Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Performance Talks & Engine Modifications => ข้อความที่เริ่มโดย: พีชิน ปาดำ บุรีรัมย์ ที่ 25 กรกฎาคม 2013, 11:01:07
-
สืบเนื่องจาก การลอง พละกำลัง การพกพาปิ่นโต ที่ความเร็ว > 180 กม./ชม. แล้วไฟเครื่องโชว์มี สมช. เป็นเช่นกันดังนี้
ผม ขึ้น code P2128 (เป็นครั้งเดียวเนื่องจากยังไม่ได้ลองอีก)
พี่ตุ้ย code P2198 ( เป็นแล้ว 2 ครั้ง)
จากการศึกษารายละเอียด P2128 มีปัญหาสัญญานจากคันเร่ง ผมไม่ได้ติดกล่องคันเร่ง โทรปรึกษา ช่างปอนด์ ที่ IFRIT แล้ว ให้ลองปรับกล่องไปที่ standard แล้วลองเร่งความเร็วดู แต่ปัญหาคือ รถผมเดิม ๆ เต็มที่ก็แค่ 170 กม./ชม. ไปไม่ถึงจุดที่มีปัญหาแน่ ฉะนั้น จะเครมตัวคันเร่งก็น่าจะไม่เป็นผล
ผมปรึกษาช่างปอนด์ เผื่อพี่ตุ้ยที่ Code P2198 เกี่ยวกับ O2 sensor ซึ่งช่างปอนด์แจ้งว่า เครื่อง diesel จะไม่มีตัววัดตัวนี้
แล้วปัญหามันจะมาจากตรงไหนกันล่ะ :sd06:
-
สืบเนื่องจาก การลอง พละกำลัง การพกพาปิ่นโต ที่ความเร็ว > 180 กม./ชม. แล้วไฟเครื่องโชว์มี สมช. เป็นเช่นกันดังนี้
ผม ขึ้น code P2128 (เป็นครั้งเดียวเนื่องจากยังไม่ได้ลองอีก)
พี่ตุ้ย code P2198 ( เป็นแล้ว 2 ครั้ง)
จากการศึกษารายละเอียด P2128 มีปัญหาสัญญานจากคันเร่ง ผมไม่ได้ติดกล่องคันเร่ง โทรปรึกษา ช่างปอนด์ ที่ IFRIT แล้ว ให้ลองปรับกล่องไปที่ standard แล้วลองเร่งความเร็วดู แต่ปัญหาคือ รถผมเดิม ๆ เต็มที่ก็แค่ 170 กม./ชม. ไปไม่ถึงจุดที่มีปัญหาแน่ ฉะนั้น จะเครมตัวคันเร่งก็น่าจะไม่เป็นผล
ผมปรึกษาช่างปอนด์ เผื่อพี่ตุ้ยที่ Code P2198 เกี่ยวกับ O2 sensor ซึ่งช่างปอนด์แจ้งว่า เครื่อง diesel จะไม่มีตัววัดตัวนี้
แล้วปัญหามันจะมาจากตรงไหนกันล่ะ :sd06:
สงสัยอากาศเข้าไม่ทัน....เคยได้ยินพี่โต้งพูดถึงประเด็นนี้อยู่ครั้งนึง แต่ผมไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกันครับ :L2761:
-
สืบเนื่องจาก การลอง พละกำลัง การพกพาปิ่นโต ที่ความเร็ว > 180 กม./ชม. แล้วไฟเครื่องโชว์มี สมช. เป็นเช่นกันดังนี้
ผม ขึ้น code P2128 (เป็นครั้งเดียวเนื่องจากยังไม่ได้ลองอีก)
พี่ตุ้ย code P2198 ( เป็นแล้ว 2 ครั้ง)
จากการศึกษารายละเอียด P2128 มีปัญหาสัญญานจากคันเร่ง ผมไม่ได้ติดกล่องคันเร่ง โทรปรึกษา ช่างปอนด์ ที่ IFRIT แล้ว ให้ลองปรับกล่องไปที่ standard แล้วลองเร่งความเร็วดู แต่ปัญหาคือ รถผมเดิม ๆ เต็มที่ก็แค่ 170 กม./ชม. ไปไม่ถึงจุดที่มีปัญหาแน่ ฉะนั้น จะเครมตัวคันเร่งก็น่าจะไม่เป็นผล
ผมปรึกษาช่างปอนด์ เผื่อพี่ตุ้ยที่ Code P2198 เกี่ยวกับ O2 sensor ซึ่งช่างปอนด์แจ้งว่า เครื่อง diesel จะไม่มีตัววัดตัวนี้
แล้วปัญหามันจะมาจากตรงไหนกันล่ะ :sd06:
สงสัยอากาศเข้าไม่ทัน....เคยได้ยินพี่โต้งพูดถึงประเด็นนี้อยู่ครั้งนึง แต่ผมไม่ทราบรายละเอียดเหมือนกันครับ :L2761:
ถ้าอากาศเข้าไม่ทัน ต้อง เพิ่มบูส เพื่ออัดอากาศเข้าไปไช่ไหมครับพี่ตาม :L2761:
-
สืบเนื่องจาก การลอง พละกำลัง การพกพาปิ่นโต ที่ความเร็ว > 180 กม./ชม. แล้วไฟเครื่องโชว์มี สมช. เป็นเช่นกันดังนี้
ผม ขึ้น code P2128 (เป็นครั้งเดียวเนื่องจากยังไม่ได้ลองอีก)
พี่ตุ้ย code P2198 ( เป็นแล้ว 2 ครั้ง)
จากการศึกษารายละเอียด P2128 มีปัญหาสัญญานจากคันเร่ง ผมไม่ได้ติดกล่องคันเร่ง โทรปรึกษา ช่างปอนด์ ที่ IFRIT แล้ว ให้ลองปรับกล่องไปที่ standard แล้วลองเร่งความเร็วดู แต่ปัญหาคือ รถผมเดิม ๆ เต็มที่ก็แค่ 170 กม./ชม. ไปไม่ถึงจุดที่มีปัญหาแน่ ฉะนั้น จะเครมตัวคันเร่งก็น่าจะไม่เป็นผล
ผมปรึกษาช่างปอนด์ เผื่อพี่ตุ้ยที่ Code P2198 เกี่ยวกับ O2 sensor ซึ่งช่างปอนด์แจ้งว่า เครื่อง diesel จะไม่มีตัววัดตัวนี้
แล้วปัญหามันจะมาจากตรงไหนกันล่ะ :sd06:
ขอดูรูปตรงท้ายรางที่บอกว่ามีคราบน้ำมันหน่อยครับ ถ้าไม่แน่นสามารถเอาประแจขันให้แน่นได้และถ้าไขจนแน่นแล้วยังมีอาการอยู่อีก เข้ามามิตติ้งจะให้พี่ต้อมเปลี่ยนท้ายรางให้ใหม่และขอตรวจสอบละเอียดหน่อย โดยพี่ชินต้องมาล่วงหน้า 1 วันเพื่อตรวจเช็คและวันรุ่งขึ้นเก็บอาการก่อนกลับครับ
-
สืบเนื่องจาก การลอง พละกำลัง การพกพาปิ่นโต ที่ความเร็ว > 180 กม./ชม. แล้วไฟเครื่องโชว์มี สมช. เป็นเช่นกันดังนี้
ผม ขึ้น code P2128 (เป็นครั้งเดียวเนื่องจากยังไม่ได้ลองอีก)
พี่ตุ้ย code P2198 ( เป็นแล้ว 2 ครั้ง)
จากการศึกษารายละเอียด P2128 มีปัญหาสัญญานจากคันเร่ง ผมไม่ได้ติดกล่องคันเร่ง โทรปรึกษา ช่างปอนด์ ที่ IFRIT แล้ว ให้ลองปรับกล่องไปที่ standard แล้วลองเร่งความเร็วดู แต่ปัญหาคือ รถผมเดิม ๆ เต็มที่ก็แค่ 170 กม./ชม. ไปไม่ถึงจุดที่มีปัญหาแน่ ฉะนั้น จะเครมตัวคันเร่งก็น่าจะไม่เป็นผล
ผมปรึกษาช่างปอนด์ เผื่อพี่ตุ้ยที่ Code P2198 เกี่ยวกับ O2 sensor ซึ่งช่างปอนด์แจ้งว่า เครื่อง diesel จะไม่มีตัววัดตัวนี้
แล้วปัญหามันจะมาจากตรงไหนกันล่ะ :sd06:
ขอดูรูปตรงท้ายรางที่บอกว่ามีคราบน้ำมันหน่อยครับ ถ้าไม่แน่นสามารถเอาประแจขันให้แน่นได้และถ้าไขจนแน่นแล้วยังมีอาการอยู่อีก เข้ามามิตติ้งจะให้พี่ต้อมเปลี่ยนท้ายรางให้ใหม่และขอตรวจสอบละเอียดหน่อย โดยพี่ชินต้องมาล่วงหน้า 1 วันเพื่อตรวจเช็คและวันรุ่งขึ้นเก็บอาการก่อนกลับครับ
ครับพี่นะ...พอดีผมอยู่อุบล ครับ รถอยู่บุรีรัมย์ เดี๋ยววันหยุดนี้จะถ่ายรูปมาโพส ครับ ..พอดีกลับมาลืมถ่ายรูปซะงั้น
-
พยายามจะถ่ายรูปตรงท้ายราง แ่ต่ถ่ายไม่ได้ เพราะ ตัว เครื่อง vg มันคับแคบเหลือเกิน
ผมเลยพยายามล้วงมือเข้าไปสัมผัสตรงท้ายราง ที่สงสัยว่ารั่วนี่ ชักไม่แน่ใจแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีคราบน้ำมันเลย แต่มันมีลักษณะ วาว ๆ ตรงเกลียวตัวท้ายร้างมันดูสีวาว ๆ ใหม่มาก ๆ
ก็เลยสงสัยว่าจะรั่วหรือเปล่า :L2761:
ไม่เป็นไร รอเช็คตอน มิตติ้ง ทีเดียวเลย
ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ยังขับชิว ๆ กดเป็นมา ถึงเทอร์โบจะเยิ้ม ก็ขยัน เช็ดเอา :sd42:
ปล. ท้ายนี้ ขอบคุณพี่นะมาก ๆ ครับ ที่เป็นห่วง :sd23:
-
พยายามจะถ่ายรูปตรงท้ายราง แ่ต่ถ่ายไม่ได้ เพราะ ตัว เครื่อง vg มันคับแคบเหลือเกิน
ผมเลยพยายามล้วงมือเข้าไปสัมผัสตรงท้ายราง ที่สงสัยว่ารั่วนี่ ชักไม่แน่ใจแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีคราบน้ำมันเลย แต่มันมีลักษณะ วาว ๆ ตรงเกลียวตัวท้ายร้างมันดูสีวาว ๆ ใหม่มาก ๆ
ก็เลยสงสัยว่าจะรั่วหรือเปล่า :L2761:
ไม่เป็นไร รอเช็คตอน มิตติ้ง ทีเดียวเลย
ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ยังขับชิว ๆ กดเป็นมา ถึงเทอร์โบจะเยิ้ม ก็ขยัน เช็ดเอา :sd42:
ปล. ท้ายนี้ ขอบคุณพี่นะมาก ๆ ครับ ที่เป็นห่วง :sd23:
พี่ชินครับ…ไม่แน่ใจว่า…
ถ้าจะถ่ายรูปท้ายรางอย่างที่พี่ชินต้องการผมจำได้ลางๆว่า
น่าจะต้องถอดแบตฯและยกลงมาก่อนครับ เพราะมันแน่นไปหมดจริงๆครับ
-
พยายามจะถ่ายรูปตรงท้ายราง แ่ต่ถ่ายไม่ได้ เพราะ ตัว เครื่อง vg มันคับแคบเหลือเกิน
ผมเลยพยายามล้วงมือเข้าไปสัมผัสตรงท้ายราง ที่สงสัยว่ารั่วนี่ ชักไม่แน่ใจแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีคราบน้ำมันเลย แต่มันมีลักษณะ วาว ๆ ตรงเกลียวตัวท้ายร้างมันดูสีวาว ๆ ใหม่มาก ๆ
ก็เลยสงสัยว่าจะรั่วหรือเปล่า :L2761:
ไม่เป็นไร รอเช็คตอน มิตติ้ง ทีเดียวเลย
ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ยังขับชิว ๆ กดเป็นมา ถึงเทอร์โบจะเยิ้ม ก็ขยัน เช็ดเอา :sd42:
ปล. ท้ายนี้ ขอบคุณพี่นะมาก ๆ ครับ ที่เป็นห่วง :sd23:
พี่ชินครับ…ไม่แน่ใจว่า…
ถ้าจะถ่ายรูปท้ายรางอย่างที่พี่ชินต้องการผมจำได้ลางๆว่า
น่าจะต้องถอดแบตฯและยกลงมาก่อนครับ เพราะมันแน่นไปหมดจริงๆครับ
ตรงนั้นเลยครับพี่ตุ้ย ... แค่ล้วงมือลงไปก็ติดแล้วครับ :sd42:
-
พยายามจะถ่ายรูปตรงท้ายราง แ่ต่ถ่ายไม่ได้ เพราะ ตัว เครื่อง vg มันคับแคบเหลือเกิน
ผมเลยพยายามล้วงมือเข้าไปสัมผัสตรงท้ายราง ที่สงสัยว่ารั่วนี่ ชักไม่แน่ใจแล้ว เพราะดูเหมือนว่าจะไม่มีคราบน้ำมันเลย แต่มันมีลักษณะ วาว ๆ ตรงเกลียวตัวท้ายร้างมันดูสีวาว ๆ ใหม่มาก ๆ
ก็เลยสงสัยว่าจะรั่วหรือเปล่า :L2761:
ไม่เป็นไร รอเช็คตอน มิตติ้ง ทีเดียวเลย
ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้ยังขับชิว ๆ กดเป็นมา ถึงเทอร์โบจะเยิ้ม ก็ขยัน เช็ดเอา :sd42:
ปล. ท้ายนี้ ขอบคุณพี่นะมาก ๆ ครับ ที่เป็นห่วง :sd23:
พี่ชินครับ…ไม่แน่ใจว่า…
ถ้าจะถ่ายรูปท้ายรางอย่างที่พี่ชินต้องการผมจำได้ลางๆว่า
น่าจะต้องถอดแบตฯและยกลงมาก่อนครับ เพราะมันแน่นไปหมดจริงๆครับ
มันแน่นอก ต้องยกออก :sd42: :L2901:
-
พอดีไปเจอปัญหาคล้าย ๆ กัน ใน http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=373
คำตอบที่ 16
ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ 4d56 vg turbo มีปัญหาคือเวลาขึ้นเนินหรือภูเขายาวๆ เช่น ทางสาย อ.งาว - อ.สอง จ.แพร่ ,ลำปาง - เชียงใหม่ , อ.เวียงป่าเป้า เชียงราย - อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ หรือ ทางขึ้นทางชันยาวๆแล้ว ต้องใช้ เกียร์ 4 ลากขึ้นต้องแซงพวกรถ 10 ล้อ ไฟเช็คเอนจิ้น จะโชว์ แล้วเครื่องจะไม่มีแรง วิ่งได้ 80 กม/ชม.
ลองหาข้อมูลใน Stadra club ดู ส่วนมากจะเป็นกัน เกือบทั้งหมด คือ boot เกิน 15 Psi ECU สั่งให้ ปั๊มน้ำมันลดการจ่ายน้ำมันลง เลยวิ่งได้แค่ 80 กม/ชม
เคยไปให้ศุนย์เช็ค ศุนย์ให้เปลี่ยน ตัวควบคุม TURBO 2 ตัว ราคาประมาณ 3750*2 บาท เลยถามช่างแล้วแก้ได้ไหม ช่างตอบว่า ไม่แน่ใจอาจมีตัวอื่นเสียอีก ให้เอาไปลองขับ ถ้าเป็นอีกจะเช็คผลจาก ECU ให้อีกครั้งว่าตัวอะไรเสียอีก ผมก็เลยไม่เปลี่ยน
ตอนนี้แก้ไข(ที่ปลายเหตุ)โดย เวลาขึ้นเนิน ลดนำหนักเท้าลง ไม่เร่งแซง คันอื่น ประมาณ 80กม/ชม. ที่เกียร์ 5 ไฟก็ไม่ขึ้น หรือไม่ให้รอบเครื่องเกิน 2500 รอบ รถคันหลังถ้ามาเร็วกว่า ก็หลบให้แซงไปก่อน แล้วค่อยไปตามเอาที่ทางเรียบ (เคยลองทางเรียบ วิ่ง160 ไฟยังไม่ขึ้น) ถ้าเผลอเหยียบ จนไฟขึ้นต้องรีเซ็ต ECU โดยการ ถอดขั้ว ลบ แบตออก ให้ลืมค่าที่ Eorrer ก่อน ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
จนบ้างครั้งจะคิดเปลี่ยนเป็นปั๊มและเทอร์โบธรรมดา ให้หมดปัญหา เพราะคิดว่า เปลี่ยนคงจะประหยัดและดีกว่า มาซ่อม ระบบของ VG Turbo เช่นปั๊มไฟฟ้า ต้องถอดแล้วส่งไปเช็คที่ เมืองกรุง 1 อาทิตย์
หากท่านใดมีข้อแนะนำ ช่วยช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณครับ
สรุปปัญหาคือ บูสเกิน... เนื่องจากลากยาว...
ซึ่งวันนั้นผมลากยาวจริง แบบกดต่อเนื่อง แบบไม่ค่อย ๆ ริน แบบเติมเผื่อ เติมเผื่อ ไปเรื่อย แต่ความเร็วขนาด 180 คงไม่ได้ชำเลืองดู บูสเกจ หรอก
ผมสันนิษฐานเอาว่า การ throw ของ error code ของ ECU มันไม่ตรง... (คิดแบบมั่ว ๆ ) ซึ่งรถพี่ตุ้ย ยังไม่ได้ปลดบูสเหมือนผม...
ฉะนั้น ปลดบูส แล้ว test กันอีกรอบดีไหม
ขอความเห็นพี่ ๆ ด้วยครับ ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ :sd23:
-
พอดีไปเจอปัญหาคล้าย ๆ กัน ใน http://www.weekendhobby.com/offroad/newenergy/Question.asp?ID=373
คำตอบที่ 16
ผมเป็นคนหนึ่งที่ใช้ 4d56 vg turbo มีปัญหาคือเวลาขึ้นเนินหรือภูเขายาวๆ เช่น ทางสาย อ.งาว - อ.สอง จ.แพร่ ,ลำปาง - เชียงใหม่ , อ.เวียงป่าเป้า เชียงราย - อ.ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ หรือ ทางขึ้นทางชันยาวๆแล้ว ต้องใช้ เกียร์ 4 ลากขึ้นต้องแซงพวกรถ 10 ล้อ ไฟเช็คเอนจิ้น จะโชว์ แล้วเครื่องจะไม่มีแรง วิ่งได้ 80 กม/ชม.
ลองหาข้อมูลใน Stadra club ดู ส่วนมากจะเป็นกัน เกือบทั้งหมด คือ boot เกิน 15 Psi ECU สั่งให้ ปั๊มน้ำมันลดการจ่ายน้ำมันลง เลยวิ่งได้แค่ 80 กม/ชม
เคยไปให้ศุนย์เช็ค ศุนย์ให้เปลี่ยน ตัวควบคุม TURBO 2 ตัว ราคาประมาณ 3750*2 บาท เลยถามช่างแล้วแก้ได้ไหม ช่างตอบว่า ไม่แน่ใจอาจมีตัวอื่นเสียอีก ให้เอาไปลองขับ ถ้าเป็นอีกจะเช็คผลจาก ECU ให้อีกครั้งว่าตัวอะไรเสียอีก ผมก็เลยไม่เปลี่ยน
ตอนนี้แก้ไข(ที่ปลายเหตุ)โดย เวลาขึ้นเนิน ลดนำหนักเท้าลง ไม่เร่งแซง คันอื่น ประมาณ 80กม/ชม. ที่เกียร์ 5 ไฟก็ไม่ขึ้น หรือไม่ให้รอบเครื่องเกิน 2500 รอบ รถคันหลังถ้ามาเร็วกว่า ก็หลบให้แซงไปก่อน แล้วค่อยไปตามเอาที่ทางเรียบ (เคยลองทางเรียบ วิ่ง160 ไฟยังไม่ขึ้น) ถ้าเผลอเหยียบ จนไฟขึ้นต้องรีเซ็ต ECU โดยการ ถอดขั้ว ลบ แบตออก ให้ลืมค่าที่ Eorrer ก่อน ก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ
จนบ้างครั้งจะคิดเปลี่ยนเป็นปั๊มและเทอร์โบธรรมดา ให้หมดปัญหา เพราะคิดว่า เปลี่ยนคงจะประหยัดและดีกว่า มาซ่อม ระบบของ VG Turbo เช่นปั๊มไฟฟ้า ต้องถอดแล้วส่งไปเช็คที่ เมืองกรุง 1 อาทิตย์
หากท่านใดมีข้อแนะนำ ช่วยช่วยชี้แนะด้วยครับ
ขอบคุณครับ
สรุปปัญหาคือ บูสเกิน... เนื่องจากลากยาว...
ซึ่งวันนั้นผมลากยาวจริง แบบกดต่อเนื่อง แบบไม่ค่อย ๆ ริน แบบเติมเผื่อ เติมเผื่อ ไปเรื่อย แต่ความเร็วขนาด 180 คงไม่ได้ชำเลืองดู บูสเกจ หรอก
ผมสันนิษฐานเอาว่า การ throw ของ error code ของ ECU มันไม่ตรง... (คิดแบบมั่ว ๆ ) ซึ่งรถพี่ตุ้ย ยังไม่ได้ปลดบูสเหมือนผม...
ฉะนั้น ปลดบูส แล้ว test กันอีกรอบดีไหม
ขอความเห็นพี่ ๆ ด้วยครับ ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ :sd23:
ขนาดยังไม่ปลดบูซ พี่ชินยังฟาดซะขนาดนี้ นี่ถ้าปลดบูซ สงสัยเทอร์โบอาจจะกระเด็นออกมาจากรถเลยนะนี่ :L2754: :L2754:
-
ให้ตายเถอะ โรบิ้น
เรื่อง ไฟ Engine โชว์นั้น ของผมเกิดจาก ขั้วที่ต่อกับหัวฉีดมันหลวม ครั้งแรก สูบ 4 ครั้ง 2 สูบ 3
หลังจากนั้นไม่เจออีกเลย
ผมเป็นคนเท้าหนัก นิสัยขับรถไม่ถนอมเครื่อง แต่ถนอมช่วงล่าง
เยียบ บี้ บัน ตลอดถ้าถนน ว่าง ไม่ปราณีปราศรัย
แต่ยังไม่เคยเกิด อย่างที่ พี่ๆเจอกัน
ทุกวันใช้เกียร์เบรคอีกต่างหาก แต่ที่ความเร็วไม่สูงมาก แตะเบรคก่อนแล้วค่อยใช้เกียร์ช่วยเบรค
บูชก็ไม่ได้ปลด หรือ ไม่มีให้ปลด
-
ถ้าอย่างนั้นต้องรอผลหลังปลดบูสอีกทีครับ
แล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
:L2736: :L2734::L2901: :L2901: :L2901:
-
ถ้าอย่างนั้นต้องรอผลหลังปลดบูสอีกทีครับ
แล้วจะแจ้งให้ทราบครับ
:L2736: :L2734::L2901: :L2901: :L2901:
วันที่ 17 นี้ก็ปลดแล้วครับพี่ตุ้ย เอาเป็นว่า ไครปลดก่อน รายงานก่อน
รอบนี้ไปคนเดียว ทดสอบไ้ด้เต็มที่ จานทองประจำตัวไม่มาด้วย ไม่มีคนเบรคแน่ :sd42:
-
หาความรู้. ที่ยังไม่เคยเจอคับ. :L2904:
-
พี่ชินเจอปัญหาเดียวกับผมที่ตั้งกระทู้ถามไปรอบที่แล้ว จากวันแรกที่ผมเกิดอาการของผมประมาณ180+ ไฟเครื่องจะโชว์
เช็คโค๊ดแล้ว บูสเกิน วันถัดมาลองอีกได้180+ไฟไม่โชว์ เอ๊ะยังงัยเกิดอะไรขึ้น มีสิ่งที่แตกต่างระหว่างรอบแรกกับรอบสองดังนี้ครับ
รอบแรก กดคันเร่งลากยาวจนรอบตัดเปลี่ยนเกียร์ ยาวยัน180+ แช่ประมาณสามถึงสี่ กิโลเมตร ไฟโชว์
รอบสอง กดคันเร่งลากยาวจนถึงความเร็วประมาณ140ถอนคันเร่งแล้วค่อยๆไล่คันเร่งต่อถึงประมาณ170 หลังจากนั้น กดยก กดยกไล่ความเร็วขึ้นไป180+ รอบนี้ไฟไม่โชว์
ผมสังเกตุปัญหาว่าบูสเกินน่าจะเกิดจากการกดคันเร่งลึกลากในขณะนั้น รอบกวาดสูงแต่ความเร็วไม่ได้ขึ้นเร็วตาม แตกต่างจากการกดแล้วถอนขึ้นหนึ่งจังหวะ แล้วค่อยๆไล่
ไปใหม่ เหมือนที่พี่นะว่าไว้ว่าค่อยๆริน ความเร็วขึ้นไม่ได้แตกต่างกว่าการกดลึกๆเลย
**แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองน่ะครับ ไม่ได้มีเครื่องมือไดๆมาชี้วัด ว่าถูกต้องหรือไม่ :sd23:
-
:sd23: ขอบคุณคับสำหรับคำแนะนำคับ. พี่วิวัฒน์. :L2900:
-
พี่ชินเจอปัญหาเดียวกับผมที่ตั้งกระทู้ถามไปรอบที่แล้ว จากวันแรกที่ผมเกิดอาการของผมประมาณ180+ ไฟเครื่องจะโชว์
เช็คโค๊ดแล้ว บูสเกิน วันถัดมาลองอีกได้180+ไฟไม่โชว์ เอ๊ะยังงัยเกิดอะไรขึ้น มีสิ่งที่แตกต่างระหว่างรอบแรกกับรอบสองดังนี้ครับ
รอบแรก กดคันเร่งลากยาวจนรอบตัดเปลี่ยนเกียร์ ยาวยัน180+ แช่ประมาณสามถึงสี่ กิโลเมตร ไฟโชว์
รอบสอง กดคันเร่งลากยาวจนถึงความเร็วประมาณ140ถอนคันเร่งแล้วค่อยๆไล่คันเร่งต่อถึงประมาณ170 หลังจากนั้น กดยก กดยกไล่ความเร็วขึ้นไป180+ รอบนี้ไฟไม่โชว์
ผมสังเกตุปัญหาว่าบูสเกินน่าจะเกิดจากการกดคันเร่งลึกลากในขณะนั้น รอบกวาดสูงแต่ความเร็วไม่ได้ขึ้นเร็วตาม แตกต่างจากการกดแล้วถอนขึ้นหนึ่งจังหวะ แล้วค่อยๆไล่
ไปใหม่ เหมือนที่พี่นะว่าไว้ว่าค่อยๆริน ความเร็วขึ้นไม่ได้แตกต่างกว่าการกดลึกๆเลย
**แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองน่ะครับ ไม่ได้มีเครื่องมือไดๆมาชี้วัด ว่าถูกต้องหรือไม่ :sd23:
(http://www.pajerosportmania.com/forum/Themes/default/images/hidetag.png)
:L2736:
-
พี่ชินครับ…ไม่แน่ใจว่า…
ถ้าจะถ่ายรูปท้ายรางอย่างที่พี่ชินต้องการผมจำได้ลางๆว่า
น่าจะต้องถอดแบตฯและยกลงมาก่อนครับ เพราะมันแน่นไปหมดจริงๆครับ
ไม่ถอดแบตก็ถ่ายรูปได้ครับพี่ตุ้ย พี่ชิน ตามนี้เลยครับ ผมถ่ายมาแล้วด้วยมือถือครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/2014-01-16012830.jpg) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/2014-01-16012830.jpg.html)
มันมี Trick เล็กๆน้อยครับ
ก่อนอื่นก็เล็งๆก่อนว่าเราสามารถเอาโทรศัพท์สอดไปถ่ายได้เหลี่ยมไหน
แล้วก็ประมาณระยะทางจากกล้อง ถึงท้ายรางว่าห่างประมาณเท่าไร แล้วจำไว้
ยกโทรศัพท์ ออกมา Focus วัตถุด้านนอกด้วยระยะทางที่เราจำไว้เมื่อข้างต้นครับ
แล้วก็สอดโทรศัพท์กลับไปที่เดิม แล้วก็กด Shutter เท่านี้ก็ได้รูปแหละครับ
อ้อถ้าแสงไม่พอก็เอาไฟฉายมาส่องช่วยได้นะครับ
ส่วนรูปที่ผมถ่ายมา ในโทรศัพท์ผมสามารถเปิดไฟ Flash ค้างไว้ได้ก่อนถ่ายรูปได้เลยไม่ต้องใช้ไฟฉายช่วยครับ
-
ไม่ถอดแบตก็ถ่ายรูปได้ครับพี่ตุ้ย พี่ชิน ตามนี้เลยครับ ผมถ่ายมาแล้วด้วยมือถือครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/2014-01-16012830.jpg) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/2014-01-16012830.jpg.html)
มันมี Trick เล็กๆน้อยครับ
ก่อนอื่นก็เล็งๆก่อนว่าเราสามารถเอาโทรศัพท์สอดไปถ่ายได้เหลี่ยมไหน
แล้วก็ประมาณระยะทางจากกล้อง ถึงท้ายรางว่าห่างประมาณเท่าไร แล้วจำไว้
ยกโทรศัพท์ ออกมา Focus วัตถุด้านนอกด้วยระยะทางที่เราจำไว้เมื่อข้างต้นครับ
แล้วก็สอดโทรศัพท์กลับไปที่เดิม แล้วก็กด Shutter เท่านี้ก็ได้รูปแหละครับ
อ้อถ้าแสงไม่พอก็เอาไฟฉายมาส่องช่วยได้นะครับ
ส่วนรูปที่ผมถ่ายมา ในโทรศัพท์ผมสามารถเปิดไฟ Flash ค้างไว้ได้ก่อนถ่ายรูปได้เลยไม่ต้องใช้ไฟฉายช่วยครับ
ขอบคุณสำหรับทริคครับ พี่ไซ
ผมชอบที่กว้างๆครับทำอะไรได้ถนัดๆหน่อย
ไม่ถนัดที่แคบๆครับ
:L2758: :sd23: :L2897:
-
พี่ชินเจอปัญหาเดียวกับผมที่ตั้งกระทู้ถามไปรอบที่แล้ว จากวันแรกที่ผมเกิดอาการของผมประมาณ180+ ไฟเครื่องจะโชว์
เช็คโค๊ดแล้ว บูสเกิน วันถัดมาลองอีกได้180+ไฟไม่โชว์ เอ๊ะยังงัยเกิดอะไรขึ้น มีสิ่งที่แตกต่างระหว่างรอบแรกกับรอบสองดังนี้ครับ
รอบแรก กดคันเร่งลากยาวจนรอบตัดเปลี่ยนเกียร์ ยาวยัน180+ แช่ประมาณสามถึงสี่ กิโลเมตร ไฟโชว์
รอบสอง กดคันเร่งลากยาวจนถึงความเร็วประมาณ140ถอนคันเร่งแล้วค่อยๆไล่คันเร่งต่อถึงประมาณ170 หลังจากนั้น กดยก กดยกไล่ความเร็วขึ้นไป180+ รอบนี้ไฟไม่โชว์
ผมสังเกตุปัญหาว่าบูสเกินน่าจะเกิดจากการกดคันเร่งลึกลากในขณะนั้น รอบกวาดสูงแต่ความเร็วไม่ได้ขึ้นเร็วตาม แตกต่างจากการกดแล้วถอนขึ้นหนึ่งจังหวะ แล้วค่อยๆไล่
ไปใหม่ เหมือนที่พี่นะว่าไว้ว่าค่อยๆริน ความเร็วขึ้นไม่ได้แตกต่างกว่าการกดลึกๆเลย
**แชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวของผมเองน่ะครับ ไม่ได้มีเครื่องมือไดๆมาชี้วัด ว่าถูกต้องหรือไม่ :sd23:
:L2900: เลยครับพี่วิวัฒน์
-
ใช่เลยครับ :L2734: ผมก็ขับแบบนั้น เหมือนกัน คือเราจะไม่ขยี้คันเร่ง เพื่อให้รอบมาเร็ว เพียงแค่กดค้างอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วค่อยเติมเบาๆ 190 ก็ไม่โชว์ครับ :sd23:
-
พี่ๆ เล่นกันถึง 180+ เลยหรือครับ :L2888: :L2888: :L2906: :L2906: :L2906:
-
:L4365: :L2888:
-
ใช่เลยครับ :L2734: ผมก็ขับแบบนั้น เหมือนกัน คือเราจะไม่ขยี้คันเร่ง เพื่อให้รอบมาเร็ว เพียงแค่กดค้างอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วค่อยเติมเบาๆ 190 ก็ไม่โชว์ครับ :sd23:
อ๋อ รินชานั่นเอง :sd42: :sd42: :sd42: :sd42:
การเติมคันเร่งแบบรินชา
คือการเติมคันเร่งแบบละเมียดละมัย ค่อยๆเพิ่มทีละนิดแบบเติมยก เติมยก ควันจะน้อย อัตราเร่งจะดีมาก ความสิ้นเปลืองจะดีกว่าเดิม กำลังมาที่ปากของกาน้ำที่รินตลอดเวลา ขอรับ
(http://upic.me/i/mp/v3ing.jpg)
-
:L2906: เติมยก เติมยกคับ. :L2900: :L2900: :L2900:
-
:L2906: เติมยก เติมยกคับ. :L2900: :L2900: :L2900:
ต้องเรียนรู้วิธี เติมยก เติมยกบ้างแล้วครับ :L2900: :L2901: :L2901:
-
ต้องเรียนรู้วิธี เติมยก เติมยกบ้างแล้วครับ :L2900: :L2901: :L2901:
มันจะต่างกับ ยกซด นะครับพี่ชรินทร์ อันนั้นยิ่งยกยิ่งเร็วขึ้นตามจังหวะซด 5555
จนบางครั้งไหลเลอะเปียกเปื้อนหน้าอกก็ยังมีให้เห็น :L4396:
-
มันจะต่างกับ ยกซด นะครับพี่ชรินทร์ อันนั้นยิ่งยกยิ่งเร็วขึ้นตามจังหวะซด 5555
จนบางครั้งไหลเลอะเปียกเปื้อนหน้าอกก็ยังมีให้เห็น :L4396:
:L2739: พี่นะพูดถึงอะไรครับ มีตัวอย่างไหมครับ ;D ;D
-
:L2739: พี่นะพูดถึงอะไรครับ มีตัวอย่างไหมครับ ;D ;D
รอชมตัวอย่าง เหมือนกัน ;D :sd42:
-
ศึกษาข้อมูลครับเผื่อไว้ ๆ :L4365: :L4365: :L4365:
-
ผมแนะนำว่า ต้องมีการสอนขับรถหลักสูตร Pa Mania สำหรับทุกท่านที่ทำการเปลี่ยนแปลง และปรับปรุง เครื่องยนต์น้อง ปา ขอเราแล้วล่ะมั่ง :L2904: :L2905: :L2905: :L2905:
-
:L2900:
-
มันจะต่างกับ ยกซด นะครับพี่ชรินทร์ อันนั้นยิ่งยกยิ่งเร็วขึ้นตามจังหวะซด 5555
จนบางครั้งไหลเลอะเปียกเปื้อนหน้าอกก็ยังมีให้เห็น :L4396:
:L4396: ถ้ามีภาพประกอบจะเห็นชัดเจนนะครับพี่นะ :L4396: :L2888:
-
:L2739: พี่นะพูดถึงอะไรครับ มีตัวอย่างไหมครับ ;D ;D
รอชมตัวอย่าง เหมือนกัน ;D :sd42:
:L4396: ถ้ามีภาพประกอบจะเห็นชัดเจนนะครับพี่นะ :L4396: :L2888:
มิสามารถ มันอุจาดเกินนะฮับ ลุงๆ
(http://upic.me/i/w4/images25.jpg)
-
:L2905: :L2905:
-
มิสามารถ มันอุจาดเกินนะฮับ ลุงๆ
(http://upic.me/i/w4/images25.jpg)
:L4396: :L4396: :L4396:
:sd42: :sd42: :sd42: