มาแว้ววววววว.....................
ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่ๆ ชาวปามาเนีย ที่มาช้าไปนิดเดียวเอง (หรา)
โดยการเดินทางท่องเทียวเหนือทั้งหมด 8 วัน ผมจะแบ่งการเดินทางออกเป็น 6 ช่วงหลักๆ ดังนี้
ช่วงที่ 1 กทม-ลำปาง
ช่วงที่ 2 ลำปาง-ปาย
ช่วงที่ 3 ปาย-แม่ฮ่องสอน (บ้านรักไทย-ปางอุ๋ง-ภูโคลน-สะพานซูตองเป้-พระตำหนักปางตอง)
ข่วงที่ 4 แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม (ดอยแม่อูคอ-ภูชี้เพ้อ)
ช่วงที่ 5 ขุนยวม-เชียงใหม่ (ใช้เส้นทาง ขุนยวม-แม่แจ่ม-อินทนนท์)
ช่วงที่ 6 เชียงใหม่-กทม
สำหรับสาเหตุที่ต้องแบ่งการเดินทางออกเป็นย่อยๆ เพราะว่ามีสาวน้อยอายุ 9 เดือนไปด้วย และผู้ใหญ่อีก 3 คน รวมคนขับ (ผู้สูงอายุ 1 คน) +สัมภาระเต็มท้ายรถ คล้ายๆ ย้ายบ้านเลย ทำให้กังวลในหลายๆ เรื่อง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักสำคัญของการเปลี่ยนมาใช้ผ้าเบรก Race (N800 จำแลง)
สำหรับการรีวิวนั้น จะขอสรุปตามสภาพเส้นทางซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ทางราบ และทางภูเขา นะครับ เอาล่ะเกริ่นน้ำมาเยอะพอสมควร ขอเริ่มเลยแล้วกันครับ
1.ทางภูเขา เส้นทางภูเขาหลักๆ จะมีทั้งหมด 4 ช่วงคือ ช่วงที่ 2 ถึงช่วงที่ 5 โดยการทดสอบเบรกของผมนั้นจะแบ่งเป็นแบบใช้เกียร์ D ขึ้นและลงเขา และใช้เกียร์ D ขึ้นเขาสลับกับ Paddle Shift โดยใช้ Paddle Shift ลงเขา
ช่วงที่ 2 ลำปาง-ปาย ช่วงจากลำปางถึงปาย ผมจะเลือกการใช้งานในลักษณะใช้เกียร์ D ขึ้นและลงเขา เนื่องจากสภาพทางไม่โหดมากมายนัก ทั้งในทางขึ้นและลงเขา เนื่องจากผมเองไปมาหลายรอบ จำโค้งได้เกือบหมด เพราะไปทุกปีๆ นึงก็ 2 ครั้งครับ โดยการทดสอบเบรกที่จะมีประสิทธิภาพดีที่สุดก็คือตอนลงเขาเนี่ยแหละ ว่ามีการตอบสนองยังไงบ้าง รวมถึงการทดสอบในเรื่องของฝุ่นและเสียงในขณะเบรกว่ามีขนาดไหน
สรุปในการทดสอบในช่วงนี้ ระยะเบรกเป็นไปตามที่เท้าสั่งครับ จะสามารถหยุดรถให้แบบนุ่มเท้าก็ได้ หรือเพิ่มน้ำหนักในการกดเบรกลงไปอีกนิดรถก็สามารถหยุดได้ทันทีแต่อาจมีการกระชากบ้างเล็กน้อย (หน้าทิ่ม) ส่วนเสียงที่เกิดขึ้นตอนที่เบรกนั้นจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาเล็กน้อยในตอนที่รถเกือบหยุดสนิทเท่านั้น ซึ่งจะแตกต่างกับที่เคยทดลองใช้ผ้าเบรค Bendix Titanium ที่เริ่มมีเสียงตั้งแต่ตอนกดเบรก
สำหรับวิธีการเบรกโดยใช้เกียร์ D 8Speed ในช่วงลงเขานั้น ผมจะใช้การเบรกเป็นระยะๆ จนเกือบหยุดนิ่ง ซึ่งไม่พบว่ามีอาการเบรกเฟดให้เห็นแต่อย่างใด รวมถึงไอ (ควัน) จากผ้าเบรก และกลิ่นไหม้ก็ไม่มีให้เห็นขึ้นมา ซึ่งหมายความว่าจานบรกเดิมๆ ติดรถก็สามารถเอารถที่มีน้ำหนัก 2 ตันกว่าๆ อยู่ โดยไม่นับเรื่องการกินเนื้อจานที่มากขึ้นกว่าผ้าเบรกเดิมๆ
ช่วงที่ 3 ปาย-แม่ฮ่องสอน (จุดชมวิวปางมะผ้า-บ้านจ่าโบ่-อช.ถ้ำปลา-บ้านรักไทย-บ้านรวมไทย-ปางอุ๋ง-พระตำหนักปางตอง-ภูโคลน-สะพานซูตองเป้) การทดสอบในช่วงนี้ผมจะใช้เกียร์ D สลับกับ Paddle Shift ในการขึ้นเขา ส่วนการลงเขานั้นจะใช้ Paddle Shift ล้วนๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เบรก โดยจะเบรกให้น้อยที่สุด รวมทั้งสภาพเส้นทางมีความชันทั้งขึ้นและลงในหลายๆ ช่วง ส่วนความเร็วก็คุมไว้ที่ 60-80 กม/ชม (ยกเว้นทางราบที่เพิ่มความเร็วขึ้นไป)
โดยในช่วงระหว่างทางจากจุดชมวิวปางมะผ้า-บ้านจ่าโบ่-อช.ถ้ำปลา ในช่วงที่ชันมากๆ มีช่วงนึง (ผมจำไม่ได้ว่าเป็นช่วงไหน) ที่ผมเผลอกดเบรกหนักไปหน่อย ก็ปรากฏว่าเห็นไอ/ควันขาวน้อยๆ ลอยขึ้นมาให้เห็นทันที (ตอนที่เห็นแอบกังวลนิดๆ ว่าจานมันจะรับไหวไหมหว่า???) แต่การกดเบรกก็ยังใช้ได้เป็นปกติ ไม่มีอาการเบรกเฟดและเสียงดังเท่าไหร่
แต่อย่ากระนั้นเลยหลังจากเที่ยวบ้านจ่าโบ่เสร็จก็เดินทางไป อช.ถ้ำปลา ต่อ หลังจากที่จอดรถแล้วก็เลยลงมาสำรวจล้อและความร้อนซักนิด ปรากฏว่า เบรกร้อนพอสมควร พร้อมกับเห็นไอร้อนนิดๆ (อาจจะเพราะอากาศช่วงที่ไปประมาณ 18 องศา เลยทำให้เห็นไอชัดเจน) แต่ล้อนี่สิดำมากกกกกกก ก็เลยลองเอานิ้วเป็นถูๆ เพื่อหาเลขนิดหน่อย


ภายหลังให้อาหารปลาเสร็จก็เที่ยวต่อในหลายๆ ที่ แต่ก็ระวังในเรื่องการกดเบรกมากขึ้น ไม่เห็นกดหนักไป ลักษณะการเบรกยังได้ตามอารมณ์ที่ต้องการ นุ่ม เนียน หน้าไม่ทิ่ม (ต้องคุมน้ำหนักเท้าไม่ให้เผลอกดหนักด้วย หากกดหนักไปมีหน้าทิ่มได้)




ปล. ช่วงที่ขึ้น-ลง ไปทางปางอุ๋งและบ้านรักไทย มีรถเก๋งและรถกระบะรีโว่ แหกโค้งคาตา ดีนะเป็นโค้งด้านใน หากโค้งนอกแล้วไม่อยากจะนึกเลย
ช่วงที่ 4 แม่ฮ่องสอน-ขุนยวม (ดอยแม่อูคอ-ภูชี้เพ้อ) สำหรับการเดินทางในช่วงนี้ เส้นทางส่วนใหญ่ขับสบาย ทางเขาน้อย เลยใช้ความเร็วได้ ยกเว้นเส้นทางที่ไปดอยแม่อูคอ และภูชี้เพ้อ ซึ่งอยู่ระหว่างทางก่อนถึงดอยแม่อูคอน่าจะ 4-5 กม. (ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด)
โดยเส้นทางที่ไปภูชี้เพ้อนั้น เส้นทางส่วนใหญ่เป็นทางดิน ขรุขระ และทางชัน รวมถึงข้างทางช่วงสุดท้ายเป็นเหว (ซึ่งผมจะถามและใช้ ว. ถาม ว่ามีรถลงมาไหม เนื่องจากมันสวนกันลำบาก) เส้นทางนี้เลยลองใช้โหมด 4HLC และ 4LLC รวมถึงระบบลงทางลาดชัน ส่วนเรื่องการเบรกนั้นยังไม่มีความแตกต่างจากที่ใช้มาก่อนหน้าครับ

ช่วงที่ 5 ขุนยวม-เชียงใหม่ (ใช้เส้นทาง ขุนยวม-แม่แจ่ม-อินทนนท์) ช่วงนี้ผมเริ่มเจอปัญหาเรื่องของเบรกแล้ว ช่วงแม่แจ่ม-อินทนนท์ คือจะมีลักษณะเบรกดังจากล้อหลังซ้ายในตอนขับ โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้งจะดังตลอด รวมถึงรู้สึกว่ารถจะหน่วงๆ ขึ้นเล็กน้อย คล้ายๆ อาการของเบรกขัด แต่เรื่องการเบรกนั้นยังคงเป็นปกติ
โดยหลังจากลงดอยอินทนนท์แล้ว ผมแวะที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง และสังเกตเห็นได้ชัดว่า ฝุ่นโดยเฉพาะล้อหลังซ้าย ซึ่งเป็นด้านที่มีปัญหาจะมีฝุ่นเยอะกว่าล้ออื่นๆ รวมถึงความร้อนที่ล้อหลังซ้าย จะร้อนกว่าล้อหลังขวาแบบชัดเจน แต่ไม่ส่งผลในเรื่องของระยะการเบรกแต่อย่างใด ส่วนอาการดังของเบรคในช่วงที่วิ่งทางตรงนั้นจะไม่มีเสียงเกิดขึ้น
2.ทางราบช่วงที่ 1 กทม-ลำปาง และช่วงที่ 6 เชียงใหม่-กทม เส้นทางราบในช่วงนี้การทดสอบจะปกติ แต่ๆๆๆๆ มีเหตุให้ต้องระทึกในช่วงขับจากเชียงใหม่-กทม ในช่วงระหว่างสิงห์บุรี-อ่างทอง คือ ผมใช้ความเร็วประมาณ 160 กม/ชม วิ่งช่องขวาสุด แต่จู่ๆ รถบรรทุกพ่วงซึ่งอยู่อีกฝั่ง ก็โผล่พรวดออกจากที่กลับรถทันที ซึ่งมีระยะเบรกคาดว่าจะไม่เกิน 500 เมตร
เจ้าผ้าเบรก Race ทำหน้าที่ของมันได้ดีมาก สามารถหยุดได้นิ่มนวล หน้าไม่ทิ่ม มีระยะห่างจากรถบรรทุกพ่วงเกือบๆ 50 เมตร จนผมต้องรีบมองด้านหลังแล้วรีบกดไฟกระพริบทันที เพราะกลัวข้างหลังจะมาชน ส่วนรถเลนอื่นๆ ที่อยู่ข้างเคียงก็เบรกตัวโก่งเช่นเดียวกันและมีอาการท้ายปัดให้เห็นชัดเจน จนผมเสียวว่าจะมาปัดโดนรถผม
โดยช่วงที่ลดความเร็วจาก 160 มาหยุดนิ่งนั้น เสียงจากผ้าเบรกก็ดังลั่นพอสมควร แต่หากทำให้คนในรถปลอดภัยแล้วล่ะก็ผมก็ไม่ติดใจอะไรทั้งนั้น
บทสรุป ผ้าเบรก Race (N800 จำแลง) ไว้ใจได้ทั้งทางตรงแบบมาเร็วๆ และทางลงเขา (แต่ควรใช้เกียร์และเบรคให้เป็นด้วย)
ฝุ่นมีเยอะพอควร และจะเยอะมากขึ้นหากใช้ความเร็วมากๆ หรือใช้เส้นทางภูเขา แล้วเบรกจนรถจนหยุดนิ่ง
เสียง ที่พบจะมีเสียงตอนที่รถเกือบหยุดนิ่งเท่านั้น ยกเว้นตอนขับมาเร็วๆ แล้วเบรกจนหยุดนิ่ง เสียงจะชัดเจนตั้งแต่เริ่มลงน้ำหนัก แต่หากใช้ความเร็วปกติๆ เสียงจะมีเฉพาะก่อนรถหยุดนิ่งเท่านั้นครับ
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ ไม่รู้ว่าจะได้สาระอะไรหรือเปล่า หรือตรงประเด็นที่อยากรู้ไหม แบบว่าเขียนรีวิวไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ครับ
