เคยโทรมาลักษณะนี้เมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้ง LMG และตามมาด้วย กรุงเทพประกันภัย บอกข้อมูลของเราครบเหมือนกัน แต่ไม่ได้ตอบรับอะไรไป อ้างว่ามีญาติทำอยู่ จะทำกับญาติ ก็วางสายไป เลยเข้าไปศึกษาหาข้อมูล เห็นน่าสนใจดีเลยนำมาฝาก เพื่อเป็นแนวทางกันครับ
ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี เครดิต >>
http://insurancethaicar.blogspot.com/2013/08/which-insurance-pantip.htmlความจริงผมไม่ใช่ผู้รอบรู้หรอกครับว่า “ประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี” เพราะในชีวิตจริงผมไม่ได้เปลี่ยนรถยนต์บ่อย ๆ และตั้งแต่ใช้รถยนต์มาก็ยังไม่เคยเคลมประกันเลย แต่มักมีคำถามกันในลักษณะนี้ (ราวกับสมาชิกใน pantip จะขยันตอบกันซ้ำๆ) จึงลองหาข้อมูลใน pantip และในเว็บบอร์ดต่าง ๆ เท่าที่จะหาได้แล้วเอามาสรุปให้อ่านเป็นแนวทางกัน จึงเป็นที่มาของชื่อบทความที่เห็นนี้
ตามที่ผมเคยเขียนว่า ส่วนใหญ่เรา ๆ ท่านจะถูกบังคับให้เลือกประกันภัยรถจากบริษัทประกันที่เขาทำตลาดร่วมกับไฟแนนซ์ที่ให้บริการเช่าซื้อ ในหัวข้อ ทำประกันภัยรถยนต์ อย่างไรดี แต่เขาใช้คำว่าแถมในปีแรกเพื่อให้มันดูดี ดังนั้น พอถึงเวลาต่อประกันภัยรถยนต์ปีที่ 2 เราก็มักอยากจะเลือกบริษัทประกันภัยที่เราชื่นชอบเอง
เริ่มต้นที่ แนวทางเลือกบริษัทประกันโดยทั่วไป ก่อน
มีคนให้ข้อคิดเห็นสำหรับคนซื้อประกันภัยรถยนต์ให้มองในหัวข้อหลัก ๆ ดังต่อไปนี้1. เมื่อเราเกิดอุบัติเหตุ เราอยากเข้าศูนย์ไหน หรือมีอู่ซ่อมในดวงใจที่ไหน ซึงควรน่าจะมีคำตอบเบื้องต้นไว้
2. ศูนย์หรืออูที่ว่านี้ มีบริษัทประกันภัยรถยนต์ไหนที่เขารับไว้ทำมาค้าขายด้วย คัดเลือกบริษัทประกันภัยมาสัก 3 – 5 เจ้า
3. ตรวจสอบชื่อเสียงบริษัทประกันภัยที่เลือกมา แล้วลดให้เหลือ 2-3 เจ้าก็พอ
4. ตรวจสอบหรือขอการเสนอราคากับโบรกเกอร์ (ตัวแทนหรือนายหน้าจำหน่ายกรมธรรม์) เลือกเอาที่น่าเชื่อถือได้
5. เลือกแบบประกันภัยตามราคาเหมาะกับการใช้งานเรา (ไม่ใช่เอาราคาถูกเข้าว่า เช่น การใช้งานมีความเสี่ยงมากก็ต้องเลือกบริษัทดูแล้วน่า
เชื่อถือกว่าแม้จะแพงกว่าก็ตาม)
**เข้าไปตรวจสอบใน เว็ป สนง. คณะกรรมการกำกับและการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ)
http://www.oic.or.th/th/statistics/index2.phpก็จะบอกรายชื่อบริษัท สาขา สาขาย่อย สาขาเฉพาะ ของบริษัทประกัน >> ตรงนี้จะบอกถึงว่ามาช้า มาเร็ว เพราะมีสาขาย่อยเยอะ **
โดยเบี้ยประกันก็คงเป็นตามกลไกตลาดและการประเมินสภาพความเสี่ยงจากการใช้รถ ถ้าจะสองคำนวณเบี้ยก็ลองดูในข้อ วิธีการคำนวณเบี้ยประกันภัยรถยนต์ แต่ง่ายสุดก็ถามจากโบรกเกอร์ประกันภัย
แนวทางดังกล่าวไม่ได้เฉพาะการต่อประกันภัยรถยนต์ประเภทที่ 1 เท่านั้น ยังประยุกต์ได้กับประกันภัยประเภท 2+ และ 3+ ด้วย เพราะไม่ว่าเป็นรถเก่าหรือใหม่ เมื่อเกิดอะไรขึ้นเราก็อยากจะซ่อมให้มันกลับคืนดังเดิมให้มากที่สุดทั้งนั้นแหละครับ
สถิติความนิยมบริษัทประกันภัย จากการสำรวจปี 2012
อันนี้ก็อบเขามาอีกที เป็นข้อมูลจากนิตยสาร BrandAge ได้ดำเนินการจัดทำผลการสำรวจความเป็นที่นิยมประกันภัยรถยนต์จากผู้บริโภค
ที่กำลังใช้บริการ ประจำปี 2555 ลองมาไว้เป็นแนวครับ เรียงตามลำดับร้อยละของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้บริการประกันภัยที่เห็นด้วย
โดยตัวเลขในวงเล็บจะเป็นร้อยละของปีที่ผ่านมา ดังนี้
1. วิริยะประกันภัย 51.84% (46.62%) ครองตำแหน่งนี้มายาวนานนับ 10 ปี
2. สินมั่นคงประกันภัย 12.40% (14.45%) ครองอันดับนี้มายาวนานตั้งแต่ปี 2550
3. กรุงเทพประกันภัย 7.85% (6.76%) ขยับขึ้นจากปีก่อน
4. มิตรแท้ประกันภัย 6.49% (7.46%) ลดลงจากปีก่อน แต่มักวนเวียนอยู่อันดับ 3 - 5
5. ทิพยประกันภัย 3.29% (4.90%) ลดลงจากปีก่อน
6. อาคเนย์ประกันภัย 2.91% (2.10%) ขยับขึ้นจากปีก่อน
7. ประกันคุ้มภัย 2.81% (3.03%) ลดลงจากปีก่อน
7. เมืองไทยประกันภัย 2.81% เจ้านี้หลุดจาก 10 อันดับยอดนิยมไปหลายปี เพิ่งมาติดใหม่ปี 2555 แทนที่ “LMG” ที่ได้คะแนน 1.75%
8. เอซ อินชัวรันซ์ 1.55% แทนที่ “ธนชาติประกันภัย” ที่ได้คะแนน 1.63%
9. ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย 1.16% แทนที่ “ไทยประกันภัย” ที่ได้คะแนน 1.63%
แล้วเราควรไปอยู่ส่วนไหนของสถิติ (จะเอาเจ้าไหนดี)
อย่างว่าแหละครับว่า นอกจากประกันภัยไม่ใช่เทพแล้ว ตัวเขาเองก็ต้องรักษาผลประโยชน์ตนเองเช่นกัน
ถ้าค้นตามเว็บบอร์ดดูแล้วแม้บริษัทประกันภัยใน Top 10 ก็ยังเคยโดนด่า ส่วนใหญ่คือตุกติก ทั้งกับลูกค้าตัวเอง
ตุกติกกับคู่กรณี (โยนความผิดให้คู่กรณีเพื่อช่วยให้ตนเองเป็นฝ่ายถูกเพื่อไม่ต้องรับผิดชอบ / เอาใจลูกค้าแบบผิด ๆ)
ยังไม่รวมปัญหาที่มาจากตัวอู่ที่ร่วมกับบริษัทประกันรถยนต์
ขอออกตัวก่อนว่า ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับบริษัทประกันภัย อย่างที่บอกแต่แรกว่า
ค้นจาก pantip ซึ่งไม่ได้เป็นตัวแทนทั้งประเทศ ดังนั้น จึงขอใช้ชื่อสมมติให้เป็นปริศนาธรรม ตีความกันเอาเองนะครับ
ดังนั้น บางเจ้าที่ไม่มีข้อมูลเพราะไม่มีใครเอามาด่าหรืออาจจะใช้กันน้อย
และที่โดนด่ามากก็อาจจะเป็นเพราะคนใช้มาก (มากคนก็เลยมากความเป็นธรรมดา)
ดังนั้น ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะข้อมูลมันมาจากการบอกเล่า และจำนวนกระทู้ข้อมูลมันก็ไม่ได้เท่ากัน อ่านไว้เป็นข้อมูลพอเป็นแนวทางก็พอ อย่าจริงจังมาก (เลยเอาไว้ท้าย ๆ) ความเห็นภาพรวมที่พบใน pantip คือ
1. บริษัทที่มีการแนะนำกันมากที่สุดคือ กรุง lnw ประกันภัย กับ วีรีย่าประกันภัย (และน่าจะแพงกว่าใครด้วย) โดยภาพรวม
กรุง lnw เคลมง่ายกว่า วีรีย่า
เบี้ยประกันของของวีรีย่าจะถูกกว่า และมีอู่ซ่อมมากกว่า
2. บริษัทที่เน้นเบี้ยประกันถูกคือ เจ้าพญา กับ จำลอง (ศรี) แท็กซี่ใช้กันมาก
3. บริษัทที่มีการแนะนำมากสำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 2+ กับ 3+ คือ เอขอเชียร์ และ อันอันซีพี
4. บริษัทที่เห็นกันว่ามีความมั่นคง แต่ต้องรับกับวิธีการทำงานแบบรัฐวิสาหกิจได้ เช่น แพงนิด ๆ ติดต่อยาก ทำงานช้า ก็คือ ทิพยเทวาลัย
(ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ้ามีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หรือป่าว)
5. บริษัทที่เห็นกันว่าเข้าข้างตัวเองสุด ๆ จิตใจของการเป็นผู้ให้บริการมีน้อย คือ เมืองเทยประกันภัย (ชมพู) ชอบเปลี่ยนสถานะลูกค้าจาก
ผิดเป็นถูกได้ยามมีคู่กรณี แต่ถ้าลูกค้าพลาดเองก็อาจจะเจอค่าเสียหายส่วนแรก (excess) ที่เกินจริงเช่นกัน
6. บริษัทที่เห็นกันว่าควรตัวออกห่างคือ lm9, โตเกี๊ยว, มิตรชุ่ย
7. บริษัทที่เห็นกันว่าดีบ้างไม่มีบ้างปะปนกันตามาตรฐานทั่วไป เช่น น้าคะเน, M51G, เอ็กซ่า, สินไม่เปลี่ยน, เทยประกันภัย (น้ำเงิน), 1NG
ก็หวังว่าพอจะเป็นแนวทางที่ช่วยท่านพิจาณาได้ดีขึ้นครับว่า ควรเลือกประกันภัยรถยนต์ที่ไหนดี
************************************************************************************