เนื่องจากปีใหม่ที่ผ่านมา ผมและครอบครัวได้ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วอยากไปเที่ยวร้าน กาแฟบ้านต้นไม้ ทางขึ้นไม่ชันมากแต่ยาวต่อเนื่องสลับเนินราบ และลงเขาบ้าง ระยะทางประมาณ 11 กิโลจากถนนใหญ่ ก็เลยชล่าใจ ไม่ปิดกล่องทั้งสองตัว ปิดแอร์ ใช้ เกียร์แบบปรับเอง ประกอบกับขับตามตูดกันขึ้นไปไม่สามารถทำความเร็วได้ ผมตั้งเตือนความร้อนไว้ที่ 100 ขับขึ้นเขาจนเกือบถึงร้านปรากฎว่า สมาร์ทเกจ ร้องจ๊าก เอาแล้วไง คิดว่าทนอีกแป็ปเดียว ฝืนขับต่ออีกนิดเพราะกำลังขึ้นเขาอยู่ ปรับขยับตัวเตือนความร้อนเป็น 105 ขับต่ออีกนิด ร้องจ๊ากเหมือนเดิม ชักยังไงแล้ว มองดูเข็มความร้อนที่หน้าปัด เริ่มขยับขึ้นเกือบฮีทแล้ว ไม่ไหวแล้ว เกือบฮีทแล้ว ต้องจอดข้างทางทั้งๆที่ยังขึ้นเขาอยู่ จอดปุ๊ปได้ยินเสียงหม้อน้ำหน้ารถ เดือดปุดๆ ชิบหายแล้ว วันแรกของทริป รถก็จะพังแล้วหรือ เปิดฝากระโปรงออกมา น้ำยังไม่่ดันหม้อน้ำออกมา ค่อยโล่งอก แต่เครื่องยังติดอยู่ จับที่หม้อน้้ำพลาสติกร้อนจี๋เลย ผมเลยไม่ดับเครื่อง คิดว่าปล่อยให้เย็นสักพัก กลับไปมองหน้าปัด ไฟน้ำมันเกียร์ ออโต้แดงค้างเลย ตายแล้วอะไรจะโชคสองชั้น ร้อนทั้งคู่ เลย ต้องวอร์มให้เย็นลง โชคดีที่ทางที่จอดไม่ชันมาก แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ เสียงผบ. ดังอยู่ข้างหู ใจนี่ตกไปถึงตาตุ่มเลยถ้ารถพัง แล้วทริปล่ม ต้องหารถมาลากตั้งแต่วันแรกเลย ยกหูโทรหาพี่นก ค่อยสบายใจขึ้นมานิด ว่าถ้าฮีทแล้วเครื่องยังไม่ดับ คิดว่าคงไม่เป็นไร ยังพอลุ้นเอาว่า ถ้าจอดรถดับเครื่องแล้วรอให้เครื่องเย็นเปิดฝากระโปรงดูหม้อน้ำแล้วน้ำไม่หาย ก็สบายใจได้ว่าเครื่องไม่เป็นไร แต่ถ้าน้ำหายก็เตรียมเข้าอู่ ไม่ฝาสูบโก่ง ก็ ประเก็นแล็บ แน่นอน พอเครื่องวอร์มดาวลงมา จอดติดเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที่ ก็ขับไปต่อ ถึงที่หมายโดยสวัสดิ์ภาพ แต่ไม่สบาบใจ ต้องลุ้นตอนเช้าอีกที่ แล้วโชคดีก็เป็นของผม รอดครับ รถไม่เป็นไรน้ำไม่หาย ได้เที่ยวต่อสมใจ นี่เป็นครั้งแรกนะครับ
ทริปวันถัดมา ดอยอ่างขาง ครับ ทางขึ้นถือว่าชันเอาเรื่องแต่ที่สำคัญ ทางขึ้นยาวตลอดแทบไม่มีเนินราบให้พักเครื่องเลยต้องส่งขึ้นตลอด คราวนี้ปิดกล่องทั้งหมด คิดว่าคงไม่เป็นไรแล้ว แต่ไหนได้ครับ ขับไปได้ครึ่งทาง สมาร์์ทเกจ ร้องอีกแล้ว ตาผมนี่คอยจ้องเข็มวัดความร้อนที่น่าปัดเลยครับ เริ่มขยับ ต้องจอดทันทีเลย ชาวบ้านชาวช่อง แซงกันไปหมด อายมาก ขนาดแจ็ส ยังแซงเลยคร๊าบ น่าเศร้าจริง ๆ แต่ก็ขับจนถึงที่หมายไปได้ครับ ขับแล้ว พัก แบบหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นโรคกลัวความร้อนตามมาหลอนเลยครับ
ถัดมา อีกวัน ดอยแม่สลอง ไม่ต้องทำอะไรแล้วขับไปหลอนไปเข็ม จะขยับไหมนะ จนแล้วจนรอด ก็ผ่านไปด้วยดี ส่วนวิ่งทางราบก็ปรกติทุกอย่าง เปิดกล่องทุกอย่างปกติหมด ความร้อนขึ้นปกติทั้งเวลาวิ่งเร็วและขับธรรมดา ปกติของผมคือ วิ่งเร็วลากยาวๆความร้อนที่เคยขี้นยังไงก็ยังขึ้นอย่างนั้นนะครับ ยังนึกในใจรถชาวบ้านชาวช่องเขา ก็ปาเจโร่เหมือนกันทำไมเขาไม่เจอปัญหานี้หว่า มีเวลาหาข้อมูล เรื่องความร้อนไปเจอกระทู้ขอพี่นะ และพี่นก ลงไว้ทำให้เข้าใจว่าหม้อน้ำปีเก่ามันบาง แล้วก็ไม่มีออยเกียร์ให้ ทำให้ความร้อนสูง สุดท้าย คงไม่รอด ต้องไปใช้บริการสูตรพี่นะ แน่เลย ไม่งั้นขับรถไม่มีความสุขเวลาขึ้นเขาแน่เลย ที่สำคัญ เดี๋ยวหูชาอีก เสียงบ่นๆๆๆๆๆ บราๆๆๆๆ ลืมบอกไป รถผม ปี 2010 เครื่อง 140 ม้า มีสองกล่อง คันเร่งและดันราง +หัวฉีดใหญ่ นะครับ เอาไว้ไปเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกครับ เกจต่างๆสามารถช่วยท่านได้ นะครับ ถ้าผมไม่มีเจ้าพวกนี้เครื่องคงน็อก สงสัยต้องนั่งฟังคำบ่น ของผบ.แน่เลย และทริปท่องเที่ยวของผมต้องจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอนครับ ต้องบอกกก่อนหน้านี้ ผมไปทั้งอินทนนท์ ภูทับเบิก ไม่เป็นนะครับเรื่องความร้อนนี่ มีสมาร์ทเกจร้องตอนไปทับเบิกอยู่แป็ปเดียว ตอนนั้นไม่ได้สังเกตุเข็มเพราะนึกว่าไม่เป็นไร ประกอบกับ ทางขึ้นมีช่วงเนินราบทำให้ไม่ต้องเร่ง เครื่องตลอด มีผ่อนเครื่องกันบ้าง ทำให้ความร้อนขยับลงมา ความร้อนรถผมปกตินะครับ เดินเบา 87-88 ครับ ยาวสักนิดต้องขออภัยด้วยนะครับ 
ตามสภาพอายุรถป่าว กลับไปคราวนี้ไปเช็ค
- ทำความสะอาดครีบระบายลมที่หม้อน้ำ
- ปั๊มน้ำ
- วาวล์น้ำ (แนะนำสเปคเดิม)
- ฝาหม้อน้ำ
- คุณภาพน้ำยาหล่อเย็น
แนะนำเพิ่มเติม เวลาขึ้นเขาที่ชันมากและทำความเร็วไม่ได้
- ปืดคอมแอร์เพราะแผงแอร์อยู่หน้ารังผึ้งหม้อน้ำ พอแอร์ร้อนไอร้อนจะมาปะทะหม้อน้ำตลอดเวลาการระบายจะด้อยมาก
- ไม่จำเป็นต้องปิดกล่องดันรางหรือคันเร่ง ถ้ารักษาระดับความเร็วรถตามรอบได้
- ถ้าไม่หมั่นใจ ปรับเกียร์เป็น +/- ก่อนเข้าหาอุปสรรค
- เมื่อรถเอียงตัวมากกับเนินชัน ทำให้อ่างน้ำมันเครื่องน้ำมันเกียร์มันเอียงด้วย การทำงานของระบบจะเสมือนน้ำมันน้อย (รถขึ้นเขาบ่อยควรเพิ่มน้ำมันเครื่องและเกียร์)
- ครั้งหน้าเจอปัญหาแบบนี้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการดึงฝากระโปรงใ้เด้งขึ้นจะช่วยได้พอสมควร
- รถเราไม่ได้แต่งเน้นขึ้นเขา หรือมีเกียร์ 4x4 ช่วย อย่าเร่งเครื่องขึ้นเกินพอดีไปตามรอบพอครับ
- SMG ที่ร้องเตือนมันทำงานไวกว่าความร้อนจริงอย่าไปตกใจมาก เข้าใจระบบ เข้าใจรถ ก็จะได้ขับสบายใจ
- น้ำหนักบรรทุก ล้อใหญ่ ยางโต มีผลเรื่องกำลังฉุดลากของเครื่องยนต์
- ความเร็วรอบที่ต่ำ เกียร์ต่ำของปาเจโร่ มีกำลังมากพอ (แต่อย่าเร่งคันเร่งช่วยมันมากเกิน ไม่ได้รอบที่สัมพันธ์กำลังจะลดลง และเมื่อลดมากมันจะ hold gear)
กลับไปร้านพี่นก สำหรับรถพี่ภูดิทที่ว่ามาว่าทำอะไรไปบ้าง บอกใช้สูตรพี่นะ ดังนี้