ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ  (อ่าน 10044 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ โจ๊ก@บางพลี

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 209
  • Like: 17
ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« เมื่อ: 18 มีนาคม 2013, 15:10:49 »
สมมติว่าฝนตก ถ้าเราใส่ 4W ไว้มีโอการมาน้อยแค่ไหนที่รถจะลื่นไถล/หมุน ครับ
และปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ (ทั้งๆที่ใส่ 4W) จะมีมั้ยครับ (ยางอยู่ในสภาพดีนะครับ ไม่นับประเภทยางหมดอายุ)

อันนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุ แต่ถามไว้ก่อนครับ :sd23:

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 18 มีนาคม 2013, 21:33:58 »
สมมติว่าฝนตก ถ้าเราใส่ 4W ไว้มีโอการมาน้อยแค่ไหนที่รถจะลื่นไถล/หมุน ครับ
และปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการ (ทั้งๆที่ใส่ 4W) จะมีมั้ยครับ (ยางอยู่ในสภาพดีนะครับ ไม่นับประเภทยางหมดอายุ)

อันนี้ยังไม่เคยเกิดเหตุ แต่ถามไว้ก่อนครับ :sd23:

อาการลื่นไถล/หมุน นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะอยู่ใน mode การ 4WD หรือ 2WD นะครับ.....เพราะการลื่นไถล/หมุนนั้น มันขึ้นกับว่าแรงจากศูนย์กลางของรถที่เข้าโค้งจะมากกว่าหรือน้อยกว่าการยึดเกาะของรถที่ทำได้ต่อพื้นถนน...เอาแบบแปลงมาเป็นสูตรแบบง่ายๆนะครับ (จริงๆมันมี factor ที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีกมาก)

A = แรงเหวี่ยงจากศูนย์กลางเวลาเข้าโค้ง
B = แรงยึดเกาะที่รถทำได้ต่อพื้น

ถ้า A < B รถก็มีโอกาสเข้าโค้งไปได้ (ยกเว้นจะมีค่าที่ใกล้กันมากจนทำให้น้ำหนักรถเอียงออกจากจุด CG มากเกินไป รถอาจกลิ้งได้)
แต่ถ้า A > B รถก็เข้าโค้งไม่ได้ แต่จะลื่นหรือหมุน ขึ้นกับลักษณะการขับหลังจากที่เข้าโค้งไปแล้ว โดยปกติถ้าเป็นกรณีนี้รถจะหลุดโค้ง

แต่น้องปาเราเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง (กรณีขับเคลื่อน 2WD) อาการที่มักเกิดขึ้นคือเมื่อแรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้งสูงกว่าแรงยึดเกาะ รถจะไถลออกไปก่อน....ซึ่งเมื่อเหตุการณ์แบบนี้ คนขับมักจะหักพวงมาลัยมากขึ้น....ตั้งใจให้รถเข้าโค้งให้ได้....แต่สิ่งที่ได้มาคืออาการ over steering หรือเรียกง่ายๆว่า ล้อหลังมันจะนำล้อหน้า...เป็นที่มาของอาการหมุนมาแทนการแหกโค้ง

อย่างที่พี่โจ๊กถาม สถานการณ์คือถนนเปียกลื่น...ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลโดยตรงทำให้แรงยึดเกาะถนน (B) ลดลง ดังนั้นแรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้ง (A) ในระดับที่พื้นแห้งแล้วรถสามารถเข้าโค้งได้ ก็อาจทำให้รถไถลได้ในขณะพื้นเปียกเพราะ ค่า B มันลดลง.....รถใดๆ ขับเคลื่อนแบบไหน ก็อยู่ในกฎนี้เช่นเดียวกันครับไม่มีข้อยกเว้น

ทีนี้รถขับเคลื่อนแบบ 4WD นั้นสามารถช่วยได้อย่างไร...4WD ในที่นี้ต้องหมายถึง 4H ที่ใช้ขับบนถนนดำ+เปียกลื่นเท่านั้นนะครับ.....จริงๆแล้วถึงจะเป็นระบบ 4H รถก็ยังอยู่ภายใต้กฎเดิมข้างบนนั้นแหละครับ คือถ้า A>B ยังงัยมันก็ไถลหรือหลุดโค้งทั้งนั้นครับ....ระบบ 4H ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มค่า B หรอกครับ เพราะค่า B นั้นเกิดจากยางรถยนต์ที่กดลงที่พื้น + ระบบช่วงล่างที่ช่วยให้ยางกดอยู่กับพื้นตลอด (ไม่ยกลอยขึ้นมา)....ถึงระบบ 4H จะไม่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะ (ค่าB) แต่มีส่วนช่วย....ย้ำนะครับ...แค่มีส่วนช่วยนะ....คือช่วยลดแรงเหวี่ยงที่เกิดจากการเข้าโค้ง (ค่าA) คือเมื่อมีการกระจายการขับเคลื่อนไปที่ล้อคู่หน้าด้วย....ในจังหวะที่มีการเข้าโค้ง ล้อคู่หน้าที่มีกำลังขับเคลื่อนจะช่วยในการดึงรถไปข้างหน้าด้วย ทำให้แรงเหวี่ยงจากจุดศูนย์กลางที่เกิดจากการที่ล้อหลังดันรถนั้นลดลง....ลองนึกภาพว่าเมื่อรถเข้าโค้งด้วยล้อคู่หลังขับเคลื่อนอย่างเดียว รถก็อยู่ในสภาพเหมือนเคลื่อนที่เป็นวงกลม โดยมีหน้ารถเป็นจุดศูนย์กลาง และมีท้ายรถเป็นเส้นรอบวง.....ถ้าแรงขับเคลื่อนที่เส้นรอบวงมีมากกว่าแรงดันให้หน้ารถเคลื่อนที่ รถก็หมุน....แต่เมื่อมีล้อคู่หน้าช่วยขับเคลื่อน แรงขับเคลื่อนที่ล้อหลังก็ต้องมากขึ้นกว่าเดิมกว่าจะทำให้มากกว่าแรงดันให้หน้ารถเคลื่อนที่ (เพราะหน้ารถมีแรงขับจากล้อหน้ามาช่วยขับเคลื่อนด้วย)....นี่คือส่วนช่วยของระบบ 4H ครับ....มันช่วยอยู่เท่านี้แหละครับ

ดังนั้นไม่ว่าจะ 4WD หรือ 2WD ถ้าถนนเปียกลื่น (การยึดเกาะหรือค่า B ต่ำ) และเข้าโค้งมาด้วยความแรง ทำให้แรงเหวี่ยง (ค่าA) เกิดขึ้นเยอะมาก....มากกว่าการยึดเกาะ....รถอะไรก็ไถลหรือหมุนได้หมดครับ....เพียงแต่ระบบ 4H ช่วยลดการเกิดแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นการเข้าโค้งที่ความเร็วเท่ากัน แรงเหวี่ยงสำหรับรถ 4WD จะน้อยกว่ารถ 2WD เท่านั้นเอง.....ดังนั้นถ้าเข้าโค้งด้วยความเร็วเท่ากัน รถ4WD โอกาสเสียการทรงตัวน้อยกว่าเท่านั้นเองครับ

เกิดขึ้นบ่อยไปครับ รถ 4WD ยุโรป แพงๆ หลุดโค้ง หรือหมุนกลิ้งมันกลางโค้งเลยก็มี....ผมเองก็เคยเห็นมากับตาครับ....ดังนั้นจะบอกว่าพอมีระบบ 4WD แล้วจะไม่ไถล/หมุน หรือหลุดโค้ง คงไม่ได้ครับ

 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ตุ้ย_Yindee

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Like: 49
  • เพศ: ชาย
  • ไปทุกที่ด้วยPAJERO SPORT
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 18 มีนาคม 2013, 22:48:28 »

 :L2900: :L2900: :L2900:
ได้ความรู้จริงๆ,ขอบคุณครับ

:L2758: :sd23: :sd24: :L2758: :sd23: :sd24: :L2758: :sd23: :sd24: :L2758: :sd23: :sd24:
:sd24: I LOVE PA_MANIA  :L4398: :sd24: "Pamania เพื่อนกันตลอดไป"

ออฟไลน์ โอ นาเกลือ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,060
  • Like: 57
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 18 มีนาคม 2013, 23:49:03 »

    พี่ตามอธิบายได้ละเอียดมาก มองเห็นภาพสโลว์โมชั่นระหว่างรถเข้าโค้ง ว่าจะหลุดหรือจะหมุน หรือไม่ไ้ด้เลย
ถ้ามีตอน 2 นี่ต่อยอดเป็น How To Drift ได้เลยพี่ตาม

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 00:20:44 »
     พี่ตามอธิบายได้ละเอียดมาก มองเห็นภาพสโลว์โมชั่นระหว่างรถเข้าโค้ง ว่าจะหลุดหรือจะหมุน หรือไม่ไ้ด้เลย
ถ้ามีตอน 2 นี่ต่อยอดเป็น How To Drift ได้เลยพี่ตาม

เอางั้นเลยเหรอครับพี่โอ.....drift นี่ถ้าเป็นพวก Civic FD พอไหวครับ (เคยเล่นมาบ้าง) แต่ถ้าเป็นน้องปาต้องขอตัวครับ....เพราะแทนที่จะ drift มันมีโอกาส "กลิ้ง" มากกว่า  :L2739: :L2739:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่แมน-yasothon

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 83
  • Like: 3
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 01:37:33 »
 :L2734:

ออฟไลน์ สุภัทร (Pat)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,222
  • Like: 70
  • เพศ: ชาย
  • สวัสดี สมาชิก ปามาเนียทุกท่าน
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 08:28:35 »
ตามพี่ตามว่าแหละ

ผมเคยไถลหลุดโค้ง ช่วงลงเนินที่แม่ริม ฝนตกพรำๆ ล้อเดิมๆ เฉียดตายมาแล้วครับ ทั้งๆที่ มีระบบ 4X4 แต่ไม่ได้ใช้ เพราะคิดว่าไม่ชันมาก เป็นถนนดำธรรมดา

กลับมาเปลี่ยนยาง เปลี่ยนช่วงล่าง และเปลี่ยนนิสัยแล้วครับ

ขับอะไรก็ตาม ก่อนเข้าโค้ง ผมเลือกถอนคันเร่งครับ
การกระทำใดๆ เพื่อส่งมอบสิ่งดีๆ ให้มวลหมู่สมาชิก

ออฟไลน์ โจ๊ก@บางพลี

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 209
  • Like: 17
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 09:11:36 »
รายละเอียดชัดเจน เห็นภาพครับพี่ตาม ไว้มีข้อสงสัยมาถามใหม่ครับ :sd23:

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 10:19:16 »
มาเพิ่มข้อมูลของพี่ตามในเรื่องโอกาสที่แกน CG จะเอียงและกลิ้งได้ทั้ง 4WD และ 2WD

จากภาพนี้จะเห็นว่าเมื่อช่วงล่างอ่อนตัว  ในขณะรถเข้าโค้งด้วยความเร็วหรือมีน้ำหนักบรรทุกแบบก้อนนิ่ง   ยิ่งเป็นน้ำหนักบรรทุกแบบก้อนเคลื่อนที่เช่นผู้โดยสารนั้น  เวลารถเกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางจะเกิดแรง follow ตามค่า A ออกไปและเกิดแรงต้านด้วยประสิทธิภาพของค่า B   แต่เมื่อช่วงล่างอ่อนตัวจะทำให้ค่า A มีทิศทางเทลงและเมื่อค่า A เอียงมากแล้วจะเกิดอาการงัดค่า B จนทำให้รถพลิกตะแคงได้ง่าย    ตามแนวคิด



พอช่วงล่างเราแข็งขึ้นและเปลี่ยนยางและล้อแม๊คให้ offset เป็น+  คือการขยายฐานล้อเพิ่มขึ้น  แน่นอนแหละจะทำให้การสึกหรอและการสิ้นเปลืองมากกว่าปกติเพราะแรงเสียดทางเพิ่มมากขึ้น   คราวนี้แรงเสียดทานที่เพิ่มมากขึ้นมีผลดีอย่างไร     มาดูภาพนี้ในขณะที่เกิดเหตุแบบด้านบนจะมีแรงต้านจากช่วงล่างที่แข็ง และมีแรงเหนี่ยวรั้งจากโช๊คที่รีบาวเยอะทำให้เหนี่ยวรั้งจังหวะพวกนี้ได้  ผลในโค้งจึงทำให้แกนCG เอียงน้อยลง  เมื่อเอียงน้อยการสัมผัสของล้อและยางกับถนนก็มากขึ้นกว่าด้านบนทั้ง 2 ล้อ    แกน A ก็ยังไปในทิศทางเกือบขนาดกับถนน  โอกาสเกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์โดนต้าน    โอกาสการพลิกก็น้อยกว่า   หลายท่านมักใช้คำพูดแบบว่า   เข้าโค้งมั่นใจขึ้น  มุดโค้งเข้าไปได้เลย   เขาโค้งด้วยความเร็วได้    แต่ก็แลกด้วยความนุ่มนวลที่ลดลงบ้างในการใช้ความเร็วต่ำ 

ทั้ง 2 กรณีนี้   สามารถแก้ไขได้ด้วยการปฎิบัติตามกฏจราจร   ป้ายเตือนข้างทาง   ลองดูครับลองขับรถตามความเร็วข้างทางแนะนำ  ผมว่าขนาดโช๊คเสียก็เข้าโค้งได้สบายครับ  :L2901:
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ โจ๊ก@บางพลี

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 209
  • Like: 17
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 12:34:02 »
เห็นภาพชัดเจนขึ้นไปอีก สุดยอดครับพี่นะ

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 18:20:16 »
มาเพิ่มเติมข้อมูลให้อีกหน่อยครับ.....พอดีอ่านโจทย์ของพี่โจ๊กดีๆ แล้ว ผมยังไม่ได้ตอบเรื่องของปัจจัยที่ทำให้รถเสียการทรงตัวขณะเข้าโค้ง (ลื่นไถล/หมุน)....พี่อธิบายไปแล้วเพื่อให้เข้าใจว่าจะ 4WD หรือ 2WD ก็เสียการทรงตัวได้ และระบบ 4H นั้นช่วยอะไรได้บ้าง

คราวนี้มาอธิบายในเรื่องของปัจจัยนะครับ (พี่นะอธิบายไปแล้วในเรื่องของช่วงล่าง ขอบคุณครับพี่นะ อธิบายได้เห็นภาพมากๆ)

ปัจจัยที่ทำให้รถเสียการทรงตัวในการเข้าโค้ง....จะพื้นเปียกพื้นแห้งปัจจัยก็เหมือนกันครับ เพียงแค่พื้นเปียกจะทำให้เกิดผลได้ง่ายกว่า

1. ความเร็ว
ปัจจัยนี้มีผลมากที่สุดครับ เป็นตัวที่สำคัญที่สุด....ความเร็วในที่นี้คือความเร็วของรถทั้งก่อนที่จะเข้าโค้ง และขณะที่เข้าโค้ง....การเข้าโค้งด้วยความเร็วจะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงจากจุดศูนย์มาก (ค่า A มาก) ซึ่งถ้ามันมากกว่าแรงต้าน/แรงเสียดทานที่ล้อเมื่อไหร่......ก็เตรียมไปนอนข้างทางได้เลยครับ....จะนอนในลักษณะไถลออกไปนอน หรือกลิ้งออกไปนอน ก็แล้วแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเสียการทรงตัวไปแล้วนั่นแหละครับ.....ดังนั้นความเร็วยิ่งมาก ค่า A ก็ยิ่งมากครับ....ดังนั้นวิธีป้องกันการลื่นไถล/หมุนง่ายๆครับ ไม่ต้องเสียตังค์กระเป๋าแหกซักบาท...คือ "ขับช้าๆ"

2. ยาง
ปัจจัยที่ 2 คือยาง....ปัจจัยนี้มีผลโดยตรงต่อการสร้างแรงเสียดทาน....ยางเป็นอุปกรณ์ของรถเพียงชนิดเดียวนะครับที่อยู่ติดกับพื้นถนน....ดังนั้นมันก็เลยเป็นอุปกรณ์เพียงชนิดเดียวที่สร้างแรงเสียดทานให้กับรถเพื่อต้านกับแรงเหวี่ยงจากการเข้าโค้งครับ......คิดดูละกัน....ชีวิตเราทั้งหมดขึ้นกับแค่ยาง 4 เส้นนี้แหละครับ......ยางที่ดี มี Traction สูง....การยึดเกาะถนนดีกว่ายางที่ไม่ดี....ก็สามารถสร้างแรงเสียดทานได้มากกว่า....โอกาสลื่นไถล/หมุนก็น้อยลงตามไปด้วย

ไหนๆก็พูดมาถึงเรื่องยางแล้ว....ขอแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับยางต่ออีกหน่อย....ยางน้องปาเรามี 3 ประเภทหลักให้เลือก คือ HT AT และ MT.....บางคนมีความเข้าใจว่ายาง AT หรือ MT ที่มีดอกยางใหญ่ๆ หน้าสัมผัสของยางเยอะกว่ายางประเภท HT ที่ดอกเล็กกว่า น่าจะยึดเกาะได้ดีกว่า หรือสร้างแรงเสียดทานได้ดีกว่า.....ความเชื่อนี้จะไม่เป็นจริงเมื่อพื้นถนนมีความเปียกลื่นครับ....เพราะอะไร....ไม่ใช่เพราะยี่ห้อ หรือคุณภาพของยาง.....แต่เป็นเพราะร่องรีดน้ำ....ไอ้เจ้าร่องรีดน้ำที่ทำให้เราให้ยางมีดอกยางนี่แหละครับเป็นตัวแปรสำคัญ.....ยาง MT อาจมีดอกยางใหญ่กว่า หน้าสัมผัสยางกับพื้นถนนเยอะกว่า....แต่พอถนนเปียกลื่น.....ร่องดอกยางของยางประเภทนี้ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อรีดน้ำ ดังนั้นมันเลยรีดน้ำได้ไม่ดี.....ทำให้ถึงมีหน้าสัมผัสที่เยอะกว่า แต่ก็มีน้ำอยู่ระหว่างผิวสัมผัสเยอะกว่าเช่นเดียวกันครับ.....นั่นทำให้เวลาถนนเปียกยาง MT หรือแม้แต่ AT การเกาะถนนจะด้อยลงเยอะ....หากเปรียบเทียบกันแล้วจะแย่กว่ายาง HT ที่ออกแบบมาเพื่อรีดน้ำบนพื้นแข็งโดยเฉพาะไม่ได้........มีคนเข้าใจว่าการใส่ยาง AT หรือ MT แล้วจะเกาะถนนดีขึ้นอยู่เยอะนะครับ....บางคนถึงขนาดคิดว่ายางประเภท AT MT พื้นทราย พื้นฝุ่นยังลุยได้....แค่ถนนเปียกก็ต้องยึดเกาะได้ดีด้วย......พวกนี้ส่วนใหญ่สุดท้ายไม่ไปนอนเป็นอาหารหนอนอยู่ข้างทาง....ก็ไปเป็นลูกค้า VIP โรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่งละครับ

3. ช่วงล่าง (โช๊ค + สปริง)
ปัจจัยที่ 3 คือระบบช่วงล่างครับ.....อย่าเข้าใจผิดนะครับ ระบบช่วงล่างไม่ได้สร้างแรงยึดเกาะที่เพิ่มขึ้น.....ผมขอย้ำคำเดิมว่า แรงยึดเกาะหรือแรงเสียดทานสร้างได้จากยางทั้ง 4 เส้นที่สัมผัสพื้นเท่านั้นครับ.......แล้วช่วงล่างช่วยอะไร เห็นไปแหกกันแหลกราญซะขนาดนั้น......เหมือนอย่างที่พี่นะอธิบายมาแล้วเลยครับ.....สรุปง่ายๆ.....มันช่วยใน 2 ทางครับ
          1. ช่วยประคองไม่ให้รถเอียงเวลาเข้าโค้ง....ทำให้จุด CG ของรถ ไม่เลยออกไปนอกฐาน (ดูรูปของพี่นะประกอบนะครับ) ดังนั้น โช๊ค + สปริงที่แข็งกว่า ก็จะต้านกับแรงเหวี่ยงได้เยอะกว่าในการประคองรถไม่ให้จุด CG ออกนอกฐาน.....เพราะถ้าจุด CG ออกนอกฐานเมื่อไหร่....รับรองได้ว่าขำกลิ้งลิงกับหมาแน่นอนครับ....ดังนั้นช่วงล่างที่นิ่มกว่าย่อมต้านทานแรงเหวี่ยงได้น้อยกว่าครับ ยิ่งถ้าโช๊คแตก โช๊คตาย แรงต้านที่จะประคองรถก็ยิ่งต่ำลง....เข้าโค้งแรงๆ ก็ไปนอนเป็นอาหารหนอนที่ข้างทางเช่นกัน
          2. ต่อเนื่องจากประเด็นจุด CG เมื่อมันช่วยประคองรถไม่ให้จุด CG เคลื่อนออกจากฐาน ก็แปลว่าอาการเอียงของรถก็จะน้อยลงด้วย.....และผลที่ได้คือยางทั้ง 4 เส้นยังสามารถสัมผัสพื้นเพื่อสร้างแรงเสียดทานได้เต็มที่.....ลองนึกสภาพรถที่เข้าโค้ง....ตัวรถจะเอียงตามโค้ง โดยข้างที่อยู่ด้านนอกโค้งจะยุบลง....เป็นผลให้ข้างที่อยู่ในโค้งยกขึ้น.....เมื่อด้านในโค้งยกขึ้น...น้ำหนักที่กดลงบนล้อ+ยางก็ลดลง....การสร้างแรงเสียดทานในล้อด้านในโค้งก็เลยลดลงตามน้ำหนักที่กดน้อยลง......ถ้าเอียงมากๆ ต่อให้ไม่ถึงกับกลิ้ง....แต่การสร้างแรงเสียดทานแทนที่จะมาจาก 4 ล้อ ก็จะเกิดได้แค่จาก 2 ล้อ (ด้านที่อยู่นอกโค้ง).....ไม่แรงเสียดทานลดลงครึ่งหนึ่งของปกติ.....ก็โน่นเลยครับ เตรียมจูบไหล่ทางด้านนอกได้เลย

ดังนั้นช่วงล่าง (โช๊ค+สปริง) ไม่ได้สร้างแรงเสียดทานที่เพิ่มขึ้นนะครับ....จะแพงแค่ไหนก็ไม่สามารถสร้างแรงเสียดทานได้ครับ....มันช่วยในการพยุงรถไม่ให้จุด CG ออกนอกฐาน (จะได้ไม่กลิ้ง) และช่วยยึดขึ้นให้ล้อด้านในโค้งยังกดพื้นอยู่เพื่อสร้างแรงเสียดทานได้ตามเดิม (ถึงจะไม่เท่าเดิมเหมือนวิ่งทางตรง แต่อย่างน้อยก็ยังสร้างอยู่บ้าง)
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 18:45:22 »
และปัจจัยที่อยากจะเน้นเป็นปัจจัยสุดท้ายและสำคัญที่สุดคือ "คน" ครับ

เชื่อผมเหอะ....รถไม่มีคนอยู่ในรถมันไม่อันตรายหรอก ถ้าไม่ใช่ car bomb.....คน มีผลโดยตรงต่อความเร็วในการเข้าโค้ง เพราะคนเป็นกดคันเร่งให้รถวิ่งไป เร็วเท่าไหร่คนเป็นผู้กำหนด....ดังนั้นเร็วช้า ก็อยู่ที่คน.......คนที่ขับรถปลอดภัยที่สุดคือคนขับช้าครับ ไม่ใช่คนขับเก่ง....ไม่เชื่อลองให้นักแข่งรถขับรถสปอร์ตช่วงล่างเทพเกรด A ยุโรป ขับเข้าโค้งเร็วๆ กับคนธรรมดาขับรถ city car ขับเข้าโค้งช้าๆ....คุณว่าใครมีโอกาสแหกโค้งมากกว่ากัน.....รถเร็วยังงัยก็มีโอกาสแหกโค้งมากกว่าครับ

ดังนั้นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้รถเสียการทรงตัวคือ "คน" ครับ.....ถ้าไม่อยากลื่นไถล/หมุน...ก็ง่ายๆครับ ย้ำอีกที "ขับช้าๆ"......เหมือนพี่นะบอกละครับ....ลองขับด้วยความเร็วเท่าป้ายเตือน หรือ limit ความเร็วในการเข้าโค้งดูครับ....โช๊คตาย ยาง 8 ปี ยังเข้าได้สบาย....ขออย่างเดียวพวงมาลัยอย่าล็อคละกัน

 :L2754: :L2754:

นอกจากความเร็วที่เราใช้ในการเข้าโค้งแล้ว....คนยังมีผลอีกอย่างหนึ่งที่เป็นตัวกำหนดว่ารถจะเสียการทรงตัวหรือไม่ในการเข้าโค้ง....นั่นคือวิธีการเข้าโค้งครับ......รถที่แตกต่างกัน มีวิธีการขับเข้าโค้งที่แตกต่างกัน ถึงจะไม่มาก แต่ก็มีบ้างครับ....แต่อย่างที่บอกครับ ถ้าขับช้า จะเข้าด้วยวิธีไหนก็ไม่แตกต่างกัน.....มันจะเห็นผลมากขึ้นเวลาที่เข้าโค้งเร็วๆครับ

รถขับเคลื่อนล้อหน้า....กำลังลากอยู่ที่ 2 ล้อหน้า....การเข้าโค้งจึงสามารถเข้าได้เร็วกว่า....จะสังเกตุว่ารถประเภทนี้หน้าจะไวกว่า หักพวงมาลัยนิดเดียว กดคันเร่ง รถก็เลี้ยงออกไปแล้ว.....เมื่อกำลังลากอยู่ที่ 2 ล้อหน้า ซึ่งเป็นล้อที่เลี้ยวเช่นกัน....ดังนั้นเมื่อกดคันเร่ง ไม่ว่าล้อจะหันอย่างไร รถก็จะถูกลากออกไปในทิศนั้น....ดังนั้นการเข้าโค้งสำหรับรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า....ขอให้หน้ารถเข้าโค้งไปได้ ก็สามารถกดส่งคันเร่งต่อได้เลย....เพราะเมื่อหน้ารถเข้าโค้งได้แล้ว.....เมื่อกดคันเร่ง....2 ล้อหน้าก็จะลากรถไปในทิศทางที่ล้อหันไป....โดยที่ล้อหลังเป็นเพียงล้อที่ตามมา ไม่มีแรงผลัก หรือดัน ให้เสียการทรงตัว

รถขับเคลื่อนล้อหลัง....กำลังแรงดันอยู่ที่ 2 ล้อหลัง.....การเข้าโค้งมักทำได้ช้ากว่า สังเกตุว่ารถประเภทนี้หน้ารถจะไม่ไวเท่าพวกรถขับเคลื่อนล้อหน้า.....รถประเภทนี้แรงขับอยู่ที่ 2 ล้อหลัง......แต่ล้อที่เลี้ยวคือ 2 ล้อหน้า.....ถ้ามันทำงานไม่สัมพันธ์กันเมื่อไหร่....ก็หน้าไปทาง ท้ายไปทางครับ.....ดังนั้นรถประเภทนี้เวลาเข้าโค้งจะเข้าแบบรถขับเคลื่อนล้อหน้าไม่ได้....คือไม่ใช่ว่าพอหน้าเข้าโค้งได้ก็กดคันเร่งต่อทันที.....ถ้าเข้าแบบนี้ลองนึกดีๆครับ.....ล้อหน้าเลี้ยวอยู่....กดคันเร่งแรง..กำลังไปออกล้อหลัง......ถ้าพื้นเปียก...ก็หมุนครับ.......เป็นกันเยอะนะครับ สำหรับคนที่ไม่เคยขับรถขับเคลื่อนล้อหลัง ปกติขับแต่รถขับเคลื่อนล้อหน้า...พอเปลี่ยนมาขับปา ยังเข้าโค้งแบบเหมือนขับรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า.....แล้วหมุน.....แบบนี้ไม่ต้องโทษรถครับ โทษคนขับนั่นแหละ......รถขับเคลื่อนล้อหลัง.....การเข้าโค้งช่วงแรกไม่ต่างกับรถขับเคลื่อนล้อหน้า....เพียงแต่จังหวะเติมคันเร่งต้องช้ากว่าหน่อย....คือแทนที่หน้ารถเข้าโค้งแล้วจะกดคันเร่งได้เลย....ไม่ได้ครับ....ต้องรอช่วงจังหวะที่คืนพวงมาลัยกลับมาก่อนค่อยกดคันเร่งเติมครับ.....เพราะเมื่อพวงมาลัยตั้งกลับมาตรง (หรือเกือบตรง) แรงดันล้อหลังก็จะดันให้รถเคลื่อนไปตรงๆ....ไม่หมุนแบบเมื่อล้อหน้ายังหักเลี้ยงอยู่ครับ

วิธีการขับทั้ง 2 อย่าง....ถ้าขับช้าๆ.....รถแบบไหนก็เข้าเหมือนกันละครับ.....มันจะต่างกันเมื่อท่านขับเร็ว เข้าโค้งเร็วๆ ยิ่งถ้าถนนเปียกลื่นด้วยแล้วยิ่งเห็นผลชัดครับ......ลองถนนเปียกลื่น.....เอาน้องปาเข้าโค้งแบบรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า.....พอหน้าเข้าโค้ง....กดคันเร่งส่งเลย.....ไม่หมุน ก็ท้ายปัดไปปัดมากันบ้างละครับ.....ยิ่งถ้าพวกมีกล่องข้าวน้อย กล่องคันเร่ง เปลี่ยนหัวฉีด....หรือทำอะไรก็แล้วแต่ให้เครื่องมันแรงขึ้น ยิ่งเห็นผลชัดเจนครับว่าต่างกัน

ถ้าใครอยากลอง...ไม่ต้องเอาน้องปาไปลองครับ....ลองไปเอา game Grand Tourismo มาเล่นดูครับ ลองเอารถแบบขับ 2 ล้อหน้า กับ 2 ล้อหลังมาเล่นดูในเกมส์ก็ได้ครับ....ท่านจะรู้สึกได้ว่าเลยอย่างที่ผมเล่าให้ฟังนี่แหละ

สุดท้าย ขอย้ำคำเดิมครับ.....ขับช้าๆ แล้วท่านจะไม่ต้องไปพึ่งพาปัจจัยอื่นอีกเลย  :L4399: :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่อาร์ต-Outdoor

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 198
  • Like: 14
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 18:51:03 »
 :sd23: :sd23:  :L2900: ชัดเจนมากๆครับ มีคำถามเพิ่มเติมครับพี่ ยางที่เราใช้ๆกันอยู่ เราจะรู้ได้ยังไงครับว่ามี traction เท่าไหร่ มันมีค่ากลางให้เปรียบเทียบมั้ยครับพี่ เช่น ยางยี่ห้อ A กับ B หรือ C ที่ขนาดเท่ากันแต่มี traction ต่างกัน อาจจะเป็นจากเนื้อยางหรือส่วนผสม มีใครเค้าจะบอกมั้ยเนี่ย หรือมีวิธีไหนที่จะรู้ได้ ถ้ามีให้ดูเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นข้อนึงที่สามารถเลือกใช้ยางที่เหมาะสมขึ้นอ่ะครับ

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 18:55:35 »
:sd23: :sd23:  :L2900: ชัดเจนมากๆครับ มีคำถามเพิ่มเติมครับพี่ ยางที่เราใช้ๆกันอยู่ เราจะรู้ได้ยังไงครับว่ามี traction เท่าไหร่ มันมีค่ากลางให้เปรียบเทียบมั้ยครับพี่ เช่น ยางยี่ห้อ A กับ B หรือ C ที่ขนาดเท่ากันแต่มี traction ต่างกัน อาจจะเป็นจากเนื้อยางหรือส่วนผสม มีใครเค้าจะบอกมั้ยเนี่ย หรือมีวิธีไหนที่จะรู้ได้ ถ้ามีให้ดูเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นข้อนึงที่สามารถเลือกใช้ยางที่เหมาะสมขึ้นอ่ะครับ

จริงๆมันมีมาตรฐานนะครับ....แต่ผมจำหลักการวัดเขาไม่ได้ละ...ต้องไปค้นข้อมูลก่อน...แต่ง่ายๆครับ มันมีการสรุปเป็นระดับไว้ครับ คือ ระดับ A B C ครับ.....ที่ยางบางยี่ห้อจะมีเขียนไว้ครับ.....ถ้าใครยังใช้ยางเดิมติดรถที่มาจากโรงงานลองก้มดูครับ....มันจะมีเขียนไว้ว่า Tranction B / Temperature B.....แปลว่าเป็นยางที่อยู่ในระดับกลางๆครับ....ไม่ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้เลยร้าย......อย่างที่พี่นะชอบพูด.....เขาให้เราไว้ใช้ในการขับแบบ "ถูกกฎจราจร" จร้าาาาาาา

เดี๋ยวค้นข้อมูลได้แล้วจะมา update การวัดของเขาอีกทีครับ  :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่จ่า Jatot

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,038
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 19:30:24 »
Treadwear เป็นอันดับเปรียบเทียบตามการสึกหรอของยาง  เช่น 400 ใช้ได้นานกว่ายาง 200 แต่ต้องแลกมาด้วยเนื้อยางที่แข็งกระด้างและการเกาะถนนที่น้อยลง
ประสิทธิภาพ treadwear จริงอาจจะแตกต่างกันอย่างมากมายตามการใช้งานจริงขึ้นอยู่กับรูปแบบนิสัยการขับขี่,การดูแลรักษา (แรงดันลมยาง), สภาพถนน และอากาศที่มีผลต่ออายุของยาง  อันดับตัวเลขที่น้อย ก็ไม่ได้บ่งบอกถึงการเกาะถนนเสมอไป ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการออกแบบดอกยาง โครงสร้างหน้ายาง แก้มยาง รวมทั้งส่วนผสมของเนื้อยาง

Traction เป็นอันดับความสามารถในการหยุดบนทางเปียก บนพื้นยางมะตอย และการทดสอบบนพื้นผิวคอนกรีต traction จาก สูงสุด ไป ต่ำสุด ที่ "AA", "A", "B" และ "C"ยางที่จัดอันดับ "AA" อาจมีสมรรนะดีในการเกาะถนนกว่ายางจัดอันดับที่ต่ำกว่า ทดสอบเบรค หน้า-ตรง ไม่พิจารณาระดับประสิทธิภาพในขณะเลี้ยวของยาง

Temperature เป็นอันดับแสดงความต้านทานของยางต่อความร้อน และความสามารถในการกระจายความร้อนระดับจากสูงสุดไปต่ำสุดเป็น "A", "B" และ "C" เกรด "C"
หมายถึงประสิทธิภาพต่ำสุดตามมาตรฐานความปลอดภัย ดังนั้นยาง “A" คือ ใช้งานได้ในขณะเย็น และ
แม้ว่ายาง "C" วิ่งในขณะที่ร้อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ปลอดภัย ระดับอุณหภูมิจะจัดตั้งขึ้นสำหรับยางที่พอเหมาะสมและไม่มากไป


 
ที่มาของข้อมูล
http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=81820.0;wap2

สำหรับยางติดรถของ น้องปา มีดังนี้
Treadwear 360 ดีมาก ดีที่สุด 400
Traction  B  ปานกลาง ดีที่สุด AA
Temperature B ปานกลาง ดีที่สุด A
ความเร็วสูงสุด 180 Km/H
รับน้ำหนักได้ 1090 Kg

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มีนาคม 2013, 23:30:19 โดย พี่จ่า jatot »
คนเราแก่ได้เพียงตัวเลข แต่จิตใจห้ามแก่
เมื่ิอจิตใจไม่แก่  ร่างกายก็ไม่แก่

ปั่น ปั่น ไป ไม่ไหวก็จูง
Pajero Sport 4WD

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 19 มีนาคม 2013, 23:23:54 »
ขอบคุณครับพี่จ่าที่มาช่วยเสริมครับ  :L4399: :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่ตุ้ย_Yindee

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Like: 49
  • เพศ: ชาย
  • ไปทุกที่ด้วยPAJERO SPORT
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 20 มีนาคม 2013, 07:18:00 »
ได้ความรู้มากมาย จากทั้งพี่ตาม พี่นะ พี่จ่า,ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาเสริม
มาเติมให้ความรู้ครับทีนี้ผมขออนุญาต ถามต่อไปอีกนิดคือว่า ผมสงสัยว่า
ถ้าจับน้องปาของเราเอามาโหลดเตี้ย แบบพอประมาณนะครับ เช่นลดความสูง
ลงสัก 4-6 นิ้ว แล้วควรเปลี่ยนกระทะล้อเป็นเท่าใด
โดยขอสรุปถามคร่าวๆ ดังนี้ครับ.-

               1. สามารถทำได้แค่ไหน,ทำอย่างไร
               2. ถ้าทำได้ แล้วจะได้การยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น???
               3. ค่าใช้จ่ายในการทำ จะแหกมากมั้ยครับ
 
          :L2901: :L2901:

ชอบแหกแนวนี้ครับ 
 :L2905:  :L2905:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มีนาคม 2013, 07:21:46 โดย Tui_Yindee »
:sd24: I LOVE PA_MANIA  :L4398: :sd24: "Pamania เพื่อนกันตลอดไป"

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 20 มีนาคม 2013, 13:50:14 »
ได้ความรู้มากมาย จากทั้งพี่ตาม พี่นะ พี่จ่า,ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาเสริม
มาเติมให้ความรู้ครับทีนี้ผมขออนุญาต ถามต่อไปอีกนิดคือว่า ผมสงสัยว่า
ถ้าจับน้องปาของเราเอามาโหลดเตี้ย แบบพอประมาณนะครับ เช่นลดความสูง
ลงสัก 4-6 นิ้ว แล้วควรเปลี่ยนกระทะล้อเป็นเท่าใด
โดยขอสรุปถามคร่าวๆ ดังนี้ครับ.-

               1. สามารถทำได้แค่ไหน,ทำอย่างไร
               2. ถ้าทำได้ แล้วจะได้การยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น???
               3. ค่าใช้จ่ายในการทำ จะแหกมากมั้ยครับ
 
          :L2901: :L2901:

ชอบแหกแนวนี้ครับ 
 :L2905:  :L2905:
สวัสดีครับพี่ตุ้ย

การลดความสูงลงเพื่อความชอบหรือความสวยงาม  สามารถทำได้หมดครับเอาเตี๊ยเท่าที่ชอบยังได้เลย 
ส่วนเรื่องล้อค่อยเลือกตามที่เหมาะสมว่าใส่แล้วล้น  ใส่แล้วหุบ  เอาเต็มซุ้ม   เอาสวยงาม 
ส่วนเรื่องโช๊คและสปริงเลือกใส่ปรับจัดตามที่เหมาะสมอีก  ซุ้มล้อก็สามารถ พับ ปาด เฉือน หั่นออก  ได้จนล้อให้ตัวได้
*แต่ก็คือการโชว์ สวยงาม  นำมาใช้ในชีวิตประจำวันอาจจะมีข้อจำกัดหลายเรื่อง   ทั้งนี้ขึ้นอยู่กัยความชอบเป็นอันดับแรก

สำหรับคำถาม 3 ข้อ ขอตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
1. สามารถทำได้แค่ไหน,ทำอย่างไร
รถเราน้ำหนักเยอะและเป็นรถทรงที่มีโอกาสบรรทุก  4-500โลสูงมาก   ฉะนั้นการโหลดจำทำให้ช่วงล่างรับภาระเยอะเกินไปและการโหลดให้สวยก็ต้องเตี้ยจนลดระยะซุ้มล้อลงประมาณ  5 นิ้ว    แน่นอนแหละระยะการให้ตัวของช่วงล่างสั้นลง   ทำให้การผ่อนจากแรงกระแทกที่มากระทำอาจจะน้อยลง ส่งผลให้เกิดแรงต้านจนรู้สึกว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่   แต่กรณีนั้ง 1-2 คนอาจให้ความรู้สึกที่พอรับได้      และการที่รถเตี๊ยลงมากเกินไปทำให้มุมของปีกนกหน้ายืนออกในแนวขนาดพื้น  คราวนี้ก็จะมีปัญหากับลูกหมากปีกนกอีกหรือป่าว   แบบนี้ต้องลองปรึกษาน้าปิงดู   การเอาความสูงลงง่ายสุดก็ใช้โช๊คสั้นสปริงโหลดครับ

2. ถ้าทำได้ แล้วจะได้การยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น???
การยึดเกาะถนนมาจากความสัมพันธ์ของน้ำหนักรถและช่วงการให้ตัวตามแรงกระทำ รวมถึงการรองรับแรงกระแทกจากน้ำหนัก  เพื่อให้รถเสียดุลย์น้อยและสั้นที่สุดในจังหวะเหวี่ยง โยน โยก    มุมของลูกหมากและองศาความชันของเพลาขับต่างๆจะรับน้ำหนักได้ดีสุดคือมุมเดิมหรือต่างได้ประมาณ  30 มม.+/-  ดังนั้นการ set รถให้เฟริมในความสูงเท่าเดิมหรือต่างจากเดิมไม่มากนักจะทำให้รถนิ่งและทรงตัวดีกว่า    และยังพอมีความนุ่มนวลอยู่บ้างเพราะยังเหลือช่วงให้ตัวได้   แต่การ set รถที่เตี๊ยในรถลักษณะนี้จะต่างกับรถยนต์นั่งเพราะระบบช่วงล่างที่ต่างกัน  ทำให้อาจเกิดอาการนิ่งแต่จุกท้องเวลากระแทก ครับ


3. ค่าใช้จ่ายในการทำ จะแหกมากมั้ยครับ
จะเตี้ยจะสูง  ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันครับในกรณีเอาเฟริมด้วย    เพราะเตี๊ยไม่ตัดไม่ดัดก็ได้ไม่เกิน 2.5-3 นิ้ว    ถ้าสูงไม่ตัดไม่ดัดก็ได้ไม่เกิน 2-2.5 นิ้ว
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ โจ๊ก@บางพลี

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 209
  • Like: 17
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 20 มีนาคม 2013, 18:26:51 »
ขอบคุณครับพี่ตามที่มาเสริมให้อีกครั้ง

พออ่านจบแล้วย้อนกลับไปนึกถึงคราวที่เกือบหมุนในวันฝนพรำก็ถึงบางอ้อว่าวันนั้นผิดที่ "คน" ครับ :sd21:
ฝนตกใหม่ๆ ไม่ใช้ขับสี่ แซงออกไปรถยังไม่ตั้งลำตรงดีดันส่งคันเร่ง (เพิ่งดันรางมาอีกยังไม่คุ้นอาการ) ท้ายก็เลยกวาดให้เสียวเล่น ต้องเขกหัวตัวเองซะ

แต่ถ้าในโค้งปรกติผมจะยกคันเร่งปล่อยไหลเข้า จนเลยกลางโค้ง-เกือบเข้าทางตรงนั่นแหละครับ ถึงจะเริ่มกดต่อ

 :sd23: :sd23: :sd23: :sd23: :sd23:ขอบคุณพี่นะ พี่จ่า พี่ตาม ครับ

ออฟไลน์ พี่ตุ้ย_Yindee

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,237
  • Like: 49
  • เพศ: ชาย
  • ไปทุกที่ด้วยPAJERO SPORT
Re: ถามเรื่องอาการลื่นไถลครับ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 20 มีนาคม 2013, 20:17:47 »
ได้ความรู้มากมาย จากทั้งพี่ตาม พี่นะ พี่จ่า,ต้องขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาเสริม
มาเติมให้ความรู้ครับทีนี้ผมขออนุญาต ถามต่อไปอีกนิดคือว่า ผมสงสัยว่า
ถ้าจับน้องปาของเราเอามาโหลดเตี้ย แบบพอประมาณนะครับ เช่นลดความสูง
ลงสัก 4-6 นิ้ว แล้วควรเปลี่ยนกระทะล้อเป็นเท่าใด
โดยขอสรุปถามคร่าวๆ ดังนี้ครับ.-

               1. สามารถทำได้แค่ไหน,ทำอย่างไร
               2. ถ้าทำได้ แล้วจะได้การยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น???
               3. ค่าใช้จ่ายในการทำ จะแหกมากมั้ยครับ
 
          :L2901: :L2901:

ชอบแหกแนวนี้ครับ 
 :L2905:  :L2905:
สวัสดีครับพี่ตุ้ย

การลดความสูงลงเพื่อความชอบหรือความสวยงาม  สามารถทำได้หมดครับเอาเตี๊ยเท่าที่ชอบยังได้เลย 
ส่วนเรื่องล้อค่อยเลือกตามที่เหมาะสมว่าใส่แล้วล้น  ใส่แล้วหุบ  เอาเต็มซุ้ม   เอาสวยงาม 
ส่วนเรื่องโช๊คและสปริงเลือกใส่ปรับจัดตามที่เหมาะสมอีก  ซุ้มล้อก็สามารถ พับ ปาด เฉือน หั่นออก  ได้จนล้อให้ตัวได้
*แต่ก็คือการโชว์ สวยงาม  นำมาใช้ในชีวิตประจำวันอาจจะมีข้อจำกัดหลายเรื่อง   ทั้งนี้ขึ้นอยู่กัยความชอบเป็นอันดับแรก

สำหรับคำถาม 3 ข้อ ขอตอบตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
1. สามารถทำได้แค่ไหน,ทำอย่างไร
รถเราน้ำหนักเยอะและเป็นรถทรงที่มีโอกาสบรรทุก  4-500โลสูงมาก   ฉะนั้นการโหลดจำทำให้ช่วงล่างรับภาระเยอะเกินไปและการโหลดให้สวยก็ต้องเตี้ยจนลดระยะซุ้มล้อลงประมาณ  5 นิ้ว    แน่นอนแหละระยะการให้ตัวของช่วงล่างสั้นลง   ทำให้การผ่อนจากแรงกระแทกที่มากระทำอาจจะน้อยลง ส่งผลให้เกิดแรงต้านจนรู้สึกว่าไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่   แต่กรณีนั้ง 1-2 คนอาจให้ความรู้สึกที่พอรับได้      และการที่รถเตี๊ยลงมากเกินไปทำให้มุมของปีกนกหน้ายืนออกในแนวขนาดพื้น  คราวนี้ก็จะมีปัญหากับลูกหมากปีกนกอีกหรือป่าว   แบบนี้ต้องลองปรึกษาน้าปิงดู   การเอาความสูงลงง่ายสุดก็ใช้โช๊คสั้นสปริงโหลดครับ

2. ถ้าทำได้ แล้วจะได้การยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น???
การยึดเกาะถนนมาจากความสัมพันธ์ของน้ำหนักรถและช่วงการให้ตัวตามแรงกระทำ รวมถึงการรองรับแรงกระแทกจากน้ำหนัก  เพื่อให้รถเสียดุลย์น้อยและสั้นที่สุดในจังหวะเหวี่ยง โยน โยก    มุมของลูกหมากและองศาความชันของเพลาขับต่างๆจะรับน้ำหนักได้ดีสุดคือมุมเดิมหรือต่างได้ประมาณ  30 มม.+/-  ดังนั้นการ set รถให้เฟริมในความสูงเท่าเดิมหรือต่างจากเดิมไม่มากนักจะทำให้รถนิ่งและทรงตัวดีกว่า    และยังพอมีความนุ่มนวลอยู่บ้างเพราะยังเหลือช่วงให้ตัวได้   แต่การ set รถที่เตี๊ยในรถลักษณะนี้จะต่างกับรถยนต์นั่งเพราะระบบช่วงล่างที่ต่างกัน  ทำให้อาจเกิดอาการนิ่งแต่จุกท้องเวลากระแทก ครับ


3. ค่าใช้จ่ายในการทำ จะแหกมากมั้ยครับ
จะเตี้ยจะสูง  ค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกันครับในกรณีเอาเฟริมด้วย    เพราะเตี๊ยไม่ตัดไม่ดัดก็ได้ไม่เกิน 2.5-3 นิ้ว    ถ้าสูงไม่ตัดไม่ดัดก็ได้ไม่เกิน 2-2.5 นิ้ว


ขอบคุณพี่นะ มากๆครับ,ชัดเจนเลยครับ
สงสัยคงต้องคิดให้มากๆก่อนว่า "จะสวยหรือจะนั่งนิ่ม"
นึกถึงสมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วที่รถเก๋งฮิตโหลดเตี้ยกันมาก
แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการนั่งที่แข็งกระด้างขนาดกินข้าวอิ่มแล้ว
ขึ้นไปนั่งรถโหลดแป๊ปเดียวย่อยหมดอ่ะครับ…
ขอบคุณพี่นะอีกทีครับ


 :sd23: :sd23: :sd23:
:sd24: I LOVE PA_MANIA  :L4398: :sd24: "Pamania เพื่อนกันตลอดไป"