Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving
บทสุดท้ายของมหากาพย์เรื่องความร้อนครับ......ตอนอวสาน
ตูมตาม:
ตอนที่ 11 จับผู้ต้องหาทั้ง 2
เอาละครับ หลังจากผ่านไป 2 อาทิตย์.....ก็มีโทรศัพท์จากศูนย์.....เสียงหวานๆของฝ่ายบริการลูกค้าแจ้งมาว่าอะไหล่มาครบแล้ว....ว่างเมื่อไหร่ให้เข้ามาดำเนินการได้เลย......และเมื่อวันพุธที่ผ่านมาก็เลยโดดงานไปจัดซะเลยครับ....ไปแต่เช้า....ถึงศูนย์ 8.30.....ยังเป็นคิวที่ 3....เดี๋ยวนี้ศูนย์นี้รถชักจะเยอะแล้วนะ....เมื่อก่อนมา 8.30 นี่คิวแรกตลอด....วันนี้คิวที่ 3...แต่รอไม่นาน....ก็ได้เข้าประจำช่อง เตรียมผ่าตัดกันเลย
มาจัดการกับผู้ต้องสงสัยก่อนครับ....เอาวาล์วน้ำก่อนเลย.....ไม่คิดว่าจะต้องรื้อเยอะแยะขนาดนี้.....ต้องรื้อออกไปหลายอย่างเลยครับกว่าจะไปล้วงถอดท่อเพื่อเอาเจ้าวาล์วน้ำนี้ออกมาได้
เจ้าวาล์วน้ำอยู่ในตำแหน่งนี้ครับ....เป็นท่อน้ำออกจากเครื่องมาแล้วไปเข้าที่หม้อน้ำครับ...อย่างที่พี่นะเคยโพสไว้แล้วว่าวาล์วน้ำของน้องปาเราอยู่ที่น้ำขาออก เหมือนกับเซ็นเซอร์วันความร้อนก็เช่นกัน อยู่ที่น้ำขาออกจากเครื่องครับ ดังนั้นสิ่งที่วัดจึงเป็นการวัด "น้ำร้อน" ที่มาจากเครื่อง ไม่ใช่ "น้ำเย็น" ที่มาจากหม้อน้ำ
เอาละครับได้มาแล้วผู้ต้องสงสัยของเรา หน้าตาก็ดูไม่น่ามีอะไรผิดปกติ...ถามช่าง ช่างก็บอกว่าดูด้วยตาเปล่ายากมากว่าเสียหรือไม่.....แต่ช่างบอกว่าอาจมีฝืดๆ เพราะเห็นรอยครูดตรงแกนกลาง...อาจเป็นไปได้ที่มีมีการกดหรือยันตรงช่วงแกนกลางทำให้มันเปิดไม่สะดวก.....เจ้าผู้ต้องสงสัยรายนี้ ผมพกกลับมาบ้านด้วยครับ....เดี๋ยวมีเวลาจะลองทดสอบดูว่ามันเป็นยังงัย....ด้วยการเอาไป "ต้ม" ซะเลย :L2754: :L2754:
จากนั้นก็มาที่พัดลมฟรีปั๊มครับ.....จัดการถอดออกมาเลย...ช่างขันน็อตล็อคตรงแกนมัน 4 ตัว ก็ถอดออกมาได้ละ (ขันยากอยู่เหมือนกันเพราะช่องมันแคบมาก) เสร็จแล้วก็เอาพัดลมออกมาแกะตรงแกนกลางมันออก
จากนั้นก็จัดการเปิดเจ้าแกนกลางออก...แกนกลางนี้มันมีลักษณะเหมือนจาน 2 อันประกบกัน มีน็อตไขยึดอยู่ 4 ตัว....แต่แน่นมาก...ต้องเอาปากกาจับถึงจะขันน็อตออกได้....และขันน็อตออกหมดแล้วก็ยังเปิดไม่ได้ ต้องเอาฆ้อนตีตรงขอบเบาๆ ถึงจะหลุดออกจากกัน....เป็นเปิดออกแล้วก็จัดการเติมน้ำยาลงไป
แต่แปลกครับ ผมก็นึกว่ามันจะเป็นน้ำยาแบบเป็นขวดๆ ที่ไหนได้ มันเป็นหลอดเล็กๆเองครับ....หลอดประมาณยาหยอดตาอะครับ....และที่แปลกกว่าคือมันเป็นน้ำยาของโตโยต้าด้วย.....ผมสอบถามช่าง...ช่างบอกว่าน้ำยาของมิตซูฯก็มี แต่มีเป็นขวดใหญ่ๆ ซื้อมาก็ไม่รู้จะได้ใช้อีกเมื่อไหร่....เลยสั่งของพี่โตมาแทน.....ผมก็เลยถามช่างว่าแสดงว่าไม่ค่อยมีใครเข้ามาทำอะซิ....ช่างบอกว่า เป็นช่างมาตั้งหลายปี เพิ่งจะได้ตามน้ำยาพัดลมนี้เป็นครั้งแรก....อ้าว...เฮ้ย....ครั้งแรกเลยเหรอ.....ช่างบอกว่าส่วนใหญ่คือมันจะฟรีจนมันเสียไปเลยถึงจะรู้ ดังนั้นส่วนใหญ่จะเปลี่ยนมากกว่าเติมน้ำยา.......เหอๆๆๆ....งงซิครับ....คือง่ายๆ แสดงว่าเวลาเช็ครถ ไม่มีการเช็คตัวพัดลมนี้ให้เรา.....เลยไม่รู้ว่าน้ำยามันหมด....พอนานๆไปมันเสียแล้วค่อยเปลี่ยน....เออ....ดีเนอะ :L2739: :L2739:
ตัวน้ำยามันเป็น Oil Silicone นะครับ มันจะไม่ใช่น้ำมันหล่อลื่น...คือมันจะเหนียวๆ ไม่ลื่น...ผมเห็นช่างบีบนี่มันเหนียวเหมือนพวกกาวเลยครับ
พอเสร็จแล้วก็ประกอบกลับ....ตอนประกอบกลับนี่มันยุ่งๆหน่อย ด้วยช่างก็ไม่เคยแกะออกมา...พี่หน่อยหัวหน้าช่างเลยต้องมาช่วยด้วย...ไปๆมาๆ ช่างมารุมอยู่ที่การประกอบพัดลมกลับทั้ง 3 คน.....ช่วงนั้นลูกค้าคนอื่นคงหมั่นไส้น่าดู....รถคันนี้มันอะไรวะ...เจ้าของแม่งเดินคุยกับช่างเฉย ไม่มีใครไปไล่มันมานั่งในห้องพัก....แถมช่างก็ไปรุมอยู่แต่รถมัน :L2754: :L2754: :L2754:
เสร็จแล้วก็จัดการเติมน้ำเข้าหม้อน้ำ...ไล่อากาศ.....ตอนแรกๆช่างก็ไล่อากาศเหมือนเดิม คือสตาร์ทรถทิ้งไว้ เปิดฝาหม้อน้ำ รอให้น้ำมันยุบค่อยเติม....ผมก็เลยบอกช่างว่า....วิธีนี้มันไล่อากาศไม่หมดหรอก...เพราะคุณรอให้อากาศดันออกมา น้ำยุบลงไป จังหวะที่มันยุบลงไป มันก็ดูดอากาศเข้าไปด้วยซิ....ไล่แบบนี้ยังงัยก็ไม่หมดหรอก....แถมเล่าให้ฟังด้วยว่ารถเข้ามาที่ศูนย์นี้เช็ค 40000 มีหลายคันแล้วนะที่ออกไปแล้วความร้อนขึ้น ต้องไปไล่อากาศกันเองที่บ้านอีก ถึงจะปกติ.....แล้วก็เลยเล่าให้ช่างฟังถึงวิธีไล่น้ำที่ได้รับถ่ายทอดวิชาจากอาจารย์นะรัชดา ..... ช่างเลยไปหากรวยมา เอาผ้าอุดรอบฝาหม้อน้ำไว้ แล้วตั้งกรวยไว้ ใส่น้ำยาหม้อน้ำลงไป ตามวิชาที่ผมได้เล่าให้ฟัง
เอาละครับเสร็จงานของวันนี้ละ....เข้าศูนย์ไปตอน 8.30 ทำเสร็จตอน 11.00 ใช้เวลาพอสมควรเลยครับ...ที่นานก็นานตอนไล่อากาศด้วย.....หลังจากออกจากศูนย์ ผมก็ได้ลองทดสอบวิ่งจากพุทธมณฑล ไปศรีนครินทร์ ใช้เส้นทางวงแหวนกาญจนาฯ ไปกลับร่วม 200 กว่าโล......จากนั้นเมื่อวานได้ทดสอบวิ่งไป-กลับหัวหิน....ทดสอบการวิ่งทางยาวความเร็วสูงดูครับ.....ผลเป็นอย่างไร จบหรือไม่กับเจ้าความร้อน....พบกันตอนต่อไป
:L4399: :L4399:
ตูมตาม:
ได้รับข่าวล่าสุดจากพี่ลีโจ...นำวิธีทดสอบพัดลมฟรีปั๊มไปลอง.....ผลออกมาคือ พัดลมหมุน :L2901: :L2901: ไม่ยอมหยุดเมื่อดับเครื่อง....เหมือนของผมเลย :L2754: :L2754: :L2754:......แนะนำไปเรียบร้อยครับ.....คิดว่าเจ้าผู้ต้องหารายนี้คงไม่ได้มีแค่ผมกับพี่ลีโจแน่ๆ....พี่ๆที่สนใจก็ลองไปทดสอบดูนะครับ
:L4399: :L4399: :L4398: :L4398:
พี่อาร์ต-Outdoor:
รับ :L6428: ที่ 44 ไปเลยครับพี่ตาม
ตูมตาม:
ตอนที่12 อวสาน
หลังจากเปลี่ยนวาล์วน้ำและเติมน้ำยาพัดลมฟรีปั๊มเรียบร้อยแล้ว......ผมก็ทดสอบทันที....บ่ายวันนั้นวิ่งจากพุทธมณฑล-ศรีนครินทร์...ใช้เส้นทางกาญจนาภิเษก ไปกลับ 200 โล....สภาพการจราจร รถมาก ทำความเร็วได้ไม่มากนักประมาณ 80-100 ได้ 120 บางช่วง....เส้นนี้กล้องเยอะมาก ไม่กล้าใช้ความเร็วเกิน 120โลเลย.....จากนั้นเมื่อวานนี้ ด้วยอารมย์เบื่อมาก...ลูกชายยังปิดเทอมนั่งเล่นโน่นเล่นนี่อยู่บ้าน...เลยหาเรื่องโดดงาน...อยากทดสอบรถ.....อยากลองวิ่งต่างๆจังหวัด ทางยาวๆ ทำความเร็วได้สูงๆ......จะลองดูว่าความร้อนจะเป็นยังงัย....เลยชวนลูกชายไปเล่นน้ำที่ Black Mountain หัวหิน..... :L2754: :L2754:....ผบ ถามเลยว่า คึกอะไรขึ้นมาอยู่ๆอยากพาลูกไปเล่นน้ำซะไกลถึงหัวหิน.......เลยตอบไปว่าก็อยากให้ลูกมีความสุข อยู่บ้านก็เบื่อ วันนี้เบื่อๆงาน อยากพัก เลยจะขับรถพาลูกไปเล่นน้ำ.....ผบ. ติดงาน ไม่ได้ไปด้วย เลยไปหวดทางยาวกับลูกชาย 2 คน
ผลของความร้อนหลังจากจับผู้ต้องหาทั้ง 2 แล้ว........ผลปรากฎจริงๆตั้งแต่อยู่ในศูนย์แล้วครับ....คือตอนระหว่างที่ไล่อากาศอยู่นั้น....สตาร์เครื่องเดินเบา รออากาศออกมาจากเครื่องผมสังเกตุความร้อนยืนพื้นมันมายืนอยู่ที่ 85-86 เท่านั้นเอง......โอว....Amazing.....ใช้รถคันนี้มาเกือบ 2 ปี ยังไม่เคยเห็นความร้อนยืนพื้นที่ 85 เลย ให้ตายซิ.....ในใจเริ่มดีใจครับว่าอย่างงี้มีโอกาสที่จะจบละ เพราะเดิมรถผม ต่อให้ติดเครื่องเดินเบาความร้อนก็อยู่ประมาณ 89-90 ถ้าเป็นตอนกลางคืนอาจมี 88 บ้าง แต่ไม่บ่อย....แต่นี่อากาศร้อนๆเดินเบายังได้ 85-86 ลดลงเห็นๆ
หลังจากออกจากศูนย์....ตีรถไปดู site งานที่ศรีนครินทร์.....ลองแบบปิดกล่องข้าวน้อยดูก่อน....ขอดูระดับความร้อนแบบรถปกติไม่ได้จูนมาก่อนเลย.......ขึ้นกาญจนาฯ ยิงยาวไปลง motorway ผลของความร้อนน่าตกใจมากมายครับ.......ความร้อนอยู่ที่ 88-90 เท่านั้น ในความเร็วกลางประมาณ 100....ถือว่าน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับของเดิมที่จะอยู่ประมาณ 93-95 ที่ความเร็วเดียวกัน....เมื่อเติมคันเร่งไปที่ความเร็ว 120....ความร้อนก็ขึ้นมาที่ 91-92 เท่านั้น....และพอยกคันเร่งซักนิด...ความร้อนก็จะกลับลงมาวนเวียนอยู่แถว 89-90-91.....ทั้งหมดเป็นการขับแบบปกติ ไม่ได้เร่งมาก ไม่ได้กดมาก....กดคันเร่งแบบค่อยๆเติมตามจังหวะเท่านั้น......ขากลับลองกดแรงๆ อัดๆ ความร้อนก็มีขึ้นนะครับ ขึ้นค่อนข้างเร็ว....ลองกดแซงตอนความเร็ว60 กดแรงๆ ความเร็วขึ้นมาที่ 120 ความร้อนจะไปอยู่ที่ 96 ถือว่าเปลี่ยนแปลงไปเยอะเลยครับ......ปกติ 120 ต่อให้ขับแบบค่อยๆเติมคันเร่ง ความร้อนก็ยังไปอยู่แถว 97-98 แล้ว แต่นี่เต็มที่ก็อยู่ที่ 96 ถือได้ว่าดีมากๆ.....การทดสอบวันแรก ถือว่าพอใจมาก...คิดว่าน่าจะจบได้ละเรื่องนี้
วันรุ่งขึ้น.....ทดสอบวิ่งกรุงเทพฯ-หัวหิน ระยะทางประมาณ 300กว่าโล สภาพการจราจร พอเลยช่วงสมุทรสาครไป รถน้อย ทำความเร็วได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งขากลับช่วง เพชรบุรี-วังมะนาว รถน้อยมาก...เพราะมีด่านตั้งอยู่แถวเลยตัวเมืองเพชรฯ มาหน่อย พอเลยด่านมารถเลยน้อยมาก ทำความเร็วได้ดีเลย.....ผลการทดสอบเหมือนตอนวิ่งไปศรีนครินทร์เลยครับ....ถ้าขับแบบค่อยๆเติม ความร้อนยืนพื้นจะอยู่ที่ประมาณ 88-89 พอความเร็วขึ้นสูงเกิน 120 ความร้อนถึงจะพ้น 92.....ลองทำความเร็วที่ 160 ความร้อนถึงจะไปถึง 97 ครับ.....แต่ถ้าขับแบบกดแรงๆ อัดๆ อันนี้ความร้อนก็มาไวครับ ความเร็ว 140 ความร้อนก็ไป 96-97 แล้ว......แต่ถ้าผ่อนคันเร่งความร้อนก็จะลงมาเร็วเลยทีเดียว.....ช่วงความร้อนที่เห็นมากที่สุดจะอยู่ประมาณ 88-91 ประมาณนี้ครับ ลดลงจากเดิมมากเลย......ความร้อนสูงสุดเท่าที่เห็น (อัดแรงบ้าง แต่ไม่มากถึงขนาดกดจนมิด) ความร้อนอยู่ที่ 98 องศา
ขากลับ....ลองของเลยครับ เปิดกล่องข้าวน้อย Mode Race 1 ...... ความร้อนสูงขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก ประมาณ 1 องศาทุกช่วง ถือได้ว่าดีมาก เพราะปกติแค่ Race1 นี่ความเร็ว 120 ความร้อนก็ไป 98 แล้ว แต่คราวนี้ความเร็ว 120 ความร้อนยังวนเวียนอยู่แถว 92-93 ลองกดเร่งแรงๆดูบ้าง ความร้อนก็ไปอยู่แถว 96-97 เท่านั้น...ลองวิ่งที่คราวเร็ว 140-160 ความร้อนสูงขึ้นอยู่แถวๆ 96-97 (ถ้าไม่ได้กดแรงนะครับ ขับแบบค่อยๆเร่ง ไปเรื่อยๆ)
จากการทดสอบมา 2 วัน เรียกได้ว่าจบแล้วครับสำหรับปัญหาเรื่องความร้อน.....วนหาสาเหตุอยู่นานมาก.....ตั้งแต่การจูน การทำท้ายราง....เรื่อยมาจนมาเปลี่ยนหม้อน้ำ.....และมาจบที่พัดลมและวาล์วน้ำ.....สำหรับวาล์วน้ำนั้นผมไม่เคยนึกถึงเลย....เพราะจากข้อมูลทั้งหมด ยังไม่เคยเห็นมีใครบอกว่า "วาล์วน้ำเสีย" ....ถ้ามีการพูดถึงวาล์วน้ำ จะเป็นการเปลี่ยนวาล์วน้ำตัวอุณหภูมิต่ำมาใช้มากกว่า (โดยมากจะใช้ของเซฟีโร่) .... แต่ไม่เคยมีใครพูดถึงการเปลี่ยนเอาวาล์วน้ำสเปกเดิมมาใช้แล้วปัญหาความร้อนลดลง.....ทั้งหมดเป็นข้อสรุปจากการใช้งานจริง....เมื่อเปลี่ยนวาล์วน้ำและอัดน้ำยาพัดลมฟรีปั๊มแล้ว ปัญหาเรื่องความร้อนหายไปเลย....แต่วาล์วน้ำเดิมมันจะเสียหรือฝืดหรือไม่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติม....เดี๋ยวมีเวลาจะจัดการเอามันไปต้ม ดูการเปิดของมันที่ระดับอุณหภูมิต่างๆก่อน แล้วจึงจะสรุปได้อีกครั้งว่าวาล์วน้ำตัวนี้เสียอย่างไรครับ
ตอนนี้จบแล้วครับสำหรับปัญหาตัวร้อนของน้องปาออสซี่ (เต่าขาว) .... หลังจากเป็นมหากาพย์อยู่เกือบ 2 ปี
ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ติดตาม ขอบคุณทุกกำลังใจ และขอบคุณทุกคำปรึกษา.....ขอบคุณเป็นพิเศษคือพี่นะ และพี่อ๊อด ที่คอยให้คำปรึกษาตลอด รวมถึงที่ปรึกษารั้วสังกะสีที่ให้ข้อมูลให้คำแนะนำมาตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี
ขอบคุณและสวัสดีครับ
พี่ปุ้ม-PUM_Winyoo:
สงสัยต้องไปดูรถเราบ้างแล้วขอบคุณครับ :sd10: :L6428:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version