Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications
นำส่วนผสม...กล่องข้าวน้อย2 มาพักไว้ก่อน (รอพี่อ๊อดมาปรุงใหม่)
พี่นะ [Na ratchada]:
แบบที่ 2 : กล่อง Controlor + ท้ายราง
ก่อนการติดตั้ง
- ตรวจสอบค่าต่างๆและการทำงานของเครื่องยนต์ ( 15-30 นาที )
- วิเคราะห์ ปรับแต่งแก้ไขความผิดปกติ ก่อนติดตั้ง (ถ้ามี)
- ทำการติดตั้งกล่องแบบ plug ไม่มีการตัดสายไฟใดๆ ใช้ต่อไฟจาก port OBD
- ทำการติดตั้งท้ายรางแท้ ด้วยค่าเฉพาะของรถแต่ละคัน ด้วยวิธีการเฉพาะ ( 2 ชม) เพราะสำหรับเครื่อง Pajero ต้องรื้อเยอะมาก
การปรับจูน
- ที่ทดสอบและลองเล่นกันมาคือ กราฟสูตร 27 (สูตร 29 ดีกว่า แต่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ click down หายไป เกียร์เปลี่ยนช้า การเปลี่ยนเกียร์ไม่
เนียนกระตุกเพราะแรงดันสูง จึงพอใจที่สูตร 27 นี้ )
- การปรับจูนสามารถจูนได้สูงกว่าแบบ 1 เพราะสามารถเล่นแรงดันสูงได้
ผลการใช้งาน
การออกตัวดีกว่าเดิมมากๆ อาการรอรอบไม่มีเลยสามารถกดแบบชู๊ดออกตัวได้เลยและต่อเนื่องเกียร์ไปเลย
มีความกระฉับกระเฉงในช่วงต้นดีมากๆ ทำให้ให้รู้สึกแตกต่างจากแบบ 1 อย่าเห็นได้ชัด อาจมีผลมาจากการปรับจูนแรงดันที่สูงมากขึ้น การขับต่อเนื่องเปลี่ยนเกียร์ยังให้ความนุ่มนวลได้เพราะกล่องประเภทนี้ได้เปรียบที่ดึงกราฟแต่ละช่วงได้ ช่วงกลางไหลต่อเนื่องได้ดีกว่าเดิมมากๆ ความเร็วช่วงเลย 120 ไปแล้ว ไหลเร็วขึ้นแบบถูกใจทีเดียวเชียว กดเบาๆเติมเนียนๆเบาเท้าโดยไม่ต้องเค้นแต่อย่างใด ความเร็วปลายไหลยาวต่อเนื่อง 160-170-180+ ได้เร็วและดีกว่าแบบที่ 1 การตอบสนองทุกช่วงความเร็วรู้สึกตึงฝ่าเท้าไปหมด กดก็มา ปล่อยก็ลง กดก็มา ย้ำก็ไป ประมาณนั้นเลยครับ
จังหวะ Click down
สามารถเล่นได้ตลอด แบบกระฉับกระเฉงดีมาก กดทีพุ่งปรู๊ด ไหลยาวต่อเกียร์ทยานขึ้นหาความเร็วปลายแบบเจ้าของรถน่าจะเรียกได้ว่าชอบเลยแหละ การย้ำกระแทกคันเร่งช่วงความเร็วยังมี click down อีกดอก เล่นไปเลยไม่มีร่วง สามารถตอบสนองตามอารมณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติได้ดีมากอีกด้วย
ทุกจังหวะของการเร่งแซงในช่วง 60 - 80 -100 เป็นไปอย่างใจต้องการกับเครื่อง 2500 มาแบบเต็มๆ ตอบสนองฝ่าเท้าได้ทุกจังหวะที่กดลงไป
ความเงียบของเครื่องยนต์และเสียงเขก พบบ้างเล็กน้อยในช่วงกดคันเร่งช่วง 40-60 แต่ไม่สังเกตุไม่น่าจะฟังออก เสียงเครื่องโดยรวมเบาแรงกว่ากล่องที่เคยเล่นกันมา รอบเครื่องเดินเบานิ่งสนิทดี
Note : สำหรับเพื่อสมาชิกที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์แบบเต็มและอยู่ในพิกัดปลอดภัยต่อเครื่องยนต์ ผมแนะนำใช้แบบ 2 นี้ จบเลยครับ และจะแนะนำให้จบแบบนี้เลย ส่วนราคาและการติดตั้งต้องพิจารณาเอาจากข้อมูลที่ได้รับ หรือจากที่คุณอ่านเจอมาจากที่ที่คุณสนใจ
พี่นะ [Na ratchada]:
แบบที่ 3 : กล่อง Controlor + ท้ายราง + รองแหวน + หัวฉีด 947D
ก่อนการติดตั้ง
- ตรวจสอบค่าต่างๆและการทำงานของเครื่องยนต์ ( 15-30 นาที )
- วิเคราะห์ ปรับแต่งแก้ไขความผิดปกติ ก่อนติดตั้ง (ถ้ามี)
- ทำการติดตั้งกล่องแบบ plug ไม่มีการตัดสายไฟใดๆ ใช้ต่อไฟจาก port OBD
- ทำการติดตั้งท้ายรางแท้ ด้วยค่าเฉพาะของรถแต่ละคัน ด้วยวิธีการเฉพาะ ( 2 ชม) เพราะสำหรับเครื่อง Pajero ต้องรื้อเยอะมาก
- ทำการรองแหวนเวสเกจ
- ถอดฝาเครื่องและเปลี่ยนหัวฉีด ขั้นตอนกระบวนการตวงน้ำมัน ( 2 ชม.)
การปรับจูน
- เมื่อมีการปรับเปลี่ยนทางด้านเครื่องยนต์และแมคคานิคแบบตรงประเด็นแล้วคือ การทำให้รถมีประสิทธิภาพดีขึ้นทั้งแรงม้าและกำลัง ก็คือการเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงให้รองรับการ
จุดระเบิด ในระบบดีเซล ดังนั้นไม่จำเป็นต้องจูนหนัก สามารถลดการจูนลงได้ สิ่งที่ได้กลับคืนมาก็คือการเค้นเครื่องยนต์น้อยลง การจ่ายน้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ได้
ประสิทธิภาพที่ดีกว่าโดยการดันรางหรือการปรับจูนกล่องน้อยกว่าเดิม มีผลทำให้ปั๊มทำงานน้อยลง ระบบอื่นๆถูกเค้นน้อยลง อายุการทำงานของเครื่องสึกหรอน้อยกว่า
- ลองกันหลายแบบได้มา 2 สูตร คือ กราฟสูตร 25(แนะนำ)
- กราฟสูตร 30 ( แรงกระจาย + ควันดำมาก)
ผลการใช้งาน
กราฟสูตร 25(แนะนำ) : การออกตัวดีขึ้นกว่าเดิม อาการรอรอบไม่มีเลยสามารถกดแบบชู๊ดออกตัวได้แบบแรงกว่าเห็นๆและต่อเนื่องเกียร์ไปเลย ทั้งที่จูนน้อยกว่า มีความกระฉับกระเฉงในช่วงต้นและอัตราเร่งดีมากๆ ทำให้ให้รู้สึกแตกต่างจากแบบ 2 คนละบุคลิกกัน แรกเลยจับความรู้สึกได้ว่าดึงแรงดึงลึกแต่หน่วง การขับต่อเนื่องเปลี่ยนเกียร์ยังให้ความนุ่มนวลได้ในสูตรนี้ ช่วงกลางรู้สึกหนืดๆ แต่พอสังเกตุความเร็วรถไหลขึ้นเร็ว กว่าวัดรอบ รอบเครื่องเบากว่าจึงทำให้รู้สึกว่ารอบไม่ค่อยเดิน แต่พอมาสังเกตุความเร็วเดินไหลดีคล้ายกับใส่กล่องยกหัวฉีด(รู้สึกจากอาการที่ได้รับ) ความเร็วช่วงเลย 120 ไปแล้ว ไหลเร็วขึ้นโดยรอบเครื่องเดินตามช้าลง กดเบาๆเติมเนียนๆเบาเท้าโดยไม่ต้องเค้น ความเร็วปลายไหลยาวต่อเนื่อง 170-180+ ได้เร็วดี แบบที่ 2 การตอบสนองทุกช่วงความเร็วรู้สึกดี เพียงแตะคันเร่งเบาๆก็สามารถเร่งเปลี่ยนความเร็วขึ้นได้โดยรอบเครื่องขยับน้อยมาก เวลาเปลี่ยนเกียร์รอบเครื่องก็ไม่ตกมากจนรู้สึกได้
จังหวะ Click down
สามารถเล่นได้ตลอด แบบดึงแรงลึก มักมีควันที่ช่วงชู๊ดเกียร์หรือปลายเกียร์ ออกมาเป็นลูกดำแล้วรถพุ่งทะยานออกไป จากนั้นควันก็จะลดลงเปลี่ยนเป็นสีเทาออกมาเรื่อย ตามแรงกระชากและแรงขับเคลื่อนไปตามเส้นทาง หากไม่กดหรือขยี้คันเร่งแบบนี้ ก็จะไม่มีควันให้สังเกตุเห็นได้ เรียกได้ว่าสามารถขับรถได้ 2 อารมณ์และ 2 บุคลิกของรถ การย้ำคันเร่งเพื่อเรียก click down ยังเรียกได้ตลอด เล่นไปเลยไม่มีร่วง สามารถตอบสนองตามอารมณ์การขับขี่ที่เป็นธรรมชาติ ทุกช่วงความเร็วได้ดีมากอีกด้วย
ทุกจังหวะของการเร่งแซงหรือการเปลี่ยนย่านความเร็ว เช่นวิ่งอยู่ 80 จะเปลี่ยนเป็น 110-120 ก็กดเบาๆ ความเร็วขึ้นไปถึงแล้ว แต่รอบเครื่องค่อยๆเพิ่มตามไปเล็กน้อย สังเกตุได้ว่าเวลาขับรถขึ้นตึกอาคารจอดรถใช้แรงเครื่องน้อยกว่า อาจเป็นเพราะพละกำลังที่มากขึ้นจากปริมาณเชื้อเพลิงที่มากตามแต่ใช้ในช่วงเวลาที่น้อยลง ดังนั้นการขับขี่รถที่เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ ต้องระวังเรื่องคันเร่งหน่อยอย่ามันส์มาก เดี๋ยวเปลืองแต่ถ้าขับชิวๆนิ่งๆนั้น ขอบอกว่าใช้รอบต่ำมากและเสียงเครื่องเบากว่าเดิม ย้ายช่วงความเร็วได้เร็วดี กำลังรถดี เวลานั่งหลายคนขับมันส์ กำลังเยอะเหมือนเพิ่ม CC รถเลยตอนนี้ ที่เคยพูดไว้ว่าความประหยัดกับความสิ้นเปลืองมีแก๊บห่างกันนิดเดียว ก็เพราะว่าหากไม่กดมากก็ไม่กินมากหากกดรอบมาความเร็วพุ่งน้ำมันจ่ายเยอะก็สิ้นเปลืองเป็นธรรมดา แต่โดยรวมแล้วผมว่าใช้เวลาแต่ละช่วงสั้นลงและเครื่องยนต์ทำงานน้อยกว่าเดิม ตอนนี้ลองขับเล่นมาทั้งช้า ทั้งเร็ว ยังไม่เห็นความผิดปกติของเกย์น้ำมัน เรียกได้ว่าเหมือนเดิม(ไม่ได้วัดตัวเลข)แต่ทางยาวผมว่าได้เปรียบกว่าชัดเจนแน่นอน ครับ
ความเงียบของเครื่องยนต์
เงียบลงดีกว่าและเสียงเขกหายไป พบบ้างเล็กน้อยในช่วงกดคันเร่งช่วง 60 แต่ไม่สังเกตุไม่น่าจะฟังออก เสียงเครื่องโดยรวมเบาแรงกว่า รอบเครื่องเดินเบานิ่งสนิทดี กำลังเครื่องยนต์สุดตรีน ช๊อบ ชอบ!!!
พี่นะ [Na ratchada]:
Note : สำหรับเพื่อสมาชิกส่วนใหญ่นั้น เข้าใจว่าเป็นรถใหม่และอาจคิดว่าการทำหัวฉีดต้องรอให้มีปัญหาก่อนหรือหมดประกันก่อน ค่อยว่ากัน ยอมรับว่าผมก็คิดบบนั้นแต่พอได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เครื่องมือที่พร้อม คนทำก็พร้อม ประสบการณ์ก็พร้อม สรุปแล้วดีกว่าของที่มีอยู่ในรถผมจึงตัดสินใจทำเลยทั้งที่รถก็ปีแรกเหมือนกัน การแต่งมาถึงจุดนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่คิดหนัก เพียงแต่อยากบอกว่าเราไม่ได้เปลี่ยนเพราะความแรง เราต้องการสิ่งที่ดีและการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ที่ถูกทาง ซึ่งแต่ก่อนเราเล่นกันมาแบบหลอกกล่องมัน หลอกอิเล็ดทรอนิค หลอก sensor ***แต่ตอนนี้ แก๊งค์กระเป๋าแหก เล่นของจริงแล้ว ให้หลอกแต่น้อย รองรับด้วยระบบกลไลและแมคคานิค และเท่าที่ทดสอบก็ได้ผลเป็นไปตามข้อมูลและทฤษฏีที่ได้รับกันมา ทางทีม Support บอกว่าไม่ชอบหรือไม่พอใจ ยินดีเอาของเก่าใส่ให้เหมือนเดิม ถ้าพวกเราต้องการแบบนั้น
***แต่อยากจะบอกว่า ตอนนี้ชอบจัง และใน PJS รุ่นใหม่ก็ใส่หัวฉีด 7 รู ซึ่งมากกว่าเดิมเหมือนกัน
งั้นเราขอล่วงหน้าไปก่อน มากกว่า 7 รูอีก อิ อิ
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนการ review ครั้งนี้
1. ขอขอบคุณ Mr.ประกันภัย ที่สนับสนุนกล่องดันรางคอนโทรลเลอร์ OEM 2 ชุด
2. ขอขอบคุณ IFRIT ที่สนับสนุนปลายหัวฉีดแท้ และท้ายรางแท้ 2 ชุด
3. ขอขอบคุณ ทีมงานIFRIT ที่สนับสนุนเรื่องเทคนิคและการดูแลงานติดตั้งทดสอบ
4. ขอขอบคุณ K.ฉันซ้ง ที่ช่วยเหลือเรื่องวิธีการและการปรับจูน
5. ขอขอบคุณ ทีมงานสนับสนุนอื่นๆ ที่ไม่ประสงค์ออกนาม ในเรื่องเทคนิคต่างๆ
**ทางทีมงานแก๊งค์กระเป๋าแหก จะหาเรื่องแปลกๆ มันส์ๆ มายั่ว ท่านๆ แบบนี้ตลอดไป
**เจอหน้าพวกผม สิ่งแรกที่ควรทำคือ กำกระเป๋าสตางค์ให้แน่นครับ ;D ;D ;D
พี่นะ [Na ratchada]:
ในส่วนของ Step 3 สำหรับรถผม กับพี่อ๊อด Step ต่างกันนะครับ
ทางทีมงาน Ifrit ต้องการผลการทดสอบ Step 3 ว่าตัวไหนน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีและเหนียวที่สุด ( แนวโน้มน่าจะเป็น Step พี่อ๊อด )
แต่ Step ผมนี้จะ Top ไปนิด (ขอเป็นเฉพาะกิจ หรือตามความต้องการพิเศษของลูกค้า บนพื้นฐานตรวจสอบรถก่อนการดำเนินการ และวัดภูมิต้านทานของรถก่อนฉีดวัคซีน ) ครับ เพราะเดี๋ยวแพ้ยาขึ้นมา อาจไม่ได้ดังความต้องการและมีผลข้างเคียง
Step 3.พี่อ๊อด ราชรี
- กล่อง คอนโทรลเล่อร์
- ท้ายราง M4
- แหวน 4 mm
- หัวฉีด 2 cc
- จูนสูตร 27
Step 3.พี่นะ รัชดา
- กล่อง คอนโทรลเล่อร์
- ท้ายราง M42
- แหวน 4 mm
- หัวฉีด 3 cc
- จูนสูตร 25
*** ของผมจูนน้อยกว่า เนื่องจากแมคคานิค รองรับได้มากกว่าและทำงานได้หนัก หน่วง กว่า
แต่โดยรวมให้ฟิลลิ่ง การขับใกล้เคียงกัน(ต่างที่ความหนักหน่วง ดึงลึก) และอัตรเร่งโดยรวมตลอดช่วง เรียกได้ว่าเปลี่ยนบุคลิกรถไปเลย
ความสิ้นเปลือง
ตอนนี้พี่อ๊อด คงกำลังมันส์ ทดสอบการตอบสนอง ส่วนผมมาถึง step ทดสอบการสิ้นเปลืองแล้ว จากเต็มถังผ่านไปครึ่งถังลงมานิดหน่อยแล้ว
- วัดระยะวิ่งได้ 460 โลแล้วกับเครื่อง 2500 ล้อ 20 (ครึ่งถังลงมานิดหน่อย)
- ใช้งานในเมืองพระราม 9 รัชดา พัฒนาการ
- ความเร็วใช้งานประจำวัน 80-90km/h = 40% , 110-130 km/h=30%, 140-170+ km/h = 20-30%
- ปกติผมขับรถเร็วแต่ไม่เค้น
เดี๋ยวสรุปได้แน่ชัด จะลงเป็นข้อมูลอีกครั้ง เบื้องต้นผมให้ผ่านแล้วครับ :sm19: :sm19: :sm19:
พี่นะ [Na ratchada]:
มาว่ากันต่อเรื่องอัตรสิ้นเปลือง ของผมแบบ 3 ( กล่องดันราง + ท้ายราง 42 + แหวน 4 มม. + ปลายหัวฉีดตัว top ) + ล้อ 20
****ขับแบบชิวๆ กับผลการใช้งานจริง ในเมืองรถหนาแน่น แบบดูเกจวัดน้ำมันกันเอง ระหว่างระยะทางที่วิ่งได้กับเข็มน้ำมัน
เริ่มที่เต็มถังพอดี ไม่มีกรอกอัด มาจนถึงขีดแรก 70 km
และลดลงมาเรื่อยๆ ตามตัวเลขที่ทำได้ ขับแบบชิวๆ 60 80 120
สรุปถังนี้ได้ไป 600 โล
***มาต่อถังใหม่ แบบวิ่งตาม Style อยากกดก็กด อยากชิวก็ชิว (ในเมือง) ไม่สนใจ
ผ่านไปครึ่งถัง 340 KM ยังดีอยู่
***โดยรวมแล้ว สำหรับผมยอมรับได้ สรุปทางยาวน่าจะดีกว่า ในเมืองไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ถ้ากดบ่อยผมว่ากินกว่าเดิมแต่ไม่แตกต่างมากนัก กับล้อ 20
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version