ทำไมเติมลมหลังมากกว่าด้านหน้าครับพี่นะ ช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อยครับ มันมีข้อดีข้อเสียยังงัยเหรอครับ ตอนนี้ผมเติมตามคุ่มือคือ 29/29 ตอนออกจากศูนย์เค้าเติมให้ 60/60 เลยครับ เหมือนขับเกวียนจริงๆเลย 5555
ขอตอบจากประสบการณ์ส่วนตัวและที่ลองมาบ้างแต่เดิมคนมักจะบอกว่า ให้เติมลมหลังมากกว่าหน้าสัก 1-2 ปอนด์(psi) เหตุเพราะ
1. รถกะบะส่วนใหญ่ หลังสำรองบรรทุก
2. รถเก๋งส่วนใหญ่ เมื่อบรรทุกแล้วท้ายจะห้อยลงน้ำหนักเทไปด้านหลัง
3. รถตู้เน้นบรรทุกและเครื่องวางกลางลำ
แต่รถเราน้ำหยักเยอะ หน้าเท น้ำหนักเทมาด้านหน้า เครื่องดีเซลวางหน้า น้ำหนักส่วนใหญ่มาที่ด้านหน้า น้ำหนักบรรทุกหลังเต็มที่ก็แค่คนนั่ง ดังนั้นการสมดุลย์ของลมยางที่ดีควรมาที่ด้านหน้าเยอะกว่าด้านหลัง
อีกเรื่องการเติมลมที่ปริมาณมากกว่าปกติ โดยไม่เกินภาระการรับน้ำหนัก หรือเรียกว่าลมตรึง จะทำให้การส่งแรงและรับแรงระหว่างพื้นถนนกับตัวรถ ผ่านที่ช่วงล่างของ สปริง+โช๊ค+แก้มยาง ดังนั้นถ้าเติมลมให้แข็งตึงๆหน่อย จะทำให้โช๊คและสปริงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพกว่ายางลมอ่อน เพราะถ้ายางอ่อนตัวอาจจะได้เรื่องนุ่มแต่ไม่ได้เรื่องหนึบๆแน่นๆ และถ้าเคยใช้โช๊คที่ปรับตามแรงกระแทกหรือปรับตามสภาพถนนที่เป็นพวกวาว์วอัตโนมัติจะเข้าใจจุดนี้ได้ชัดเจนครับ
สำหรับยางเดิมติดรถโครงสร้างยางมันไม่อ่อนนุ่ม ออกแนวอ่อนนิ่ม พอแข็งก็กระด้าง พอเจอกับสปริงและโช๊คก็เลยจะกระด้างบ้างเวลาลมแข็ง และจะย้วยเวลาลมอ่อน
แต่บางรายพอเปลี่ยนล้อ 20 แค่เปลี่ยนล้อนะ จะรับรู้ถึงความนุ่มนวลที่ไม่ต่างจากเดิมในทางเรียบและลอนคลื่น เนื่องมาจากยางที่มีโครงสร้างดีกว่ายางติดรถ ยิ่งถ้าเป็นพวกโยโกฮ่าม่า กับโตโย่ ยิ่งได้เปรียบ (ยกเว้นสันสะพาน และสันหลุด จะตึงตังกว่าล้อเดิมติดรถเพราะช่วงให้ตัวของแก้มยางน้อยกว่า)
ยางเดิมติดรถมาช่วงแรกยังวิ่งไม่ทันเปิดหน้ายาง ยังรับความนุ่มได้บ้างแต่พอเจออากาศร้อน อาการเย็น ฝนเข้าไป พอเปิดหน้ายางแล้วจะตรงกันข้ามผิดกับยางดีๆพอเปิดหน้ายางแล้วจะสัมผัสพื้นถนนเต็มที่ ทำให้ได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพของยางที่เลือกครับ
ลองทดสอบและลองขับและลองสังเกตุดูครับ ว่าได้ผลดีไหม ถ้าไม่ดีก็ใช้ตามคู่มื่อรถแนะนำเลยครับ