Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

หนูขาวเข้าห้องทดลอง ... ตอนอะไหล่ในการเปลี่ยนสายพาน Timing

(1/25) > >>

ตูมตาม:
สวัสดีรอบวงพี่ๆทุกท่าน หนูขาวกลับมาอีกแล้วคราวนี้ไปทดลองเปลี่ยนสายพาน Timing มา ... เลยเอาผลการทดลองมาฝากพี่ๆทุกคนครับ

ขอเกริ่นอดีตซักนิดนึงนะครับ .... ผมซื้อรถปาเจโร่มา ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์เลย เครื่องยนต์ดีเซลนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเป็นคันแรกที่ซื้อมาใช้เอง นอกนั้นจะมีของพี่ ของน้อง ของญาติ ก็เคยยืมๆเขามาขับ แต่ไม่ได้ศึกษาอะไร ยิ่งชิ้นส่วนโน่นนี่นั่นในเครื่องนี่ยิ่งไม่รู้เรื่อง เจ้าสายพาน Timing ก็เช่นกัน ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อนเลย

ผมมารู้จักเจ้าสายพาน Timing ครั้งแรก เมื่อตอนเอารถเข้าไปเช็ค4หมื่น หรือ5หมื่น กม. นี่แหละครับจำไม่ได้ วันนั้นก็เอารถไปเข้าศูนย์เช็คระยะตามปกติ หลังจากเดินทักทายฝ่ายรับรองลูกค้า ฝ่ายอะไหล่แล้วก็เดินเรื่อยไปยังพื้นที่บริการ ทักทายช่างซักเล็กน้อย สายตาเหลือบไปเห็นน้องปาสีดำคันนึงจอดอยู่ ดูจากภายนอกก็แต่งมานิดหน่อย ล้อโตได้ใจ เท่าที่จำได้น่าจะล้อ 20 ยางน่าจะเป็นพวก AT ดอกใหญ่ๆ จำไม่ได้ว่ายี่ห้ออะไร มีผ้าพลาสติกกันเปื้อนวางไว้รอบบริเวณหน้ารถ ผมก็เลยเดินไปดู คิดว่าคันนี้เขาทำอะไรเยอะแยะหนอ ... สิ่งที่เห็นทำเอางงครับ คือมันไม่มีเครื่องอยู่ เครื่องถูกยกหายไป ตอนนั้นคิดเลยว่า OMG มันเกิดอะไรขึ้นกับน้องปาคันนี้ถึงขนาดต้องรื้อเครื่องออกไปเลย

จากการสอบถามช่างทราบว่า "สายพาน Timing ขาด" .... เลยถามช่างว่ามันคืออะไร ยังงัย จนทราบว่า สายพาน Timing ในน้องปา 2.5 เรานั้นมีอายุการใช้งานได้ประมาณ 100000 กม. คือตามคู่มือจะให้เปลี่ยนที่ 100000กม. น้องปาสีดำที่เห็นนั้นสายพาน Timing ขาดที่ 99000 กม. อยู่ระหว่างรอซ่อม เคลมทางศูนย์ใหญ่แล้ว

ครั้งนั้นหัวหน้าช่างมาคุยด้วย โดยมาเตือนผมว่า น้องปาที่แต่งเครื่อง ติดกล่อง ล้อโต พวกนี้ควรเปลี่ยนสายพาน Timing ก่อนแสนโล เพราะมีการเค้นเครื่อง เค้นรอบ เพื่อความปลอดภัยให้เปลี่ยนก่อนแสนโลซักหน่อย เพราะถ้าขาดขึ้นมาแล้วศูนย์ใหญ่ไม่ให้เคลม จะต้องมาออกค่าใช้จ่ายเองงานจะเข้า

ตั้งแต่วันนั้นผมก็จำไว้ตลอดว่าถ้าวิ่งไปซัก 90000 กม. จะจัดการเปลี่ยนสายพาน Timing ก่อน ไม่รอจนถึงแสนโล เมื่อเข้าใกล้ระยะเป้าหมาย ผมก็เริ่มเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนสายพาน Timing โดยยังไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนที่ศูนย์ หรือจะไปทำข้างนอก สิ่งที่พยายามเก็บข้อมูลคืออะไหล่ที่เปลี่ยนว่ามันต้องใช้อะไหล่อะไรบ้าง ถามๆช่างกับฝ่ายอะไหล่ดู ก็เหมือนมันจะมี set มาให้เลยนะว่าเปลี่ยนสายพาน Timing นี่ต้องใช้อะไหล่อะไรบ้าง ถ้ามาเป็นชุด Happy Meal แบบนี้ก็คงไม่ต้องห่วง (ตอนนั้นคิดอย่างนั้น) แต่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเลยแอบส่องๆข้อมูลเกี่ยวกับอะไหล่ที่ใช้ในการเปลี่ยนสายพาน Timing มาตลอด

ตูมตาม:
ข้อมูลแรกสุดที่ได้รับมา มาจากกระทู้ในบ้านเรานี่แหละครับ พี่ตุ้ย Yindee เอามาลงไว้ตอนที่พี่เขาไปเปลี่ยนมา หน้าตาที่เห็นก็เป็นแบบนี้



นี่เป็นรายการที่เปลี่ยนไปสำหรับรถพี่ตุ้ย ผมก็ดูๆแล้วก็แบบเออๆๆๆ ไม่รู้เรื่อง save รูปเก็บไว้ก่อน ไม่ได้คิดไรมาก คิดว่านี่ก็คงเป็น set happy meal ประมาณนี้ อู่นี้ก็ดังเรื่องทำมิตซูอยู่แล้วก็คงชำนาญหละ ... เวลาก็ผ่านไป เจ้ารูปรายการอะไหล่นี้ก็เก็บไว้ในคอมนี่แหละครับ ไม่ได้สนใจเอาขึ้นมาดูหรอก ... จนเช็คระยะ 90000 กม. หัวหน้าช่างที่ศูนย์มาสะกิดว่าอย่าลืมเปลี่ยนสายพาน Timing นะ ใกล้จะแสนโลแล้ว .... เออ จริง 90000 กม. อย่างที่ตั้งใจไว้ ผมก็เลยเดินไปที่ฝ่ายอะไหล่ สอบถามเรื่องอะไหล่ที่จะต้องเปลี่ยนตอนเปลี่ยนสายพาน Timing มีอะไรบ้าง ก็ได้รับข้อมูลมาเป็นแบบนี้



ผมก็ชักจะเริ่มเอะใจนิดๆ ... ทำไมตอนเห็นรายการของพี่ตุ้ย รายการมันดูน้อยๆ สั้นๆเอง มีไม่กี่อย่าง ทำไมรายการของศูนย์มันดูยาวๆ ... ช่วงเวลานั้นเอง พอดีกับพี่ป๊อบโทรมาปรึกษาเรื่องหาที่เปลี่ยนสายพาน Timing เพราะซีลหน้าเครื่องรั่ว ผมก็เลยจัดการนัดช่างที่รู้จักกันให้ วันนั้นพอดีผมนัดช่างไว้ว่าจะเปลี่ยนวาล์วน้ำพอดี เลยนัดให้พี่ป๊อบมาทำต่อจากผมไปเลย ... วันนั้นพอพี่ป๊อบมาถึง ก็เอาอะไหล่มากองรวมไว้เพื่อตรวจสอบ ผมได้เห็นใบรายการอะไหล่ ซึ่งมาเป็นแบบนี้



รายการอะไหล่ยาวพอๆกะของศูนย์เลย แต่เยอะกว่านิดหน่อย เพราะพี่ป๊อบมีทำเพิ่มในการเปลี่ยนวาล์วน้ำ และมีอีกบางรายการที่พี่ป๊อบสั่งมาเพิ่ม รวมๆแล้วเฉพาะเปลี่ยนสายพาน Timing จำนวนอะไหล่ก็คงพอๆกับศูนย์ ... แต่ผมยังติดใจที่ทำไมรายการของพี่ตุ้ยมันมีอะไหล่น้อยกว่าทั้งที่ศูนย์ และที่พี่ป๊อบซื้อมา สอบถามพี่ป๊อบเพิ่มเติมว่า list นี้มาจากไหน พี่ป๊อบเล่าให้ฟังว่าไปที่ร้านอะไหล่แล้วบอกว่าเปลี่ยนสายพาน Timing ร้านอะไหล่จัดมาให้ชุดนี้เลย ผมเริ่มรู้สึกแล้วว่า มันก็คงเป็นชุด Happy Meal นี่แหละ แต่ชุดของแต่ละที่มันจะเหมือนกันหรือเปล่านี่คือปัญหา

พี่เก่ง KKJ:
รอติดตามครับ ส่วนพี่นำโชคของผมได้ไปทำการเปลี่ยนที่ศูนย์
ค่าใช้จ่ายประมาณ14,000(มีเปลี่ยนปั๊มน้ำด้วยครับ)

ตูมตาม:
และสิ่งที่ทำให้ผมเกิดความสงสัยอย่างรุนแรงคือ ตอนที่เช็คอะไหล่ของพี่ป๊อบ ช่างมาเช็คให้ว่าครบหรือไม่ ปรากฎว่าช่างบอกว่ามีอะไหล่ไม่ครบ บอกตรงๆ ตอนนั้นคิดในใจเลยว่า "เวรละ" แสดงว่าชุด Happy Meal ของแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน และไม่รับประกันว่าอะไหล่มันจะครบตามที่ควรจะเปลี่ยน  :L2739: :L2739:

ช่างบอกเพิ่มเติมว่าอะไหล่พี่ป๊อบขาดไป 3 อย่าง .....  :L2739: :L2739: ตั้ง3อย่าง!!!!!!! .... ช่างบอกว่าใน3 อย่างนี้มีอยู่ 1 อย่างที่ควรจะเปลี่ยนแน่ๆ เพราะเป็น O-Ring ที่มันเสื่อมสภาพได้ ดังนั้นเมื่อรื้อแล้วก็ควรเปลี่ยนไปเลย ส่วนอีก 2 ชิ้นนั้นจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนก็ได้ คือถ้าไม่เปลี่ยนก็เอาของเดิมใส่เข้าไป  :sd06: :sd06: :sd06: ... เอาละเว้ยยยย ยิ่งฟังยิ่งงง มันมีอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยน และไม่เปลี่ยนก็ได้ด้วยเหรอ  :L4391: :L4391: :L4391:

ก่อนจะไปกันต่อ มาดูอะไหล่ที่พี่ป๊อบขาดวันนั้นกันก่อน

ตัวแรกนะครับ เป็น O-Ring ลักษณะเป็นยางกลมๆ ซึ่งดูลักษณะแล้วมันก็เสื่อมสภาพได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นยาง อันนี้แหละครับที่ช่างบอกว่าควรจะเปลี่ยนไปเลย ไหนๆก็รื้อออกมาแล้ว อะไหล่ตัวนี้ช่างไปหามาให้พี่ป๊อบครับ



ตัวต่อมาเป็นสเปเซอร์สำหรับลูกรอกบาลานส์ ลักษณะเป็นโลหะกลมๆแบบนี้ ติดอยู่กับลูกรอกบาลานส์ เหมือนเป็นตัวปรับระยะให้ลูกรอกอยู่ในระยะที่เหมาะสม โดยมันจะมีรูอยู่ตรงกลาง ใส่เข้าไปในแกนก่อนเอาลูกรอกใส่เข้าไป ตัวนี้ช่างบอกว่าถ้าไม่มีมาไม่ต้องเปลี่ยนก็ได้ ส่วนใหญ่ก็จะใส่ของเดิมกลับไปให้ ผมถามว่าของเดิมมันจะมีปัญหาหรือเปล่า ช่างบอกว่าส่วนใหญ่ไม่มี แต่สเปเซอร์ที่ใช้แล้วจะเกิดเป็นรอยบากรอบตัวมัน ซึ่งสามารถกลับหัวกลับหางกลับมาใช้ใหม่ได้  :sd06: :sd06: มีแบบนี้ด้วยอะ  :sd06: :sd06: :sd06: อะไหล่ตัวนี้โชคดีที่ช่างหามาให้พี่ปีอบได้เช่นกัน (ของเก่าของใหม่เดี๋ยวต่อไปผมมีถ่ายรูปเปรียบเทียบให้ดูนะครับว่าไอ้เจ้ารอยบากที่ว่ามันเป็นยังงัย)



ตัวสุดท้ายเป็น Sleever Balancer ซึ่งก็คล้ายๆเจ้าสเปเซอร์นี่แหละครับ แต่เล็กกว่าและอยู่กับรอกอีกตัว (คนละตัวกับสเปเซอร์) ตัวนี้ก็เช่นกันเปลี่ยนหรือไม่ก็ได้ ถ้าไม่เปลี่ยนก็เอาของเดิมมาใช้ มีรอยบากเช่นกันถ้าเป็นของเดิม

ตูมตาม:
บอกตรงๆว่าหลังจากได้รับข้อมูลที่ว่ามาแล้วผมรู้สึกไม่มั่นใจเลย สำหรับอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนแน่ๆนั้นไม่มีปัญหาผมคิดว่าทุกที่คงเปลี่ยนหมด แต่ไอ้ที่ต่างกันคงเป็นเจ้าอะไหล่ที่เรียกว่า "ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน" นี่แหละครับที่น่ากลัว คือสำหรับผมแล้ว ความจำเป็นในการเปลี่ยนอะไหล่พวกนี้เป็นเรื่องนึง แต่การจะเปลี่ยนไม่เปลี่ยนเป็นอีกเรื่องนึง

คือตามหลักการแล้วอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน มันยังใช้ได้ (แม้จะใช้เทคนิคในการกลับหน้ากลับหลังอะไรก็แล้วแต่) แต่การจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนนั้นน่าจะเป็นสิ่งที่เจ้าของรถน่าจะได้ตัดสินใจ เพราะอะไหล่พวกนี้ชิ้นไม่ใหญ่โต ราคาไม่ได้แรง แต่ถ้าต้องมาเปลี่ยนอีกรอบนี่งานใหญ่เลย เพราะต้องรื้อระบบสายพานออกมาทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนมัน งานช้างเลยนะนั่น ลองนึกดูว่าเราเปลี่ยนสายพาน Timing ที่แสนโล สมมติว่าไม่ได้เปลี่ยนเจ้าสเปเซอร์ กับ สลิฟเวอร์ แล้วมันมาเสียที่ 150000 โล เราก็ต้องรื้อชุดสายพานทั้งหมดออกมาเพื่อมาเปลี่ยนเจ้า 2 ตัวนี้อีก โดนค่าแรงอีก เสียเวลาต่างหาก (ทำทีก็หลายชั่วโมง)

ยิ่งเลวร้ายกว่านั้น อะไหล่พวกนี้เมื่อได้ชื่อว่า "ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน" แสดงว่าต่อให้ไม่เปลี่ยนมันก็ไม่ส่งผลอย่างรวดเร็ว หรือทันที อาจจะใช้ได้ไปอีกนาน หรือซักพัก อันนี้แล้วแต่บุญกรรม แล้วถ้าในรายการตอนเปลี่ยนสายพาน Timing บอกว่าเปลี่ยนแล้ว จ่ายเงินไปแล้ว แต่จริงๆช่างไม่ได้เปลี่ยน เอาอะไหล่เดิมใส่กลับเข้าไป ส่วนอะไหล่ใหม่ก็ไหลไปกับสายน้ำ เราก็ไม่มีวันรู้เพราะมันเล็กนิดเดียว มองก็ไม่เห็น แถมไม่ส่งผลทันทีอีก ขับต่อไปอีก 5-6 หมื่นโล มันเกิดเสีย เราก็ไม่รู้อยุ่ดีว่ามันไม่ได้เปลี่ยนให้จริงๆตอนเปลี่ยนสายพาน

ไอ้อาการคลุมเคลือแบบนี้แหละครับที่ไม่ชอบเลย ถ้ามันมีอะไหล่ประเภทนี้อยู่ ศูนย์หรืออู่ก็ควรจะแจ้งลูกค้าไปเลยว่ามีอะไหล่ประเภทนี้ ให้ลูกค้าตัดสินใจเองว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ผมว่าน่าจะยุติธรรมกับลูกค้ามากกว่านะ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version