ผู้เขียน หัวข้อ: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม  (อ่าน 64071 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: 30 กันยายน 2014, 21:43:46 »
 :sd06: :sd06: :sd06:  แล้วล่าสุดที่เปลี่ยนที่คลีนิคนี่ใช้กี่ลิตรครับพี่หนึ่ง  :L2761:

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: 30 กันยายน 2014, 21:56:37 »
:sd06: :sd06: :sd06:  แล้วล่าสุดที่เปลี่ยนที่คลีนิคนี่ใช้กี่ลิตรครับพี่หนึ่ง  :L2761:

อ่านเรื่องปลาวาฬของพี่หยกแล้วได้ความรู้เยอะมากครับ
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าไปถามครับ
ถามใช้ 9.7ลิตร X ราคาน้ำมันเกียร์EX ลิตรละ400บาท = 3,880 บาท เลยนะนั่น :sd06:

ออฟไลน์ ธี สวนผัก

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,397
  • Like: 47
  • เพศ: ชาย
  • ความรักนั้นก็อดทนนาน และทนได้ต่อทุกอย่าง
Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: 30 กันยายน 2014, 23:22:33 »
 :sd23: ขอบคุณประสบการณ์ของพี่หนึ่งมากๆครับ จะได้จัดการของผมมั่ง  :L2734:
ความรักนั้นก็อดทนนาน และกระทำคุณให้ ไม่คิดเห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด และทนได้ต่อทุกอย่าง

ออฟไลน์ พีท < Pitt Za >

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 414
  • Like: 4
  • เพศ: ชาย
Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: 30 กันยายน 2014, 23:55:14 »
เป็นประสบการณ์ของพี่แต่เป็นความรู้ของผมครับ :sd23: :sd23: :sd23:
กิจการ : บริการ พรบ., ประกันภัยรถยนต์และต่อภาษี ; ติดต่อตามที่นี่ : http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3900.0.html
ติดต่อ: พิทยา (Pitt Za) ;Tel  098-6596364 ; Line ID: GRACEANDGUSS ; e-mail: Hi_Daw@hotmail.com

ออฟไลน์ Jojo (โจ้)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 4,482
  • Like: 221
  • เพศ: ชาย
Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: 30 กันยายน 2014, 23:59:57 »
อีกแล้ว
มีคนโพสเรื่องแบบนี้ทีไร
ต้องมุดรถไปดูรถตัวเองอีกแล้ว
 :sd42: :sd42: :sd42:
***ขอความร่วมมืออย่าเล่นกระทู้โพสหลายกระทู้ด้วย EMO บ่อยๆอย่างเดียวนะครับ***

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4043.0.html

ออฟไลน์ ตี่

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 303
  • Like: 8
  • เพศ: ชาย

ออฟไลน์ ตูมตาม

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,865
  • Like: 260
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:
We are put in situations to build our characters, not to destroy us.

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:
เคยเห็นหลายศูนย์ใช้น้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์แบบถังใหญ่ วัดตรวจเป็นลิตรในการเติมครับ
ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ ต๋อง_มาบตาพุด

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 135
  • Like: 1
  • เพศ: ชาย
  • ตังค์น้อย ค่อยๆ แหก

ออฟไลน์ ปุ๊...kbo

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,307
  • Like: 25
  • เพศ: หญิง
 :L4399: ขอบคุณพี่หนึ่ง...สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากคะ...คงต้องก้มไปดูใต้รถบ่อยๆ ล่ะ...

ออฟไลน์ kobv5 (กอบ)

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,449
  • Like: 22
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  :L2734:

ออฟไลน์ เด่น บางนา

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 65
  • Like: 0
  • เพศ: ชาย
สงสัยศูนย์ไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้หรือปล่าว แล้วมาคิดเงิน :L6419:

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
เราสามารถตรวจดูน้ำมันเกียร์ได้เองครับว่าปกติหรือเปล่า
ด้วยการดึงก้านน้ำมันเกียร์ที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์ อยู่คู่กับก้านวัดน้ำมันเครื่อง
โดยการสังเกตุที่สีครับ น้ำมันเกียร์ถึงแม้จะใช้มาแล้ว 40,000กิโลเมตร ก็จะต้องเป็นสีแดงครับ(เป็นสีของน้ำมันเกียร์ที่เปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์มิตซู)
ถ้าดึงก้านน้ำมันเกียร์มาดูแล้วเป็นสีดำ แสดงว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว ให้รีบตรวจสอบทันทีครับ ก่อนเกียร์จะพัง :sd21:
ส่วนกรณีของผมเกิดจากความไม่รู้ ว่าน้ำมันเกียร์ต้องเป็นสีแดง มารู้ก็จากภาพที่พี่ตามถ่ายให้ดูและจากคำแนะนำของอู่
เพราะปกติผมจะตรวจสอบน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์อยู่บ่อยๆ ด้วยการดึงก้านวัดมาดู
แต่ดูแค่ว่าระดับน้ำมันปกติหรือไม่เท่านั้น ไม่มีความรู้เรื่องสีและสภาพของน้ำมันว่ายังดีอยู่หรือเปล่า

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
รับรถมาเรียบร้อยแล้วครับ สบายกระเป๋าไปเลย ถ่ายของเหลวเกือบทุกอย่างทุกอย่างทั้งน้ำมันเฟืองหน้า น้ำมันเกียร์ขับ4  น้ำมันเกียร์ซินเทติก
น้ำมันเครื่องเพิ่งไปถ่ายที่ปั้มเมื่ออาทิตย์ก่อนหิ้วน้ำมันเครื่องกับกรองน้ำมันเครื่องไปเอง

ค่าเสียหายที่โดนไปครับ ราคาค่าแรงใกล้เคียงกับศูนย์ที่เคยตีไว้ค่าแรงยกเกียร์ 3,500บาท
แต่ในรายการผมมีถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าด้วย ถ้าเป็นศูนย์ก็ต้องโดนค่าแรงเพิ่ม

จะเห็นในรายการอะไหล่ที่แพงที่สุดคือน้ำมันเกียร์ EX C.V.T.  ที่ราคาลิตรละ 400บาท ใช้ไป9ลิตร เท่ากับ 3,600บาท
และช่างพี่สมบัติยังแนะนำว่าที่ 20,000กิโลเมตร ต้องเข้ามาถ่ายออกเพื่อล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ แล้วต่อไป 30,000กิโลเมตรถ่ายครั้งนึงครับ


ภาพสีของน้ำมันเกียร์รุ่น  ATF SP III ที่ใช้ในศูนย์ จะเป็นสีแดง
ส่วนน้ำมันเกียร์ EX ซินเทติก จะเป็นสีขาว ผมลองจับดูความหนึดแล้วไม่เหมือนกันครับ

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
เราสามารถดูสีของน้ำมันเกียร์ว่าเปลี่ยนสีไปจากปกติหรือไม่ด้วยการดึงก้านน้ำมันเกียร์ ในห้องเครื่องมาดูสีของน้ำมันเกียร์ได้ครับ


น้ำมันเกียร์ของผมเป็นสีขาวใส


ส่วนการใช้งานหลังจากนี้ ถ้าผมสามารถจับอากการได้จะมาแจ้งให้พี่ๆทราบกันครับ

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
ภาพสีของน้ำมันเกียร์รุ่น  ATF SP III ที่ใช้ในศูนย์ จะเป็นสีแดง
ส่วนน้ำมันเกียร์ EX ซินเทติก จะเป็นสีขาว ผมลองจับดูความหนึดแล้วไม่เหมือนกันครับ

แบบไหนหนืดกว่าครับพี่หนึ่ง :L2761: :L2759: กำลังสงสัยว่าถ้าใช้แบบที่หนืดกว่าจะมีผลอะไรกับ flow rate ของน้ำมันเกียร์เวลาไหลผ่านไส้กรองหรือเปล่าน่ะครับ แค่ตั้งข้อสังเกตตามประสาคนไม่มีความรู้น่ะครับ :L4387:

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
แบบไหนหนืดกว่าครับพี่หนึ่ง :L2761: :L2759: กำลังสงสัยว่าถ้าใช้แบบที่หนืดกว่าจะมีผลอะไรกับ flow rate ของน้ำมันเกียร์เวลาไหลผ่านไส้กรองหรือเปล่าน่ะครับ แค่ตั้งข้อสังเกตตามประสาคนไม่มีความรู้น่ะครับ :L4387:

 อธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับพี่หยก แต่แบบสีแดงหนืดกว่าสีขาวนิดนึง ต้องลองสัมผัสดูครับ

ออฟไลน์ กิต <Black Angel>

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 8,947
  • Like: 175
  • เพศ: ชาย
  • There is a will, there is a way!
สรุปงานนี้พี่หนึ่งใช้เวลาซ่อมไปนานแค่ไหนครับ  :L2761:

ออฟไลน์ ตั้ม..

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 473
  • Like: 36
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับข้อมูลและการแบ่งปันความรู้ครับ :sd23: :sd23:

ออฟไลน์ พี่หนึ่ง 111

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,448
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
สรุปงานนี้พี่หนึ่งใช้เวลาซ่อมไปนานแค่ไหนครับ  :L2761:
เอารถไปจอดวันจันทร์ช่วงบ่าย รับรถวันพฤหัสเที่ยง
แต่ช่างถอดประกอบ+รออะไหล่ ประมาณ 2วันครึ่งครับ (เริ่มถอดเกียร์วันอังคาร)