Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving
เรื่องที่มักเข้าใจผิดในการใช้รถ
แม็ค พัทยา MrMacSayHi:
Thank you 3 times เมื่อก่อนผมสตาร์ตติดปุ๊บก็เข้าเกียร์ปั๊บเลย เพิ่งมาให้ความสำคัญก็ตอนขับน้องปาเนี่ยแหละ :sd42:
พี่จ่า Jatot:
--- อ้างจาก: พี่ดิษฐ์ บุรีรัมย์ ที่ 8 มีนาคม 2014, 15:07:30 ---การเข้าใจที่ผิด
ผิด 1. "สตาร์ทแล้วออกรถได้เลยไม่ต้องอุ่นเครื่อง"
ถูก...อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว่า
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยัง "เย็น" อยู่ เช่น ขณะออกรถจากบ้านไปทำงานตอนเช้า หรือติดเครื่องยนต์เมื่องานเลิกเพื่อกลับบ้าน ไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ และละลายปนกับฟิล์มน้ำมันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่ ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียงพอ สร้างความสึกหรอในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ
นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมด และไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่องยังเย็นนี้ ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย
ผิด 2. "ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดช่วยยืดอายุใบปัด"
ถูก...สปริงในก้านที่ปัดน้ำฝนจะอ่อน และเสียเร็วขึ้น
ส่วนสำคัญที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพประกอบด้วย ใบปัด แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม อีกส่วนคือ ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์ ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด การยกก้านเมื่อจอดตากแดด สปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลา อายุการใช้งานสั้นลง ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุด
ผิด 3. "รถติดไฟแดงค้างเกียร์ D ไว้ดีกว่าเปลี่ยนเกียร์ว่าง"
ถูก...หยุดรถก็โอเค แต่ถ้าติดไฟแดงนานก็ต้องระวังชนคันหน้า
ในกรณีรถติดไฟแดง ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่าง และเหยียบเบรคป้องกันรถไหล คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค ใส่เกียร์คาไว้ ให้เมื่อยขา ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ กลับมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน กลุ่มแรก เหยียบเบรคโดยค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง "D" กลุ่มที่ 2 เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง "N" กลุ่มสุดท้าย ดันคันเกียร์มาอยู่ที่ "P" ไม่เหยียบเบรค
ถ้าติดไฟแดงนานๆ กลุ่มแรก ต้องระวังมากที่สุด เพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า กลุ่มที่ 2 เบาหน่อยแค่เมื่อย ส่วนกลุ่มสุดท้าย สบายใจได้ แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด คือ ใช้เกียร์ว่างและดึงเบรคมือ
ผิด 4. "เดินทางไกลลมยางอ่อนดีกว่าแข็ง"
ถูก...ลมน้อย ยางมีโอกาสระเบิดได้มาก
คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน ก็แนะนำตรงกันว่า ผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้ และให้เพิ่มแรงดันลมยางให้สูงขึ้นอีก 2- 3 ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล
ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้ และมีโอกาสเกิด "ยางระเบิด" มากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหนด เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี
:L4398:
--- End quote ---
ข้อ 1 ok
ข้อ 2 เห็นด้วย
แต่ข้อ 3 อ่านแล้ว งงๆ
ส่วนข้อ 4 เข้าใจว่าการเดินทางไกลให้ลดลมยางสัก 4-5 ปอนด์ เมื่อยางร้อนลมยางก็จะสูงขึ้น
ส่วนลมไนโตรฯอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง
กิต <Black Angel>:
--- อ้างจาก: พี่จ่า Jatot ที่ 8 มีนาคม 2014, 16:51:07 ---ข้อ 1 ok
ข้อ 2 เห็นด้วย
แต่ข้อ 3 อ่านแล้ว งงๆ
ส่วนข้อ 4 เข้าใจว่าการเดินทางไกลให้ลดลมยางสัก 4-5 ปอนด์ เมื่อยางร้อนลมยางก็จะสูงขึ้น
ส่วนลมไนโตรฯอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง
--- End quote ---
ข้อ3 ง่ายๆครับพี่จ่า หยุดนานก็เข้าเกียร์ว่างแล้วดึงเบรคมือไว้ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่มีสอนนับเลขถอยหลังตามแยกไฟแดง ถ้ามาหยุดรถตอนเหลือไม่กี่วิก็เหยียบเบรคไว้นั่นแหละ เดี๋ยวก็ได้ไปแล้ว ส่วนการเข้า P ไว้ส่วนตัวไม่ทำครับ โชคไม่ดีโดนคันหลังจิ้มมาเกียร์จะไปด้วยอะสิ หรือว่าไม่เกี่ยว :L4387:
ข้อ 4 เดี๋ยวรอให้นักฟิสิกส์มาอธิบายนะครับ :sd42:
โอม แสมดำ 2013:
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ พี่ดิษฐ์ :sd23:
พี่เจต (jEtt-PAtani):
ข้อ 4 นั้นเคยดูรายงานสปีดทอร์ค เค้าอธิบายว่า
ถ้ายางอ่อนพอยางมันจะยืดและหดตัวในระยะที่ลึกกว่า (เห็นภาพมั้ย)
ให้ลองทำมือเป็นตัว c (เปรียบเป็นแก้มยาง) ตอนที่มันไม่สัมผัสพื้นมันจะคงตัวหรือขยายนิดนุง
แต่พอมันถึงช่วงที่สัมผัสพื้นถนนจะถูกกดดัวยน้ำหนักรถมันจะยุบลง
แล้วพอเราขันไกลๆ มันยืด-หดในระยะที่ลึกกว่า บ่อยๆ โครงสร้างภายในจะเสียหายอาจระเบิดได้
แต่ถ้ายางแข็งพอดีเวลามันสัมผัสพื้นการ ยืด- หด ของโครงสร้างยางจะน้อยกว่าทำให้โอกาสระเบิดน้อยกว่า
ปล.ตามที่พิธีกรอธิบายมา
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version