Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย

Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Technics, Maintenance & Problem solving => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 16:19:26

หัวข้อ: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 16:19:26
ซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม กับรถผม เครื่อง3.2 ปี2010
เกริ่นนำ เข้าเช็คถ่ายของเหลวทุกอย่างวันที่ 27 ก.พ. 2557 ที่เลขไมล์ 73,115กิโลเมตร
รถเข้าศูนย์ครั้งล่าสุด วันที่2 มิ.ย. 2557 ที่เลขไมล์ 78,917 กิโลเมตรเพื่มไปเปลี่ยนเฟืองท้ายลิมิตเต็ด    ปัจจุบันวันที่30 ก.ย. 2557 เลขไมล์ 83,000กิโลเมตร
ปกติผมจะมีนิสัยชอบก้มดูใต้ท้องรถบ่อยๆครับ คราบน้ำมันซึมผมเองคิดว่าน่าจะเห็นมานานแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันคือคราบน้ำมันเกียร์เพราะมันเป็นสีขาวๆของอลูมิเนียมเกียร์
ไม่ใช่เป็นคราบน้ำมันดำๆ  ผมรู้ว่าเป็นน้ำมันเกียร์ซึมจากร้านล้างรถในปั้มน้ำมันครับในเดือน ก.ค. 2557 ตอนยกรถเพื่อล้างอัดฉีดแล้วลุงที่ปั้มที่ทำหน้าที่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องในปั้มเซลล์
สาขาดาวคะนองมาดูและบอก ผมถึงรู้ว่าเป็นคราบน้ำมันเกียร์ที่กัดโครงเกียร์จนเป็นสีขาว เพราะปกติจะต้องสกปรกอย่างสม่ำเสมอ
  ดังนั้นวันที่21 ก.ค.2557 จึงขับรถเข้าศูนย์เพื่อตรวจสอบ ทางศูนย์แจ้งว่าต้องซ่อมเปลี่ยนซีลท้ายเครื่อง ซีลทอร์ค น้ำมันเกียร์ออโต้ น้ำมันเกียร์โฟร โดยประมาณไ้ว้ 5,900 บาท
ผมจึงถามกลับไปว่ารถอยู่ในประกันระบบส่งกำลังและขับเคลื่อน 5ป๊ 150,000กิโลนะ ทางศูนย์กฌบอกว่า ซีลไม่อยู่ในประกัน ต้องเกียร์เสียเท่านั้น
แหมปกติเกียร์ ถ้าเราเข้าศูนย์ ถ่ายน้ำมันเกียร์ตามระยะ ไม่น่าจะเสียง่ายๆนะ เค้าใช้กันเป็นแสนๆกิโล

(http://upic.me/i/32/img_0161_resize.jpg)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หยก วาฬน้ำเงิน ที่ 30 กันยายน 2014, 16:31:11
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับพี่หนึ่ง ผมสงสัยว่าไอ้เจ้าประกันระบบส่งกำลังและขับเคลื่อน 5 ปี/150,000 กิโลมันจะมีประโยชน์อะไรกับเราบ้างหรือเปล่า ที่ผมยอมเข้าศูนย์โจรเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งตอน 100,099 กิโลก็เพราะต้องการรักษาสิทธิ์ตัวนี้แหละครับ ยอมจ่ายแพงกว่าแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นทำร้ายตัวเองเลย :sd21:

กด :L6428: ให้หนึ่งทีครับ #19
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 16:32:05
   คิดไปคิดมารถเราก็จะหมดประกันแล้วอีกประมาณ6เดือน ขนาดซีลเกียร์รั่วซึม ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังยังไม่ประกันให้ แล้วจะเข้าศูนย์อีกทำไม
หาอู่ข้างนอกซ่อมดีกว่า โดยไปหาเพื่อนที่เคยเป็นช่างอยู่ศูนย์มิตซูแล้วมาเปิดอู่เองอยู่ใกล้บ้านด้วย น่าจะเป็นที่พึ่งได้
   จึงรีบขับรถไปหาในวันนั้น ได้พูดคุยกัน เพื่อนแนะนำว่าเข้าศูนย์เถอะเพราะการยกเกียร์ไม่ใช่ง่ายๆ ทำคนเดียวไม่ได้ แล้วรถเรามีเกียร์โฟรด้วยมันหนักมากต้องมีเครื่องช่วยยกลง
แต่หลังจากคุยกันได้สักพัก เพือ่นคนนี้จึงแนะนำอีกอู่นึง อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมสักเท่าไร เจ้าของเคยเป็นอาจาร์ยสอนเพื่อนผมตอนอยู่ที่ศูนย์มิตซูด้วย
แถมมีดีกรีเป็นช่างให้กับทีมแรลลีอาร์ทมาก่อน
   อย่างนี้ก็ดีสิ ได้ชื่ออู่และที่อยู่ก็ไปหาในวันนั้นเลย ชื่ออู่S26 อยู่ในซอยราษฎร์บูรณะ26 เจ้าของอู่ชื่อพี่สมบัติ :L2888:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 30 กันยายน 2014, 16:36:37
   คิดไปคิดมารถเราก็จะหมดประกันแล้วอีกประมาณ6เดือน ขนาดซีลเกียร์รั่วซึม ซึ่งเป็นระบบส่งกำลังยังไม่ประกันให้ แล้วจะเข้าศูนย์อีกทำไม
หาอู่ข้างนอกซ่อมดีกว่า โดยไปหาเพื่อนที่เคยเป็นช่างอยู่ศูนย์มิตซูแล้วมาเปิดอู่เองอยู่ใกล้บ้านด้วย น่าจะเป็นที่พึ่งได้
   จึงรีบขับรถไปหาในวันนั้น ได้พูดคุยกัน เพื่อนแนะนำว่าเข้าศูนย์เถอะเพราะการยกเกียร์ไม่ใช่ง่ายๆ ทำคนเดียวไม่ได้ แล้วรถเรามีเกียร์โฟรด้วยมันหนักมากต้องมีเครื่องช่วยยกลง
แต่หลังจากคุยกันได้สักพัก เพือ่นคนนี้จึงแนะนำอีกอู่นึง อยู่ไม่ไกลจากบ้านผมสักเท่าไร เจ้าของเคยเป็นอาจาร์ยสอนเพื่อนผมตอนอยู่ที่ศูนย์มิตซูด้วย
แถมมีดีกรีเป็นช่างให้กับทีมแรลลีอาร์ทมาก่อน
   อย่างนี้ก็ดีสิ ได้ชื่ออู่และที่อยู่ก็ไปหาในวันนั้นเลย ชื่ออู่S26 อยู่ในซอยราษฎร์บูรณะ26 เจ้าของอู่ชื่อพี่สมบัติ :L2888:

พี่หนึ่ง รีวิวอู้นี้ให้หน่อยซิ เคยได้ยินชื่อเช่นกัน
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: นุก (ปทุมธานี) ที่ 30 กันยายน 2014, 16:41:35
ขอบคุณข้อมูลครับพี่หนึ่ง หลังๆมาแล้วก็จากที่ตามปัญหาของรถพี่ๆมา อยากรู้จักอู่นอกไว้บ้างแล้วครับ รอฟังรีวิวเช่นกันครับพี่หนึ่ง  :L2758:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 16:45:26
   วันที่ 29 ก.ย. 2557 จึงขับรถไปจอดเพื่อซ่อมหลังจากที่เคยคุยกันไว้เมื่อเดือนกว่าๆ พี่สมบัติให้คำปรึกษาดีมากๆครับ คุยกันเรื่องรถ ถามโน่นนี่นั่นเป็นชั่วโมง แกก็ตอบให้ทุกอย่าง
พร้อมคำแนะนำ
   วันที่ 30 ก.ย. 2557 เวลา 13:49น. ได้รับโทรศัพท์จากอู่ เป็นพี่สมบัติโทรมาเอง ถามว่ารถใช้มากี่กิโลแล้ว ผมตอบไปว่า 83,000 กิโลเองครับ
พี่สมบัติบอกน้ำมันเกียร์ดำมากๆ เหมือนไมเคยถ่ายมาก่อน ให้ผมเข้าไปดู
   ถึงที่อู่เกียร์ถูกถอดออกมาแล้วครับ ช่างกำลังขูดกาวบอร์นออ
(http://upic.me/i/rh/img_0151_resize.jpg)

(http://upic.me/i/rh/img_0152_resize.jpg)

ไปถึงอู่ช่างก็เรียกให้ไปดูน้ำมันเกียร์ซึ่งต้องเป็นสีแดงๆ แต่น้ำมันเกียร์รถผมเป็นสีดำแบบน้ำมันเครื่อง
(http://upic.me/i/dw/img_0138_resize.jpg)

หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 17:04:27
ขอยืมรูปน้ำมันเกียร์รถพี่ตามที่บอกว่าน้ำมันเกียร์ใช้มาแล้ว 20,000กิโล
จาก link http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3951.40.html (http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3951.40.html) นี้ครับ
(http://upic.me/i/kp/img_0809_zpsbf6992f3.jpg)


เปรียบเทียบกับรถผมที่เข้าศูนย์ถ่ายน้ำมันเกียร์และของเหลวทั้งหมดแล้วมา 10,000กิโล
(http://upic.me/i/r8/img_0148_resize.jpg)


โชคดีที่อ่านกระทู้ที่พี่ตามตอบจากlink ข้างบน ทำให้ผมรู้ว่ามีกรองน้ำมันเกียร์ด้วยที่น่าจะเปลี่ยน วันที่ส่งรถเข้าซ่อมผมจึงได้บอกช่างให้เปลี่ยน
จึงมีการถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา ทำให้เจอปัญหาใหญ่
(http://upic.me/i/p6/img_0133_resize.jpg)
(http://upic.me/i/r2/img_0135_resize.jpg)
มีเศษผงทองแดงและชิ้นทองแดงเล็กๆที่กรองน้ำมันเกียร์ แล้วมันมาได้ยังไง
พี่สมบัติบอกว่า สาเหตุมาจากน้ำมันเกียร์เก่า ไม่ได้ถ่ายน้ำมันเกียร์ ทำให้เกิดการเสียดสีของแผ่นครัชเกียร์ นานๆเข้าเกียร์พัง
แล้วมันเป็นไปได้ยังไงเพิ่งถ่ายน้ำมันเกียร์มาได้ 10,000กิโลเองนะ
อันนี้ต้องขอขอบคุณลุงที่ปั้มเซลล์ สาขาดาวคะนอง ที่เป็นคนช่างสังเกตุ บอกเรื่องน้ำมันเกียร์ซึม แต่ช่างศูนย์ไม่ทันสังเกตุให้รถลูกค้าเลย


(ข้อมูลและภาพ ผมได้มาหลังจากที่อู่ถอดเกียร์และถ่ายน้ำมันเกียร์ออกมาแล้วนะครับ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตลอด)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: กิต <Black Angel> ที่ 30 กันยายน 2014, 17:16:19
 :L2739:  :L2739:  :L2739:  OMG
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: นายอ้น ที่ 30 กันยายน 2014, 17:31:45
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 17:38:33
สภาพแผ่นกรองเกียร์มันยุบจมลงไป ปกติต้องไม่ยุบถึงแม้จะใช้งานมานานระยะนึงแล้ว
อ้าวทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ เพราะมีสิ่งสกปรกไปอุดตันกรอง ทำให้มีแรงดันตรงนี้มากเพราะน้ำมันไหลไม่สะดวก
แล้วสาเหตุล่ะ เกิดจากอะไร เกิิดจากน้ำมันเกียร์เก่า หรือไม่ได้เปลี่ยนถ่ายครับ
(http://upic.me/i/x3/img_0141_resize.jpg)


นี่คือแม่เหล็กที่อยู่ในอ่างน้ำมันเกียร์ เพื่อดูดเศษโลหะที่เกิดจากการสึกหรอ
แต่มันเป็นเหมือนขี้โคลนเลยนะ
(http://upic.me/i/mc/img_0139_resize.jpg)
(http://upic.me/i/9k/img_0140_resize.jpg)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หม่อง Pamania ที่ 30 กันยายน 2014, 17:45:27
เจอช่างดี ๆ ก็ขอให้รถพี่กับมาเหมือนป้ายแดงนะครับ หายไว ๆ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 17:59:42
นี่ครับตัวซีลที่มีปัญหา ทำให้น้ำมันเกียร์รั่วซึม
ภาพไม่ค่อยชัดนะครับ ที่วงด้านในมันเสียรูปครับ ไม่กลม ยางบิดตัวไป
อ้าวทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะครับ เกิิดจากน้ำมันเกียร์เก่า หรือไม่ได้เปลี่ยนถ่ายครับ ทำให้ไปกัดยาง
(http://upic.me/i/s6/img_0147_resize.jpg)

ซีลที่มีปัญหา อีกด้านนึง
(http://upic.me/i/78/img_0145_resize.jpg)


แล้วซีลนี้อยู่ที่ไหน
ซีลนี้อยู่ที่ตัวลูกทอร์ทตัวนี้ครับ ส่วนลูกทอร์ททำงานยังไงผมไม่สามารถอธิบายได้นะครับ ขอให้พี่ๆที่เข้าใจมาช่วยตอบนะครับ
(http://upic.me/i/u2/img_0144_resize.jpg)

ลูกยางตัวนี้อยู่ที่ท้ายเกียร์ที่จะต่อไปที่เพลากลาง ไหนๆถอดแล้วก็จะเปลี่ยนไปด้วยเลย
(http://upic.me/i/dp/img_0143_resize.jpg)

   ส่วนน้ำมันเกียร์ที่จะใส่เข้าไปใหม่ พี่สมบัติแนะนำว่าให้ใช้น้ำมันเกียร์EX เป็นของมิตซูเช่นกัน สีจะออกฟ้าๆใสๆ ส่วนที่ศูนย์ใช้ถ่ายจะเป็นสีแดงๆเหมือนกับที่พี่ตามถ่ายรูปมาให้ดูครับ
ราคาต่างกันเท่าตัวโดยน้ำมันเกียร์EX ราคาลิตรละ 400บาท ส่วนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ใช้ราคาลิตรละ160-200 บาทครับ
   ***พี่สมบัติแนะนำว่าน้ำมันเกียร์ออโต้ของมิตซู ถ้าจะให้ดี ใช้กันยาวๆ ควรจะเปลี่ยนถ่ายที่ 20,000กิโลเมตรดีที่สุดครับ 40,000กิโลเมตร นานไป จะมีผลเสียต่อเกียร์
(คุ้นๆว่าพี่ตามเคยพูดไว้ว่า ของพี่ตามเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ 20,000กิโล)
แต่ของผมนี่สิ 83,000กิโลเมตร
ไม่รู้เคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ้างหรือเปล่า
 แล้วของพี่ๆล่ะ???
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 18:04:25
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับพี่หนึ่ง ผมสงสัยว่าไอ้เจ้าประกันระบบส่งกำลังและขับเคลื่อน 5 ปี/150,000 กิโลมันจะมีประโยชน์อะไรกับเราบ้างหรือเปล่า ที่ผมยอมเข้าศูนย์โจรเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่งตอน 100,099 กิโลก็เพราะต้องการรักษาสิทธิ์ตัวนี้แหละครับ ยอมจ่ายแพงกว่าแต่สุดท้ายกลับกลายเป็นทำร้ายตัวเองเลย :sd21:

กด :L6428: ให้หนึ่งทีครับ #19

ผมก็เคยหวังพึ่งพาศูนย์บริการเหมือนกันครับพี่หยก :L4386: :sd21:

พี่หนึ่ง รีวิวอู้นี้ให้หน่อยซิ เคยได้ยินชื่อเช่นกัน

 :L2904: ครับพี่นะ

ขอบคุณข้อมูลครับพี่หนึ่ง หลังๆมาแล้วก็จากที่ตามปัญหาของรถพี่ๆมา อยากรู้จักอู่นอกไว้บ้างแล้วครับ รอฟังรีวิวเช่นกันครับพี่หนึ่ง  :L2758:

ได้ครับพี่นุก :L2893:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 18:07:38
:L2739:  :L2739:  :L2739:  OMG

ตกใจอะไรครับพี่กิต หรือตกใจว่ารถพี่กิตก็ไม่ได้ถ่ายน้ำมันเกียร์เหมือนกันหรือเปล่า :sd42: :sd42: :sd42:

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

ครับพี่อ้น

เจอช่างดี ๆ ก็ขอให้รถพี่กับมาเหมือนป้ายแดงนะครับ หายไว ๆ

ขอบคุณครับพี่หม่อง ให้กลับมาได้ใกล้เคียงป้ายแดงก็ดีใจแล้วครับ :L2900:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หยก วาฬน้ำเงิน ที่ 30 กันยายน 2014, 18:15:51
   ส่วนน้ำมันเกียร์ที่จะใส่เข้าไปใหม่ พี่สมบัติแนะนำว่าให้ใช้น้ำมันเกียร์EX เป็นของมิตซูเช่นกัน สีจะออกฟ้าๆใสๆ ส่วนที่ศูนย์ใช้ถ่ายจะเป็นสีแดงๆเหมือนกับที่พี่ตามถ่ายรูปมาให้ดูครับ
ราคาต่างกันเท่าตัวโดยน้ำมันเกียร์EX ราคาลิตรละ 400บาท ส่วนน้ำมันเกียร์ที่ศูนย์ใช้ราคาลิตรละ160-200 บาทครับ
   ***พี่สมบัติแนะนำว่าน้ำมันเกียร์ออโต้ของมิตซู ถ้าจะให้ดี ใช้กันยาวๆ ควรจะเปลี่ยนถ่ายที่ 20,000กิโลเมตรดีที่สุดครับ 40,000กิโลเมตร นานไป จะมีผลเสียต่อเกียร์
(คุ้นๆว่าพี่ตามเคยพูดไว้ว่า ของพี่ตามเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ทุกๆ 20,000กิโล)
แต่ของผมนี่สิ 83,000กิโลเมตร
ไม่รู้เคยเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ้างหรือเปล่า
 แล้วของพี่ๆล่ะ???

รูปที่พี่หนึ่งถ่ายมานั้นสำหรับผมมันชินตาแล้วครับ(เพราะโดนมาเหมือนกัน :L4386: :L4386: ) แต่ผมมาเจอตอน 105,xxx กม.และสงสัยว่าจะไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาตั้งแต่แรกเหมือนกัน ลองดูนี่ครับ สีเดียวกันเลย

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3892.60.html

รบกวนพี่หนึ่งช่วยแจ้งหน่อยครับว่าใช้บริการศูนย์ไหนมาบ้างก่อนหน้านี้ สมาชิกจะได้ระวังตัวกันไว้  เอ่อ..ผมสงสัยอีกอย่างว่าน้ำมันเกียร์ของ EX สีฟ้าไม่ทราบว่าเป็นของเครื่องเบนซินหรือเปล่า :L2761: แล้วเอามาใช้กับรถเรา(ดีเซล)ได้ด้วยเหรอครับ :L2761:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 19:24:15
รูปที่พี่หนึ่งถ่ายมานั้นสำหรับผมมันชินตาแล้วครับ(เพราะโดนมาเหมือนกัน :L4386: :L4386: ) แต่ผมมาเจอตอน 105,xxx กม.และสงสัยว่าจะไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาตั้งแต่แรกเหมือนกัน ลองดูนี่ครับ สีเดียวกันเลย

http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3892.60.html

รบกวนพี่หนึ่งช่วยแจ้งหน่อยครับว่าใช้บริการศูนย์ไหนมาบ้างก่อนหน้านี้ สมาชิกจะได้ระวังตัวกันไว้  เอ่อ..ผมสงสัยอีกอย่างว่าน้ำมันเกียร์ของ EX สีฟ้าไม่ทราบว่าเป็นของเครื่องเบนซินหรือเปล่า :L2761: แล้วเอามาใช้กับรถเรา(ดีเซล)ได้ด้วยเหรอครับ :L2761:

ของพี่หยกศูนย์ฝั่งพระนคร ของผมศูนย์ฝั่งธน เอ???รู้สึกว่าพี่อ้วนก็เข้าศูนย์นี้เหมือนกันหรือเปล่า :L2761:
ส่วนน้ำมันเกียร์EX เป็นชื่อรุ่นของน้ำมันเกียร์ครับ ไม่ใช่ใช้กับรถรุ่น Lancer EX แต่พรุ่งนี้ผมจะถามช่างพี่สมบัติอีกที
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: Goodboy ที่ 30 กันยายน 2014, 19:33:27
ขอบพระคุณพี่หนึ่งครับ ที่แชร์ความรู้นี้ครับ  :sd23: :sd23: :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ติ๊กตั๊ก ที่ 30 กันยายน 2014, 20:20:30
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับข้อมูลครับ  :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: โบ๊ท[Sathu49] ที่ 30 กันยายน 2014, 20:46:15
ขอบคุณมากครับพี่หนึ่ง สำหรับข้อมูล
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 21:34:10
อ้างจากกระทู้พี่หยก http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3892.80.html (http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,3892.80.html)
ฝากพี่ๆดูใบเสร็จหน่อยครับ ว่าใช้น้ำมันเกียร์กันกี่ลิตร

ใบเสร็จรับเงินของพี่หยก เครื่อง2.5 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์4ลิตร ที่ศูนย์สาธร
(http://upic.me/i/72/img046.jpg)

ใบเสร็จรับเงินของผม เครื่อง3.2 เปลี่ยนน้ำมันเกียร์4ลิตร ที่ศูนย์ฝังธน
(http://upic.me/i/32/img_0161_resize.jpg)

รายการถ่ายน้ำมันเกียร์ของพี่ตาม
(http://upic.me/i/84/63164.jpg)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: กิต <Black Angel> ที่ 30 กันยายน 2014, 21:43:46
 :sd06: :sd06: :sd06:  แล้วล่าสุดที่เปลี่ยนที่คลีนิคนี่ใช้กี่ลิตรครับพี่หนึ่ง  :L2761:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 30 กันยายน 2014, 21:56:37
:sd06: :sd06: :sd06:  แล้วล่าสุดที่เปลี่ยนที่คลีนิคนี่ใช้กี่ลิตรครับพี่หนึ่ง  :L2761:

อ่านเรื่องปลาวาฬของพี่หยกแล้วได้ความรู้เยอะมากครับ
ส่วนเรื่องน้ำมันเกียร์เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าไปถามครับ
ถามใช้ 9.7ลิตร X ราคาน้ำมันเกียร์EX ลิตรละ400บาท = 3,880 บาท เลยนะนั่น :sd06:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ธี สวนผัก ที่ 30 กันยายน 2014, 23:22:33
 :sd23: ขอบคุณประสบการณ์ของพี่หนึ่งมากๆครับ จะได้จัดการของผมมั่ง  :L2734:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พีท < Pitt Za > ที่ 30 กันยายน 2014, 23:55:14
เป็นประสบการณ์ของพี่แต่เป็นความรู้ของผมครับ :sd23: :sd23: :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: Jojo (โจ้) ที่ 30 กันยายน 2014, 23:59:57
อีกแล้ว
มีคนโพสเรื่องแบบนี้ทีไร
ต้องมุดรถไปดูรถตัวเองอีกแล้ว
 :sd42: :sd42: :sd42:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ตี่ ที่ 1 ตุลาคม 2014, 00:23:50
 :L4365: :L4365: :L4365:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ตูมตาม ที่ 1 ตุลาคม 2014, 05:26:13
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 1 ตุลาคม 2014, 10:11:46
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับการ review อย่างละเอียดครับ พร้อมภาพประกอบมาด้วย ชัดเจนมากๆเลยครับ

สำหรับเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... หากเป็นการเปลี่ยนถ่ายโดยการขันน็อตเปิดเฉพาะที่อ่างน้ำมันเกียร์ จะใช้ประมาณ 4 ลิตรนั่นแหละครับ เพราะยังจะมีน้ำมันเกียร์ที่ค้างอยู่ในระบบอีกพอสมควร เช่นค้างอยู่ในกรองน้ำมันเกียร์ (ผมเคยเทออกมา ค้างอยู่เยอะนะครับภายในกรอง) ค้างอยู่ในท่อที่วิ่งมาระบายความร้อนอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นหากเปลี่ยนถ่ายโดยไม่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์ น้ำมันเกียร์ที่ใช้จะอยู่ประมาณ 4-5 ลิตร

แต่ถ้าถอดอ่างน้ำมันเกียร์ออกมา รวมถึงการเปลี่ยนกรองด้วย จะใช้น้ำมันเกียร์ตอนเติมเข้าไปประมาณ 7.5 - 8 ลิตร

ข้อสังเกตุเรื่องนี้มี 2 ประเด็น

เรื่องแรกคือเรื่องปริมาณน้ำมันเกียร์ .... ข้อมูลจากในเว็บของมิตซูแจ้งไว้คือ 9.7 ลิตร ซึ่งใช้กันไม่ค่อยจะถึง แล้วทำไมมันขึ้นมาให้ใช้ตั้งเยอะ ... เรื่องนี้ผมเคยได้รับความรู้จากพี่อ๊อดว่า ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่ใช้ 9.7 ลิตรนั้น คำนวนจากการที่รถมีการติดตั้ง Oil Cooler มาด้วย ซึ่งตามการออกแบบนั้นมันมีเจ้า Cooler นี้มา แต่มาหายไปตอนผลิต ... มิตซูตัด Cooler ออก แต่ไม่ได้คำนวนปริมาณน้ำมันเกียร์ให้ใหม่ ตัวเลขมันเลยคาอยู่ที่ 9.7 ลิตรแบบนั้นแหละครับ ... ดังนั้นการเติม ช่างต้องเติมไปวัดไป ดูเอาเองว่าเมื่อไหร่มันถึงจะพอดี

เรื่องที่สอง .... ถ้าสังเกตุในใบเสร็จของพี่หยกกับพี่หนึ่ง ..... แจ้งว่ามีการใช้น้ำมันเกียร์ 4 ลิตร โดยระบุเป็น 1 ลิตร แล้วคูณด้วยจำนวน 4 ...... มันน่าแปลกตรงที่ว่าน้ำมันเกียร์มันขายเป็นแกลลอน .... น่าจะแกลลอนละ 5 ลิตร .... ทำไมศูนย์ถึงไม่ขายให้เราทั้งแกลลอน แต่มาทอนขายเป็นลิตร ..... จริงๆมันก็ประหยัดนะครับ เพราะแทนที่จะจ่ายทั้งแกลลอน จ่ายแค่ 4 ลิตร ..... แต่ถ้าลองคิดดูดีๆ .... การที่เราจ่ายไป 4 ลิตร แต่ช่างต้องเปิดทั้งแกลลอน ดังนั้นมันจะต้องเหลืออยู่ประมาณ 1 ลิตรทุกครั้ง .... ถ้าทำการเปลี่ยน 4 คัน ก็จะได้น้ำมันเหลือมา 4 ลิตร เพื่อเติมให้อีกคันนึงได้โดยเอาที่เหลือ 1 ลิตรของแต่ละคันมาเทรวมกัน ..... เจ้าน้ำมันที่เหลือนี้อาจระเหยหายไปข้างนอก หรือไม่มันก็กลับมาเปลี่ยนให้กับรถลูกค้าในศูนย์ ... ประเด็นที่ผมกังวลคือ ถ้าถ่ายพร้อมกัน 4 คัน แล้วเหลือมาคันละลิตร เอามาเทรวมกัน แล้วคันที่ 5 เข้ามาเปลี่ยนพอดี ผมว่าแบบนี้คงไม่เป็นไร .... แต่ถ้า 4 คันที่เปลี่ยน มันเปลี่ยนกันคนละวัน เวลา .... น้ำมันอาจต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่าจะรวมได้ครบ 4 ลิตร .....และที่สำคัญคือวิธีการเก็บ เก็บอย่างไร ... น้ำมันที่เปิดไปแล้วนานๆ เก็บรักษาไม่ถูกวิธีจะมีผลถึงคุณภาพหรือไม่ ... อันนี้ผมก็ไม่รู้ ..... ผมเลยใช้วิธีซื้อมันทั้งแกลลอนครับ ปลอดภัยที่สุด เติมแล้วมันก็จะเหลืออยู่ในแกลลอนนั่นแหละครับ 1 ลิตร เอาไว้สำรองเวลาน้ำมันพร่องบ้าง หรือเก็บไว้นานๆแล้วผมก็ทิ้งไป ... แต่ที่แน่ๆคือผมได้น้ำมันเกียร์แท้ๆ ใหม่ๆ เปิดแกลลอนแน่ๆ ไม่ใช่น้ำมันรวมมิตร (ที่ไม่รู้ว่ามันรวมมาจากไหน เมื่อไหร่ และรวมอะไรไปบ้าง)

 :L4399: :L4399:
เคยเห็นหลายศูนย์ใช้น้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์แบบถังใหญ่ วัดตรวจเป็นลิตรในการเติมครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ต๋อง_มาบตาพุด ที่ 1 ตุลาคม 2014, 10:45:58
 :sd23: :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ปุ๊...kbo ที่ 1 ตุลาคม 2014, 10:52:36
 :L4399: ขอบคุณพี่หนึ่ง...สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากคะ...คงต้องก้มไปดูใต้รถบ่อยๆ ล่ะ...
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: kobv5 (กอบ) ที่ 1 ตุลาคม 2014, 11:40:53
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  :L2734:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: เด่น บางนา ที่ 1 ตุลาคม 2014, 12:00:09
สงสัยศูนย์ไม่ได้เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ให้หรือปล่าว แล้วมาคิดเงิน :L6419:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 1 ตุลาคม 2014, 12:32:39
เราสามารถตรวจดูน้ำมันเกียร์ได้เองครับว่าปกติหรือเปล่า
ด้วยการดึงก้านน้ำมันเกียร์ที่อยู่ในห้องเครื่องยนต์ อยู่คู่กับก้านวัดน้ำมันเครื่อง
โดยการสังเกตุที่สีครับ น้ำมันเกียร์ถึงแม้จะใช้มาแล้ว 40,000กิโลเมตร ก็จะต้องเป็นสีแดงครับ(เป็นสีของน้ำมันเกียร์ที่เปลี่ยนถ่ายที่ศูนย์มิตซู)
ถ้าดึงก้านน้ำมันเกียร์มาดูแล้วเป็นสีดำ แสดงว่ามีอะไรผิดปกติแล้ว ให้รีบตรวจสอบทันทีครับ ก่อนเกียร์จะพัง :sd21:
ส่วนกรณีของผมเกิดจากความไม่รู้ ว่าน้ำมันเกียร์ต้องเป็นสีแดง มารู้ก็จากภาพที่พี่ตามถ่ายให้ดูและจากคำแนะนำของอู่
เพราะปกติผมจะตรวจสอบน้ำมันเครื่อง และน้ำมันเกียร์อยู่บ่อยๆ ด้วยการดึงก้านวัดมาดู
แต่ดูแค่ว่าระดับน้ำมันปกติหรือไม่เท่านั้น ไม่มีความรู้เรื่องสีและสภาพของน้ำมันว่ายังดีอยู่หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 2 ตุลาคม 2014, 14:49:52
รับรถมาเรียบร้อยแล้วครับ สบายกระเป๋าไปเลย ถ่ายของเหลวเกือบทุกอย่างทุกอย่างทั้งน้ำมันเฟืองหน้า น้ำมันเกียร์ขับ4  น้ำมันเกียร์ซินเทติก
น้ำมันเครื่องเพิ่งไปถ่ายที่ปั้มเมื่ออาทิตย์ก่อนหิ้วน้ำมันเครื่องกับกรองน้ำมันเครื่องไปเอง

ค่าเสียหายที่โดนไปครับ ราคาค่าแรงใกล้เคียงกับศูนย์ที่เคยตีไว้ค่าแรงยกเกียร์ 3,500บาท
แต่ในรายการผมมีถ่ายน้ำมันเฟืองหน้าด้วย ถ้าเป็นศูนย์ก็ต้องโดนค่าแรงเพิ่ม
(http://upic.me/i/b9/20141002_140550_resize.jpg)
จะเห็นในรายการอะไหล่ที่แพงที่สุดคือน้ำมันเกียร์ EX C.V.T.  ที่ราคาลิตรละ 400บาท ใช้ไป9ลิตร เท่ากับ 3,600บาท
และช่างพี่สมบัติยังแนะนำว่าที่ 20,000กิโลเมตร ต้องเข้ามาถ่ายออกเพื่อล้างสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ แล้วต่อไป 30,000กิโลเมตรถ่ายครั้งนึงครับ

(http://upic.me/i/p3/20141002_122600_resize1.jpg)
ภาพสีของน้ำมันเกียร์รุ่น  ATF SP III ที่ใช้ในศูนย์ จะเป็นสีแดง
ส่วนน้ำมันเกียร์ EX ซินเทติก จะเป็นสีขาว ผมลองจับดูความหนึดแล้วไม่เหมือนกันครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 2 ตุลาคม 2014, 14:57:09
เราสามารถดูสีของน้ำมันเกียร์ว่าเปลี่ยนสีไปจากปกติหรือไม่ด้วยการดึงก้านน้ำมันเกียร์ ในห้องเครื่องมาดูสีของน้ำมันเกียร์ได้ครับ
(http://upic.me/i/2a/20141002_132427_resize1.jpg)

น้ำมันเกียร์ของผมเป็นสีขาวใส
(http://upic.me/i/df/20141002_132405_resize.jpg)

ส่วนการใช้งานหลังจากนี้ ถ้าผมสามารถจับอากการได้จะมาแจ้งให้พี่ๆทราบกันครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หยก วาฬน้ำเงิน ที่ 2 ตุลาคม 2014, 16:47:10
ภาพสีของน้ำมันเกียร์รุ่น  ATF SP III ที่ใช้ในศูนย์ จะเป็นสีแดง
ส่วนน้ำมันเกียร์ EX ซินเทติก จะเป็นสีขาว ผมลองจับดูความหนึดแล้วไม่เหมือนกันครับ

แบบไหนหนืดกว่าครับพี่หนึ่ง :L2761: :L2759: กำลังสงสัยว่าถ้าใช้แบบที่หนืดกว่าจะมีผลอะไรกับ flow rate ของน้ำมันเกียร์เวลาไหลผ่านไส้กรองหรือเปล่าน่ะครับ แค่ตั้งข้อสังเกตตามประสาคนไม่มีความรู้น่ะครับ :L4387:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 2 ตุลาคม 2014, 17:11:26
แบบไหนหนืดกว่าครับพี่หนึ่ง :L2761: :L2759: กำลังสงสัยว่าถ้าใช้แบบที่หนืดกว่าจะมีผลอะไรกับ flow rate ของน้ำมันเกียร์เวลาไหลผ่านไส้กรองหรือเปล่าน่ะครับ แค่ตั้งข้อสังเกตตามประสาคนไม่มีความรู้น่ะครับ :L4387:

 อธิบายไม่ถูกเหมือนกันครับพี่หยก แต่แบบสีแดงหนืดกว่าสีขาวนิดนึง ต้องลองสัมผัสดูครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: กิต <Black Angel> ที่ 2 ตุลาคม 2014, 17:23:02
สรุปงานนี้พี่หนึ่งใช้เวลาซ่อมไปนานแค่ไหนครับ  :L2761:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ตั้ม.. ที่ 2 ตุลาคม 2014, 17:49:17
ขอบคุณพี่หนึ่งสำหรับข้อมูลและการแบ่งปันความรู้ครับ :sd23: :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 2 ตุลาคม 2014, 18:43:00
สรุปงานนี้พี่หนึ่งใช้เวลาซ่อมไปนานแค่ไหนครับ  :L2761:
เอารถไปจอดวันจันทร์ช่วงบ่าย รับรถวันพฤหัสเที่ยง
แต่ช่างถอดประกอบ+รออะไหล่ ประมาณ 2วันครึ่งครับ (เริ่มถอดเกียร์วันอังคาร)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ปุ๊...kbo ที่ 2 ตุลาคม 2014, 19:39:36
ยินดีด้วยคะ...พี่หนึ่ง...กลับมา Fit & Firm เหมือนเดิมล่ะ...ข้อมูลพี่หนึ่งทำให้ต้องกลับไปเปิดห้องเครื่องดูก้านเช็คน้ำมันเกียร์ว่าสีดำหรือสีแดง...คืออย่างโล่งใจ

 :L4388:  ที่เช็คแล้วเป็นสีแดง ขอบคุณอีกครั้งสำหรับข้อมูลดีๆ คะ... :L2758:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ไซ ที่ 3 ตุลาคม 2014, 13:50:39
:sd06: :sd06: :sd06:  แล้วล่าสุดที่เปลี่ยนที่คลีนิคนี่ใช้กี่ลิตรครับพี่หนึ่ง  :L2761:

(http://www.pajerosportmania.com/forum/Themes/default/images/hidetag.png)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: กิต <Black Angel> ที่ 3 ตุลาคม 2014, 16:27:18


เป็นประโยชน์มากเลยครับพี่ไซ ขอบคุณมากครับ อย่างน้อยก็พอได้คำตอบสำหรับปริมาณนํ้ามันเกียร์ที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนถ่ายแล้วครับ  :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ไซ ที่ 3 ตุลาคม 2014, 20:57:13
เป็นประโยชน์มากเลยครับพี่ไซ ขอบคุณมากครับ อย่างน้อยก็พอได้คำตอบสำหรับปริมาณนํ้ามันเกียร์ที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนถ่ายแล้วครับ  :sd23:

ขอความรู้ด้วยนะก้าบพี่กิต
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ต้องใช้ 5.5 L. ป่ะครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: โอ นาเกลือ ที่ 3 ตุลาคม 2014, 21:18:16
     
    ได้อ่านแล้วขอคิดตามด้วยคน ได้มาแค่นี้ อาจมีประโยชน์หรือเปล่า คงไม่ว่ากันนะครับ


     น้ำมันเกียร์ที่เราเปลี่ยนถ่ายกันมาจากถาดรองน้ำมันใต้ห้องเกียร์  ส่วนที่เหลือคงค้างอยู่ในวาวล์บอดี่  ห้องเกียร์  กรองน้ำมันเกียร์  ออยคูลเลอร์ที่ฝังในหม้อน้ำ+ท่อจากเกียร์ไปถึงออยคูลเลอร์ ส่วนที่ไม่ได้ออกมาประมาณ 6 ลิตรเศษ
   
    1.ถ้าเปลี่ยนถ่ายตามระยะ จะถ่ายออกได้แค่ ประมาณ 3 ลิตรครึ่ง (น้ำมันใหม่3.5ลิตร+น้ำมันเก่า 6.2ลิตร)
   
    2.ใช้วิธีวนน้ำมันใหม่เข้าไปแทนที่น้ำมันเก่า วิธีหลังอาจใช้มากกว่า 9.7 ลิตร  ตามที่สเปคบอกไว้เพราะมีส่วนหนึ่งที่เข้าไปผสมกับน้ำมันเก่าอยู่บ้างแต่คงมีน้อยมากที่เป็นน้ำมันเก่า ผ่านๆตาเห็นมีคนทำเครื่องเปลี่ยนถ่ายระบบวนออกมาขายบ้างแล้ว แต่มีใช้กันไม่มากนัก 
   
    3.ถ้าถ่ายท้งหมดคงต้องรื้อออกมาไล่น้ำมันเก่าออก ตั้งแต่ถาดรอง กรอง วาวล์บอดี้ ห้องเกียร์ รวมทั้งที่ออยคูลเลอร์ด้วย

    4.ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันมากคือเปลี่ยนแค่ครึงอายุของน้ำมันเกียร์ตามระยะ หรือเปลี่ยนให้บ่อยๆ  ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารื้อออกเปลี่ยนทั้งระบบ เพราะไม่มีค่าแรงรื้อเกียร์ไล่น้ำมัน

    ที่จริงแล้วน้ำมันเกียร์มีอายุการใช้งานได้มากกว่า 40000 กิโลเมตร แต่ที่ให้เปลี่ยนถ่ายตามระยะทางนี้เพื่อให้มีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมกับน้ำมันที่ค้างอยู่ในระบบเกียร์ เป็นค่าที่ผู้ออกแบบใช้เป็นมาตรฐาน ถ้าสังเกตุจากที่บางท่านเปลี่ยนถ่ายที่ 20000-25000 น้ำมันจะยังคงเป็นสีแดงค่อนข้างใสอยู่ เนื่องจากมีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมก่อนเวลาที่น้ำมันส่วนที่ถ่ายออกมาไม่ได้ จะมีการเปลี่ยนสภาพตามข้อกำหนด ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะคิดว่าเหมือนกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่ต้องถ่ายให้หมดและต้องเปลี่ยนกรองด้วย

   ส่วนตัวที่ผมเองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ก็ใช้วิธีที่ 4. มาสองครั้ง ที่ระยะ 25000 กับ 50000 กะว่าคร้้งที่สามจะทำการเปลี่ยนที่75000 แต่จะถอดถาดรองน้ำมันออกมาเพื่อเปลี่ยนกรองด้วย และไล่น้ำมันจากออยคูลเลอร์ในคราวเดียวกัน น่าจะต้องใช้น้ำมันเกียร์ที่เติมเข้าไปให้ซัก 6 ลิตรเศษ

 

    ท่อทางเดินน้ำมันเกียร์มาที่หม้อน้ำเพื่อลดอุณภูมิ กับ ใช้อุ่นน้ำมันให้ร้อนขึ้นตอนที่อากาศเย็น
 (http://upic.me/i/q5/oilpipe.jpg)
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ตุ้ย_Yindee ที่ 3 ตุลาคม 2014, 21:18:45
 :sd10: :sd10: :sd10:
 :L4384: :L4384: :L4384:

ขอบคุณพี่ไซและพี่ิกิตมากๆครับ
ได้ความรู้อีกแล้ว(แต่รอพี่กิตแปลก่อน...555)
ผมมันเด็กวัดครับ ตกอังกฤษซะด้วย


เพิ่มเติม...
พี่โอก็มาอีกคน ได้ความรู้เพิ่มอีก
ขอบคุณครับ...พี่โอ

 :sd23: :sd23: :sd23:
 :L2758: :L2758: :L2758:


 :L2905: :L2905: :L2905:
 :L2900: :L2900: :L2900:
 :L2904: :L2897: :L2901:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ไซ ที่ 3 ตุลาคม 2014, 22:23:50
     
    ได้อ่านแล้วขอคิดตามด้วยคน ได้มาแค่นี้ อาจมีประโยชน์หรือเปล่า คงไม่ว่ากันนะครับ


     น้ำมันเกียร์ที่เราเปลี่ยนถ่ายกันมาจากถาดรองน้ำมันใต้ห้องเกียร์  ส่วนที่เหลือคงค้างอยู่ในวาวล์บอดี่  ห้องเกียร์  กรองน้ำมันเกียร์  ออยคูลเลอร์ที่ฝังในหม้อน้ำ+ท่อจากเกียร์ไปถึงออยคูลเลอร์ ส่วนที่ไม่ได้ออกมาประมาณ 6 ลิตรเศษ
   
    1.ถ้าเปลี่ยนถ่ายตามระยะ จะถ่ายออกได้แค่ ประมาณ 3 ลิตรครึ่ง (น้ำมันใหม่3.5ลิตร+น้ำมันเก่า 6.2ลิตร)
   
    2.ใช้วิธีวนน้ำมันใหม่เข้าไปแทนที่น้ำมันเก่า วิธีหลังอาจใช้มากกว่า 9.7 ลิตร  ตามที่สเปคบอกไว้เพราะมีส่วนหนึ่งที่เข้าไปผสมกับน้ำมันเก่าอยู่บ้างแต่คงมีน้อยมากที่เป็นน้ำมันเก่า ผ่านๆตาเห็นมีคนทำเครื่องเปลี่ยนถ่ายระบบวนออกมาขายบ้างแล้ว แต่มีใช้กันไม่มากนัก 
   
    3.ถ้าถ่ายท้งหมดคงต้องรื้อออกมาไล่น้ำมันเก่าออก ตั้งแต่ถาดรอง กรอง วาวล์บอดี้ ห้องเกียร์ รวมทั้งที่ออยคูลเลอร์ด้วย

    4.ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันมากคือเปลี่ยนแค่ครึงอายุของน้ำมันเกียร์ตามระยะ หรือเปลี่ยนให้บ่อยๆ  ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารื้อออกเปลี่ยนทั้งระบบ เพราะไม่มีค่าแรงรื้อเกียร์ไล่น้ำมัน

    ที่จริงแล้วน้ำมันเกียร์มีอายุการใช้งานได้มากกว่า 40000 กิโลเมตร แต่ที่ให้เปลี่ยนถ่ายตามระยะทางนี้เพื่อให้มีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมกับน้ำมันที่ค้างอยู่ในระบบเกียร์ เป็นค่าที่ผู้ออกแบบใช้เป็นมาตรฐาน ถ้าสังเกตุจากที่บางท่านเปลี่ยนถ่ายที่ 20000-25000 น้ำมันจะยังคงเป็นสีแดงค่อนข้างใสอยู่ เนื่องจากมีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมก่อนเวลาที่น้ำมันส่วนที่ถ่ายออกมาไม่ได้ จะมีการเปลี่ยนสภาพตามข้อกำหนด ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะคิดว่าเหมือนกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่ต้องถ่ายให้หมดและต้องเปลี่ยนกรองด้วย

   ส่วนตัวที่ผมเองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ก็ใช้วิธีที่ 4. มาสองครั้ง ที่ระยะ 25000 กับ 50000 กะว่าคร้้งที่สามจะทำการเปลี่ยนที่75000 แต่จะถอดถาดรองน้ำมันออกมาเพื่อเปลี่ยนกรองด้วย และไล่น้ำมันจากออยคูลเลอร์ในคราวเดียวกัน น่าจะต้องใช้น้ำมันเกียร์ที่เติมเข้าไปให้ซัก 6 ลิตรเศษ

 

    ท่อทางเดินน้ำมันเกียร์มาที่หม้อน้ำเพื่อลดอุณภูมิ กับ ใช้อุ่นน้ำมันให้ร้อนขึ้นตอนที่อากาศเย็น
 (http://upic.me/i/q5/oilpipe.jpg)

 :L2900: :L2900: :L2900:

 :sd23: :sd23: :sd23:

ความรู้ทั้งน้านนนน

ดูจาก Manual ที่เค้าแนะนำให้ทำไม่รู้ว่ามีศูนย์ไหนทำตาม Manual บ้าง เท่าที่พอแปลได้ ยุ่งยากเอาเรื่องเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หมูน้ำตาล ที่ 4 ตุลาคม 2014, 11:41:31
เคยเห็นหลายศูนย์ใช้น้ำมันเครื่องและน้ำมันเกียร์แบบถังใหญ่ วัดตรวจเป็นลิตรในการเติมครับ

ของผมตอนเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ ทางศูนย์ก็ใช้แบบถังเหมือนถังเติมลมยางมาเติมให้ ที่รถก่อน หลังจากนั้น ก็ไปเอาน้ำมันเกียร์แบบ แกลลอนที่เราซื้อมาเติมใส่ในถังนี้ใหม่ครับ :L2904: :L2904: :L2904:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 4 ตุลาคม 2014, 12:47:50

พี่โอ นาเกลือ อธิบายมากระจ่างแจ้งมากครับ กด :L6428: ให้ครับ
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ปุ๊...kbo ที่ 4 ตุลาคม 2014, 18:20:04
     
    ได้อ่านแล้วขอคิดตามด้วยคน ได้มาแค่นี้ อาจมีประโยชน์หรือเปล่า คงไม่ว่ากันนะครับ


     น้ำมันเกียร์ที่เราเปลี่ยนถ่ายกันมาจากถาดรองน้ำมันใต้ห้องเกียร์  ส่วนที่เหลือคงค้างอยู่ในวาวล์บอดี่  ห้องเกียร์  กรองน้ำมันเกียร์  ออยคูลเลอร์ที่ฝังในหม้อน้ำ+ท่อจากเกียร์ไปถึงออยคูลเลอร์ ส่วนที่ไม่ได้ออกมาประมาณ 6 ลิตรเศษ
   
    1.ถ้าเปลี่ยนถ่ายตามระยะ จะถ่ายออกได้แค่ ประมาณ 3 ลิตรครึ่ง (น้ำมันใหม่3.5ลิตร+น้ำมันเก่า 6.2ลิตร)
   
    2.ใช้วิธีวนน้ำมันใหม่เข้าไปแทนที่น้ำมันเก่า วิธีหลังอาจใช้มากกว่า 9.7 ลิตร  ตามที่สเปคบอกไว้เพราะมีส่วนหนึ่งที่เข้าไปผสมกับน้ำมันเก่าอยู่บ้างแต่คงมีน้อยมากที่เป็นน้ำมันเก่า ผ่านๆตาเห็นมีคนทำเครื่องเปลี่ยนถ่ายระบบวนออกมาขายบ้างแล้ว แต่มีใช้กันไม่มากนัก 
   
    3.ถ้าถ่ายท้งหมดคงต้องรื้อออกมาไล่น้ำมันเก่าออก ตั้งแต่ถาดรอง กรอง วาวล์บอดี้ ห้องเกียร์ รวมทั้งที่ออยคูลเลอร์ด้วย

    4.ส่วนใหญ่ที่นิยมทำกันมากคือเปลี่ยนแค่ครึงอายุของน้ำมันเกียร์ตามระยะ หรือเปลี่ยนให้บ่อยๆ  ค่าใช้จ่ายน้อยกว่ารื้อออกเปลี่ยนทั้งระบบ เพราะไม่มีค่าแรงรื้อเกียร์ไล่น้ำมัน

    ที่จริงแล้วน้ำมันเกียร์มีอายุการใช้งานได้มากกว่า 40000 กิโลเมตร แต่ที่ให้เปลี่ยนถ่ายตามระยะทางนี้เพื่อให้มีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมกับน้ำมันที่ค้างอยู่ในระบบเกียร์ เป็นค่าที่ผู้ออกแบบใช้เป็นมาตรฐาน ถ้าสังเกตุจากที่บางท่านเปลี่ยนถ่ายที่ 20000-25000 น้ำมันจะยังคงเป็นสีแดงค่อนข้างใสอยู่ เนื่องจากมีน้ำมันใหม่เข้าไปผสมก่อนเวลาที่น้ำมันส่วนที่ถ่ายออกมาไม่ได้ จะมีการเปลี่ยนสภาพตามข้อกำหนด ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ใช้รถส่วนใหญ่จะคิดว่าเหมือนกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ที่ต้องถ่ายให้หมดและต้องเปลี่ยนกรองด้วย

   ส่วนตัวที่ผมเองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ก็ใช้วิธีที่ 4. มาสองครั้ง ที่ระยะ 25000 กับ 50000 กะว่าคร้้งที่สามจะทำการเปลี่ยนที่75000 แต่จะถอดถาดรองน้ำมันออกมาเพื่อเปลี่ยนกรองด้วย และไล่น้ำมันจากออยคูลเลอร์ในคราวเดียวกัน น่าจะต้องใช้น้ำมันเกียร์ที่เติมเข้าไปให้ซัก 6 ลิตรเศษ

 

    ท่อทางเดินน้ำมันเกียร์มาที่หม้อน้ำเพื่อลดอุณภูมิ กับ ใช้อุ่นน้ำมันให้ร้อนขึ้นตอนที่อากาศเย็น
 (http://upic.me/i/q5/oilpipe.jpg)

 :sd23:  :L4399:  :L2758:  :L2734:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ้ย nemesis ที่ 18 ธันวาคม 2014, 03:03:51
มีคำถามครับพี่หนึ่ง ถ้าต้องการเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ต้องยกเกียร์ลงมาทั้งลูกอย่างพี่หนึ่งรึเปล่าครับ

แล้วศูนย์รู้ได้ไงครับว่าซีลทอร์คมีปัญหา รึว่าเป็นอาการปกติของเกียร์รุ่นนี้อ่ะครับ

ขอบคุณครับ :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่หนึ่ง 111 ที่ 18 ธันวาคม 2014, 12:03:20
มีคำถามครับพี่หนึ่ง ถ้าต้องการเปลี่ยนกรองน้ำมันเกียร์ต้องยกเกียร์ลงมาทั้งลูกอย่างพี่หนึ่งรึเปล่าครับ

ไม่ค้องยกเกียร์ครับ แค่ถอดอ่างน้ำมันเกียร์เท่านั้น

แล้วศูนย์รู้ได้ไงครับว่าซีลทอร์คมีปัญหา รึว่าเป็นอาการปกติของเกียร์รุ่นนี้อ่ะครับ

มีน้ำมันซึมออกมาระะหว่างหัวเกียร์กับท้ายเครื่อง เป็นปกติของเกียร์ออโต้ถ้ารั่วซึมต้องแก้ไขแบบนี้ครับ

ขอบคุณครับ :sd23:

หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ตุ้ย nemesis ที่ 18 ธันวาคม 2014, 23:58:16
ขอบคุณมากครับพี่หนึ่ง  :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: พี่ดล (2523) ที่ 19 ธันวาคม 2014, 10:39:39
ขอบคุณ พี่หนึ่ง  :sd23:  ที่นำปัญหาเรื่องเกียร์ และ วิธีการแก้ไขปัญหา  :L2900:  ผมคงต้องเน้นการบริการของศูนย์ให้มากขึ้นแล้ว  :L2739:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: เจ๊ก สุวรรณภูมิ ที่ 19 ธันวาคม 2014, 20:09:35
ได้ความรู้จากพี่หนึ่ง111 และพี่ๆอีกหลายท่านเลยครับ :L2734:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: surut jantorn ที่ 19 ธันวาคม 2014, 20:32:32
ขอบคุณ พี่หนึ่ง  :sd23:  ที่นำปัญหาเรื่องเกียร์ และ วิธีการแก้ไขปัญหา  :L2900:  ผมคงต้องเน้นการบริการของศูนย์ให้มากขึ้นแล้ว  :L2739:
ยังไม่เข็ด  :L2754:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: หยก วาฬน้ำเงิน ที่ 20 ธันวาคม 2014, 02:26:09
ขอบคุณ พี่หนึ่ง  :sd23:  ที่นำปัญหาเรื่องเกียร์ และ วิธีการแก้ไขปัญหา  :L2900:  ผมคงต้องเน้นการบริการของศูนย์ให้มากขึ้นแล้ว  :L2739:

เหนื่อยหน่อยนะครับพี่ดล :L2739:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: ติงลี่.. ที่ 20 ธันวาคม 2014, 02:48:02
ขอบคุณครับพี่หนึ่ง  :sd23:
หัวข้อ: Re: ประสบการณ์สยองกับซีลเกียร์ท้ายเครื่องรั่วซึม
เริ่มหัวข้อโดย: manhorse ที่ 21 ธันวาคม 2014, 09:21:18
 :sd23: :sd23: :sd23:
ขอบคุณมากๆครับพี่หนึ่ง ได้ความรู้ขึ้นมาอีกครับ