Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving

เรื่องที่มักเข้าใจผิดในการใช้รถ

<< < (2/7) > >>

แม็ค พัทยา MrMacSayHi:
Thank you 3 times เมื่อก่อนผมสตาร์ตติดปุ๊บก็เข้าเกียร์ปั๊บเลย เพิ่งมาให้ความสำคัญก็ตอนขับน้องปาเนี่ยแหละ  :sd42:

พี่จ่า Jatot:

--- อ้างจาก: พี่ดิษฐ์ บุรีรัมย์ ที่  8 มีนาคม 2014, 15:07:30 ---การเข้าใจที่ผิด

    ผิด  1. "สตาร์ทแล้วออกรถได้เลยไม่ต้องอุ่นเครื่อง"
    ถูก...อุ่นเครื่องยนต์สักหน่อยก่อนออกรถจะดีกว่า
     เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่ยัง "เย็น" อยู่   เช่น  ขณะออกรถจากบ้านไปทำงานตอนเช้า  หรือติดเครื่องยนต์เมื่องานเลิกเพื่อกลับบ้าน  ไอของเชื้อเพลิงที่เข้มข้นจะเกาะผนังกระบอกสูบ   และละลายปนกับฟิล์มน้ำมันเครื่องที่ฉาบผนังอยู่   ทำให้การหล่อลื่นแหวนลูกสูบกับผนังกระบอกสูบไม่เพียงพอ  สร้างความสึกหรอในเครื่องยนต์มากกว่าปกติ
    นอกจากนี้ทั้งเชื้อเพลิงที่ระเหยไม่หมด   และไอน้ำที่เกิดจากการเผาไหม้ขณะเครื่องยังเย็นนี้   ยังละลายปนอยู่ในน้ำมันเครื่อง   ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพเร็วขึ้นอีกด้วย

    ผิด  2. "ยกขาก้านปัดน้ำฝนขณะจอดช่วยยืดอายุใบปัด"
    ถูก...สปริงในก้านที่ปัดน้ำฝนจะอ่อน และเสียเร็วขึ้น
    ส่วนสำคัญที่ทำให้ที่ปัดน้ำฝนทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพประกอบด้วย  ใบปัด   แผ่นยางซึ่งทำหน้าที่รีดน้ำจากกระจกบังลมหน้า  ปกติจะมีอายุการใช้งานประมาณ  1  ปี   หากใช้นานกว่านั้นเนื้อยางจะแข็งตัวหรือมีการฉีกขาด  ไม่ว่าจะยกไว้หรือไม่ก็ตาม   อีกส่วนคือ  ก้านใบปัด ที่มีสปริงคอยดึงให้ใบปัดแนบสนิทกับกระจก  ซึ่งรับแรงจากคันโยก และมอเตอร์   ตัวนี้มีราคาสูงกว่าใบปัด  การยกก้านเมื่อจอดตากแดด  สปริงจะถูกดึงให้ยืดออกตลอดเวลา อายุการใช้งานสั้นลง  ทำให้ต้องจ่ายแพงกว่าเดิมหลายเท่าถ้าต้องเปลี่ยนทั้งชุด

    ผิด  3.  "รถติดไฟแดงค้างเกียร์  D ไว้ดีกว่าเปลี่ยนเกียร์ว่าง"
    ถูก...หยุดรถก็โอเค  แต่ถ้าติดไฟแดงนานก็ต้องระวังชนคันหน้า
    ในกรณีรถติดไฟแดง  ผู้ขับรถที่ใช้เกียร์ธรรมดาจะปลดเกียร์ว่าง และเหยียบเบรคป้องกันรถไหล  คงจะไม่มีใครเหยียบคลัทช์ และเบรค  ใส่เกียร์คาไว้ ให้เมื่อยขา  ขณะที่ผู้ขับรถเกียร์อัตโนมัติ กลับมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน  กลุ่มแรก  เหยียบเบรคโดยค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง "D"  กลุ่มที่  2   เบรคเหมือนกัน แต่เลื่อนตำแหน่งคันเกียร์มาที่เกียร์ว่าง "N"  กลุ่มสุดท้าย  ดันคันเกียร์มาอยู่ที่ "P" ไม่เหยียบเบรค
    ถ้าติดไฟแดงนานๆ  กลุ่มแรก  ต้องระวังมากที่สุด  เพราะถ้าขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรค   รถอาจพุ่งไปชนคันหน้า  กลุ่มที่  2  เบาหน่อยแค่เมื่อย  ส่วนกลุ่มสุดท้าย  สบายใจได้   แต่อาจจะไม่สะดวกกับการใช้งาน วิธีดีที่สุด  คือ  ใช้เกียร์ว่างและดึงเบรคมือ

     ผิด  4. "เดินทางไกลลมยางอ่อนดีกว่าแข็ง"
    ถูก...ลมน้อย  ยางมีโอกาสระเบิดได้มาก
    คู่มือการใช้และดูแลรักษายางรถยนต์  ไม่ว่าจะเป็นค่ายไหน  ก็แนะนำตรงกันว่า   ผู้ใช้รถควรเติมลมยางตามมาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดไว้  และให้เพิ่มแรงดันลมยางให้สูงขึ้นอีก  2- 3  ปอนด์ เมื่อต้องเดินทางไกล
ลมยางที่อ่อนกว่ามาตรฐานกำหนด  นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอกสึกมากกว่าด้านในแล้ว ยังอาจส่งผลเสียกับโครงสร้างยางได้  และมีโอกาสเกิด  "ยางระเบิด"   มากกว่าหรือใกล้เคียงกับยางที่มีแรงดันลมยางเกินกำหนด  เพราะอุณหภูมิความร้อนที่เกิดจากการเสียดสี

 :L4398:

--- End quote ---

ข้อ 1  ok
ข้อ 2  เห็นด้วย
แต่ข้อ 3 อ่านแล้ว งงๆ
ส่วนข้อ 4 เข้าใจว่าการเดินทางไกลให้ลดลมยางสัก 4-5 ปอนด์ เมื่อยางร้อนลมยางก็จะสูงขึ้น
ส่วนลมไนโตรฯอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง

กิต <Black Angel>:

--- อ้างจาก: พี่จ่า Jatot ที่  8 มีนาคม 2014, 16:51:07 ---ข้อ 1  ok
ข้อ 2  เห็นด้วย
แต่ข้อ 3 อ่านแล้ว งงๆ
ส่วนข้อ 4 เข้าใจว่าการเดินทางไกลให้ลดลมยางสัก 4-5 ปอนด์ เมื่อยางร้อนลมยางก็จะสูงขึ้น
ส่วนลมไนโตรฯอาจจะไม่เปลี่ยนแปลง

--- End quote ---

ข้อ3 ง่ายๆครับพี่จ่า หยุดนานก็เข้าเกียร์ว่างแล้วดึงเบรคมือไว้ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่มีสอนนับเลขถอยหลังตามแยกไฟแดง ถ้ามาหยุดรถตอนเหลือไม่กี่วิก็เหยียบเบรคไว้นั่นแหละ เดี๋ยวก็ได้ไปแล้ว ส่วนการเข้า P ไว้ส่วนตัวไม่ทำครับ โชคไม่ดีโดนคันหลังจิ้มมาเกียร์จะไปด้วยอะสิ หรือว่าไม่เกี่ยว :L4387:

ข้อ 4 เดี๋ยวรอให้นักฟิสิกส์มาอธิบายนะครับ  :sd42:

โอม แสมดำ 2013:
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ พี่ดิษฐ์ :sd23:

พี่เจต (jEtt-PAtani):
ข้อ 4 นั้นเคยดูรายงานสปีดทอร์ค เค้าอธิบายว่า

ถ้ายางอ่อนพอยางมันจะยืดและหดตัวในระยะที่ลึกกว่า (เห็นภาพมั้ย)
ให้ลองทำมือเป็นตัว c (เปรียบเป็นแก้มยาง) ตอนที่มันไม่สัมผัสพื้นมันจะคงตัวหรือขยายนิดนุง
แต่พอมันถึงช่วงที่สัมผัสพื้นถนนจะถูกกดดัวยน้ำหนักรถมันจะยุบลง
แล้วพอเราขันไกลๆ มันยืด-หดในระยะที่ลึกกว่า  บ่อยๆ โครงสร้างภายในจะเสียหายอาจระเบิดได้

แต่ถ้ายางแข็งพอดีเวลามันสัมผัสพื้นการ ยืด- หด ของโครงสร้างยางจะน้อยกว่าทำให้โอกาสระเบิดน้อยกว่า

ปล.ตามที่พิธีกรอธิบายมา

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version