
- มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมส่งไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 สู้ศึกตลาดรถไตรมาสสุดท้ายเพิ่มฟังก์ชั่นเน้นความสปอร์ตด้วยการตกแต่งภายในโทนสีดำและอุปกรณ์ความบันเทิงครบครัน โดยไทรทัน เริ่มขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในขณะปาเจโร สปอร์ต จะพร้อมขายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูม รถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ 28 พฤศจิกายนนี้ พร้อมเตรียมขนยนตรกรรมร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป คับคั่ง
- มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้แนะนำ มิตซูบิชิ ไทรทัน และ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 สำหรับมิตซูบิชิไทรทันมาพร้อมแนวคิด “เชื่อในพลัง มั่นในสไตล์” จากการปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตให้กับการตกแต่งภายในด้วยโทนสีดำ การติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน อาทิระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัยพร้อมอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD, VCD, CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งานและช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone ได้ ในขณะที่มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต มาพร้อมแนวคิด “All on Demands” ที่โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ตอบทุกไลฟ์สไตล์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมสมรรถนะที่ตอบสนองทุกความต้องการด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD) หนึ่งเดียวในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ ตามความต้องการและสภาพถนนจึงให้การประหยัดน้ำมันและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ พร้อมการออกแบบภายนอกและภายในให้ตอบรับกับทุกความต้องการโดยมาพร้อมกล้องมองภาพหลังเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยขณะถอย และสัญญาณกะระยะขณะถอยหลังแบบ 4 จุด การออกแบบภายในโทนสีดำ พร้อมติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รูปแบบใหม่รองรับการแสดงภาพแผนที่แบบ 3 มิติ และจอภาพแบบ WIDE Screen ขนาดใหญ่10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone และฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) แบบพกพาได้
- “มิตซูบิชิ ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 ได้รับการพัฒนาให้มีความลงตัวและสามารถตอบสนองความต้องการ รวมทั้งสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งผมเชื่อว่าจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่ให้ทั้งสมรรถนะและการตกแต่งในสไตล์พรีเมียมของมิตซูบิชิ ไทรทัน รวมไปถึงความสามารถในการตอบสนองทุกความความต้องการของมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอ์ต ประกอบกับข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” ด้วยดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 1.79% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ฟรีค่าบำรุงรักษา 30,000 กิโลเมตรแรก รวมไปถึงฟรีค่าแรง 100,000 กิโลเมตรแรก อีกทั้งรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน ยังได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีรถคันแรกจะสร้างความสนใจและทำให้ลูกค้าพึงพอใจในรถยนต์มิตซูบิชิ ทั้ง 2 รุ่นอย่างแน่นอน” มร.มูราฮาชิกล่าว
- ทั้งนี้ มร.มูราฮาชิ กล่าวเสริมถึงการร่วมงานมหกรรมยานยนต์ หรือ มอเตอร์ส เอ็กซ์โป ครั้งที่ 29 ซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม นี้ว่า “สำหรับงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ในปีนี้เราได้เตรียมนำรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นร่วมโชว์ครอบคลุมทั้ง มิตซูบิชิ ไทรทัน และปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2013 พร้อม มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงจากลูกค้าในขณะนี้ และมิตซูบิชิ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ พร้อมกับข้อเสนอพิเศษ “มิตซูบิชิ จัดให้” ทั้งนี้จากความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประกอบกับข้อเสนอพิเศษ รวมไปถึงนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลที่กำลังจะหมดลงภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่จะได้รับการคืนภาษีสูงสุดถึง 77,000 บาท และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่ได้รับการคืนภาษีสูงสุดที่ 91,000 บาท นั้น บริษัทฯ จึงตั้งเป้ายอดจองในงานไว้ที่ 6,500 คัน” มร.มูราฮาชิ กล่าว

ข้อมูลผลิตภัณฑ์Pajero Sport มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 2013ครบทุกความเหนือชั้น ตอบทุกสไตล์ชีวิต ในหนึ่งเดียว All on demandsการออกแบบภายนอกครบทุกความเหนือชั้น- หรูหราลงตัวด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์และหลอดไฟHID ที่ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติและระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ในรุ่น GT ปาเจโร สปอร์ตรุ่นปี 2013 ยังเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการติดตั้งสัญญานกะระยะจอดขณะถอยหลังแบบ 4 จุด พร้อมกรอบกระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยวดีไซน์ใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่น
- เสริมมาดเข้มเน้นความลงตัวด้วยการติดตั้งสปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต พร้อมกล้องมองภาพหลังขณะถอดเพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่จอด เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเฉพาะรุ่น GT
การออกแบบภายในตอบทุกสไตล์ชีวิต- ภายในกว้างขวาง สบาย เหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่ให้ความรู้สึกกว้างสบาย พร้อมการตกแต่งภายในโทนสีดำเฉพาะรุ่น GT
- ผ่อนคลายสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วยเบาะนั่งแบบ 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ง่ายถึง 5 รูปแบบ เบาะที่นั่งคนขับและผู้โดยสารตอนหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง (เฉพาะรุ่น GT) ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถแยกพับพนักพิงแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเบาะนั่งแถวที่ 3 ซึ่งสามารถแยกพับแบบ 50:50 ราบกับพื้นห้องโดยสาร เพื่อให้การเก็บสัมภาระด้านหลังรถที่มากขึ้น พร้อมระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3 ให้ความเย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร
- เพิ่มความสะดวกในการขับขี่ในระยะทางไกลด้วยระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise control) พร้อมสวิทช์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย เฉพาะรุ่น GT
- ติดตั้งอุปกรณ์ความบันเทิงพร้อมสรรพไม่ว่าจะเป็นเครื่องเล่น DVD,VCD,CD MP3 รุ่นใหม่ที่ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมพร้อมช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone และจอภาพด้านหน้าแบบหน้าจอสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 7 นิ้ว พร้อมจอภาพแอลอีดี (LED) แบบ WIDE Screen ขนาด ใหญ่ 10.2 นิ้วสำหรับผู้โดยสารตอนหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่น GT
- ติดตั้งระบบนำทางอันชาญฉลาด (เนวิเกเตอร์) รองรับแผนที่ในรูปแบบ 3 มิติ เฉพาะรุ่น 3.0 GT และ 2.5 GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ
- เครื่องเล่นวิทยุ ซีดี เอ็มพี 3พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ AUX และ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod / iPhone ในรุ่น 2.4 GLS และ 2.5 GLS
- เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบล็อกเกียร์ Electric Shift lock เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นยกเว้นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 2.4 GLS MT


ถึงพร้อมด้วยสมรรถนะและประสิทธิภาพด้วยเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือก
เครื่องยนต์ดีเซล- 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที จึงตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน
เครื่องยนต์เบนซิน- เครื่องยนต์เบนซินขนาด 3.0 ลิตร V6 สูบ 24 วาล์ว มีพละกำลังสูงสุด 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาทีรองรับน้ำมันเบนซิน 95 แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์อี 20
- 2.4 ลิตร MPI SOHC ให้พละกำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 194 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับน้ำมันเบนซิน 91, 95 และแก๊สโซฮอล์ 91-95, แก๊สโซฮอล์ อี 20
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะที่ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจซึ่งสามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสมและทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift ในรุ่น GT เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้การขับขี่เพื่อการควบคุมที่ดีกว่า
ทางเลือกที่เหนือกว่ารถขับเคลื่อน 4 ล้อทั่วไปด้วยระบบ SS4 (Super Select 4WD)- ระบบ SS4 (Super Select 4WD) ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตลอด 20 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การแนะนำอย่างเป็นทางการครั้งแรกในมิตซูบิชิ ปาเจโร รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ในปี 2534 และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากสนามแข่งขันแรลลี่ระดับตำนานของโลก โดยให้สมรรถนะในแบบฉบับของรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่เป็นเยี่ยม สามารถถ่ายทอดพลังขับเคลื่อนสู่ล้อทั้งสี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการขับขี่บนทุกสภาพพื้นผิวถนน
- มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อมาพร้อม ระบบ SS4 (Super Select 4WD) ที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการขับขี่จากถนนปกติในแบบขับเคลื่อน 2 ล้อที่ให้การประหยัดน้ำมันมาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อ สำหรับขับขี่เส้นทางขรุขระได้โดยไม่ต้องหยุดรถจากเทคโนโลยี Shift on the fly โดยมี 4 โหมดให้เลือก
- 2H ขับล้อหลัง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบปกติบนถนนธรรมดาที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้การขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ จึงให้อัตราเร่งที่ดี และประหยัดน้ำมัน
- 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เหมาะกับสภาพถนนเปียกลื่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยระบบส่งกำลังจะถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์ไปที่ล้อหน้าและล้อหลังในอัตราส่วน 50:50 จึงให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ เกาะถนนเพิ่มความมั่นใจและปลอดภัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น
- 4HLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูงโดยมีระบบ เซ็นเตอร์ ดิฟล็อก ซึ่งจะควบคุมแรงบิดของล้อหน้าและหลังให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สำหรับการขับขี่ในสภาพโคลนเลน หรือบนพื้นถนนที่ลื่น น้ำท่วม
- 4LLc เหมาะกับสภาพทางที่ต้องการกำลังขับเคลื่อนสูง และไม่สามารถใช้ความเร็วได้ในเส้นทางที่ทุรกันดารมาก
ระบบอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอัจฉริยะ (ETACS) เพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วย- สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท สัญญาณเสียงและไฟกระพริบเตือนจะแสดงบนหน้าปัดเมื่อมีการออกรถในขณะที่ประตูรถปิดไม่สนิท
- ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติในกรณีที่ฝนตกและผู้ขับขี่เปิดที่ปัดน้ำฝนในตำแหน่งปัดหยุด เมื่อรถใช้ความเร็วเกิน 60 กม./ชม. ที่ปัดน้ำฝนจะเปลี่ยนเป็นจังหวะที่ 1 ให้โดยอัตโนมัติ และจะกลับมาที่ตำแหน่งปัดหยุดเหมือนเดิมเมื่อความเร็วต่ำกว่า 60 กม./ชม.
- ระบบปลดล็อกด้วยรีโมท ช่วยให้สามารถปลดล็อกและล็อกรถได้จากระยะไกล
- สัญญาณเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าถ้าผู้ขับลืมปิดไฟหรี่หน้า หลังจากดับเครื่องยนต์แล้วเปิดประตู เสียงสัญญาณจะดังเตือนขึ้น
- ระบบตัดการทำงานไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้ารถจะดับเองอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์และเปิดประตูช่วยให้ประหยัดไฟในแบตเตอรี่
- ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์แล้วปิดประตู ไฟในห้องโดยสารจะค่อยๆ หรี่ดับลงเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบสัมภาระภายในรถ
- ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังดับเครื่องยนต์ กระจกไฟฟ้าจะยังคงสามารถเปิด-ปิดต่อไปได้อีกภายใน 30 วินาที
- ระบบเซ็นทรัลล็อก ผู้ขับสามารถเปิดหรือปิดล็อกประตูทุกบานโดยปุ่มควบคุมที่ประตูด้านผู้ขับ
เปิดขายอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิทั่วประเทศ 28 พฤศจิกายน เป็นต้นไป