งเค้าว่า เดี๋ยวจะติดต่อไปอีกทีนึงคับ. ปล่อยให้พี่เค้าคิดสัก เปปนึงคับ
หลังจากนั้น
ผมได้รับการตอบกลับมาอีกไม่กี่วันคับ. ว่า...พี่เค้าไม่ได้ตั้งใจคับ
. เพราะว่าเค้ากำลังจะ(เหมือนกับได้ขึ้นตำแหน่ง)ผมเรียกไม่ถูกอ่ะคับ
เลยต้องรีบทำยอดคับ. จังหวะนั้น คงเจอผมพอดีคับ.(ถูกรางวัลพอดีคับ) :sd42: เค้ายอมรับผิดทุกอย่างคับ.
เเต่เค้าไม่มีคืนให้ผมตอนนี้คับ เนื่องจากพี่เค้ายังมีลูกเล็กค่าใช้จ่ายเยอะคับ
ผมก้อเห็นใจเค้าคับ มีลูกเหมือนกัน เลยคุยกันว่าค่อยๆผ่อนเป็นเดือนๆ ไปคับ.
หลังจากนั้น ก้อผ่อนตามเวลาบ้างช้าบ้างคับตามปกติคับ.
จนถึงสุดท้าย เดือนนี้(ทางเซลขายรถต้อง...ผ่อนชำระดอกเบี้ยแทนลูกค้าครบหมดพอดีคับ)
แล้วจังหวะที่
:sd21: .....พี่หยกเจอปัญหาพอดีคับ.
และบวกกับพี่ทีมงานอยากให้ พี่ๆสมาชิกได้รับทราบถึงปัญหาที่สมาชิกได้เจอมาคับ
:L4387: เอาไว้เป็นความรู้เพิ่มเติมคับ
.....สุดท้าย ผมต้องขออภัยด้วยน่ะครับที่ได้เอ่ย ชื่อเรียก. หรือบริษัท หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาในกระทู้นี้คับ
เรื่องทั้งหมด มีแค่ผมกับพี่เซลขายรถ 2 คนคับ :sd23: :sd23:
ทุกอย่างที่เขียนลงมาไม่ได้ อยากจะทำให้ใครเดือดร้อน หรือเสียหายคับ.
ตอนนี้ทุกอย่างจบลงด้วยดีคับแค่คิดว่าสิ่งที่นำเสนอมานี่จะเป็นประโยชน์กับใครไม่มากก้อน้อยคับ.
:sd23: :sd23: :sd23: เรียบเรียง 4 ช.ม คับ เพื่อไม่ทำให้ใครเดือดร้อนที่สุดคับ
ของพระคุณมากคับที่ รบกวนเวลามานั่งอ่าน เรื่องราวของผมคับ. :sd23: :sd23:
:L2894:
( จะเช้าพอดีคับ อีกสักเปปนึงออกไปซื้อโจ้กมากินเป็นอาหารเช้าพอดีคับ. :sd42: )
ขอบคุณที่แชร์ความรู็ครับ ผมก็เคยเจอแบบนี้ครับ เเต่เป็นสวิฟอีกคันของผม ไฟแน็กซ์ แจ้งอัตราดอกเบี้ยผิด
ถ้าผมไม่ยอม เขาจ่ายส่วนต่างให้หลักพัน ผมเห็นใจ เลยหยวนๆๆครับ เพราะเห็นว่า เขาอาจเดือดร้อน แต่หลังจากนั้น เจอไฟแน็กซ์คนเดิมที่ศุนย์กับไม่มองหน้าผมเลย ฮ่าๆๆ คนเรานี้มีแปลกเช่นนี้เยอะจริงๆๆ ผมทำงานเจอคนมีปัญหาเข้ามาตลอด แต่พอย้อนคิด ก่อนทำ ทำไมไม่คิดให้ดีๆๆ คิดร้อยรอบก็ได้ แต่อย่างว่าครับ เป้าหมายมีไว้พุ่งชน อะไรจะเกิด คนพวกนี้ ไม่สนใจ
กรณีของพี่อั๋น ถ้าผู้จัดการหรือเจ้าของศุนย์รู้ โทษมีสถานเดียว คือ ไล่ออกครับ โชคดีเจอพี่อั๋น เจอผม คงได้เดินเข้าออกศาลเป็นอาจิญ พวกชอบมุ่งแต่ผลประโยชน์ส่วนตนแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ของสังคมและผู้อื่น
ขอบคุณความรู้พี่หยก ที่เป็นอุทาหรณ์ให้พึงระลึกว่าอย่างไว้ในทาง อย่างวางใจศูนย์
ขอบคุณความรู้พี่อั๋นอีกครับ เซลล์คนนั้นโชคดี เจออั๋นที่ใจดี ใจกว้าง ถ้าเขาไม่เลิกนิสัยแบบนี้ กฎแห่งกรรมมีจริง
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
-
พี่หยก : เพิ่งจะอ่านอย่างละเอียด ปลาวาฬป่วยของพี่หยก และ ดีใจมร่ผ่านความตื่นเต้นและหายป่วยแล้ว
สรุปว่า ทาง 0 รู้เรื่องที่พี่หยกไปทำมาไหมครับ
พี่อั๋น : อ่านแล้ซ เซ่ง แทนเลย
-
พี่หยก : เพิ่งจะอ่านอย่างละเอียด ปลาวาฬป่วยของพี่หยก และ ดีใจมร่ผ่านความตื่นเต้นและหายป่วยแล้ว
สรุปว่า ทาง 0 รู้เรื่องที่พี่หยกไปทำมาไหมครับ
พี่อั๋น : อ่านแล้ซ เซ่ง แทนเลย
ขอบคุณครับพี่โต้ง :sd23: ตอนนี้ศูนย์รู้เรื่องผมนำรถไปซ่อมเองแล้วครับแต่ก็ไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาครับ
-
ยินดีกับพี่หยกด้วยครับ
พอได้อ่านเรื่องของพี่หยกและพี่อั่นเกี่ยวกับศูนย์มิตซู รวมกับประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอ ทำให้กลัวศูนย์มิตซูมากเลยครับ :L4387:
-
:sd42: อย่าเพิ่งกลัวน่ะคับ. อยากให้เตรียมตัว ก่อนเจอปัญหา ต่างๆ. คับ.
ขอบคุณเวป.....ปามาเนียด้วยคับ.
ที่เป็นสื่อกลางในการ แนะนำปัญหาหรือวิธี แก้ไข ให้กับ สมาชิกได้เข้ามาชมคับ. :sd23:
-
ขอบคุณพี่หยกที่มาแชร์ประสพการณ์ครับ :sd23: ต่อไปคงจะไม่หลงคารมณ์"ขอเชิญนั่งรอห้องรับรองเลยค่ะ ชา กาแฟ ขนม ลูกอม น้ำหวาน ไอติม เชิญตามสบายเลยค่ะ คิดรวมในค่าอะไหล่แล้วค่ะ" :L2739:
ขอบคุณพี่หยกที่มาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังครับ
ขอบคุณพี่ ๆ ในคลับที่ช่วยเป็นธุระต่าง ๆ ให้บรรลุไปด้วยดี
ขอให้รถของพี่หยกไม่เกิดปัญหาอีกครับ ศูนย์บริการชอบเอาเรื่องเวลามาเป็นจุดที่ทำให้พวกเราไม่อยากตอแยด้วย ถามว่าเกิดจากอะไร แก้ยังไง เสร็จเมื่อไหร่ รับประกันยังไง ไม่ตอบซักอย่าง ต้องรอคำตอบจากศูนย์ใหญ่ก่อน เป็นทุกยี่ห้อครับพี่ คนที่ต้องใช้รถทำงานทุกวันอย่างเราไม่มีเวลามาต่อความยาวสาวความยืดกับพวกนี้หรอกได้แต่รอวันที่ กฏหมายคุ้มครองผู้บริโภคบ้านเราจะบังคับได้เข้มงวดเหมือนอย่างต่างประเทศ ไม่รู้ว่าจะได้เห็นหรือเปล่าครับ ผมก็ได้ความรู้จากในเวบนี่แหละครับที่จะไปคอยสังเกตุรถว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าความรู้เรื่องช่างก็ไม่ค่อยมี
สุดท้ายก็ดีใจด้วยครับที่หาสาเหตุเจือและแก้ไขได้ทันครับพี่ :L2904:
ขอบคุณข้อมูลจากพี่อั๋น พี่หยกจริงๆครับ :L4399: :L4399:
ขอบคุณครับพี่หยก ม้อมูลแน่นมากเลยครับ
ยินดีกับพี่หยกด้วยครับ
พอได้อ่านเรื่องของพี่หยกและพี่อั่นเกี่ยวกับศูนย์มิตซู รวมกับประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอ ทำให้กลัวศูนย์มิตซูมากเลยครับ :L4387:
ขอบคุณพี่เอกพี่หม่องพี่โอ๋พี่เดียวพี่วุธและพี่อมรศักดิ์ที่ติดตามอ่านครับ หวังว่าเรื่องราวของผมคงจะเป็นประโยชน์กับพวกพี่นะครับ :L4399:
แนะนำพี่ๆให้หาเกจ์วัดอุณหภูมิ (Temp) ติดเพิ่มจะช่วยได้เยอะทีเดียว(ถึงแม้จะไม่ได้เสพกล่องต่างๆ)
เพราะเจ้าเกจ์วัดอุณหภูมิที่ติดมากับรถมันพึ่งอะไรมากไม่ได้จริงๆนะครับ
บางครั้งอุณหภูมิขยับไป 100+ แล้วไอ้เจ้าอุณหภูมิที่ติดมากับรถยังนิ่งสงบอยู่ที่จุดเดิม
ลงทุนไม่มากแต่จะช่วยกันเครื่องยนต์ของเราพังก่อนวัยอันควร
ส่วนจะติดรุ่นใหนก็เลือกได้ตามใจชอบ ขอให้วัดได้ต่าที่เที่ยงตรงเป็นพอ
เห็นด้วยกับพี่ทศครับ ที่จริง SMG ควรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานประจำรถเลยเสียด้วยซ้ำ ใครยังไม่มีแนะนำอย่างยิ่งครับ มีประโยชน์จริงๆครับ :L2736:
-
ยินดีกับพี่หยกด้วยครับ
พอได้อ่านเรื่องของพี่หยกและพี่อั่นเกี่ยวกับศูนย์มิตซู รวมกับประสบการณ์ที่ตัวเองเคยเจอ ทำให้กลัวศูนย์มิตซูมากเลยครับ :L4387:
พี่เอกอาการรถหายเเละใช้งานเป็นปกติดีหรือเปล่าครับ
-
ขอบคุณครับพี่โต้ง :sd23: ตอนนี้ศูนย์รู้เรื่องผมนำรถไปซ่อมเองแล้วครับแต่ก็ไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาครับ
อายมั้ง ที่ไม่ติดต่อกลับมา หรือ ช่างลูกค้ามัน
แบบนี้ไม่ได้นะ ความเชื่อถือ สร้างกันปีๆๆๆ ถ้า 0 ไม่สนใจ
--- ต้องประชาคมโลกรู้ให้หมด ----
-
เมื่อถอดแคร้งน้ำเกียร์ออกมาจะเจอแบบนี้ครับ
(http://upic.me/i/8a/20140913_103857.jpg)
พบว่าน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพสีดำปี๋เหมือนน้ำมันเครื่องเลย
(http://upic.me/i/du/20140913_105826.jpg)
น้ำมันเกียร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในแคร้ง
(http://upic.me/i/au/20140913_103824.jpg)
เมื่อครั้งเข้าเช็คระยะที่ศูนย์นี้ก็ระบุมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วยตามรายการที่ 7 ผ่านมาแค่ 20,000 กว่าโลไหงสีมันดำอย่างนี้เล่า...ได้เปลี่ยนจริงหรือเปล่า???
(http://upic.me/i/72/img046.jpg)
ศูนย์นี้นี่มันยังงัยนะ ยิ่งขุดยิ่งเจอ ... ผมอ่านของพี่หยกเกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ปุ๊บ ... สงสัยปั๊บ ... รายการในใบเสร็จพี่หยก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อตอน 80000 นั่นหมายความว่าต้องเปลี่ยนถ่ายออกทั้งหมด (ตามรอบ 40000 กม.) แต่ในใบเสร็จขึ้นมาแค่ 1 ลิตร 4 ขวด... ผมก็งง ... เพราะน้ำมันเกียร์มันมาเป็นแกลลอน หลายลิตรอยู่นะนั่น ... ล่าสุดที่ผมไปติด Oil Gear Cooler มา ผมยังซื้อมา 1 แกลลอน มาเก็บไว้ที่บ้านอยู่เลย (เผื่อไว้เกิดมีการรั่วจะได้มีเติม) แต่ทำไมที่นี่ใช้ขวดเล็ก 1 ลิตร 4 ขวด ซึ่งก็ไม่ยังไม่น่าจะพออยู่ดี เท่าที่จำได้แกลลอนนึงเกิน 4 ลิตรแน่ๆ
เลยไปค้นมาครับ ในเว็บของ Mitsu เองโดยตรง
(http://upic.me/i/84/63164.jpg)
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทั้งหมด 9.7 ลิตรนะขอรับท่านผู้ชม .... นี่โชคดีนะที่พี่หยกตัดสินใจเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ นี่ถ้าไม่เปลี่ยนเกียร์พังละก็ :L4391: :L4391: :L4391:
นี่มันโจรในคราบศูนย์บริการชัดๆ :sd07: :sd07:
-
โอ้วววว ..... ผู้บริโภคตาดำๆ แบบเรา ๆ ต้องมารับผลกรรมกับศูนย์แบบนี้ก็มีด้วย :sd06:
:sd40: :sd40: ลาขาดเลยครับเจอแบบนี้
-
ศูนย์นี้นี่มันยังงัยนะ ยิ่งขุดยิ่งเจอ ... ผมอ่านของพี่หยกเกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ปุ๊บ ... สงสัยปั๊บ ... รายการในใบเสร็จพี่หยก เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เมื่อตอน 80000 นั่นหมายความว่าต้องเปลี่ยนถ่ายออกทั้งหมด (ตามรอบ 40000 กม.) แต่ในใบเสร็จขึ้นมาแค่ 1 ลิตร 4 ขวด... ผมก็งง ... เพราะน้ำมันเกียร์มันมาเป็นแกลลอน หลายลิตรอยู่นะนั่น ... ล่าสุดที่ผมไปติด Oil Gear Cooler มา ผมยังซื้อมา 1 แกลลอน มาเก็บไว้ที่บ้านอยู่เลย (เผื่อไว้เกิดมีการรั่วจะได้มีเติม) แต่ทำไมที่นี่ใช้ขวดเล็ก 1 ลิตร 4 ขวด ซึ่งก็ไม่ยังไม่น่าจะพออยู่ดี เท่าที่จำได้แกลลอนนึงเกิน 4 ลิตรแน่ๆ
เลยไปค้นมาครับ ในเว็บของ Mitsu เองโดยตรง
(http://upic.me/i/84/63164.jpg)
เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทั้งหมด 9.7 ลิตรนะขอรับท่านผู้ชม .... นี่โชคดีนะที่พี่หยกตัดสินใจเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ นี่ถ้าไม่เปลี่ยนเกียร์พังละก็ :L4391: :L4391: :L4391:
นี่มันโจรในคราบศูนย์บริการชัดๆ :sd07: :sd07:
หลอนอีกแล้วครับท่าน :L4391:
-
อำลาศูนย์ดีมั้ยเนี่ยผม ไปหาอู่แบบไว้ใจทาง วางใจอู่ดีกว่ามั้ยเนี่ย
-
ในกรณีของพี่หยกเรื่องน้ำมันเกียร์นี้นะครับ .... ลองวิเคราะห์ดูเล่นๆขำๆนะ
ทำไมถึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้พี่หยกแค่ 4 ลิตร? และทำไมถึงต้องใช้ขวดขนาด 1 ลิตร 4 ขวด?
เวลาเราเอารถเข้าศูนย์บริการ เราต้องผ่านหลายฝ่ายหลายแผนกนะ
1. พอเข้าไปปุ๊บ เราจะต้องเจอกับฝ่ายบริการลูกค้าก่อน เมื่อเราแจ้งว่ามา Check ระยะ ฝ่ายบริการลูกค้าจะ key รุ่นรถ ระยะทาง และทะเบียนรถเข้าไปในคอม คอมพิวเตอร์ของศูนย์มี Preset และข้อมูลเดิมของรถอยู่แล้ว (กรณ๊ที่เข้าศูนย์เดิม) เครื่องจะระบุออกมาเลยว่าในระยะนี้จะต้องทำอะไรบ้าง จำนวนเท่าไหร่ ราคาเท่าไหร่ ค่าแรงเท่าไหร่ ... ย้ำนะครับ มันเป็น preset ไว้แล้ว ฝ่ายบริการลูกค้าไม่ได้มานั่งพิมพ์เข้าไปเอง ... จากนั้นหากมีรายการเพิ่มเติม ฝ่ายบริการก็จะเขียนด้วยมือลงไปในใบที่ print ออกมา ดังนั้นในกรณีนี้ในใบแจ้งสั่งงานครั้งแรกจะต้องออกมาจากเครื่องคอมเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ใช้จำนวน 9.7 ลิตร ยกเว้นฝ่ายบริการลูกค้าเข้าไปแก้ไขตัวเลขในคอม
2. จากนั้นเรื่องจะถูกส่งไปที่ฝ่ายช่างเพื่อเปิดงาน ช่างจะดูจากใบว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ช่างจะไม่แปลกใจหรือว่าทำไมรถคันนี้ถึงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแค่ 4 ลิตร ไม่ใช่ 9.7 ลิตรเหมือนรถปกติทั่วๆไป
3. เมื่อช่างเปิดงานแล้วก็จะไปเบิกของจากฝ่ายอะไหล่ ซึ่งจะต้องมีใบเปิดงานนี้ไปเบิก ฝ่ายอะไหล่จะเป็นคนจัดอะไหล่ทั้งหมดที่ต้องใช้ออกมาให้ รวมถึงน้ำมันเกียร์ด้วย ฝ่ายอะไหล่จะไม่แปลกใจเลยเหรอครับว่าทำไมมันเปลี่ยนแค่ 4 ลิตร ไม่ใช่ 9.7 ลิตร
4. เมื่องานเสร็จ ช่างจะกลับมาแจ้งที่ฝ่ายบริการลูกค้าว่างานเสร็จแล้ว จากนั้นเรื่องจะยิงไปที่ฝ่าย Cashier เพื่อให้เราไปจ่ายเงิน Cashier เห็นจะไม่สงสัยหรือว่าทำไมรถคันนี้ถึงใช้น้ำมันเกียร์แปลกๆ 1 ลิตร 4 ขวด ไม่ใช่ 1 แกลลอน 9.7 ลิตร
4 ฝ่าย 4 แผนก กับเรื่องที่ต้องส่งผ่านไป ไม่มีใครสงสัยเลย ... หรือว่ารู้กัน!!!!
ถ้ารู้กัน ทำไปเพื่ออะไร?
สมมตินะครับ สมมตินะว่า ฝ่ายบริการลูกค้าพิมพ์ใบแจ้งเปิดงานออกมาที่ 9.7 ลิตร ช่างเอาใบนี้ไปเบิกของจากฝ่ายอะไหล่ออกมา 9.7 ลิตร จะเอามาเปลี่ยนหรือเปล่าไม่รู้ แต่เมื่อเสร็จแล้วกลับมาแจ้งที่ฝ่ายบริการ ... ฝ่ายบริการก่อนส่งเรื่องให้ Cashier แก้ในคอมว่าเปลี่ยนไป 4 ลิตร (ใช้ 1 ลิตร 4 ขวด) ... เท่ากับน้ำมันเกียร์ถูกฟอกหายไป 5 ลิตร ... มันไปไหนคงไม่ต้องค้นต่อ เพราะเป้าหมายที่มันหายไปคงเป็นไปได้แค่ไม่กี่เรื่อง
ทีนี้อย่างที่บอกนะครับว่าเวลาเราเอารถเข้าศูนย์เรื่องมันไม่ได้ผ่านแค่ฝ่ายเดียว ช่างมาแก้ข้อมูลในเครื่องคอมไม่ได้ ฝ่ายบริการลูกค้าถึงจะแก้ไขข้อมูลในใบเปิดงานได้ ฝ่ายอะไหล่จ่ายอะไหล่ออกไปตามใบงาน ส่วน Cashier เก็บเงินต้องเห็นรายการทุกอย่างรวมถึงการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แค่ 4 ลิตร ... คิดดูเอาเองละกันว่า ถ้ารู้กันถึง 4 แผนกขนาดนี้ ตัวผู้บงการควรจะเป็นใคร
แล้วได้อะไรอีกหรือไม่ที่ทำแบบนี้?
นึกจินตนาการให้ดีครับ กรณีนี้จะเกิดกับผู้ที่เอารถเข้าไปแล้วไม่เคยอยู่ดูรถ ไม่รู้เรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนอะไหล่ว่าต้องใช้อะไรเท่าไหร่ ใบที่ศูนย์พิมพ์ออกมาให้ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ค่อยจะอ่าน สรุปคือไม่รู้เรื่องอะไรเลย .... ลูกค้าประเภทนี้จะรู้อยู่อย่างเดียวคือ....................... เช็คระยะที่นี่ราคาถูกดีจังจ้าาาาาาาาาาาาาา .... ดังนั้นนอกจากน้ำมันเกียร์จะระเหยไป 5 ลิตรแล้ว ลูกค้ายัง Happy อีกต่างหาก :L2754: :L2754: :L2754: ... ทีนี้เมื่อลูกค้า Happy ก็จะกลับมาใช้บริการอีกบ่อยๆไงละคร้าาาาาบ
วิเคราะห์เล่นๆขำๆนะครับ
:sd25: :sd25:
-
วิเคราะห์ต่ออีกหน่อยตามนิสัยคนเรียนจบ Finance
ในตารางมิตซู เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 9.7 ลิตร ราคา 1440 บาท ตกลิตรละ 148 บาท
ในใบของพี่หยกคือ 4 ลิตร ที่ลิตรละ 165 บาท
กำไรส่วนเกินซึ่งแบบนี้ผิดกฎของมิตซูนะ .... กำไรเพิ่มอีกลิตรละ 17 บาท ... รวมแล้วกำไรเพิ่ม 68 บาท
รถเข้าศูนย์นี้ตามที่ฝ่ายช่างบอกคือ ช่าง 5 คน คนละ 4 คัน/วัน ....ตกวันละ 20 คัน อาทิตย์นึงเปิด 6 วัน คิดเป็นอาทิตย์ละ 120 คัน เดือนละ 4 อาทิตย์ ก็จะมีลูกค้าเข้าศูนย์นี้ 480 คัน
คิดแบบคร่าวๆ ถ้ามีลูกค้าแค่ 50 จาก 480 คันต่อเดือน ที่เข้ามาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ แล้วเป็นแบบนี้ทั้งหมด ผลประโยชน์มันจะเป็นยังงัย
ส่วนต่างราคาที่คิดจาก 4 ลิตรในใบเสร็จ 68 บาทต่อคัน รวมแล้ว 50 คันก็ 3400 บาทต่อเดือน หรือเท่ากับปีละ 40800 บาท
ค่าระเหยน้ำมันเกียร์ที่หายไป 5 ลิตร คิดซะว่าระเหยกลายเป็นครึ่งราคาของที่มิตซูขาย ก็จะได้มา 82.5บาท/ลิตร ได้ไปคันละ 5 ลิตร ก็จะเท่ากับ 412.5บาทต่อคัน ประมาณเดือนละ 50 คันก็เป็นเงิน 20625 บาทต่อเดือน หรือเท่ากับ 247500 บาทต่อปี
รวมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน 40800 + 247500 = 288300 บาทต่อปี .... เยอะมั๊ยละนั่น
** ทั้งหมดที่ผมวิเคราะห์มานี้ อยู่บนสมมติฐานที่ว่า ช่างเอาไอ้ 4 ลิตรในบิลนั้นเติมเข้าไปให้จริงๆนะ ไม่ได้ระเหยไปพร้อมกับไอ้ 5 ลิตรที่เบิกเกินออกมา ..... แล้วพี่ๆคิดว่าไอ้ 4 ลิตรนี่มันจะได้เติมเข้าไปมั๊ยละ
:sd27: :sd27:
-
เพิ่มเติมอีกนิดครับพี่หยก ผมดูในรายการเปลี่ยนสายพาน timing ของพี่หยกแล้ว มี 2 รายการนี้นะครับที่ผมไม่เคยเห็น งงอยู่ว่ามันคืออะไหล่ตัวไหน
(http://upic.me/i/12/31165.jpg)
(http://upic.me/i/2b/y2166.jpg)
-
และมีอีกรายการนึงครับ ดูแล้วขำ ตลกดี
(http://upic.me/i/b0/js167.jpg)
เปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย ....ในใบเสร็จเขียนว่า 18 ลิตร ใช้ทั้งหมด 4 .... รวมแล้วรถพี่หยกใส่น้ำมันเฟืองท้ายไป 18x4=72 ลิตร .... ช่างบังเกิดเกล้าเขาเอาไปเติมในถังน้ำมันหรือเปล่าครับ ถังน้ำมันยังใส่แทบจะไม่หมด เอาไปยัดไว้ตรงไหนของเฟืองท้ายไม่ทราบครับ
:sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:
เอามาให้ดูนะครับ น้ำมันเฟืองท้าย เมื่อเช็คระยะที่ 80000 กม. ต้องถ่ายทิ้ง แล้วเติมเข้าไปใหม่ ตามรายการของ Mitsu คือ 3.8 ลิตรนะครับ ราคา 560 บาท แต่พี่หยกเราโดนไป 822 บาท
(http://upic.me/i/6l/om168.jpg)
ไม่ต้องวิเคราะห์ทาง Finance ต่อละนะ .... เหมือนกรณีน้ำมันเกียร์ครับผม
:sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:
-
และจุดสังเกตุสุดท้ายก่อนหนีไปนอน
เข้าใจว่าพี่หยกเปลี่ยนสายพาน Timing ตอน 100000 กม. พอดี ดังนั้นการเข้าไปนอกจากเปลี่ยนสายพาน Timing แล้วคงมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะไปด้วยหรือเปล่าไม่รู้ แต่เดาว่าน่าจะเข้าไปทำพร้อมกันนะ
จุดสังเกตุที่ผมบอกคือ ในรายการไม่มีน้ำมันเครื่อง ผมเลยไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นถึงไม่มีน้ำมันเครื่องอยู่ในรายการ แต่เป็นไปได้ที่พี่หยกจะหิ้วน้ำมันเครื่องเข้าไปเอง เลยไม่มีในรายการ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็มีอีก 1 รายการที่หายไปคือ กรองน้ำมันเครื่อง ซึ่งต้องเปลี่ยนทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง รายการนี้ก็ไม่มี เลยงงๆ ว่ามันเกิดไรขึ้น :L2761: :L2761:
-
พี่ตาม :L2900:
นี่ขนาดวิเคราะห์แบบขำๆ เล่นๆ นะครับ ขอบคุณสำหรับการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อเป็นข้อมูลในการเข้าใช้บริการศูนย์ เอาไว้รับมือกับศูนย์ที่ไร้จรรยาบรรณ :L2734:
-
ของผมก็มีรายการเปลี่ยนนะครับพี่ตาม พู่เลย์ปั๊มเพาเวอร์ กับ ลูกรอกไดชาร์ท พอสอบถามไปทางศูนย์ ศูนย์แจ้งว่าถ้าเกิดไม่เปลี่ยนจะกัดสายพานใหม่ที่เราเปลี่ยนเข้าไป เนื่องจากลูกรอกเราใช้มา 100,000 โลแล้วย่อมมีสึกหรอ หรืออาจจะเป็นร่องเดียวกับสายพานเก่าของเราไปแล้ว มัน เป็นพาร์ทบังคับของทางมิตซูครับ แล้วก็เอาข้ออ้างเกี่ยวกับการรับประกันเข้ามาพูดเหมือนเดิม ของผมได้สิทธ ประกัน 5ปี 150,000 กม. ก็เลยต้องเลยตามเลย แต่ก็ยัง งง อยู่บ้างว่า สายพานรถเราที่วัสดุเป็นยาง มันจะสามารถกัดร่องลูกรอก ที่ทำมาจากเหล็กจนสึกได้เลยหรือ :L2761: :L2761:
-
ส่วนดรื่องน้ำมันเกียร์ ผมลองคิดดูนะครับ ส่วนตัวที่เคยทำงานแนวนี้มาก่อนกับรถยี่ห้อนึง มันจะแบ่งระยะที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออก เป็น 2ระยะ
1. ถ้าเกิดเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ แบบธรรมดา. คือ ถ่ายน้ำมันเกียร์ที่อ่างเกียร์ และหม้อทอร์ค คอนเวอเตอร์ ก็จะใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์อยู่ 4-5 ลิตร
2. ถ้าเกิดเปลี่ยนน้ำมำนเกียร์ แบบ full. คือ เปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ ยางอ่างเกียร์ โอริงชุดวาล์วบอดี้(สมองเกียร์ ) คือต้องถอดกรอง + ชุดสมองเกียร์ออกมา ก็จะใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์อยู่ 7-8 ลิตร ครับ อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับศูนย์นี้ครับ :sd23: :sd23: เพราะว่าลูกค้าจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเปลี่ยนจริงไหมบางทีอาจจะเปลี่ยนแค่ยางอ่างเกียร์เนื่องจากได้อายุการใช้งานแล้วมันจะแข็งทำให้น้ำมันรั่ว ก็อาจจะมักง่ายหรือขี้เกียจถอดกรอง ถอดสมองเกียร์ ก็จะใช้นำ้มันเกียร์แค่ 4-5-6 ลิตร ที่เหลืออีก 2-3 ลิตรก็........................ :sd06:
-
นี้มันศูนย์บริการ หรือ โจรกรรม ครับเนี้ย ไม่ไหวจะเคลีย ผมโชดดีที่มาอ่านเรื่องราวของพี่หยกก่อน ศูนย์นี้ในใจผมจะเข้าไปใช้บริการถ้าครบ 30,000กม. เพราะใกล้บ้านคงต้องปล่อยผ่านละครับ มันเสียความไว้ใจเมื่อเข้าศูนย์ จะมีศูนย์บริการไหนบ้างจะทำงานด้วยความบริสุทธิ์ใจและใส่ใจในงานบริการเหมือนกับเป็นรถของตัวเอง คิดแล้วเศร้าใจ :L4386: :L4386:
-
นึกจินตนาการให้ดีครับ กรณีนี้จะเกิดกับผู้ที่เอารถเข้าไปแล้วไม่เคยอยู่ดูรถ ไม่รู้เรื่องรายละเอียดการเปลี่ยนอะไหล่ว่าต้องใช้อะไรเท่าไหร่ ใบที่ศูนย์พิมพ์ออกมาให้ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ไม่ค่อยจะอ่าน สรุปคือไม่รู้เรื่องอะไรเลย .... ลูกค้าประเภทนี้จะรู้อยู่อย่างเดียวคือ....................... เช็คระยะที่นี่ราคาถูกดีจังจ้าาาาาาาาาาาาาา .... ดังนั้นนอกจากน้ำมันเกียร์จะระเหยไป 5 ลิตรแล้ว ลูกค้ายัง Happy อีกต่างหาก :L2754: :L2754: :L2754: ... ทีนี้เมื่อลูกค้า Happy ก็จะกลับมาใช้บริการอีกบ่อยๆไงละคร้าาาาาบ
ในฐานะเจ้าของรถที่เคยเชื่อมั่นในระบบศูนย์บริการยอมรับครับว่าที่ผ่านมาไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดเท่าที่ควร เราจะคิดเสมอว่าเข้าศูนย์ถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะทุกครั้ง + เปลี่ยนอะไหล่ตามโปรแกรมที่ศูนย์จัดให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ใช่เพราะว่าราคาถูกหรอกนะครับ กรณีของผมค่าใช้จ่ายมันแพงมากเสียด้วยซ้ำแต่ที่ต้องเข้าศูนย์เพราะต้องการรักษาสิทธิ์การรับประกันไว้ เพราะอย่างไรก็ตามหากเกิดความเสียหายอะไรขึ้นภายในระยะ 100,000 กม.หรือภายใน 6 เดือนหลังเข้ารับบริการทางศูนย์จะเป็นผู้รับผิดชอบทุกอย่าง ตัวอย่างเช่น ที่ผ่านมาพวงมาลัยมีเสียงฝืดเวลาเลี้ยวเข้าไปแจ้งศูนย์ก็เคลมให้ทั้งแกนเลย (อ้างว่าเปลี่ยนทั้งแกนแต่ความจริงไม่รู้ว่าเปลี่ยนจริงหรือเปล่าเพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย อะไหล่เก่าก็ไม่ได้คืนให้อ้างว่าต้องส่งคืน MMTH) อีกตัวอย่างนึ่งคือการเคลมเทอร์โบ เข้าไปแจ้งว่าเทอร์โบเยิ้มเขาก็เคลมให้เลย (อันนี้เปลี่่ยนจริงครับเพราะเคยถ่ายรูปไว้)
สำหรับลูกค้าที่ไม่เคยใส่ใจเรื่องทางเทคนิคเกี่ยวกับรถของตัวเองสักเท่าไหร่ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความไว้วางใจในตัวศูนย์เป็นอย่างมาก (ในขณะที่นั่นคือกับดักหลุมพรางดีๆนี่เอง) เพราะอาการที่หมักหมมเอาไว้จากการไม่ได้เปลี่ยนถ่ายอะไหล่หรือของเหลวจริงตามที่ทางศูนย์แจ้งนั้นมันมักจะเกิดขึ้นหลังจากระยะ 100,000 กม.หรือหมดประกันศูนย์ไปแล้ว ซึ่งจะเป็นเรื่องที่ยากมากในการหาข้อพิสูจน์ว่าสาเหตุที่แท้จริงของความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นมีต้นเหตุจากสิ่งใด ยกตัวอย่างกรณีของผมช่างศูนย์ (ช่างหรือเปล่าไม่แน่ใจ) อาจไม่ได้ไล่อากาศในหม้อน้ำออกจดหมดเกลี้ยงแต่คความเสียหายมาเกิดขึ้นหลังจากเข้าศูนย์ไปแล้ว 2 เดือน แล้วเหตุใดลูกค้าจะต้องเป็นคนพิสูจน์ว่าอุปกรณ์ใดในรถที่เกิดความเสียหายและเสียหายอย่างไร ทำไมไม่เป็นฝ่ายศูนย์บ้างที่ต้องเช็คว่าการให้บริการถูกต้องตามขั้นตอนมาตรฐานไหม??? ช่างผู้ปฏิบัติงานมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือไม่??? หัวหน้าช่างมีการควบคุมและตรวจงานลูกน้องอย่างรัดกุมหรือเปล่า??? ทำไม่ต้องเป็นลูกค้าที่ต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์อยู่ฝ่ายเดียวล่ะ??? หรือคิดว่าคนที่ทำงานในศูนย์บริการเป็นเทวดากันหมดถึงทำผิดไม่เป็นกันเลยหรืออย่างไร???
หรือกรณีน้ำมันเกียร์ (ที่คงจะไม่ได้เปลี่ยนให้ผมตามกำหนดตั้งแต่เข้าเช็ค 80,000 กม.) หากรถเกิดชุดเกียร์เสียหายหรือครัชไหม้ที่ระยะ 100,001 กม.ขึ้นมาคงไม่ต้องบอกนะครับว่าศูนย์จะรับผิดชอบไหม คงจะบอกเหมือนกันว่าต้องแจ้งให้สำนักงานใหญ่ส่งวิศวกรมาตรวจสอบว่าต้นเหตุของความเสียหายเกิดจากเกิดจากสาเหตุใด หลังจากรอเขาสะดวกเข้ามาพบผมเมื่อไหร่แล้วนั้น ถ้าต้องการพิสูจน์ทราบความเสียหายผมคงต้องเอารถเข้าไปถวายเจ้าหน้าที่และทิ้งรถไว้ให้ช่างรื้อโน่นรื้อนี่ถอดโน่นถอดนี่เข้าๆออกๆไม่รู้กี่ครั้งสตาร์ทรถผมทิ้งให้เดินเบาไว้ 3 วัน 2 คืนเพื่อตรวจสอบค่าความร้อน เหอะๆ นี่แค่คิดก็เครียดแล้วครับ ตรงกันข้ามทำไม MMTH ไม่คิดจะเข้าไปตรวจสอบศูนย์บริการบ้างว่าทำอะไรกันอยู่ หรือทั้ง MMTH ทั้งศูนย์บริการต่างรับทราบพฤติกรรมกันดีอยู่แล้วและรวมหัวกันรู้เห็นเป็นใจช่วยกันปกปิดสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกค้าที่เชื่อมั่นในสินค้าของคุณจนยอมจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อซื้อบริการหลังการขายที่ไม่มีเสียยังจะดีซะกว่า???
-
อำลาศูนย์ดีมั้ยเนี่ยผม ไปหาอู่แบบไว้ใจทาง วางใจอู่ดีกว่ามั้ยเนี่ย
เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นประจำจนเป็นเรื่องธรรมดาของรถทุกยี่ห้อครับ จะเจ้าตลาด หรือยุโรปราคาแพงก็มีหมดครับ แต่ผมเชื่อว่าศูนย์บริการที่ดีก็ยังมีอีกเยอะครับ ... ไม่อยากให้ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นกันทั้งบ่อ ... อยู่ที่เราเลือกศูนย์บริการไหนที่จะใช้บริการ และตัวเราเองตรวจสอบการทำงานของศูนย์มากน้อยแค่ไหน ไม่ต้องถึงขนาดยืนเฝ้าตลอดเวลา (แบบผม) หรอกครับ ... แค่ตรวจสอบในเอกสารให้ถูกต้อง รวมถึงขอ "ซาก" กลับทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง แกลลอน หรืออะไหล่ ควรขอให้เก็บไว้ให้เราทัังหมดครับ ขนเอากลับมาทิ่งที่บ้านก็ได้ ถ้าเป็นอะไหล่ ผมก็เอาไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมานิดหน่อยเอาไปหยอดตู้ทำบุญวัดก็ยังดีครับ
ผมมั่นใจว่าขบวนการที่ทำแบบนี้เขาเลือกคนครับ เขาไม่ทำกับคนทุกคน ดังนั้นถ้าเราทำตัวให้เขารู้สึกเสี่ยงที่จะทำแบบนี้กับเรา เขาก็จะไม่ทำครับ แต่ถ้าเราเกิดมีลักษณะเหมือนเป้าหมายเขา ... งานนี้คงไม่รอดครับ
ตลอดเวลาที่ใช้รถมา ผมใช้รถ Honda ตลอดมา มีเหตุผลเดียวครับ คือเจ้าของศูนย์บริการเป็นเพื่อนกัน และเจ้าเพื่อนนี่มันดันดูแลฝ่ายช่างโดยตรง คือไม่เหมือนเจ้าของศูนย์ทั่วๆไปที่ดูแต่การบริหาร แต่เจ้าเพื่อนผมนี่มันจะมานั่งทำตัวเป็นพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า รับรถลูกค้าเองด้วยบางที และดูแลเรื่องการเบิกของจากฝ่ายอะไหล่เอง การที่เจ้าของศูนย์ลงมาดูในรายละเอียดแบบนี้ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดได้ยากครับ ช่างเก๋าๆมาจากที่อื่น มาอยู่ที่นี่มักอยู่ไม่นาน เพราะของกินมีน้อย ช่องไม่เปิด หนีไปหาที่อื่นที่มีรูรั่วเยอะๆดีกว่า ดังนั้นตลอดเวลาที่ใช้ Honda เจ้าเพื่อนผมจะดูแลให้อย่างใกล้ชิดครับ รวมถึงพนักงานทุกคนก็รู้ว่าผมรู้จักเจ้าของ การจะทำอะไรกับรถผมคงต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ผมจึงสามารถไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง เอารถไปจอดไม่เคยเฝ้าดูช่างทำงาน แต่การขออะไหล่ทุกอย่างกลับติดมาเป็นนิสัยตั้งแต่ดูแลรถให้พ่อให้แม่สมัยวัยรุ่น
เมื่อเปลี่ยนมาใช้มิตซู เรียกได้ว่าน้องปานี่เป็นคันแรกที่ออกจากศูนย์ที่ไว้ใจได้อย่าง Honda มาเป็นศูนย์มิตซู ที่ผมไม่รู้จักใครเลย เดชะบุญที่ศูนย์มิตซูที่ผมใช้บริการเป็นศูนย์เล็กๆ ไม่เคร่งครัดในเรื่องกฎที่ห้ามลูกค้าเข้าไปดูช่างทำงาน ดังนั้นทุกครั้งที่เอารถเข้าไป ผมก็จะไปยืนดูช่างทำงาน ดูจนรู้จักช่างทุกคน ซื้อขนมเลี้ยงบ้าง น้ำเลี้ยงบ้าง จนพาไปเลี้ยงข้าวก็มี จนเดี๋ยวนี้ศูนย์นี้เริ่มจะเคร่งครัดเรื่องกฎมากขึ้น แต่ผมก็ยังได้รับการยกเว้น ผู้จัดการศูนย์มีเดินมามองบ้าง แต่ไม่เคยไล่เวลาผมเข้าไปในส่วนการทำงานของช่าง ... ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกครับว่าศูนย์ที่ผมใช้บริการอยู่จะมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยหรือไม่ ผมเพียงแต่ทำให้พนักงานศูนย์รู้สึกว่าเสี่ยงที่จะมาทำแบบนี้กับผมแค่นั้นเอง
สุดท้ายคงหวังพึ่งใครไม่ได้ครับ คงต้องช่วยตัวเอง ที่หวังพึ่งได้ก็คงมีแค่ข้อมูลต่างๆที่พี่ๆทุกท่านในบ้านปามาเนียแห่งนี้เอามาแชร์กัน ให้รับรู้ข้อมูลเพื่อระมัดระวังด้วยตัวเองละครับ
:sd23: :sd23:
-
ส่วนดรื่องน้ำมันเกียร์ ผมลองคิดดูนะครับ ส่วนตัวที่เคยทำงานแนวนี้มาก่อนกับรถยี่ห้อนึง มันจะแบ่งระยะที่เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออก เป็น 2ระยะ
1. ถ้าเกิดเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ แบบธรรมดา. คือ ถ่ายน้ำมันเกียร์ที่อ่างเกียร์ และหม้อทอร์ค คอนเวอเตอร์ ก็จะใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์อยู่ 4-5 ลิตร
2. ถ้าเกิดเปลี่ยนน้ำมำนเกียร์ แบบ full. คือ เปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ ยางอ่างเกียร์ โอริงชุดวาล์วบอดี้(สมองเกียร์ ) คือต้องถอดกรอง + ชุดสมองเกียร์ออกมา ก็จะใช้ปริมาณน้ำมันเกียร์อยู่ 7-8 ลิตร ครับ อันนี้จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ แต่ผมไม่แน่ใจเกี่ยวกับศูนย์นี้ครับ :sd23: :sd23: เพราะว่าลูกค้าจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเปลี่ยนจริงไหมบางทีอาจจะเปลี่ยนแค่ยางอ่างเกียร์เนื่องจากได้อายุการใช้งานแล้วมันจะแข็งทำให้น้ำมันรั่ว ก็อาจจะมักง่ายหรือขี้เกียจถอดกรอง ถอดสมองเกียร์ ก็จะใช้นำ้มันเกียร์แค่ 4-5-6 ลิตร ที่เหลืออีก 2-3 ลิตรก็........................ :sd06:
อีก 2-3 ลิตรมันระเหยไปใช่ปะพี่เอิร์ท :sd42: :sd42:
-
:sd42: ขอบคุณคับพี่ตาม คับ.
:sd42: :sd42: ผมคงเป็นเป้าหมายของเค้าตามที่พี่บอกเลยอ่ะคับ เดินเข้าไปหาถึงที่เลยคับ. :sd42:
-
:sd42: ขอบคุณคับพี่ตาม คับ.
:sd42: :sd42: ผมคงเป็นเป้าหมายของเค้าตามที่พี่บอกเลยอ่ะคับ เดินเข้าไปหาถึงที่เลยคับ. :sd42:
สุภาษิตจีนกล่าวว่าการเดินทางไกลหมื่นลี้ย่อมเริ่มต้นจากก้าวแรกเสมอ ผมกันพี่อั๋นเรามาถูกทางแล้วครับ :sd42: :sd42:
-
ผมเลยดึงกระทู้พี่หยกออกทะเลไปไกล :sd23: :sd23:
เมื่อคืนเข้ามาว่าจะมาเพิ่มเติมข้อมูลกรณีน้องปาวาฬป่วยซะหน่อย ดันไปเห็นรูปน้ำมันเกียร์ซะก่อน ... เดี๋ยวขอปั่นงานก่อนครับ เสร็จแล้วจะรีบมาเสริมข้อมูลให้ครับ
:sd23: :sd23:
-
การนำสืบในส่วนนี้ ค่อนข้างยากครับ เพราะจะต้องใช้ผู้ชำนาญการโดยเฉพาะครับ บทสรุปจึงลงเอยที่ ผู้บริโภคตัดปัญหา เสียเวลา ซ่อมเองดีฟ่า :L2754:
กฎหมายไปเอื้อประโยชน์นักลงทุน ทำไมคนไทยมักกลัวกับการขึ้นศาล :L2761:
-
ที่เขียนๆอยู่เนียะ 0 เจ้าปัญหาได้อ่านไหมครับ
-
ลองมองที่ใบกำกับภาษีของพี่หยกดูผมว่ามันมั่วได้ใจ :L2905: สรุปพี่หยกจ่ายเงินสด หรือเครดิตการ์ดครับ :sd42:
-
ผมสงสัยจำเลยอยู่ 2 อย่างระหว่างสเปรย์ทองแดงที่พ่นเคลือบปะเก็นฝาสูบ หรือไม่ก็เป็นคราบตะกรันที่ตกค้างสะสมอยู่ในระบบเป็นเวลานานแรมปีครับพี่ตาม แต่ช่างบอกว่าสีของปะเก็นทองแดงไม่เหมือนสีของน้ำที่ถูกไล่ออกมา เลยไม่รู้ครับว่าตกลงมันคืออะไรกันแน่ :sd06: :sd06:
สงสัยนายพรานกำลังไปตามล่านกเหยี่ยวตัวนั้นฐานทำให้ Error Code โชว์ครับพี่อิฐ :sd42: :sd42:
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ สมัยนี้ความจริงใจและสุจริตใจมันหายากครับ เราต้องดูแลตัวเองและต้องช่วยดูแลกันและกันครับ :L4399: :L4399:
ผมก็คิดว่าคงไม่มีโทษอะไรตามพี่อั๋นว่ามาแหละครับ แค่เล่นละครหาทางลงให้ตัวเองก็แค่นั้น แต่อย่างน้อยพี่ๆก็ทราบแล้วว่า MMTH Call Center ตอบผมมายังไง
เกิดจากตัวบุคคลล้วนๆครับพี่กิต สุจริตหรือทุจริตคนที่ต้องรับผลแห่งการกระทำก็คือลูกค้าผู้ซื่อสัตย์ (ข่าววงในแจ้งว่าถ้าวัดจากประวัติการเข้ารับบริการของศูนย์นี้ผมจะต้องถูกจัดว่าเป็นลูกค้าระดับ A+ เลยด้วยซ้ำครับ แต่ดูเค้าทำกับผมสิครับ!!!)
น่าจะเป็นสนิมในช่องทางเดินน้ำในเสื้อสูบ ที่ลึกๆ มองด้วยตาไม่เห้นครับ มันจะขึ้นตอนที่เราถอดฝาสูบออก อากาศเข้าไปเจอความชื้นผนังเหล็ก อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ผมพบในเครื่องเชียงกง เวลาซื้อมาแล้วมาลงรถต้องรันน้ำทิ้งหลายๆเที่ยวถึงจะใส แล้วค่อยใส่ Coolant เข้าไปครับพี่หยก
-
อ่านเรื่องของพี่อั๋นแล้วของขึ้นเลยครับ :L2740: ผมไม่แปลกใจเลยที่สมาชิกเราต้องมาเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้ที่ศูนย์สาทรแห่งนี้ ตอนที่คุยกันผจก.ฝ่ายบริการเขาบอกเองว่างานเขาเยอะ เขาปฏิเสธลูกค้าไม่ได้ ช่างแต่ละคนเลยต้องทำงานอย่างเร่งรีบวันละอย่างน้อย 4 คันต่อช่าง 1 คน แต่ศูนย์นี้คงได้แต่ยกมือไหว้ลูกค้ากล่าวขอโทษเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขี้นโดยไม่ได้เคยคิดหาทางป้องกันใดๆให้ลูกค้าเลย เพราะความเสียหายต่างๆที่เกิดจากช่างไร้ฝีมือหรือเด็กฝึกงานที่จ้างมาแบบ No Skill นั้นมันสร้างความเสียหายให้กับรถลูกค้าในระยะยาว แต่ผจก.ฝ่ายบริการคงไม่เคยสำเหนียกว่าความเสียหายนั้นไม่ใด้เกิดกับรถของเขาเองหรือรถของคนในครอบครัวเขา ผมเดาว่าผู้บริหารศูนย์นี้คงไม่ได้ขับรถมิตซูหรือไม่ก็คงไม่เข้ามาใช้บริการศูนย์ของตัวเองอย่างแน่นอนเพราะน่าจะรู้ดีว่าลูกน้องตัวเองมีศักยภาพแค่ไหน ทำงานยังไง
ในความเป็นจริง ถ้าศูนย์จะเพิ่มปริมาณรถที่เข้ารับบริการอย่างน้อยก็ควรรักษาระดับมาตรฐานเอาไว้ให้ดี อาจเพิ่มช่าง ทำโอที หรือไม่ก็งดรับรถเพิ่มเมื่อโควต้าช่างเต็มในแต่ละวัน อีกอย่างที่สำคัญอย่างยิ่งคือถ้างานไม่เสร็จในวันเดียวกันก็อย่าเร่งงาน ให้บอกลูกค้าไปตามความเป็นจริง ผมเชื่อว่าลูกค้าส่วนใหญ่ยินดีทิ้งรถไว้ที่ศูนย์เพื่อให้ได้รับบริการอย่างเต็มที่อยู่แล้ว แต่ถ้าเกรงว่ารถจะค้างไปอีกวัน วันรุ่งขึ้นก็จะเสียโควต้ารับรถใหม่คุณขอเก็บค่าแรงเพิ่มก็ได้ ลูกค้าเข้าใจน่าจะยินดีให้ความร่วมมืออยู่แล้ว
ผมบอกตามตรงนะครับ ผมยอมจ่ายแพงเข้าศูนย์นี้เพราะคาดหวังการบริการมาตรฐานแบบมืออาชีพ แต่สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือความหลอกลวง มาตรฐานงานที่ต่ำกว่าอู่ข้างถนน แถมด้วยความไม่รับผิดชอบของผู้จัดการศูนย์ โยนภาระทุกอย่างให้ลูกค้าเกรด A+ แบบผมอย่างหน้าด้านๆ ที่จริงหลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นและได้เข้าไปพูดคุยกับผจก.ศูนย์แล้วผมก็ไม่คาดหวังว่าเขาจะรับผิดชอบอะไรหรอกครับ ฟังจากสไตล์การพูดคุยแล้วยังไงก็ไม่รับผิดชอบ ถึงปากจะบอกว่าไม่ปฏิเสธแต่ในใจคงคิดว่ายังไงก็ไม่รับ ขอให้มันรีบๆออกไปให้พ้นๆก็พอ คงจะคิดอย่างนั้น
ความจริงค่าซ่อมรถผมเบ็ตเสร็จ 30,000 กว่าบาทก็ไม่ได้มากมายอะไร แลกกับชื่อเสียงและความไว้วางใจที่มีมานานและใช้เวลาในการสั่งสมเป็นแรมปี ผมอยากถามว่ามันคุ้มกันไหม? ผจก.อาจคิดว่าอีกไม่นานก็ลาออกอาจะไม่ได้ทำงานที่ศูนย์นี้ตลอดไป แต่เจ้าของธุรกิจหรือแม้แต่สำนักงานใหญ่มิตซูบิชิมอเตอร์ ควรสำเหนียกว่าศรัทธาที่สั่นคลอนสักวันมันก็พังลงได้เหมือนกัน อย่างน้อยถึงรถมิตซูจะยังคงวิ่งอยู่บนท้องถนนต่อไป แต่ศูนย์สาทรของคุณจะยังคงเปิดดำเนินการต่อไปได้อีกนานแค่ไหน นั่นคงเป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์จากสาธารณชนต่อไป ขอให้ศูนย์นี้จงเจริญ (ฮวบๆ) ครับ
:L4399: :L4399: :L4399:
ผจก.ศูนย์สาธร ใช้รถประจำตำแหน่ง PAJERO เหมือนเราครับพี่หยก ตัว 178 HP สีบอร์นเงิน ครับ
-
น่าจะเป็นสนิมในช่องทางเดินน้ำในเสื้อสูบ ที่ลึกๆ มองด้วยตาไม่เห้นครับ มันจะขึ้นตอนที่เราถอดฝาสูบออก อากาศเข้าไปเจอความชื้นผนังเหล็ก อาจเกิดขึ้นได้ครับ
ผมพบในเครื่องเชียงกง เวลาซื้อมาแล้วมาลงรถต้องรันน้ำทิ้งหลายๆเที่ยวถึงจะใส แล้วค่อยใส่ Coolant เข้าไปครับพี่หยก
แต่รถพี่หยก ซื้อ มา ป้าย แดง เข้าระยะบริการตามเงือนไขทุกประการ แมัแตีเปลี่ยนสายพานไทมิ่ง และก็ไม่ได้ยกเครืองเชียงกงมาใส่ ครับ :L2761:
-
ผจก.ศูนย์สาธร ใช้รถประจำตำแหน่ง PAJERO เหมือนเราครับพี่หยก ตัว 178 HP สีบอร์นเงิน ครับ
Case study นี้ของพี่หยกมีปัญหาอย่างอื่นที่พี่นกในฐานะผู้เชี่ยวชาญจะช่วยตอบช่วยแก้ปัญหาได้อีกตั้งเยอะนะครับ เข้ามาทั้งที.....:sd06:
-
ขอขอบคุณพี่หยกสำหรับการแชร์ข้อมูลแบบละเอียด เพื่อให้สมาชิกทุกท่านได้ตระหนักเวลานำรถไปเข้ารับการบริการจากศูนย์บริการต่างๆและเป็นแนวทางสำหรับคนที่ใช้รถและห่วงใยรถตัวเอง ผมมักพูดแซวเสมอว่า " รถดีๆเอาไปเข้าศูนย์ทำไมกัน " หรือ " มีศูนย์ไว้ถ่ายนำมันเครื่องและเช็คตามระยะก็พอ " เพราะช่างดีๆเก่งๆมักออกไปเปิดอู่ทำกันเองหมดแล้ว ;)
ศูนย์บริการจะต่างจากอู่นอกตรงที่มีเครื่องมือพร้อม มีเครื่องวัดที่แน่นอน มีอะไหล่ที่แท้ แต่อาจจะมีช่างจบใหม่ๆที่มาวนเพื่อศึกษางานหรือทำตามคู่มือในระยะซ่อมบำรุง ช่างเก่าๆเก๋าๆก็ค้าจ้างแพงสุดท้ายอยู่ไม่สะดวกก็มีขยับขยายตัวออกไป หรือมีการขยายสาขา หรือขึ้นเป็นเทนเนอร์ และศูนย์ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานการบริการที่ดีที่น่าไว้ใจและซื่อสัตย์ต่อผู้รับบริการและมีจรรยาบรรณที่ดีในการให้บริการ แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่บ้างที่ชอบทุจริตต่อนายจ้างเป็นทีมงานหรือขบวนการ ผมเชื่อว่าไม่มีนายจ้างคนใดที่ตั้งใจดำเนินธุรกิจแบบเอาเปรียบและหลอกลวงลูกค้าอย่างแน่นอน จะมีก็พวกที่นายจ้างจ้างมาบริหารจ้างมาควบคุม จ้างมาช่วยดำเนินการ จนคนเหล่านั้นเห็นช่องทางหารายได้ซ้อนในธุรกิจของนายจ้างแบบนี้คงกล่าวไม่ผิดว่า ทุจริตต่ออาชีพตนเองและความรู้ตนเองที่มีอยู่ คนพวกนี้อยู่ไม่นานมักจะมีอันเป็นไปจนต้องไปหาเปิดช่องทางทำมาหากินกันเองและอาจจะเอาเรื่องราวต่างๆที่ฟังดูน่าเห็นใจมาบอกกล่าวต่อลูกค้าใหม่หรือการสร้างโอกาสการขายใหม่ให้กับลูกค้า จริงแล้วอยากจะอวยพรให้คนพวกนี้ได้มีลูกน้องที่นิสัยเหมือนเขาเข้าทำงานกับเขาเยอะๆ วันนั้นมาถึงเขาจะเข้าใจความรู้สึกของนายจ้างได้ดี แต่ถ้าเขาระวังตัวมากเกินไปก็คงจะไม่ค่อยสุขสบายนักในงานบริหารหรือโอกาสการขยายสาขาเพราะไม่ไวใจใครนอกจากตัวเอง เขาถึงบอกว่าจะดูหัวหน้าให้ดูที่ลูกน้องก็พอ เพราะนิสัยและพฤติกรรมของลูกน้องนั้นแหละคือวิญญานของหัวหน้าที่แท้จริง......หาดูได้ง่ายมากๆ ยิ่งคำพูดหรือเหตุการณ์เหล่านี้โปรดพึ่งระวัง
- ช่างส่งหรือแนบนามบัตรให้ทุกครั้งที่เอารถเข้าศูนย์ เพื่อแนะนำศูนย์นอกเก่งๆ
- มีการโน้มน้าวลูกค้าด้วยอะไหล่แท้จากศูนย์ราคาถูกกว่าหรือส่วนลดมากกว่า
- มีช่างจากศูนย์มาทำให้ แต่ต้องนัดล่วงหน้า
- มีเครื่องมือพิเศษในการตรวจเช็ค แต่ต้องเป็นวันหยุด
- ทางเราจะดูแลให้ดีกว่า ศูนย์บริการ อย่างแน่นอนเพราะช่างเราเคยอยู่ศูนย์กันมาก่อน
ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ชอบความได้เปรียบ ไม่ชอบเสียโอกาสและเห็นแก่ตัว เจอคำพูดแนวๆนี้มักคล้อยตามและสนใจเป็นธรรมดา แต่สิ่งเหล่านี้ที่พูดมานั้นก็มีทางอื่นเช่นกันที่จัดหามาได้
กรณีของสมาชิกท่านอื่นๆที่ได้รับการบริการผ่านตัวแทนที่มิตซูแต่งตั้งคือศูนย์บริการมานั้น สามารถมารีวิวในมุมของลูกค้าที่คาดหวังจากการบริการของศูนย์ได้เช่นกัน ฉะนั้นความคิดเห็นต่างๆในมุมมองลูกค้าคือ feedback การบริการที่เราได้รับ จะพอใจหรือไม่พอใจพูดได้เต็มที่ หรือสถานที่ดีแต่เราก็ยังมีความรู้สึกว่าไม่ใช่ก็เป็นมุมของลูกค้าอีก ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ทางศูนย์ฯจะต้องหาวิธีและแนวทางใหม่ๆมารองรับลูกค้าให้ได้
ความพอใจของลูกค้าไม่ได้อยู่ที่ว่าอาหารดี สถานที่สะอาด บรรยากาศ Hiso เสมอไป เก้าอี้พลาสติกตัวเดียวกับมุมนั่งรอพร้อมตู้น้ำเย็นแบบกด ก็สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าอยากกลับมาใช้บริการและแนะนำเพื่อนๆแบบปากต่อปากได้เช่นกัน ฉะนั้นความพอใจของลูกค้าคือความรู้สึกต่อการบริการที่ได้รับบริการจากผู้ให้บริการมากกว่าบรรยากาศศูนย์บริการที่ถูกสร้างขึ้นครับ
คนจะเข้าศูนย์คือคนมีปัญหาหรือคนที่เข้าตามระยะ ความคาดหวังคือจบและเสร็จรวมถึงเรียบร้อย
* เสร็จและเรียบร้อย = 0 ........................... เสมอตัวเพราะคาดหวังว่าต้องเรียบร้อย
* เสร็จและเรียบร้อย+ชอบใจ = 0+1 ........................... ชอบและพอใจ งานบริการ
* เสร็จและเรียบร้อย+ชอบใจ + ประทับใจ = 0+1+1 ...........................ชอบจนประทับใจกับ งานบริการ
* เสร็จแต่อาจจะไม่เรียบร้อย +ชอบใจ + ประทับใจ = (-1)+1+1 ...........................รู้สึกดีกับการบริการและการใส่ใจในปัญหา
* ไม่เสร็จ ไม่เรียบร้อย + ไม่เข้าใจและไม่พอใจ = ติดลบจนอารมณ์โกรธแสดงออกมา กับการตอบสนองจากการให้บริการ
* ไม่เสร็จ ไม่เรียบร้อย + แต่เข้าใจและชอบใจ = ตระหนัก ใส่ใจ ว่าได้รับการบริการที่ดีจากผู้ให้บริการ
สรุปแล้วจะพบว่างานบริการไม่จำเป็นต้องเก่งเรื่องงานแต่ควรเก่งเรื่องการให้เพิ่มขึ้นด้วย เช่น
- การเอาความรู้สึกของลูกค้ามาใส่ใจเรา
- การที่ควรรู้ว่าลูกค้าคาดหวังอะไร
- การให้เหตุและผล สำหรับการจะแก้ปัญหาและสรุปวิธีแก้ปัญหา
- การบริการเหนือความคาดหมาย
สิ่งพวกนี้ไม่มีต้นทุนบริการ หากมีอยู่ในตัวพนักงานบริการทุกคนในที่นั้นแล้ว งานบริการจะได้เหนือความคาดหมายแบบไม่ต้องแสร้งทำอย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้สำหรับเคสพี่หยกและพี่อั๋นนั้นคงเป็นแนวทางและข้อเตือนใจสำหรับสมาชิกได้ดี ทุกครั้งก่อนออกจากศูนย์ช่วยตรวจสอบและทำความเข้าใจกับใบเสร็จให้ครบว่าอะไรอยู่ตรงไหน คืออะไร ใช้มากน้อยเท่าไหร่ จำเป็นต้องใช่ไหมและใช้จริงหรือเปล่า ?
* พับ บาร์ มักคิดราคาเกินในบิลเช่นพวก น้ำอัดลม โซดา น้ำแข็ง ดิงค์ และกับแกล้ม
* ร้านอาหาร มักคิดราคาเกินในบิลเช่นพวก น้ำอัดลม น้ำแข็ง ไข่ดาว
* ศูนย์บริการบางแห่ง ก็ไม่น้อยหน้า มักมีราคาติดมาในบิลเช่น น้ำกลั่น 2 ขวด น้ำมันหัวเชื้อ น้ำยาล้าง
(ของแบบนี้มักเลือกที่จะทำ แม้แต่เจ้าแมวป่าผมยังแอบโดนน้ำกลั่น 2 ขวด ทั้งที่รถผมแบตแห้ง ดันเลี่ยงตอบว่าเอาไปเติมหม้อน้ำสำรอง ผมบอกหม้อน้ำผมใช้น้ำก็อกคุณเอาน้ำกลั่นไปเติม แล้วค่าความเป็นกรดด่างในระบบระบายความร้อนผมมีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้ของเหลวผิดประเภท หากไม่อยากเสี่ยงกับปัญหาลูกค้าอย่างผม ช่วยถ่ายระบบน้ำหล่อเย็นทิ้งให้หมดและเติมให้ผมใหม่ด้วย หวังว่าราคาน้ำหล่อเย็นทั้งระบบคงไม่แพงไปกว่าต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ๆนะ)
เพื่อเป็นแนวทางนะครับ
:L2758:
-
จะกลายเป็นกระทู้ Hot ไปซะละมั้งนี่ :L2754: :L2754: :L2740: :L2740:
-
จะกลายเป็นกระทู้ Hot ไปซะละมั้งนี่ :L2754: :L2754: :L2740: :L2740:
ผมยังไม่ได้จุดไฟเลยนะ ;)
-
ขอกลับมาเรื่องอาการของน้องปาวาฬของพี่หยกกันซักนิดนะครับ
ตอนที่1 ปาวาฬไข้ขึ้น
อย่างที่พี่หยกได้เขียนไว้ตอนต้น ผมได้รับแจ้งจากพี่หยกว่ารถมีอาการความร้อนขึ้น แต่ยังไม่ Overheat แค่ขึ้นสูงกว่าปกติมาก โดยพี่หยกแจ้งว่าความร้อนประมาณ 102 องศา เมื่อวิ่งในเมืองในระดับความเร็วกลาง ตอนนั้นพี่หยกจอดรถอยู่ ผมจึงขอให้พี่หยกตรวจสอบเบื้องต้นได้ข้อมูลมาดังนี้
1. ยังไม่สามารถตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำได้ เพราะความร้อนยังสูงอยู่
2. ตรวจรอยรั่วตามทางเดินน้ำ และรอยหยดของน้ำ ไม่พบเห็นการหยดของน้ำ - แสดงว่าไม่มีการรั่วซึมของน้ำออกจากระบบ
3. ตรวจระดับน้ำในหม้อพักน้ำ พบว่าน้ำอยู่ในระดับปกติ แต่พบร่องรอยเหมือนมีน้ำล้นออกจากท่อน้ำล้นของหม้อพัก เห็นรอยน้ำหยดบริเวณใต้ท่อน้ำล้น
ผมสอบถามข้อมูลจากพี่หยกเพิ่มเติมว่าได้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำหรือไม่ ได้รับแจ้งว่ามีการเปลี่ยนปั๊มน้ำเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน หลังจากนั้นไม่ได้ทำอะไรกับรถอีกเลย และอาการความร้อนที่ขึ้นก็เพิ่งเริ่มเป็นได้ไม่นาน ไม่ได้เป็นตั้งแต่ออกจากศูนย์
จากข้อมูลที่ได้ผมวิเคราะห์สาเหตุในใจไว้ดังนี้
1. ความร้อนขึ้นสูงเพราะไม่ไล่อากาศออกจากระบบให้หมดตอนเปลี่ยนปั๊มน้ำ - สาเหตุนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเปลี่ยนมา 2 เดือนแล้ว ถ้าความร้อนจะขึ้นเพราะสาเหตุนี้คงต้องขึ้นตั้งแต่ออกจากศูนย์แล้ว ดังนั้นไม่น่าจะเกิดจากการมีอากาศค้างอยู่ในระบบ
2. ความร้อนขึ้นสูงเพราะวาล์วน้ำเปิดไม่สุด - สาเหตุนี้มีความเป็นไปได้ และทดสอบยาก เพราะถ้าจะดูว่าวาล์วน้ำเปิดสุดหรือไม่ต้องดูตอนเดินเบาว่าความร้อนเดินเบาอยู่ที่เท่าไหร่ (ปกติต้องอยู่ประมาณช่วง 84-86 เพราะวาล์วน้ำเปิดที่ 82) แต่พี่หยกรถความร้อนขึ้นไปแล้ว จึงทดสอบไม่ได้ ต้องรอเครื่องเย็นลงก่อน
จริงๆ เหตุหลักๆของน้องปาที่ความร้อนจะขึ้นน่าจะมาจาก 2 สาเหตุนี้ นอกจากนั้นก็มีเรื่องของการอุดตันในทางเดินน้ำ หรือหม้อน้ำ ซึ่งตรวจสอบยาก และจริงๆรถไม่ได้เก่าถึงขนาดจะมีอาการหม้อน้ำตันได้ และผมรู้สึกเอะใจในเรื่องรอยของน้ำที่ล้นออกที่หม้อพัก แสดงว่าน้ำถูกดันออกจากหม้อน้ำไหลไปทางท่อน้ำล้น จนเต็มหม้อพักแล้วไหลล้นออกไป ซึ่งเป็นอาการที่น้องปาผมไม่เคยเจอ ขนาดว่าตัวร้อนๆยังไม่เคยเจอขนาดนี้ แรงดันอะไร มาจากไหน ถึงดันน้ำให้ล้นออกไปได้นี่คือข้อสงสัย
ผมจึงขอให้พี่หยกพาปาวาฬป่วยมาให้ตรวจสอบกันหน่อย จริงๆที่อยากทดสอบคือเรื่องวาล์วน้ำนะครับ คือจะมาลองไล่อากาศดูอีกซักทีว่ามีอากาศค้างอยู่ในระบบหรือเปล่า วันนั้นพี่หยกนำน้องปาวาฬป่วยเข้าไปที่บ้านพี่โยให้พวกเราลองวิเคราะห์ดู วันนั้นหลังจากประชุมกันเสร็จก็ชวนกันไปดูน้องปาวาฬ อันดับแรกก็เปิดฝาหม้อน้ำ สิ่งที่เจอคือน้ำหายไป เลยเอาน้ำเติมลงไปก่อน เติมลงไปได้ประมาณ .75ลิตร หมายความว่าน้ำหายไปเกือบลิตร ก็ไม่แปลกที่ความร้อนจะขึ้นเพราะน้ำหายไปขนาดนั้น จากนั้นก็สตาร์ทรถเพื่อลองไล่อากาศ นี่คือ VDO ที่ถ่ายไว้คืนนั้น (กบว. ขออนุญาติ Censor เสียงนะครับ)
http://www.youtube.com/watch?v=9MKjyt97xpw
จากที่ตรวจสอบดูกันกับพี่ๆหลายๆคนช่วยกันดู สิ่งปกติแรกที่พบเลยคือตัวน้ำยาหม้อน้ำ พอเปิดฝาหม้อน้ำออกมาปุ๊บทุกคนงงหมดว่าทำไมน้ำยาหม้อน้ำเป็นสีนี้ นี่ไม่ใช่สีของน้ำยาหม้อน้ำแท้ที่ปกติศูนย์บริการจะเติมให้ลูกค้า (เหมือนที่พี่หยกเขียนเปรียบเทียบไว้ให้แล้วนะครับ)
ความผิดปกติที่ 2 จากที่เห็นใน VDO จะเห็นว่ามีอากาศออกมาจากระบบน้ำตลอดเวลา และน้ำถูกดันให้ค่อยล้นออกมาตลอดเวลาเช่นเดียวกันตั้งแต่ความร้อนยังไม่ได้ระดับที่วาล์วน้ำจะเปิด (82) ฟองอากาศก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง สังเกตุช่วงท้ายๆของคลิบนะครับ ฟองอากาศออกมาจากระบบน้ำเยอะมาก เป็นฟองเล็กๆละเอียดๆ ออกมาเยอะเหมือนน้ำเดือดเลย ทั้งๆที่อุณหภูมิของน้ำอยู่แค่ 80 กว่าองศาเท่าน้น
เดี๋ยวมาต่อนะครับ ขอไปปั่นงานแป๊บ
-
:L2740: :L2740: :L2740: :L2740: :L2740:
-
มาต่อกันครับ
ตอนที่2 หมออนามัยดูอาการ
หลังจากทดสอบพบฟองอากาศออกมาจากระบบน้ำจำนวนมาก ก็มานั่งคิดว่าเกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง อาการนี้มีส่วนคล้ายอาการที่เรียกว่า "น้ำดัน" ซึ่งจริงๆไม่ใช่น้ำที่ดัน แต่เป็นอากาศที่ดันน้ำออกมา ซึ่งสามารถมาได้จาก 2 สาเหตุหลักคือ ประเก็นฝาสูบแลบ หรือฝาสูบโก่ง ซึ่งทั้ง 2 สาเหตุมีผลอย่างเดียวกันคือ ทำให้น้ำสามารถลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ (กระบอกสูบ) ได้ และขณะเดียวกันแรงอัดอันมหาศาลในห้องเผาไหม้ก็สามารถอัดอากาศให้ลอดออกมาได้เ่ช่นเดียวกัน อาการนี้หากทิ้งไว้นาน น้ำจะค่อยๆหายไปจากที่ลอดเข้าไปในห้องเผาไหม้ และที่ถูกดันให้ไปล้นที่หม้อพัก เมื่อน้ำเหลือน้อยลงระดับหนึ่งจะไม่สามารถระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ทัน ทำให้เกิดอาการ Overheat ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงอุปกรณ์อีกหลายอย่างที่จะเสียหายเนื่องมาจากความร้อนที่ขึ้นสูงเกินไป
ดังนั้นในวันนั้นเราสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากประเก็นฝาสูบ และมีโอกาสไม่มากที่ฝาสูบจะโก่งเนื่องจากรถยังไม่เคย Overheat ก่อนแยกย้ายจากกันที่บ้านพี่โย พี่อ้วนแจ้งว่าวันรุ่งขึ้นหมออนามัยมีภารกิจตรวจสุขภาพที่ร้านพี่ป๊อบ จึงแนะนำว่าให้พี่หยกลองเอาไปให้หมออนามัยตรวจดูก่อน เพราะเป็นวันอาทิตย์โรงพยาบาล (ศูนย์บริการ) ปิด
หลังจากกลับมาผมเข้าไปหาข้อมูลใน Internet พบว่าถ้ามองจากมุมเฉพาะน้ำที่ล้นออกมา โดยไม่คิดถึงฟองอากาศ การที่น้ำล้นออกมาก็มีโอกาสเป็นไปได้ 2 สาเหตุคือ หม้อน้ำตัน (หรือทางเดินน้ำจุดใดจุดหนึ่งตัน) และวาล์วน้ำไม่เปิด หรือเปิดไม่เต็มที่ ทั้ง 2 สาเหตุมีผลทำให้น้ำเดินทางไม่สะดวก และเมื่อเกิดแรงดันมากขึ้นจากความร้อนที่น้ำได้รับมาจากเครื่องก็มีโอกาสที่น้ำจะอั้น และล้นออกมาทางฝาหม้อน้ำได้ .... ผมวิเคราะห์เองว่าแค่มีโอกาส แต่ไม่มากนัก เพราะทั้ง 2 สาเหตุจะต้องแสดงอาการตั้งแต่ความร้อนตอนเดินเบา เพราะถ้าน้ำเดินทางไม่สะดวก มันต้องไม่สะดวกตลอด จะทำให้ตอนเดินเบาความร้อนสูงกว่าปกติ เหมือนตอนที่น้องปาหนูขาวผมวาล์วน้ำเปิดไม่สุด ก็แสดงอาการออกความร้อนสูงตอนเดินเบา
วันรุ่งขึ้นพี่หยกก็แวะไปที่ร้านพี่ป๊อบให้หมออนามัยตรวจดูเบื้องต้น หมออนามัยลงความเห็นว่าน่าจะมาจากประเก็นฝาสูบเช่นกัน ผมได้คุยกะหมออนามัยทางโทรศัพท์ ลองเสนอไอเดียว่าปัญหาอาจเกิดจากหม้อน้ำตัน หรือวาล์วน้ำเปิดไม่สุด ซึ่งหมออนามัยก็บอกว่ามีโอกาสเป็นไปได้ แต่ไม่มากเพราะมีฟองอากาศออกมาด้วย ถ้ามาจาก 2 สาเหตุนั้นไม่ควรมีฟองอากาศ ควรจะมีแค่อาการน้ำล้นออกมาเฉยๆ และหมออนามัยได้แนะนำให้พี่หยกพาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลเพื่อตรวจอย่างเต็มระบบซะก่อนจะดีกว่า ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นพี่หยกก็จะพาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลประจำย่านสาทรต่อไป
-
ตอนที่3 Second Opinion
วันถัดมาพี่หยกคงเอาน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลตามที่ได้คุยกันไว้ ผมได้รับแจ้งอีกทีตอนช่วงบ่ายๆ พี่หยกแจ้งว่าหมอที่โรงพยาบาลดังย่านสาทรตรวจสอบแล้วแจ้งว่าไม่พบสิ่งผิดปกติในน้องปาวาฬ ให้นำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลได้ และพี่หยกแจ้งว่าได้แจ้งอาการฟองอากาศผุดขึ้นจากหม้อน้ำให้หมอฟังแล้ว แต่หมอก็ยืนยันว่าปกติ พี่หยกจึงนำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลก่อน
วันนั้นหลังจากผมได้รับแจ้งข่าวจากพี่หยก ผมก็สงสัยทันทีว่าระดับหมอโรงพยาบาลจะบอกว่าอาการแบบนี้ปกติได้อีกหรือ ด้วยความอยากรู้ และพอดีต้องเดินทางผ่านอีกโรงพยาบาลนึง ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ผมพาน้องปาหนูขาวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ จึงแวะเข้าไป ตอนแรกที่เข้าไป ไปเจอกับฝ่ายอะไหล่ก่อนเลยยืนคุยกัน ผมเลยเอาคลิบที่ถ่ายไว้ (ที่โชว์อยู่ในกระทู้ก่อนหน้านี้) ให้ฝ่ายอะไหล่ดู คำถามคำแรกที่ฝ่ายอะไหล่ถามผมกลับมาคือ "เปิดฝาสูบหรือยัง" :L2739: :L2739: :L2739:
ขนาดยังไม่ถึงมือหมอ และยังไม่ได้เล่าอาการให้ฟัง แค่เห็นคลิบ ฝ่ายอะไหล่ยังสรุปได้คร่าวและถามกลับมาแบบนี้ จากนั้นจึงเดินไปถามหมอโรงพยาบาลนี้ดูบ้าง เหมือนเดิมครับ เอาคลิบให้ดู หมอโรงพยาบาลนี้แจ้งเช่นเดียวกับหมออนามัยว่า โอกาสมากที่สุดน่าจะเกิดจากประเก็นฝาสูบ สำหรับวาล์วน้ำหรือหม้อน้ำตันนั้นมีโอกาสบ้างแต่ไม่มากนัก ผมถามต่อว่าถ้านำมาเข้าโรงพยาบาลนี้หมอจะดำเนินการอย่างไร หมอแจ้งว่าคงต้องเปิดเช็ควาล์วน้ำก่อน จากนั้นคงต้องขอเปิดฝาสูบเพื่อตรวจสอบประเก็นฝาสูบว่ามีอาการน้ำข้ามประเก็นหรือไม่
หมออนามัยและหมอโรงพยาบาลดังย่านราชพฤกษ์เห็นตรงกัน และอีก 1 เสียงคือพี่ป๊อบ ผมได้คุยกับพี่ป๊อบเกี่ยวกับอาการรถพี่หยก พี่ป๊อบก็ยืนยันว่าจากประสบการณ์น่าจะมาจากประเก็นฝาสูบเช่นกัน เป็นว่า 3 เสียงเห็นตรงกัน มีเพียงหมอโรงพยาบาลดังย่านสาทรเท่านั้นที่เห็นต่าง
พี่หยกแจ้งว่าจะนำน้องปาวาฬกลับเข้าโรงพยาบาลดังย่านสาทรให้ตรวจสอบอีกครั้ง สำหรับคราวนี้ทิ้งน้องปาวาฬไว้ที่โรงพยาบาล 1 คืน เพื่อให้ตรวจสอบได้อย่างละเอียด
-
ตอนที่4 วัดฝีมือกับหมอโรงพยาบาล
จากวันที่พี่หยกนำน้องปาวาฬเข้าโรงพยาบาลรอบที่2 ผมได้รับแจ้งจากพี่หยกว่าโรงพยาบาลยังยืนยันว่าไม่พบอาการผิดปกติของน้องปาวาฬ ไม่พบอาการความร้อนขึ้นสูง และได้ทำการไล่อากาศออกจากระบบหมดแล้ว ให้พี่หยกมารับน้องปาวาฬกลับบ้านได้ คราวนี้พี่หยกอยากให้ผมเข้าไปด้วย เพื่อไปคุยกับหมอโรงพยาบาลนี้ด้วยกัน พอดีกับช่วงเช้าวันนั้นผมมีประชุมอยู่แถวสุขุมวิทพอดี เลยรับปากว่าประชุมเสร็จจะรีบไปหาพี่หยก นัดการที่หน้าโรงพยาบาล
เมื่อผมไปถึง เจอพี่หยกอยู่ที่หน้าโรงพยาบาล พ่อเจ้าปาวาฬหน้าตาเคร่งเครียดทีเดียว เราก็ชวนกันเข้าไปข้างใน ภาพแรกที่เห็นคือเห็นเจ้าปาวาฬนอนสงบอยู่ในช่องรอรับออกจากโรงพยาบาล เราก็เข้าไปติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าก่อนเลย ดูท่าแล้วฝ่ายบริการลูกค้านี้รู้จักกับพี่หยกเป็นอย่างดี เห็นทักทายกันเป็นอย่างดี ฝ่ายบริการลูกค้าแจ้งว่าหมอได้ตรวจสอบน้องปาวาฬแล้วไม่พบอะไรผิดปกติ หมอได้นำน้องปาวาฬออกไปวิ่งทดสอบ และจอดสตาร์ททดสอบไว้แล้ว ไม่พบอาการใดๆที่ผิดปกติ ผมเองได้ถามย้ำว่าไม่พบอากาศผุดออกมา และน้ำล้นออกมาจากหม้อน้ำหรือ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่พบอาการใดๆ และหมอได้ไล่อากาศออกจากระบบหมดแล้ว ไม่น่าจะเกิดอาการอีก ผมเลยถามว่าถ้าสตาร์ทน้องปาวาฬตอนนี้จะไม่มีอาการใช่หรือไม่ พนักงานแจ้งว่าใช่ ดังนั้นเราจึงชวนกันไปสตาร์ททดสอบน้องปาวาฬกันว่าจะไม่เจออาการอย่างที่หมอแจ้งพนักงานมาหรือไม่
และนี่คือคลิบที่สตาร์ทน้องปาวาฬทดสอบในครั้งนั้น คลิบนี้จะมีเสียงที่ผมคุยกับหมอโรงพยาบาลดังย่านสาทรด้วยนะครับ ลองรับชมรับฟังกันดู
http://www.youtube.com/watch?v=pF7TVpki_Ik
ในคลิบจะได้ยินเสียงผมถามหมอหลายครั้งว่าอาการฟองอากาศที่ผุดขึ้นมานี้คืออาการปกติของรถปาเจโร่หรือไม่ สังเกตุนะครับว่าหมอจะไม่ตอบคำถามนี้ จะเงียบไม่ตอบใดๆทั้งสิ้น แต่ถ้าเป็นคำถามอื่นจะตอบ หมอโรงพยาบาลคนนี้หน้าตาซื่อๆนะครับ ท่าทางเป็นมิตร แต่ลูกเล่นแพรวพราวใช้ได้ พอเห็นฟองผุดขึ้นเยอะ มีการเอามือไปกดบริเวณปากหม้อน้ำให้ฟองหายไป มีเอามือไปปาดฟองออกบ้างไรบ้าง ผมเองก็สังเกตุเห็น แต่อยากทำก็ทำไปเหอะ ฟองมันไม่หมดไปง่ายๆหรอก ยืนคุยกันไปนานๆ เดี๋ยวมันก็ออกมาอีก
คุยกับหมอมานาน สรุปว่าหมอบอกว่าไม่พบสิ่งผิดปกติในน้องปาวาฬ แต่ไม่ยืนยันว่าอาการฟองผุดขึ้นมาเป็นอาการปกติ ... ฟังแล้วงงมั๊ย :sd42: :sd42: :sd42: ผมจึงบอกว่าถ้าอาการแบบนี้ไม่ผิดปกติ รถคันอื่นที่ไม่มีอะไรผิดปกติก็ต้องเป็นแบบนี้เหมือนกัน เลยขอให้เอาน้องปาคันไหนก็ได้มาสตาร์ทเปรียบเทียบดู หมอทำท่าอึกอักจะไม่ยอมเอาน้องปาคันอื่นมาสตาร์ท ผมเลยบอกว่าถ้างั้นเดี๋ยวผมโทรเรียกมาเอง เดี๋ยวจะเอามาสตาร์ทให้ดูซัก 5-6 คัน หมอโรงพยาบาลเลยรีบออกตัวว่าไม่เป็นไรแล้วก็หาน้องปาที่จอดอยู่มาสตาร์ททดสอบให้ดู
และนี่คือคลิบบันทึกอาการของน้องปาที่เอามาเปรียบเทียบนะครับ ลองดู
http://www.youtube.com/watch?v=HYElbVaNDqM
จะเห็นชัดเจนนะครับว่าไม่มีอาการน้ำที่ล้นออกมา ฟองอากาศมีบ้าง แต่เกิดจากการสั่นของน้ำจากเครื่องที่สั่น ไม่ใช่ฟองอากาศที่ดันออกมาจากภายในเครื่อง และระดับน้ำไม่ได้เพิ่มขึ้นจนล้นออกมาแต่อย่างใด
เมื่อเจอกับอาการที่แตกต่างกันแบบนี้ ผมก็ถามหมอต่อว่า สรุปว่าอาการของน้องปาวาฬปกติหรือไม่ หมอโรงพยาบาลนี้ก็ยังคงไม่ตอบ ผมก็ถามว่าตกลงว่าน้องปาวาฬผิดปกติใช่หรือไม่ คราวนี้ก็ไม่ตอบอีก ยิ้มแล้วอึกอัก คราวนี้เริ่มเอาตัวรอด โดยบอกว่าถ้าพี่หยกยังคิดว่าน้องปาวาฬไม่ปกติก็สามารถทิ้งน้องปาวาฬไว้ หมอจะทดสอบเพิ่มเติมให้ ผมก็เลยถามว่าจะทดสอบอะไร และมีวิธีการอย่างไร และระหว่างที่ทดสอบหากมีความเสียหายเกิดขึ้นในส่วนอื่นใครจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย คราวนี้หมอโรงพยาบาลไม่ตอบละครับ เดินหนีไป จากนั้นก็ไปเรียนเชิญผู้อำนวยการโรงพยาบาลลงมาคุยกับผมแทน
:L2736: :L2736:
-
เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ ขอไปทำงานก่อนละ :L2736: :L2736: :L2901:
-
เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ ขอไปทำงานก่อนละ :L2736: :L2736: :L2901:
ขอบคุณคับพี่ตามคับอ่านตามแล้วเห็นภาพชัดเจนเลยคับ.
:sd30: :sd30: ปรี้ด เลยคับ.
รอชมต่อคับ...... :L2900:
-
มีปัญหาไม่แก้ ทำไม่ได้ ก็บอกว่าเป็นข้อจำกัดเดะ มีนน่าจะโดน...จริงๆๆ ของขึ้น :sd30: :sd07: :sd02:
-
ขอบคุณคนต้นเรื่องทั้งวาฬน้ำเงินของพี่หยก อีกคันของพี่อั๋นครับ เข้าศูนย์บริการครั้งต่อไปต้องละเอียดกว่านี้อีกเยอะเลยครับ เสียดายรถคันเก่าผมมีปัญหาเรื่องความร้อนเหมือนกันวิ่งได้ แสนห้าหมื่นโล นี่ถ้าเจอปามาเนียก่อนนะคงได้มันส์กว่านี้
ปล.ดีใจกับพี่หยกด้วยครับวาฬน้ำเงินกลับมาปกติแล้ว :L2756: :L2753:
-
เรื่องแบบนี้มีเกิดขึ้นประจำจนเป็นเรื่องธรรมดาของรถทุกยี่ห้อครับ จะเจ้าตลาด หรือยุโรปราคาแพงก็มีหมดครับ แต่ผมเชื่อว่าศูนย์บริการที่ดีก็ยังมีอีกเยอะครับ ... ไม่อยากให้ปลาเน่าตัวเดียว เหม็นกันทั้งบ่อ ... อยู่ที่เราเลือกศูนย์บริการไหนที่จะใช้บริการ และตัวเราเองตรวจสอบการทำงานของศูนย์มากน้อยแค่ไหน ไม่ต้องถึงขนาดยืนเฝ้าตลอดเวลา (แบบผม) หรอกครับ ... แค่ตรวจสอบในเอกสารให้ถูกต้อง รวมถึงขอ "ซาก" กลับทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกระป๋อง แกลลอน หรืออะไหล่ ควรขอให้เก็บไว้ให้เราทัังหมดครับ ขนเอากลับมาทิ่งที่บ้านก็ได้ ถ้าเป็นอะไหล่ ผมก็เอาไปขายร้านรับซื้อของเก่า ได้เงินมานิดหน่อยเอาไปหยอดตู้ทำบุญวัดก็ยังดีครับ
ผมมั่นใจว่าขบวนการที่ทำแบบนี้เขาเลือกคนครับ เขาไม่ทำกับคนทุกคน ดังนั้นถ้าเราทำตัวให้เขารู้สึกเสี่ยงที่จะทำแบบนี้กับเรา เขาก็จะไม่ทำครับ แต่ถ้าเราเกิดมีลักษณะเหมือนเป้าหมายเขา ... งานนี้คงไม่รอดครับ
ตลอดเวลาที่ใช้รถมา ผมใช้รถ Honda ตลอดมา มีเหตุผลเดียวครับ คือเจ้าของศูนย์บริการเป็นเพื่อนกัน และเจ้าเพื่อนนี่มันดันดูแลฝ่ายช่างโดยตรง คือไม่เหมือนเจ้าของศูนย์ทั่วๆไปที่ดูแต่การบริหาร แต่เจ้าเพื่อนผมนี่มันจะมานั่งทำตัวเป็นพนักงานฝ่ายบริการลูกค้า รับรถลูกค้าเองด้วยบางที และดูแลเรื่องการเบิกของจากฝ่ายอะไหล่เอง การที่เจ้าของศูนย์ลงมาดูในรายละเอียดแบบนี้ทำให้เรื่องแบบนี้เกิดได้ยากครับ ช่างเก๋าๆมาจากที่อื่น มาอยู่ที่นี่มักอยู่ไม่นาน เพราะของกินมีน้อย ช่องไม่เปิด หนีไปหาที่อื่นที่มีรูรั่วเยอะๆดีกว่า ดังนั้นตลอดเวลาที่ใช้ Honda เจ้าเพื่อนผมจะดูแลให้อย่างใกล้ชิดครับ รวมถึงพนักงานทุกคนก็รู้ว่าผมรู้จักเจ้าของ การจะทำอะไรกับรถผมคงต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี ผมจึงสามารถไว้วางใจได้ในระดับหนึ่ง เอารถไปจอดไม่เคยเฝ้าดูช่างทำงาน แต่การขออะไหล่ทุกอย่างกลับติดมาเป็นนิสัยตั้งแต่ดูแลรถให้พ่อให้แม่สมัยวัยรุ่น
เมื่อเปลี่ยนมาใช้มิตซู เรียกได้ว่าน้องปานี่เป็นคันแรกที่ออกจากศูนย์ที่ไว้ใจได้อย่าง Honda มาเป็นศูนย์มิตซู ที่ผมไม่รู้จักใครเลย เดชะบุญที่ศูนย์มิตซูที่ผมใช้บริการเป็นศูนย์เล็กๆ ไม่เคร่งครัดในเรื่องกฎที่ห้ามลูกค้าเข้าไปดูช่างทำงาน ดังนั้นทุกครั้งที่เอารถเข้าไป ผมก็จะไปยืนดูช่างทำงาน ดูจนรู้จักช่างทุกคน ซื้อขนมเลี้ยงบ้าง น้ำเลี้ยงบ้าง จนพาไปเลี้ยงข้าวก็มี จนเดี๋ยวนี้ศูนย์นี้เริ่มจะเคร่งครัดเรื่องกฎมากขึ้น แต่ผมก็ยังได้รับการยกเว้น ผู้จัดการศูนย์มีเดินมามองบ้าง แต่ไม่เคยไล่เวลาผมเข้าไปในส่วนการทำงานของช่าง ... ผมเองก็ไม่แน่ใจหรอกครับว่าศูนย์ที่ผมใช้บริการอยู่จะมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยหรือไม่ ผมเพียงแต่ทำให้พนักงานศูนย์รู้สึกว่าเสี่ยงที่จะมาทำแบบนี้กับผมแค่นั้นเอง
สุดท้ายคงหวังพึ่งใครไม่ได้ครับ คงต้องช่วยตัวเอง ที่หวังพึ่งได้ก็คงมีแค่ข้อมูลต่างๆที่พี่ๆทุกท่านในบ้านปามาเนียแห่งนี้เอามาแชร์กัน ให้รับรู้ข้อมูลเพื่อระมัดระวังด้วยตัวเองละครับ
:sd23: :sd23:
ขอบพระคุณมากครับพี่ตาม สำหรับความรู้ คำแนะนำ ครับ :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
-
กฎหมายไปเอื้อประโยชน์นักลงทุน ทำไมคนไทยมักกลัวกับการขึ้นศาล :L2761:
พี่เล็กคงลืมดูมาตรานี้ไป พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๙ ประเด็นข้อพิพาทข้อใดจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการผลิตการประกอบ การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า การให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ซึ่งศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ให้ภาระการพิสูจน์ในประเด็นดังกล่าวตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจนั้น
:sd23: :sd23: :sd23:
-
รออ่านต่อครับ
ส่วนตัวแล้วเนื่องจากไม่เคยซื้อรถมือ 1 จึงไม่เคยนำรถเข้าศูนย์เลยสักครั้ง
และคิดว่าช่างศูนย์จะถนัดเปลี่ยนมากกว่าซ่อมครับ
การวิเคราะห์อาการเสียจะสู้ช่างข้างนอกไม่ได้เลย
ส่วนตัวแล้ว จะหาซ่อมอู่นอกที่ไว้ใจได้มากกว่าซ่อมศูนย์ครับ (ถ้าไม่อยู่ในประกันนะครับ)
:L2736: :L2736:
-
:L4365: :L4365: :L2732: :L2732:
-
กฎหมายไปเอื้อประโยชน์นักลงทุน ทำไมคนไทยมักกลัวกับการขึ้นศาล :L2761:
:L4387: ใช่คับ ผมเป็นฝ่ายถูกกระทำคับ. แต่ผมกับผ.บ กลัวการขึ้นศาลคับ.
เนื่องจากไม่รู้กฎหมายคับ. แต่อาศัย ความถูกต้อง ก่อนเลยคับ
เดินเข้าไปคุยกันที่ศูนย์ ก่อนเลยคับ อย่างอื่นค่อยว่ากันคับ. :L2901: :L2901:ฝ
-
ว่าจะไม่เขียนแล้วครับ เพราะ ฟังลูกค้าที่มาล้างรถ มาเล่าให้ฟังหลายเรื่อง เกี่ยวกับ 0 ของรถสารพันยี่ห้อต่างๆ
Benz -- ลืมเติมน้ำมันเครื่อง -- จนเครื่องพัง ขับได้ 60 กิโล.
สาเหตุเกิดจาก --- งานไม่เสร็จ พักเที่ยง -- กลัวอะไรเข้ารูที่เติม นม.เครื่อง จึงปิดฝาเอาไว้ กลับมาเลยลืมเติม.
Camry -- บิดกรองเครื่องไม่แน่น -- จนไหล รั่ว หมด มารู้ตอนที่ นำรถไปล้าง เด็กเห็นน้ำมันเครื่องนองเต็มพื้น
นั่ง Taxi ไปที่ 0 เทพารักษ์ -- เรียกให้ ผจก. 0 ไปดูที่ร้านล้างรถ ห่างไป ประมาณ 10 กิโล.
-- 0 เอารถขึ้นรถลาก กลับไป 0 ตรวจสอบ --- ปรากฎว่า หลังสอบสวน -- พนง. ขันมือเปล่าเข้าไป พอแน่นหรือตึงมือสุดๆ แล้วเดินไปหาตัวขัน แต่ยังหาไม่เจอ
ปรากฎว่า มัวแต่ไปยืนคุย สูบบุหรี่กับเพื่อน จนพักเที่ยง ยาวถึงบ่าย กลับเข้ามา ก็เติม นม.เครื่อง ไปเลย.
Volvo -- ลืมใส่ ก้าน นม.เครื่อง กับ ก้านนม.เกียร์ กว่าจะรู้ 0 โทร. มาบอกว่า ลืมครับ ให้เอารถกลับเข้าไปใส่
แต่เจ้าของรถ บอกให้ 0 มาที่ทำงาน.
Benz Classic --- เอารถไปล้างที่ ซีคอน -- รถไปเฉี่ยวมา -- ร้านล้างรถทำเป็นไม่รู้เรื่อง -- คนที่เอารถไปเฉี่ยวคือ น้องเจ้าของร้าน 5555
เป็นต้นครับ
-
เรื่องของพี่โต้งนี่ทั้งหมดจบได้ในที่เดียวครับ.......เครื่องประหารหัวสุนัข!!!!!!!
-
เรื่องของพี่โต้งนี่ทั้งหมดจบได้ในที่เดียวครับ.......เครื่องประหารหัวสุนัข!!!!!!!
พวกนี้ให้สุนัขกัดตายเลยดีมั้ยครับพี่หยก :L2739: :L4396: :L2901:
-
ว่าจะไม่เขียนแล้วครับ เพราะ ฟังลูกค้าที่มาล้างรถ มาเล่าให้ฟังหลายเรื่อง เกี่ยวกับ 0 ของรถสารพันยี่ห้อต่างๆ
Benz -- ลืมเติมน้ำมันเครื่อง -- จนเครื่องพัง ขับได้ 60 กิโล.
สาเหตุเกิดจาก --- งานไม่เสร็จ พักเที่ยง -- กลัวอะไรเข้ารูที่เติม นม.เครื่อง จึงปิดฝาเอาไว้ กลับมาเลยลืมเติม.
Camry -- บิดกรองเครื่องไม่แน่น -- จนไหล รั่ว หมด มารู้ตอนที่ นำรถไปล้าง เด็กเห็นน้ำมันเครื่องนองเต็มพื้น
นั่ง Taxi ไปที่ 0 เทพารักษ์ -- เรียกให้ ผจก. 0 ไปดูที่ร้านล้างรถ ห่างไป ประมาณ 10 กิโล.
-- 0 เอารถขึ้นรถลาก กลับไป 0 ตรวจสอบ --- ปรากฎว่า หลังสอบสวน -- พนง. ขันมือเปล่าเข้าไป พอแน่นหรือตึงมือสุดๆ แล้วเดินไปหาตัวขัน แต่ยังหาไม่เจอ
ปรากฎว่า มัวแต่ไปยืนคุย สูบบุหรี่กับเพื่อน จนพักเที่ยง ยาวถึงบ่าย กลับเข้ามา ก็เติม นม.เครื่อง ไปเลย.
Volvo -- ลืมใส่ ก้าน นม.เครื่อง กับ ก้านนม.เกียร์ กว่าจะรู้ 0 โทร. มาบอกว่า ลืมครับ ให้เอารถกลับเข้าไปใส่
แต่เจ้าของรถ บอกให้ 0 มาที่ทำงาน.
Benz Classic --- เอารถไปล้างที่ ซีคอน -- รถไปเฉี่ยวมา -- ร้านล้างรถทำเป็นไม่รู้เรื่อง -- คนที่เอารถไปเฉี่ยวคือ น้องเจ้าของร้าน 5555
เป็นต้นครับ
ฟังพี่โต้งแล้ว ผมหลอนๆกับศูนย์ จนสูญสิ้นจริงๆเลยครับ :L4387: :L4391:
-
พวกนี้ให้สุนัขกัดตายเลยดีมั้ยครับพี่หยก :L2739: :L4396: :L2901:
เอางั้นเลยเหรอครับพี่เปี่ยม :L2904: ให้เลือกกัดเฉพาะจุดได้มั๊ย :L2739:
-
พี่เล็กคงลืมดูมาตรานี้ไป พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๙ ประเด็นข้อพิพาทข้อใดจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการผลิตการประกอบ การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า การให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ซึ่งศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ให้ภาระการพิสูจน์ในประเด็นดังกล่าวตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจนั้น
:sd23: :sd23: :sd23:
:L4399: ขอบคุนครับพี่เปี่ยม
-
0 รถ ตั้งใหม่ เหมือนดอกเห็ด คิดง่ายๆว่า จะเอา ช่างมาจากไหนเยอะแยะ
ผจก. 0 ก็เอามาจากไหน ถ้าไม่เลื่อนขึ้นมาจากช่างที่พอมีอายุหน่อย
0 มีหน้าที่เปลี่ยนอย่างเดียว ปัญหาแก้ไม่เป็น ( ไม่รู้ มากหรือน้อย 0 ประเภทนี้ )
เรื่องล้างรถใน 0 หลังใช้ บริการ ( อย่าได้ล้างเด็ดขาดเลย ที่ 0 Autocity ศรีนครินทร์ )
ผจก.ขาย 0 นี้ เป็นลูกค้าประจำ ร้านผม เคยมาทาบทามให้ ไปประมูล ล้างรถที่นั่น เดือนละ 4 หมื่นบาท
ผมถามว่า ถูกจัง อย่างนี้ ก็ต้องล้างแบบ ลวกๆซิ ใครรับผิดชอบ ถ้าโดนด่า สีเป็นรอย ความสะอาด
ผจก. ใช่แค่ ล้างๆ ก็พอ เพราะ ลูกค้ารอนานไม่ได้หลังจาก รับบริการแล้ว
ผมบอกว่า ผมเคยล้างนะ ไม่ได้เรื่องเลย น้ำไหลโขรกเลย ไม่สะอาด ฟองน้ำ 2 ก้อน มือซ้าย มือขวา ล้างตั้งแต่ หลังคา ยัน ล้อ บางที ก้อนเดียว มือเดียว
ผจก. ก็ค่าล้างต่อเดือนมันต่ำ เฉลี่ย พันกว่าบาท ต่อ วัน นโยบายเป็นอย่างนั้น
แต่ถ้า ป้ายแดง เอาไปล้างข้างนอก ของแถม ขัดเคลือบ ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่ น้ำยาก็ตามนั้น รับประกัน 3 -5 ปี แต่ เข้าไปรับบริการ ก็เสีย 400 บาท
โดน ลูกค้า ด่ามาประจำ
ผมบอกว่า -- ไม่ไหวครับ
-
ขอบคุณพี่โต้งที่กรุณาแชร์ข้อมูลครับ :sd23: :sd23: ความรู้ใหม่เลยครับฟังแล้ว :L4391: :L4391:
-
เอางั้นเลยเหรอครับพี่เปี่ยม :L2904: ให้เลือกกัดเฉพาะจุดได้มั๊ย :L2739:
:L4396: :L4396: พูดเล่นครับพี่ ผิดหลักสิทธิมนุษยชนครับ :L4399: :sd23:
-
0 รถ ตั้งใหม่ เหมือนดอกเห็ด คิดง่ายๆว่า จะเอา ช่างมาจากไหนเยอะแยะ
ผจก. 0 ก็เอามาจากไหน ถ้าไม่เลื่อนขึ้นมาจากช่างที่พอมีอายุหน่อย
0 มีหน้าที่เปลี่ยนอย่างเดียว ปัญหาแก้ไม่เป็น ( ไม่รู้ มากหรือน้อย 0 ประเภทนี้ )
เรื่องล้างรถใน 0 หลังใช้ บริการ ( อย่าได้ล้างเด็ดขาดเลย ที่ 0 Autocity ศรีนครินทร์ )
ผจก.ขาย 0 นี้ เป็นลูกค้าประจำ ร้านผม เคยมาทาบทามให้ ไปประมูล ล้างรถที่นั่น เดือนละ 4 หมื่นบาท
ผมถามว่า ถูกจัง อย่างนี้ ก็ต้องล้างแบบ ลวกๆซิ ใครรับผิดชอบ ถ้าโดนด่า สีเป็นรอย ความสะอาด
ผจก. ใช่แค่ ล้างๆ ก็พอ เพราะ ลูกค้ารอนานไม่ได้หลังจาก รับบริการแล้ว
ผมบอกว่า ผมเคยล้างนะ ไม่ได้เรื่องเลย น้ำไหลโขรกเลย ไม่สะอาด ฟองน้ำ 2 ก้อน มือซ้าย มือขวา ล้างตั้งแต่ หลังคา ยัน ล้อ บางที ก้อนเดียว มือเดียว
ผจก. ก็ค่าล้างต่อเดือนมันต่ำ เฉลี่ย พันกว่าบาท ต่อ วัน นโยบายเป็นอย่างนั้น
แต่ถ้า ป้ายแดง เอาไปล้างข้างนอก ของแถม ขัดเคลือบ ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่ น้ำยาก็ตามนั้น รับประกัน 3 -5 ปี แต่ เข้าไปรับบริการ ก็เสีย 400 บาท
โดน ลูกค้า ด่ามาประจำ
ผมบอกว่า -- ไม่ไหวครับ
ผมตัดสินใจได้ละครับพี่โต้ง ว่าจะพาปาไป รพ. หรือ อนามัย :L4391:
-
:L4399: ขอบคุนครับพี่เปี่ยม
ยินดีครับ :L4399: :L4399:
-
ความเห็นแก่ตัว หรือขาดจรรยาบรรณทางวิชาชีพ กฎหมายบ้านเราก็เอาใจพวกนักลงทุนต่างชาติ จนลืมเจ้าของประเทศ. (กรณีนี้ต้องปรึกษาพี่เปี่ยม)
ดีใจกับพี่หยกที่ปลาวาฬกลับมาว่ายน้ำได้เหมือนเดิม แม้จะอยูในช่วงกายภาพบำบัด และเฝ้าติดตามอาการจากหมอแจ้. ส่วนมาตราการต่อไปจะดำเนินการเช่นไร อย่าลืมเรียกผมไปชูป้ายละ :L2754:
ว่าแต่ นายพรานอิฐ โดนอีแร้ง เอ้ย เหยี่ยว จิก รอดเปล่านี่. :L2739: :L2754:
แนวทางตามกฎหมายนะครับ
1.ร้อง สคบ.(เสือกระดาษ)
2.ฟ้องเป็นคดีผู้บริโภคตามพรบ.วีธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 ผู้บริโภคฟ้องคดีไม่ต้องเสียค่าขึ้นศาล มีเจ้าพนักงานคดีร่างคำฟ้องให้ เราควรมีพยานหลักฐานที่เพียบพร้อมนำสืบด้วย
หลักการสำคัญคดีผู้บริโภคเน้นไกล่เกลี่ยครับ ไกล่ไม่ได้ กำหนดประเด็น นัดสืบพยาน เสร็จแล้วตัดสิน ส่วนเรื่องนี้จะฟ้องใครได้บ้าง ขออนุญาตไม่ให้ความคิดเห็นนะครับ
การนำสืบในส่วนนี้ ค่อนข้างยากครับ เพราะจะต้องใช้ผู้ชำนาญการโดยเฉพาะครับ บทสรุปจึงลงเอยที่ ผู้บริโภคตัดปัญหา เสียเวลา ซ่อมเองดีฟ่า :L2754:
กฎหมายไปเอื้อประโยชน์นักลงทุน ทำไมคนไทยมักกลัวกับการขึ้นศาล :L2761:
พี่เล็กคงลืมดูมาตรานี้ไป พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๙ ประเด็นข้อพิพาทข้อใดจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการผลิตการประกอบ การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า การให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ซึ่งศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ให้ภาระการพิสูจน์ในประเด็นดังกล่าวตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจนั้น
:sd23: :sd23: :sd23:
ขอบคุณพี่ต๋องพี่เปี่ยมพี่เล็กเป็นอย่างสูงที่ให้ความกระจ่างในประเด็นนี้แก่ผมครับ :sd23: :sd23: :sd23:
ตอนที่เจรจากับทางศูนย์ผ่านทางพี่ท่านนึงที่มี connection กับศูนย์นี้ผมถูกถามว่าผมได้นำฝาสูบไปปาดหน้าแล้วหรือยัง ซึ่งขณะนั้นรถผมได้ดำเนินการซ่อมไปเสร็จเกือบ 100% แล้วเหลือเพียงขั้นตอนการประกอบร่างคืนเท่านั้น พี่ท่านนั้นได้ให้ความเห็นว่าหากฝาสูบยังอยู่ในสภาพเดิมที่เสียหาย ยังไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนแก้ไข เขาอยากจะให้สำนักงานใหญ่ MMTH ได้เห็นเพื่อพิสูจน์ความเสียหายดังกล่าว แต่ในเมื่อผมได้ดำเนินการซ่อมเองไปแล้ว (ปาดฝาสูบได้เรียบร้อยแล้ว) ร่องรอยความเสียหายดังกกล่าวจึงได้ถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยเรียกร้องค่าเสียหายกับทาง MMTH ได้อีกต่อไป
ซึ่งที่จริงแล้วหากศูนย์เปิดฝาสูบออกมาดูแต่แรกตั้งแต่ที่ผมนำรถไปทิ้งไว้ให้ตรวจสอบรวมทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืนก็จะพบความเสียหายนี้ และสามารถดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายหรือจัดซ่อมตามความเหมาะสมให้กับผมได้ตั้งแต่ตอนโน้นแล้ว แต่ทางศูนย์สาทรก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น แถมยังส่งคืนรถให้ผมนำกลับไปใช้แล้วบอกว่ารถผม "ปกติ" ทั้งๆที่ทราบอาการดีทั้งหมด จนกระทั่งผมต้องร้องแร่แห่กระเชอเข้าไปขอให้มีการตรวจสอบซ้ำอีกและได้ขอรบกวนพี่ตูมตามให้เข้าไปช่วยสังเกตอาการในวันที่รับรถครั้งที่ 2 ด้วย จะสังเกตได้ว่าการกระทำดังกล่าวของศูนย์สาทรเป็นการกระทำโดยเจตนาที่จะปัดความรับผิดชอบรวมถึงผลักภาระทั้งหมดมาที่ผมซึ่งเป็นเจ้าของรถให้รับไปแทน และคงคาดหวังว่าเรื่องนี้คงจะเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
หากผมเป็นตาสีตาสาแม่บ้านจ่ายตลาดทั่วไป และที่สำคัญหากไม่ได้เป็นสมาชิกคลับปามาเนียก็คงไม่ทราบที่มาที่ไปต้นสายปลายเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คงจะเอารถเข้าศูนย์เหมือนเดิมศูนย์ว่าไงมาก็ว่าตามนั้น ศูนย์จะออกบิลมาเรียกเก็บเงินเท่าไหร่ก็คงก้มหน้าก้มตาจ่ายมันไปตามนั้น คิดๆดูแล้วคนพวกนี้นี่มันปรสิตสังคมจริงๆ น่าจะมีใครหรือมาตรการอะไรจัดการกับคนพวกนี้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลอย่างนี้เรื่อยไปเดี๋ยวมันก็ไปทำกับคนอื่นอีก สมัยนี้รอกรรมชั่วสนองมันไม่ทันกินครับ เราคงแก่ตายซะก่อน!!!
-
พี่หยกครับ ของขึ้นหลายรอบแล้ว และผมคิดว่า ขึ้นทุกคนที่ได้อ่านด้วย จริงไหม
โชคดีที่ มีผู้ช่วยวิเคราะห์เยอะ แนะนำได้ ก็เลยเสียหายแค่นี้
พี่ถือโอกาสทำบุญ โดยการ บอก เพื่อนๆ ด้วยนะครับว่า พยาธิ มันอยู่ที่ไหน จะได้ไม่มีโครไปให้มัน
ทำร้ายเอาอีก
ปากต่อปาก ให้ข้อเท็จจริง ฆ่ามัน ช้าหน่อย แต่ไม่เปื้อนมือนะครับ
:L4387:
-
คหสต. ผมว่าทางศูนย์บริการที่พูดเช่นนี้ คงรู้ดีว่าพี่หยกนำรถไปซ่อมเองแล้ว จากการบอกเล่าของเหยี่ยวข่าว เอ้ย พี่ที่มีความคุ้นเคยกับศูนย์บริการนี้ ว่าอย่างไรเสียก็ต้องมีการปาดฝาสูบ ผมว่า ไม่ใช่ข้อแก้ไข แต่เป็นการแก้ตัว มากกว่า ครับ
-
พี่เล็กคงลืมดูมาตรานี้ไป พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๒๙ ประเด็นข้อพิพาทข้อใดจำเป็นต้องพิสูจน์ถึงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการผลิตการประกอบ การออกแบบ หรือส่วนผสมของสินค้า การให้บริการ หรือการดำเนินการใด ๆ ซึ่งศาลเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่ในความรู้เห็นโดยเฉพาะของคู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ให้ภาระการพิสูจน์ในประเด็นดังกล่าวตกอยู่แก่คู่ความฝ่ายที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจนั้น
:sd23: :sd23: :sd23:
ขอบคุณพี่ต๋องพี่เปี่ยมพี่เล็กเป็นอย่างสูงที่ให้ความกระจ่างในประเด็นนี้แก่ผมครับ :sd23: :sd23: :sd23:
ตอนที่เจรจากับทางศูนย์ผ่านทางพี่ท่านนึงที่มี connection กับศูนย์นี้ผมถูกถามว่าผมได้นำฝาสูบไปปาดหน้าแล้วหรือยัง ซึ่งขณะนั้นรถผมได้ดำเนินการซ่อมไปเสร็จเกือบ 100% แล้วเหลือเพียงขั้นตอนการประกอบร่างคืนเท่านั้น พี่ท่านนั้นได้ให้ความเห็นว่าหากฝาสูบยังอยู่ในสภาพเดิมที่เสียหาย ยังไม่ได้รับการปรับเปลี่ยนแก้ไข เขาอยากจะให้สำนักงานใหญ่ MMTH ได้เห็นเพื่อพิสูจน์ความเสียหายดังกล่าว แต่ในเมื่อผมได้ดำเนินการซ่อมเองไปแล้ว (ปาดฝาสูบได้เรียบร้อยแล้ว) ร่องรอยความเสียหายดังกกล่าวจึงได้ถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยเรียกร้องค่าเสียหายกับทาง MMTH ได้อีกต่อไป
ซึ่งที่จริงแล้วหากศูนย์เปิดฝาสูบออกมาดูแต่แรกตั้งแต่ที่ผมนำรถไปทิ้งไว้ให้ตรวจสอบรวมทั้งสิ้น 4 วัน 3 คืนก็จะพบความเสียหายนี้ และสามารถดำเนินการเรียกร้องค่าเสียหายหรือจัดซ่อมตามความเหมาะสมให้กับผมได้ตั้งแต่ตอนโน้นแล้ว แต่ทางศูนย์สาทรก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น แถมยังส่งคืนรถให้ผมนำกลับไปใช้แล้วบอกว่ารถผม "ปกติ" ทั้งๆที่ทราบอาการดีทั้งหมด จนกระทั่งผมต้องร้องแร่แห่กระเชอเข้าไปขอให้มีการตรวจสอบซ้ำอีกและได้ขอรบกวนพี่ตูมตามให้เข้าไปช่วยสังเกตอาการในวันที่รับรถครั้งที่ 2 ด้วย จะสังเกตได้ว่าการกระทำดังกล่าวของศูนย์สาทรเป็นการกระทำโดยเจตนาที่จะปัดความรับผิดชอบรวมถึงผลักภาระทั้งหมดมาที่ผมซึ่งเป็นเจ้าของรถให้รับไปแทน และคงคาดหวังว่าเรื่องนี้คงจะเงียบหายไปเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง
หากผมเป็นตาสีตาสาแม่บ้านจ่ายตลาดทั่วไป และที่สำคัญหากไม่ได้เป็นสมาชิกคลับปามาเนียก็คงไม่ทราบที่มาที่ไปต้นสายปลายเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น ก็คงจะเอารถเข้าศูนย์เหมือนเดิมศูนย์ว่าไงมาก็ว่าตามนั้น ศูนย์จะออกบิลมาเรียกเก็บเงินเท่าไหร่ก็คงก้มหน้าก้มตาจ่ายมันไปตามนั้น คิดๆดูแล้วคนพวกนี้นี่มันปรสิตสังคมจริงๆ น่าจะมีใครหรือมาตรการอะไรจัดการกับคนพวกนี้บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวลอย่างนี้เรื่อยไปเดี๋ยวมันก็ไปทำกับคนอื่นอีก สมัยนี้รอกรรมชั่วสนองมันไม่ทันกินครับ เราคงแก่ตายซะก่อน!!!
คำพูดที่ผจก.บอกว่าสัญญาตัวผู้ว่า.....พี่เอารถไปใช้เลย หากมีปัญหาขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบเต็มที่ ได้มีการเก็บหลักฐานอะไรไว้อ้างอิงได้ไหม
ตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาจากร้านข้างนอกเพื่อต้องการนำรถกลับมาใช้งานโดยที่รถมีความเสียหายที่เข้าใจได้ว่าเกิดจากความสำเพร่าของเจ้าหน้าที่ของศูนย์สาทรในการเข้ารับการบริการที่ 100,000 โล โดยเรายินดีชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดและยอมรับเงื่อนไขการรับประกันหลังการบริการ 6 เดือน แต่พอเกิดปัญหากลับบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ กรณีแบบนี้ขอ roll back ทุกอย่างกลับไปและขอคืนเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด และขอชดเชยค่าเสียเวลา ค่าเสียโอกาสในการใช้รถ และขอให้เป็นความรับผิดชอบต่อลูกค้าโดยศูนย์สาทร ซึ่งจะปฏิเสธลูกค้าไม่ได้เพราะลูกค้าเป็นคนเลือกศูนย์ไม่ได้เป็นคนเลือกช่างและลูกค้าให้ความเชื่อมั่นศูนย์ที่มอบหมายงานตามสายงานให้จัดการ แต่สุดท้ายทำไมลูกค้าต้องรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงค่าเสียโอกาสที่ตีเป็นค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าเสียหาย ทำไมทางศูนย์ถึงโยนไปให้เรียกร้องกับ MMTH หรือ ????
แล้วแบบนี้จะปล่อยให้เป็นโจรมุมตึกทำไมกัน คนที่เสนอและให้ข้อมูลต่างๆนาๆเกี่ยวกับศูนย์นี้และพฤติกรรมบางอย่างนั้น เมื่อถึงเวลาสามารถออกมาเป็นพยานให้มากน้อยเพีนงไร เบื้องต้นคาดว่าคงไม่สามารถ แล้วไอ้โจรมุมตึกบนถนนสาทรนี้เราจะจัดการอย่างไรดี หากลูกตาสีตาสาหลงไปใช้บริการโดยที่เราไม่แจ้งเตือน ก็คงไม่ต่างอะไรกับเห็นเหวนรกข้างหน้า แต่ไม่ยอมบอกพวกเขาที่ชอบจะไปถ่ายรูปเล่นกันบริเวณนั้น
วานพวกเราติดป้ายข้างทางเตือนๆกันบ้างก็ดีนะครับ
:sd27:
-
คำพูดที่ผจก.บอกว่าสัญญาตัวผู้ว่า.....พี่เอารถไปใช้เลย หากมีปัญหาขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบเต็มที่ ได้มีการเก็บหลักฐานอะไรไว้อ้างอิงได้ไหม
ตอนนี้คือการแก้ไขปัญหาจากร้านข้างนอกเพื่อต้องการนำรถกลับมาใช้งานโดยที่รถมีความเสียหายที่เข้าใจได้ว่าเกิดจากความสำเพร่าของเจ้าหน้าที่ของศูนย์สาทรในการเข้ารับการบริการที่ 100,000 โล โดยเรายินดีชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดและยอมรับเงื่อนไขการรับประกันหลังการบริการ 6 เดือน แต่พอเกิดปัญหากลับบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ กรณีแบบนี้ขอ roll back ทุกอย่างกลับไปและขอคืนเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด และขอชดเชยค่าเสียเวลา ค่าเสียโอกาสในการใช้รถ และขอให้เป็นความรับผิดชอบต่อลูกค้าโดยศูนย์สาทร ซึ่งจะปฏิเสธลูกค้าไม่ได้เพราะลูกค้าเป็นคนเลือกศูนย์ไม่ได้เป็นคนเลือกช่างและลูกค้าให้ความเชื่อมั่นศูนย์ที่มอบหมายงานตามสายงานให้จัดการ แต่สุดท้ายทำไมลูกค้าต้องรับผิดชอบกับกรณีที่เกิดขึ้นทั้งหมด
และค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ดังกล่าวรวมถึงค่าเสียโอกาสที่ตีเป็นค่าใช้จ่ายที่ลูกค้าเสียหาย ทำไมทางศูนย์ถึงโยนไปให้เรียกร้องกับ MMTH หรือ ????
แล้วแบบนี้จะปล่อยให้เป็นโจรมุมตึกทำไมกัน คนที่เสนอและให้ข้อมูลต่างๆนาๆเกี่ยวกับศูนย์นี้และพฤติกรรมบางอย่างนั้น เมื่อถึงเวลาสามารถออกมาเป็นพยานให้มากน้อยเพีนงไร เบื้องต้นคาดว่าคงไม่สามารถ แล้วไอ้โจรมุมตึกบนถนนสาทรนี้เราจะจัดการอย่างไรดี หากลูกตาสีตาสาหลงไปใช้บริการโดยที่เราไม่แจ้งเตือน ก็คงไม่ต่างอะไรกับเห็นเหวนรกข้างหน้า แต่ไม่ยอมบอกพวกเขาที่ชอบจะไปถ่ายรูปเล่นกันบริเวณนั้น
วานพวกเราติดป้ายข้างทางเตือนๆกันบ้างก็ดีนะครับ
:sd27:
(http://i.imgur.com/7b70lha.png)
ตามนั้นครับ ผู้กองนะ ;D
-
พี่หยกครับ ของขึ้นหลายรอบแล้ว และผมคิดว่า ขึ้นทุกคนที่ได้อ่านด้วย จริงไหม
โชคดีที่ มีผู้ช่วยวิเคราะห์เยอะ แนะนำได้ ก็เลยเสียหายแค่นี้
พี่ถือโอกาสทำบุญ โดยการ บอก เพื่อนๆ ด้วยนะครับว่า พยาธิ มันอยู่ที่ไหน จะได้ไม่มีโครไปให้มัน
ทำร้ายเอาอีก
ปากต่อปาก ให้ข้อเท็จจริง ฆ่ามัน ช้าหน่อย แต่ไม่เปื้อนมือนะครับ
:L4387:
เห็นด้วยกับพี่เก่งครับ สิ่งที่ผมจะช่วยได้ก็ด้วยการนำข้อเท็จจริงตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมาตีแผ่ให้ทุกคนได้ทราบเป็นการขึ้นป้ายเตือน ส่วนใครจะตัดสินใจอย่างไรคงบังคับกันไม่ได้ครับ :L4399:
คหสต. ผมว่าทางศูนย์บริการที่พูดเช่นนี้ คงรู้ดีว่าพี่หยกนำรถไปซ่อมเองแล้ว จากการบอกเล่าของเหยี่ยวข่าว เอ้ย พี่ที่มีความคุ้นเคยกับศูนย์บริการนี้ ว่าอย่างไรเสียก็ต้องมีการปาดฝาสูบ ผมว่า ไม่ใช่ข้อแก้ไข แต่เป็นการแก้ตัว มากกว่า ครับ
ชัวร์ป้าดครับพี่ต๋อง :L6419: :L6419: :L6419:
คำพูดที่ผจก.บอกว่าสัญญาตัวผู้ว่า.....พี่เอารถไปใช้เลย หากมีปัญหาขึ้นมาเขาจะรับผิดชอบเต็มที่ ได้มีการเก็บหลักฐานอะไรไว้อ้างอิงได้ไหม
:sd27:
ขอตรวจดูหน่อยนะครับว่าในกระเป๋ามีอะไรบ้าง :L4363: :L4363:
-
:sd30: :sd30: :sd30:
-
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลและประสบการณ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง(อ่าน)... :sd23:
ที่สำคัญเกรงว่าจะเป็น 0 แถวสาทรที่ผมใช้บริการมาตลอดตั้งแต่ออกรถด้วยสิ... ชวยและ :L4374: :L4374: :L4374:
-
เดี๋ยวค่อยมาต่อนะครับ ขอไปทำงานก่อนละ :L2736: :L2736: :L2901:
รอฟังต่ออยู่นะครับพี่ตาม
ไปทำงานนานจัง
:sd42: :sd42: :sd42:
-
รอฟังต่ออยู่นะครับพี่ตาม
ไปทำงานนานจัง
:sd42: :sd42: :sd42:
มาแล้วคร้าาาาาบ :L4399: :L4399:
-
มาต่อกันในตอนที่ 5 นะครับ ตอนนี้ขอให้ชื่อว่า "ละครเวที"
ความเดิมจากตอนที่แล้ว ผมกับพี่หยกได้พูดคุยกับหมอรพ.ดังย่านสาทร โดยถามคุณหมอว่า "อาการของน้องปาวาฬแบบนี้คือปกติใช่หรือไม่" เพราะทางรพ.บอกว่าสามารถมารับน้องปาวาฬกลับบ้านได้ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากคุณหมอ ตามที่พี่ๆคงได้ยินได้ฟังจากคลิบที่ผมเอามาลงแล้ว ทุกครั้งที่ผมถาม สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ และมีอาการลักไก่เอามือปัดฟองออกอยู่หลายครั้ง (เฉพาะใน VDO ก็เห็นๆ 2 ครั้ง) คุณหมอตอบเพียงว่า "ไม่พบอาการผิดปกติ" จนทำให้ต้องมีการนำน้องปาลำอื่นที่จอดอยู่มาสตาร์ทเทียบ จนเมื่ออาการของน้องปาวาฬ กับน้องปาที่เอามาเทียบแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอชักจะเงิบ เดินหายไปทีนานๆ พอเดินกลับมาผมก็ถามอีก แกก็เดินหนีหายไปอีก จนสุดท้ายคุณหมอเลยไปเชิญผู้อำนวยการรพ.ลงมา
ท่านผู้อำนวยการท่านนี้ดูจากภายนอก เป็นคนหน้าตาใจดี ยิ้มแย้มและเป็นมิตร แต่ลีลานี่ต้องขอบอกว่าสมกับเป็นผู้อำนวยการจริงๆ ชั่วโมงบินสูงกว่าหมอเยอะ :L2734:
ท่านผู้อำนวยการท่านลงมาพบกับผมและพี่หยก ประโยคแรกที่กระเด็นออกมาคือ "รถพี่ติดกล่องอะไรมาบ้างหรือเปล่าครับ" ..... เห็นมะ .... ผมบอกแล้ว ลีลาไม่ธรรมดา .... คำถามแบบนี้ทฤษฎีการเจรจาเขาเรียกว่า Reminding Question คือการถามในลักษณะจี้ที่จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม ... ประมาณว่าสุภาพแต่บอกให้รู้ว่ามีมีดตามหลังมาอีกนะ .... ซึ่งตามหลักจิตวิทยาแล้วถ้าคุณกำลังเจรจากับใคร แล้วเขาใช้คำถามแบบนี้ พึงระลึกไว้เลยว่ามีโอกาสน้อยมากที่คุณจะได้อะไรจากคนประเภทนี้ ... ความตั้งใจที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องเท่ากับศูนย์ครับ :L6419:
เจอคำถามแรกแบบนี้เข้าไป ผมก็รู้ละว่าวันนี้คงไม่ได้อะไร แต่ยังไม่ได้บอกพี่หยกทันที ลองฟังผู้อำนวยการไปก่อน .... หลังจากที่พี่หยกแจ้งเรื่องกล่องต่างๆไปตามความจริง ... ท่านผู้อำนวยการก็เริ่มออกลีลาที่ 2 .... เขาเรียกว่าลีลา Good Cop .... คือการทำเสมือนหนึ่งว่าเป็นแค่คนกลางลงมาไกล่เกลี่ยระหว่างเรากับคุณหมอ ... โดยทำทีเป็นอยู่ฝ่ายเรา .... คือการเรียกคุณหมอมาสอบถามถึงสถานการณ์ เมื่อได้รับรายงานแล้วก็หันมาถามทางผมกับพี่หยกว่ามีความเห็นอย่างไร .... จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลจากพี่หยกว่าไม่พึงพอใจในเรื่องใดก็หันกลับไปว่าคุณหมอ ประมาณว่า ทำไมคุณไม่ทำแบบนั้น ทำไมคุณทำแบบนี้ ..... คุณหมอก็เล่นตามบทไปคือก้มหน้ารับคำด่าและเงียบ สมบทบาทจำเลยจำแลง ... วิธีการแบบนี้เป็นการทำให้คู่เจรจารู้สึกดีกับคนเจรจา คิดว่าคงเข้าใจและอยู่ฝ่ายเดียวกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้คู่เจรจารู้สึก "ไว้ใจ" และเมื่อไว้ใจแล้ว ทีนี้เวลาจะเสนออะไร ทำอะไรจะถูกยอมรับได้ง่ายขึ้น
เอาละครับผ่านไป 2 ขั้นตอนละ ทีนี้ก็มาถึงตอนสำคัญคือตอนถอดหน้ากากกันหละ .... หลังจากด่าว่าคุณหมออยู่ซักพัก ผู้อำนวยการก็หันกลับมาหาพี่หยก ... พร้อมกับเสนอหนทางว่า "ในกรณีนี้คงต้องให้ MMTH เข้ามาตรวจสอบ" .... นั่นแหละครับหน้าตาที่แท้จริง เพราะทางเลือกนี้ก็เท่ากับปัดปัญหาออกจากตัว เซี่ยมให้พี่หยกเข้าปะทะกับ MMTH โดยตรง ... ซึ่งผู้อำนวยการก็คงรู้อยู่แล้วว่า MMTH จะทำอย่างไรในกรณีนี้ .... เพราะการตอบสนองของ MMTH ต่อกรณีนี้ในความคาดหมายของผู้จัดการคือ น้องปาวาฬติดกล่องมา ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของลูกค้าที่ดัดแปลงรถ ... และนี่คือเหตุที่มาขอคำถามแรกเรื่องกล่อง ... เพื่อ Remind ให้พี่หยกนึกถึงกล่องที่ติดมา
ตลอดเวลาในการเจรจา ผมแทบไม่ได้คุยกับผู้อำนวยการเลย ปล่อยให้พี่หยกเป็นคนพูดเกือบทั้งหมด โดยผมอยู่ในฐานะผู้ชมละครเวทีนี้ ... สำหรับผมที่เป็นผู้ชม การเจรจาจบแล้วตั้งแต่ตอนผู้อำนวยการถามคำถามแรก .... แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรพี่หยกนะครับ .... ไหนๆมาถึงขนาดนี้แล้วก็ขอชมละครเวทีต่อให้จบละกัน
เอาละครับ เมื่อผู้อำนวยการเปิดหน้ากากออกมาแล้ว .... ด้วยการปัดให้ไปชนกับ MMTH ตรงๆ ... พร้อมกับปิดเกมส์ด้วยการให้พี่หยกเป็นคนตัดสินใจเลือกว่า จะเอารถออกจากศูนย์ไป หรือจะรอให้ MMTH เข้ามาตรวจสอบ .... พอดีพี่หยกไม่ได้ตัดสินใจในทันที .... ผมก็เลยได้ดูละครเวทีต่ออีกนิดนึง .... พี่หยกถามว่า MMTH จะส่งคนเข้ามาดูเมื่อไหร่ ....ผู้อำนวยการบอกว่าไม่ทราบ .... เมื่อพี่หยกถามว่า MMTH จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบอย่างไร ... ผู้อำนวยการบอกว่าไม่รู้ .... นั่นหละครับ ปิดประตูให้พี่หยกไปเจอกับ MMTH เอาเอง
เมื่อพี่หยกชักจะอารมย์เสีย ด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นมาบ้าง .... ลีลาพริ้วไหวของท่านผู้อำนวยการก็ออกมาอีก .... เพราะการที่พี่หยกสอบถามว่า MMTH จะมาเมื่อไหร่ จะมาทำอะไร .... แสดงให้เห็นว่าจุด focus ของพี่หยก ณ วินาทีนั้นเคลื่อนออกจากรพ. และคุณหมอ เบนไปหา MMTH ตามที่ท่านผู้อำนวยการวางไว้ ... ถึงแม้สุดท้ายแล้วพี่หยกจะกลับมามุ่งเป้าไปที่รพ.และคุณหมอ แต่วินาทีนั้นปากกระบอกปืนที่ถืออยู่ก็เบี่ยงเบนไปตามเป้าล่อของท่านผู้อำนวยการ
มาถึงขั้นนี้แล้ว .... ลีลาของท่านผู้อำนวยการคือการกลับมาเล่นบท Good Cop อีกครั้ง ... โดยการสั่งให้คุณหมอติดต่อ MMTH ทันที ถามมาให้ได้ว่าจะเข้ามาได้เมื่อไหร่ และให้ถามขั้นตอนการตรวจสอบของ MMTH มาให้ละเอียด ... สั่งแบบเสียงขึงขังเลยนะครับ ... ต้องขึงขังจริงจัง เพราะถ้าคำตอบของ MMTH ทำให้พี่หยกตกลงใจรอ MMTH ผู้อำนวยการก็สบายตัวแล้ว กลายเป็นพี่หยกฟัดกับ MMTH ละทีนี้ หรือถ้าพี่หยกเลือกอีกทาง คือเอาน้องปาวาฬออกจากรพ. ผู้อำนวยการก็สบายตัวไม่แพ้กัน ... จะเห็นนะครับว่า ณ เวลานั้น ไม่ว่าพี่หยกจะเลือกทางใด ผลที่ออกมาเหมือนกันคือ คุณหมอหลุดคดี ผู้อำนวยการหลับสบาย มีทางเดียวที่คุณหมอกับผู้อำนวยการจะไม่รอดคดีคือ MMTH ตัดสินว่าเป็นความผิดของโรงพยาบาง :sd42: :sd42: พี่ๆคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมั๊ยละ .... ถ้าพี่ๆเดาได้ว่าผลการตัดสินของ MMTH จะออกมาเป็นอย่างไร .... แล้วผู้อำนวยการที่มีลีลาพริ้วไหวขนาดนี้จะไม่รู้เลยรึเปล่าครับ :sd42: :sd42: :sd42:
มาถึงตรงนี้ ... ดูละครเวทีนี้ต่อไปก็เท่านั้นแล้วหละครับ ... แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความรู้สึกผมที่พิมพ์มาข้างบนนี้ให้พี่หยกฟังนะครับ .... สิ่งที่ทำคือบอกถึงทางเลือกที่มีอยู่ให้พี่หยกฟัง คือรอ MMTH ให้รื้อเครื่องในน้องปาวาฬออกมาให้หนำใจ และรอบทสรุปที่ก็พอคาดเดาได้กว่า 80% ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หรือจะนำน้องปาวาฬออกจากซ่องโจร .... เอ้ย .... โรงพยาบาล ... แล้วไปหาโรงพยาบาลอื่น หรือคลีนิค หรือไปหาหมออนามัยให้รักษาน้องปาวาฬให้ ... ซึ่งจริงๆพี่หยกก็มีทางเลือกอยู่ในใจอยู่แล้วว่าไม่อยากจะเสียเวลากับ MMTH และไม่ต้องการให้น้องปาวาฬช้ำไปกว่านี้ ทางที่ดีที่สุดคือทางใครทางมัน ... พี่หยกจึงนำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลแบบป่วยๆแบบนั้น ... ไปหาหมอท่านอื่นรักษาต่อไป
ก่อนจากกัน ... ผมถามผู้อำนวยการอีก 2 เรื่องคือ ผมอยากรู้ว่า MMTH เข้ามาจะตรวจสอบอะไร .... ผู้อำนวยการแจ้งว่าเท่าที่สอบถามไปได้ความว่า MMTH จะมาถอดวาล์วน้ำออกไปตรวจสอบว่าวาล์วน้ำเปิดเต็มที่หรือไม่ .... :sd42: :sd42: ผมเลยบอกไปว่า จะทดสอบวาล์วน้ำเปิดเต็มที่หรือไม่ไม่ต้องถอดออกมาต้มหรอก แค่ดูระดับความร้อนเวลารถอยู่ที่รอบเดินเบาก็บอกได้แล้ว .... ท่านผู้อำนวยการท่านก็ยิ้มๆครับ ไม่ได้ว่าอะไร .... เรื่องต่อมาคือเรื่องน้ำยาหม้อน้ำครับ ผมถามว่าใช้น้ำยานี้กับรถทุกคันหรือเปล่า ได้รับคำตอบว่าทุกคัน พี่หยกก็ถามว่าการใช้น้ำยาหม้อน้ำแบบนี้ไม่ผิดนโยบายของ MMTH หรือ ผู้อำนวยการก็บอกว่าไม่ผิด เป็นสิทธิที่โรงพยาบาลสามารถเลือกได้ และสุดท้ายผมเลยถามว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่น้ำยาหม้อน้ำที่ใช้จะทำให้น้องปาวาฬป่วยขนาดนี้ ... คำตอบที่ได้รับแสดงให้เห็นทุกอย่างชัดเจนครับ
"ผมใส่รถมาเป็นพันคันไม่เคยมีปัญหา แต่ถ้าลูกค้าคิดว่ามันเป็นปัญหา ผมเปลี่ยนเป็นน้ำยาของ MMTH ให้แล้วเรื่องนี้เราจบกันรึเปล่า"
จบกัน ทางใครทางมันครับสำหรับโรงพยาบาลนี้
:L6425: :L6425:
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :sd23: :sd23: :sd23:
-
:sd23: :sd23:
-
เข้าใจเลยครับ พี่ตาม :sd21: :sd21:
-
(http://i1273.photobucket.com/albums/y415/leelajoe1980/Mobile%20Uploads/2014-04/DF2B81D1-6513-4A4B-A5F7-885728CE71D2_zpsf42uuzru.jpg) (http://s1273.photobucket.com/user/leelajoe1980/media/Mobile%20Uploads/2014-04/DF2B81D1-6513-4A4B-A5F7-885728CE71D2_zpsf42uuzru.jpg.html)
(http://i1273.photobucket.com/albums/y415/leelajoe1980/Mobile%20Uploads/2014-04/8110FE5D-1F91-48D1-80C3-2E43BF4C27AA_zps4eks5ppf.jpg) (http://s1273.photobucket.com/user/leelajoe1980/media/Mobile%20Uploads/2014-04/8110FE5D-1F91-48D1-80C3-2E43BF4C27AA_zps4eks5ppf.jpg.html)
แล้วไอ้ที่แปะไว้นี้มันหมายความว่าอะไรจ๊ะ. :sd06:
-
(http://i1273.photobucket.com/albums/y415/leelajoe1980/Mobile%20Uploads/2014-04/DF2B81D1-6513-4A4B-A5F7-885728CE71D2_zpsf42uuzru.jpg) (http://s1273.photobucket.com/user/leelajoe1980/media/Mobile%20Uploads/2014-04/DF2B81D1-6513-4A4B-A5F7-885728CE71D2_zpsf42uuzru.jpg.html)
แล้วไอ้ที่แปะไว้นี้มันหมายความว่าอะไรจ๊ะ. :sd06:
เป็นโฆษณาชวนเชื่อ ขอรับท่านมอดลีโจ :L2739:
-
เป็นโฆษณาชวนเชื่อ ขอรับท่านมอดลีโจ :L2739:
เหมือนนามบตัรที่มาทิ้งไว้ที่หน้าร้านเป่ลาครับ :sd42: :L2739:
-
ขอบคุณพี่ตามครับ
ได้อ่านตอนจบสักที
แต่ตอนจบนี่แบบน่าแค้นใจมากครับ
เราไม่มีวิธีที่จะทำอะไรกับศูนย์บริการพวกนี้ได้บ้างเลยเหรอครับ
:sd07: :sd07: :sd07:
-
มาต่อกันในตอนที่ 5 นะครับ ตอนนี้ขอให้ชื่อว่า "ละครเวที"
ความเดิมจากตอนที่แล้ว ผมกับพี่หยกได้พูดคุยกับหมอรพ.ดังย่านสาทร โดยถามคุณหมอว่า "อาการของน้องปาวาฬแบบนี้คือปกติใช่หรือไม่" เพราะทางรพ.บอกว่าสามารถมารับน้องปาวาฬกลับบ้านได้ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากคุณหมอ ตามที่พี่ๆคงได้ยินได้ฟังจากคลิบที่ผมเอามาลงแล้ว ทุกครั้งที่ผมถาม สิ่งที่ได้กลับมาคือความเงียบ และมีอาการลักไก่เอามือปัดฟองออกอยู่หลายครั้ง (เฉพาะใน VDO ก็เห็นๆ 2 ครั้ง) คุณหมอตอบเพียงว่า "ไม่พบอาการผิดปกติ" จนทำให้ต้องมีการนำน้องปาลำอื่นที่จอดอยู่มาสตาร์ทเทียบ จนเมื่ออาการของน้องปาวาฬ กับน้องปาที่เอามาเทียบแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด คุณหมอชักจะเงิบ เดินหายไปทีนานๆ พอเดินกลับมาผมก็ถามอีก แกก็เดินหนีหายไปอีก จนสุดท้ายคุณหมอเลยไปเชิญผู้อำนวยการรพ.ลงมา
ท่านผู้อำนวยการท่านนี้ดูจากภายนอก เป็นคนหน้าตาใจดี ยิ้มแย้มและเป็นมิตร แต่ลีลานี่ต้องขอบอกว่าสมกับเป็นผู้อำนวยการจริงๆ ชั่วโมงบินสูงกว่าหมอเยอะ :L2734:
ท่านผู้อำนวยการท่านลงมาพบกับผมและพี่หยก ประโยคแรกที่กระเด็นออกมาคือ "รถพี่ติดกล่องอะไรมาบ้างหรือเปล่าครับ" ..... เห็นมะ .... ผมบอกแล้ว ลีลาไม่ธรรมดา .... คำถามแบบนี้ทฤษฎีการเจรจาเขาเรียกว่า Reminding Question คือการถามในลักษณะจี้ที่จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม ... ประมาณว่าสุภาพแต่บอกให้รู้ว่ามีมีดตามหลังมาอีกนะ .... ซึ่งตามหลักจิตวิทยาแล้วถ้าคุณกำลังเจรจากับใคร แล้วเขาใช้คำถามแบบนี้ พึงระลึกไว้เลยว่ามีโอกาสน้อยมากที่คุณจะได้อะไรจากคนประเภทนี้ ... ความตั้งใจที่จะตอบสนองข้อเรียกร้องเท่ากับศูนย์ครับ :L6419:
เจอคำถามแรกแบบนี้เข้าไป ผมก็รู้ละว่าวันนี้คงไม่ได้อะไร แต่ยังไม่ได้บอกพี่หยกทันที ลองฟังผู้อำนวยการไปก่อน .... หลังจากที่พี่หยกแจ้งเรื่องกล่องต่างๆไปตามความจริง ... ท่านผู้อำนวยการก็เริ่มออกลีลาที่ 2 .... เขาเรียกว่าลีลา Good Cop .... คือการทำเสมือนหนึ่งว่าเป็นแค่คนกลางลงมาไกล่เกลี่ยระหว่างเรากับคุณหมอ ... โดยทำทีเป็นอยู่ฝ่ายเรา .... คือการเรียกคุณหมอมาสอบถามถึงสถานการณ์ เมื่อได้รับรายงานแล้วก็หันมาถามทางผมกับพี่หยกว่ามีความเห็นอย่างไร .... จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลจากพี่หยกว่าไม่พึงพอใจในเรื่องใดก็หันกลับไปว่าคุณหมอ ประมาณว่า ทำไมคุณไม่ทำแบบนั้น ทำไมคุณทำแบบนี้ ..... คุณหมอก็เล่นตามบทไปคือก้มหน้ารับคำด่าและเงียบ สมบทบาทจำเลยจำแลง ... วิธีการแบบนี้เป็นการทำให้คู่เจรจารู้สึกดีกับคนเจรจา คิดว่าคงเข้าใจและอยู่ฝ่ายเดียวกัน และสิ่งสำคัญที่สุดคือทำให้คู่เจรจารู้สึก "ไว้ใจ" และเมื่อไว้ใจแล้ว ทีนี้เวลาจะเสนออะไร ทำอะไรจะถูกยอมรับได้ง่ายขึ้น
เอาละครับผ่านไป 2 ขั้นตอนละ ทีนี้ก็มาถึงตอนสำคัญคือตอนถอดหน้ากากกันหละ .... หลังจากด่าว่าคุณหมออยู่ซักพัก ผู้อำนวยการก็หันกลับมาหาพี่หยก ... พร้อมกับเสนอหนทางว่า "ในกรณีนี้คงต้องให้ MMTH เข้ามาตรวจสอบ" .... นั่นแหละครับหน้าตาที่แท้จริง เพราะทางเลือกนี้ก็เท่ากับปัดปัญหาออกจากตัว เซี่ยมให้พี่หยกเข้าปะทะกับ MMTH โดยตรง ... ซึ่งผู้อำนวยการก็คงรู้อยู่แล้วว่า MMTH จะทำอย่างไรในกรณีนี้ .... เพราะการตอบสนองของ MMTH ต่อกรณีนี้ในความคาดหมายของผู้จัดการคือ น้องปาวาฬติดกล่องมา ดังนั้นเรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของลูกค้าที่ดัดแปลงรถ ... และนี่คือเหตุที่มาขอคำถามแรกเรื่องกล่อง ... เพื่อ Remind ให้พี่หยกนึกถึงกล่องที่ติดมา
ตลอดเวลาในการเจรจา ผมแทบไม่ได้คุยกับผู้อำนวยการเลย ปล่อยให้พี่หยกเป็นคนพูดเกือบทั้งหมด โดยผมอยู่ในฐานะผู้ชมละครเวทีนี้ ... สำหรับผมที่เป็นผู้ชม การเจรจาจบแล้วตั้งแต่ตอนผู้อำนวยการถามคำถามแรก .... แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรพี่หยกนะครับ .... ไหนๆมาถึงขนาดนี้แล้วก็ขอชมละครเวทีต่อให้จบละกัน
เอาละครับ เมื่อผู้อำนวยการเปิดหน้ากากออกมาแล้ว .... ด้วยการปัดให้ไปชนกับ MMTH ตรงๆ ... พร้อมกับปิดเกมส์ด้วยการให้พี่หยกเป็นคนตัดสินใจเลือกว่า จะเอารถออกจากศูนย์ไป หรือจะรอให้ MMTH เข้ามาตรวจสอบ .... พอดีพี่หยกไม่ได้ตัดสินใจในทันที .... ผมก็เลยได้ดูละครเวทีต่ออีกนิดนึง .... พี่หยกถามว่า MMTH จะส่งคนเข้ามาดูเมื่อไหร่ ....ผู้อำนวยการบอกว่าไม่ทราบ .... เมื่อพี่หยกถามว่า MMTH จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบอย่างไร ... ผู้อำนวยการบอกว่าไม่รู้ .... นั่นหละครับ ปิดประตูให้พี่หยกไปเจอกับ MMTH เอาเอง
เมื่อพี่หยกชักจะอารมย์เสีย ด้วยน้ำเสียงที่แข็งขึ้นมาบ้าง .... ลีลาพริ้วไหวของท่านผู้อำนวยการก็ออกมาอีก .... เพราะการที่พี่หยกสอบถามว่า MMTH จะมาเมื่อไหร่ จะมาทำอะไร .... แสดงให้เห็นว่าจุด focus ของพี่หยก ณ วินาทีนั้นเคลื่อนออกจากรพ. และคุณหมอ เบนไปหา MMTH ตามที่ท่านผู้อำนวยการวางไว้ ... ถึงแม้สุดท้ายแล้วพี่หยกจะกลับมามุ่งเป้าไปที่รพ.และคุณหมอ แต่วินาทีนั้นปากกระบอกปืนที่ถืออยู่ก็เบี่ยงเบนไปตามเป้าล่อของท่านผู้อำนวยการ
มาถึงขั้นนี้แล้ว .... ลีลาของท่านผู้อำนวยการคือการกลับมาเล่นบท Good Cop อีกครั้ง ... โดยการสั่งให้คุณหมอติดต่อ MMTH ทันที ถามมาให้ได้ว่าจะเข้ามาได้เมื่อไหร่ และให้ถามขั้นตอนการตรวจสอบของ MMTH มาให้ละเอียด ... สั่งแบบเสียงขึงขังเลยนะครับ ... ต้องขึงขังจริงจัง เพราะถ้าคำตอบของ MMTH ทำให้พี่หยกตกลงใจรอ MMTH ผู้อำนวยการก็สบายตัวแล้ว กลายเป็นพี่หยกฟัดกับ MMTH ละทีนี้ หรือถ้าพี่หยกเลือกอีกทาง คือเอาน้องปาวาฬออกจากรพ. ผู้อำนวยการก็สบายตัวไม่แพ้กัน ... จะเห็นนะครับว่า ณ เวลานั้น ไม่ว่าพี่หยกจะเลือกทางใด ผลที่ออกมาเหมือนกันคือ คุณหมอหลุดคดี ผู้อำนวยการหลับสบาย มีทางเดียวที่คุณหมอกับผู้อำนวยการจะไม่รอดคดีคือ MMTH ตัดสินว่าเป็นความผิดของโรงพยาบาง :sd42: :sd42: พี่ๆคิดว่ามันจะเกิดขึ้นมั๊ยละ .... ถ้าพี่ๆเดาได้ว่าผลการตัดสินของ MMTH จะออกมาเป็นอย่างไร .... แล้วผู้อำนวยการที่มีลีลาพริ้วไหวขนาดนี้จะไม่รู้เลยรึเปล่าครับ :sd42: :sd42: :sd42:
มาถึงตรงนี้ ... ดูละครเวทีนี้ต่อไปก็เท่านั้นแล้วหละครับ ... แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความรู้สึกผมที่พิมพ์มาข้างบนนี้ให้พี่หยกฟังนะครับ .... สิ่งที่ทำคือบอกถึงทางเลือกที่มีอยู่ให้พี่หยกฟัง คือรอ MMTH ให้รื้อเครื่องในน้องปาวาฬออกมาให้หนำใจ และรอบทสรุปที่ก็พอคาดเดาได้กว่า 80% ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หรือจะนำน้องปาวาฬออกจากซ่องโจร .... เอ้ย .... โรงพยาบาล ... แล้วไปหาโรงพยาบาลอื่น หรือคลีนิค หรือไปหาหมออนามัยให้รักษาน้องปาวาฬให้ ... ซึ่งจริงๆพี่หยกก็มีทางเลือกอยู่ในใจอยู่แล้วว่าไม่อยากจะเสียเวลากับ MMTH และไม่ต้องการให้น้องปาวาฬช้ำไปกว่านี้ ทางที่ดีที่สุดคือทางใครทางมัน ... พี่หยกจึงนำน้องปาวาฬออกจากโรงพยาบาลแบบป่วยๆแบบนั้น ... ไปหาหมอท่านอื่นรักษาต่อไป
ก่อนจากกัน ... ผมถามผู้อำนวยการอีก 2 เรื่องคือ ผมอยากรู้ว่า MMTH เข้ามาจะตรวจสอบอะไร .... ผู้อำนวยการแจ้งว่าเท่าที่สอบถามไปได้ความว่า MMTH จะมาถอดวาล์วน้ำออกไปตรวจสอบว่าวาล์วน้ำเปิดเต็มที่หรือไม่ .... :sd42: :sd42: ผมเลยบอกไปว่า จะทดสอบวาล์วน้ำเปิดเต็มที่หรือไม่ไม่ต้องถอดออกมาต้มหรอก แค่ดูระดับความร้อนเวลารถอยู่ที่รอบเดินเบาก็บอกได้แล้ว .... ท่านผู้อำนวยการท่านก็ยิ้มๆครับ ไม่ได้ว่าอะไร .... เรื่องต่อมาคือเรื่องน้ำยาหม้อน้ำครับ ผมถามว่าใช้น้ำยานี้กับรถทุกคันหรือเปล่า ได้รับคำตอบว่าทุกคัน พี่หยกก็ถามว่าการใช้น้ำยาหม้อน้ำแบบนี้ไม่ผิดนโยบายของ MMTH หรือ ผู้อำนวยการก็บอกว่าไม่ผิด เป็นสิทธิที่โรงพยาบาลสามารถเลือกได้ และสุดท้ายผมเลยถามว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่น้ำยาหม้อน้ำที่ใช้จะทำให้น้องปาวาฬป่วยขนาดนี้ ... คำตอบที่ได้รับแสดงให้เห็นทุกอย่างชัดเจนครับ
"ผมใส่รถมาเป็นพันคันไม่เคยมีปัญหา แต่ถ้าลูกค้าคิดว่ามันเป็นปัญหา ผมเปลี่ยนเป็นน้ำยาของ MMTH ให้แล้วเรื่องนี้เราจบกันรึเปล่า"
จบกัน ทางใครทางมันครับสำหรับโรงพยาบาลนี้
:L6425: :L6425:
มาปิดประกาศใบเท่าฝา ประกาศให้คนรู้ว่า. .. :sd02: :sd40:
-
สิ่งที่พี่ตามเล่ามาชัดเจนเลยครับ " ละครเวที "
ในสังคมเรา คนแบบ ผอ โรงพยาบาลดัง มีเยอะ ดูผิวเผินแล้วอาจดูเป็นคนดี แก้ปัญหาเก่ง ไม่ซิต้องเรียกว่าแสดงเก่ง ตีบทแตก
เป็นแค่เปลือกนอก แต่เปลือกในคือ ขาดจิตสำนึก ความจริงใจและความรับผิดชอบต่อลูกค้า ถ้าเจอคนเหล่านี้ เจ็บแล้วต้องจำครับ :sd27: :sd27:
-
เจอคำถามแรกแบบนี้เข้าไป ผมก็รู้ละว่าวันนี้คงไม่ได้อะไร แต่ยังไม่ได้บอกพี่หยกทันที ลองฟังผู้อำนวยการไปก่อน ....
ตลอดเวลาในการเจรจา ผมแทบไม่ได้คุยกับผู้อำนวยการเลย ปล่อยให้พี่หยกเป็นคนพูดเกือบทั้งหมด โดยผมอยู่ในฐานะผู้ชมละครเวทีนี้ ... สำหรับผมที่เป็นผู้ชม การเจรจาจบแล้วตั้งแต่ตอนผู้อำนวยการถามคำถามแรก .... แต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรพี่หยกนะครับ ....
พอดีพี่หยกไม่ได้ตัดสินใจในทันที .... ผมก็เลยได้ดูละครเวทีต่ออีกนิดนึง .... เมื่อพี่หยกถามว่า MMTH จะมีขั้นตอนในการตรวจสอบอย่างไร ... ผู้อำนวยการบอกว่าไม่รู้ .... นั่นหละครับ ปิดประตูให้พี่หยกไปเจอกับ MMTH เอาเอง
... ถึงแม้สุดท้ายแล้วพี่หยกจะกลับมามุ่งเป้าไปที่รพ.และคุณหมอ แต่วินาทีนั้นปากกระบอกปืนที่ถืออยู่ก็เบี่ยงเบนไปตามเป้าล่อของท่านผู้อำนวยการ
มาถึงตรงนี้ ... ดูละครเวทีนี้ต่อไปก็เท่านั้นแล้วหละครับ ... แต่ผมก็ไม่ได้เล่าความรู้สึกผมที่พิมพ์มาข้างบนนี้ให้พี่หยกฟังนะครับ ....
:L6425: :L6425:
เพิ่งจะรู้ว่าผมเป็นแค่ตัวแสดง น่าจะสะกิตกันตั้งแต่ตอนนั้นนะครับ จะได้ฉะกับผอ.โรงพยาบาลให้ตรงประเด็นไปเลย :sd06: :sd06: :sd06: :sd06: :sd06:
-
ติต่างว่า แล้วทำไม ผอ.ถึงพูดเรื่องกล่องต่างๆละ แสดงว่า มีผู้กำกับบทดี เลยตีบทแตก >:(
-
เพิ่งจะรู้ว่าผมเป็นแค่ตัวแสดง น่าจะสะกิตกันตั้งแต่ตอนนั้นนะครับ จะได้ฉะกับผอ.โรงพยาบาลให้ตรงประเด็นไปเลย :sd06: :sd06: :sd06: :sd06: :sd06:
ผมต้องขออภัยพี่หยกเป็นอย่างสูง หากการเล่าเรื่องของผมทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนนะครับ ที่ผมใช้คำว่า "ละครเวที" นั้นผมตั้งใจจะหมายถึงการแสดงละครของผู้อำนวยการเท่านั้นครับ ไม่ได้หมายความรวมถึงพี่หยกด้วยแต่อย่างใด หากทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
-
พี่ตูมตามครับ ผมไม่รู้ว่าผมอ่านบทความพี่ไปกี่บทแล้ว
คิดว่าอ่านยังไม่ครบ แต่เจอที่ชอบแล้ว ก็ เรื่องละครเวที นี่หละครับพี่
มองได้ทะลุปรุโปร่งทีเดียวครับ
:L2900: :sd23:
-
เราจะทำยังไงกะไอ้พวกศูนย์ที่ไม่มีจรรยาบรรณพวกนี้ดีครับ เพื่อทำให้พวกนี้จำไว้ว่า อย่าทำแบบนี้กะใครอีก >:( >:( >:(
-
ผมต้องขออภัยพี่หยกเป็นอย่างสูง หากการเล่าเรื่องของผมทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนนะครับ ที่ผมใช้คำว่า "ละครเวที" นั้นผมตั้งใจจะหมายถึงการแสดงละครของผู้อำนวยการเท่านั้นครับ ไม่ได้หมายความรวมถึงพี่หยกด้วยแต่อย่างใด หากทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือทำให้เกิดความไม่สบายใจ ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะครับพี่ตาม ความจริงแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายต่างกำหนดในใจกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าละครฉากนี้ควรจะจบลงอย่างไร และมันก็จบลงในแบบที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เพียงแต่อาจจะไม่ใช่แบบที่ตรงใจเราที่สุดเท่านั้น
เรื่องนี้ผมต่างหากครับที่ต้องเป็นฝ่ายขออภัย และขอขอบคุณพี่ตามจากใจจริงที่ช่วยดูแลเจ้าปาวาฬตลอดระยะเวลาที่ป่วย รวมทั้งคอยติดตามเคสนี้และช่วยนำข้อมูลมารีวิวเพิ่มเติมได้อย่างถึงกึ๋นทุกรายละเอียดจริงๆ (รายละเอียดบางอย่างแม้กระทั่งผมเองก็ลืมไปแล้ว) ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
-
เป็นเรื่องเข้าใจผิดกันน่ะครับพี่ตาม ความจริงแล้วไม่มีอะไรในกอไผ่ สุดท้ายทั้งสองฝ่ายต่างกำหนดในใจกันเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าละครฉากนี้ควรจะจบลงอย่างไร และมันก็จบลงในแบบที่เหมาะสมที่สุดแล้ว เพียงแต่อาจจะไม่ใช่แบบที่ตรงใจเราที่สุดเท่านั้น
เรื่องนี้ผมต่างหากครับที่ต้องเป็นฝ่ายขออภัย และขอขอบคุณพี่ตามจากใจจริงที่ช่วยดูแลเจ้าปาวาฬตลอดระยะเวลาที่ป่วย รวมทั้งคอยติดตามเคสนี้และช่วยนำข้อมูลมารีวิวเพิ่มเติมได้อย่างถึงกึ๋นทุกรายละเอียดจริงๆ (รายละเอียดบางอย่างแม้กระทั่งผมเองก็ลืมไปแล้ว) ขอขอบคุณอีกครั้งครับ
:sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:
:L2900: :L2900: :L2900: :L2734:
-
สิ่งที่ผมชอบบ้านปามาเนียอีกประการหนึ่ง คือ พอมีปัญหา หรือสงสัย หรือคาใจ เราพูดกันตรงๆๆที่หน้าบอร์ดนี้ โดยปราศจากอคติ ทุกฝ่ายจึงจบด้วย win win ผมชอบมากครับ :L6428: :L6428: :L6428:
-
เพิ่งจะมีโอกาสนั่งอ่านตั้งแต่ต้น จนจบ .....
ขอบคุณพี่หยก พี่อั๋น พี่ตาม ที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ครับ
โดยส่วนตัว ผมก็ไม่ค่อยจะวางใจกะโรงพยาบาลเท่าไรนัก
แต่ก็ยังไม่รู้จักสถานีอนามัย ที่จะไว้ฝากผีฝากไข้ :sd06:
-
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านครับ พอดีเข้ามาหาข้อมูลเรื่องศูนย์บริการว่าจะเช็คระยะซะหน่อย
ถ้าเจอแบบพี่หยกเข้าไปคงไปไม่เป็นเลยครับ ต้องขอบคุณพี่หยกครับที่มาแชร์ให้พวกเราฟัง
ปัญหาคือแล้วผมจะพาเจ้าปาขาวไปเช็คระยะที่ไหนดีล่ะเนี่ยทีนี้ :L4386:
-
เพิ่งมีโอกาสได้อ่านครับ พอดีเข้ามาหาข้อมูลเรื่องศูนย์บริการว่าจะเช็คระยะซะหน่อย
ถ้าเจอแบบพี่หยกเข้าไปคงไปไม่เป็นเลยครับ ต้องขอบคุณพี่หยกครับที่มาแชร์ให้พวกเราฟัง
ปัญหาคือแล้วผมจะพาเจ้าปาขาวไปเช็คระยะที่ไหนดีล่ะเนี่ยทีนี้ :L4386:
ใจเย็นๆครับพี่ชาย ศูนย์ที่ดีๆก็น่าจะคงมีหลงเหลืออยู่บ้างล่ะครับเพราะยังไงเราก็ยังคงต้องพึ่งศูนย์บริการอยู่ดีโดยเฉพาะน้องปาที่ยังอยู่ในระยะประกัน เพียงแต่พี่อาจจะต้องเลือกดูศูนย์ที่คิดว่าไว้ใจได้มากที่สุด และถ้าเป็นไปได้ก็พยายามเลือกศูนย์ที่เราสามารถเข้าไปดูรถเวลาที่ช่างทำงานได้ เมื่อนำรถเข้ารับบริการก็หมั่นไปดูตอนที่ช่างทำงาน ผมคิดว่าเท่านี้ก็น่าจะช่วยทุเลาความเสี่ยงลงได้แล้วนะครับ สำคัญว่าเราเจ้าของรถจะต้องมีความรู้คอยหมั่นตรวจเช็คอาการและตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆด้วยตัวเองให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอก็สามารถช่วยได้อีกทางหนึ่ง มีปัญหาอะไรก็มาปรึกษาได้ครับพี่ๆที่นี่ใจดีอยู่แล้ว เข้ามาในบ้านพูดคุยกันบ่อยๆก็จะได้ความรู้เพิ่มเติมด้วยครับ
:L2736:
-
ขอบคุณครับพี่หยก
งั้นรบกวนถามพี่หยกอีกนิดนะครับ ถ้าพี่หยกไม่ได้ทำที่สาขานี้ พี่หยกจะไปทำที่ไหนครับ
ตอนแรกผมก็กะว่าจะไปทำที่นี่เหมือนกัน เพราะว่าใกล้ที่ทำงาน ถ้างั้นคงต้องเปลี่ยนใจซะแล้วครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่หยก หรือพี่ๆท่านอื่นจะกรุณาแนะนำด้วยก็จะเป็นพระคุณครับ
บ้านผมอยู่เอกมัย ที่ทำงานอยู่นราธิวาสฯแยกสาธรครับ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ
:L4399: :L4399:
-
ผมยังไม่ทราบเลยครับพี่ชายเพราะตั้งแต่เกิดเหตุมายังไม่ได้เข้าศูนย์ที่ไหนเลยครับ กำลังเล็งๆแถวบ้านอยู่เหมือนกันครับ สำหรับพี่ถ้ายังคิดไม่ออกลองเลือกดูจากที่นี่ได้ครับ
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/board,29.0.html
-
ขอบคุณมากครับพี่หยก เดี๋ยวจะลองค้นๆดูในลิ้งค์ที่พี่หยกให้มาครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
-
พี่หยกครับ ช่วงงานปีที่2ปามาเนีย พี่หยกได้ทดสอบการวิ่งระยะไกลจากแม่สอด-ปราณบุรี เป็นไงบ้างครับอาการของปลาวาฬของพี่
-
พี่หยกครับ ช่วงงานปีที่2ปามาเนีย พี่หยกได้ทดสอบการวิ่งระยะไกลจากแม่สอด-ปราณบุรี เป็นไงบ้างครับอาการของปลาวาฬของพี่
อาการตอนนี้เป็นปกติดีแล้วครับพี่ต๋อง วันที่ 25 พ.ย. ล้อเริ่มหมุนจากแม่สอดตอนประมาณ 10 โมงเช้าวิ่งยาวจนถึงปราณบุรีระยะทางประมาณ 730 กม. จากจ.ตากถึงจ.กำแพงเพชรบางช่วงที่ถนนดีหน่อยสามารถทำความเร็วถึง 160 กม./ชม. ที่จริงยังไปได้อีกแต่ผมไม่กล้าขับเร็วกว่านี้เพราะถนนค่อนข้างแคบบางช่วงเป็นคลื่นและมีร่อยปะซ่อมพื้นผิว+มีสี่แยกเป็นระยะๆ ที่สำคัญผบ.นั่งมาด้วยเกรงว่าจะจิตตก (มากไปกว่านี้) :D :D แต่ก็ต้องคอยลุ้น..มองนาฬิกาอยู่เรื่อยๆ
ตลอดทางผมใช้กล่องคันเร่ง(สูตรม้าแคระ)โหมด B + กล่องปิ่นโตพลัสโหมด 3 (เขียวกะพริบถี่) ความเร็วเดินทางเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 140 กม./ชม. บางช่วงที่ถนนโล่งก็ขึ้นไป 160 กม./ชม. ถ้ารถเยอะหน่อยก็ลงมาเหลือ 120 กม./ชม. แต่ช่วงที่ผ่านกรุงเทพฯต้องทำใจนิดนึงเพราะรถติดเลยทำให้เสีียเวลาเพิิ่มครับ :'( :'( ขอบอกว่ามีกล่องของเล่นทั้งสองกล่องนี้ช่วยผมได้มากเลยครับ ทำให้ขับง่ายไม่เหนื่อยจนเกินไป
จากที่สังเกตอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 87-89 บนหน้าจอ SMG เคยขึ้นไปถึง 91 ตอนที่ขึ้นเขาพะวอ แต่ผมปิดกล่องปิ่นโตนะครับ เหลือแต่กล่องคันเร่งอย่างเดียวแล้วปรับเป็นโหมด Manual เอา ส่วนใหญ่จะใช้เกียร์ 3 ยืนพื้นช่วงขึ้นเขาเพราะทางไม่ได้ชันมาก ส่วนตอนลงบางช่วงใช้เกียร์ 2 เข้าช่วยจะได้ไม่ต้องย้ำเบรคมากครับ ;) ;)
โดยสรุป..ผมคิดว่าขณะนี้เจ้าปาวาฬกลับมาปราดเปรียวได้เป็นปกติเหมือนเดิมแล้วครับ :sd27:
-
เป็นกำลังใจให้พี่หยกครับ น้องปลาวาฬหายป่วยแล้ว :sd10:
-
ดีใจด้วยครับพี่หยก :sd23:
-
อาการตอนนี้เป็นปกติดีแล้วครับพี่ต๋อง วันที่ 25 พ.ย. ล้อเริ่มหมุนจากแม่สอดตอนประมาณ 10 โมงเช้าวิ่งยาวจนถึงปราณบุรีระยะทางประมาณ 730 กม. จากจ.ตากถึงจ.กำแพงเพชรบางช่วงที่ถนนดีหน่อยสามารถทำความเร็วถึง 160 กม./ชม. ที่จริงยังไปได้อีกแต่ผมไม่กล้าขับเร็วกว่านี้เพราะถนนค่อนข้างแคบบางช่วงเป็นคลื่นและมีร่อยปะซ่อมพื้นผิว+มีสี่แยกเป็นระยะๆ ที่สำคัญผบ.นั่งมาด้วยเกรงว่าจะจิตตก (มากไปกว่านี้) :D :D แต่ก็ต้องคอยลุ้น..มองนาฬิกาอยู่เรื่อยๆ
ตลอดทางผมใช้กล่องคันเร่ง(สูตรม้าแคระ)โหมด B + กล่องปิ่นโตพลัสโหมด 3 (เขียวกะพริบถี่) ความเร็วเดินทางเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 140 กม./ชม. บางช่วงที่ถนนโล่งก็ขึ้นไป 160 กม./ชม. ถ้ารถเยอะหน่อยก็ลงมาเหลือ 120 กม./ชม. แต่ช่วงที่ผ่านกรุงเทพฯต้องทำใจนิดนึงเพราะรถติดเลยทำให้เสีียเวลาเพิิ่มครับ :'( :'( ขอบอกว่ามีกล่องของเล่นทั้งสองกล่องนี้ช่วยผมได้มากเลยครับ ทำให้ขับง่ายไม่เหนื่อยจนเกินไป
จากที่สังเกตอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเฉลี่ยจะอยู่ระหว่าง 87-89 บนหน้าจอ SMG เคยขึ้นไปถึง 91 ตอนที่ขึ้นเขาพะวอ แต่ผมปิดกล่องปิ่นโตนะครับ เหลือแต่กล่องคันเร่งอย่างเดียวแล้วปรับเป็นโหมด Manual เอา ส่วนใหญ่จะใช้เกียร์ 3 ยืนพื้นช่วงขึ้นเขาเพราะทางไม่ได้ชันมาก ส่วนตอนลงบางช่วงใช้เกียร์ 2 เข้าช่วยจะได้ไม่ต้องย้ำเบรคมากครับ ;) ;)
โดยสรุป..ผมคิดว่าขณะนี้เจ้าปาวาฬกลับมาปราดเปรียวได้เป็นปกติเหมือนเดิมแล้วครับ :sd27:
โอ้โหพี่หยก ก่องข้าวน้อย2ผม ค่าเฉลี่ย ECT อยู่ 92 เมือวันงาน2ขวบ ขับตาม นางแมวป่า กับ แมวเปอร์เชีย ของพี่บังมะ ขึ้นมาที่ 95 ที่ความเร็ว 150 :L4384: :L4384:
-
:L2900:
ดีใจกับพี่หยกด้วยครับ
ที่เจ้าปลาวาฬกับมาเป็นปกติแล้ว
แถมกลับจากงานปีก็ได้อุปกรณ์เสริมพลังให้เจ้าปลาวาฬอีก
ยินดีด้วยครับ....พี่หยก
:L2900: :L2900: :L2900:
:L2904: :L2897: :L2901:
-
เป็นกำลังใจให้พี่หยกครับ น้องปลาวาฬหายป่วยแล้ว :sd10:
ดีใจด้วยครับพี่หยก :sd23:
ขอบคุณพี่เอพี่เปี่ยมที่ช่วยเชียร์ครับ :sd23: :sd23: กว่าจะกลับมาเป็นปกติก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันครับ แต่แค่กลับมาโลดแล่นได้เหมือนเดิมนี่ก็ฟินฝุดๆแล้วครับ :-* :-*
โอ้โหพี่หยก ก่องข้าวน้อย2ผม ค่าเฉลี่ย ECT อยู่ 92 เมือวันงาน2ขวบ ขับตาม นางแมวป่า กับ แมวเปอร์เชีย ของพี่บังมะ ขึ้นมาที่ 95 ที่ความเร็ว 150 :L4384: :L4384:
สงสัยว่าผมคงจะใช้โหมดต่ำมั้งครับพี่ปรี ความร้อนเลยไม่ค่อยขึ้นเท่าไหร่ แต่ค่าเฉลี่ย ECT ที่ 92 นี่รถพี่รู้สึกว่าจะตัวรุมๆแล้วนะครับ จำได้ว่าพี่ปรีเพิ่งจะเช็คครบแสนโลไปเมื่อไม่นานมานี้ ไม่ทราบว่าได้เปลี่ยนวาล์วน้ำด้วยหรือเปล่านะครับ ตัวนี้ก็มีผลเรื่องความร้อนเหมือนกันครับ ของเดิมผมแกนมันยันแล้วครับทำให้วาล์วน้ำเปิดได้ไม่สุด ถ้ามีโอกาสก็ลองจัดดูนะครับพี่ปรี ;) ;)
:L2900:
ดีใจกับพี่หยกด้วยครับ
ที่เจ้าปลาวาฬกับมาเป็นปกติแล้ว
แถมกลับจากงานปีก็ได้อุปกรณ์เสริมพลังให้เจ้าปลาวาฬอีก
ยินดีด้วยครับ....พี่หยก
:L2900: :L2900: :L2900:
:L2904: :L2897: :L2901:
พี่ตุ้ยจำได้ด้วยเหรอครับ ;D ;D ผมได้ตัวแปลงสัญญานแอร์โฟลว์/EGR ของ IFRIT มาด้วย ยังไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรเลยครับ ??? ???
-
โอ้โหพี่หยก ก่องข้าวน้อย2ผม ค่าเฉลี่ย ECT อยู่ 92 เมือวันงาน2ขวบ ขับตาม นางแมวป่า กับ แมวเปอร์เชีย ของพี่บังมะ ขึ้นมาที่ 95 ที่ความเร็ว 150 :L4384: :L4384:
พี่ปรีสบายใจได้เลยครับว่าน้องปาพี่ยังปกติ หรืออาจแค่ตัวรุมๆ ไม่หนักหนาสาหัส .... งาน 2 ปี ผมรับหน้าที่ตากล้อง ... ไล่กวดรถแต่ละขบวน ...ใช้ความเร็วค่อนข้างสูง เร่งแซง มุดซ้ายขวา .... ระดับความร้อน :sd42: :sd42: ... หนูขาวลากความร้อนระดับ 99-100 อยู่เกือบ 100 กม. ครับ ... แบบนี้ผมยังฟินอยู่เลย :L4398: :L4398: :sd42: :sd42:
-
อ่านมาก็หลายรอบแล้วพี่ๆบ้านเราก็ชอบใช้คำแทนจนงงไปหมด เช่น กล่องผี, ปิ่นโต, ม้าแคระ......ในกระทู้นี้ก็มี เช่น โรงพยาบาล, ผู้อำนวยการ, สถานีอนามัย.....งงไปหมด.......... :sd06: :sd06:.
ถามเลยแล้วกันนะครับ สถานีอนามัย. ที่รักษาปาวาฬจนหายมันคือที่ไหนกันแน่ครับ เอาแบบตรงๆ เลยนะครับ ขอภาพแผนที่ด้วยยิ่งดีเลยครับ สมช. จะได้หาเจอง่าย... :L2736: :L2736:
-
โอ้โหพี่หยก ก่องข้าวน้อย2ผม ค่าเฉลี่ย ECT อยู่ 92 เมือวันงาน2ขวบ ขับตาม นางแมวป่า กับ แมวเปอร์เชีย ของพี่บังมะ ขึ้นมาที่ 95 ที่ความเร็ว 150 :L4384: :L4384:
พี่ปรีวิ่ง 150 ขบวนพี่ปรีเขายืนพื้นที่ความเร็วเท่าไหร่กันครับ เห็นพี่เอริท์บอกขอไม่เกิน 120 :L2739:
-
อ่านมาก็หลายรอบแล้วพี่ๆบ้านเราก็ชอบใช้คำแทนจนงงไปหมด เช่น กล่องผี, ปิ่นโต, ม้าแคระ......ในกระทู้นี้ก็มี เช่น โรงพยาบาล, ผู้อำนวยการ, สถานีอนามัย.....งงไปหมด.......... :sd06: :sd06:.
ถามเลยแล้วกันนะครับ สถานีอนามัย. ที่รักษาปาวาฬจนหายมันคือที่ไหนกันแน่ครับ เอาแบบตรงๆ เลยนะครับ ขอภาพแผนที่ด้วยยิ่งดีเลยครับ สมช. จะได้หาเจอง่าย... :L2736: :L2736:
สถานีอนามัยที่เราแนะแนะนำพูดถึงนั้น ตั้งอยู่ย่านถนนราชพฤษครับ ก่อนเข้ารับการรักษาโปรดถามให้ชัดเจนเพราะเจ้าของร้านคงยังไม่รู้ว่าสถานีอนามัยคืออะไร :sd42:
*ส่วนแผนที่ รอพี่หยกมาแนะนำอีกครั้งครับ
-
สถานีอนามัยที่เราแนะแนะนำพูดถึงนั้น ตั้งอยู่ย่านถนนราชพฤษครับ ก่อนเข้ารับการรักษาโปรดถามให้ชัดเจนเพราะเจ้าของร้านคงยังไม่รู้ว่าสถานีอนามัยคืออะไร :sd42:
*ส่วนแผนที่ รอพี่หยกมาแนะนำอีกครั้งครับ
มาแล้วคร้าบ..สถานีอนามัยที่รักษาอาการเจ้าปาวาฬจนหายป่วยเป็นปกติตั้งอยู่ในซอยท่าอิฐ ถนนราชพฤกษ์ ตำบลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หรือพิกัด GPS ตามนี้ครับ 13.893538, 100.457607
สถานที่ตั้งของสถานีอนามัยคือหมุดแดงในภาพครับ
(http://upic.me/i/25/sanitarystation1.jpg)
จากถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาเข้า ปากซอยทางเข้าจะมีร้าน 7-11
(http://upic.me/i/hs/sanitarystation2.jpg)
หลังจากเข้ามาในซอย เจอแยกนี้ให้เลี้ยวไปทางขวา
(http://upic.me/i/jz/sanitarystation3.jpg)
ในภาพพอเห็นป้ายหมู่บ้านประดับดาว 7 ให้ไปต่ออีก 200 ม.
(http://upic.me/i/la/sanitarystation47.jpg)
ในภาพฝั่งขวามือคือสถานีอนามัยที่กล่าวถึง อยู่ก่อนถึงสามแยกพอดีครับ :L2736:
(http://upic.me/i/h7/sanitarystation5.jpg)
ตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ได้ที่นี่ครับ :L2754: :L2754:
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4004.msg160578.html#msg160578
-
มาแล้วคร้าบ..สถานีอนามัยที่รักษาอาการเจ้าปาวาฬจนหายป่วยเป็นปกติตั้งอยู่ในซอยท่าอิฐ ถนนราชพฤกษ์ ตำบลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี หรือพิกัด GPS ตามนี้ครับ 13.893538, 100.457607
สถานที่ตั้งของสถานีอนามัยคือหมุดแดงในภาพครับ
(http://upic.me/i/25/sanitarystation1.jpg)
จากถนนราชพฤกษ์ฝั่งขาเข้า ปากซอยทางเข้าจะมีร้าน 7-11
(http://upic.me/i/hs/sanitarystation2.jpg)
หลังจากเข้ามาในซอย เจอแยกนี้ให้เลี้ยวไปทางขวา
(http://upic.me/i/jz/sanitarystation3.jpg)
ในภาพพอเห็นป้ายหมู่บ้านประดับดาว 7 ให้ไปต่ออีก 200 ม.
(http://upic.me/i/la/sanitarystation47.jpg)
ในภาพฝั่งขวามือคือสถานีอนามัยที่กล่าวถึง อยู่ก่อนถึงสามแยกพอดีครับ :L2736:
(http://upic.me/i/h7/sanitarystation5.jpg)
ตามไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ได้ที่นี่ครับ :L2754: :L2754:
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4004.msg160578.html#msg160578
:L2734: Get กำลังจะถามพี่หยกอยู่ครับ :L2758: สำหรับข้อมูลครับ
-
สถานีอนามัยที่เราแนะแนะนำพูดถึงนั้น ตั้งอยู่ย่านถนนราชพฤษครับ ก่อนเข้ารับการรักษาโปรดถามให้ชัดเจนเพราะเจ้าของร้านคงยังไม่รู้ว่าสถานีอนามัยคืออะไร :sd42:
*ส่วนแผนที่ รอพี่หยกมาแนะนำอีกครั้งครับ
ตามที่ได้ไฮไลท์ไว้เลยนะครับ เพราะเจ้าของสถานที่ไม่ทราบหรอกครับว่าสถานที่ของเขาได้ถูกจัดเข้าในทำเนียบ"ฉายา"ปามาเนียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..........สถานีอนามัย :sd01:
แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่า..........หากพี่ๆมีเหตุให้ต้องเข้าใช้บริการที่สถานีอนามัยแห่งนี้ รบกวนตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า คุณหมอซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมอเวียนมาช่วยเหลือหรือบางครั้งอาจเป็นหมออาสาไปในที่ต่างๆนั้น อยู่หรือเปล่านะครับ ไม่เช่นนั้นพี่ๆอาจได้เจอหัวหน้าคนเข็นเตียงแทนนะครับ :sd42: :sd42: :sd42:
-
ตามที่ได้ไฮไลท์ไว้เลยนะครับ เพราะเจ้าของสถานที่ไม่ทราบหรอกครับว่าสถานที่ของเขาได้ถูกจัดเข้าในทำเนียบ"ฉายา"ปามาเนียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว..........สถานีอนามัย :sd01:
แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่า..........หากพี่ๆมีเหตุให้ต้องเข้าใช้บริการที่สถานีอนามัยแห่งนี้ รบกวนตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนว่า คุณหมอซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหมอเวียนมาช่วยเหลือหรือบางครั้งอาจเป็นหมออาสาไปในที่ต่างๆนั้น อยู่หรือเปล่านะครับ ไม่เช่นนั้นพี่ๆอาจได้เจอหัวหน้าคนเข็นเตียงแทนนะครับ :sd42: :sd42: :sd42:
พี่กิตรู้จักหรือเคยเจออาแป๊ะคนนั้นด้วยหรอ :sd42:
-
ขอบคุณที่ชี้เป้าให้ครับพี่หยก แล้วถ้าผมจะพาคนไข้ไปตรวจกับคุณหมอที่รักษาเจ้าปลาวาฬ ผมจะนัดคุณหมอยังไงครับ :L2759:
-
ขอบคุณที่ชี้เป้าให้ครับพี่หยก แล้วถ้าผมจะพาคนไข้ไปตรวจกับคุณหมอที่รักษาเจ้าปลาวาฬ ผมจะนัดคุณหมอยังไงครับ :L2759:
มีพี่ๆหลายท่านมีเบอร์ของหมออยู่ครับ สามารถ PM สอบถามได้ครับพี่หนึ่ง ยกตัวอย่างพี่ๆที่มีเบอร์หมออนามัยอยู่นะครับ เช่น พี่หยก พี่ป๊อบ พี่อ้วน พี่กอป และผม .... เออ ลืมไป "พี่คนนั้น" ก็มีนะ ....จะบอกให้ :L4396: :L4396: :L4396:
-
พี่กิตรู้จักหรือเคยเจออาแป๊ะคนนั้นด้วยหรอ :sd42:
ยังไม่มีโอกาสได้เจอครับพี่นะ :sd42: ต้องขออภัยที่ลืมให้เครดิตของแหล่งข้อมูลครับ :sd23:
-
นั่งอ่านตั้งแต่หน้าแรก จนหน้าสุดท้าย ได้ความรู้เพียบ ขอบคุณพี่หยก และพี่ตาม ฅนต้นเรื่องครับ
ล่าสุดไป 80000 กิโลมา ได้เติมน้ำมันเกีย 4 ลิตรเหมือนกันเลย :L2905: :L2905: :L2905:
:L6428: :L6428: ให้พี่ทั้งสองครับ
-
มีพี่ๆหลายท่านมีเบอร์ของหมออยู่ครับ สามารถ PM สอบถามได้ครับพี่หนึ่ง ยกตัวอย่างพี่ๆที่มีเบอร์หมออนามัยอยู่นะครับ เช่น พี่หยก พี่ป๊อบ พี่อ้วน พี่กอป และผม .... เออ ลืมไป "พี่คนนั้น" ก็มีนะ ....จะบอกให้ :L4396: :L4396: :L4396:
:L2761: เอ??? พี่คนไหนน้าาา จะใช่คนที่ผมคิดหรือเปล่าครับพี่ตาม :sd42: :sd42: :sd42:
-
:L2761: เอ??? พี่คนไหนน้าาา จะใช่คนที่ผมคิดหรือเปล่าครับพี่ตาม :sd42: :sd42: :sd42:
ไม่ใช่คนที่พี่หนึ่งคิดครับ :sd42: :sd42: :sd42: พี่คนที่พี่หนึ่งคิดเขาชอบเข้าโรงพยาบาลครับ แต่เข้าไปทีไรทะเลาะกะคนในโรงพยาบาลตั้งแต่ยามยันผู้อำนวยการ .... หลังๆโรงพยาบาลเลยให้บริการเป็นพิเศษ มาถึงหมอจะรีบจัดการให้เสร็จ จะได้รีบๆไป .... แต่รักษาไม่เคยหายนะครับ :sd42: :sd42: :sd42:
-
ขอบคุณที่ชี้เป้าให้ครับพี่หยก แล้วถ้าผมจะพาคนไข้ไปตรวจกับคุณหมอที่รักษาเจ้าปลาวาฬ ผมจะนัดคุณหมอยังไงครับ :L2759:
PM ไปให้แล้วนะครับพี่หนึ่ง :L2736:
-
ขอบคุณพี่หยกที่แชร์ความรู้ให้ครับ :sd23:
-
ขอบคุณพี่หยกที่แชร์ความรู้ให้ครับ :sd23:
ขออภัย แล้วรู้จักสถานีอนามัยไหมครับ
-
ขอบคุณคับ โหวแล้วงี้กังวลเลย เสียวจี้ดๆ