Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications
ผลเสียการอุดEGR ใช่หรือไม่ ในปาเจ จะเป็นอย่างไร?
ตูมตาม:
--- อ้างจาก: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 9 มกราคม 2014, 10:43:42 ---อ่านตรงอธิบายเรื่องช่วยให้รถแรง ทำไมตอบแบบทะแมร่งๆ
แรงดันไอเสียที่ปล่อยย้อนกลับมาลำพังแค่นั้นคงไม่ถึงกับทำให้เทอร์โบรอบลดลงได้มากเท่าไหร่แล้วกรณีที่แรงดันไอเสียมากจนเวสเกจเปิดทิ้งละแบบนี้ก็แสดงว่าเกินและส่วนที่เกินเอากลับมาเผา แบบนี้ก็แรงไม่ตกอะดิ
แต่ถ้ามองตามนี้ว่า ปริมาณความหน้าแน่นของอากาศ+ไอดีผ่านมาในท่อขนาดหน้าตัดเท่าท่ออินเตอร์ขาออกวิ่งเข้าไปรอการเผาไหม้ กับ ปริมาณความหน้าแน่นของอากาศ+ไอดี+ไอเสียที่วนกลับมา ผ่านมาในท่อขนาดหน้าตัดเท่าท่ออินเตอร์ขาออกวิ่งเข้าไปรอการเผาไหม้ พี่ๆว่าแบบไหนจะนำไปสันดาปแล้วได้แรงระเบิดเป็นพลังงานกลมากกว่ากัน และถ้าทำแบบต่อเนื่องๆๆๆในจังหวะสันดาปละ แบบไหนจะให้ผลดีกว่ากัน
แรงดันที่ได้มีมาก การระเบิดรุ่นแรง ไอเสียมีมาก แรงดันทิ้งสูง ปั่นเทอร์โบได้แรง(ยิ่งยกบูสยิ่งหมุนแรงและนาน) กำลังเข้าใหม่ก็เยอะและเร็ว หากการวนลูปของขบวนการนี้ไม่มีไอเสียฝากมาเผาทิ้ง แบบนี้น่าจะให้ผลดีกว่ามาก จิงป่ะ
จิรงๆแล้วถ้าไม่สามารถขับรถได้ตามที่เขาออกแบบ ลากรอบได้สุดเกียร์ ตลอดเวลาก็อุดไปเถอะครับ ดีกว่ามานั่งบำรงรักษาตามกำหนดเพราะเราใช้รถในเมืองทำรอบไม่ได้มีแต่การเดินเบาสะสมจนเกิดกรณีเช่นนั้น
เทคโนโลยีออกแบบมาดี ถ้าใช้ได้ตามเทคโนโลยีก็ไม่ต้องอุด และถ้าอุดก็ไม่ต้องไปหาตำรามาถกเถียงกันว่าแผ่นแค่300บาท กับการออกแบบEGRมูลค่ากว่าหลายบาทออกแบบมาทำไม แบบนี้ต้องถามว่าแล้วคุณซื้อรถที่มีเทคโนโลยีสูงๆมาใช้ในเมืองกันทำไม ซื้อทั้งทีต้องเครื่องยนต์เทอร์โบ ต้องเทอร์โบVG ต้องมีเกียร์พิเศษ ต้องมีระบบกันไหล กันแรด สุดท้ายจอดดมควันกันในเมืองหลวงทั้งนั้น พอออกต่างจังวัดทีก็ไม่ค่อยจะกด จะเร่งกัน จะตกแต่งเพิ่มเติมกล่องกันก็กลัวจะหมดประกัน สรุปทั้งหมดคือความกังวลเพราะอ่านกระทู้ที่เขาถกเถียงกัน ไม่ได้ไปอ่านหลักการออกแบบและความกว้าหน้าของเทคโนโลยีและการเรียนรู้ปรับตัวที่จะอยู่กับเทคโนโลยี
อ่านกระทู้พวกนี้ทีไร มันขึ้น อ่ะ มันขึ้น :sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:
ขออภับมุณี
:sd23:
--- End quote ---
มาเพิ่มเติมข้อมูลต่อจากข้อมูลของพ่อมดซักนิดนึง ... อย่าถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ... บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบมา
การนำ EGR เข้ามาใช้งานในเครื่องยนต์ มักถูกอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง เพื่อเผาไหม้ไอน้ำมันที่อยู่ในไอเสียให้หมด นัยว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในแง่ของลดไอน้ำมันที่ออกไปกับไอเสีย และช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะเอาไอน้ำมันในไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่
ประเด็นมันอยู่ที่ แล้วทำไมเครื่องยนต์ไม่เผาน้ำมันให้หมดไปในครั้งเดียว หรือก็คือการทำให้เกิดการสันดาบที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อไม่ให้ไอน้ำมันเหลือออกมาเลยตั้งแต่ต้น สามารถทำได้หรือไม่ ... คำตอบคือ ทำได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ขนาดเอาน้ำมาเติมให้รถยังวิ่งได้ ถ้าคนซื้อไม่กลัวระเบิดไฮโดรเจน (เป็นเทคโนโลยีการแยกธาตุของน้ำคือ H2O โดยแยกเอา ไฮโดนเจนออกมาเป็นเชื้อเพลิง และ อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาปสมบูรณ์) แล้วทำไมกะอีแค่ทำให้เผาไหม้น้ำมันให้หมดจะทำไม่ได้ การสันดาปที่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเยอะ และเป็นการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากกว่ามาก โดยหลักการบริษัทผลิตรถก็รู้ เทคโนโลยีก็มี แต่จะทำหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง
การสร้างเครื่องยนต์ที่สันดาปได้สมบูรณ์จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานสูง เพราะการสันดาปที่สมบูรณ์ทำให้เกิดพลังงานและความร้อนที่สูงกว่า วัสดุต่างๆที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ย่อมต้องมีคุณภาพและความทนทานอย่างมาก รวมถึงระบบระบายความร้อนที่จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นทุนการผลิตที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็อาจจะไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นการผลิตเครื่องยนต์ให้สันดาปได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงขนาดสมบูรณ์ แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาเพื่อให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ผู้ซื้อพอใจจึงกลายเป็นทางเลือกที่ Happy กันทุกฝ่าย การนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ โดยผ่าน EGR นั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณอากาศดีน้อยลง อ๊อกซิเจนลดลง การเผาไหม้ก็ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นหากนำระบบ EGR เข้ามาใช้ เครื่องยนต์ที่ผลิตขึ้นมาก็สามารถลดความทนทานลงได้บ้าง รวมถึงระบบระบายความร้อนก็สามารถลดลงตามไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งช่วยในการลดต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังนั้นการนำระบบ EGR เข้ามาใช้จึงทำให้สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานที่ลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีความทนทานในระดับที่รองรับการใช้งานได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ระบบ EGR ยังใช้งานอยู่
ดังนั้นการอุด EGR ซึ่งทำให้ไอเสียไม่สามารถกลับเข้ามาในระบบเผาไหม้นั้นจึงเป็นการทำให้ได้พลังงานจากการเผาไหม้ที่มากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือระดับความร้อนที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่ผลิตมานั้น คำนวนค่า Safety Factor เมื่อเปิดระบบ EGR ใช้งานอยู่ ดังนั้นการได้พลังงานที่มากขึ้นจากการอุด EGR ก็เป็นเหมือนการลด Safety Factor ของเครื่องให้ลดลง
ดังนั้นการอุดหรือไม่อุด EGR นั้นขอให้คิดใน 2 ด้าน
ด้านหนึ่งนั้น การอุดทำให้ได้พลังงานที่มากขึ้น ท่อร่วมไอดีสะอาดมากขึ้น การดูแลรักษาในส่วนของ EGR ลดลง และไม่ต้องมาล้างท่อไอดีให้เสียเงินเสียทอง
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ขอให้คำนึงไว้เสมอว่าการอุด EGR ทำให้ safety factor ของเครื่องยนต์ลดลง อะไหล่ส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับพลังงานและความร้อนสูงจากการอุด EGR อาจมีการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุยาวนาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดจากผู้ใช้ไม่เข้าใจผลกระทบของการอุด EGR อย่างคบถ้วน อุดแล้ว แต่การบำรุงรักษาทำแค่ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด (เขากำหนดตามการคำนวนว่าผู้ใช้ไม่อุด EGR) หรือบางที่แย่กว่านั้นคือไม่บำรุงรักษาตามที่กำหนดด้วย เมื่อมีอะไหล่บางส่วนพังเสียหาย ก็โทษว่ารถไม่ดี ผลิตไม่ดี แค่นั้น
นี่คือสิ่งที่ฟังพรายกระซิบมา
:L4399: :L4399:
ส่วนตัวผมนั้น อุด EGR ไปตอนประมาณไม่กี่พันกิโลเมตร และทำการบำรุงรักษามากกว่าปกติตามที่บริษัทกำหนด อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา ผมจะเปลี่ยนก่อนกำหนด รวมถึงของเหลวต่างๆนั้นผมก็จะเปลี่ยนก่อนกำหนดเสมอ เพื่อชดเชย Safety Factor ของเครื่องที่ลดลงด้วย
กิต <Black Angel>:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ :L2758:
มันช่างต่างจากยุคแรกๆที่โต้เถียงกันด้วยข้อมูลผิวๆ รักสิ่งแวดล้อมจริงคงต้องถอยจักรยานแทนการถอยรถยนต์แล้วมัง :L2754:
พี่โต (1007):
ผมก็ได้อุดมาตอนงานมิตติ้ง ซิ่งสายฟ้า ที่ IFRIT วันนี้ว่าจะอุดเพิ่มครับที่พี่ป๊อปส่งมาให้ รวมล้างท่อรวมไอดีด้วยครับ :L2901:
บ๋อม Bom:
ยิ่งอ่าน ยิ่งติดตาม ยิ่งได้ความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณพี่ตาม และพรายกระซิบคับ
ดีใจที่ได้เข้ามาเป็นส่วนเล็กๆ ของบ้านหลังนี้ ^__^
จากที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจในระบบเครื่องยนต์
เริ่มเรียกชื่อได้บ้าง ค่อยๆ อ่าน ถาม ประสบการณ์ จากพี่ๆ
เข้าใจมากขึ้น และจะติดตามไปเรื่อยๆ อบอุ่น จริงๆ คับ
Goodboy:
--- อ้างจาก: ตูมตาม ที่ 15 สิงหาคม 2014, 10:19:15 ---มาเพิ่มเติมข้อมูลต่อจากข้อมูลของพ่อมดซักนิดนึง ... อย่าถามว่าเอาข้อมูลมาจากไหน ... บอกไม่ได้ เอาเป็นว่ามีพรายกระซิบมา
การนำ EGR เข้ามาใช้งานในเครื่องยนต์ มักถูกอ้างว่าเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นการนำเอาไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่อีกครั้ง เพื่อเผาไหม้ไอน้ำมันที่อยู่ในไอเสียให้หมด นัยว่าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมในแง่ของลดไอน้ำมันที่ออกไปกับไอเสีย และช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะเอาไอน้ำมันในไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่
ประเด็นมันอยู่ที่ แล้วทำไมเครื่องยนต์ไม่เผาน้ำมันให้หมดไปในครั้งเดียว หรือก็คือการทำให้เกิดการสันดาบที่สมบูรณ์ที่สุดเพื่อไม่ให้ไอน้ำมันเหลือออกมาเลยตั้งแต่ต้น สามารถทำได้หรือไม่ ... คำตอบคือ ทำได้ เทคโนโลยีสมัยนี้ขนาดเอาน้ำมาเติมให้รถยังวิ่งได้ ถ้าคนซื้อไม่กลัวระเบิดไฮโดรเจน (เป็นเทคโนโลยีการแยกธาตุของน้ำคือ H2O โดยแยกเอา ไฮโดนเจนออกมาเป็นเชื้อเพลิง และ อ๊อกซิเจนเป็นตัวช่วยให้เกิดการสันดาปสมบูรณ์) แล้วทำไมกะอีแค่ทำให้เผาไหม้น้ำมันให้หมดจะทำไม่ได้ การสันดาปที่สมบูรณ์จะมีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าเยอะ และเป็นการใช้พลังงานที่คุ้มค่ามากกว่ามาก โดยหลักการบริษัทผลิตรถก็รู้ เทคโนโลยีก็มี แต่จะทำหรือไม่นั้นคืออีกเรื่องหนึ่ง
การสร้างเครื่องยนต์ที่สันดาปได้สมบูรณ์จะต้องเป็นเครื่องยนต์ที่มีความทนทานสูง เพราะการสันดาปที่สมบูรณ์ทำให้เกิดพลังงานและความร้อนที่สูงกว่า วัสดุต่างๆที่ใช้ผลิตเครื่องยนต์ย่อมต้องมีคุณภาพและความทนทานอย่างมาก รวมถึงระบบระบายความร้อนที่จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถระบายความร้อนได้ทัน ซึ่งนั่นหมายความว่าต้นทุนการผลิตที่จะต้องเพิ่มขึ้น ในขณะที่ผู้ซื้อเองก็อาจจะไม่พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงขึ้น
ดังนั้นการผลิตเครื่องยนต์ให้สันดาปได้ดีในระดับหนึ่ง ไม่ต้องถึงขนาดสมบูรณ์ แต่สามารถลดต้นทุนการผลิตลงมาเพื่อให้สามารถขายได้ในระดับราคาที่ผู้ซื้อพอใจจึงกลายเป็นทางเลือกที่ Happy กันทุกฝ่าย การนำไอเสียกลับมาเผาไหม้ใหม่ โดยผ่าน EGR นั้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ เพราะปริมาณอากาศดีน้อยลง อ๊อกซิเจนลดลง การเผาไหม้ก็ไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้พลังงานและความร้อนที่เกิดขึ้นลดลงตามไปด้วย ดังนั้นหากนำระบบ EGR เข้ามาใช้ เครื่องยนต์ที่ผลิตขึ้นมาก็สามารถลดความทนทานลงได้บ้าง รวมถึงระบบระบายความร้อนก็สามารถลดลงตามไปด้วย เป็นส่วนหนึ่งช่วยในการลดต้นทุนการผลิตที่ลดลง ดังนั้นการนำระบบ EGR เข้ามาใช้จึงทำให้สามารถผลิตเครื่องยนต์ได้ในต้นทุนที่ต่ำลง แต่ก็ต้องแลกกับความทนทานที่ลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีความทนทานในระดับที่รองรับการใช้งานได้อย่างปกติ ตราบเท่าที่ระบบ EGR ยังใช้งานอยู่
ดังนั้นการอุด EGR ซึ่งทำให้ไอเสียไม่สามารถกลับเข้ามาในระบบเผาไหม้นั้นจึงเป็นการทำให้ได้พลังงานจากการเผาไหม้ที่มากกว่า และสิ่งที่ตามมาคือระดับความร้อนที่เกิดขึ้นสูงตามไปด้วย แต่อย่าลืมว่าเครื่องยนต์ที่ผลิตมานั้น คำนวนค่า Safety Factor เมื่อเปิดระบบ EGR ใช้งานอยู่ ดังนั้นการได้พลังงานที่มากขึ้นจากการอุด EGR ก็เป็นเหมือนการลด Safety Factor ของเครื่องให้ลดลง
ดังนั้นการอุดหรือไม่อุด EGR นั้นขอให้คิดใน 2 ด้าน
ด้านหนึ่งนั้น การอุดทำให้ได้พลังงานที่มากขึ้น ท่อร่วมไอดีสะอาดมากขึ้น การดูแลรักษาในส่วนของ EGR ลดลง และไม่ต้องมาล้างท่อไอดีให้เสียเงินเสียทอง
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น ขอให้คำนึงไว้เสมอว่าการอุด EGR ทำให้ safety factor ของเครื่องยนต์ลดลง อะไหล่ส่วนอื่นๆที่ไม่ได้ออกแบบมาให้รองรับพลังงานและความร้อนสูงจากการอุด EGR อาจมีการเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะต้องทำมากกว่าปกติ เพื่อให้เครื่องยนต์มีอายุยาวนาน
ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดจากผู้ใช้ไม่เข้าใจผลกระทบของการอุด EGR อย่างคบถ้วน อุดแล้ว แต่การบำรุงรักษาทำแค่ตามที่บริษัทผู้ผลิตกำหนด (เขากำหนดตามการคำนวนว่าผู้ใช้ไม่อุด EGR) หรือบางที่แย่กว่านั้นคือไม่บำรุงรักษาตามที่กำหนดด้วย เมื่อมีอะไหล่บางส่วนพังเสียหาย ก็โทษว่ารถไม่ดี ผลิตไม่ดี แค่นั้น
นี่คือสิ่งที่ฟังพรายกระซิบมา
:L4399: :L4399:
ส่วนตัวผมนั้น อุด EGR ไปตอนประมาณไม่กี่พันกิโลเมตร และทำการบำรุงรักษามากกว่าปกติตามที่บริษัทกำหนด อะไหล่ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา ผมจะเปลี่ยนก่อนกำหนด รวมถึงของเหลวต่างๆนั้นผมก็จะเปลี่ยนก่อนกำหนดเสมอ เพื่อชดเชย Safety Factor ของเครื่องที่ลดลงด้วย
--- End quote ---
ขอบคุณความรู้มากๆๆครับพี่พี่ปามาเนีย. :sd23:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version