ปกติเค้าจะถ่วงเฉพาะล้อหน้า เพราะถ้าไม่ถ่วง ล้อมันจะสั่น มาถังพวงมาลัย
แต่ถ้าถ่วงได้ทั้ง 4 ล้อก็ดี ครั้งต่อไปจะได้สลับล้อจากอู่ทั่วไปได้เลย เพราะล้อได้ถ่วงมาหมดแล้ว
ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี