Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม

<< < (6/12) > >>

ตี่:
 :L4365: :L4365: :L4365:

ตูมตาม:
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่  1 ตุลาคม 2014, 05:26:13 ---ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:

--- End quote ---
เคยเห็นหลายศูนย์ใช้น้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์แบบถังใหญ่ วัดตรวจเป็นลิตรในการเติมครับ

ต๋อง_มาบตาพุด:
 :sd23: :sd23:

ปุ๊...kbo:
 :L4399: ขอบคุณพี่หนึ่ง...สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากคะ...คงต้องก้มไปดูใต้รถบ่อยๆ ล่ะ...

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version