Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Wheels, Tires, Brakes & Suspension Systems => ข้อความที่เริ่มโดย: หนุ่ม ปากน้ำ ที่ 17 กรกฎาคม 2014, 08:41:25
-
รบกวนถามพี่ๆหน่อยครับ ผมไปสลับยางมา ร้านเอาล้อหน้าสลับลงหลังเลยโดยไม่ถ่วงล้อใหม่ ถามช่างเค้าบอกว่าไม่จำเป็น แต่ถ่วงให้ใหม่เฉพาะล้อหลังที่สลับขึ้นหน้า
แบบนี้ปกติใช่มั้ยครับ สลับยางมาตั้งหลายครั้งเพิ่งจะได้ความรู้ใหม่
-
ปกติเค้าจะถ่วงเฉพาะล้อหน้า เพราะถ้าไม่ถ่วง ล้อมันจะสั่น มาถังพวงมาลัย
แต่ถ้าถ่วงได้ทั้ง 4 ล้อก็ดี ครั้งต่อไปจะได้สลับล้อจากอู่ทั่วไปได้เลย เพราะล้อได้ถ่วงมาหมดแล้ว
-
บางร้านถ่วง 2 บางร้านถ่วง 4 หลังถ่วงต้องตั้งศูนย์ล้อด้วยครับ ถ้าพวงมาลัยมีอาการสั่นที่ระดับความเร็วต่างๆ ให้ทำการถ่วงจี้อีกทีครับ :L2736:
-
:sd10: ผมว่าถ่วง 4 ล้อเลยคับ. ดีกว่า. ถ้ามีเปลี่ยนล้อแม็กมา อย่าลืมปลอกกันสั่นๆ. น่ะครับ.
บางร้านมึนๆ. ใส่ปลอกกันสั่นให้เฉพาะ 2. ล้อหน้า. คับ. ถ้าจะให้ดีให้เค้าใส่มา 4. ล้อเลยดีก่าคับ. :sd23:
-
บางร้านถ่วง 2 บางร้านถ่วง 4 หลังถ่วงต้องตั้งศูนย์ล้อด้วยครับ ถ้าพวงมาลัยมีอาการสั่นที่ระดับความเร็วต่างๆ ให้ทำการถ่วงจี้อีกทีครับ :L2736:
แนะนำตัวครับ นายธนา ตั้งสกุล อายุ 39 ครับ เกิดที่ จ.ชัยภูมิ จบ.วิศวกรรมไฟฟ้า(กำลัง) ปัจจุบันตำแหน่ง Project Director ของบริษัท เอกชน แห่งหนึ่ง แถวรัชดา กรุงเทพฯ งานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ Transmission Line,Substation,Submarine Cable ครับ ที่พักอาศัย ลาดกระบัง สถานะเมีย 1 ลูก 2 ครับ งานอดิเรก เลี้ยงไก่ชน 555 มีอะไรให้รับใช้แจ้งได้ครับ :sd23:
ขอต้อนรับ พี่...คนชัยภูมิ :L2753:
ลืมใส่ชื่อหรือเปล่วครับ เข้ามาอีกที่ใส่ชื่อเพิ่มดัยวนะครับ
รายละเอียดเรื่องชื่อและรูปครับ
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,1551.0.html
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,374.0.html
ตัวอย่างรูปส่วนตัวที่ทางเวปอยากให้โชว์ครับ
(http://upic.me/i/xs/135untitled.jpg)
**** ตกลงพี่ชื่อ คนชัยภูมิ ใช่ไหม ครับ :L2761:
-
:sd42: ทุกคำถาม..... มีคำตอบ..... :sd42:
:sd42: สังคมD ใน Pamania :sd42:
-
รบกวนถามพี่ๆหน่อยครับ ผมไปสลับยางมา ร้านเอาล้อหน้าสลับลงหลังเลยโดยไม่ถ่วงล้อใหม่ ถามช่างเค้าบอกว่าไม่จำเป็น แต่ถ่วงให้ใหม่เฉพาะล้อหลังที่สลับขึ้นหน้า
แบบนี้ปกติใช่มั้ยครับ สลับยางมาตั้งหลายครั้งเพิ่งจะได้ความรู้ใหม่
ล้อหน้าไม่ต้องถ่วงแล้วครับเพราะถือว่าได้สมดุลย์ดีอยู่แล้วไม่อย่างนั้นพวกพี่คงขับรถกันอย่างไม่ปกติสุขแน่ๆ ดังนั้นเมื่อสลับเอาล้อหลังขึ้นมาไว้ข้างหน้าเลยถ่วงแค่ล้อหน้าก็เพียงพอแล้วครับ
-
:L2900:
อันนี้เป็นความรู้ใหม่เหมือนกันครับ
:sd23:
-
ล้อหน้าไม่ต้องถ่วงแล้วครับเพราะถือว่าได้สมดุลย์ดีอยู่แล้วไม่อย่างนั้นพวกพี่คงขับรถกันอย่างไม่ปกติสุขแน่ๆ ดังนั้นเมื่อสลับเอาล้อหลังขึ้นมาไว้ข้างหน้าเลยถ่วงแค่ล้อหน้าก็เพียงพอแล้วครับ
อ่อ เป็นอย่าางนี่นี้เอง :sd23:
-
:sd23: :sd23: ขอบคุณพี่ๆทุกคนมากครับที่ช่วยให้ความรู้ :L2897:
-
:sd23:
ต่อยอดอีกนิดนึงครับ
แล้วกรณี ถอดล้อออกมาปะยางนี่ต้องถ่วงล้อใหม่รึเปล่าครับ
-
:sd23:
ต่อยอดอีกนิดนึงครับ
แล้วกรณี ถอดล้อออกมาปะยางนี่ต้องถ่วงล้อใหม่รึเปล่าครับ
ไม่ต้องถ่วงคราบ ผมปะที่ร้านก็ไม่ได้ถ่วงให้
-
ไม่ต้องถ่วงคราบ ผมปะที่ร้านก็ไม่ได้ถ่วงให้
:sd23: ขอบคุณครับพี่ปุ้ย
อีกคำถามนึงครับ คือ ผมเอารถไปปะยางมา ล้อหน้าซ้าย ไอ้ร้านปะยางก็ปะยางให้เรียบร้อย และบอกว่าต้องถ่วงล้อด้วยนะพี่ ถอดล้อออกมาต้องถ่วงครับ
ผมก็เออออ ไปกะมัน ก็ถ่วงมาเรียบร้อย 1 ล้อ ก็ไอ้ล้อที่ปะมาน้่นแหล่ะครับ
แล้วถ้าเราถ่วงล้อใหม่มาแค่ล้อเดียวมันจะมีผลอะไรรึเปล่าครับ ตอนนี้วิ่งไปก็ยังปกติสุขอยู่
-
ปกติเค้าจะถ่วงเฉพาะล้อหน้า เพราะถ้าไม่ถ่วง ล้อมันจะสั่น มาถังพวงมาลัย
แต่ถ้าถ่วงได้ทั้ง 4 ล้อก็ดี ครั้งต่อไปจะได้สลับล้อจากอู่ทั่วไปได้เลย เพราะล้อได้ถ่วงมาหมดแล้ว
ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
-
ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
:L2888: :L2900: ครับพี่นะ ละเอียดครบถ้วนเหมาะแกการตัดสินใจว่าจะถ่วงหรือตั้งศูนย์มากครับ จัด :L6428: ให้เลยครับ
-
ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
:L2900: ขอบคุณพี่นะสำหรับข้อมูลดีๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสลับยางครั้งต่อไปครับ :L2758:
-
ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
มาเก็บข้อมูลครับ
เป็นประโยชน์มากเลยครับพี่ๆ
ขอบคุณครับ
-
เคยได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อาจารย์แนะนำว่ารถที่ใช้งานตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องสลับยางให้เปลืองเงิน แถมการสลับยางยังมีความเสี่ยงต่ออาการพวงมาลัยสั่นจากการกินยางของล้อหลังที่นำมาใส่ที่ล้อหน้าอีกแม้ว่าจะถ่วงล้อแล้วก็ตาม รวมถึงคุณภาพของยางในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานระยะการใช้งาน 5-6 หมื่นกิโลเมตรได้สบายอยู่แล้ว ไว้ถ่วงล้ออีกครั้งตอนเปลี่ยนยางใหม่ทีเดียวเลย
แม้ว่าผมจะได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช (ซึ่งผมก็นับถือในความรู้และความเป็นอาจารย์ของท่าน) แต่ผมก็ยังคงสลับยางถ่วงล้อหน้าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความสบายใจอยู่ดีครับ :L2901:
-
เคยได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อาจารย์แนะนำว่ารถที่ใช้งานตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องสลับยางให้เปลืองเงิน แถมการสลับยางยังมีความเสี่ยงต่ออาการพวงมาลัยสั่นจากการกินยางของล้อหลังที่นำมาใส่ที่ล้อหน้าอีกแม้ว่าจะถ่วงล้อแล้วก็ตาม รวมถึงคุณภาพของยางในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานระยะการใช้งาน 5-6 หมื่นกิโลเมตรได้สบายอยู่แล้ว ไว้ถ่วงล้ออีกครั้งตอนเปลี่ยนยางใหม่ทีเดียวเลย
แม้ว่าผมจะได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช (ซึ่งผมก็นับถือในความรู้และความเป็นอาจารย์ของท่าน) แต่ผมก็ยังคงสลับยางถ่วงล้อหน้าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความสบายใจอยู่ดีครับ :L2901:
ตามนั้นเลยครับพี่นันทวิทย์ :sd42:
-
ผมเองก็ .. สลับยางแล้วถ่วงล้อใหม่หมดครับ
เอาสบายใจไว้ก่อนครับ
-
เคยได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อาจารย์แนะนำว่ารถที่ใช้งานตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องสลับยางให้เปลืองเงิน แถมการสลับยางยังมีความเสี่ยงต่ออาการพวงมาลัยสั่นจากการกินยางของล้อหลังที่นำมาใส่ที่ล้อหน้าอีกแม้ว่าจะถ่วงล้อแล้วก็ตาม รวมถึงคุณภาพของยางในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานระยะการใช้งาน 5-6 หมื่นกิโลเมตรได้สบายอยู่แล้ว ไว้ถ่วงล้ออีกครั้งตอนเปลี่ยนยางใหม่ทีเดียวเลย
แม้ว่าผมจะได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช (ซึ่งผมก็นับถือในความรู้และความเป็นอาจารย์ของท่าน) แต่ผมก็ยังคงสลับยางถ่วงล้อหน้าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความสบายใจอยู่ดีครับ :L2901:
ของผม 20000 โลแล้วยังไม่ไปสลับเลยครับ
-
ของผม 20000 โลแล้วยังไม่ไปสลับเลยครับ
อย่าปล่อยไว้นานครับพี่ดุ่ย ควรจะทำทุกๆหมื่นโลครับ ชุดแรกของผมเกือบแปดหมื่นโล ไม่เคยสลับเลย พอถอดออกมานี่ ไม่ยอมกลิ้งเลยครับ ล้มทันทีที่ปล่อยมือเลย คือมันสึกด้านเดียวไปเลยครับ ;D ;D ;D
-
อย่าปล่อยไว้นานครับพี่ดุ่ย ควรจะทำทุกๆหมื่นโลครับ ชุดแรกของผมเกือบแปดหมื่นโล ไม่เคยสลับเลย พอถอดออกมานี่ ไม่ยอมกลิ้งเลยครับ ล้มทันทีที่ปล่อยมือเลย คือมันสึกด้านเดียวไปเลยครับ ;D ;D ;D
:L2758: หาวันว่างอยู่ครับพี่แม็ค ตะก่อนก็ทำแบบพี่แหละ ยิ่งเป็นรถเก๋งนะกินด้านนอกอย่างเดียวเลย