ผู้เขียน หัวข้อ: ร้ายยยยย...สาระ  (อ่าน 18484 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
ร้ายยยยย...สาระ
« เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 11:51:32 »
เรื่องของพริก...


พริก...
ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ช่วยให้ระบบการหายใจสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูกหรือลดปริมาณสารที่ขัดขวางระบบการหายใจ
ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด ไซนัส หรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ ช่วยบรรเทาอาการไอ สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของตัวยาหลายๆ ชนิด
นอกจากนั้นสารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ในบริเวณเนื้อเยื่อบุผนังช่องปาก จมูก ลำคอ และปอด



พริก...
ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด หรือการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองอุดตัน
การบริโภคพริกเป็นประจำจะช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการอุดตันของเส้นเลือด นับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลว
เนื่องจากพริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความดัน เพราะว่าในพริกมีสารจำพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี
ซึ่งช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรงเพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น



พริก...
ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเตอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Low density lipoprotein)
ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้มีการสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein) มากขึ้น
ทำให้ปริมาณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดต่ำลง เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค

พริก...
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากพริกเป็นพืชผักที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามินซีมากๆ
จะช่วยปกป้องการเกิดโรคมะเร็งได้ วิตามินซียับยั้งการสร้างไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในระบบทางเดินอาหาร วิตามินซีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน
ซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกอ่อน รวมถึงเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กล้ามเนื้อและปอด
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สามารถหยุดการแพร่กระจายของเซลล์เนื้อร้ายได้

นอกจากนี้ วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือสามารถยุติหรือขัดขวางบทบาทของอนุมูลอิสระ (free radicals)
ที่จะก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์จนเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด สารเบตาแคโรทีนในพริกช่วยลดอัตราการเสี่ยงของโรคมะเร็งในปอด และในช่องปาก
คนที่รับประทานผักที่มีสารเบตาแคโรทีนน้อย จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากกว่าคนที่รับประทานผักที่มีเบตาแคโรทีนสูงถึง 7 เท่า
คุณสมบัติของสารเบตาแคโรทีนจะช่วยลดอัตราการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำลายเซลล์มะเร็ง สำหรับพริกบางชนิดที่มีสีม่วงจะมีสารพวกแอนโทไซยานิน
ซึ่งสารนี้มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ คือสามารถทำลายอนุมูลอิสระได้เช่นกัน



พริก...
ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น ลดอาการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง เป็นต้น
ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้บรรเทาอาการปวดอันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงบริเวณผิวหนัง
รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาต์ หรือโรคข้อต่ออักเสบ เป็นต้น
นอกจากนี้ผลการทดลองใหม่ๆ ยังบ่งชี้ว่าสารแคปไซซินช่วยลดอาการปวดศีรษะและไมเกรนลงได้

พริก...
ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและอารมณ์ดี เนื่องจากสารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสาร เอนดอร์ฟิน
(endorphin มาจากคำว่า endogenous morphine) ขึ้น สารเอนดอร์ฟินเป็นเปปไทด์ขนาดเล็ก (โปรตีนสายสั้นๆ) มีคุณสมบัติคล้ายมอร์ฟีน
คือ บรรเทาอาการเจ็บปวด ในขณะเดียวกันก็สร้างอารมณ์ให้ดีขึ้น ยิ่งรับประทานเข้าไปมากเท่าใด ร่างกายก็จะสร้างเอนดอร์ฟินขึ้นมามากขึ้นเท่านั้น
ปกติร่างกายของคนเราจะสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้นภายหลังการออกกำลังกาย ดังนั้นการออกกำลังกายแม้จะทำให้ร่างกายเมื่อยล้า แต่ผู้ออกกำลังกายจะรู้สึกสดชื่นแจ่มใส
ถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปากควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ
เพราะการดื่มน้ำมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น แต่ความเผ็ดก็ยังไม่ได้ลดลง เนื่องจากว่า ‘น้ำ' ละลายสารดังกล่าวได้ไม่ดี...นั่นเอง

Tips
เกณฑ์วัดระดับความเผ็ดร้อนสากลของพริกหรือผักผลไม้ที่มีสารแคปไซซินซึ่งให้ความเผ็ดร้อนนี้เรียกว่า สโกวิลล์ (Scoville)
เป็นคำที่ตั้งขึ้นตามชื่อของผู้คิดค้นวิธีการวัดระดับนี้ ซึ่งก็คือ วิลเบอร์ ลินคอร์น สโกวิลล์ นักเคมีชาวอเมริกัน โดยเขาได้คิดค้นระดับวัดความเผ็ดนี้ขึ้นในปี ค.ศ. 1912
ขณะทำงานอยู่ที่บริษัทผลิตยา พาร์ก เดวิส เพื่อวัดความฉุนหรือความเผ็ดร้อนของพริกต่างชนิดกัน

สำหรับความเผ็ดที่วัดได้จากพริกขี้หนูสวนบ้านเรานั้นจะอยู่ที่ 50,000-100,000 สโกวิลล์ ในขณะที่สารแคปไซซินบริสุทธิ์นั้นมีค่าประมาณ 15,000,000-16,000,000 สโกวิลล์
ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเผ็ดที่สุดในโลกก็คือ พริกฮาบาเนโร จากเรด ซาบีนา วัดค่าได้ถึง 350,000-577,000 สโกวิลล์...เลยทีเดียว

อ้างอิง http://women.sanook.com

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 11:58:39 »
ขอบคุณครับพี่เจมส์...แต่พริกไม่สามารถช่วยบรรเทาอาการ :L6415: ได้ :L2905: :L2905:

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ พี่ตู่ Black PJM

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,528
  • Like: 103
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 12:08:18 »
ส่วนพริกที่ได้รับการบันทึกลงในกินเนสส์บุ๊กว่าเผ็ดที่สุดในโลกก็คือ พริกฮาบาเนโร จากเรด ซาบีนา วัดค่าได้ถึง 350,000-577,000 สโกวิลล์...เลยทีเดียว

แค่พริกแม้วก็แย่แย้ว  :sd06:

แต่ไม่ว่าพริกอะไร ถ้าไม่เคยกินก็อย่าไปลองแบบนี้นะครับ  :sd42:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8Ooktz7po9k" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8Ooktz7po9k</a>
 

4790 รวมกระทู้เด็ด พี่ตู่ Black PJM
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4790

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 13:13:38 »
แค่พริกแม้วก็แย่แย้ว  :sd06:

แต่ไม่ว่าพริกอะไร ถ้าไม่เคยกินก็อย่าไปลองแบบนี้นะครับ  :sd42:

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=8Ooktz7po9k" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=8Ooktz7po9k</a>

ตกลงเจ๊คนนี้ปัจจุบันนางยังมีชีวิตอยู่หรือปล่าวครับ :L4396: :L4396: :L4396:

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 16:47:19 »
เรื่องของกระชาย...


กระชายเหลือง
กระชาย ภาษาอังกฤษ Finger Root, Chinese Ginger, Chinese Keys, Galingale กระชายเหลือง ชื่อวิทยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf.
จัดอยู่ในวงศ์ Zingiberaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกันกับ ขิง ขมิ้น และข่ามีชื่อท้องถิ่นอื่นๆ อีกเช่น ว่านพระอาทิตย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดำ กะแอน ขิงทราย (มหาสารคาม),
จี๊ปู ซีฟู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ เป๊าะสี่ ระแอน เป๊าะซอเร้าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนือ), ขิงจีน เป็นต้น โดยมีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และพบขึ้นอยู่ในป่าดิบร้อนชื้น

ลักษณะของกระชายเหลือง


ต้นกระชาย เป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าสั้น แตกหน่อได้ มีรากอวบ เป็นรูปทรงกระบอกหรือรูปทรงไข่ค่อนข้างยาว ปลายเรียว มีความยาวประมาณ 4-10 เซนติเมตร
และกว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกเป็นกระจุก ผิวมีสีน้ำตาลอ่อน ส่วนเนื้อในมีสีเหลืองและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว

ใบกระชาย คือลักษณะของส่วนที่อยู่เหนือดิน มีประมาณ 2-7 ใบ ลักษณะของใบเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ ลักษณะเป็นรูปรี ใบยาวประมาณ 12-50 เซนติเมตร
และกว้างประมาณ 5-12 เซนติเมตร โคนใบมนหรือแหลม ส่วนปลายใบเรียวแหลม มีขอบเรียบ เส้นกลางใบ ด้านใบ และกาบใบด้านบนจะเป็นร่อง ส่วนด้านล่างจะนูนเป็นสัน
ด้านใบเรียบมีความประมาณ 7-25 เซนติเมตร ส่วนกาบใบเป็นสีชมพูยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ระหว่างก้านใบและกาบใบจะมีลิ้นใบ

ดอกกระชาย ออกดอกเป็นช่อแบบช่อเชิงลด โดยจะออกที่ยอดระหว่างกาบใบคู่ในสุด มีความประมาณ 5 เซนติเมตร แต่ละดอกจะมีใบประดับ 2 ใบ
มีสีขาวหรือสีขาวอมชูอ่อนๆ เป็นรูปใบหอกกว้างประมาณ 8 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3.5-4.5 เซนติเมตร ที่กลีบเลี้ยงมีสีขาวหรือสีขาวอมชมพูอ่อน
โคนติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ปลายจะแยกเป็น 3 แฉก ส่วนกลีบดอกมีสีขาวหรือสีขาวอมชมพูอ่อน โคนติดกันเป็นหลอด ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร
และปลายแยกเป็น 3 กลีบ เป็นรูปใบหอกมีขนาดไม่เท่ากัน กลีบใหญ่มี 1 กลีบ กว้างประมาณ 7 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 1.8 เซนติเมตร ส่วนอีก 2 กลีบจะมีขนาดเท่ากัน
กว้างประมาณ 5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเกสรตัวผู้อยู่ 6 อัน แต่มี 5 อัน จะเปลี่ยนไปมีลักษณะเหมือนกลีบดอกโดย 2 กลีบบนมีสีชมพู
รูปไข่กลับ ขนาดเท่ากัน มีความกว้างประมาณ 1.2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ส่วนอีก 3 กลีบล่างมีสีชมพูติดกันเป็นกระพุ้ง มีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร
ยาวประมาณ 2.7 เซนติเมตร และที่ปลายจะแผ่กว้างประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีสีชมพูหรือสีม่วงแดงเป็นเส้น อยู่เกือบทั้งกลีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงกระเปาะและปลายกลีบ
จะมีเกสรตัวผู้ที่สมบูรณ์อยู่ 1 อัน ก้านชูอับเรณูหุ้มก้านเกสรตัวเมีย

ผลกระชาย ผลแก่จะแตกเป็น 3 เสี่ยง มีเมล็ดค่อนข้างใหญ่

กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนิด คือ กระชายดำ กระชายแดง และกระชายเหลือง (บทความนี้เราจะพูดกันถึงกระชายเหลือง)
โดยกระชายเป็นพืชสมุนไพรที่คนไทยต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำมาใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในแกงป่า
หรือผัดเป็นต่างๆ โดยส่วนที่นิยมนำมาใช้ประกอบอาหารกันมากที่สุดคือ รากสะสมอาหาร หรือที่เรียกว่า “นมกระชาย” ซึ่งรากกระชายนี้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
สามารถใช้เป็นผักจิ้มได้โดยตรง แต่คนส่วนใหญ่มักจะนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องแกงซะมากกว่า
เพราะมีคุณสมบัติในการช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์เนื้อปลาได้เป็นอย่างดี

กระชายที่นิยมใช้กันก็คือกระชายเหลืองและกระชายดำ ซึ่งกระชายดำปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยม
จนทำให้กระชายเหลืองถูกลดความสำคัญลงไป แต่ว่ากันว่าในด้านสรรพคุณทางยาสมุนไพร กระชายเหลืองนั้นดีกว่ากระชายดำ
เพราะบางที่เราก็คิดไปเองว่าสมุนไพรถ้าเป็นสีเข้มกว่า ก็น่าจะมีประโยชน์ มากกว่า แถมกระชายดำยังถูกโปรโมททางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ทำให้คนทั่วไปหลงคิดว่ากระชายดำนั้นดีกว่ากระชายเหลืองนั่นเอง


สมุนไพรกระชาย มีสรรพคุณทางยานานับประการ จนได้ชื่อว่าในวงการแพทย์แผนไทยว่าเป็น “โสมไทย”
เนื่องจากกระชายกับโสมมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่าง เช่น สรรพคุณในการบำรุงกำลังและเสริมสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสมุนไพรทั้งสองชนิด
และกระชายและโสมต่างก็เป็นพืชที่มีส่วนสะสมอาหารที่ใช้เป็นยา อยู่ใต้ดินเหมือนกัน แถมยังสามารถเรืองแสงในที่มืดได้เหมือนกันด้วย
และในเรื่องของลักษณะที่คล้ายกับรูปร่างมนุษย์เหมือนกันๆ ซึ่งบางเราจะเรียกโสมว่า “โสมคน” และเรียกกระชายว่า “นมกระชาย”
(เนื่องจากกระชายมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับนมผู้หญิงนั่นเอง และบางครั้งก็ดูคล้ายเพศชาย จึงเกิดความเชื่อที่ว่ามันน่าจะมีความเกี่ยวข้องในเรื่องสรรพคุณทางเพศ)

สรรพคุณของกระชาย
01.ช่วยบำรุงร่างกาย
02.ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ)
03.กระชายเหลือง สรรพคุณช่วยแก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก
04.ช่วยบำรุงกำลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บำบัดโรคนกเขาไม่ขัน หรือโรคอีดี (Erectile Dysfunctional หรือ ED) (เหง้าใต้ดิน)
05.ช่วยบำรุงหัวใจ ด้วยการใช้เหง้าและรากของกระชายนำมาปอกเปลือก ล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นตากแห้งแล้วบดจนเป็นผง
        และให้ใช้ผงแห้งที่เตรียมไว้ประมาณ 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำร้อนครึ่งถ้วยชา แล้วรับประทานเพียงครั้งเดียว (เหง้า,ราก)
06.ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยทำให้กระดูกไม่เปราะบาง
07.ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกาย
08.ช่วยบำรุงกำหนัด แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใต้ดิน)
09.ช่วยบำรุงสมอง เพราะช่วยทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนกลางได้ดีมากขึ้น
10.ช่วยปรับสมดุลของความดันโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิตเมื่อความดันโลหิตสูง แต่เมื่อความดันโลหิตต่ำก็จะช่วยทำให้ความดันเพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ
11.สรรพคุณกระชายช่วยแก้โลหิตเป็นพิษ (ใบ)
12.กระชาย สรรพคุณทางยาช่วยแก้โรคในปากและคอ เช่น ปากเปื่อย ปากแห้ง ปากเป็นแผล (ใบ, เหง้า)
13.ช่วยแก้ฝ้าขาวในปาก ด้วยการใช้กระชายที่ล้างสะอาดนำมาบดแบบไม่ต้องปอกเปลือก แล้วใส่ในโถปั่นปั่นพอหยาบ แล้วนำมาใส่ขวดปิดฝาแช่ไว้ในตู้เย็น
        แล้วนำมากินก่อนอาหารครั้งละ 1 ช้อนชาเล็ก กินวันละ 3 มื้อก่อนอาหารประมาณ 15 นาทีสักประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก)
14.เหง้าใต้ดิน มีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดท้อง มวนในท้อง อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ด้วยการใช้เหง้าและรากประมาณครึ่งกำมือ
        ถ้าสดให้ใช้ประมาณ 5-10 กรัม แต่ถ้าเป็นแห้งให้ใช้ประมาณ 3-5 กรัม แล้วนำมาต้มเอาน้ำดื่มแก้อการ หรือจะนำมาใช้ปรุงเป็นอาหารไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน
        (เหง้าใต้ดิน)
15.ช่วยแก้อาการท้องร่วง ท้องเดิน ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหง้า ใช้เหง้าที่ปิ้งไฟแล้วนำมาฝนหรือตำผสมกับน้ำปูนใส หรือจะคั้นให้ข้นๆ
        แล้วนำมารับประทานครั้งละ 1-2 ช้อนชาก็ได้ (เหง้า,ราก)
16.ช่วยแก้บิด โดยใช้เหง้าสดประมาณ 2 เหง้า นำมาบดจนละเอียดแล้วเติมน้ำปูนใส คั้นเอาแต่น้ำมาดื่ม (เหง้าสด)
17.ช่วยรักษาอาการท้องเดินในเด็ก (เหง้า,ราก)
18.รากกระชาย สรรพคุณช่วยแก้โรคกระเพาะ (ราก)
19.ช่วยแก้อาการบิดมูกเลือด (เหง้า,ราก)
20.ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะพิการ (เหง้า,ราก)
21.ช่วยบำรุงตับและไตให้แข็งแรง ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทำให้ไตทำงานได้ดียิ่งขึ้น
22.ช่วยป้องกันไทรอยด์เป็นพิษ
23.ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซึ่งในกรณีนี้อาจจะต้องใช้เม็ดบัว ที่ต้มแล้วนำมารับประทานร่วมด้วย
24.ช่วยแก้อาการไส้เลื่อนในเพศชาย
25.ช่วยควบคุมไม่ให้ต่อมลูกหมากโต
26.ช่วยบำรุงมดลูกของสตรี ป้องกันไม่ให้มดลูกโต
27.แก้อาการตกขาว ช่วยขับระดูขาวของสตรี (เหง้า)
28.ช่วยขับน้ำคาวปลาของสตรีหลังคลอดบุตร
29.ใช้เป็นยารักษาริดสีดวงทวาร ด้วยการใช้เหง้าสดประมาณ 60 กรัม (6-8 เหง้า) นำมาผสมกับเนื้อมะขามเปียกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ช้อนแกง
        และนำมาตำแล้วต้มกับน้ำ 6 แก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลือ 2 แก้ว นำมารับประทานครั้งละครึ่งแก้วก่อนนอน แล้วรับประทานติดต่อกันประมาณ 1 เดือนจนกว่าจะหาย
        (เหง้าใต้ดิน)
30.ใบช่วยถอนพิษต่างๆ (ใบ)
31.ช่วยแก้อาการปวดเมื่อย ด้วยการใช้เหง้าหรือรากแก่ๆ นำมาหั่นเป็นแว่นบางๆ แล้วนำไปตากแห้งและนำมาชงกับน้ำดื่ม (ราก,เหง้า)
32.ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง
33.เหง้าและรากใช้เป็นยาภายนอก สรรพคุณช่วยรักษาขี้กลาก ขี้เกลื้อน (เหง้า,ราก)
34.ช่วยรักษาโรคน้ำกัดเท้า ด้วยการใช้รากกระชายทั้งเปลือกมาล้างแล้วผึ่งให้แห้ง ฝานเป็นแว่นๆ และนำไปบดให้เป็นผงหยาบๆ
        และใช้น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะพร้าวมาอุ่นในหม้อใบเล็กๆ เติมผงกระชายใช้น้ำมัน 3 เท่าของปริมาณกระชาย แล้วนำมาหุงด้วยไฟอ่อนๆ ราว 15-20 นาที
        แล้วกรองกระชายออก เก็บน้ำมันไว้ในขวดแก้วสีชานำมาใช้ทาบริเวณที่เป็น (ราก)
35.ช่วยแก้อาการคันหนังศีรษะจากเชื้อรา ด้วยการใช้น้ำมันดังกล่าว (จากสูตรรักษาโรคน้ำกัดเท้า) นำมาเข้าสูตรทำเป็นแชมพูสระผม
        หรือจะใช้น้ำมันกระชายโกรกผมแล้วนวดให้เข้าหนังศีรษะก็ได้ แล้วค่อยล้างออก (น้ำมันกระชาย)
36.ช่วยรักษาฝีด้วยการใช้เหง้ากับรากมาตำให้ละเอียด แล้วนำมาทาหัวฝีที่บวมจะทำให้หายเร็วยิ่งขึ้น (เหง้า,ราก)
37.เหง้ามีฤทธิ์ในการช่วยต้านเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังและโรคในช่องปากดีพอสมควร (เหง้า)
38.กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ช่วยต้านการก่อกลายพันธุ์ โดยการบริโภครากกระชายสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
39.กระชายมีสารที่ออกฤทธิ์ทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกิดอนุมูลอิสระภายในร่างกายได้
40.กระชายมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็นประจำอาจได้ผลคล้ายกับการกินยาแอสไพริน
        และอาจะช่วยป้องกันการเกิดโรคที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบเรื้อรังภายในร่างกายได้
41.งานวิจับจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศึกษาพบว่าสารสกัดจากกระชาย
        สามารถช่วยต้านการเสื่อมของกระดูกอ่อนในหลอดทดลองได้ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ
42.งานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อ Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมาลาเรีย
43.งานวิจัยของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์พบว่าสารสกัดคลอโรฟอร์ม และเมทานอลจากรากของกระชาย
        มีฤทธิ์ในการต้านการเจริญเติบโตของเชื้อ Giardia intestinalis ซึ่งเป็นพยาธิเซลล์เดียวในลำไส้ ที่ก่อให้เกิดภาวะท้องเสีย
        ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
44. งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนั้นมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียได้หลายชนิด

ประโยชน์ของกระชาย
01.ประโยชน์กระชาย สามารถนำมาทำเป็นน้ำกระชายปั่น ดื่มเพื่อเพิ่มความสดชื่น บำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าได้เป็นอย่างดี
02.น้ำกระชาย ช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น ช่วยทำให้เหนื่อยลง
03.ช่วยทำให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลับเป็นดำ ช่วยทำให้ผมบางกลับมาหนาขึ้น และช่วยแก้ปัญหาผมหงอด ผมร่วงได้
04.รากนำมาใช้เป็นเครื่องแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อและปลาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็นต้น
        และยังทำให้อาหารมีกลิ่นและรสที่หอมแบบเป็นเอกลักษณ์อีกด้วย
05.รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนำตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นำมาตำผสมกันแล้วใช้ผสมกับน้ำฉีดในบริเวณที่มีแมลงรบกวน

วิธีทำน้ำกระชาย
01.การทำน้ำกระชายให้เตรียมวัตถุดิบดังนี้ กระชายเหลืองสดครึ่งกิโล (หรือจะใช้สูตรผสมก็ได้ โดยใช้กระชายเหลือง 5 ส่วน กระชายดำ 1 ส่วน
        และกระชายแดง 1 ส่วน) / น้ำผึ้ง / น้ำมะนาว / น้ำเปล่าต้มสุกที่ทิ้งไว้จนเย็น
02.ขั้นตอนแรกให้นำกระชายมาล้างให้สะอาด ตัดรากที่รกรุงรังออก ตัดหัวและตัดท้ายทิ้งไป ถ้าขูดเปลือกออกบ้างก็จะดีมาก
03.เมื่อเสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นท่อนๆ เพื่อให้ง่ายต่อการนำมาปั่น
04.ให้เตรียมผ้าขาวบาง รองด้วยกระชอน เตรียมไว้ให้พร้อม
05.นำกระชายที่เตรียมไว้ใส่ในโถปั่นและผสมกับน้ำเปล่าต้มสุกพอประมาณ แล้วปั่นจนละเอียด
06.เสร็จแล้วให้เทใส่กระชอบที่เจรียมไว้ ถ้าน้ำน้อยก็ให้ผสมน้ำเปล่าลงไปอีก แล้วคั้นเอาแต่น้ำเท่านั้น
07.ที่นี้เราก็จะได้น้ำชายเหลืองสดๆ ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานเป็นเดือน
08.เมื่อจะดื่มก็เพียงแค่นำมาผสมกับน้ำมะนาว น้ำผึ้งในถ้วยแล้วคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่น้ำกระชายตามลงไป
09.เมื่อผสมจนรสชาติกลมกล่อมตามที่ต้องการแล้ว ก็เป็นอันเสร็จ
10.แต่ถ้ากลัวว่ากลิ่นกระชายจะแรงไป ก็สามารถใช้ใบบัวบัก หรือใบโหระพา มาปั่นรวมกันก็ได้ตามใจชอบ เพราะไม่มีส่วนผสมที่เป็นสูตรตายตัวเท่าไหร่

Tip :
น้ำกระชายไม่ควรเก็บไว้นานมาก เพราะจะทำให้ความซ่าและความหอมของกระชายลดน้อยลง ทำให้เกิดตะกอนที่ก้น
ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรดื่มให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้ทั้งรสชาติที่ซ่า ดื่มแล้วชื่นใจพร้อมสรรพคุณเต็มๆ อีกด้วย แต่สำหรับผู้ที่ดื่มน้ำกระชายแล้วมีอาการรู้สึกแปลกๆ
ร้อนวูบวาบ หรือมีอาการเหงื่อออกหรือเรอออกมาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ หากดื่มไปสักพักเดี๋ยวก็ชินไปเอง

อ้างอิง http://www.greenerald.com

ออฟไลน์ พี่ตู่ Black PJM

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,528
  • Like: 103
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 17:38:12 »
ท่าทางช่วงนี้พี่เจมส์เรากำลังเอาใจใส่ดูแลเรื่องของสุขภาพอยู่ หรือไม่ก็กำลังถูก ผบ.ใช้ไปจ่ายตลาดกะให้เป็นพ่อครัวที่บ้าน  :sd42:
 

4790 รวมกระทู้เด็ด พี่ตู่ Black PJM
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4790

ออฟไลน์ หยก วาฬน้ำเงิน

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,467
  • Like: 124
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 18:31:24 »
ท่าทางช่วงนี้พี่เจมส์เรากำลังเอาใจใส่ดูแลเรื่องของสุขภาพอยู่ หรือไม่ก็กำลังถูก ผบ.ใช้ไปจ่ายตลาดกะให้เป็นพ่อครัวที่บ้าน  :sd42:

สงสัยจะอย่างหลัง :L2739:

Let's rest in Pa-Mania's style......!!!

ออฟไลน์ พี่นะ [Na ratchada]

  • Founder Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 14,896
  • Like: 435
  • นิยามของคำว่าพักผ่อน "กระเป๋าแหก"
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: 19 ตุลาคม 2013, 20:56:09 »
ขอบคุณพี่เจมส์ตกลงที่ลากมาซ่ะยาวเพื่อจะบอกว่ากระชากดีกว่าใช่ไหม 

ผมช่วยใส่ภาพประกอบให้  จะได้เห็นภาพครับ

ขอต้อนรับสมาชิกใหม่ทุกท่าน เรียนรู้ปามาเนีย โปรดอ่านที่linkด้านล่าง
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1688.0.html

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2013, 12:40:04 »
เรื่องของกัญชา... หุหุ เอิ๊ก เอิ๊ก


กัญชา (Ganja, Marijuana, Cannabis, Hemp, Weed, Pot ปุ๊น เนื้อ เป็ด etc.)
พืชชนิดนึงที่รับรู้กันดีว่าเป็นสิ่งเสพติดให้โทษ จากคำบอกเล่าของครูบาอาจารย์ รวมทั้งจากในทีวี และสื่อทั้งหลายว่าพืชนี้น่ะไม่ดี
เป็นสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมาย นี่คืออีกหลายๆ แง่มุมของกัญชาใบหญ้าต้องห้าม ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนและจะไม่ได้รู้จากสื่อทั่วๆ ไป

กัญชาไม่ใช่ยาที่เสพแล้วติด
กัญชาต่างกับยาเสพติดชนิดอื่น เพราะไม่ว่าคุณจะสูบ หรือกินติดต่อกันนานแค่ไหนก็ตาม คุณจะไม่ลงแดงจากอาการอยากยา
แม้ว่าคุณจะเลิกเสพมันอย่างกระทันหัน เพราะกัญชามันคือพืชจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีใดๆ ที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการอยากยาทั้งทางร่างกาย
และจิตใจ ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับบุหรี่ ที่รู้กันดีว่าเลิกได้ยากเย็นสุดติ่ง จนหลายคนเลิกไม่ได้ต้องสูบไปตลอดชีวิต
เหตุผลก็คือในบุหรี่มีการเติมส่วนผสมถึง 599 ชนิด มันจะกลายสภาพเป็นสารพิษและสารก่อมะเร็งเมื่อถูกเผาไหม้ ยกตัวอย่างเช่นแอมโมเนีย
หนึ่งในส่วนประกอบของบุหรี่ที่เป็นสารพิษ ส่วนประโยชน์ (ต่อผู้ผลิต) ก็เพื่อเร่งให้สารนิโคตินในใบยาสูบวิ่งเข้าสมองเร็วขึ้น
ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการติดบุหรี่ได้มากขึ้นถึง 100 เท่า

กัญชาไม่ได้ทำลายสมอง
จากการวิจัยของ USCD (University of California at San Diego) ได้ทำการเปรียบเที่ยบการทำงานของสมองของผู้ที่เสพกัญชาเป็นประจำ
จำนวนวน 704 คน กับผู้ที่ไม่ได้เสพ 484 คน พบว่ากัญชาส่งผลกระทบต่อสมองน้อยกว่าคนที่กินเหล้าซะอีก และกัญชาก็ไม่มีผลต่อความสามารถต่างๆ ของผู้เสพ
เช่นการใช้เวลาในการตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง คือไม่ได้กลายเป็นคนอืดอาดเชื่องช้า, ยังใช้ความตั้งใจในสิ่งต่างๆได้ดี,
ความสามารถในการให้เหตุผลก็ยังทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความสามารถในการขับขี่พาหนะก็ไม่ลดลงเช่นกัน ต่างกับเมาเหล้าแล้วขับ
ที่เสี่ยงทั้งชีวิตตัวเองและชีวิตคนอื่น

เหล้า บุหรี่ อันตรายกว่ากัญชา
การที่รัฐบาลจะกำหนดว่าอะไรถูกหรือผิดกฎหมาย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนหรอก
เพราะทั้งเหล้าและบุหรี่ ที่รัฐบาลอนุญาติให้ขายและเสพได้อย่างเสรีนั้นก็เป็นที่รู้กันว่าเป็นสาเหตุให้คนตายปีละเกือบแสนคน
ทั้งโรคมะเร็งปอด ที่คร่าชีวิตคนเป็นอันดับต้นๆ ที่มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่ และยังก่อให้เกิดความซวยได้ถ้ารับควันมือสองเข้าไป
นิโคตินที่ถูกเผาไหม้มันไม่ได้เข้าปอดคนสูบคนเดียว แต่ไอ้ที่ถูกพ่นและลอยในอากาศมันก็ทำร้ายคนข้างๆ ที่สูดดมควันเข้าไปด้วยเหมือนกัน
ส่วนเหล้านี่ก็เป็นสาเหตุให้เกิดมะเร็งตับ และมะเร็งเต้านมที่ฆ่าผู้หญิงเป็นอันดับที่ 3 แถมเหล้าก็เป็นน้ำเปลี่ยนนิสัยที่หลายครั้งก่อให้เกิดเหตุ
ทะเลาะวิวาทในวงเหล้า ที่เดี๋ยวแม่งก็ยิงกันหน้าผับอีกละ แล้วไม่ใช่แค่ฆ่าคนเมาด้วยกันเอง แต่แอลกอฮอล์ยังถือเป็นการฆ่าตัวตายผ่อนส่ง
ไม่ต่างจากบุหรี่ เพราะทั้งนิโคตินและแอลกอฮอล์ล้วนเป็นพิษต่อร่างกายและสมองแถมทำให้เมาค้างตอนเช้า ซึ่งคุณจะไม่พบอาการแฮ้งโอเว่อร์นี้ในกัญชา
และเชื่อหรือไม่ว่าในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่เคยมีใครตายหรือเป็นมะเร็งจากการเสพกัญชาเลยแม้แต่คนเดียว


กัญชาไม่ได้ทำให้ขี้เกียจ
ว่ากันว่ากัญชาทำให้คนสูบขี้เกียจ ไม่มีวันเจริญ ซึ่งข้อนี้มันก็อาจจะจริง หรือไม่จริงก็ได้ มันขึ้นอยู่กับลักษณะนิสัยและความรับผิดชอบของตัวคนสูบ
ว่าจะเอาแต่นอนเมาเกาไข่อยู่หน้าทีวี หรือสูบแล้วรู้หน้าที่ตัวเองและใช้มันในทางสร้างสรรค์ เพราะงั้นก็หยุดโทษใบไม้ว่ามันทำให้ขี้เกียจหรือขาดแรงจูงใจในชีวิตกันซะ
นี่คือตัวอย่างบางส่วนของคนดังที่ประสบความสำเร็จในชีวิตที่สูบกัญชา



เริ่มที่ Michael Phelps นักว่ายน้ำฉลามหนุ่มผู้กวาดเหรียญทองได้เป็นประวัติศาสตร์โลก ก็เพิ่งเป็นข่าวครึกโครมใหญ่โตเมื่อมีภาพเค้ากำลังสูบกัญชาบ้องใหญ่
แม้เจ้าตัวจะออกมาบอกว่าไม่จริ๊งไม่จริงและไม่ยอมรับ แต่สิ่งนึงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือกัญชาไม่ได้ทำให้ปอดของนักว่ายน้ำผู้นี้อ่อนแอลงเลยซักนิดอย่างแน่นอน



พูดถึงกัญชาแล้วจะขาดคนนี้ไปได้ยังไงกัน Bob Marley สุดยอดนักร้องเร็กเก้ อมตะตลาดกาล แม้แต่ตัวตายไปแล้วแต่เสียงเพลงของเค้า
ยังคลาสสิคไปทั่วโลก จารึกไว้ในฐานะนักร้องผู้ชื่นชอบกัญชาและลัทธิรัสตาฟาเรียนนิสม์ (Rastafarianism) ลัทธิที่นับถือกัญชาว่าเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ
เป็นสื่อกลางเพื่อเข้าถึงจิตวิญญาณ บ๊อบ มีลูกชายเท่ๆ อีก 5 คนที่โตขึ้นโดยเจริญรอยตามพ่อบ๊อบ โดยเป็นศิลปินเร็กเก้กันหมด สิ่งนี้อาจพอพิสูจน์ได้อย่างนึงว่า
พ่อที่สูบกัญชาไม่ได้แปลว่าต้องเป็นขี้ยาหรือที่น่ารังเกียจของครอบครัว เพราะบ๊อบเป็นคุณพ่อตัวอย่างและเป็นที่รักสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ลูกๆ ได้ไม่แพ้ใครเหมือนกัน



ว่ากันว่าสูบกัญชานานๆ จะทำให้สมรรถภาพทางร่างกายลดลง อ่อนแอ เหลาะแหละไม่เป็นผู้เป็นคน แต่ช้าก่อน ถ้าลองดูคนนี้
แล้วอาจทำให้ใครเปลี่ยนความคิดและเปิดสมองได้บ้าง เพราะเอ็ดดี้ บราโว่เองก็สูบกัญชามาช้านาน แต่อาชีพของฮีคือครูสอนวิชาป้องกันตัวสไตล์ Jiu-Jitsu
เป็นพิธีกรในการแข่งขัน UFC แถมมีโรงเรียนสอนวิชาป้องกันตัวของตัวเองถึง 30 แห่ง เป็นนักดนตรี เป็นนักเขียนด้วย
เอ็ดดี้ไม่อายเลยที่จะบอกว่า กัญชานี่แหละคือสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตเค้าประสบความสำเร็จ ช่วยให้เค้าโฟกัสในสิ่งที่ทำมากขึ้น
เป็นเหมือนยาที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้เค้า



ยังจำรายการเปิบพิศดาร Fearfactor ที่กินหนอนกินมดแมงสาบไส้วัวกันได้มั้ย นี่คือ พิธีกรมาดนิ่ง Joe Rogan และเค้ายังเป็น MMA Commentator,
ครูสอนวิชาป้องกันตัว, นักตลกเดี่ยวไมโครโฟนฝีปากคมคาย โจ โรแกน บอกว่าเค้าชอบสูบกัญชาแล้วไปออกกำลังกาย และเค้ายังเป็นตัวตั้งตัวตีในการช่วยโปรโมท
ถึงประโยชน์ของกัญชาเพื่อให้กัญชาถูกกฎหมาย ส่วนที่ว่าสูบกัญชาทำให้ขี้เกียจโจบอกว่า
"all weed does is motivate you to not do things that suck. And weed just makes you enjoy whatever you like doing even more.
แปลว่า "กัญชาช่วยสร้างแรงจูงใจให้คุณไม่ทำเรื่องห่วยๆ และช่วยให้สนุกกับสิ่งที่ชอบทำมากกว่าที่เคย" เรื่องห่วยๆ ในที่นี้
ก็ประมาณว่าพวกงานทั้งหลายที่คุณไม่อยากทำแต่ต้องทำ ยกตัวอย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพสำหรับพนักงานกินเงินเดือนทั้งหลายที่ยังต้องชงกาแฟให้ผู้จัดการ
และพวกแขกดอยคอยดื่มในห้องประชุม จากปกติที่คุณเคยก้มหน้าก้มตาชงๆ แม่งไป แต่เมื่อคุณเมากัญชา คุณจะสำนึกได้ว่าเอ๊ะนี่กูไม่ได้มีอาชีพชงกาแฟนี่หว่า
หลังจากกลับมานั่งที่โต๊ะคุณก็จะคิดได้อีกว่า การอยู่ในออฟฟิศวันละ 8 ชั่วโมงนี่ก็ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณค้นพบกับความหมายที่แท้จริงหรือความสุขของชีวิต
และตระหนักได้ว่าแท้จริงแล้ว คุณคือหนึ่งในทาส full time ที่น่าจะรีบๆ หาทางหลุดพ้นจากชีวิตทาสซะที ด้วยการเริ่มคิดเรื่องการมีธุรกิจเล็กๆ ก๊องๆ แก๊งๆ ของตัวเอง
เป็นเจ้านายตัวเอง ซึ่งปกติไม่ค่อยมีใครอยากคิดถึงเพราะแค่คิดก็เหนื่อยแล้ว




และคนสุดท้าย  Bill Hicks สุดยอดนักตลก Stand-Up Commedian ผู้ล่วงลับ ก็เคยทำเดี่ยวจิกกัดกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาไว้เพียบ
ส่วนความเห็นของ Bill เกี่ยวกับเรื่องสูบกัญชาแล้วขี้เกียจก็คล้ายๆ กับที่โจ โรแกนบอกนั่นคือ
"They lie about marijuana. Tell you pot-smoking makes you unmotivated. Lie! When you're high, you can do everything you normally do, just as well.
You just realize that it's not worth the fucking effort. There is a difference.
"แปลว่า เค้าโกหกเราว่าสูบกัญชาแ้ล้วจะขี้เกียจ โกหกสิ้นดี ตอนที่เมาคุณก็ทำทุกอย่างได้เหมือนกับตอนไม่เมานั่นแหละ แต่คุณจะสำนึกได้มากกว่าเดิมว่า
ไอ้สิ่งที่ทำน่ะมันไม่คุ้มค่ากับความพยามเอาซะเลย เนี่ยแหละที่มันต่างกัน..."


กฎหมายที่ว่ากัญชาผิดกฎหมายนั้นช่างสตอเบอร์แหล

ลองคิดขำๆ ว่ามีหน่วยงานของรัฐเดินเข้าไปในสวนผลไม้หลังบ้านคุณ เดินดิ่งไปที่ต้นน้อยหน่าแล้วหันมาบอกคุณว่าห้ามปลูกนะครับ
น้อยหน่าผิดกฎหมายนะครับ เพราะหน้าตามันเหมือนระเบิดเดี๋ยวจะมีคนเอาไปใช้ผิดวัตุประสงค์ ห้ามปลูกห้ามขายอีกต่อไป คุณคงคิดในใจว่า
เห้ย เอ่อ!!! ไอ้ห่านี่มึงบ้าไปแล้วรึเปล่า ใครมันจะไปห้ามธรรมชาติได้วะ ซึ่งเนี่ยแหละ มันก็เหมือนกับกัญชาที่ไม่ได้ต่างกับต้นไม้อื่นหรอก
ธรรมชาติสร้างมันขึ้นมาเหมือนกัน เพราะงั้นการที่มีคนตั้งกฎแล้วเขียนมันลงในหน้ากระดาษว่ากัญชาผิดกฎหมาย ถ้าใครสูบ มีในครอบครองและขายใบไม้นี้
จะต้องไปนอนในกรงขังน่ะมันไม่ใช้แค่บ้าธรรมดา แต่มันโคตรบ้าอำนาจ ยิ่งกว่านั้น รู้มั้ยว่าที่ออกกฎหมายให้กัญชาผิดกฎหมาย
มันก็ไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริงและความยุติธรรมเลย เพราะในปี 1553 กัญชามันเคยถูกกฎหมายขนาดที่ใช้จ่ายแทนภาษีได้
แค่นั้นไม่พอ ชาวนาชาวไร่ในสมัยนั้นจะต้องถูกปรับซะด้วยซ้ำหากมีพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกแต่ไม่ยอมปลูกกัญชา
หรือปลูกแล้วเอามาใช้ไม่ได้ เพราะการไม่ปลูกกัญชาในสมัยนั้นมีโทษและถือว่าผิดกฎหมาย และในปี 1850 มีฟาร์มที่ปลูกกัญชามากถึง 8,300 ฟาร์ม
ส่วนปัจจุบันปี 2012 ถ้าคุณมีแค่ซักต้นนึงในกระถางหลังบ้าน คุณต้องไปเที่ยวห้องกรง เห็นมั้ยว่ากฎหมายที่ตั้งขึ้นเพื่อใช้กับใบไม้อย่างกัญชานั้น
ไม่ได้เป็นสิ่งที่เที่ยงตรงและแท้จริงเลยซักนิด แต่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมสิทธิของมนุษย์อย่างเราๆ ให้เป็นไปตามความต้องการของรัฐบาลแต่ละยุคสมัยเท่านั้นเอง
อย่างในสมัยนี้ ถ้ากัญชาไม่ผิดกฎหมาย รายได้ของรัฐบาลที่ได้จากการเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่ก็จะลดลงไปมาก เพราะใครๆ ก็จะปลูกกัญชาและสูบมันเองฟรีๆ
ดีกว่าเสียเงินซื้อเหล้าและบุหรี่ที่ยิ่งสูบยิ่งกินก็เหมือนฆ่าตัวตายผ่อนส่ง

กัญชาเป็นวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพดีเยี่ยม 
กัญชาเป็นวัถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมมากมายกว่า 25,000 ชนิด ย้อนไปเมื่อ 12,000 ปีที่แล้ว กัญชาถูกปลูกไว้เพื่อใช้ผลิตกระดาษและวัสดุสิ่งทอที่มีคุณภาพสูง 
กระดาษแผ่นแรกบนโลกนี้ก็ทำขึ้นจากกัญชา และมันเป็นกระดาษที่มีคุณภาพดีที่สุดที่ต่อให้นานยังไงมันก็จะไม่เหลืองและขาดง่ายๆ
คัมภีร์ไบเบิ้ลเล่มแรกของโลกก็เขียนบนกระดาษที่ทำจากกัญชา และยังเอามาทำเป็นเส้นไยไฟเบอร์ผลิตเชือกที่แข็งแรงที่สุด เป็นอาหารสัตว์
แถมยังสกัดเอามาทำน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับรถได้ด้วย และมันยังถือว่าเป็นอาหารที่สุดยอดเพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่มนุษย์ต้องการ
ถ้าเอามาทำเป็นน้ำมันสำหรับทำอาหารก็จะไม่ทำลายสุขภาพเพราะมันเป็นไขมันดี รู้มั้ยว่าถุงชาลิปตันก็ทำมาจากกัญชาเช่นกัน ยิ่งกว่านั้นกัญชายังเป็นพืชเกษตร
ที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของทุกประเทศยากจนได้แบบพลิกเศรษฐกิจโลกได้เลย และด้วยความที่มันคือหญ้า มันเลยปลูกได้โคตรง่ายแบบหว่านไปทางไหนก็ขึ้นเอง

กัญชา กัญชา เป็นยาวิเศษ
นอกจากใส่ในอาหารอร่อยแบบต้องซดจนหยดสุดท้ายแล้ว กัญชายังมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้ ช่วยรักษาโรคเบื่ออาหารในผู้ป่วยโรคเอดส์ 
สาร THC ในกัญชายังช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยมะเร็ง รักษาโรคไขมันอุดตันของหลอดเลือดจากการสูบบุหรี่  โรคหัวใจ แม้แต่มะเร็งผิวหนังก็มีคนหายมาแล้ว
เพราะทาน้ำมันกัญชาที่เรียกว่า Hemp Oil กัญชายังเป็นยานอนหลับฉบับธรรมชาติที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และโรคทางจิตเวทอย่างโรคซึมเศร้าก็ช่วยได้โดย Side Effect ของมัน
ก็คือช่วยให้คุณอารมณ์ดีและหัวเราะ ซึ่งก็ดีกว่ากินยาผสมฟลูโอไรด์อย่าง Prozac ที่ทำให้สุขภาพแย่ลงไม่ต่างจากกินยาพิษ และความวิเศษของกัญชาแบบ Non Toxic นี่เองที่อาจจะทำให้กัญชาเป็นพืชต้องห้าม เพราะถ้ามันถูกกฎหมายแบบใครก็ปลูกได้ แล้วใครล่ะ จะอยากไปเสียเงินมากมายเป็นหมื่นเป็นแสน
ให้คลีนิคและโรงพยาบาล รู้มั้ยว่าธุรกิจของพวกโรงบาลแพทย์แผนตะวันตกนั้นทำรายได้มากที่สุดในโลกเป็นอันดับสองรองจากธุรกิจค้าอาวุธ
โชคดีหน่อยที่แม้ปัจจุบันในบางรัฐของอเมริกา เม็กซิโก และแคลิฟอเนีย เค้าอนุญาติให้ขายกัญชาแก่ผู้ป่วยได้แล้ว แต่ทุกคนก็ต้องได้รับอนุญาติจากหมอก่อนอยู่ดี...




กัญชากับศาสนา
นับพันนับหมื่นปีมาแล้วนะทุกคน ที่กัญชาถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในหลายๆ ศาสนาทั่วโลกทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง และเอเชีย
อย่างฮินดูเองก็มีเทพที่ชื่อว่า Shiva หรือไทยเราเรียกว่าพระศิวะนั่นแหละ กัญชาที่พระศิวะสูบเรียกว่า "โอสถมวน" แปลว่าของมึนเมาแห่งจักรวาล
แถมเค้ามีพิธีเจ๋งๆ ที่เรียกว่า "ศิวะราตรี" จัดขึ้นในเนปาล โดยจะมีพวกนักบวชและนักแสวงบุญมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายเพื่อสูบกัญชากันแบบ Non Stop 1 วัน 1 คืนเต็มๆ
เพื่อถวายแก่พระศิวะ ว้าววว...

Shiva Night


อีกหนึ่งศาสนาที่เกี่ยวกับกัญชาคือ ราสตาฟาเรียน (Rastafarian) ศาสนาที่มีรากฐานมาจากจาไมก้า ศาสนานี้เค้ามีความศรัทธาอย่างแรงกล้าในกัญชา
แรกๆ ชาวจาไมก้าเค้าใช้กัญชาเป็นยาสมุนไพร เอามาต้มๆ เป็นชา น่าจะคล้ายๆ กับวิธีการกินยาจีนยาหม้อบ้านเรา แต่ก็มีแบบสูบด้วยเหมือนกัน
ชาวราสตาฟาเรียนยังให้ชื่อกัญชาว่าเป็น "Wisdom Weed" หญ้าแห่งปัญญา บอกว่าเป็นพืชที่จะช่วยให้ฉลาดขึ้น
โดยช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณภายในตัวเองมากกว่าเดิม ซึ่งข้อนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่มีวิญญาณ คุณควรจะรู้จักวิญญาณของตัวเองให้แท้จริง
เพราะไม่มีใครบนโลกนี้จะรู้จักวิญญาณของคุณเองได้ดีไปกว่าตัวคุณ แต่คุณต้องให้เวลาค้นหาความหมายของชีวิตคุณเอง เพื่อจะุได้รู้ว่าชีวิตของคุณนั้นต้องการอะไรอีก
นอกจากแบล็กเบอรี่ ไอแพด ไอโฟน ความขาวและกล้ามเนื้อไบเซบ เพื่อการพัฒนาตัวตนภายในของคุณให้สูงขึ้นเพื่อค้นพบกับความสุขที่แท้จริงด้วยตัวของคุณเอง
และสำหรับชาวราสตาฟาเรียนแล้วเค้ายกให้กัญชาเป็นส่วนช่วยให้เข้าถึงจิตวิญญาณของตัวเองได้ง่ายขึ้น นี่แหละที่เรียกว่าความฉลาดตามความหมายของราสตาฟาเรียน
ไม่เกี่ยวกับคะแนนหรือ GPA ที่คนอื่นระบุให้คุณ แต่เป็นคุณที่พัฒนาวิญญาณของคุณไปตลอดชีวิต เพราะเนื้อหนังมังสาภายนอกไม่ได้จีรังยั่งยืน
ไม่ใ่ช่สิ่งแท้จริงและไม่ใช่ของคุณด้วยซ้ำ วิญญาณตังหากจะเ็ป็นสิ่งที่ระบุตัวตนของคุณและเป็นสิ่งเดียวที่ยังอยู่หลังจากคุณตาย

Rastafarian

แดง เขียว เหลือง สัญลักษณ์ของ Rastafarian


กัญชากับโยคะ
ส่วนตัวเฟิร์ส (ผู้เขียน) เองมีโอกาศได้ฝึกโยคะได้เกือบๆ 2 ปี และก็ชอบมากจริงๆ ทำให้รู้ว่าร่างกายของเรานั้นมันยืดได้กว่าที่คิด 
ว่าไปมันไม่ใช่แค่กิจกรรมสำหรับคนที่สนใจโยคะตามคลาสหรอก แต่โยคะเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำทุกวันเพื่อยืดเส้นยืดสาย เพราะมันช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ทุกส่วนจริงๆ นะ
คุณจะรู้จักส่วนต่างๆ ของร่างกายดีขึ้นและรู้ว่าจะทำท่าไหนให้ส่วนที่ตึง ได้คลาย พอไอ้ส่วนที่มันตึงได้โดนปล่อย ระบบเลือดไหวเวียน มันก็ส่งผลถึงอารมณ์ของคุณด้วย
ปัจจุบันมีการเอากัญชาเข้ามาผสมผสานกับการทำโยคะด้วย เรียกว่า “Ganja Yoga” มีการสูบแบบจริงๆ จังๆ ในห้องโยคะกันเลยทีเดียวแหละ
เค้าบอกว่ามันทำให้ผ่อนคลายได้ลึกขึ้น โดยครูสอนโยคะเปรียบกัญชาว่ามันก็เหมือนกับเกลือบนอาหารนั่นแหละ คือช่วยเพิ่มรสชาดให้การทำโยคะนุ่มนวลกว่าเดิม

:

ทั้งหมดทั้งปวงที่เขียนๆ มา ไม่ว่าจะเรื่องกัญชาไม่ทำให้คุณกลายเป็นคนติดยาแบบที่สังคมชอบประนามกัน
หนำซ้ำยังอันตรายน้อยกว่าเหล้าและบุหรี่ที่ถูกกฎหมายขายกันเกลื่อนซะอีก ไหนจะเป็นยาวิเศษช่วยรักษาโรคได้ทั้งกายและจิตใจ
เป็นวัตถุดิบช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ และช่วยพัฒนาตัวตนของคุณ นี่ก็แสดงให้เห็นได้แล้วล่ะว่า กัญชาน่ามีประโยชน์กับมนุษย์ซะมากกว่าจะทำร้ายเรา
แต่สิ่งที่บั่นทอนเรามากกว่าใบหญ้าที่เรียกว่ากัญชานั่นก็คือ..."กฎหมายบ้าๆ" ที่ออกมาควบคุมสิทธิของเราทุกคนให้อยู่ใต้กฎเกณฑ์ที่เค้ากำหนด
คุณพอจะเซ็งบ้างรึยังกับพวกบ้าอำนาจที่ออกกฎเพื่อประโยชน์ของตัวเองโดยไร้ความยุติธรรมและคุณธรรม












กฎหมาย...อาจล้างสมองใครบางคนให้กลัวพืชได้ แต่ก็คงไม่ใช่กับใครอีกหลายคน แล้วคุณล่ะ ?

ที่มาทั้งหมด เครดิตโดย : first on fire.com

ปูลู : แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ไม่ได้ชี้ช่องให้คุณกระทำผิด เพียงอยากให้รู้ว่าแท้จริงแล้ว "กัญชามันก็แค่หญ้าแห้งๆ" แค่นั้นเอง

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2013, 12:49:18 »
ว่าจะแถมให้ เกือบลืมจนได้

เนื้อกับหนัง
วงดนตรีแนว Heavy Metal..รุ่นแรกของเมืองไทย
ชื่อชุด ฆาต-กัญชา ปี 2526

<a href="http://www.youtube.com/watch?v=08HMzulCeB4" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=08HMzulCeB4</a>



คนเราโศรกเศร้า หงอยเหงา หรือแม้กระทั่งดีใจ
อ้าปากตะโกนออกไป ผ่อนคลายดีเหลือเกิน

ออฟไลน์ พี่ตู่ Black PJM

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,528
  • Like: 103
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: 20 ตุลาคม 2013, 13:33:48 »
เนื้อกับหนัง

เคยมีเทปครับ แต่ไปกับน้องน้ำหมดแล้ว  :'(

ขอบคุณพี่เจมส์ที่ช่วยขุดมาให้ฟังครับ  :L2758:

"ศิวะราตรี" จัดขึ้นในเนปาล โดยจะมีพวกนักบวชและนักแสวงบุญมารวมตัวกันโดยมิได้นัดหมายเพื่อสูบกัญชากันแบบ Non Stop 1 วัน 1 คืนเต็มๆ
เพื่อถวายแก่พระศิวะ ว้าววว...

เมื่อไหร่ปามาเนี่ยจะจัด  "ศิวะราตรี" มั่งง่ะ ผมซื้อบัตรคนแรกเลย  :sd42:
 

4790 รวมกระทู้เด็ด พี่ตู่ Black PJM
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4790

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: 3 พฤศจิกายน 2013, 14:04:53 »

สาเหตุใดกันแน่...
ที่กระชากวิญญาณ "ท่านเปา"



เปา เจิ่ง ถึงแก่อสัญกรรมที่เมืองหลวงเมื่อ พ.ศ. 1605 เพราะโรค
แต่พงศาวดารบันทึกว่า เป็นไปได้ที่จะถูกลอบวางยาพิษ พระจักรพรรดิเหลินจงทรงรับศพเขาไว้ในพระราชานุเคราะห์
และพระราชทานสมัญญาแก่เขาว่า "เสี้ยวสู้" ( ปูชนียบุคคลประดุจบิดามารดา )
                             
ก่อนตาย เปา เจิ่ง สั่งเสียไว้ด้วยว่า...
"ลูกหลานเราคนใดเป็นข้าราชการแล้วกินสินบาตรคาดสินบน ห้ามกลับคืนมายังบ้านเราและห้ามเผาผีร่วมสกุลกันอีก
ใครไม่นับถือคุณงามความดีอย่างเรา เราไม่นับเป็นลูกเป็นหลาน"


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องของเลข (บัตรประชาชน)



เลขที่บัตรประชาชน 2 ตัวท้ายหมายเลขอะไร?
 หยิบ บัตรประชาชนขึ้นมาแล้วรีบตรวจสอบดูว่าเลขที่บัตรประชาชน 2 ตัวท้ายหมายเลขอะไร?
จากนั้นนำมาค้นหาความเป็นตัวจริงของคุณ รักร้อน ๆ และจุดอ่อนได้ที่นี่



เลข 01, 10, 19, 28, 37, 46, 55, 64, 73, 82, 91
ตัวจริงของคุณ : เป็น คนที่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูง มีคุณธรรมและเมตตาธรรม จิตใจดีมีความรับผิดชอบสูง ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
เฉลียวฉลาด ปราดเปรื่อง มีปฏิภาณในไหวพริบอันยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปรารถนาการเป็นบุคคลแถวหน้า
และการได้รับความยอมรับนับถือจากผู้คนรอบข้าง


รักร้อน ๆ : ชอบเพศตรงข้ามที่มีความเป็นผู้นำ แต่ขณะเดียวกันก็ยังหลงใหลในความอ่อนโยน อ่อนหวาน และอ่อนไหวของใครบางคน

จุดอ่อน : คุณเป็นคนที่มีโอกาส แต่ต้องพลาดจังหวะดี ๆ ในชีวิตไป หลายครั้ง ก็เพราะเกิดอาการลังเล กล้า ๆ กลัว ๆ และไม่ชอบเสี่ยง




เลข 02, 11, 20, 29, 38, 47, 56, 65, 74, 83, 92

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนอ่อนหวาน นุ่มนวลกริยามารยาทเรียบร้อย มีความประนีประนอมสูง รักสันติ อ่อนน้อมถ่อมตน
เป็นคนที่ปากตรงกับใจ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ซื่อสัตย์ ซื่อตรง และมีอุดมการณ์ รักเพื่อนฝูง รักครอบครัว และรักบ้าน มีจิตใจละเอียดอ่อน
มีพรสวรรค์และชั้นเชิงในงานศิลปะทุกรูปแบบ


รักร้อน ๆ : คุณต้องการใครสักคน ที่ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น มั่นคง และเป็นตัวของตัวเอง

จุดอ่อน : คุณเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย ไม่รู้จักแยกแยะผิดถูก มักเดือดร้อน และเสียชื่อเสียงเพราะตกเป็นเหยื่อของผู้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว




เลข 03, 12, 21, 30, 39, 48, 57, 66, 75, 84, 93

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความประนีประนอมสูง ปรับตัวเก่ง ช่างเอาอกเอาใจ
และแคร์ความรู้สึกของคนชิดใกล้ ร่ำรวยรอยยิ้มและอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี ไม่มีพิษสงอะไรกับใครเขา ปรารถนาให้ทุก ๆ คนในชีวิต
มีแต่ความสงบสุข เป็นคนที่ไม่ชอบย่ำอยู่กับที่ จึงขวนขวายศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ใส่ตัวอยู่เสมอ


รักร้อน ๆ : เก่งมาจากไหน ก็แพ้หัวใจใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คอยดูแลเอาใจใส่ยามอยู่ใกล้ และคอยห่วงใยยามอยู่ไกลกัน


จุดอ่อน : เป็นคนที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงบ่อยตามสภาพแวดล้อม




เลข 04, 13, 22, 31, 40, 49, 58, 67, 76, 85, 94

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนเก็บเนื้อเก็บตัว พูดน้อย ชอบทำอะไรเงียบ ๆ คนเดียว โดดเดี่ยวและรักอิสระ เป็นคนฉลาดคิดและฉลาดทำ
ช่างเลือก และชอบการวางแผนล่วงหน้า เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นแนวความคิดที่แปลกพิสดารเพียงไร


รักร้อน ๆ : เป็นคนชอบทดลอง ชอบความแปลกใหม่ที่ไม่ซ้ำแบบใคร ดังนั้นใครบางคนที่มากับเรื่องเซอร์ไพร์ส
จะสร้างความประทับใจให้คุณอยู่เสมอ


จุดอ่อน : คุณเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหร้าย และเผลอทำอะไรไปโดยไม่ได้ยั้งคิด แต่ยังดีที่เป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว





เลข 05, 14, 23, 32, 41, 50, 59, 68, 77, 86, 95

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนที่ทำอะไรรวดเร็ว กระตือรือร้น และไม่ชอบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เสาะแสวงหาสิ่งแปลกใหม่อยู่ร่ำไป ร่าเริงแจ่มใส
ไม่เคร่งเครียด มองทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย หากตั้งใจและลงมือทำ ย่อมประสบผลสำเร็จได้ไม่ยาก รอบคอบและถี่ถ้วน ใส่ใจในทุกรายละเอียด
ไม่ประมาท ถือหลักปลอดภัยไว้ก่อน


รักร้อน ๆ : คุณ ไม่ชอบเดินทางไกล ไม่ชอบการผจญภัย ไม่ชอบสถานที่แคบ ๆ และไม่ชอบคนใจแคบ คุณจึงชอบความรักที่เรียบง่าย
ไม่ยุ่งยาก ไม่วุ่นวายสับสน ขณะเดียวกันก็มีอิสรเสรี มีความเชื่อมั่นในกันและกัน


จุดอ่อน : คุณ เป็นคนที่ชอบสัญญาหรือรับปากใครต่อใครไว้ก่อน ทั้งที่ไม่รู้ว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า เมื่อทำไม่ได้ (ทั้งที่ได้พยายามแล้ว)
จึงทำให้คุณดูเหมือนเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือและไว้วางใจ




เลข 06, 15, 24, 33, 42, 51, 60, 69, 78, 87, 96

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนสุภาพเรียบร้อย กริยามารยาทนุ่มนวล อ่อนช้อย พูดจาไพเราะมักมีอุดมการณ์ และทัศนคติส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร
และพร้อมที่จะโดดเดี่ยวตามลำพังเพื่อความฝันของตัวเอง มีเหตุผล และเป็นคนช่างคิด


รักร้อน ๆ : คุณเสาะแสวงหาใครสักคนที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี เสมอต้นเสมอปลาย และไว้วางใจได้


จุดอ่อน : เป็นคนที่เห็นแก่พวกพ้องมากกว่าสิ่งอื่นใด ใจอ่อน และไม่เป็นตัวของตัวเอง




เลข 07, 16, 25, 34, 43, 52, 61, 70, 79, 88, 97

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนอ่อนน้อมถ่อมตัว พูดน้อย พูดจริง ไม่ชอบการคุยโม้โอ้อวด หรือการยกตนข่มท่าน สติปัญญาดี
มีความเจริญก้าวหน้าในการศึกษาและอาชีพ รู้ว่าตัวเองมีข้อดีข้อด้อยที่ตรงไหน และพร้อมที่จะปรับปรุง เป็นคนที่ดูแลและรักษาสุขภาพ
ของตัวเองพิถีพิถัน และเฉลียวฉลาดในการดำเนินชีวิต


รักร้อน ๆ : คุณหลงใหลใครสักคนที่เดิมไปด้วยจินตนาการ แรงบันดาลใจ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว


จุดอ่อน : เป็นคนมุ่งมั่นและเอาจริงเอาจังกับหน้าที่การงานและความสำเร็จ จนละเลยเรื่องรักและความรู้สึกลึก ๆ ข้างใน




เลข 08, 17, 26, 35, 44, 53, 62, 71, 80, 89, 98

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ตรงไปตรงมา กล้าในส่งที่ควรกล้า และเป็นคนที่กล้าทำก็กล้ารับ
หนักแน่นอดทนเข็มแข็งและมั่นคง สุขุมและเยือกเย็น รอบคอบ และพิถีพิถันในทุกขั้นตอนของการดำเนินชีวิต


รักร้อน ๆ : คุณชอบความหรูหราเป็นที่สุด และคุณเชื่อเสมอมาและจะเชื่อตลอดไปว่า ในโลกนี้ไม่มีของดีราคาถูก
และความรักของคุณก็คือการลงทุนชนิดหนึ่ง


จุดอ่อน : รักงานมากกว่าสุขภาพ หรือคนรัก




เลข 09, 18, 27, 36, 45, 54, 63, 72, 81, 90, 99

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนหัวโบราณ เคร่งครัดต่อกฎเกณฑ์ และประเพณีนิยม ซื่อสัตย์ และมีความยุติธรรมประจำหัวใจ ดื้อรั้น
มุ่งมั่นและมีความฝันเป็นของตัวเอง อดทนและทานทนต่อทุกสภาวการณ์ ทะเยอทะยานเป็นระยะ ตามจังหวะของแรงขวัญและกำลังใจ
เคร่งเครียด เอาจริงเอาจังกับการดำเนินชีวิต เมื่อพลาดและผิดมักไม่ยอมให้อภัยตัวเอง ชอบมองโลกในแง่ร้าย แต่ไม่เคยคิดร้ายใคร


รักร้อน ๆ : คุณต้องการใครสักคนที่พร้อมจะอยู่เคียงค้างคุณอย่างเชื่อมั่น ด้วยแนวคิดและทัศนคติที่สอดคล้องต้องกัน

จุดอ่อน : วู่วามและออกจะหุนหันพลันแล่นไปบ้าง ในยามที่ไม่สบอารมณ์ หรือมีบางสิ่งบางอย่างผิดพลาดไปจากความคาดหมาย

ข้อมูลที่มา : clipmass.com

ปูลู : จริง ไม่จริง ใกล้ หรือไม่ใกล้ ไม่รู้นะคับ แต่ที่รู้ๆ พี่กะลังเช็คกันอยู่ใช่ปะ ?  :sd42: :sd42: :sd42:

ออฟไลน์ เต้ย แม่กลอง

  • Webmaster
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 1,774
  • Like: 52
  • เพศ: ชาย
  • काली दास
    • EVO Hosting
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: 3 พฤศจิกายน 2013, 14:11:12 »
เลข 06, 15, 24, 33, 42, 51, 60, 69, 78, 87, 96

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนสุภาพเรียบร้อย กริยามารยาทนุ่มนวล อ่อนช้อย พูดจาไพเราะมักมีอุดมการณ์ และทัศนคติส่วนตัวที่ไม่เหมือนใคร
และพร้อมที่จะโดดเดี่ยวตามลำพังเพื่อความฝันของตัวเอง มีเหตุผล และเป็นคนช่างคิด


รักร้อน ๆ : คุณเสาะแสวงหาใครสักคนที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี เสมอต้นเสมอปลาย และไว้วางใจได้


จุดอ่อน : เป็นคนที่เห็นแก่พวกพ้องมากกว่าสิ่งอื่นใด ใจอ่อน และไม่เป็นตัวของตัวเอง





ของผมตามนี้เลยครับ

ป.ลิง. แต่ ของผมยังมีมุมมืดอีกนะครับ

 :L2905: :L2905: :L2905:
สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: 3 พฤศจิกายน 2013, 16:08:57 »
ควรเปิดอีกห้อง " เพื่อสุขภาพ " ร่างกาย หรือ ส่งเสริม SEX. วัย. สว. มีหลายคน
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พี่ตู่ Black PJM

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,528
  • Like: 103
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: 3 พฤศจิกายน 2013, 20:16:39 »
ควรเปิดอีกห้อง " เพื่อสุขภาพ " ร่างกาย หรือ ส่งเสริม SEX. วัย. สว. มีหลายคน

+1 คับ  :L2905:
 

4790 รวมกระทู้เด็ด พี่ตู่ Black PJM
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,4790

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: 4 พฤศจิกายน 2013, 09:19:12 »
+1 คับ  :L2905:


ผมสับสนุน ที่จะเปิดอีกห้อง เพื่อสุขภาพ ดีกว่า ไปใส่ไว้ในห้อง ทั่วๆไป
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html

ออฟไลน์ พี่เจมส์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 2,694
  • Like: 78
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 11:44:15 »
.

กลับมาอีกหนคับ สำหรับวันนี้... กระเทียม



กระเทียม ชื่อสามัญ Garlic กระเทียม ชื่อวิทยาศาสตร์ คือคำว่า Allium sativum Linn. จัดอยู่ในวงศ์ AMARYLLIDACEAE
และอยู่ในวงศ์ย่อย ALLIOIDEAE เช่นเดียวกับกุยช่าย พลับพลึงขาว พลับพลึงแดง พลับพลึงตีนเป็ด ว่านสี่ทิศ หอมแดง และหอมใหญ่
สำหรับในประเทศไทยนิยมปลูกมากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่สำหรับกระเทียมที่ขึ้นชื่อที่มีคุณภาพดี
กลิ่นฉุนคงหนีไม่พ้นจังหวัดศรีษะเกษ

สรรพคุณของกระเทียม

01.   ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย เพิ่มความยากอาหาร
02.   ช่วยบำรุงผิวหนังให้มีสุขภาพดีและแข็งแรง
03.   ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย
04.   ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
05.   ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
06.   ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และน้ำตาลในเลือด
07.   ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย
08.   ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ อาการมึนงง ปวดศีรษะ หูอื้อ
09.   ช่วยในเรื่องระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินปัสสาวะ เพราะมีสารที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนทั้งหญิงและชาย ช่วยทำให้มดลูกบีบตัว เพิ่มพละกำลังให้มีเรี่ยวแรง
10.   ช่วยรักษาโรคความดันโลหิต
11.   ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงของหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
12.   ช่วยต่อต้านเนื้องอก
13.   ช่วยแก้ปัญหาผมบาง ยาวช้า มีสีเทา
14.   ช่วยป้องกันการเกิดและรักษาโรคโลหิตจาง
15.   ช่วยในการขับพิษ และสารพิษอันตรายที่ปนเปื้อนในเม็ดเลือด
16.   มีกลิ่นฉุนจึงสามารถช่วยไล่ยุงได้เป็นอย่างดี
17.   ช่วยป้องกันผนังหลอดเลือดหนาและแข็งตัว
18.   สารสกัดน้ำมันกระเทียม มีสารที่มีส่วนช่วยในการละลายลิ่มเลือด
19.   ช่วยป้องกันการเกิดเส้นเลือดอุดตัน
20.   มีสารต่อต้านไม่ให้เม็ดเลือดแดงแตก
21.   ช่วยบรรเทาอาการไอ น้ำมูกไหล ป้องกันหวัด
22.   ช่วยรักษาโรคไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
23.   ช่วยรักษาอาการเยื่อบุจมูกอักเสบ และไซนัส
24.   ช่วยรักษาโรคไอกรน
25.   สรรพคุณ กระเทียมช่วยแก้อาการหอบ หืด
26.   ช่วยรักษาโรคหลอดลม
27.   มีสารต้านอาการไขข้ออักเสบ โรคข้อรูมาติสม์
28.   ช่วยในการขับเหงื่อ
29.   สรรพคุณของกระเทียมช่วยในการขับเสมหะ
30.   ช่วยควบคุมโรคกระเพาะ ด้วยสารที่ช่วยยับยั้งไม่ให้น้ำย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ
31.   มีสรรพคุณช่วยในการขับลม
32.   ช่วยรักษาอาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ
33.   ช่วยป้องกันโรคท้องผูก
34.   ช่วยรักษาโรคบิด
35.   ช่วยในการขับปัสสาวะ
36.   ช่วยในการขับพยาธิได้หลายชนิด เช่น พยาธิแส้ม้า พยาธิเส้นด้าย พยาธิเข็มหมุด พยาธิไส้เดือน เป็นต้น
37.   ช่วยรักษาโรคตับอ่อนอักเสบชนิดรุนแรงได้
38.   ช่วยป้องกันการเกิดโรคไต
39.   ช่วยฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียต่างๆ รวมถึงเชื้อราตามหนังศีรษะและบริเวณเล็บ
40.   ช่วยยับยั้งเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อที่ทำให้เกิดฝีหนอง คออักเสบ เชื้อปอดบวม เชื้อวัณโรค เป็นต้น
41.   ช่วยกำจัดพิษจากสารตะกั่ว
42.   ช่วยรักษากลาก เกลื้อน
43.   ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ บำรุงข้อต่อและกระดูกในร่างกาย
44.   บรรเทาอาการปวดข้อและปวดเมื่อยตามร่างกาย
45.   ช่วยแก้อาการเคล็ดขัดยอกและเท้าแพลง เพราะมีสารที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดมายังบริเวณที่นวดยาได้ดีมากขึ้นนั่นเอง





ประโยชน์ของกระเทียม

1.   ประโยชน์หลักๆ ของกระเทียมคงหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่างๆ อีกสารพัด
2.   เป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่นๆ ยังมีสารอะดิโนซีน (Adenosine) ซึ่งเป็นกรดนิวคลีอิกที่เป็นตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลล์ในร่างกาย
3.   ไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างหลากหลาย เช่น กระเทียมเสริมอาหาร กระเทียมสกัดผง สารสกัดน้ำมันกระเทียม กระเทียมดอง เป็นต้น



คำแนะนำและข้อควรระวังในการใช้กระเทียม

•   กระเทียมยิ่งสดเท่าไหร่ก็ยิ่งมีสรรพคุณที่ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่สำหรับกระเทียมที่ผ่านความร้อนด้วยวิธีการต่างๆ หรือผ่านการหมักดอง จะทำให้วิตามินและสารอัลลิซินที่มีอยู่ในกระเทียมนั้นสลายตัวไป
•   วิตามินและแร่ธาตุที่อยู่ในกระเทียมนั้น จะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับดินและสภาพอากาศที่ใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย
•   สำหรับหญิงที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติ มีระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ผู้ที่มีอาการของเลือดหยุดไหลช้า รวมไปถึงผู้ที่ใช้ยาอื่นๆ เป็นประจำ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาแอสไพริน ยาแก้อักเสบ ยาต้านไวรัส คุณไม่ควรรับประทานกระเทียมหรือผลิตภัณฑ์กระเทียมเสริมในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เป็นโทษต่อร่างกายได้
•   สำหรับที่ได้รับกลิ่นของกระเทียมเป็นประจำ อาจทำให้เกิดอาการแพ้กระเทียมเมื่อรับประทานได้ โดยอาจจะมีอาการคลื่นไส้ และมีอาหารหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติ แต่อาการดังกล่าวจะค่อยๆ หายไปเองภายในเวลา 3-4 ชั่วโมง ซึ่งกระเทียมที่นำมาใช้ในการประกอบอาหารมักจะก่อให้เกิดอาการแพ้ได้น้อยกว่ากระเทียมแบบสดๆ
•   สำหรับผู้ที่อยู่ในครัวหรือผู้ต้องใช้มือสัมผัสกับกระเทียมเป็นประจำและเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบมีตุ่มน้ำได้ ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกระเทียมโดยตรงเป็นประจำด้วยการสวมถึงมือทุกครั้งในขณะที่จะใช้กระเทียม
•   แม้ว่ากระเทียมจะเป็นพืชที่มีสรรพคุณอยู่มากมาย แต่คุณก็ไม่ควรที่จะเลือกใช้กระเทียมเพื่อหวังผลในการรักษาอาการหรือโรคใดโรคหนึ่ง อีกทั้งผลลัพธ์ที่ได้ในแต่ละบุคคลก็อาจจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้นคุณควรเลือกรับประทานให้หลากหลายและครบ 5 หมู่ จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพืชผักสมุนไพรทั่วๆ ไป ถ้าศึกษากันจริงๆ แล้ว มันก็มีประโยชน์ไม่น้อยไปกว่ากันเลย
•   ปัจจุบันในบ้านเรายังไม่มีการรับรองว่ากระเทียมนั้นจะสามารถรักษาโรคได้จริง คงเป็นได้เพียงแต่สมุนไพรทางเลือกในการรักษาและสมุนไพรเสริมสุขภาพเท่านั้น

แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียบเรียงข้อมูลโดย ฟรินน์ดอทคอม (ปรับปรุงครั้งล่าสุด วันที่ 4 พ.ค. 2014 เวลา 01:37 น.)

ที่มาข้อมูล : frynn.com
ภาพ : Google

ออฟไลน์ หนุ่ม ปา2.4(C06)

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 793
  • Like: 35
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 12:47:54 »

เลข 03, 12, 21, 30, 39, 48, 57, 66, 75, 84, 93

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความประนีประนอมสูง ปรับตัวเก่ง ช่างเอาอกเอาใจ
และแคร์ความรู้สึกของคนชิดใกล้ ร่ำรวยรอยยิ้มและอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี ไม่มีพิษสงอะไรกับใครเขา ปรารถนาให้ทุก ๆ คนในชีวิต
มีแต่ความสงบสุข เป็นคนที่ไม่ชอบย่ำอยู่กับที่ จึงขวนขวายศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ใส่ตัวอยู่เสมอ


รักร้อน ๆ : เก่งมาจากไหน ก็แพ้หัวใจใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คอยดูแลเอาใจใส่ยามอยู่ใกล้ และคอยห่วงใยยามอยู่ไกลกัน


จุดอ่อน : เป็นคนที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงบ่อยตามสภาพแวดล้อม

 :sd10: ก็ตรงอยู่เหมือนกันครับพี่เจมส์  :sd27:  :sd23:
แตกต่างทางความคิด แต่ไม่คิดแตกแยกครับ
           Pajero Sport Mania

ออฟไลน์ อั๋น ราชพฤกษ์

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 5,434
  • Like: 171
  • เพศ: ชาย
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 13:08:34 »
ชอบกินกระเทียมคับมีประโยชน์คับ.  แต่พอกินแล้ว.  :sd21:  ผ.บ. จะไม่คุยด้วย 2. วันคับเค้าไม่ชอบคับ. มากๆเลยครับ.   
ต่อให้กินกระชาย กระชาก  หรือไวอากร้าเค้าก้อไม่ชอบคับเกลียดกระเทียมมากๆคับ.    ผมว่าหอมดีออก น่ะครับ.     :sd42:     :sd10:
สบาย สบาย. ชิว ชิว คร้าบบ

ออฟไลน์ พี่โต้ง Tongsom

  • Full Member
  • Pa Mania
  • *
  • กระทู้: 6,283
  • Like: 186
  • เพศ: ชาย
  • Never Say Never ไม่มีแผนเดียว ในการแก้ปัญหา
Re: ร้ายยยยย...สาระ
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2014, 20:21:30 »
เลข 03, 12, 21, 30, 39, 48, 57, 66, 75, 84, 93

ตัวจริงของคุณ : เป็น คนมีมนุษย์สัมพันธ์ดี มีความประนีประนอมสูง ปรับตัวเก่ง ช่างเอาอกเอาใจ
และแคร์ความรู้สึกของคนชิดใกล้ ร่ำรวยรอยยิ้มและอารมณ์ขัน มองโลกในแง่ดี ไม่มีพิษสงอะไรกับใครเขา ปรารถนาให้ทุก ๆ คนในชีวิต
มีแต่ความสงบสุข เป็นคนที่ไม่ชอบย่ำอยู่กับที่ จึงขวนขวายศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ ใส่ตัวอยู่เสมอ


รักร้อน ๆ : เก่งมาจากไหน ก็แพ้หัวใจใครสักคนที่อยู่ด้วยแล้วอบอุ่น คอยดูแลเอาใจใส่ยามอยู่ใกล้ และคอยห่วงใยยามอยู่ไกลกัน


จุดอ่อน : เป็นคนที่มีจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่ชัดเจน เปลี่ยนแปลงบ่อยตามสภาพแวดล้อม

ตรงเป็ะ ส่วนมาก
ยกเว้น ข้อ จุดอ่อน " ยิ่งกว่านั้นอีก "
  :sd42: :sd42: :sd42:
กิจการ คาร์แคร์ดูแลรักษารถครบวงจรด้วย Product Meguiars เคลือบแก้ว ติดตั้ง ยางลดเสียง Stuffit ติดต่อ: สมชาย Tel : 097-131-2335
Line ID: Tongsom1371 ร้านขายสินค้า: http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3554.0.html