Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Wheels, Tires, Brakes & Suspension Systems => ข้อความที่เริ่มโดย: สิทธิ์ ที่ 4 สิงหาคม 2014, 08:21:34
-
สวัสดีครับพี่ๆ ปกติเป็นพวกชอบอ่านอย่างเดียวไม่ค่อยได้เข้ามาเขียนเท่าไหร่ วันนี้มีประสบการ์ณงงมาแชร์ให้ฟังครับ
ผมใช้เครื่อง v6 ติดถังแก๊สโดนัส71ลิตรห้อยท้าย
ทำครั้งที่ 1 เปลี่ยนโช๊คหลังอย่างเดียว เป็น MX-6 พอดีของเก่าใช้ได้ 2 หมื่นโลมันก็รั่ว
- เปลี่ยนแล้วลองปรับ เบอร์3 ยังไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ วิ่งเส้นบางนาตราดพอจับความรู้สึกได้นิดหน่อยว่าดีขึ้นแต่ไม่มาก เลยให้เวลาทำใจ+ให้เวลาโช๊ครันอินเต็มที่ ระหว่างนั้นก็ปรับไปปรับมา ถึงเบอร์6 สรุปก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก
ทำครั้งที่ 2 เปลี่ยน สปริงหน้า/หลัง + โช๊คหน้าIRON MAN FOAM CELL โช๊คหลัง MX-6 คงเดิม
- เออ ดูสูงขึ้นดี ชอบ ขับได้สัก3-4 เดือน เริ่มรู้สึกว่า แมร่งแข็งอย่างเดียว ไม่เห็นนุ่มเหมือนนั่งโซฟาเลยที่พี่ท่านโฆษณาเลย ลองวิ่งเส้นบางนาตราดลองอัดดูเมียด่าว่ารถแข็งจัง เลยทำใจอีกรอบ
(เปลี่ยนค่ายยักษ์เขียวเพราะโฆณาชวนเชื่ออย่างเดียวจริง ๆ แบบว่าชอบลองครับ)
- ครั้งที่3 เปลี่ยนยางเดิมที่ติดรถ เป็น TOYO A/T 265/70/17 แล้วปรับโช๊คหลังเบอร์3
ตอนแรกวางแผนจะเปลี่ยนแม็ก แต่พอดีเมียนั่งไปด้วยเลยได้มาแค่ยาง เปลี่ยนปุ๊บขนาดล้อโรงงาน ยังสวยขึ้น ดุขึ้น ชอบมาก คิดว่าเสียงคงดังขึ้นนิดหน่อยพอรับได้
ปรากฎว่า พอขับออกจากTop powwer โอ้พระเจ้าจอจช์ มันยอดมากกกกกกกกกกกกกก
นิ่งงงงงง/นุ่มมมมมมมมมมม/เงียบบบบบบบบ :sd27:
สรุปครับพี่ๆ ผมสงสัยว่า มันเป็นที่โช๊คหรือยางกันแน่ที่ทำให้ช่วงล่างของรถทำงานดีขึ้นเปลี่ยนไปเป็นคนละคันกันเลย :L4398:
ปล.ผมแยกแยะความรู้สึกออกครับว่า นุ่ม ยวบ แข็ง หนึบ อาการเป็นไง
-
:sd23: พี่สิทธิ์ EMU FULLSET ทุกอย่างจบครับ
-
ผมคิดว่าสปริงรถพี่สิทธิน่าจะเป็นสปริงเดิมตอนเปลี่ยน MX-6 เพราะไม่เห็นมีพูดถึง แล้วมาเปลี่ยนสปริงตอนเปลี่ยนโช๊คหน้าเป็น IRON Man
ทีนี้มาดูอาการกันซักหน่อย อาการที่พวกเราชอบพูดถึงกันคือ "แน่น หนึบ" นั่นหมายถึงอาการโคลงตัวของรถมีน้อย เมื่อรถอยู่ในจังหวะที่น้ำหนักของรถไม่ลงที่จุด CG ซึ่งอาการนี้จะพบได้ง่ายตอนเข้าโค้ง หรือตอนมุดแซงซ้ายขวาแบบเร็วๆ ซึ่งการเปลี่ยนช่วงล่างให้มีความแน่นหนึบคือจะมีอาการโคลงตัวของรถน้อย การเข้าโค้งในความเร็วระดับหนึ่งสามารถทำได้โดยตัวรถไม่โย้ออกไปทางโค้งนอกมากจนทำให้เรารู้สึกว่ามันจะหลุดโค้ง หรือการมุดซ้ายขวาแบบเร็วๆสามารถทำได้โดยที่เราไม่รู้สึกว่าท้ายรถมันจะไม่ยอมตามเรามา สำหรับผมอาการแน่นหนึบจะประมาณนี้ครับ
ส่วนอีกอย่างคือ "นิ่ง" อันนี้สำหรับผมแล้วความนิ่งของรถอยู่ที่การขับทางตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับสภาพถนนที่ขรุขระ ไม่เรียบ เป็นหลุมบ่อ สามารถใช้ความเร็วผ่านถนนดังกล่าวได้โดยที่ตัวรถนิ่ง ไม่เซ ไม่ไถลไปตามการตกหลุมบ่อบนพื้นผิว หรือพวกมาลัยไม่สะบัดไปตามการตกอุปสรรคดังกล่าว
รวมกันเราจะเรียกว่า "นิ่ง แน่น หนึบ" ซึ่งจะได้มาจากการปรับแต่งช่วงล่าง ซึ่งหมายถึง โช๊ค + สปริง + ล้อ + ยาง ทั้ง 4 อย่าง หากสามารถ set ให้สมดุลกัน การทำงานของทั้ง 4 อย่างจะสอดคล้อง และให้ความรู้สึกกับเราอย่าง "นิ่ง แน่น หนึบ"
การทำงานของ โช๊คกับสปริง นั้นเป็นการทำงานร่วมกัน สปริงที่แข็งจะช่วยในเรื่องของการทรงตัวได้ดีกว่าสปริงที่นุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าโค้งหรือมุดซ้ายขวา เพราะสปริงแข็งสามารถประคองน้ำหนักตัวรถได้ดีกว่าจึงทำให้น้ำหนักของรถไม่หลุดออกจาก CG มากนัก แต่ข้อเสียคือมันแข็ง ทำให้ความรู้สึกถึงการสะเทือนของตัวรถเมื่อผ่านพื้นผิวไม่เรียบส่งต่อสู่ผู้ขับและผู้โดยสารได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวิ่งบนความเร็วต่ำ
ส่วนตัวโช๊คนั้น ทำหน้าที่ในการรับแรงและผ่อนแรงจากสปริง คือการยุบตัวหรือยืดตัวของสปริงนั้น หากไม่มีโช๊คช่วยดึงไว้ จะทำให้มันยุบและยืดเต็มที่ รถจะมีอาการกระโดดเมื่อสปริงทำงาน ตัวโช๊คจะเป็นตัวดึงแรงของสปริงไว้ ไม่ให้ยุบหรือยืดอย่างรุนแรงมากเกินไป ดังนั้นโช๊คที่แข็งก็จะใช้ได้ดีกับสปริงที่แข็ง เพราะตัองรับแรงในการยุบและยืดเยอะๆ การทดสอบความเหมาะสมของโช๊ค ผมจะใช้วิธีการทดสอบด้วยการโดดสะพาน เมื่อรถกระโจนขึ้นสะพานไป ในจังหวะที่ลงมานั้นดูว่ารถมีอาการเด้งขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน คนขับจะรู้สึกถึงอาการ rebound ของสปริง หากโช๊คที่ set ได้เหมาะสมกับสปริง อาการ rebound จะเกิดขึ้นไม่มาก คือจะมีการยุบตัวในจังหวะลง และเมื่อยืดขึ้นแล้ว โช๊คจะดึงไม่ให้สปริงยุบตัวลงมามากนัก ถ้าให้จินตนาการง่ายๆ คือโช๊คที่ดึงสปริงไม่อยู่คืออาการที่รถลงสะพานมาแล้วเด้งเหมือนนั่งอยู่บนสปริง แบบนี้เรียกว่าสปริงแข็ง โช๊คนุ่ม แต่หาก set ให้เหมาะสม รถจะ rebound ขึ้น 1-2 ครั้งเท่านั้น แล้วจะวิ่งต่อไปอย่างปกติ รถยุโรปแพงๆ แทบจะไม่มี rebound เลยในการกระโดดสะพาน
ส่วนยางนั้นมีผลเช่นกัน เพราะโครงสร้างยางที่ไม่เหมือนกันย่อมมีผลต่อการขับขี่ ยาง TOYO A/T เป็นยางที่ดีทีเดียว ความเงียบไม่เป็นรองใคร (ในตอนซื้อ ใช้ๆไปเมื่อเนื้อยางแข็งมาลองฟังกันอีกที) และยางใหม่เนื้อยางยังดี มีประสิทธิภาพในการซึมซับแรงสะเทือนจากถนนให้ได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ล้อ 16 หรือ 17 ที่มีแก้มยางสูง จะช่วยรับแรงให้มากขึ้น (สังเกตุดูว่ายาง 16 17 ขับแล้วจะนุ่มกว่ายาง 20) ดังนั้นหากพี่สิทธิเปลี่ยนยาง จากเดิมมาเป็น AT ยางที่หนาขึ้น แก้มที่หนาขึ้นย่อมให้ความรู้สึกถึงความนุ่ม นิ่งได้มากกว่ายางเดิมที่ใช้งานมาพอสมควรแล้ว (พี่สิทธิไม่ได้บอกว่าใช้มาเท่าไหร่) สำหรับยางนั้นขอให้ทำใจไว้ซักนิดว่าอาการดังกล่าวมันจะอยู่กับเราซักช่วงหนึ่ง จากนั้นเมื่อใช้ไปแล้วเนื้อยางแข็งขึ้น อาการก็อาจเปลี่ยนไปด้วย เป็นเรื่องปกติธรรมดา
-
:L2900: ครับพี่ตาม :L6428: จัดไป1like
-
:L2900: ครับพี่ตาม :L6428: จัดไป1like
:L2758: :L2758:
-
มาต่ออีกหน่อย
พี่สิทธิ ครั้งแรกเปลี่ยนโช๊ค MX-6 ด้านหลัง สปริงเดิม การเปลี่ยนลักษณะนี้ไม่น่าจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันได้มากนัก เพราะถ้าพูดถึงความแน่นหนึบ คงยังไม่ได้จากสปริงเดิม ส่วนการเปลี่ยนโช๊คเฉพาะด้านหลัง อาจทำให้ลดจังหวะ rebound ลงได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีถังแก๊ซกด สปริงมีโอกาสเด้งเยอะ โช๊คที่แข็งกว่าน่าจะดึงสปริงได้อยู่ แต่ถ้าไม่โดดสะพานจับอาการจริงๆไม่น่ารู้สึก ยิ่งถ้าปรับไว้เบอร์ต่ำคงไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
รอบต่อมาเปลี่ยนสปริงหน้าหลัง (ผมคาดว่าน่าจะเป็นค่ายยักษ์เขียว) โช๊คหน้า Iron Man โช๊คหลัง MX-6
การเปลี่ยนแบบนี้แน่นอนว่าจะต้องรู้สึกแข็งขึ้นจนแตกต่างแน่ๆ เพราะเป็นการกระโดดจากช่วงล่างแทบจะเดิมๆ ขึ้นมาเป็นสปริงแข็ง โช๊คแข็ง ดังนั้นน่าจะรับรู้ได้ถึงความแตกต่างแน่ๆ จากรถเดิมๆที่ set มาให้นุ่มนวล มาปรับเป็นช่วงล่างสมรรถนะที่สูงขึ้น แข็งขึ้น ย่อมต้องรู้สึกถึงความกระด้างมากขึ้นเป็นธรรมดา ผมเดาเอาเองว่าพี่สิทธิคงไม่ได้ทดสอบความแตกต่างของช่วงล่างโดยการเข้าโค้งแรงๆ การมุดซ้ายขวาเร็วๆ หรือการรูดถนนขรุขระ หรือการกระโดดสะพาน ซึ่งน่าจะทำให้พี่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างของช่วงล่างชุดใหม่ ซึ่งน่าจะทำสิ่งเหล่านั้นได้ดีขึ้น แต่พี่สิทธิจับความรู้สึกจากการขับปกติ จึงรู้สึกถึงความกระด้างมากขึ้นของช่วงล่าง ถ้าชอบความรู้สึกนุ่มนวลตอนขับปกติ ชุดนี้ไม่น่าตอบโจทย์ได้ครับ ลองไปดูพวกโอลินพวกนั้นน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่า
รอบต่อมาเปลี่ยนยางแล้วรู้สึกนุ่มนวล เงียบ และหนึบขึ้น ก็ปกติครับ ยางใหม่ คุณภาพดีกว่ายางเดิมด้วย (ยางเดิมนี่คุณภาพค่อนข้างแย่) ย่อมให้ความรู้สึกเงียบขึ้น ดอกใหม่ ยางใหม่ เสียงเงียบเป็นปกติ นุ่มนวลขึ้นคาดว่าน่าจะมาจากใช้แก้มยาง 70 สามารถ soft แรงสะเทือน หรือความกระด้างลงไปได้ด้วย ประกอบกับยางใหม่ นิ่ม ความกระด้างก็ลดลงตามไปด้วย หนึบขึ้น ก็แน่นอนครับ ยางใหม่ ดอกกริ๊บๆ ยางนุ่มๆเกาะถนนดีนักแล
การเปลี่ยนช่วงล่างของพี่สิทธิ รวมถึงอาการที่พี่จับได้ สำหรับผมนั้น ปกติครับ มันเป็นแบบนั้นแหละ แนะนำว่าถ้าพี่จะเปลี่ยนรอบต่อไป ลองมา meeting ดูบ้าง มาลองรถที่เปลี่ยนช่วงล่างไปแล้วดูครับ ลองหลายๆแบบ จะทำให้พี่ค้นหาความต้องการของตัวเองได้ จะได้ไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายที นอกจากนี้พี่ๆหลายๆคนยังสามารถทดสอบโช๊คแล้วบอกพี่สิทธิได้ด้วยว่าความรู้สึกแบบไหนคือนิ่ง แน่น หนึบ ด้วยครับ
:L4399: :L4399:
-
:L2734: :L2734: :L2734:
-
อ่านข้อมูลพี่ตูมตามแล้วเข้าใจดีครับ
:sd23:
-
มาเก็บความรู้จากพี่ตูมตามครับ :L4399:
-
ขอบคุณครับพี่ตูมตามหรือสำหรับข้อมูลความรู้ :sd23:
ที่จริงแล้วผมก็ตั้งใจเปลี่ยนอีมูสปอร์ตครับ แต่ด้วยความที่ไม่มีเวลา เลยต้องอาศัยร้านใกล้บ้านที่สุดประกอบกับอิทธิพลของสือ ก็เลยเปลี่ยนครับ เอาไว้ชุดนี้เสีย ถ้ายังไม่เปลี่ยนรถรอบหน้าค่อย เป็นอีมูครับพี่ :sd10:
-
ผมคิดว่าสปริงรถพี่สิทธิน่าจะเป็นสปริงเดิมตอนเปลี่ยน MX-6 เพราะไม่เห็นมีพูดถึง แล้วมาเปลี่ยนสปริงตอนเปลี่ยนโช๊คหน้าเป็น IRON Man
ทีนี้มาดูอาการกันซักหน่อย อาการที่พวกเราชอบพูดถึงกันคือ "แน่น หนึบ" นั่นหมายถึงอาการโคลงตัวของรถมีน้อย เมื่อรถอยู่ในจังหวะที่น้ำหนักของรถไม่ลงที่จุด CG ซึ่งอาการนี้จะพบได้ง่ายตอนเข้าโค้ง หรือตอนมุดแซงซ้ายขวาแบบเร็วๆ ซึ่งการเปลี่ยนช่วงล่างให้มีความแน่นหนึบคือจะมีอาการโคลงตัวของรถน้อย การเข้าโค้งในความเร็วระดับหนึ่งสามารถทำได้โดยตัวรถไม่โย้ออกไปทางโค้งนอกมากจนทำให้เรารู้สึกว่ามันจะหลุดโค้ง หรือการมุดซ้ายขวาแบบเร็วๆสามารถทำได้โดยที่เราไม่รู้สึกว่าท้ายรถมันจะไม่ยอมตามเรามา สำหรับผมอาการแน่นหนึบจะประมาณนี้ครับ
ส่วนอีกอย่างคือ "นิ่ง" อันนี้สำหรับผมแล้วความนิ่งของรถอยู่ที่การขับทางตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับสภาพถนนที่ขรุขระ ไม่เรียบ เป็นหลุมบ่อ สามารถใช้ความเร็วผ่านถนนดังกล่าวได้โดยที่ตัวรถนิ่ง ไม่เซ ไม่ไถลไปตามการตกหลุมบ่อบนพื้นผิว หรือพวกมาลัยไม่สะบัดไปตามการตกอุปสรรคดังกล่าว
รวมกันเราจะเรียกว่า "นิ่ง แน่น หนึบ" ซึ่งจะได้มาจากการปรับแต่งช่วงล่าง ซึ่งหมายถึง โช๊ค + สปริง + ล้อ + ยาง ทั้ง 4 อย่าง หากสามารถ set ให้สมดุลกัน การทำงานของทั้ง 4 อย่างจะสอดคล้อง และให้ความรู้สึกกับเราอย่าง "นิ่ง แน่น หนึบ"
การทำงานของ โช๊คกับสปริง นั้นเป็นการทำงานร่วมกัน สปริงที่แข็งจะช่วยในเรื่องของการทรงตัวได้ดีกว่าสปริงที่นุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าโค้งหรือมุดซ้ายขวา เพราะสปริงแข็งสามารถประคองน้ำหนักตัวรถได้ดีกว่าจึงทำให้น้ำหนักของรถไม่หลุดออกจาก CG มากนัก แต่ข้อเสียคือมันแข็ง ทำให้ความรู้สึกถึงการสะเทือนของตัวรถเมื่อผ่านพื้นผิวไม่เรียบส่งต่อสู่ผู้ขับและผู้โดยสารได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อวิ่งบนความเร็วต่ำ
ส่วนตัวโช๊คนั้น ทำหน้าที่ในการรับแรงและผ่อนแรงจากสปริง คือการยุบตัวหรือยืดตัวของสปริงนั้น หากไม่มีโช๊คช่วยดึงไว้ จะทำให้มันยุบและยืดเต็มที่ รถจะมีอาการกระโดดเมื่อสปริงทำงาน ตัวโช๊คจะเป็นตัวดึงแรงของสปริงไว้ ไม่ให้ยุบหรือยืดอย่างรุนแรงมากเกินไป ดังนั้นโช๊คที่แข็งก็จะใช้ได้ดีกับสปริงที่แข็ง เพราะตัองรับแรงในการยุบและยืดเยอะๆ การทดสอบความเหมาะสมของโช๊ค ผมจะใช้วิธีการทดสอบด้วยการโดดสะพาน เมื่อรถกระโจนขึ้นสะพานไป ในจังหวะที่ลงมานั้นดูว่ารถมีอาการเด้งขึ้นลงมากน้อยแค่ไหน คนขับจะรู้สึกถึงอาการ rebound ของสปริง หากโช๊คที่ set ได้เหมาะสมกับสปริง อาการ rebound จะเกิดขึ้นไม่มาก คือจะมีการยุบตัวในจังหวะลง และเมื่อยืดขึ้นแล้ว โช๊คจะดึงไม่ให้สปริงยุบตัวลงมามากนัก ถ้าให้จินตนาการง่ายๆ คือโช๊คที่ดึงสปริงไม่อยู่คืออาการที่รถลงสะพานมาแล้วเด้งเหมือนนั่งอยู่บนสปริง แบบนี้เรียกว่าสปริงแข็ง โช๊คนุ่ม แต่หาก set ให้เหมาะสม รถจะ rebound ขึ้น 1-2 ครั้งเท่านั้น แล้วจะวิ่งต่อไปอย่างปกติ รถยุโรปแพงๆ แทบจะไม่มี rebound เลยในการกระโดดสะพาน
ส่วนยางนั้นมีผลเช่นกัน เพราะโครงสร้างยางที่ไม่เหมือนกันย่อมมีผลต่อการขับขี่ ยาง TOYO A/T เป็นยางที่ดีทีเดียว ความเงียบไม่เป็นรองใคร (ในตอนซื้อ ใช้ๆไปเมื่อเนื้อยางแข็งมาลองฟังกันอีกที) และยางใหม่เนื้อยางยังดี มีประสิทธิภาพในการซึมซับแรงสะเทือนจากถนนให้ได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ล้อ 16 หรือ 17 ที่มีแก้มยางสูง จะช่วยรับแรงให้มากขึ้น (สังเกตุดูว่ายาง 16 17 ขับแล้วจะนุ่มกว่ายาง 20) ดังนั้นหากพี่สิทธิเปลี่ยนยาง จากเดิมมาเป็น AT ยางที่หนาขึ้น แก้มที่หนาขึ้นย่อมให้ความรู้สึกถึงความนุ่ม นิ่งได้มากกว่ายางเดิมที่ใช้งานมาพอสมควรแล้ว (พี่สิทธิไม่ได้บอกว่าใช้มาเท่าไหร่) สำหรับยางนั้นขอให้ทำใจไว้ซักนิดว่าอาการดังกล่าวมันจะอยู่กับเราซักช่วงหนึ่ง จากนั้นเมื่อใช้ไปแล้วเนื้อยางแข็งขึ้น อาการก็อาจเปลี่ยนไปด้วย เป็นเรื่องปกติธรรมดา
มาเพิ่มข้อมูลจากเนื้อหาของพี่ตามที่เคยทำภาพดุ๊กดิ้กประกอบกับคำบรรยาย ลองใช้ function search ดูอีกทีครับ
(http://upic.me/i/qu/cq4b1.jpg)
(http://upic.me/i/7y/ktgt2.jpg)
(http://upic.me/i/ut/0m1sp.jpg)
-
:L2736: :L2736:
-
แจ่มแจ้งเลยคับพี่ๆ
-
:sd23: ขอบคุณในความกระจ่างแจ้งและเป็นข้อมูลที่ดีที่ได้เรียนรู้จากพี่ตาม พี่นะ ด้วยคนครับ :L2734:
-
:L2888: :L2888:
ค่อยๆอ่าน ทำความเข้าใจ ความรู้ล้วนๆ
ขอบคุณในความตั้งใจของพี่ๆทุกคนครับ
:L2900: :L2900:
-
:L4365: เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณ
-
เข้าใจง่ายเลยครับ :L2758:
-
ขอเรียเช็ญพี่สิทธิ์มางายมีตติ้งคับ เหล่านกอีมูคับ ถ้าจะพูดเรื่องสปริง สมช. มีกันทุกบอร์คับของ EMU รับรอง :L2906: