Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

ปรึกษาเรื่องสายพานtiming

<< < (4/8) > >>

อั๋น ราชพฤกษ์:
ขอบคุณพี่นก  ขอบคุณพี่นะคับ   เด่วลองเช็คดูหน่อยดีกว่าคับ    :sd23:

ปุ๊ PJS2626:
ผมก็เข้าข่ายใช้รถน้อยเหมือนกัน
แบบนี้ อายุรถครบ 4 ปี เมื่อไหร่ ก็คงต้องเปิดเช็คเจ้าสายพานตัวนี้เช่นกัน  :L2736:

พี่โต้ง Tongsom:
ชัดเจนครับ ยังไงก็อย่าชล่าใจ เดี๋ยวก่อนๆๆๆ จนต้องเรียกรถลาก นำรถเข้าอู่
รอถึงตอนนั้น ค่าใช้จ่าย บานรุ่งเรืองครับ

ต๋อง_มาบตาพุด:
 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ..รถผมก็เข้าข่ายนี้เหมือนกัน..จนแบ็ตเจ๊งไปลูกแล้ว.. :sd23:

พี่นก-99AUTO:

--- อ้างจาก: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 20 มีนาคม 2015, 08:59:53 ---สวัสดีครับพี่ยอด

จากประสบการณ์  รถจอดไม่ค่อยได้ใช้จะเสื่อมสภาพทมากกว่ารถที่วิ่งใช้งานทุกวัน(ยกเว้นความแน่นของระบบอัดกำลัง)   ที่เสื่อมเร็วกว่ารถใช้งานจะเป็นพวกลูกยาง บูชยาง  สายไฟ โลหะที่เป็นยางและพลาสติก   จะเกิดอาการแห้งกรอบ  รวมถึงระบบส่งเชื้อเพลิงและระบบระบายความร้อนจะเกิดอาการแห้งและเสี่ยงต่อการ Start เครื่องยนต์เมื่อเริ่มเดินเครื่องมากๆ

ปัญหที่ตามมาคือเมื่อเอาออกมาใช้งานแล้วเกิดการให้ตัวหรือโดนความร้อนจากเครื่องยนต์ โดนความชื้นจากน้ำพื้นถนน  จะมีการเปลี่ยนแปลงสภาพเร็วมาก  แตก ย้วย หลุด ร่อน  กรอบ  แห้ง ร้าว   ประจำ     ฉะนั้นหากมีรถจอดไม่ได้ใช้งานควรเอามาวิ่งบ้างอย่างน้อยๆก็เดือนละสัก 50-100 โล     ไม่ควร start อยู่กับที่จอดเพราะยังมีหน้ายางอีกส่วนหนึ่งที่ควรนวดทั้งเส้น

อายุการใช้งานของรถแต่ละคนไม่เท่ากันอยู่ที่ระยะทางที่ใช้   กับช่วงเวลาที่ใช้   โดยปกติจะคำนวณที่ 25000 กม/ปี   ฉะนั้น 4 ปีจะเท่ากับ 100000 โล    หากอยู่ในเงื่อนไขเวลาควรเข้าเช็คเมื่อครอบ 4 ปีโดยที่ไม่ต้องสนใจเรื่องระยะวิ่ง    สำหรับรถที่ใช้ในโซนอากาศเค็มเช่นใกล้ทะเลจะคำนวณลดลงอีก   จึงพบว่าในเอกสารของคู่มือส่วนใหญ่จะระบุแบบเซฟมากๆคือ   3 ปีหรือ 100000 โล   (อยู่ที่ระยะใดถึงก่อน)

ข้อมูลจากความจำนะครับ (เพื่อแชร์เป็นข้อมูล)
 :sd23:

--- End quote ---

จากภาพ สายพานบาล้าน เส้นเล็กมักจะรูด (ฟันหลอ)กรณีสายพานแข็ง ก่อนเส้นใหญ่ไทมิ่ง
อาการเครื่องจะสั่น กระบือ ครับ

โปรดระวังให้ช่างอู่ที่ไว้ใจตรวจเช็ค ครับ

 :sd23:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว