รายงานอัตราสิ้นเปลือง
วันจันทร์ที่ 23 ธ.ค. 56 เดินทางกลับจาก กทม. - นครศรีธรรมราช ระยะทาง 800 กม.ผู้โดยสาร 7 คน(ผู้ใหญ่น้ำหนักมากทุกคน) รถท้ายห้อยต้วมเตี้ยม ออกเดินทางเช้าวิ่งตลอดวัน ฟิล์มหน้า 60 รอบคัน 80 ล้อยางแม็คเดิมติดรถ 17 นิ้ว ลมหน้า 40 หลัง 50 เปิดแอร์หน้า-หลัง 23 - 25 ตลอดทาง จอดสโลว์เครื่อง 30 นาที ขากลับรถไม่ติด สัมภาระเต็มทั้งด้านในรถและบนแร็คหลังคาคาดตาข่าย ความเร็ว 110 - 140 กม./ชม. ถนนขาล่องใต้ดีกว่าขาขึ้น และ พื้นผิวโลกจากทิศเหนือสู่ทิศใต้จะค่อย ๆ ลาดเอียงลงทำให้รถขับสบายประหยัดมากขึ้น ผมขับแบบตามใจฉันไม่เลี้ยงคันเร่ง ออกไฟแดงแรงบ้าง(ทดลองแรงบิด) กระแทกคันเร่งเป็นบางครั้ง (มีเสียงเขกบ้างเพราะรถหนักมากต้องผ่อนคันเร่งแล้วค่อย ๆ เติมใหม่ทีละนิด) มีจี้ตูดเป็นบางครั้ง ใช้น้ำมันไป 1,300 บาท (เท่ากับน้ำมันหนึ่งลิตรวิ่งได้ 18.46 กม.) แก๊ส 800 บาท เฉลี่ยค่าน้ำมันและแก๊สรวมกัน ตก กม. ละ 2.62 บาท ผมยังนึกไม่ออกว่าถ้าวิ่งน้ำมันอย่างเดียวกับสภาพที่ผ่านมาจะตก กม.ละเท่าไหร่ คงจะ 3.50 - 3.60 บาท หรือ มากกว่า แต่ที่สำคัญเชื้อเพลิงร่วมรถแรงกว่า
หมายเหตุ
1.ขาล่องใต้ถนนดีกว่าขาขึ้น กทม. รวมทั้งผิวโลกลาดเอียงลงทางทิศใต้ทำให้รถเบาขึ้นวิ่งดีขึ้นและประหยัดมากขึ้น
2.เมื่อเปิดสวิทช์สปีดเมื่อความเร็ว 100 ขึ้นไปแล้วเติมคันเร่งแรง ๆ มีเสียงเขกให้ได้ยินต้องผ่อนคันเร่งแล้วค่อยเติมใหม่ แต่ถ้าไม่เปิดสวิทช์สปีด อาการเสียงเขกเกือบไม่มี
3.รถออกตัวไฟแดงดีถึงแม้จะบรรทุกมาก 7 คนรวมสัมภาระ
4.ลองเครื่องกับวีโก้แต่งเข้าใจว่าจะเป็นตัว 2.5 รถผมหนัก 2 ตัน ผู้โดยสารใหญ่ ๆ 7 รวมสัมภาระทั้งในรถและเต็มหลังคาแต่ยังทิ้งวีโก้ไกลลิบผมผ่อนคันเร่งพี่เขาลดกระจกแล้วส่งยิ้ม
5.เดินทางกลางวันมองเห็นทัศนวิสัยได้ระยะไกล และ ปลอดภัยกว่า
6.ก่อนเดินทางพักผ่อนให้เต็มที่ตลอดทั้งคืน
7.รถบรรทุกมาก ๆ เบรคผิดระยะไปจากเดิมเอาไม่ค่อยอยู่
8.เสียงเครื่องเบากว่าน้ำมัน
9.ไปกันหลาย ๆ คนอย่าพกน้ำแร่หลายขวดพาเท่าที่จำเป็นค่อยไปหาซื้อข้างหน้าเพราะจะเพิ่มน้ำหนักรถ
ทั้งหมดเป็นผู้โดยสารนอกจากผมและผู้ที่กำลังถ่ายภาพ (8 คนทั้งผม)
