Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Wheels, Tires, Brakes & Suspension Systems => ข้อความที่เริ่มโดย: ต๋อง Fuddy ที่ 18 มกราคม 2013, 13:01:59
-
วิธีคิดความสูงของยาง เวลาจะเปลี่ยนล้อแม็ก
ตัวเลขและตัวอักษรต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนแก้มยางรถยนต์นั้น สามารถบ่งบอกถึงคุณสมบัติของยางได้ หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนาดของยาง เช่น หน้ากว้าง ซีรี่ส์ ขนาดขอบกระทะล้อ และยังบ่งบอกถึงขีดจำกัด ความเร็วสูงสุด, ดัชนีในการรับน้ำหนักของยางเส้นนั้นๆ รวมไปถึงคุณสมบัติอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติ ดังกล่าวถือว่าเป็นข้อมูลทั่วๆไป ที่ท่านเจ้าของรถควรจะทราบเพื่อที่จะได้เลือกซื้อยางในครั้งต่อไปได้ อย่างถูกต้อง และเหมาะสมกับรถยนต์ของท่าน
(http://upic.me/i/4l/12-03-2010.original.1268355557_0.66377800.jpg)
สำหรับตัวเลขที่อยู่บนแก้มยางของรถเก๋ง โดยทั่วไปจะมีลักษณะดังตัวอย่างต่อไปนี้
• 195/60R14 85H
• 195 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
• 60 คือ ซีรีส์ยาง
• R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล
• 14 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว
• 85 คือ ดัชนีในการรับน้ำหนักของยางต่อเส้น
• H คือ ขีดจำกัดความเร็วสูงสุด
สำหรับความหมายของตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางรถกระบะ มีลักษณะดังนี้
• 195R14C 8PR
• 195 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร
• R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล
• 14 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว
• C คือ ยางที่ใช้เพื่อการขนส่ง (มาจากคำว่า commercial)
• 8PR คือ อัตราชั้นผ้าใบเทียบเท่า 8 ชั้น
(ในส่วนของซีรีส์ ถ้าไม่ได้ระบุ คือ ซีรีส์ 80)
ความหมายของตัวเลขและตัวอักษรบนแก้มยางรถขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีลักษณะดังนี้
• 31x10.5R15
• 31 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางยาง มีหน่วยเป็นนิ้ว
• 10.5 คือ ความกว้างยาง มีหน่วยเป็นนิ้ว
• R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดียล
• 15 คือ เส้นผ่าศูนย์กลางกระทะล้อ มีหน่วยเป็นนิ้ว
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาง : ความกว้างของยาง/ความกว้างของหน้ายาง
ความเข้าใจผิด : บนแก้มยางจะมีการระบุขนาด ต่างๆ ของยางเส้นนั้นไว้อยู่เสมอ สำหรับยางทั่วไปจะมีการระบุราย ละเอียดที่คุ้นเคยกันตามตัวอย่าง เช่น 205/60R15 ตัวเลข 3 หลักแรกนี้เองที่หลายคนเข้าใจผิด โดยเข้าใจว่าเป็นความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสถนน มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในกรณีตัวอย่างนี้ คิดว่ายางเส้นนี้มีหน้ากว้าง 205 มิลลิเมตร
ความเป็นจริง : ตัวเลข 3 หลักแรกนี้ เป็นความกว้างของยาง ไม่ใช่ความกว้างของหน้ายางที่สัมผัสพื้น วิธีการตรวจสอบง่ายๆ ตัวเลข 3 หลักนี้ ก็คือ นำยางเส้นนั้นใส่กับกระทะล้อที่มีขนาดเหมาะ สมกันตามมาตรฐานที่วงการยางกำหนดและสูบลม วัดความกว้างของยางจากส่วนที่กว้างที่สุด ซึ่งมักจะ เป็นส่วนโค้งของแก้มยางที่ป่องออกมา จากแก้มข้างหนึ่งมายังอีกข้างหนึ่ง โดยวัดรวมทุกอย่างที่กว้าง ที่สุด ถ้าบังเอิญมีตัวอักษรตัวเลขหล่อนูนออกมา ก็ ต้องวัดรวมด้วย แล้วก็จะได้ค่าความกว้างนั้นออกมา
ตัวเลข 3 หลักแรกที่ระบุไว้ เช่น 205 จะเป็นความกว้างของยางในส่วนที่ป่องที่สุด ซึ่งเป็นแก้มยาง ส่วนความกว้างของหน้ายางจริง จะไม่มีการกำหนดไว้ และเท่าที่ทดลองวัดดู ก็จะแคบว่าตัวเลขความกว้างของยางที่ระบุไว้ 10-30 มิลลิเมตร นั่นหมายความว่า สมมุติิยางที่ระบุความกว้าง ไว้เท่ากัน แต่ต่างรุ่นต่างยี่ห้อกัน ความกว้างของยาง บริเวณแก้มจะต้องเท่ากัน แต่ไม่แน่ว่าความกว้างของยางจะต้องเท่ากัน เพราะพบว่ายางรุ่นสปอร์ตหรือเน้นสมรรถนะสูง จะมีความกว้างของหน้ายางใก้ลเคียงกับตัวเลขความกว้างของยางมากกว่ายางรุ่นพื้นๆ สำหรับใช้งานทั่วไป
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาง : ตัวเลขซีรีส์ ต้องคำนวนก่อน
ความเข้าใจผิด : จากตัวอย่าง 205/60R15 ตัวเลข 2 หลักชุดที่ 2 คือ 60 หมายถึงซีรีส์ของยาง หลายคนเข้าใจผิดว่า ยางที่มีตัวเลขซีรีส์มาก จะต้องมีแก้มสูงกว่ายางที่มีซีรีส์น้อยกว่าเสมอ
ความเป็นจริง : ตัวเลขซีรีส์ หมายถึง ความสูงของแก้มยางคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของความกว้างของยาง หากต้องการทราบความสูงจริงของแก้มยาง ก็ต้องมีการคำนวณก่อน จากตัวอย่าง ยางเส้นนี้ มีความสูงของแก้มยาง เป็น 60 เปอร์เซ็นต์จากความกว้าง 205 มิลลิเมตร คำนวนโดยนำ 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร ถ้าไม่ผ่านการคำนวณ จะสรุปลอยๆ ไม่ได้ว่า ยางซีรีส์ 65 จะมีแก้มยางจริงสุงกว่ายางซีรีส์ 60 หากมีความกว้างของยางต่างกัน
เช่น ยาง 205/60R13 มีแก้มสูง 205 X (60/100) = 123 มิลลิเมตร ส่วนยาง 185/65R13 มีแก้ม สูง 185 X (65/100) = 120.25 มิลลิเมตร มีแก้มจริงเตี้ยกว่าทั้งที่มีตัวเลขซีรีส์เป็น 65 มากกว่าเส้นแรกอยู่ 5 ซีรีส์ ถ้าจะเดาความสูงของแก้มยาง ก็ต้องดูตัวเลข 3 หลักแรกความกว้างของยางด้วย แต่ถ้าจะให้แม่นยำก็ต้องนำไปคำนวณก่อน
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาง : ยางที่ใช้กับกระทะล้อขอบใหญ่กว่า ยางต้องใหญ่กว่า
ความเข้าใจผิด : ในกรณีที่จะเปลี่ยนล้อแม็กให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่ขึ้น ตามสไตล์ล้อแม็กวงโต+ยางแก้มเตี้ย เช่น ล้อเดิมขอบ 14 นิ้ว จะเปลี่ยนเป็นขอบ 16 นิ้ว หลายคนเข้าใจผิด โดยรีบสรุปว่ายางที่ใช้กับกระทะล้อขอบ 16 นิ้ว ต้องมีขนาดใหญ่กว่ายาง 14 นิ้ว ไปมองไปอิงกับตัวเลขขอบกระทะล้อทั้งที่นั่นคือ วงในของยาง ไม่ใช่วงนอก
ความเป็นจริง : ยางจะมีเส้นรอบวงมากหรือมีความสูงโดยรวมเท่าไร ไม่เกี่ยวกับขนาดของกระทะล้อหรือเรียกกันว่าขอบกี่นิ้วนัก เพราะต้องขึ้นอยู่กับความสูงของแก้มยาง ซึ่งก็ขึ้นกับความกว้างและซีรีส์นั่นเอง ยางขอบ 17 นิ้ว ซีรีส์น้อยแก้มเตี้ยบางเฉียบ อาจจะมีเส้นรอบวงน้อยและมีความสูงโดยรวมน้อย กว่ายางขอบ 14 นิ้ว ซึ่งมีซีรีส์มากและแก้มสูงก็เป็นได้
(ที่มา:สาระน่ารู้จาก Auto Check Point Co.,Ltd)
ทีนี้มาลองคิดตามตัวอย่างกันดูเล่นๆนะครับ
ล้อขนาด 205/55-16
วิธีคิดความสูงของยาง : แก้มยาง 1 ข้างสูง = 205 x (55/100) = 112.75 ม.ม. แปลงเป็นนิ้วโดยการหารด้วย 25.4 (25.4 mm = 1 inch.) จะได้เท่ากับ 4.439 นิ้ว เอามาคูณ2 (แก้มยางบน+ล่าง) แล้วบวกด้วยขนาดล้อ 16 นิ้ว จะได้ความสูงทั้งหมด = 24.878 นิ้ว
ล้อขนาด 205/45-17
วิธีคิดความสูงของยาง : แก้มยาง 1 ข้างสูง = 205 x (45/100) = 92.25 ม.ม. แปลงเป็นนิ้วโดยการหารด้วย 25.4 (25.4 mm = 1 inch.) จะได้เท่ากับ 3.632 นิ้ว เอามาคูณ2 (แก้มยางบน+ล่าง) แล้วบวกด้วยขนาดล้อ 17 นิ้ว จะได้ความสูงทั้งหมด = 24.264 นิ้ว
ล้อขนาด 225/40-18
วิธีคิดความสูงของยาง : แก้มยาง 1 ข้างสูง = 225 x (40/100) = 90 ม.ม. แปลงเป็นนิ้วโดยการหารด้วย 25.4 (25.4 mm = 1 inch.) จะได้เท่ากับ 3.5433 นิ้ว เอามาคูณ2 (แก้มยางบน+ล่าง) แล้วบวกด้วยขนาดล้อ 18 นิ้ว จะได้ความสูงทั้งหมด = 25.087 นิ้ว
ล้อขนาด 235/40-18
วิธีคิดความสูงของยาง : แก้มยาง 1 ข้างสูง = 235 x (40/100) = 94 ม.ม. แปลงเป็นนิ้วโดยการหารด้วย 25.4 (25.4 mm = 1 inch.) จะได้เท่ากับ 3.701 นิ้ว เอามาคูณ2 (แก้มยางบน+ล่าง) แล้วบวกด้วยขนาดล้อ 18 นิ้ว จะได้ความสูงทั้งหมด = 25.401 นิ้ว
พยายามเลือกขนาดให้ใกล้เคียงของเดิมติดรถออกจากโรงงาน เข็มไมล์จะได้ไม่เพี้ยนนะครับ
สูงกว่าเดิม=ไมล์แข็ง(บอกค่าความเร็วน้อยกว่าความเร็วจริง)
เตี้ยกว่าเดิม=ไมล์อ่อน(บอกค่าความเร็วมากกว่าความเร็วจริง)
****** 25.4 มม. = 1 นิ้ว
(ที่มา:สาระน่ารู้จาก Auto Check Point Co.,Ltd)
-
น้องปาเรา ไมล์อ่อน ชดเชย ได้ป่าวหนอ :L2761:
-
พี่ต๋อง ขยันหาความรู้ มาให้น้องๆจริงๆ :L2900: :L2900: :L2900:
-
น้องปาเรา ไมล์อ่อน ชดเชย ได้ป่าวหนอ :L2761:
เพิ่มหน้ายางให้สูงขึ้น เส้นรอบวงใหญ่กว่าเดิมพอช่วยได้ครับ :L4396:
ผมลองเทียบกับ GPS ต่างกันประมาณ +/- 5 ครับถือว่ายอมรับได้ (ล้อ 265/50/20)
:L2736:
-
:L2900: :L2900: :L2900: :L2900: :L2900:
ข้อมูลเป้ะ เยี่ยมเลยครับ
-
ขออนุญาติปักหมุดให้กับข้อมูลดีๆหน่อยนะครับพี่ต๋อง :L2734:
-
:sd23: ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่ต๋อง
-
:sd23: ขอบคุณครับ
อยากให้ลองเวปนี้ครับ
http://www.rimsntires.com/specs.jsp
-
มาเพิ่มข้อมูล จากการคำนวณและเวปคำนวณนะครับ
1. โครงสร้างยางมีผลต่อความนุ่มนวลมากกว่าความหนาของแก้มยาง (ยางยี้ห้อดีๆ ราคาสูง บางทีก็แพงเพราะโครงสร้างยางดีกว่า)
2. ยางที่มีชั้นผ้าใบเยอะจะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่า
3. ยางที่มีค่าความสึกสูง ย่อมแข็งกระด้าง ทนทาน ดอกสึกช้า
4. ยางที่เกาะถนนดีๆ มีกมีค่า treadware ต่ำและสึกเร็ว
5. ในขนาดหน้ายางที่เท่ากัน แต่เป็นยาง over size เช่น 275/55 275/55XL จะมีขนาดหน้ายางกว้างกว่า ขึ้นกับลายดอก
6. ซื้อยางอย่ากังวลกับปียางมากเกินไป ยางมีอายุเก็บ 3-5 ปี และเมื่อใช้งานแล้ว 0-3 ปี ก็ยังใช้งานได้ดี
7. ยางปีใหม่แต่ลายงาเมื่อเติมลมแข็ง กับยางเก่าปีเนื้อยางสดเติมลมแข็งยังไม่มีรอยเนื้อแตก ก็มีให้เห็น
8. น้ำหนักยาง น้ำหนักล้อ ความนิ่งของล้อ มีผลต่อความเร็วต่อเนื่อง
9. โช๊คที่นิ่มๆ หรือโช๊คที่ไม่เฟริม มีผลต่อการสึกหรอของหน้ายาง
10. ศูนย์รถที่ไม่เที่ยง มีผลต่อการสึกของดอกบริเวณไหล่ยาง
11. การตั้งศูนย์มุมล้อหน้าให้ผิดเพี้ยนจากเดิม เพื่อหวังผลในการขับขี่และบังคับพวงมาลัย มีผลต่อไหล่ยางและหน้ายางบ้าง แต่ก็สมควรทำเช่นล้อคู่หน้าของ pajero sport ที่เราใช้อยู่นี่แหละ ใส่ล้อใหญ่ ยางใหญ่ ลองยอมผิดเพี้ยนตามสูตรดุูบ้างครับ ดีกว่าเดิมเยอะ
หากมีโอกาส ควรทดลองสัมผัสดูครับ
:L4399:
-
มาขอบคุณสำหรับความรู้จาก พี่ต๋องและพี่นะ
ขอบคุณครับ
:L2900: :L2900: :L2758: :L2758: :sd23: :sd23:
-
สวดยอดครับพี่ต๋อง ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับข้อมูลดี ๆ แบบนี้ ซึ่งผมเข้าใจผิดมาโดยตลอด :sd42: :sd42:
ขอบคุณมากครับพี่นะ สำหรับแนะนำเพิ่มเติมดี ๆ :L2753: :L2753:
:L2900: :L2900:
-
:L2739: :L2739:
ผมสงสัยนะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องไมล์อ่อน ไมล์แข็ง อยากสอบถามในแง่ของการทรงตัวของรถ การควบคุมรถ
เวลาผมเห็นรถ 4WD ที่แม๊กเล็ก ๆ แต่ยางใหญ่ ๆ กับพวกรถแข่งที่แม๊กใหญ่ ๆ แต่ยางบางเฉียบ ถ้าสมมุติระบบช่วงล่างเหมือนกันอ่าครับ สงสัยว่าการควบคุมและการทรงตัวจะแตกต่างกันหรือไม่ครับ :L2761:
ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำตอบคลายความสงสัยครับ
:L4399: :L4399:
-
:L2739: :L2739:
ผมสงสัยนะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องไมล์อ่อน ไมล์แข็ง อยากสอบถามในแง่ของการทรงตัวของรถ การควบคุมรถ
เวลาผมเห็นรถ 4WD ที่แม๊กเล็ก ๆ แต่ยางใหญ่ ๆ กับพวกรถแข่งที่แม๊กใหญ่ ๆ แต่ยางบางเฉียบ ถ้าสมมุติระบบช่วงล่างเหมือนกันอ่าครับ สงสัยว่าการควบคุมและการทรงตัวจะแตกต่างกันหรือไม่ครับ :L2761:
ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำตอบคลายความสงสัยครับ
:L4399: :L4399:
ตามที่เข้าใจส่วนตัว
การให้ตัวน้อยที่สุด คือการทรงตัวที่ดีที่สุด ฉะนั้นยางแก้มบางและลมยางตึงๆได้เปรียบกว่าเรื่องการทรงตัว
การให้ตัวได้มาก คือการรองรับที่ดี ฉะนั้นยางแก้มสูงได้เปรียบเรื่องการรองรับแรงกระแทกและให้ตัวยืดหยุดดีกว่าและเวลาลุบหรือปีนป่ายมักจะปล่อยลมยางใหญ่ให้อ่อนตัวเพื่อการให้ตัวในการบิดตัวและรองรับครับ
แรงบิดจะส่งผลได้ดีและสูญเสียน้อยเมื่อใกล้แรงเสียดทานมากที่สุด จึงทำให้รถที่มียางแก้มเตี้ยแม็คใหญ่ได้เปรียบมากกว่าและก้านส่งแรงยาวกว่าครับ
ในลักษณะเส้นรอบวงรอบแก้มยางที่เท่ากัน ยางแก้มเตี้ยได้เปรียบมากกว่าแรงการส่งแรงบิด
-
:L2739: :L2739:
ผมสงสัยนะครับ ไม่เกี่ยวกับเรื่องไมล์อ่อน ไมล์แข็ง อยากสอบถามในแง่ของการทรงตัวของรถ การควบคุมรถ
เวลาผมเห็นรถ 4WD ที่แม๊กเล็ก ๆ แต่ยางใหญ่ ๆ กับพวกรถแข่งที่แม๊กใหญ่ ๆ แต่ยางบางเฉียบ ถ้าสมมุติระบบช่วงล่างเหมือนกันอ่าครับ สงสัยว่าการควบคุมและการทรงตัวจะแตกต่างกันหรือไม่ครับ :L2761:
ขอบคุณล่วงหน้าครับสำหรับคำตอบคลายความสงสัยครับ
:L4399: :L4399:
ตามที่เข้าใจส่วนตัว
การให้ตัวน้อยที่สุด คือการทรงตัวที่ดีที่สุด ฉะนั้นยางแก้มบางและลมยางตึงๆได้เปรียบกว่าเรื่องการทรงตัว
การให้ตัวได้มาก คือการรองรับที่ดี ฉะนั้นยางแก้มสูงได้เปรียบเรื่องการรองรับแรงกระแทกและให้ตัวยืดหยุดดีกว่าและเวลาลุบหรือปีนป่ายมักจะปล่อยลมยางใหญ่ให้อ่อนตัวเพื่อการให้ตัวในการบิดตัวและรองรับครับ
แรงบิดจะส่งผลได้ดีและสูญเสียน้อยเมื่อใกล้แรงเสียดทานมากที่สุด จึงทำให้รถที่มียางแก้มเตี้ยแม็คใหญ่ได้เปรียบมากกว่าและก้านส่งแรงยาวกว่าครับ
ในลักษณะเส้นรอบวงรอบแก้มยางที่เท่ากัน ยางแก้มเตี้ยได้เปรียบมากกว่าแรงการส่งแรงบิด
:sd23: :sd23: :sd23:
ขอบคุณมาก ๆ ครับพี่นะ พอได้ Idea ในการที่จะเลือกล้อแม๊กและยางครับ :L2753: :L2753:
-
ขออนุญาตทดสอบ
จำนวนกระทู้ที่ลดหายลงด้วยกระทู้ดีมีประโยชน์อีกกระทู้นึงทีเดียวครับ
สำหรับพี่ๆและตัวผมเองด้วยที่ใกล้จะเปลี่ยนยางใหม่อีกแล้ว
ขอบคุณพี่ต๋อง พี่นะ ที่ให้ความรู้อีกทีครับ
:sd23: :L2758: :L2904: :L2897: :L2901:
-
ขอบคุณพี่ต๋อง พี่นะกับข้อมูลดี ๆ มีประโยชน์ครับ :sd23:
-
ความรุ้ใหม่....ขอบคุณครับ :L2758:
-
:sd23: ขอบคุณครับ
อยากให้ลองเวปนี้ครับ
http://www.rimsntires.com/specs.jsp
เข้ามาเก็บข้อมูลครับ ใช้วิธีแบบพี่แกะเหมือนกันครับ ได้แต่ดูไม่ค่อยได้เปลี่ยนครับ :L2901:
-
ขอบคุณครับพี่ต๋อง
-
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ครับพี่ต๋อง แต่ผมยังล้อเดิม ๆ อยู่ครับ
-
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ครับพี่ต๋อง แต่ผมยังล้อเดิม ๆ อยู่ครับ
เปลี่ยนเป็น คาร์บอน ไหมละ เบาดี ;) ;D
🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿
-
เปลี่ยนเป็น คาร์บอน ไหมละ เบาดี ;) ;D
🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿
ยางฮาฟด้วยนะ :L2739:
-
เปลี่ยนเป็น คาร์บอน ไหมละ เบาดี ;) ;D
🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿🚴🏿
:L2739: ผมกลัวล้อไม่แตะพื้นครับพี่ต๋อง
ยางฮาฟด้วยนะ :L2739:
โอ้ว...ยิงแรงเพิ่มไปอีก :L2901: กลัวแต่ถนนแถวระยองไม่มีดี ๆ ให้วิ่งครับพี่นะ เพราะมีแต่หลุมทั้งนั้น
-
เพิ่มความรู้......ของตัวเองขึ้นอีกเยอะเลย ขอบคุณพี่ๆๆทุกคนที่ให้ความรู้ครับ
:sd23: :sd23:
-
ขอบคุณสำหรับความรู้จาก พี่ต๋องและพี่นะ
ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะอีก6เดือนจะเปลี่ยนอิ อิ :L4399: :L4399:
-
:sd23:
กำลังหาข้อมูลพอดีเลย กะเปลี่ยนสิ้นปี น่าจะ 4 หมื่น กม. นิดๆ 2 ปีพอดี
ถามนิดหน่อย เดิม 265/60/R18 ถ้าใหม่ เป็น 265/55/R18 ความนุ่มนวล จะหายไปไหมครับ
หรือว่าจะหา แม็ก น้ำหนักเบา มาแทนของโรงงาน แต่ยางเท่าเดิม
พอได้อ่านผ่านๆ ว่าแก้มเตี้ยแล้วมันจะไม่นิ่ม อยากลดภาระของน้ำหนักล้อลงสักนิด
พี่ๆ ท่านใด มี ปสก. เยอะๆ ก็แนะนำด้วยครับผม
ปล. All New Pajero 4WD.
-
:sd23:
กำลังหาข้อมูลพอดีเลย กะเปลี่ยนสิ้นปี น่าจะ 4 หมื่น กม. นิดๆ 2 ปีพอดี
ถามนิดหน่อย เดิม 265/60/R18 ถ้าใหม่ เป็น 265/55/R18 ความนุ่มนวล จะหายไปไหมครับ
หรือว่าจะหา แม็ก น้ำหนักเบา มาแทนของโรงงาน แต่ยางเท่าเดิม
พอได้อ่านผ่านๆ ว่าแก้มเตี้ยแล้วมันจะไม่นิ่ม อยากลดภาระของน้ำหนักล้อลงสักนิด
พี่ๆ ท่านใด มี ปสก. เยอะๆ ก็แนะนำด้วยครับผม
ปล. All New Pajero 4WD.
ความเห็นผมแม็กเดิมจากโรงงานดีที่สุดแล้วครับ สาเหตุที่คนเขาเปลี่ยนแม็คกันแต่คงขนาดเดิมไว้ก็เพื่อขยายความกว้างของแม็คให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้น หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อเปลี่ยนไปเล่นล้อใหญ่ๆไปเลย เช่น 22" เป็นต้น ถ้า 265/60/R18 ไป 265/55/R18 ความนุ่นนวลหายแน่นอนแต่น่าจะช่วยให้เกาะถนนดีขึ้นเล็กน้อย แลกกับขนาดของวงล้อที่เล็กลง และความสวยงามที่อาจจะลดลงเพราะล้อน่าจะไม่เต็มซุ้ม (หรือเปล่า???)
เรื่องน้ำหนักล้อพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับคิดแล้วมันเล็กน้อยมาก พวกผมติดของเล่นกันแต่ละชิ้นรวมน้ำหนักแล้วเพิ่มขึ้นเป็นร้อยกิโลเลย :sd42: :sd42: แต่ถ้าพี่อยากจะให้รถเบาขึ้นผมแนะนำติดกล่องคันเร่งไฟฟ้าซักตัวรับรองว่าเหมือนรถแรงขึ้นเป็นคนละคันเลยครับแล้วรถใหม่ก็ไม่ขาดประกันด้วย แต่ถ้าอยากจะอัพสเต็ปไปมากกว่านั้นก็ต้องไปดันรางหรือใส่กล่องยกหัวฉีดโน่นเลย รับรองกดเป็นมาแน่นอนครับ ;D ;D ;D
-
ความเห็นผมแม็กเดิมจากโรงงานดีที่สุดแล้วครับ สาเหตุที่คนเขาเปลี่ยนแม็คกันแต่คงขนาดเดิมไว้ก็เพื่อขยายความกว้างของแม็คให้หน้ายางสัมผัสกับพื้นถนนมากขึ้น หรืออีกเหตุผลหนึ่งก็เพื่อเปลี่ยนไปเล่นล้อใหญ่ๆไปเลย เช่น 22" เป็นต้น ถ้า 265/60/R18 ไป 265/55/R18 ความนุ่นนวลหายแน่นอนแต่น่าจะช่วยให้เกาะถนนดีขึ้นเล็กน้อย แลกกับขนาดของวงล้อที่เล็กลง และความสวยงามที่อาจจะลดลงเพราะล้อน่าจะไม่เต็มซุ้ม (หรือเปล่า???)
เรื่องน้ำหนักล้อพี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับคิดแล้วมันเล็กน้อยมาก พวกผมติดของเล่นกันแต่ละชิ้นรวมน้ำหนักแล้วเพิ่มขึ้นเป็นร้อยกิโลเลย :sd42: :sd42: แต่ถ้าพี่อยากจะให้รถเบาขึ้นผมแนะนำติดกล่องคันเร่งไฟฟ้าซักตัวรับรองว่าเหมือนรถแรงขึ้นเป็นคนละคันเลยครับแล้วรถใหม่ก็ไม่ขาดประกันด้วย แต่ถ้าอยากจะอัพสเต็ปไปมากกว่านั้นก็ต้องไปดันรางหรือใส่กล่องยกหัวฉีดโน่นเลย รับรองกดเป็นมาแน่นอนครับ ;D ;D ;D
:sd23: ขอบคุณครับพี่ สำหรับข้อมูล ดีๆ :L2900: