Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications
***กล่องคันเร่งไฟฟ้า*** ทำไมผมถึงใช้ และปัจจุบันทำไมถึงใช้ตัวนี้
สุภัทร (Pat):
อ๋ออออออ ตัว H กับภาพสุดท้าย :L2900: :L2900: :L2900:
กิต <Black Angel>:
เรื่องตีลังกากลับหัวได้พอรู้ครับ :L2736: แต่ก็จำวิธีตั้งไม่ได้แล้ว ;)
ส่วนเจ้าตัว H นี่สิ เพิ่งเคยรู้เป็นครั้งแรกเลยครับ :L2900:
ระหว่างที่อ่านไป ก็นึกพลางว่า คงเอาไว้ป้องกันไม่ให้คนอื่นที่เอารถเราไปขับ ขับตะบี้ตะบันกับรถของเรา :L2761:
พอเห็นรูปสุดท้าย.......... :L2739: คนคิดนี่ครั้งหนึ่งคงเคยเครียดแค้นมากเลยนะครับ :L2754: :L2754: :L2754:
กิต <Black Angel>:
ขอบคุณพี่อ๊อดมากครับสำหรับความรู้ล้วนๆ :L2758: ขอ :L6428: ให้ด้วยครับ :L6428: :L6428: :L6428:
พี่นะ [Na ratchada]:
--- อ้างจาก: พี่อ็อด Pentium4 ที่ 2 เมษายน 2014, 14:45:43 ---
ขอบคุณพี่ๆที่ให้ความสนใจติดตามอ่านนะครับ :sd23:
จากนี่ขอส่งต่อให้พี่นะ เสริมความรู้ให้แน่นขึ้นไป ทุกๆคนจะได้จบการศึกษากล่องคันเร่งไฟฟ้าซะที :sd42:
--- End quote ---
เจอ Mode H เข้าไปจะจำและเก็บท่องไว้ในใจ เจอตรวจสภาพรถเมื่อไหร่เจอกัน กดคันเร่งได้นิดหน่อย 5555เอาสัก 2000 rpm แล้วตัดพอครับ คุณเจ้าหน้าที่
:sd42: :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:
ขอขอบคุณข้อมูลสำหรับพี่อ๊อด ที่มาอัดข้อมูลเชิงเทคนิคไว้มากมายและเสริมวิธีการให้สมาชิกเข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนั้นผมขอมาขอรับไม้ต่อจากพี่อ๊อดเพื่อขอสรุปแนวทางการปรับจูนและหลักการเงื่อนไขต่างๆที่ได้รับข้อมูลจากที่ปรึกษารั้วสังกะสี (ทีมงานสนับสนุนที่ไม่ประสงค์ออกนาม จากย่านเซปังประเทศมาเลเซีย ณ.ขณะนี้)
ขอตอนรับสู่ road map pa-mania
โดย กลุ่มพวกเราเองที่โตมาเป็นปามาเนีย
โดยมีหัวเรื่องหลักๆที่เราจะตามไปกัน 2 เรื่อง ดังนี้
เรื่องแรกกล่องปินโต : หลายท่านคงงงและสับสนว่าคืออะไร กล่องบ้าอะไร จริงแล้วเราตั้งชื่อเพื่อไม่ให้ยึดติดกับยี้ห้อสินค้าเพราะสิ่งที่เราจัดหามาให้นั้นถูกปรุงแต่งรสชาดและการตอบสนองมาให้ใหม่หมดตามการขับขี่ที่เหมาะสมในแต่ละช่วง ตาม concept ของที่ปรึกษาที่แนะนำมา
กล่องปินโต+ หรือกล่องดันรางดิจิตอลที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนกล่องข้าวน้อย2 ซี่งอาจจะหาได้ไม่ง่ายหรือไม่พอดีกับความต้องการแต่ละครั้งของสมาชิกปามาเนีย ดังนั้นทางเราจึงได้สรุปและทดสอบจนเป็นผลที่น่าพอใจและแนะนำเพื่อนๆไปติดตั้งกันมาเหลายรอบและได้รับการร่วมมืออย่างดีทั้งเจ้าของสินค้าและสมาชิกปามาเนีย เป็นกล่องแบบปลั๊กชนิดเสียบได้เลยไม่ต้องตัดต่อสายใดๆ ขอแนะนำคร่าวๆอีกครั้งดังนี้
ที่ตัวกล่องด้านหนึ่งจะมี port DB9 เพื่อต่อเชื่อมกับชุดสายสำเร็จที่ต่อมาจาก sensor รางหัวฉีดจากห้องเครื่องเข้ามาในห้องผู้โดยสาร เพื่อเสียบเข้ากับกล่องนี้ เมื่อเสียบสายแล้วจะสามารถใช้น๊อตทั้ง 2 ข้างขันล๊อคสายให้แน่นได้
อีกด้านหนึ่งของกล่อง จะเป็นด้าน Panel ที่สามารถ control กล่องได้ เช่น
- Status : ไฟบอกสถานะmodeต่างๆที่ใช้งานทั้ง 10 mode โดยสังเกตุจากสีของไฟและการกระพริบ
- USB : port USB เพื่อใช้สำหรับสายที่ต่อพ่วงจากเครื่อง laptop ที่ลง Program tuning ไว้เรียบร้อยเพื่อ backup & upload ค่าการจูนต่างๆได้
- Mode : ปุ่มใช้สำหรับการปรับเลือก เปลี่ยน mode ต่างๆที่ set ไว้ สามารถเปลี่ยนได้ 10 mode
Mode ต่างๆสามารถสังเกตุจากการกระพริบของแสงไฟและสีของไฟ ดังนี้
o Mode 0 – ไฟสีเขียว ติดค้าง เทียบได้กับอัตราตอบสนองแบบ STD เดิมที่ไม่มีการใส่กล่องดันราง
o Touring mode1 – ไฟสีเขียว กระพริบช้า
o Touring mode2 – ไฟสีเขียว กระพริบเร็ว
o Touring mode3 – ไฟสีเขียว กระพริบรัวถี่ถี่
o Sport mode1 – ไฟสีน้ำเงิน กระพริบช้า
o Sport mode2 – ไฟสีน้ำเงิน กระพริบเร็ว
o Sport mode3 – ไฟสีน้ำเงิน กระพริบรัวถี่ถี่
o Racing mode1 – ไฟสีชมพูแดง กระพริบช้า
o Racing mode2 – ไฟสีชมพูแดง กระพริบเร็ว
o Racing mode3 – ไฟสีชมพูแดง กระพริบรัวถี่ถี่
[color=red]คำแนะนำ สามารถกดเปลี่ยน Mode ขณะขับขี่ได้ แต่ควรยกคันเร่งก่อนกดเปลี่ยนทุกครั้งเพื่อความสมูธที่ต่อเนื่องของแรงบิด[/color]
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดอื่นๆและคู่มือของการใช้กล่องปินโตที่เราแนะนำกัน สามารถศึกษาได้จากกระทู้แนะนำด้านล่างนี้
Manual Pinto+ Box : คู่มือการใช้งานกล่องPinto+ และ Smart Guage
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1318.0.html
พี่นะ [Na ratchada]:
เอาให้ตาแฉะกันไปเลย
เรื่องที่สอง กล่องคันเร่งไฟฟ้า : กล่องคันเร่งไฟฟ้าแต่เดิมมีการปรับจูนและการตั้งค่ามาให้ที่มีอยู่ 14 mode ดังนี้
mode -L- คือ ล๊อกคันเร่ง,จะไม่มีการตอบสนองการกดคันเร่งหรือเรียกง่ายๆตัดการทำงานของคันเร่งไฟฟ้าเลย
mode -off- คือ ปิดกล่อง การกดคันเร่งจะเหมือนไม่มีการติดกล่องช่วยแต่อย่างใด การตอบสนองเหมือนเดิม
mode -1- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 3%
mode -2- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 5%
mode -3- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 7%
mode -4- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 9%
mode -5- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 13%
mode -6- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น กลาง ปลาย ประมาณ 15-18%
mode -7- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น5% กลาง8% ปลาย10%
mode -8- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น8% กลาง10% ปลาย13%
mode -9- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น8% กลาง15% ปลาย13%
mode -A- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น10% กลาง15% ปลาย13%
mode -B- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น12% กลาง15% ปลาย13%
mode -C- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น12% กลาง15% ปลาย15%
mode -D- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น13% กลาง15% ปลาย15%
mode -E- คือการเพิ่มการตอบสนองคันเร่งต่อระยะกดลึก แบบ ต้น15% กลาง18% ปลาย20%
ดังนั้น:ในการใช้งานแต่ละโหมดอยู่ที่ความพึงพอใจในการปรับเปลี่ยน สามารถปรับเล่นได้ทุกmode ไม่มีผลกับเครื่องยนต์โดยตรง แต่จะมีผลโดยทางอ้อม เช่น
1. การปรับ modeสูงใช้งานในขณะที่เครื่องยนต์ไม่อยู่ในอุณหภูมิใช้งาน ทำให้อาจเกิดการสึกหรอมากกว่าปกติ
2. ควันดำมากกว่าปกติเพราะจังหวะเครื่องยนต์ทำงานไม่สัมพันธ์กับรอบเครื่องและความเร็วทำให้เครื่องยนต์เค้นแรงมากกว่าปกติ เมื่อโหลดมากควันจริงเยอะ
3. เปลืองเชื้อเพลิงเพราะการตอบสนองมากกว่าเดิม จากจังหวะคันเร่งแบบถมทิ้ง
4. ระยะคันเร่งเพี้ยนกับจังหวะ
ข้อสังเกตุ : ไม่สามารถเปลี่ยน mode ได้ในขณะคันเร่งทำงาน ฉะนั้นควรยกเท้าออกจากคันเร่งเวลาปรับเปลี่ยน mode
คำแนะนำในการปรับใช้ :ให้ปิดกล่องไปที่ mode off แล้วขับรถของตัวเองหาจังหวะที่คันเร่งตอบสนองช้า ปรับ mode เติมไปทีละ mode จนรู้สึกว่ารถ เครื่องยนต์ จังหวะกดคันเร่ง พุ่งทะยานตามจังหวะเท้าและเป็นธรรมชาติของการกดคันเร่ง โดยที่การหน่วงลดน้อยมากที่สุด เมื่อได้ mode ที่เหมาะสมแล้วให้เพิ่มจาก mode นั้นไปอีก 1-2 mode และลองขับที่ความเร็วรอบสูงและความเร็วมากกว่า 120 km/hr จับจังหวะคันเร่งดูว่าตอบสนองสัมพันธ์กับความเร็วและระยะกดหรือไม่ ควรจะกดพุ่ง เพิ่มระยะกดก็พุ่งตามคันเร่ง ถอดคันเร่งแล้วกดใหม่รถควรตอบสนองตามจังหวะยกและกดคันเร่ง หากจังหวะกดคันเร่งเร็วกว่าเครื่องยนต์ทำงานจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์และรอบเครื่องนำมาก่อนให้ลดลง 1 mode และ mode นั้นคือ mode ที่ดีที่สุดสำหรับรถคันนั้น
ข้อควรระวัง : รถแต่ละคัน ปรับแต่งเครื่องยนต์ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นการใช้ mode เดียวกันอาจให้ผลต่างกัน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนสูตรจูนของปามาเนียนั้นที่เรียกว่าสูตรผีบอก มีแจกกันตาม Meeting ดังนี้
A = Touring เหมาะะกับใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวชิวๆ สูมธมากในแต่ละเกียร์และกลาง ปลาย ไหลยาวๆครับ
B = Sport เหมาะะกับใช้ในงานในเมือง ปราดเปรียวว่องไว การต่อเนื่องของเกียร์ดีมากถึงสนุก
C = Racing เหมาะะกับใช้ในงานแบบอารมณ์สนุก ต้นจัด กลางไหล ปลายแรง
D = Sport Racing เหมาะะกับอารมณ์มันส์ๆ ที่ชอบความปราวเปรียวในช่วงต้นๆ (ปลายๆอาจไม่สมูธเพราะคันเร่งจะลอยๆ และผิดธรรมชาติไปนิด บางจังหวะ)
E = mode เดิมของกล่องที่ setมาให้สูงสุด ขับแล้วคันเร่งมันจะลอยๆ (ไม่ควรเอามาใช้งานนะครับ ไม่สมูธเลย)
***แนะนำให้ใช้ mode A หรือ B ก็พอครับ(ในการใช้งานปกติ)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รายละเอียดอื่นๆและคู่มือของการใช้กล่องคันเร่งไฟฟ้า สามารถศึกษาได้จากกระทู้แนะนำด้านล่างนี้
วิธีการใช้งาน ปรับตั้ง และทดสอบกล่องคันเร่งไฟฟ้า
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,756.0.html
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version