(เครดิต ทีมที่ปรึกษา รั้วสังกะสี)ตอน4 - การตกแต่งรถ ถึงขนาดเปลี่ยนปลายหัวฉีดกันนั้น มีผลอย่างไร ? (เครดิตรูปพี่อ๊อด ปามาเนีย) การตกแต่งรถ ถึงขนาดเปลี่ยนปลายหัวฉีดกันนั้น มีผลอย่างไร ?การเปลี่ยนหัวฉีด ใหญ่ขึ้น ก็กินน้ำมันเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดาครับ ส่วนรูในการฉีด จะ 6 รู 7รู 8รู เพื่อการกระจายตัวของน้ำมัน และในเงื่อนไขนั้นๆ ยังมีเรื่องขององศาของรูการฉีดอีก แตกแยกออกมาเป็นรุ่นนั้น รุ่นนี้ ให้เลือกจับจองมาใช้กัน เช่น 8 รู(นาวาร่า) GTX 947A 947B 947C 947D นี่ก็เป็นประเภท 8 รูทั้งนั้น แต่มีคุณสมบัติบางอย่างที่ต่างกัน แต่ขอยืนยันว่าทุกตัวกินน้ำมันมากกว่าเดิมแน่นอน (แต่กินช่วงสั้น)
2.5(4D56) หัวฉีด 6 รู ขนาด 0.153 mm. (เดิม)
3.2(4M41) หัวฉีด 6 รู ขนาด 0.16 mm. (เดิม)
2.5VG(4D56) หัวฉีด 7 รู ขนาด 0.15 mm. (เดิม)
การตกแต่งด้วยการดันราง หากมากเกินไปจะทำให้เกิดการเค้นของแรงดัน และไม่สามารถระบายออกได้ทันในหนึ่งช่วงเวลา แต่หากจะออกก็ต้องออกแบบเค้นในรูเดิม ทำให้เกิดการเค้น เกิดความร้อน อาจเกิดการบวม หรือเกิดการติดขัด ก็แล้วแต่จังหวะจะเกิด แต่การเปลี่ยนHardware รองรับนั้น เป็นการระบายแรงดันและเพิ่มช่องทางออกของน้ำมันสู่ห้องเผาไหม้อีกทางหนึ่ง โดยในหนึ่งช่วงเวลานั้น จะสามารถรองรับการจ่ายน้ำมันเข้าห้องเผาไหม้ได้มากกว่า จึงไม่จำเป็นต้องเค้นนาน ดันเยอะ สังเกตุว่ารถที่เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่จะใช้รอบเครื่องต่ำกว่าปกติ ในการเคลื่อนย้ายความเร็วหรือเรียกว่ามีกำลังเพิ่มขึ้นนั่นเอง
การเพิ่มกำลังเครื่องด้วยการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิค ด้วยการสั่งจ่ายจังหวะการฉีดใหม่เช่นกล่องปรับการฉีด หากมีการเค้นกันนานก็ยังก่อปัญหาให้กับหัวฉีดเดิมอยู่ เพราะเค้นแต่การควบคุมแต่ระบบไม่ยอมรับ การสั่งเครื่องยนต์ทำงานด้วยการสร้างระบบ Program สั่งจ่ายใหม่นั้น ก็ทำได้ในระดับหนึ่งไม่เกิน factor ที่เผื่อค่าไว้ หากมากกว่านั้นมากๆแล้วไม่มี Hardware รองรับ ก็ยังไม่สามารถให้การตอบสนองได้ดีดังใจ ถ้าจากรุ่น 140แรงม้า มาเป็น 178 แรงม้า แก้ด้วย Program ง่ายกว่าที่จะทำระบบ VG Turbo รองรับ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากๆ
**รถเดิมไม่แต่งกล่อง หากมาใส่หัวฉีดใหญ่ จะดีกว่าหรือไม่ จุดนี้ต้องบอกว่าไม่จำเป็นเพราะเสียเงินโดยป่าวประโยชน์ เพราะการเพิ่มปลายหัวฉีดให้ใหญ่แล้ว จำเป็นต้องเพิ่มแรงดันหัวฉีดเข้ามาอีก