เมื่อวาน ว่างๆ ไม่มีประชุม ก็เลย หาเรื่องออกตรวจตลาด ไปร้าน iFIt ตามลายแทง ก่อนไปงานซิ่ง รอบที่ 6 อาทิตย์นี้
เป้าหมายคือ ไม่แรง ไม่จบ ไม่กลับ
ท้าวความนิดว่า เดิมก่อนหน้าก็แรงอยู่แล้วนะ ประหยัดดีด้วย แต่เริ่มอ่านกระทู้ ในบอร์ดนี้มากขึ้นๆ เริ่ม คันยิกๆ รถก็หมดประกันแล้วด้วย พึ่งผ่านแสนมาหมาดๆ
พ่อหมอนะ ร่ายคาถา ลงอาคมไว้เยอะ เลยต้องเอาหายสงสัย ว่า มัน จริงหรือ สมราคาอะป่าว
ไปถึงร้านบ่ายตรงเป๊ะ เจอ พี่ต้น ซึ่งจอดรถหน้าร้านก่อนหน้าแล้ว แกจัดเต็มมาเหมือนกัน ของเล่นบ้านนี้ทุกชิ้น จัดมาหมด
แกมารอ ตั้งแต่ 11 โมง. แต่เฮ้ย นี่มันบ่ายแระ ไมยังไม่เสร็จ. พี่ต้น บอกว่า ร้านนี้เค้า เที่ยงธรรม อ่ะ. ผม็ อ่อ ครับ แล้วคิวตรู คงมืดแน่ๆ เลย
อารัมภบท มายาวแล้ว เข้าเรื่องเลยละกัน
รถผมเครื่อง commonrail 3.2 ฝาเครื่องน็อตไม่เยอะ ถอดไม่ยาก เท่า 2.5 vg turbo ใช้เวลา ถอดฝาเพื่อเอาหัวฉีดเก่า ไปเปลี่ยน ราว ครึ่ง ชม. ที่เหลือ ร้านก็จัดการ ล้างส่วนอื่นๆ เพื่อให้กริปๆ ลื่นๆ เทสหัวฉีดใหม่เสร็จ ปุ๊ป ก็ประกอบเลย เริ่มทำก็ราวๆ บ่าย 2 เสร็จ ก็ 4 โมงเย็นกว่าๆ แล้วก็ถือโอกาส เปลี่ยนกล่องข้าวน้อย แทนด้วย ปิ่นโต ใช้เวลาอีกประมาณ ครึ่ง ชั่วโมง เพราะสายไฟภายใน มันเต็มไปหมด ของเล่นมันเยอะ. ต่อจากนั้ก็ไปลองรถกัน
เหยียบแรกหลังเปลี่ยน ที่สัมผัสได้เลยคือ เสียงเครื่องยนต์เงียบขึ้น ทุ้ม นุ่ม เสียงเครื่อง เบาลง อาการเครื่องสั่นจังหวพสตาร์ท สั่นน้อยลง. อาการเข็กเมื่อเบิ้ลเครื่อง หรือเหยียบจมหนัก แทบไม่มี. น้องปอนด์ บอก อันนี้มาจากผลของกล่องปิ่นโต อ่ะ มันฉลาดขึ้น
วิ่งรถออกตัวมาสักระยะ จับอาการได้คือ ช่วงออกตัวต้นๆ เหมือนไม่ได้ต่างจากเดิมๆ มากนัก ซึ่งน้องปอนด์ บอกว่า จูนต้นไม่หนัก ไม่งั้นควันดำท่วม แต่จูนกลาง ปลาย ให้ไหลไปเรื่อย น่าจะไดม้าเพิ่มมาสัก 5-6 ตัว
พอมี่โล่งช่วงถนนอักษะ ได้ลองเหยียบยาว ความรู้สึกที่เห็นได้ชัดเจนคือ เหยียบเป็นมา ทั้งเบา ทั้งลื่น อัดยาวๆ กดแล้วแช่มันไหลขึ้นไปเรื่อย แบบไม่ต้องกดเท้าหนักๆ ยิ่งเหยียบยิ่งมันส์ (ตัวกล่องดันราง โหมด 6 คันเร่ง โหมดสปอร์ต

ทดสอบได้ 2 รอบ ก็กลับเพราะเริ่มมืด หิวข้าว ทางก็ค่อนข้างมืด เลยกลับร้าน ไปชำระค่าตัว แล้วก็ขับกลับบ้าน
คราวนี้ทางยาวโล่งๆ บนถนน วงแหวนตะวันออก เหยียบ แบบ ไหลๆ เนียน แซง ซ้ายที ขวาที มันเนียนจริง ไม่ต้องเค้น ไม่ต้องอัด มันลื่น มันลอย มันเบาๆๆ จนต้องปรับลักษณะการขับขี่ให้ตามสภาพของรถที่เปลี่ยนไปแบบ คนละคน เลย
กลับถึงบ้าน พี่นะ โทรหา ไงพี่จ๊วต ผม็ เฮ้ย ต้นเฉยๆ ว่ะ กลาง ปลาย มันเบา ไหลไปเรื่อย. พี่หมอเลยต้องบอก จายเย็นๆ รอ ecu รถมันปรับตัวเรียนรู้อีกนิด เดี๋ยวจะสนุกขึ้น แล้วจะมันเท้าแบบไม่สนใจว่ากี่กิโลลิตรอีกต่อไป. ผมเลยตอบ ครับพี่ๆ ว่าแต่ ม้าแคระเนี่ย อาทิตย์นี้ จะใจร้าย ไม่ให้น้องๆ เอามาเล่นด้วยกันกะปิ่นโตใหม่เหรอ ไม่งั้นจะเชื่อได้ไง ว่าแนียน แรงดั่งใจ. พ่อหมอเลยตัดบท เดิมๆ ไปก่อนพี่. อ้าว ไม่ว่ากัน อาทิตย์นี้เจอกัน จะไปตื้อต่อคิวแต่เช้าเลย
จบครับ
พี่ๆ ที่สนใจจะลองรถผม อาทิตย์นี้ เจอกันได้ครับ
=== อัพเดท เรื่องอัตราการกินเชื่อเพลิง หลังเปลี่ยนหัวฉีด ====ผมเติมน้ำมันเต็มถังแล้วกดไมล์เพื่อวัดระยะทางเมือสัญาญาณเตือนน้ำมันหมดขึ้น
น้ำมันถังนี้เป็นถังที่ 2 หลังเปลี่ยนหัวฉีดครับ เพราะถังแรกเหยียบแบบอัดๆ เพื่อลองความแรง ลองกล่องคันเร่งไฟฟ้า
ปรกติก่อนเปลี่ยนหัวฉีด ผมวิ่งได้เฉลี่ย 9-10 กม.ต่อลิตร เมื่อวิ่งในเมือง
ลองดูจากรูปนะครับ ว่าเป็นยังไง

เติมเต็มได้ ได้ 58.37 ลิตร ระยะทางที่วิ่งคือ 548.3 กม. หรือเฉลี่ย 9.4 กม.ต่อลิตร
สรุปได้ว่า แทบไม่แตกต่างจากก่อนเปลี่ยนหัวฉีดเลยครับ
ปล. ข้อมูลการวิ่งของน้ำมันถังนี้ Pajero 3.2L 4wd, ดันราง โหมด Racing 1 คันเร่ง โหมด D ล้อ 16" ยาง 265/75/16 ลมยาง 35psi ขับในเมืองจากบ้านไปที่ทำงาน ไปกลับ ทำธุระ วิ่งเฉลี่ย 80 กม.ต่อวัน สภาพจราจร รถติดไม่มาก วิ่งความเร็วเฉลี่ย 60-80 ทางยาววิ่งวงแหวนรอบนอก 120-140