Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

หนูขาวเข้าห้องทดลอง ... ตอนอะไหล่ในการเปลี่ยนสายพาน Timing

<< < (19/25) > >>

พี่จิรศิษฏ์:
 :L2900:

ปุ๊...kbo:

--- อ้างจาก: ธี สวนผัก ที่ 30 กันยายน 2014, 23:09:52 ---รายการใบงานและค่าใช้จ่ายครับประมาณนี้






กองอะหลั่ยบางส่วน


น้ำยาหม้อน้ำมิตซูตลอด 3 ปีกว่าๆ


เท่านี้ครับ  :sd23:

--- End quote ---

 :L4399:  :L2758: ขอบคุณคะพี่ธี...สำหรับข้อมูลรายการ....เผื่อเป็นข้อมูลในการเปลี่ยนของปุ๊ในวันครบแสนโล...





--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่  1 ตุลาคม 2014, 06:03:49 ---ทีนี้การไล่อากาศต้องทำยังไง

หลักการง่ายๆครับ คือทำให้ระบบไหลเวียนของน้ำเป็นระบบเปิด จนกว่าอากาศจะออกมาแล้วเป็นส่วนใหญ่แล้วค่อยปิด ... การทำให้ระบบเป็นระบบเปิดทำได้ง่ายๆคือ เปิดฝาหม้อน้ำทิ้งไว้แล้วสตาร์ทรถ เมื่อเปิดฝาหม้อน้ำไว้ ทำให้ไม่ต้องรอให้ฝาหม้อน้ำเปิดนะครับ คืออากาศวนมาเมื่อไหร่มันก็ออกไปได้เลย แต่ถ้าเราเปิดไว้เฉยๆ พออากาศออกไป น้ำมันเข้าแทนที่ไม่ทัน ระบบก็จะดูดอากาศกลับเข้าไปใหม่ ดังนั้นวิธีการที่ใช้กันก็คือ คือกรวยใส่น้ำอุดไว้ที่ช่องบนของหม้อน้ำ เมื่ออากาศออกมาระบบก็จะดูดเอาน้ำในกรวยเข้าไปแทนที่ หรือจะใช้ขวดน้ำพลาสติกก็ได้นะครับ

การไล่อากาศแบบนี้จะบังคับให้อากาศออกจากระบบเร็วกว่าปล่อยให้มันระบายออกมาเอง ป้องกันปัญหาเรื่องความร้อนผิดปกติจากการที่มีอากาศเหลืออยู่ในระบบ แต่การจะทำอย่างนี้ถ้ามี SMG จะช่วยได้ครับ เพราะอากาศจะถูกดันออกมาได้ต้องตอนที่วาล์วน้ำเปิดเท่านั้น ถ้าวาล์วน้ำปิดอยู่ น้ำจะไม่วนเข้ามาที่หม้อน้ำ แต่จะวนไปมาอยู่ภายในเครื่องไม่ออกมา ดังนั้นอากาศภายในที่ค้างอยู่ด้านล่างหม้อน้ำจะไม่ถูกน้ำดันออกมาเมื่อวาล์วน้ำปิดอยู่ การมี SMG จะทำให้เรารู้ระดับความร้อน ณ ขณะนั้น และรู้ว่าต้องไล่ไปถึงความร้อนระดับใด

ความร้อนที่วาล์วน้ำจะเปิดคือ 82องศา ... แต่กว่าที่น้ำจะดันอากาศออกมาได้อาจต้องรอจนถึงประมาณ 85องศา ... ถ้ารู้ระดับความร้อนแบบนี้ก็ง่ายครับ ดูที่ SMG ไว้ เมื่อใกล้ๆ 85 ก็มาคอยดูอากาศที่ออกมา .... แต่ถ้าไม่มี SMG ต่อให้รู้หลักการ ... ลองนึกภาพดูครับ แล้วจะรู้ระดับความร้อนที่วาล์วน้ำเปิดได้ยังงัย .... ถ้าไม่มี SMG ช่างก็สตาร์ทไปเรื่อยๆครับ หยุดเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ขี้เกียจแล้วก็หยุด ความร้อนจะได้ระดับที่ระบายอากาศได้หรือยังก็ไม่รู้ .... นี่คืออีกเหตุหนึ่งที่ผมมักแนะนำให้หา SMG มาติดไว้ ไม่ว่าจะมีการปรับแต่งหรือไม่นะครับ

ทั้งหมดที่เล่ามาคือการถ่ายน้ำจากหม้อน้ำเท่านั้น .... ย้ำอีกครั้งว่าการถ่ายน้ำจากหม้อน้ำ น้ำในเครื่องยังไม่อยู่นะครับ .... ลองนึกดูว่าถ้าเป็นการเปลี่ยนวาล์วน้ำ หรือเปลี่ยนปั๊มน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำในเครื่องไหลออกมาทั้หมดด้วย ..... นั่นแปลว่าในระบบไม่มีน้ำเหลืออยู่เลย .... ไม่เหลือเลยจริงๆนะครับ .... พอประกอบทุกอย่างกลับเข้าที่ ต่อให้เติมน้ำเข้าไป นึกดูเอาเองละกันครับว่าในระบบมีอากาศอยู่มากขนาดไหน .... แล้ว้ถ้าไม่ไล่อากาศให้ดีจะเกิดอะไรขึ้น

ฝาโก่งหรือไม่ บางครั้งก็ขึ้นกับจังหวะแบบนี้แหละครับ

 :sd23: :sd23:

--- End quote ---

 :sd23:  :L2758: สำหรับข้อมูลความรู้ดีๆ  :L6428:  :L6428: ขอบคุณคะ...

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่  1 ตุลาคม 2014, 05:52:39 ---
ด้วยหลักการแบบนี้ เวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหม้อน้ำ ช่างศูนย์จึงชอบเติมน้ำในหม้อพักไว้ให้เยอะๆ เพราะเผื่อไว้ว่าเวลาอากาศระบายออกมาแล้ว จะมีน้ำดูดเข้าไปแทนที่ แบบนี้ไม่ต้องไล่อากาศให้เหนื่อยครับ แค่เติมน้ำไว้เยอะๆในหม้อพักก็พอ เจ้าของรถเอาไปใช้ก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีอากาศอยู่ในระบบ

แต่ถ้ารถคันไหนมี SMG เวลาไม่ไล่อากาศออกจากระบบ จะเห็นระดับความร้อนขึ้นลงผิดปกติ เนื่องจากอากาศที่ค้างอยู่ในระบบ ไม่สามารถถ่ายเทความร้อนจากเครื่องได้ดีเท่าน้ำ ดังนั้นในเครื่องยนต์ที่อากาศไหลผ่านไปจะไม่สามารถถ่ายเทความร้อนออกมาได้ ความร้อนก็จะสะสมไว้เยอะ จนเมื่อน้ำวิ่งผ่านไปทีนี้พอความร้อนมาเยอะ น้ำก็ไประบายความร้อนให้หม้อน้ำไม่ทัน ทำให้ความร้อนที่เห็นจาก SMG มันจะดูผิดปกติ


--- End quote ---

ขอเพิ่มข้อมูลจากพี่ตามอีกนิด  กรณีที่ผมเน้นไว้นั้นมีข้อดีและข้อเสียดังนี้

ข้อดี : การเติมน้ำไว้เผื่อระยะด้วยประสบการณ์ทางทฤษฏี  กับ spec หม้อน้ำเดิมคือเติมเผื่อไว้ประมาณ 600-900 cc ในหม้อพัก  ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาหล่อเย็น เพื่อลดเวลาการทำงานของช่าง   เพื่อหวังในระบบทำงานปกติและดูดน้ำเข้าไปเองจนระดับน้ำปกติที่ขีด max

ข้อเสีย : การระบายความร้อนของระบบลดลงอยากมาก  ความร้อนสูงผิดปกติในการทำงานเมื่อใช้งาน โดยที่เข็มแสดงความร้อนไม่แสดงอาการ  เนื่องจากอากาศถูกแทรกตัวอยู่ในน้ำมากจึงไม่สามารถถ่ายเทความร้อนของระบบได้ดี  จนกว่าฝาหม้อน้ำจะร้อนจนเปิดและคลายแรงดันออกไปที่หม้อพักน้ำและระบบแวคคั่มที่เกิดภายในจะต้องดูดอากาศกลับแต่อาศัยจังหวะแบบนี้ดูดน้ำกลับมาเติมในระบบแทน   จนกว่าจะเต็มระบบ  มีผลให้การระบายความร้อนจะไม่ปกติภายใน 2-3 วันหลังนำรถออกมาจากศูนย์บริการ

ข้อควรระวัง : กรณีแบบนี้หากนำรถไปใช้แบบปกติในคนที่ขับรถเร็ว  ความร้อนจะสูงมากจนระบบจะดันน้ำล้นออกจากหม้อพักน้ำหกเลอะไปทั่วรถจนนึกว่าประเก็นเล็บน้ำดันเช่นรถผมเป็นต้น   หรือกรณีที่เรามีการเปลี่ยนหม้อน้ำใหญ่กว่าสเปคเดิมช่างจะคำนวณผิดผลาดซึ่งผมก็โดนมาแล้วเช่นกัน  นองเครื่องไปหมดจนต้องมาไล่อากาศใหม่เองอีกครั้ง   แต่ก็ไม่ได้โทษช่างในการคำนวณแต่สงสัยว่าทำไมช่างไม่ยอมใช้วิธีไล่อากาศแบบร้านหม้อน้ำเท่านั้นเอง

ต๋อง_มาบตาพุด:
 :sd23:มาเก็บข้อมูลครับ :L2900:

นายอ้น:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ พี่ๆ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version