Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Technics, Maintenance & Problem solving => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่อ็อด Pentium4 ที่ 8 เมษายน 2014, 16:40:00
-
อาทิตย์ก่อนผมขับรถไปทำธุระแถว อำเภอด่านขุนทด โคราช
ใช้เส้นมาจาก อ.พัฒนานิคม เข้าสู่ 2256 อ.ท่าหลวง เพื่อตรงไปยังด่านขุนทด
ดื่มด่ำกับความงามของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าเหนือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-07-1471-062819.jpg)
น้ำมันก็ใกล้หมด ก็ชับชิวๆไปเรื่อย ตากับ GPS ก็มองหาปั๊มมียี่ห้อไปด้วย
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-07-1471-071924.jpg)
จะหมดเส้นทางนี้อยู่แล้ว มีแต่ปั้มโนเนม สุดท้ายก็ต้องเติม เอาแค่ 300 บาทพอ เพราะกลัวน้ำมันไม่ดี ;D
ถึงจุดหมาย ระหว่างรอลูกค้า ก็นั่งเปิดแอร์ในรถ แล้วเริ่มสังเกตุว่า รถเราตอนเดินเบา ทำไมมันสั่นกว่าปกติมาอีกนิดนึง แต่ก็ไม่เอะใจอะไร
คิดแค่ว่า เดี๋ยวเอาไว้หาข้อมูลไปเปลี่ยนยางแท่นเครื่องน่าจะดีขึ้น
สุดท้ายทำธุระเสร็จ ขากลับแถวๆ อ.พัฒนานิคม เจอปั้มใบไม้ ก็จัดซะเต็มถัง สบายใจและ แต่ยังปวดฉี่
ว่าจะเข้าห้องน้ำ ไม่เอาดีกว่า ไปเข้า ปตท. ข้างหน้าและกัน
เจอ ปตท. ทำธุระเสร็จ มาสตาร์ทเครื่อง พักชิวๆในรถ แล้วผมก็เริ่มได้ยินเสียงดังประหลาด ::)
แก๊งๆๆๆๆๆๆๆ มองออกไปนอกกระจก เห็นกะบะมาจอดข้างๆ ในใจก็นึก รถกะบะคันนี้คงจะเก่ามาก
อะไรจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ คนขับเค้าจะรู้ตัวหรือป่าว
ผมเปิดกระจก เพื่อจะฟังเสียงชัดๆ ที่ไหนได้ มันดังอยู่แถวๆรถเรานี่หว่า งานเข้าแล้วตรู :sd06:
ออกจากรถ เปิดฝากระโปรง โอ้ว...ไม่อยากจะเชื่อ ได้ยินเสียงดังมาก เหมือนมีเหล็กกำลังทำสงครามฟาดฟันกันอยู่
แก๊งๆๆ แก๊กๆๆๆ แก๊งๆๆๆๆ แก๊กๆๆๆ.......(ดังกว่าเสียงเขกของเครื่องที่เคยได้ยินมา 10 เท่า)
ในใจคิดว่าคงน่าจะเป็นเสียงเขกของเครื่องนั่นแหละ จากกล่องดันรางแน่ เลยจัดการปิดกล่อง สตาร์ทใหม่
เสียงยังอยู่ ก็เลยลองมองหาต้นตอของเสียง เหมือนได้ยินชัดมาจากหลังเครื่อง แถวๆเทอร์โบ
แต่ถ้าลองเร่งเครื่องดู เสียงก็หาย ::)
สงสัยน้ำมันเล่นตรูและ ไม่น่าเลย ปั้มไหนหว่า จัดเต็มมาซะด้วยซิ :sd06:
ช่างมัน ลองขับไปต่อ ถ้าน้ำมันมีปัญหา หรือเราไปเติมผิดเป็นเบนซินจริงๆ มันต้องขับไม่ได้
แต่ที่ไหนได้ มันดันขับได้ แถมแรงเหมือนปกติอีกตางหาก
ช่างมัน ขับต่อไปเรื่อยๆ เสียงก็หายไปแล้ว ยกเว้นเดินเบาเท่านั้นที่ดัง และจะได้ยินชัดตอนเปิดกระจก
หรือมีรถจอดอยู่ข้างๆ
ขับไปจนถึง กทม. เพื่อไปต่อยังงาน motor show ดันเจอรถติด เวลานี้แหละได้ยินเสียงสะท้อนจากรถข้างๆชัดตลอดเวลาเลย
อายรถข้างๆจริงๆ ดังกว่ารถอีซุที่เครื่องเก่าๆซะอีก :sd21:
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-07-1471-155223.jpg)
ตัดสินใจโทรหา นะ รัชดา เล่าอาการแปลกๆ ที่สงสัยเหมือนจะเติมน้ำมันผิด
คุยกันอยู่ซักพัก ก็คิดว่าคงจะเป็นที่น้ำมัน อย่างที่พี่ปรีเคยเจอ
หลังจากนั้นผมก็ไม่มีอารมณ์ดูแล้วครับ motor show กลับบ้านดีกว่า :'(
ตกเย็น โทรสอบถามอาการพี่ปรี เผื่อจะเหมือนพี่ปรีที่เคยเป็น แต่อาการของพี่ปรีดันไม่เหมือนของเรา ซวยแล้วตรู สงสัยเครื่องพัง
พรุ่งนี้เช้าศูนย์ก็ปิด ตัดสินใจคืนนั้นเลย มุดใต้ท้องรถตัวเอง เพื่อหาสิ่งผิดปกติ เผื่อจะมีอะไรหลุด
แล้วก็พบกับ "ขายึดท่อไปเสีย" มันขาดครับ โอ้ว...โชคดีจริงๆ เจอตัวการแล้ว 555
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-07-1471-191040.jpg)
มันอยู่แถวใต้ท้องรถ ตำแหน่งจุดสีแดงครับ
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Pajero-Sport-E3.jpg)
ชิ้นส่วนหมายเลข 10
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/4d5.jpg)
(http://www.pajerosportmania.com/forum/Themes/default/images/hidetag.png)
ไม่กี่วัน ก็ได้ของมาแล้ว ให้ศูนย์ใส่ให้ เสียค่าแรงไปอีก 140 บาท (ว่าจะไขใส่เองแต่เครื่องมือไม่มี)
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-17-1471-145117.jpg)
ระหว่างรอศูนย์ใส่ให้ ก็เดินไปมุดดู ปา 2014 2.5GT ที่จอดโชว์ในศูนย์ ก็เห็นว่ายังคงมีชิ้นนี้อยู่เหมือนกัน
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-17-1471-132100.jpg)
สอบถามช่างว่ามีมาเปลี่ยนกันบ่อยมั้ย ก็ได้รับคำตอบว่า นาน...น้าน... มีมาคัน เท่าที่เค้าจำได้ที่ผ่านมาก็มีมาเปลี่ยน 2-3 คัน
อาการก็คือ ที่รอบเดินเบา จะได้ยินเสียงเหล็กตีกันดังมาก แต่ถ้าเร่งเครื่องขึ้นไป เสียงก็หาย
นี่ครับ ตัวปัญหาของผม "ขายึดท่อไอเสีย" กับเสียงประหลาดที่เกิดขึ้น
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/EXHAUST/Photo-04-17-1471-150334.jpg)
หลังจากเปลี่ยนใส่ของใหม่ลงไปแล้ว ก็รู้สึกได้นิดนึงว่า ที่รอบเดินเบา รถผมสั่นน้อยลง (แต่คิดว่าผมคงจะรู้สึกไปเอง) :)
รถพี่ๆอย่ามองข้ามจุดนี้นะครับ อาจจะฉีกขาดแล้วยังไม่มีเสียงดัง แต่มันอาจจะสร้างปัญหากับท่อไอเสียหรือแคทตาไลติกให้แตกร้าวได้นะครับ :sd27:
***เพิ่มเติม*** แม้แต่ของเก่าที่นำกลับมาด้วย มันยังจะตีกันต่อ เสียงแบบนี้เลย แต่ดังกว่านี้มาก :sd42:
http://www.youtube.com/watch?v=f9W5ImrFPl4
-
ขอบคุณพี่อ๊อดสำหรับข้อมูลครับ
ขอจัด :L6428: ให้สักดอกคร้าบ :L2739:
-
:L6428: :L6428: :L6428:
:sd23: ขอบคุณมากคับพี่อ๊อด คับ. ต้องคอยสังเกตุบ้างล่ะคับ
-
ปัญหา ทุกปัญหา ปามาเนีย มีทางออกเสมอ จริง ๆ
:sd23: :sd23: :sd23:
-
:L2900: ขอบคุณมากครับ :sd23: :sd23: ต้องไปดูบ้างแล้ว :D
-
:L2900: ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่อ๊อด
-
เจอโจทย์จนได้นะพี่อ๊อด นึกว่าอยากกินแต่หอย เหมือนผมซะแล้ว :sd42:
ของผมหลังจากกินหอยเป็นประจำ แรงดีไม่มีตกนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
-
ขอบคุณพี่อ๊อดที่มาเพิ่มเติมความรู้ใหม่ๆครับ เผื่อถ้าเป็นขึ้นมาจะได้นึกถึงกระทู้นี้บ้างครับ :sd23:
-
:sd23: :sd23: :sd23: :L6428:
-
พรุ่งนี้ต้องมุดดูเพื่อตรวจสอบซะแล้ว :sd23:
-
ขอบคุณ ครับ พี่อ็อด
สำหรับข้อมูลดีๆครับพี่
แหม…อย่างนี้ต้องมุดดูกันบ้างแล้ว…555
:L2900: :L2758: :sd23: :L2897: :L2901:
-
ขอบคุณมากครับ ได้ความรู้อย่างลึกเลยทีเดียว
-
ขอบคุณข้อมูลครับพี่อ็อด :L2900:
-
ขอบคุณครับพี่อ็อด ต้องตาดูหูฟังบ้างแล้วว :L2900:
-
ขอบคุณคับพี่ ผมได้ระวังเอาไว้ :L6428: ขอ 1 ดอกคับ
-
รถผมก็มีเสียงเบา ที่รอบเดินเบารึว่าจะเป็นอาการเดียวกันนะนี่ :L2739:
สงสัยต้องมุดดูตำแหน่งนี้ ขอบคุณพี่อ๊อด สำหรับอีก 1 part ของมิตซู และความรู้ที่นำมาแบ่งปันครับ :L2758: :L2758:
-
ดูจากรูป มัน แคร็ก หักออกมาเลย แสดงว่า แรงเอาเรื่อง
ขอบคุณครับ พี่อ้อด
-
จากอาการของพี่อ๊อด ผมเลยได้ความรู้เรื่องเติมน้ำมันผิดทั้งประโยช์นและโทษ
จะมาเล่าให้ฟังอีกที (คืนนี้ง่วงเดี๋ยวผิดไม่ครบ) :sd42:
-
มาจากประสบการณ์จริงล้วนๆ ขอบคุนครับพี่อ๊อด อ๊อด
-
จากอาการของพี่อ๊อด ผมเลยได้ความรู้เรื่องเติมน้ำมันผิดทั้งประโยช์นและโทษ
จะมาเล่าให้ฟังอีกที (คืนนี้ง่วงเดี๋ยวผิดไม่ครบ) :sd42:
เครดิตรั้วสังกะสี April_FY2014
(http://upic.me/i/ii/1471188_10202508762431074_1174560139_n_zps54eeb79d.jpg)
เนื่องจากเชื้อเพลิงดีเซลเป็นเชื้อเพลิงที่มีจุดวาบไฟสูงแต่จุดไวไฟต่ำกว่าเชื้อเพลิงพวกเบนซิน จุดวาบไฟคือจุดที่ไฟลามไปแล้วสามารถลุกเป็นเชื้อเพลิงได้ในอุณหภูมิของน้ำมันเชื้อเพลิง กล่าวคือน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มน้ำมันหนักพวกดีเซลจะสูงถึงเกือบ 65 องศาจึงจะติดได้ง่าย แต่หากเป็นพวกเบนซินแล้วประมาณ 30กว่าองศาก็สามารถลุกติดไฟได้ทันทีเพราะจุดวาบไฟต่ำแต่ไวไฟสูง ดังนั้นเรียกได้ว่าน้ำมันดีเซลหากทำให้เป็นละอองฝอยและมีแรงดันพร้อมมีอุณหภูมิสูงก็สามารถติดไฟได้ง่ายเช่นกัน อีกทั้งการติดไฟจะระเบิดรุนแรงจนเอามาสร้างกำลังจากการลุกติดไฟของเชื้อเพลิงประเภทนี้ได้ดีด้วยการสันดาป ซึ่งต่างจากเชื้อเพลิงเบนซินที่ใช้ประกายไฟจากหัวเทียนในการจุดระเบิด
(http://upic.me/i/j7/04-01-2.jpg)
ปัญหาจากน้ำมันเชื้อเพลิง ในระบบดีเซลมีอยู่ 4 แบบหลักๆดังนี้
1. น้ำมันดีเซลเหลือครึ่งถัง..... เด็กปั๊มเติมผิดเติมน้ำมันเบนซินเข้าไปผสม
กรณีเช่นนี้จะทำให้เมื่อออกจากปั๊มจะสามารถขับขี่ไปได้สักพักจนท่อส่งน้ำมันที่มีดีเซลค้างอยู่ในระบบเครื่องยนต์ส่งดีเซลไปจนหมดและเริ่มดูดปั๊มเอาจากถังซึ่งตอนนี้มีน้ำมันเบนซินผสมอยู่(จะมากจะน้อยอยู่ที่เติมเข้าไป)ผลก็คือน้ำมันที่มีการผสมหนามากของเบนซิลจะทำให้ระบบการจุดระเบิดของดีเซลเบลอคือระเบิดไม่ขาดเพราะน้ำมันดีเซลระเบิดน้ำมันเบนซินลามระเบิดตาม แต่จังหวะนี้สูบต่างๆกำละงจะทำงานต่อเนื่องกับต้านแรงกันเองจนเครื่องยนต์เดินสะดุด เร่งไม่ขึ้น และอาจจะดับลง พอสตาร์ทก็ติดแต่อาการจะไม่ค่อยสมูธเท่าที่ควรอาจจะไปได้ต่อและอาจจะสะดุดดับก็เป็นได้
2. น้ำมันดีเซลลดลงจนไฟเตือน...เด็กปั๊มเติมผิดเติมน้ำมันเบนซินเข้าไปผสม
กรณีเช่นนี้จะสามารถเดินเครื่องออกจากปั๊มไปได้ไม่ไกลมากก็จะเริ่มเกิดอาการเพราะน้ำมันเบนซินเข้ามาในระบบมากเกินแต่มีการผสมกับดีเซลก้นถังมาบ้าง แต่มีดีเซลผสมน้อยกว่าแบบแรกมาก เสียงเครื่องจะดัง อาการเครื่องจะสั่น สะบัด เพราะการจุดระเบิดเบลอจากเบนซิน จนถึงบางครั้งเดินเบาไม่นิ่ง จะดับ เครื่องสั่น พอเร่งก็สามารถเร่งได้แต่เร่งมากจะดับและสั่น ถ้าดีเซลในถังมีน้อยมากกว่าเบนซินอาจจะสตาร์ทไม่ติดเลยเพราะเครื่องยนต์ทำงานไม่ได้เพราะเบนซินสันดาปไม่ได้ ....แบบกรณีรถพี่ปอ ลำลูกกา ดัง**กรณีตัวอย่าง จากเคสพี่ปอ ลำลูกกา
3. หัวจ่ายเบนซิลเดิม เพิ่มสลับเอาเชื้อเพลิงดีเซลมาใส่แทน(เปลี่ยนตู้จ่าย)
กรณีแบบนี้หากเติมดีเซลกับหัวจ่ายแบบนี้เต็มถังยังไม่น่าห่วง เพราะปกติแล้วหากผสมน้ำมันเบนซิลประมาณครึ่งขวดกระทิงแดงกับเชื้อเพลิงดีเซลเต็มถัง มักมีประโยช์นในการช่วยล้างระบบทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิงและช่วยล้างหัวฉัดได้ด้วย รวมถึงช่วยลดควันดำให้จางลงได้อีกด้วยและรถแข่งในสนามก็มีผสมออกเทนพวกนี้กันในบางครั้ง แต่หากการเติมน้ำมันครั้งนี้ที่เจอหัวจ่ายแบบนี้แล้วบังเอิญมีเชื้อเพลิงเบนซินมากกว่าในสายเติม อาจเกิดอาการสักพักแล้วอาการจะดีขึ้นเรื่อยๆเมื่อเติมน้ำมันในครั้งต่อไป แต่หากพวกรถติดกล่องดันรางจะจับอาการได้ชัดเจนกว่ามาก เพราะเชื้อเพลิงจะรีดกำลังอัดมาจากรางหัวฉีดเพื่อล่อการสันดาปของเครื่องยนต์
4. น้ำมันคุณภาพต่ำ หรือน้ำมันไม่สะอาดพอ
กรณีแบบนี้พบเจอได้บ่อยและพลาดได้ง่ายตามปั๊มหลบ ปั๊มต่างจังหวัด ปั๊มที่ใกล้เรือเดินสมุทร ฝูงรถบรรทุก เพราะปั๊มพวกนี้ชอบมีน้ำมันเถื่อนมาขายพวกๆกันในราคาถูก และรถที่ใช้คือรถที่ใช้กำลังมากกว่ารอบและใช้ความเร็วต่ำ เช่น เรือ รถแทร็คเตอร์ สิบล้อ กะบะรุ่นเก่า รถการเกษร เกิดจากการทุจริตตักตวงน้ำมันมาขายกัน น้ำมันผสมน้ำมันเก่า น้ำมันผสมน้ำมันพืช น้ำมันเครื่องเก่า ในอัตราส่วนที่แตกต่างกัน หรือน้ำมันเกรดต่ำหรือน้ำมันเกรดปกติแต่มีการถ่ายเทเปลี่ยนพาชนะบรรจุที่ไม่มีมาตรฐานเพื่อสะดวกต่อการขนย้ายลักลอบเพื่อมาแอบขายกัน
คนที่โดนน้ำมันกลุ่มนี้จะเห็นอาการชัดเจนก็พวกรถดีเซล คอมมอนเรลสมัยใหม่ที่มีหัวฉีดในการฉีดจ่ายเชื้อเพลิง ยิ่งมีกล่องดันรางช่วยเพิ่มกำลังฉีดแล้วยิ่งเห็นผลง่ายมาก กล่าวคือรถจะมีกำลังเรื่อยๆ แต่ไม่มีกำลังเร่งเค้น หมายถึงสามารถขับไปได้เรื่อยๆ มีสะดุดเล็กน้อย มีบ้างเป็นๆ หายๆ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการเร่งเค้นเล่นรอบจะเกิดอาการสะดุด วูบบ้าง ไม่มีกำลัง รอบตก แต่ถ้าไม่เร่งไม่เป็น อาการแบบนี้ก็สามารถพบเจอได้ง่ายแต่กว่าจะเข้าศูนย์เข้าร้านตรวจเช็ค คงเติมน้ำมันกันอีกรอบอาการดังกล่าวก็ลดลงหรือหายพอดี ดัง**กรณีตัวอย่าง จากเคสพี่ปรี บางบ่อ http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,2966.0.html (http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,2966.0.html)
อาการทั้งหมดนี้อย่าไปตกใจมากสำหรับรถรุ่นใหม่เพราะระบบมันจะตัดการทำงานเสียก่อน และหากเราเจอว่าอาการผิดปกติก็จอดและถอดสายน้ำมันตรงกรองเชื้อเพลิงมุมห้องเครื่อง หลังแบตเตอร์รี่(ที่มีที่กดย้ำๆ)ออกมารดมือ แล้วเอามาดมหรือหากจำกลิ่นไม่ได้ก็ให้เอามารดนิ้วแล้วขยี้บี้ๆดูว่าลื่นๆไหม ถ้าลื่นๆไม่แห้งเร็วก็ใช่เลยดีเซล แต่ถ้าไม่แน่ใจจะเอาไฟแช็คจุดที่นิ้วมือก็กลัวว่าจะลุกวาบขึ้นมาที่นิ้วแทน เพราะฉะนั้นเวลาเจอน้ำมันเชื้อเพลิงหันดมและจำกลิ่นกันไว้บ้างนะครับเรื่องสีของน้ำมันในปี 2013มานี้จำได้ว่าเขาเปลี่ยนดีเซลเป็นสีแดงเหมือนเบนซิน 91เลยนะ ฉะนั้นต้องหัดดมกลิ่นด้วยครับ ถ้าเจอว่าเติมผิดแน่นอนก็กลับไปปั๊มให้เขาจัดการเอาออก(แต่ไม่ต้องถึงกลับล้างถังเพราะข้อดีของเบนซินผสมดีเซลยังมีอยู่ เอาแค่เอาออกให้หมดแล้วอัดดีเซลเต็มถังหรือล้างระบบด้วย V Power ล้วนไปเลย 1 –2ถัง
การแก้ไขระบบก็คือการถ่ายน้ำมันออก เปลี่ยนน้ำมันใหม่เน้นน้ำมันดีๆหน่อยและควรเปลี่ยนเปลี่ยนกรองดีเซล(กรองโซล่า,กรองเชื้อเพลิง) ถ้ามีเบนซิลผสมไม่เยอะไอ้ที่ค้างอยู่ในระบบกลับมีประโยช์นด้วยนะ แต่ถ้าชัวร์ก็เปลี่ยนซ่ะเถอะไม่ถึงพันบาท
(http://upic.me/i/s4/bd9f293d8195374c54d0ee56396b09ee.jpg)
และสำหรับเพื่อสมาชิกที่ไม่เคยเจอปัญหาพวกนี้ ก็แนะนำให้เติมปั๊มใหญ่ๆเลือกดูว่าน่าจะเชื่อถือได้มากกว่าที่ผ่านๆมาในเส้นทาง ถ้ายังไม่มีตัวเลือกประจำขแแนะนำเลือก Shell ฟิวเซฟ หรือ บางจาก ใช้งานเป็นประจำทุกเดือนและเลือกใช้ Shell V Power เต็มถังสลับบ้างทุก 5-6 เดือนครั้ง และหากจะใช้ V Power แนะนำให้เลือกใช้ตอนที่จะออกเดินทางไกลและมั่นใจได้ว่าสามารถเร่งรอบทำความเร็วต่อเนื่องได้ดี จะทำให้เชื้อเพลิง V Power ที่เติมเข้าไปนั้นเกิดประสิทธิภาพสูงสุด แต่หากเติมแล้ววิ่งในเมืองทำความเร็วไม่ค่อยได้ ขอบอกว่าเปลืองตังค์ครับ “เสียของหมด “ เติมฟิวเซฟก็พอครับ
เพื่อเป็นข้อมูลนะครับ
-
รถผมก็มีเสียงเบา ที่รอบเดินเบารึว่าจะเป็นอาการเดียวกันนะนี่ :L2739:
สงสัยต้องมุดดูตำแหน่งนี้ ขอบคุณพี่อ๊อด สำหรับอีก 1 part ของมิตซู และความรู้ที่นำมาแบ่งปันครับ :L2758: :L2758:
รถผม 2.5GT ปี 2010
รอบเครื่องที่เดินเบา จะอยู่ที่ 650 rpm
แต่ถ้าเปิดแอร์ รอบเครื่องที่เดินเบา จะอยู่ที่ 900 rpm และเมื่อแอร์ตัดก็จะกลับมาที่ 650 rpm
ช่วงที่รถผมสั่นมากที่สุดจะอยู่ช่วง 750-850 rpm
ซึ่งช่วงนี้แหละครับ หากพยายามเลี้ยงคันเร่งไว้ ให้อยู่รอบเครื่องประมาณนี้ ก็จะได้ยินเสียงชัดและดังที่สุด
หากพี่อิฐจะลอง ให้ลองเหยียบประคองคันเร่งให้อยู่ในช่วงที่คิดว่ารถพี่อิฐสั่นมากที่สุด ก็จะได้ยินเสียงดังต่อเนื่อง
หรือเปิดแอร์รอให้แอร์ตัด ซึ่งมันก็จะผ่านช่วง 750-850 rpm เราก็จะได้ยิงเสียงเป็นพักๆเฉพาะช่วงที่แอร์ตัด
ระหว่างที่มีเสียง หากนั่งเปิดแอร์ ปิดกระจกในรถ จะไม่ค่อยได้ยิน หรือไม่ได้ยินเลย
และถึงจะเปิดกระจก ก็ได้ยินเสียงนิดเดียว
แต่หากมีอะไรมาทำให้เสียงสะท้อนกลับมาที่เราได้ เช่น จอดไกล้รถคันช้างๆ จอดข้างกำแพง เปิดกระจกไว้ ก็จะได้ยินเสียงชัด :)
-
ดูจากรูป มัน แคร็ก หักออกมาเลย แสดงว่า แรงเอาเรื่อง
ขอบคุณครับ พี่อ้อด
ครับพี่โต้ง ผมพยายามดูรอยขาด ว่ามันค่อยๆขาดทีละนิดมานานแล้ว หรือขาดทีเดียว
แต่ดูๆแล้ว เหมือนมันค่อยๆขาด และขาดตรงส่วนบนก่อนมานานแล้ว
(ผมสังเกตุเอาจากรอยสกปรก และรอยสนิมเล็กๆที่น่าจะสะสมมา)
แล้วค่อยๆมาฉีกข้างล่างทีละนิด จนเหลือ 1 เซนติเมตรสุดท้ายที่มันยังเชื่อมกันอยู่ คงมาขาดหมดเอาวันที่ไปทำธุระนี่แหละครับ
(ที่สังเกตุคือ 1 เซนติเมตรสุดท้าย รอยขาดยังใหม่อยู่เลย)
-
รถผม 2.5GT ปี 2010
รอบเครื่องที่เดินเบา จะอยู่ที่ 650 rpm
แต่ถ้าเปิดแอร์ รอบเครื่องที่เดินเบา จะอยู่ที่ 900 rpm และเมื่อแอร์ตัดก็จะกลับมาที่ 650 rpm
ช่วงที่รถผมสั่นมากที่สุดจะอยู่ช่วง 750-850 rpm
ซึ่งช่วงนี้แหละครับ หากพยายามเลี้ยงคันเร่งไว้ ให้อยู่รอบเครื่องประมาณนี้ ก็จะได้ยินเสียงชัดและดังที่สุด
หากพี่อิฐจะลอง ให้ลองเหยียบประคองคันเร่งให้อยู่ในช่วงที่คิดว่ารถพี่อิฐสั่นมากที่สุด ก็จะได้ยินเสียงดังต่อเนื่อง
หรือเปิดแอร์รอให้แอร์ตัด ซึ่งมันก็จะผ่านช่วง 750-850 rpm เราก็จะได้ยิงเสียงเป็นพักๆเฉพาะช่วงที่แอร์ตัด
ระหว่างที่มีเสียง หากนั่งเปิดแอร์ ปิดกระจกในรถ จะไม่ค่อยได้ยิน หรือไม่ได้ยินเลย
และถึงจะเปิดกระจก ก็ได้ยินเสียงนิดเดียว
แต่หากมีอะไรมาทำให้เสียงสะท้อนกลับมาที่เราได้ เช่น จอดไกล้รถคันช้างๆ จอดข้างกำแพง เปิดกระจกไว้ ก็จะได้ยินเสียงชัด :)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับการสังเกตุอาการเองครับพี่อ๊อด :L2758: :L2758:
-
วันนี้ต้องลองฟังดูบ้างแล้วครับ :sd23: :sd23: :sd23:
-
ของผมเคยเชื่อมไปสองรอบแล้วครับพี่อ็อด รอบแรกเชื่อมมาวิ่งไปซักพักขาดอีกแล้ว เลยเข้าไปให้ช่างเชื่อมให้ใหม่ ตอนนี้ยังปกติอยู่ ดู Part แล้วราคาไม่แรงถ้าขาดคราวนี้คงเบิกใหม่แน่
ปล.ขอบคุณพี่อ็อดสำหรับข้อมูลครับ ;D
-
ของผมเคยเชื่อมไปสองรอบแล้วครับพี่อ็อด รอบแรกเชื่อมมาวิ่งไปซักพักขาดอีกแล้ว เลยเข้าไปให้ช่างเชื่อมให้ใหม่ ตอนนี้ยังปกติอยู่ ดู Part แล้วราคาไม่แรงถ้าขาดคราวนี้คงเบิกใหม่แน่
ปล.ขอบคุณพี่อ็อดสำหรับข้อมูลครับ ;D
แสดงว่า จะเป็น รุ่นปี 2010 ส่วนพวก VG อัตราส่วนความน่าจะเป็นน้อยดิ :L2761: :L2739: :L2901: :L2901:
-
มุดมาแล้ว ยังดีอยู่ครับ 2011
ไหนๆเป็นกระทู้พี่อ๊อด ก็ขอถามสักนิดครับ ไฟสวิทช์ตัวนี้มันไม่ติด จะซ่อมเองได้มั๊ยครับ หรือต้องเบิกpartใหม่
(http://upic.me/i/zi/y7sw1.jpg)
-
มุดมาแล้ว ยังดีอยู่ครับ 2011
ไหนๆเป็นกระทู้พี่อ๊อด ก็ขอถามสักนิดครับ ไฟสวิทช์ตัวนี้มันไม่ติด จะซ่อมเองได้มั๊ยครับ หรือต้องเบิกpartใหม่
(http://upic.me/i/zi/y7sw1.jpg)
ไฟในสวิทช์ตัวนี้มี 2 ดวงครับ
ดวงบน รูปพัดลม จะติดเมื่อเปิดพัดลมหลัง
ดวงล่าง "REAR" จะติดเมื่อเปิดไฟหรี่
สวิทช์ตัวนี้ผมไม่เคยรื้อดู จึงไม่ทราบครับว่ารื้อได้หรือไม่ได้ยังไง
แต่ถ้าเบิกใหม่ ราคา 750 บาทครับ
ถ้าเป็นผม จะลองซ่อมเองก่อน โดยก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าเป็นที่หลอดไฟขาดหรือไม่
บนตัวขั้วของสวิทช์พัดลมมีวงจรตามรูปข้างล่างครับ พี่คมพอดูออกไหม
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/Pa%20Mania%20General/Screen-Shot-2557-04-09-at-220915.jpg)
IND คือหลอดไฟรูปพัดลม โดยมีขั้วบวก อยู่ที่ขา 2 สายสี น้ำเงิน-แดง , ขั้วลบที่ขา 6 สายสี ดำ
ILL คือหลอดไฟ REAR โดยมีขั้วบวก อยู่ที่ขา 3 สายสี เขียว-ขาว , ขั้วลบที่ขา 4 สายสี ดำ-เหลือง
ลองดูนะครับ :)
-
แสดงว่า จะเป็น รุ่นปี 2010 ส่วนพวก VG อัตราส่วนความน่าจะเป็นน้อยดิ :L2761: :L2739: :L2901: :L2901:
ตัว VG ขับ 2 ผมก็มุดดูแล้ว มีแบบเดียวกับแป๊ะ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะขาดได้เหมือนกัน :sd42:
ยกเว้น พวกขับ 4 จะมีหน้าตาอีกแบบ ซึ่งน่าจะแข็งแรงกว่าครับ
ส่วนพวกเบนซิน V6 อันนี้ดูแล้วแข็งแรงสุด เพราะอันใหญ่มาก
ของปาเบนซิน 2.1 อันเล็กกว่าแต่ดูแล้วน่าจะแข็งแรง
สรุป ดีเซล ขับ 2 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดครับ :)
-
ครับพี่โต้ง ผมพยายามดูรอยขาด ว่ามันค่อยๆขาดทีละนิดมานานแล้ว หรือขาดทีเดียว
แต่ดูๆแล้ว เหมือนมันค่อยๆขาด และขาดตรงส่วนบนก่อนมานานแล้ว
(ผมสังเกตุเอาจากรอยสกปรก และรอยสนิมเล็กๆที่น่าจะสะสมมา)
แล้วค่อยๆมาฉีกข้างล่างทีละนิด จนเหลือ 1 เซนติเมตรสุดท้ายที่มันยังเชื่อมกันอยู่ คงมาขาดหมดเอาวันที่ไปทำธุระนี่แหละครับ
(ที่สังเกตุคือ 1 เซนติเมตรสุดท้าย รอยขาดยังใหม่อยู่เลย)
แต่มันก็หน้าแปลกนะครับ มั้นสั่นถึงขนาด crackจนหักได้ ถึงขนาดนี้ มันไม่ง่ายเลย
ตัว VG ขับ 2 ผมก็มุดดูแล้ว มีแบบเดียวกับแป๊ะ ก็ไม่แน่ว่าอาจจะขาดได้เหมือนกัน :sd42:
ยกเว้น พวกขับ 4 จะมีหน้าตาอีกแบบ ซึ่งน่าจะแข็งแรงกว่าครับ
ส่วนพวกเบนซิน V6 อันนี้ดูแล้วแข็งแรงสุด เพราะอันใหญ่มาก
ของปาเบนซิน 2.1 อันเล็กกว่าแต่ดูแล้วน่าจะแข็งแรง
สรุป ดีเซล ขับ 2 อยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุดครับ :)
เบื้องต้น ต้องขัน Nut ให้แน่นไว้ก่อน
-
ขอคุณพี่อ๊อดสำหรับประสบการณ์ดีๆคับ ไว้เป็นความรู้ :sd23: :sd23:
-
:sd23: ขอบคุณในข้อมูลครับพี่อ๊อด จะได้ระวังและตรวจสอบของผมดูบ้าง :L2753:
-
ไฟในสวิทช์ตัวนี้มี 2 ดวงครับ
ดวงบน รูปพัดลม จะติดเมื่อเปิดพัดลมหลัง
ดวงล่าง "REAR" จะติดเมื่อเปิดไฟหรี่
สวิทช์ตัวนี้ผมไม่เคยรื้อดู จึงไม่ทราบครับว่ารื้อได้หรือไม่ได้ยังไง
แต่ถ้าเบิกใหม่ ราคา 750 บาทครับ
ถ้าเป็นผม จะลองซ่อมเองก่อน โดยก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าเป็นที่หลอดไฟขาดหรือไม่
บนตัวขั้วของสวิทช์พัดลมมีวงจรตามรูปข้างล่างครับ พี่คมพอดูออกไหม
(http://i1214.photobucket.com/albums/cc496/princo4/Pa%20Mania%20General/Screen-Shot-2557-04-09-at-220915.jpg)
IND คือหลอดไฟรูปพัดลม โดยมีขั้วบวก อยู่ที่ขา 2 สายสี น้ำเงิน-แดง , ขั้วลบที่ขา 6 สายสี ดำ
ILL คือหลอดไฟ REAR โดยมีขั้วบวก อยู่ที่ขา 3 สายสี เขียว-ขาว , ขั้วลบที่ขา 4 สายสี ดำ-เหลือง
ลองดูนะครับ :)
ขอบคุณครับพี่อ๊อด พอจะซ่อมดูก่อนครับ น่าจะทำเองได้ครับ เพราะเห็นDiagramแล้ว :sd23: :sd23: :sd23:
-
:L4365: :L4365: :L4365:
-
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากทั้งพี่อ๊อดและพี่นะครับ :L2758:
จัดให้คนละ :L6428: