ผู้เขียน หัวข้อ: ยิ่งสูง ยิ่งต้องเลือกมาก เลือกยากและโอกาสเสี่ยงสูง  (อ่าน 2807 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
เครดิต http://www.peoplevalue.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539104159&Ntype=1

“ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” น่าจะยังเป็นคำกล่าวที่ใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย เพราะใครก็ตามที่ปีนต้นไม้ขึ้นไปสูงมากขึ้นเท่าไหร่ กิ่งของต้นไม้เริ่มอ่อนลงมากขึ้นเท่านั้น และบริเวณที่จะให้เรายึดจับมีน้อยลง ทำให้คนปีนรู้สึกกลัว รู้สึกหวาดเสียว รู้สึกขาดความมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น ยิ่งมีลมพัดมาแรงๆยิ่งน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีก
 

คนทำงานในองค์กรก็เช่นเดียวกัน ยิ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงขึ้นมากเท่าไหร่ เพื่อนเหลือน้อยลงเท่านั้น เพราะอดีตเพื่อนร่วมงานก็จะกลายเป็นลูกน้องไปหมดแล้ว ทำให้ผู้บริหารหลายคนขาดสังคมภายในองค์กร ทำให้รู้สึกขาดที่ปรึกษา ต้องปกปิดการแสดงออกที่ทำให้เห็นว่าอ่อนแอหรือขาดความมั่นใจให้ใครเห็นมากขึ้น จะไปบ่นกับใครก็ยากขึ้น ในขณะเดียวกันปัญหาจะเริ่มวิ่งเข้ามาหาให้ตัดสินใจไม่เว้นแต่ละวัน และปัญหาที่เข้ามาเริ่มตัดสินใจยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้าตัดสินใจง่ายๆลูกน้องคงจะตัดสินใจกันไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ การตัดสินใจแต่ละครั้งแต่ละเรื่องมีโอกาสถูกกับผิดใกล้เคียงกันหรือไม่ก็มีโอกาสผิดมากกว่าถูก เพราะบางปัญหาไม่เคยเจอมาก่อน เป็นเรื่องใหม่ๆ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน จึงทำให้ผู้บริหารระดับสูงอยู่ในสถานะที่ไม่แตกต่างอะไรไปจากคนปีนต้นไม้สูงดังกล่าว

ผู้บริหารบางคนเคยเป็นคนเก่ง เคยทำงานดี เคยมีผลงานดีเด่นมาก่อนในสมัยที่เป็นพนักงานหรือผู้จัดการในระดับที่ต่ำกว่า แต่พอยิ่งมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงมากขึ้น บางครั้งทำให้คนเคยเก่งกลับกลายเป็นคนที่ไม่เก่งไปเลยก็มี เพราะคนเคยเก่งส่วนใหญ่มักจะมั่นใจในตัวเองสูง ไม่เคยผิดหวัง แต่พอต้องเติบโตสูงมากขึ้นเท่าไหร่จะต้องมีโอกาสเจอกับความล้มเหลวมากขึ้น คนบางคนทำใจรับกับความล้มเหลวไม่ได้(เพราะไม่เคยล้มเหลวมาก่อน) เหมือนเด็กเรียนเก่ง แค่เพียงผลการเรียนตกลงมานิดหน่อยก็รับไม่ได้ (ทั้งๆที่ผลการเรียนโดยรวมยังอยู่ในระดับดีมากเมื่อเทียบกับคนอื่นหรือมาตรฐาน) ทำให้คนเคยเก่งหลายคนขององค์กรถูกดับอนาคตเพราะปีนขึ้นยอดไม้เร็วเกินไป ความสามารถอาจจะถึงแต่ใจยังไม่ถึง (ฝีมือดีแต่กระดูกยังไม่แข็ง) เหมือนกับการที่เราให้ผู้ใหญ่ปีนต้นไม้แข่งกับเด็ก จะพบว่าในช่วงแรกๆเด็กอาจจะปีนได้เร็วกว่าเพราะพละกำลังดีกว่าบวกกับความมุทะลุ ในขณะที่ผู้ใหญ่ค่อยๆปีนเพราะเคยมีประสบการณ์มาก่อน(อาจจะเคยตกต้นไม้มาก่อน) แต่เมื่อปีนขึ้นไปสูงขึ้นๆ จะพบว่าเด็กบางคนเริ่มหยุดหรือปีนช้าลงเพราะเริ่มกลัว ในขณะที่ผู้ใหญ่อาจจะยังปีนได้ต่อไป เพราะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าและค่อยๆคิดค่อยๆทำ ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับผู้บริหารรุ่นใหม่กับผู้บริหารรุ่นเก่าที่อยู่ในองค์กรเดียวกัน ที่มักจะมีความคิดเห็นในการทำงานแตกต่างกัน คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่ใจร้อนอยากคิดเร็วทำเร็ว ในขณะที่คนที่มีอาวุโสกว่ามักจะคิดอย่างรอบคอบและรอบด้าน จึงทำให้ตัดสินใจหรือทำงานช้ากว่าที่คนรุ่นใหม่ๆต้องการ คงจะไม่สามารถบอกได้ว่าใครถูกใครผิด ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละเวลา เพราะบางสถานการณ์ต้องการการตัดสินใจที่เร็ว เช่น สถานการณ์ฉุกเฉินเร่งด่วน แต่ในบางสถานการณ์อาจจะต้องการการตัดสินใจที่รอบคอบเพราะถ้าตัดสินใจผิดจะเกิดผลกระทบสูงมาก

เพื่อลดความหนาวและลดความเสี่ยงของผู้ที่ต้องปีนป่ายขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้น จึงขอแนะนำแนวทางเพื่อให้เปลี่ยนจากสถานการณ์ “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” มาเป็น “ยิ่งสูง ยิ่งท้าทาย” ดังต่อไปนี้

    เตรียมใจก่อนเตรียมตัว
คนส่วนใหญ่มักจะเตรียมตัวและเตรียมใจไปพร้อมๆกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเตรียมใจควรจะเกิดขึ้นก่อน เพราะถ้าใจยังไม่พร้อมต่อให้เก่งต่อให้มีฝีมือแค่ไหน ก็คงจะไปได้ไม่ไกล ไปได้ไม่สูง ดังนั้น ผู้ที่จะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งงานในระดับสูง จึงควรจะฝึกซ้อมคิดฝึกซ้อมใจไว้ก่อนล่วงหน้า โดยการซ้อมคิดแบบผู้บริหารว่าถ้ามีปัญหาแบบนี้จะตัดสินใจอย่างไร ถ้าผลการตัดสินใจเกิดขึ้นในทางลบจะรับมือไหวหรือไม่ เช่น ถ้าเราเป็นซีอีโอแล้วต้องเจอมรสุมชีวิตที่เกิดจากการทำงานเหมือนซีอีโอบริษัทนั้นบริษัทนี้ เราจะรับได้หรือไม่ ถ้าเราต้องทำงานในสถานการณ์ที่ผู้บริหารระดับสูงบีบคั้น และถูกลูกน้องกดดัน เราจะรับได้หรือไม่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ควรจะคิดและซ้อมใจไว้ตั้งแต่ต้น เพราะเราจะได้ประเมินได้ว่าใจเราพร้อมที่จะขึ้นไปสูงกว่านี้หรือยัง
    เตรียมบริหารความเสี่ยง ในเมื่อทุกคนที่ปีนต้นไม้สูงๆหรือขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งระดับสูงขององค์กรจะต้องเจอกับความเสี่ยงทุกคน จะแตกต่างกันตรงที่ลักษณะความเสี่ยงและระดับว่ามากหรือน้อยเท่านั้น ดังนั้น ผู้ที่จะขึ้นไปอยู่ในระดับสูง ควรจะต้องศึกษาและเตรียมตัวรับมือกับความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่นๆ ความเสี่ยงบางเรื่องสามารถลดได้ ถ้าเราเตรียมตัวมาก่อน เช่น ผู้บริหารระดับสูงทุกคนต้องพูดภาษาต่างประเทศได้ดี ต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ได้ ถ้าเราพัฒนาตัวเองให้พร้อมก่อนเวลาขึ้นไปในระดับนั้นจริงๆ ความเสี่ยงก็ลดลง  ความเสี่ยงบางเรื่องสามารถป้องกันได้จากบทเรียนของคนในรุ่นก่อน เช่น ศึกษาความผิดพลาดของผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเรา หรือศึกษาจากความผิดพลาดของผู้บริหารในองค์กรอื่นๆ

สรุป ใครก็ตามที่ต้องเติบโตก้าวหน้าไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป ไม่ว่าจะด้วยความสมัครใจหรือเติบโตแบบภาคบังคับ(อายุตัว อายุงานและฝีมือถึง) อย่ามัวแต่หลงดีใจอยู่กับความภูมิใจในอดีตที่เคยทำได้และอย่ายึดติดกับความสำเร็จในปัจจุบัน แต่จงเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการรับมือกับความเสี่ยงมากขึ้นที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าที่สูงขึ้น
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พี่เจต (jEtt-PAtani)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 145
  • Like: 4
  • เพศ: ชาย
ต้องขอบคุณพี่โต้งอีกครั้งสำหรับแนวคิดดีๆ ครับ(ผมเองกังวลเรื่องนี่อยู่พอดี)

ผมเองเป็นครู(แต่ที่ทำงานมีลักษณะเป็นโรงเรียนและสำนักงานในที่เด๋วกันต้องดูแลโรงเรียนอื่นๆ ทั้งจังหวัดด้วย)

เพิ่งทำงาน(บรรจุ) ได้ 5 ปีต้องมารับภาระเป็นหัวหน้าฝ่ายวิชาการ.....ดูงานด้านวิชาการทั้งจังหวัด ซึ่งหนักหนาสาหัสพอดู

ทั้งที่ตัวเอง...ชอบสายกิจกรรม(งานสอน) งานแรงงาน ประมาณนี้  แต่ด้วยวุฒิการศึกษาและตำแหน่งเลยจำเป็นต้องรับ....

ตอนนี้ทำตัวลำบากมากครับ...จะเฮฮากับเพื่อน(ผมชวนเพื่อนสมัยเด็กมาทำงานด้วย 2 คน)แบบเก่าก็ไม่ได้เท่าที่ควร

ทั้งที่ปกติเดินตบหัวกัน ล้วงจักแร้มาให้มันดม .... แต่ตอนนี้มันเหมือนต้องรักษาภาพให้คนอื่นๆ เคารพด้วย(ทั้งที่อายุน้อยเกือบท้ายๆ ของที่ทำงาน)


มาระบายซะงั้น... :L2754: :L2754: :L2754:

ขาวเข้ม

  • บุคคลทั่วไป
อ่านจบแล้ว มันจุกๆคอตีบๆไงไม่รุ๊พี่... :sd42: :sd42: :sd21:
โดยเฉพาะที่ว่า
"เติบโตแบบภาคบังคับ(อายุตัว อายุงานและฝีมือถึง) อย่ามัวแต่หลงดีใจอยู่กับความภูมิใจในอดีตที่เคยทำได้และอย่ายึดติดกับความสำเร็จในปัจจุบัน แต่จงเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะการรับมือกับความเสี่ยงมากขึ้นที่มาพร้อมกับความก้าวหน้าที่สูงขึ้น"
  นั่นแหละ โดนเลย ก็รับมือกับการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบขององค์กรที่มีระบบบริหารจัดการต่างๆเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย
 ว่าเราจะรับมือไหวมั๊ย ถ้าไม่ไหวก็..น๊ะ พี่โต้งขายชามัวร์ ผมขายน้ำยาขัดเคลือบเอง... :sd42:

     พิมพ์แยอะไปแล๊ะ วันนี้วันเสาร์ ออกไปพักผ่อนแต่งรถดีกว่า  :L2736: :L2901:

ออฟไลน์ พี่ชัย (wansasi)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 940
  • Like: 15
  • เพศ: ชาย
  • Love me love my dog
 :sd23: :sd23: :sd23: ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆครับ

มีทุกองค์กรทุกบริษัท ยิ่งสูงยิ่งหนาว แก่งแย่ง หาความจริงใจกันได้ยากขึ้น .............. ทำใจครับ

ออฟไลน์ พี่อิฐ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,396
  • Like: 75
  • เพศ: ชาย
ขอบคุณพี่โต้ง ที่นำข้อคิดดี ๆ มาแบ่งปันครับ  :L2734:

Pajero sport Mania = นิยามการพักผ่อนของผม

ข้อแนะนำเบื้องต้นตาม link ครับ
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1551.0.html

ออฟไลน์ พี่ลีโจ

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 3,876
  • Like: 59
  • เพศ: ชาย
  • โจ-เทียนทะเล
 :sd23: ขอบคุณครับ
รบกวนพี่ๆแก้ไขปรับเปลี่ยนรูปส่วนตัวด้วยครับดูตัวอย่าง กดที่ link ด้านล่าง

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1551.0.html

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้สึก ผมมั่นใจเลยว่า สมช. ที่อ่านข้างบนแล้ว
จะรู้สึกเฉยๆ แต่เมื่อวันใดที่ มีต่ำแหน่งสูงๆ จะมีคน 3 กลุ่ม จะมองว่า
- ถ้าไม่มีผลงานเตะตา ผู้บริหารระดับสูง จะได้ปรับต่ำแหน่งได้อย่างไร ( ผจก. หรือ รองลงมาคิด )
- ไม่เห็นทำอะไรเลย ปัญหาเยอะแยะ คุณภาพก็แย่ ปรับได้ไง ( ผจก. หรือ รองลงมาคิด )
- เฉยๆ ( ต่ำแหน่งล่างๆ ไม่รู้เรื่อง )

ในขณะที่อยู่ในต่ำแหน่งใหม่นั้น บุคคลรอบข้างโดยตรง จะไม่แสดงอะไรออกต่อหน้า เพราะต่ำแหน่งเราสูงกว่า ( ส่วนนินทาลับหลัง เป็นเรื่อง ปรกติ )
หน้าที่การทำงาน ความรับผิดชอบมากขึ้น ความโดดเดี่ยวมากขึ้น รับแขก รับลูกค้า ประชุมเยอะ เข้าห้องโน้น ออกห้องนี้  เวลาที่จะไปเดินในโรงงานน้อยลง
อย่างเห็นได้ชัด และ ไม่รู้ตัวเองด้วย ว่าห่างเหินจากลูกน้อง เมื่อเปรียบเทียบกับ ก่อนหน้าที่จะได้รับต่ำแหน่ง

ความกดดัน ทั้งข้างบน และ ข้างล่าง ทำให้เราต้องประสานทั้งสองฝ่าย ความเสี่ยงต้องมีทุกนาที  พลาดไม่ได้เด็ดขาด ( เมื่อก่อนอาจได้บ้าง ลูกพี่ปกป้อง )
การรายงานก็ต้องดูจังหวะให้ดี ไม่งั้นโดนด่าหนัก คนไทยไม่ชอบ และ รับไม่ได้กับการโดนด่า หน้าบาง จรืงไหมครับ

เมื่อ วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นหลายๆเดือน เป็นปี และเป็นปีๆ ตัวเราเองจะเหมือนคนแปลกหน้า สำหรับลูกน้องเกือบทุกระดับไปเรื่อยๆ

และ เมื่อวันใดที่คุณหมดอำนาจ เมื่อนั้น จะมีให้กำลังใจนับหน้าได้เลย ถ้าเป็นสมัยก่อน มีเป็นร้อยๆ จริงๆนะ
เดินไปไหน ทุกคนเดินผ่าน ก้มหน้าให้เล็กน้อย แสดงถึงความเคารพ แต่หลังๆซิ มีนืดหน่อย

เคยฟัง เคยอ่าน แต่ไม่รู้สึก แต่เมื่อมาเจอกับตัวเอง เป็นความรู้สึกที่ได้อ่านเลย
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พีชิน ปาดำ บุรีรัมย์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,258
  • Like: 48
  • เพศ: ชาย
  • ก็แค่ชีวิตที่ขาดหวานไม่ได้
ผมคนนึงล่ะ ที่ไม่อยากโต แบบภาคบังคับ...

ยิ่งสูง ยิ่งหนาว นี้เรื่องจริง เพื่อนน้อยลงเรื่อย ๆ แต่คนรู้จักมากขึ้น ต้องคบคนมากขึ้น ใส่หน้ากากมากขึ้น  ไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง

หนาวไม่พอ รู้สึกอึิดอัดด้วย เป็นลูกน้องเหนื่อยกายบ้าง ทำงานสบาย(ใจ) ทำตามคำสั่งให้ดีที่สุด...  ง่าย

เป็นคนระดับกลาง ๆ มีหัวหน้า มีลูกน้อง  ถูกใจเจ้านาย ไม่ถูกใจลูกน้อง  ลูกน้องรัก เจ้านายเขม่น เจ้านายรัก ลูกน้องหมั่นไส้

อยากจะได้ทั้ง 2 อย่างต้องทำไง ในเมื่อ ผลประโยชน์ ขององค์กรคือที่ตั้ง...  สุดท้าย  บ่ามึง คือ บันไดกู  โลกนี้ไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดจริง ๆ  :sd21:
มีภูมิลำเนา   อยู่  นครราชสีมา
มีภรรยา       อยู่  บุรีรัมย์
มีงานประจำ  อยู่  อุบลราชธานี
มีที่พักผ่อน   อยู่  ปา'มาเนีย

ออฟไลน์ สุนทร

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 391
  • Like: 24
  • เพศ: ชาย
  • ลูกศิษย์ปามาเนีย
    • -
มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก ถ้าไม่เจอกับตัวเองจะไม่รู้สึก ผมมั่นใจเลยว่า สมช. ที่อ่านข้างบนแล้ว
จะรู้สึกเฉยๆ แต่เมื่อวันใดที่ มีต่ำแหน่งสูงๆ จะมีคน 3 กลุ่ม จะมองว่า
- ถ้าไม่มีผลงานเตะตา ผู้บริหารระดับสูง จะได้ปรับต่ำแหน่งได้อย่างไร ( ผจก. หรือ รองลงมาคิด )
- ไม่เห็นทำอะไรเลย ปัญหาเยอะแยะ คุณภาพก็แย่ ปรับได้ไง ( ผจก. หรือ รองลงมาคิด )
- เฉยๆ ( ต่ำแหน่งล่างๆ ไม่รู้เรื่อง )

ในขณะที่อยู่ในต่ำแหน่งใหม่นั้น บุคคลรอบข้างโดยตรง จะไม่แสดงอะไรออกต่อหน้า เพราะต่ำแหน่งเราสูงกว่า ( ส่วนนินทาลับหลัง เป็นเรื่อง ปรกติ )
หน้าที่การทำงาน ความรับผิดชอบมากขึ้น ความโดดเดี่ยวมากขึ้น รับแขก รับลูกค้า ประชุมเยอะ เข้าห้องโน้น ออกห้องนี้  เวลาที่จะไปเดินในโรงงานน้อยลง
อย่างเห็นได้ชัด และ ไม่รู้ตัวเองด้วย ว่าห่างเหินจากลูกน้อง เมื่อเปรียบเทียบกับ ก่อนหน้าที่จะได้รับต่ำแหน่ง

ความกดดัน ทั้งข้างบน และ ข้างล่าง ทำให้เราต้องประสานทั้งสองฝ่าย ความเสี่ยงต้องมีทุกนาที  พลาดไม่ได้เด็ดขาด ( เมื่อก่อนอาจได้บ้าง ลูกพี่ปกป้อง )
การรายงานก็ต้องดูจังหวะให้ดี ไม่งั้นโดนด่าหนัก คนไทยไม่ชอบ และ รับไม่ได้กับการโดนด่า หน้าบาง จรืงไหมครับ

เมื่อ วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน เป็นหลายๆเดือน เป็นปี และเป็นปีๆ ตัวเราเองจะเหมือนคนแปลกหน้า สำหรับลูกน้องเกือบทุกระดับไปเรื่อยๆ

และ เมื่อวันใดที่คุณหมดอำนาจ เมื่อนั้น จะมีให้กำลังใจนับหน้าได้เลย ถ้าเป็นสมัยก่อน มีเป็นร้อยๆ จริงๆนะ
เดินไปไหน ทุกคนเดินผ่าน ก้มหน้าให้เล็กน้อย แสดงถึงความเคารพ แต่หลังๆซิ มีนืดหน่อย

เคยฟัง เคยอ่าน แต่ไม่รู้สึก แต่เมื่อมาเจอกับตัวเอง เป็นความรู้สึกที่ได้อ่านเลย
..............ก่อนอื่นมอบไลค์ก่อนเป็น 102 แล้ว เขียนได้โดนยิ่งนักครับมันอธิบายยากจริงๆผมก็อยากอธิบายแบบนี้แต่มันจุก หาคำขึ้นต้นและลงท้ายไม่ได้ วู้.... มันยากตรงประสานทั้งสองฝ่ายนี่แหละผมเห็นแล้วบางคนไม่ขอเอาตำแหน่งทั้งๆที่อายุใกล้เกษียณ เขาบอกว่าขออยู่อย่างสงบทีแรกไม่เข้าใจ บัดนี้เข้าใจแล้ว กำลังหาทางลงครับ
เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน พอ