Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) => Pa Mania On Tour & Meetings => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่จ่า Jatot ที่ 20 มีนาคม 2013, 09:50:20
-
มารู้จักการทำงานและใช้ CTCSS/DCS ของวิทยุสมัครเล่นกัน
เวลาเดินทางเป็นกลุ่มหรือคาราวาน เราจะพบว่าการใช้วิทยุสื่อสารจะมีการแทรกของกลุ่มอื่นหรือกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่และพวกกู้ภัยทั้งหลาย แทบจะไม่มีช่องใช้งานเลย เบื่อไหมละครับถ้าเวลาเวลาใช้วิทยุแล้วอยู่ๆมีผู้ไม่ประสงค์จะออกนามเข้ามาป่วน หรือบางครั้งความถี่ที่เราใช้อยู่พอเข้าำไปอีกสถานที่ดันมีคนใช้อยู่ ผมว่าเพื่อนๆเราหลายคนอาจรู้จัก เจ้า CTCSS/DCS กันแล้ว เราสามารถเพื่มช่องให้มากขึ้นได้และเป็นส่วนตัวของเราด้วย ผมว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามันทำงานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ ผิดถูกประการใด ต้องขออภัยด้วย
CTCSS ย่อมาจาก Continuous Tone Code Squelch System ส่วน DCS คือ Digital Code Squelch หน้าที่หลักของเจ้าสองฟังก์ชันนี้ ใช้สำหรับวจัดกลุ่มการใช้งาน โดยเลือกรับเฉพาะที่ต้องการรับ หรือเปิดระบบ repreter โดยการผสมเสียงความถี่ต่ำ Tone CTCSS ตลอดเวลาในขณะที่ส่งออกอากาศ และเครื่องจะตรวจสอบสัณญาณที่รับได้ว่ามี Tone ตรงกันหรือไม่ระหว่างเครื่องรับและส่ง ถ้ามี Tone code ตรงกันภาคขยายเสียงของเครื่องรับก็จะสามารถรับฟังได้ ส่วน DCS ก็จะมีการทำงานคล้ายกัน เพียงแต่ผสม digital code ลงไป เพื่อเข้าใจง่ายๆคือการเข้ารหัสนั่นเอง ถ้ากลุ่มอื่นไม่รู้รหัสก็ไม่สามารถส่ง สัณญาณหรือเข้ามารบกวนในวงสนทนาของเราได้ ตัวอย่างสมมุติว่าเราเดินทางแบบคาราวาน เราก็ควรตั้งกรุ๊ปหรือกลุ่มของเรา ตัวอย่างเช่น
นาย ตูมตาม และนาย นะ รัชดา ใช้ Frequency code 88.5
นาย กิติ และนาย ปอร์ ใช้ Frequency code 103.5
ส่วน นาย ทศ และนาย โย ไม่ใช้ Frequency code
ทุกคนทั้ง 6 คนนี้ ใช้ความถี่เดียวกันคือ CH 11(245.1250 MHz) ในการออกอากาศ ผลลัพย์การติดต่อจะเป็นดังนี้
นาย ตูมตาม และนาย นะ รัชดา สามารถติดต่อกันได้เท่านั้นจะไม่ได้ยินเสียงของ นาย กิติ และนาย ปอร์ แต่วิทยุของ นาย กิติ และนาย ปอร์ จะรับสัณญาณการติดต่อกันเองได้ ได้แต่จะไม่ได้ยินเสียง นาย ตูมตาม และนาย นะ รัชดา เนื่องจาก Frequency code ไม่ตรงกันวิทยุจะไม่เปิดระบบภาคขยายเสียงให้ จะเห็นแค่ไฟสัณญาณกระพริบเท่านั้น ส่วนวิทยุของนาย ทศ และนาย โย จะรับสัณญาณและเสียงของทุกคนได้หมดซึ่งไม่ใช้ Frequency code แต่จะเรียกนาย ตูมตาม นาย นะ รัชฎา นาย กิติ และนาย ปอร์ ไม่ได้ เพราะทุกคนจะไม่ไ้ดยินเสียง นาย ทศ และนาย โย
ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น CTCSS เหมาะใช้งานเฉพาะกลุ่ม ขับรถท่องเทียว และไม่ควรเป็นเรื่องที่เป็นความลับอันตราย เนื่องจากยังมีคนสามารถเฝ้าฟังได้แม้เขาไม่สามารถเข้ามาในวงสนทนาได้ ที่สำคัญฟังก์ชันนี้มีในวิทยุเกือบทุกตัว เพียงแต่บางครั้งเราลืมที่จะเซ็มมันแค่นั้นเอง แค่นี้ก็ทำให้การสนทนาผ่านวิทยุของเรา ก็สนุกมากขึ้นไม่ว่าไปที่ไหน ลองดูนะครับ เพื่อนท่านใดจะช่วยเสริมก็ยินดีครับ
เครดิตจาก "หนอน รอบกองไฟ"
-
ผมมิอใหม่มาก ๆ คงต้องศึกษาอีกเยอะ
-
ปกติถ้าเป็นกลุ่มผมที่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกันบ่อยๆก็ใช้ครับ....เพียงแต่การ set ของแต่ละยี่ห้อมันไม่เหมือนกัน....ต้องมานั่งอ่านคู่มือแล้วมา set ทีละยี่ห้อ.....พอดีในกลุ่มมีเพื่อนคนนึงเล่นวิทยุพวกนี้มานาน เขาจะเป็นตัวกลาง set ให้ทุกคน ทุกยี่ห้อ....ใครซื้อมาก็ส่งไปให้เพื่อนคนนี้ set ให้...ก็จบ......ผมเคยจะลอง set ครั้งนึงให้กับกลุ่มปามาเนียเรานี่แหละครับ.....แต่พอเห็นความหลากหลายยี่ห้อของวิทยุที่ใช้กันแล้ว ก็เลยถอดใจ :L4386: :L4386:
ขอบคุณพี่จ่าสำหรับความรู้ดีๆครับผม :L2734: :L2734:
-
ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น CTCSS เหมาะใช้งานเฉพาะกลุ่ม ขับรถท่องเทียว และไม่ควรเป็นเรื่องที่เป็นความลับอันตราย เนื่องจากยังมีคนสามารถเฝ้าฟังได้แม้เขาไม่สามารถเข้ามาในวงสนทนาได้ ที่สำคัญฟังก์ชันนี้มีในวิทยุเกือบทุกตัว เพียงแต่บางครั้งเราลืมที่จะเซ็มมันแค่นั้นเอง แค่นี้ก็ทำให้การสนทนาผ่านวิทยุของเรา ก็สนุกมากขึ้นไม่ว่าไปที่ไหน ลองดูนะครับ เพื่อนท่านใดจะช่วยเสริมก็ยินดีครับ
[/size]
เครดิตจาก "หนอน รอบกองไฟ"
น่าสนใจมากเลยครับพี่จ่า แล้ววิธีตั้งค่าตั้งอย่างไร พอมีไกด์ไลด์ไหม
เพราะหลายตัวพื้นฐานการตั้งค่า คล้ายๆกัน ขอดูตัวอย่างเมนูและจำลองคลื่น ด้วยครับ
-
ด้วยความเคารพพี่ทุกท่านครับ
:sd23:
ความถี่ที่เขาอณุญาติใช้ เป็นความถี่สาธารณะ ทุกคนมีสิทธิใชได้ทัดเทียมกันหมด
ยกเว้นบางความถี่ที่นำไปใช้เพื่อเป็นศุนย์ควบคุมข่ายเพื่อช่วยติดต่อสื่อสารในกรณีที่เครื่องระหว่างเครื่องติดต่อกันไม่ได้
หรือเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุ จึงให้ประจำความถี่นั้นๆไป ซื่งต้องได้รับความเห็นชอบต่อสมาคมวิทยุหรือองกรณ์ประจำจังหวัดนั้นๆ
***แล้วทีนี้มาว่าเรื่องการใช้ความถี่ร่วมกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และหาทางออกไม่ให้รบกวนกัน***
-ช่อง ว. แดง ที่อนุณาติใช้มีทั้งหมด 80 ช่อง ซื่งตามมารญาติแล้วหากมีบุคลอื่นใช้ช่องสัญญาญอยู่ก่อนหน้าแล้ว
สมควรหลีกเลียงไปใช้ในช่องสัญญาญอื่นที่ว่าง(ไม่มีคนอื่นใช้ในพื้นที่ขณะนั้น)เป็นอันดีที่สุดเพื่อลดปัญหาการรบกวนกัน
***มาว่าถึงกรณีตัวอย่าง***
กลุ่มที่ 1. นาย ตูมตาม และนาย นะ รัชฎา ใช้ Frequency code 88.5
กลุ่มที่ 2.นาย กิติ และนาย ปอร์ ใช้ Frequency code 103.5
กลุ่มที่ 3.นาย ทศ และนาย โย ไม่ใช้ Frequency code
สมมุติว่า
-ทั้ง 3 กลุมไม่รู้จักกันเลยจะเกิดอะไรขึ้น
1.----กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 จะไม่มีปัญหากัน เพราะต่างคนต่างใช้ช่องสัญญาณเดียวกันแต่ไม่รบกวนกัน
2.----กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ทั้ง 2 กลุ่มนี้จะรบกวนกับกลุ่มที่ 3 แน่นอน จะเกิดปัญหาขึ้นอยู่กับว่า
-ถ้ากลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ใช้ความถี่อยู่ก่อน กลุ่มที่ 3 คงต้องหนีไปใช้ช่องความถี่อื่น ตามมารญาติ //หรือถ้าเจอพวกเกรียน
คงไม่ยอม คงจะเจอศึกทางความถี่ **(ช่องนี้กรูใช้อยู่ประจำคนอื่นห้ามใช้)**
-ถ้ากลุ่ม 3 ใช้ความถี่อยู่ก่อน แล้วกลุ่มที่1 และ2 เข้ามาใช้ทีหลังโดยการไม่รู้ตัว (เพราะใส่โทนอยู่ไม่ได้ยินอยู่แล้ว)
จะเกิดอะไรขึ้นลองนึกดู คงสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มที่ 3 แน่นอน
หมายเหตุ
เดียวนี้เครื่องรุ่นใหม่ๆทุกเครื่องจะมีฟังชั่นสแกนความถี่โทนให้มาอยู่แล้ว ถ้ากลุ่ม 3 ใช้งานเป็น ใช้เวลาสแกนแค่ไม่เกิน 3 นาที
ก็ทราบแล้วว่าคนที่เข้ามากวนแล้วใช้ฟังชั่นโทนอยู่ที่ช่องโทนช่องใหน เขาอาจจะเข้ามารว่มแจมกับท่านในทางที่ไม่ดีได้
**แล้วใช้ฟังชั่นโทนในกรณีใหนที่เกิดประโยชย์**
ฟังชั่นโทนจะใช้ให้เกิดประโยชย์ในกรณี
-เป็นห้างร้าน//โรงเรียน//โรงแรม หรือหน่วยงานที่มีจำนวนคนมาก/หลายแผนก
-เป็นกลุ่มงานที่ใช้ที่มีตำแหน่งแน่นอน/อยู่ประจำที่/หรือพื้นที่นั้นๆ
ทีได้ประโยชย์ก็คือ คนมากๆสามารถใช้ความถี่แค่ความถีเดียว แต่แยกโทนออกไปตามแผนกหรือกลุ่มงาน
ทำให้ประหยัดความถี่ (แทนที่ 20 แผนกก็ 20 ความถี่ กลายมาเป็นความถี่เดียว 20 โทน)
-เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มีสัญญาณรบกวนมากๆ เช่นอยู่ใกล้สายไฟแรงสูง // เครื่องส่ง ทีวี/วิทยุที่มีกำลังส่งสูงๆ
อาจจะมีสัญญาณรบกวน(ฮาร์มอนิก Harmonic)เข้ามาตลอดทำให้เกิดความรําคาญ ก็จัดการใส่ฟังชั่นโทนเสีย
จะได้คุยกับคู่สนทนาได้รู้เรื่อง
***ฟังชั่นโทนที่ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีใช้ในรถโมบาย / หรือใช้เคลื่อนที่ไปในที่ต่างๆ***
-อย่าลืมว่าเราไม่ได้ยินชาวบ้านที่ใช้ความถี่ก่อนหน้าเรา // แต่เขาได้ยินเรา กลายเป็นเราเข้าไปกวนชาวบ้านเขา
พิมท์เองทั้งหมด อาจตกหล่นบ้าง พี่ลองพิจารณาดูครับ
:sd23:
-
ด้วยความเคารพพี่ทุกท่านครับ
:sd23:
ความถี่ที่เขาอณุญาติใช้ เป็นความถี่สาธารณะ ทุกคนมีสิทธิใชได้ทัดเทียมกันหมด
ยกเว้นบางความถี่ที่นำไปใช้เพื่อเป็นศุนย์ควบคุมข่ายเพื่อช่วยติดต่อสื่อสารในกรณีที่เครื่องระหว่างเครื่องติดต่อกันไม่ได้
หรือเป็นศูนย์รับแจ้งเหตุ จึงให้ประจำความถี่นั้นๆไป ซื่งต้องได้รับความเห็นชอบต่อสมาคมวิทยุหรือองกรณ์ประจำจังหวัดนั้นๆ
***แล้วทีนี้มาว่าเรื่องการใช้ความถี่ร่วมกัน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และหาทางออกไม่ให้รบกวนกัน***
-ช่อง ว. แดง ที่อนุณาติใช้มีทั้งหมด 80 ช่อง ซื่งตามมารญาติแล้วหากมีบุคลอื่นใช้ช่องสัญญาญอยู่ก่อนหน้าแล้ว
สมควรหลีกเลียงไปใช้ในช่องสัญญาญอื่นที่ว่าง(ไม่มีคนอื่นใช้ในพื้นที่ขณะนั้น)เป็นอันดีที่สุดเพื่อลดปัญหาการรบกวนกัน
***มาว่าถึงกรณีตัวอย่าง***
กลุ่มที่ 1. นาย ตูมตาม และนาย นะ รัชฎา ใช้ Frequency code 88.5
กลุ่มที่ 2.นาย กิติ และนาย ปอร์ ใช้ Frequency code 103.5
กลุ่มที่ 3.นาย ทศ และนาย โย ไม่ใช้ Frequency code
สมมุติว่า
-ทั้ง 3 กลุมไม่รู้จักกันเลยจะเกิดอะไรขึ้น
1.----กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 จะไม่มีปัญหากัน เพราะต่างคนต่างใช้ช่องสัญญาณเดียวกันแต่ไม่รบกวนกัน
2.----กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ทั้ง 2 กลุ่มนี้จะรบกวนกับกลุ่มที่ 3 แน่นอน จะเกิดปัญหาขึ้นอยู่กับว่า
-ถ้ากลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ใช้ความถี่อยู่ก่อน กลุ่มที่ 3 คงต้องหนีไปใช้ช่องความถี่อื่น ตามมารญาติ //หรือถ้าเจอพวกเกรียน
คงไม่ยอม คงจะเจอศึกทางความถี่ **(ช่องนี้กรูใช้อยู่ประจำคนอื่นห้ามใช้)**
-ถ้ากลุ่ม 3 ใช้ความถี่อยู่ก่อน แล้วกลุ่มที่1 และ2 เข้ามาใช้ทีหลังโดยการไม่รู้ตัว (เพราะใส่โทนอยู่ไม่ได้ยินอยู่แล้ว)
จะเกิดอะไรขึ้นลองนึกดู คงสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มที่ 3 แน่นอน
หมายเหตุ
เดียวนี้เครื่องรุ่นใหม่ๆทุกเครื่องจะมีฟังชั่นสแกนความถี่โทนให้มาอยู่แล้ว ถ้ากลุ่ม 3 ใช้งานเป็น ใช้เวลาสแกนแค่ไม่เกิน 3 นาที
ก็ทราบแล้วว่าคนที่เข้ามากวนแล้วใช้ฟังชั่นโทนอยู่ที่ช่องโทนช่องใหน เขาอาจจะเข้ามารว่มแจมกับท่านในทางที่ไม่ดีได้
**แล้วใช้ฟังชั่นโทนในกรณีใหนที่เกิดประโยชย์**
ฟังชั่นโทนจะใช้ให้เกิดประโยชย์ในกรณี
-เป็นห้างร้าน//โรงเรียน//โรงแรม หรือหน่วยงานที่มีจำนวนคนมาก/หลายแผนก
-เป็นกลุ่มงานที่ใช้ที่มีตำแหน่งแน่นอน/อยู่ประจำที่/หรือพื้นที่นั้นๆ
ทีได้ประโยชย์ก็คือ คนมากๆสามารถใช้ความถี่แค่ความถีเดียว แต่แยกโทนออกไปตามแผนกหรือกลุ่มงาน
ทำให้ประหยัดความถี่ (แทนที่ 20 แผนกก็ 20 ความถี่ กลายมาเป็นความถี่เดียว 20 โทน)
-เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มีสัญญาณรบกวนมากๆ เช่นอยู่ใกล้สายไฟแรงสูง // เครื่องส่ง ทีวี/วิทยุที่มีกำลังส่งสูงๆ
อาจจะมีสัญญาณรบกวน(ฮาร์มอนิก Harmonic)เข้ามาตลอดทำให้เกิดความรําคาญ ก็จัดการใส่ฟังชั่นโทนเสีย
จะได้คุยกับคู่สนทนาได้รู้เรื่อง
***ฟังชั่นโทนที่ไม่แนะนำให้ใช้ในกรณีใช้ในรถโมบาย / หรือใช้เคลื่อนที่ไปในที่ต่างๆ***
-อย่าลืมว่าเราไม่ได้ยินชาวบ้านที่ใช้ความถี่ก่อนหน้าเรา // แต่เขาได้ยินเรา กลายเป็นเราเข้าไปกวนชาวบ้านเขา
พิมท์เองทั้งหมด อาจตกหล่นบ้าง พี่ลองพิจารณาดูครับ
:sd23:
พีทศผมขึ้นหัวว่า"การใช้วิทยุสื่อสารเพื่อการท่องเทียว" ไม่ได้ใช้ทุกวันและแค่ผ่านพื้นที่เท่านัน
กลุ่มสามคงไม่ว่าอะไรมั้ง ความถี่ที่ทางพื้นที่ใช้เป็นประจำจะว่ากันไม่ได้
ทุกคนใช้ได้ เพียงแต่กลุ่มของเราไม่อยากได้ยินของคนอื่นเท่านั้น
-
จากประสบการณ์อันน้อยนิด มิตติ้งคาราวานที่ผ่านๆมา ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการกวนของสัญญาจนให้รำคาญใจ :L2747:
แต่ถ้าจะให้สัญญาณของผมไปกวนคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ก็คงไม่ดีแน่ :L2757:
ก็เอาเป็นว่า นำมาใช้เมื่อยามจำเป็นก็แล้วกัน :L4373:
ขอขอบคุณทั้งพี่จ่าและพี่ทศครับ :sd23:
-
ดังนั้นจากตัวอย่างข้างต้น CTCSS เหมาะใช้งานเฉพาะกลุ่ม ขับรถท่องเทียว และไม่ควรเป็นเรื่องที่เป็นความลับอันตราย เนื่องจากยังมีคนสามารถเฝ้าฟังได้แม้เขาไม่สามารถเข้ามาในวงสนทนาได้ ที่สำคัญฟังก์ชันนี้มีในวิทยุเกือบทุกตัว เพียงแต่บางครั้งเราลืมที่จะเซ็มมันแค่นั้นเอง แค่นี้ก็ทำให้การสนทนาผ่านวิทยุของเรา ก็สนุกมากขึ้นไม่ว่าไปที่ไหน ลองดูนะครับ เพื่อนท่านใดจะช่วยเสริมก็ยินดีครับ
[/size]
เครดิตจาก "หนอน รอบกองไฟ"
น่าสนใจมากเลยครับพี่จ่า แล้ววิธีตั้งค่าตั้งอย่างไร พอมีไกด์ไลด์ไหม
เพราะหลายตัวพื้นฐานการตั้งค่า คล้ายๆกัน ขอดูตัวอย่างเมนูและจำลองคลื่น ด้วยครับ
แต่ละยี่ห้อก็จะSet ไม่เหมือนกันก็คงต้องอาศัยคู่มือ จริงๆเกือบแทบทุกคนจะไม่ค่อยใช้
เพราะนานๆจะSetใช้เมื่อใช้แล้วก็ต้อง Clear ไม่เช่นนั้น ว. เราจะใช้กับคนอื่นไม่ได้
-
จากประสบการณ์อันน้อยนิด มิตติ้งคาราวานที่ผ่านๆมา ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการกวนของสัญญาจนให้รำคาญใจ :L2747:
แต่ถ้าจะให้สัญญาณของผมไปกวนคนอื่นโดยไม่รู้ตัว ก็คงไม่ดีแน่ :L2757:
ก็เอาเป็นว่า นำมาใช้เมื่อยามจำเป็นก็แล้วกัน :L4373:
ขอขอบคุณทั้งพี่จ่าและพี่ทศครับ :sd23:
ก็ตอนไปเราต้องย้ายตัวเองจาก Ch 11ไปCh10เพื่อหลีกจากที่ใช้งานอยู่
ส่วนตอนขากลับ Kit ไม่มาด้วย Ch ที่ใช้ก็ไปช่องเดียวกันกับ รปภ.โรงงาน
ก็โดนถามว่าเป็นใคร ผมก็ตอบไปว่าเรามาเป็นขบวนจะไปกรุงเทพ ขออนุญาตผ่านทาง
ก็โอเค แถมยังอวยพรให้ปลอดภัย
นั่นถ้า รปภ.ตั้ง Frequency Code เค้าจะไม่ได้ยินเราเลย แต่เราตั้ง Frequency Codeจะไม่ได้ยิน รปภ.เหมือนกัน
-
ครับพี่จ่า ตามสะดวกเลยพี่ ทุกอย่างเป็นเห็นส่วนตัวผมเองครับ
:sd23:
ก็ตอนไปเราต้องย้ายตัวเองจาก Ch 11ไปCh10เพื่อหลีกจากที่ใช้งานอยู่
ส่วนตอนขากลับ Kit ไม่มาด้วย Ch ที่ใช้ก็ไปช่องเดียวกันกับ รปภ.โรงงาน
ก็โดนถามว่าเป็นใคร ผมก็ตอบไปว่าเรามาเป็นขบวนจะไปกรุงเทพ ขออนุญาตผ่านทาง
ก็โอเค แถมยังอวยพรให้ปลอดภัย
นั่นถ้า รปภ.ตั้ง Frequency Code เค้าจะไม่ได้ยินเราเลย แต่เราตั้ง Frequency Codeจะไม่ได้ยิน รปภ.เหมือนกัน
ถ้าเราไม่ใส่ฟังชั่นโทน อาจจะได้เพื่อนร่วมความถี่แบบนี้ไปตลอดทางครับ
ผมใช้แบบนี้เป็นประจำครับ(ไมเคยเข้าฟังชั่นโทน)อาจจะมีบางครับต้องใส่โทนเพื่อเปิดรีพีสเตอร์
ได้เพื่อนเยอะด้วย ผ่านไปรอบหลังยังทักทายกันอยู่ประจำครับ
:sd23:
-
เท่าที่เป็นคนจัดท่องเที่ยวมานะครับ....ส่วนใหญ่ผมจะตั้ง Tone เฉพาะตอนที่เดินทางคือรถหว่างที่รถแล่นอยู่ครับ.....เพราะเพื่อการสื่อสารที่ชัดเจน...และขณะที่รถแล่นอยู่นั้น ถ้าเราบังเอิญผ่านไปในพื้นที่ที่มีเจ้าถิ่นใช้ช่องเดียวกับเราอยู่......อาจรบกวนบ้าง แต่ก็ไม่นานครับ....แป๊บเดียวเราก็เคลื่อนที่ออกจากระยะคลื่นเขาแล้ว......ที่ set tone เพราะระหว่างขับรถ ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน และต้อง ว. บอกด้านหลัง พอดีกับมีคนอื่นบดคลื่นเข้ามา จะทำให้เราสื่อสารกันไม่ได้....อันตรายหรืออุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ครับ......เพียงแค่ช่วงเดียว แว๊บ เดียวเราก็ออกจากระยะคลื่นของเขาแล้วครับ
แต่เมื่อหยุดอยู่กับที่ เช่นแวะตามปั๊ม หรือถึงที่หมาย...ผมจะให้คนในกลุ่มเปลี่ยนไปใช้คลื่นที่ไม่มีการ set tone อยู่ครับ....เหตุผลก็อย่างที่พี่ทศว่าไว้ครับ.....เราต้องหลบให้กับคนที่เขาใช้อยู่ก่อนแล้ว
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และวิธีการใช้งานของผมนะครับ.......อีกอย่างนึงคือ ระหว่างขับรถ เราก็ไม่ได้คุยกันมากหรอกครับ...คุยกันแก้ง่วงบ้างนิดหน่อย ส่วนใหญ่ก็ว. บอกเหตุการณ์ข้างหน้า ถ้ามีอะไรผิดปกติเท่านั้นเอง.....ไม่ได้คุยกันจริงจังอย่างคุยโทรศัพท์...ถ้าแบบนี้ก็อาจจะพอได้ในการ set tone เพราะรบกวนเจ้าถิ่นไม่เยอะเท่าไหร่.....แต่ถ้าคุยกันโขมงตลอดทริบ....อันนี้ต้องพิจารณาอีกทีครับ :L4399: :L4399:
-
เท่าที่เป็นคนจัดท่องเที่ยวมานะครับ....ส่วนใหญ่ผมจะตั้ง Tone เฉพาะตอนที่เดินทางคือรถหว่างที่รถแล่นอยู่ครับ.....เพราะเพื่อการสื่อสารที่ชัดเจน...และขณะที่รถแล่นอยู่นั้น ถ้าเราบังเอิญผ่านไปในพื้นที่ที่มีเจ้าถิ่นใช้ช่องเดียวกับเราอยู่......อาจรบกวนบ้าง แต่ก็ไม่นานครับ....แป๊บเดียวเราก็เคลื่อนที่ออกจากระยะคลื่นเขาแล้ว......ที่ set tone เพราะระหว่างขับรถ ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน และต้อง ว. บอกด้านหลัง พอดีกับมีคนอื่นบดคลื่นเข้ามา จะทำให้เราสื่อสารกันไม่ได้....อันตรายหรืออุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ครับ......เพียงแค่ช่วงเดียว แว๊บ เดียวเราก็ออกจากระยะคลื่นของเขาแล้วครับ
แต่เมื่อหยุดอยู่กับที่ เช่นแวะตามปั๊ม หรือถึงที่หมาย...ผมจะให้คนในกลุ่มเปลี่ยนไปใช้คลื่นที่ไม่มีการ set tone อยู่ครับ....เหตุผลก็อย่างที่พี่ทศว่าไว้ครับ.....เราต้องหลบให้กับคนที่เขาใช้อยู่ก่อนแล้ว
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และวิธีการใช้งานของผมนะครับ.......อีกอย่างนึงคือ ระหว่างขับรถ เราก็ไม่ได้คุยกันมากหรอกครับ...คุยกันแก้ง่วงบ้างนิดหน่อย ส่วนใหญ่ก็ว. บอกเหตุการณ์ข้างหน้า ถ้ามีอะไรผิดปกติเท่านั้นเอง.....ไม่ได้คุยกันจริงจังอย่างคุยโทรศัพท์...ถ้าแบบนี้ก็อาจจะพอได้ในการ set tone เพราะรบกวนเจ้าถิ่นไม่เยอะเท่าไหร่.....แต่ถ้าคุยกันโขมงตลอดทริบ....อันนี้ต้องพิจารณาอีกทีครับ :L4399: :L4399:
เดี่ยวนี้เสาบ้านสูงๆกันทั้งนั้นพี่ เท่าที่เคยเจอ ของผมเสาจิ๋วๆเขาส่งผม(แนะนำเส้นทาง+คุยเป็นเพื่อน)ข้ามจังหวัดเลยครับพี่
:L2904:
-
เท่าที่เป็นคนจัดท่องเที่ยวมานะครับ....ส่วนใหญ่ผมจะตั้ง Tone เฉพาะตอนที่เดินทางคือรถหว่างที่รถแล่นอยู่ครับ.....เพราะเพื่อการสื่อสารที่ชัดเจน...และขณะที่รถแล่นอยู่นั้น ถ้าเราบังเอิญผ่านไปในพื้นที่ที่มีเจ้าถิ่นใช้ช่องเดียวกับเราอยู่......อาจรบกวนบ้าง แต่ก็ไม่นานครับ....แป๊บเดียวเราก็เคลื่อนที่ออกจากระยะคลื่นเขาแล้ว......ที่ set tone เพราะระหว่างขับรถ ถ้าเกิดเหตุการณ์คับขัน และต้อง ว. บอกด้านหลัง พอดีกับมีคนอื่นบดคลื่นเข้ามา จะทำให้เราสื่อสารกันไม่ได้....อันตรายหรืออุบัติเหตุอาจเกิดขึ้นได้ครับ......เพียงแค่ช่วงเดียว แว๊บ เดียวเราก็ออกจากระยะคลื่นของเขาแล้วครับ
แต่เมื่อหยุดอยู่กับที่ เช่นแวะตามปั๊ม หรือถึงที่หมาย...ผมจะให้คนในกลุ่มเปลี่ยนไปใช้คลื่นที่ไม่มีการ set tone อยู่ครับ....เหตุผลก็อย่างที่พี่ทศว่าไว้ครับ.....เราต้องหลบให้กับคนที่เขาใช้อยู่ก่อนแล้ว
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว และวิธีการใช้งานของผมนะครับ.......อีกอย่างนึงคือ ระหว่างขับรถ เราก็ไม่ได้คุยกันมากหรอกครับ...คุยกันแก้ง่วงบ้างนิดหน่อย ส่วนใหญ่ก็ว. บอกเหตุการณ์ข้างหน้า ถ้ามีอะไรผิดปกติเท่านั้นเอง.....ไม่ได้คุยกันจริงจังอย่างคุยโทรศัพท์...ถ้าแบบนี้ก็อาจจะพอได้ในการ set tone เพราะรบกวนเจ้าถิ่นไม่เยอะเท่าไหร่.....แต่ถ้าคุยกันโขมงตลอดทริบ....อันนี้ต้องพิจารณาอีกทีครับ :L4399: :L4399:
ผมก็ปฎิบัติ แบบตูมตาม ใช้ในขณะที่รถวิ่งเพื่อบอกเส้นทาง สิ่งกีดขวาง เพื่อความปลอดภัยให้กับรถคันหลัง
หรือเวลาแซง เท่าที่ใช้มาส่วนมากจะเจอการใช้วิทยุในทางไม่ดี ไร้สาระเสียส่วนมาก โดยเฉพาะ พวกกล้วยทอด ไอ้แหลม
และเปิดเพลงให้ฟัง เป็นต้น
-
:sd23: ขอบคุณสำหรับข้อมูล ทุกๆท่านครับ
-
อ่านดูก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่เท่าที่ใช้มาก็สามารถพูดคุยติดต่อกันได้ ต่างกันแค่ความแรงของสัญญานเท่านั้น
ฉะนั้นเราควรหาเสาอะไรมาเสริมกันดีกว่าครับ เพื่อเพิ่มทางออกอีกทางหนึ่ง
แบบสวยๆ เท่ๆ มีไหมพี่ทศ พี่จ่า พี่หนึ่ง
-
แบบที่ผมใช้อยู่ ที่เคยเสนอพี่นะผมก็ว่า OK แล้วครับ เสายาวประมาณคืบมีแม่เหล็กพร้อมสายนำสัญญาณมาด้วยแล้ว
มุดตามห้างได้สบาย ผมใช้ประจำรถอยู่ครับ
:L2736:
-
แบบที่ผมใช้อยู่ ที่เคยเสนอพี่นะผมก็ว่า OK แล้วครับ เสายาวประมาณคืบมีแม่เหล็กพร้อมสายนำสัญญาณมาด้วยแล้ว
มุดตามห้างได้สบาย ผมใช้ประจำรถอยู่ครับ
:L2736:
ขอรูปอีกทีครับพี่ทศ จำได้ว่ามี 2 แบบ แบบเล็ก กับแบบแท่งเท่าปากกา ใช่ป่ะครับ
-
แบบที่ผมใช้อยู่ ที่เคยเสนอพี่นะผมก็ว่า OK แล้วครับ เสายาวประมาณคืบมีแม่เหล็กพร้อมสายนำสัญญาณมาด้วยแล้ว
มุดตามห้างได้สบาย ผมใช้ประจำรถอยู่ครับ
:L2736:
ขอรูปอีกทีครับพี่ทศ จำได้ว่ามี 2 แบบ แบบเล็ก กับแบบแท่งเท่าปากกา ใช่ป่ะครับ
แบบเล็กคือเท็กซี่โปร ที่แนะนำคือแบบแท่งใหญ่กว่าเสา TV พี่นะนิดหนึ่งเดียวหารูปก่อนครับ
:L2736: