การออม คือ การลงทุน
การออม บางตำรา บอกว่า คือ ส่วนต่างระหว่างรายได้และรายจ่ายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่ง (Incomes - Expenses = Saving) แล้วนำมาเก็บสะสมเพื่อไว้ใช้ในอนาคต
ตั้งแต่เด็กผมไม่เคยคิดตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ คิดแค่ว่า ต้องเรียน เพื่อมีความรู้ทำงาน เพื่อให้ได้เงินเลี้ยงชีพ แล้วมักได้ยินผู้ใหญ่บอกเสมอว่า อย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ต้องรู้จักเก็บออม ต้องรู้จักใช้เงิน และเหลือเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น ถ้าเราทำตามนี้ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว แต่ไม่เคยมีใครบอกว่าต้องออมอย่างไร
ในมุมมองของผม ผมมองว่า การบริหารการออมมีความสำคัญมากกว่าการออมมากมายหลายเท่านัก เพราะอะไร ถ้าเรามามองรอบๆตัวเราก็จะเห็นว่า ในการดำรงชีวิตในสังคม ชีวิตมีความเสี่ยงทุกวัน ทั้งจากภายในภายนอก เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทั้งหมดได้ อย่างน้อยตัวเราเองจะแก่ขึ้นทุกวัน สุขภาพก็เสื่อมตามอายุ ข้าวของก็แพงขึ้นทุกวัน นั่นแสดงว่า ถ้าเงินที่เราออม งอกเงยน้อยกว่าราคาข้าวของที่แพงขึ้น มูลค่าของของเงินออมของเราก็จะน้อยลงทุกปี ถ้าวันหนึ่งเราไม่สามารถทำงานได้ไม่ว่าด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม เงินออมที่เราเก็บไว้จะสามารถเลี้ยงเราและครอบครัวได้กี่ปี ผมคิดว่าพ่อแม่สมัยใหม่ ต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักการออมที่เหมาะสมกับตนเอง และ ควรสอนให้ลูกเข้าใจตั้งแต่ยังไม่ทำงาน แน่นอนการหาเงินให้ได้เยอะๆสำคัญ การรู้จักใช้จ่ายและเก็บออมก็สำคัญ แล้วถ้าเราสามารถทำให้เงินที่เราออมงอกเงยขึ้นมาจนเอาชนะเงินเฟ้อ หรือ สามารถเลี้ยงเราได้โดยที่ไม่ต้องมาพะวงกับรายได้จากงานประจำ มันจะวิเศษขนาดไหน
ดังนั้นผมจึง ไม่ คิดว่า การออม คือ แค่การรู้จักเก็บเท่านั้น แต่ผมคิดว่า “การออม คือ การลงทุน “
เนื่องจากช่วง 2-3 อาทิตย์นี้ผมไม่ค่อยว่าง เลยมาแชร์ เรื่องความสำคัญของการออมก่อน สำหรับรายละเอียดของการออมในแต่ละแบบ รวมถึง จุดเด่น-จุดด้วย ในมุมมองของผม จะมาเขียนแชร์ ในครั้งต่อไป ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่นักการเงิน ไม่เคยเรียนเกี่ยวกับการเงิน ดังนั้นเนื้อหาอาจไม่ตรงตามหลักทฤษฎีเท่าไหร่ เนื้อหาที่จะเขียนเป็นเหมือนการมาเล่าสู่กันฟังแบบเพื่อน ในมุมมองของมนุษย์เงินเดือน ตามโจทย์ที่ผมตั้งไว้คือ เราจะออมอย่างไร โดยไม่ผิดกฎหมายและหลักศิลธรรม เพื่อให้เงินทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถเลี้ยงเราได้ในอนาคต หรือถ้าเราโชคดี เงินออมที่งอกเงยมีเพียงพอให้เราใช้จ่ายในแต่ละเดือน จนเราไม่ต้องทำงานประจำ ที่เรียกว่า “มีอิสรภาพทางการเงิน” เราสามารถเอาเวลาที่เหลือไปทำงานอื่นที่เราชอบโดยไม่ต้องมาพะวงเรื่องรายได้จากเงินเดือนอีกต่อไป