อุณหภูมิที่สูงเกินไปจะทำให้เกียร์ล๊อคไหมครับ เห็นมีบางท่านทดสอบแล้ว
เห็นคนที่ทดสอบเขาบอกว่าถ้าไม่เกิน95 ไม่เป็นไรครับ พอถึง95 มันจะล๊อคเลยอ่ะครับ เขาดูจากสมาร์ทเกจครับ
พี่ตูมตามครับ เอา :L6428: :L6428: :L6428: :L2900:
ผมไปคลองลานเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา เช้าวันที่14 เมย.ไปเที่ยวที่ช่องเย็น
เส้นทางตั้งแต่ อช.แม่วงค์จนถึงยอดเขาช่องเ็ย็น ทางขึ้นตลอดระยะทาง 40 กม.
ผลปรากฎว่าเกียร์ล็อค 4 ครั้ง ครั้งแรกแก้โดยวิธีจอดรถจนสนิทแล้วเปลี่ยนเกียร์จาก D ไป N
แล้วก็เปลี่ยนจาก N ไป D ออกรถได้เลยไม่ต้องรอเวลา ก็เลยจับทางเกียร์ได้ว่า
ถ้าเกียร์ล็อคก็จะใช้วิธีนี้ หลังจากนั้นอีกไม่นานก็ล็อคอีกเป็นครั้งที่ 2 ก็ใช้วิธี D > N > D
ก็เป็นปกติ ขึ้นไปอีกประมาณ 6-7โค้งก็เกิดอาการล็อคอีกเป็นครั้งที่ 3 คิดว่าน่าจะเกิดเพราะความชัน
แต่คราวนี้จะทดลองโดยการไม่จอดรถ ใจไม่กล้ากลัวเกียร์จะพังหลังจากใส่ N > D ขณะรถวิ่งและทางขึ้นเขาด้วย
กลัวว่าจะมีการกระชากเกียร์ก็เลยใช้วิธีจอดรถแล้วเลื่อนคันเกียร์ D > N > D
ตอนเจออาการนี้ครั้งแรกที่ แ่ม่สะเรียง เล่นเอาวิ่งเกียร์ 2 อยู่นานมาก จอดรถโทรถามพี่นะ
พอคุยเสร็จก็ออกรถได้เป็นปกติ คือ เปลี่ยนเกียร์ D > N > D นั่นแหละเกียร์ก็เป็นปกติ แต่ใจซิไม่เป็นปกติเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเกียร์
เพราะอีกประมาณ 200 โลจะถึงเชียงใหม่
ครั้งที่ 2 เจอที่ ทับเบิกก็ทนขับเกียร์ 2 ขึ้นเขาจนไปถึงที่พักรถ ฟังจาก ว. เห็นว่าล็อคกันหลายคัน
แต่ตอนนี้ไม่กลัวแล้วแก้โดย จอดรถ D > N > D ออกรถได้เลย
เห็นคนที่ทดสอบเขาบอกว่าถ้าไม่เกิน95 ไม่เป็นไรครับ พอถึง95 มันจะล๊อคเลยอ่ะครับ เขาดูจากสมาร์ทเกจครับสวัสดีพี่ต้น ผลการทดสอบจากที่ไหนครับ มีอ้างอิงไหม แล้วเขาอธิบายไหมว่าทำไมถึง safe lock mode
เห็นคนที่ทดสอบเขาบอกว่าถ้าไม่เกิน95 ไม่เป็นไรครับ พอถึง95 มันจะล๊อคเลยอ่ะครับ เขาดูจากสมาร์ทเกจครับสวัสดีพี่ต้น ผลการทดสอบจากที่ไหนครับ มีอ้างอิงไหม แล้วเขาอธิบายไหมว่าทำไมถึง safe lock mode
แบบนี้หากขับกันความเร็วปลาย smg ขึ้น 98-99 เกียร์ก็ lock ซิครับ
ไว้มืดๆจะมาต่อ ตอนนี้ไม่สะดวแพิมพ์ครับ อ่านจากผุ้ใช้งานจริงกันไปก่อน :L2758:
(http://upic.me/i/vk/2013-01-18-896_2.jpg)ตอนผมขึ้นเขาค้อผมก้อใช้+ - ตั้งแต่ตีนเขาเลยครับ ก้อใช้ได้ดีครับไม่มีล๊อค
อันนี้รูปนานแล้วครับพี่โย(http://upic.me/i/vk/2013-01-18-896_2.jpg)ตอนผมขึ้นเขาค้อผมก้อใช้+ - ตั้งแต่ตีนเขาเลยครับ ก้อใช้ได้ดีครับไม่มีล๊อค
รูปสวยดีแต่น่าจะมีสติ๊กเกอร์ Pamania สักนิด :L2754:
(http://upic.me/i/ig/2013-04-06-1768.jpg)ติดตั้งแต่วันแรกที่ได้รับแล้วค๊าบบ
(เครดิต ทีมที่ปรึกษา รั้วสังกะสี)
ตอน14-ข้อสงสัยเรื่องทำไมเกียร์เหมือนทำงานไม่ตรงความต้องการ เหมือนเกียร์ค้าง ในบางครั้ง ??
(http://i1266.photobucket.com/albums/jj521/somchai_5458/new%20logo/MxHS79_zpsfe93b75c.jpg)
จากระบบเกียร์ IGS ( intelligent gear system ) ที่เราเรียกกันเสมอๆนั้น มีการออกแบบที่มีเงื่อนไขซับซ้อนอยู่พอสมควร ซึ่งในแต่ละเงื่อนไขนั้นเป็นการออกแบบการทำงานของระบบให้สอดคล้องกับประเภทรถ ประเภทการใช้งาน และประเภทการดูแลรักษา รวมถึงความนุ่มนวลในการทำงาน
ในเกียร์ของปาเจโร่ สปอต รุ่นที่เป็นระบบออโตเมติก นั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไป เน้นการตอบสนองที่นุ่มนวล ไม่มีแรงกระตุกหรือกระชากระหว่างการเปลี่ยนเกียร์ สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่ออุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงได้ระดับพร้อมใช้งาน น้ำมันเกียร์จะถูกอุ่นจากความร้อนของหม้อน้ำและจะใช้ความร้อนของหม้อน้ำรักษา temp ของ oil gear และใช้ลมอากาศพัดผ่านเสื้อเกียร์ช่วยระบายความร้อนจากข้อดีที่รถสูง เมื่อน้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิสูงพร้อมใช้งานจะมีแรงดันจากน้ำมันกียร์มาช่วยให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น แรงดันและอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ในรุ่นที่ไม่มี oil gear ให้สังเกตุจาก engine temp หรือ water temp (ค่าที่เหมาะสมคือช่วงประมาณ 185-205 องศา F หรือประมาณ 83-96 องศา C ) สำหรับเครื่อง 4D56 Ti (Turbo intercooler) และทนแรงบิดสูงสุดใช้งานได้มากกว่า 600 Nm ในรอบใช้งานปกติ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าพอแรงบิดสูงกว่า 600 Nm แล้วจะพังในทันทีนะครับ ยังมีตัวแปรอื่นๆอีก
แต่จากการทดสอบและใช้งานจริง จะมีตัวแปรเรื่องความเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์ คุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น น้ำหนักบรรทุก จากดูแลรักษา ความร้อนสะสม การตกแต่งสมถนะเครื่องยนต์มาเป็นตัวแปรร่วมด้วยมากมาย หากจะปรับแต่งกล่องอะไรก็แล้วแต่ ให้ระวังเรื่องผลจากกาปรับแต่งให้มาก ว่าวางเป้าหมายไว้ที่อะไรและคาดหวังอะไรในการปรับแต่ง และหากต้องการปรับจริงแนะนำให้ปรับแต่งจากแรงบิดเดิมในรุ่นดังเดิม (140แรงม้า)หรือรุ่น Turbo ธรรมดา ไม่เกิน 70% และในรุ่นที่ปรับแต่งเครื่องยนต์มาจากโรงงาน(178แรงม้า) ไม่เกิน 35 % ทั้งนี้ให้ระวังเรื่องแรงบิดในรอบต่ำไม่ควรเกิน 520-580 Nm ในช่วงรอบไม่เกิน 1400 - 2100 rpm และระวังเรื่องการออกรถด้วยแรงบิดสูงๆในรอบต่ำบ่อยๆจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเกียร์อย่างมาก
คราวนี้มาเข้าปัญหาเรื่องการใช้งานเกียร์ในเงื่อนไขของการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่างจากการใช้งานปกติ ในสภาวะต่างๆ
1. เมื่อความกดอากาศมีการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลง การทำงานของเกียร์กับความสัมพันธ์ของรอบเครื่องอาจมีความผิดปกติอันเนื่องมาจาก ตัวแปรภายนอก บ้างแต่อาจไม่มากนัก วิ่งสักพักจนเครื่องร้อน อาการจะดีขึ้น
2. การใช้รถบนทางลาดชัน ด้วยเกียร์ D โดยการขับด้วยรอบเครื่องที่ต่ำและเพิ่มความเร็วคันเร่งในขณะที่รถอยู่ในลักษณะการฉุดลากเครื่องยนต์ หรือน้ำหนักบรรทุกเยอะหรือกำลังไต่ทางชันที่มีระยะทางยาว จนมีผลทำให้ในหนึ่งช่วงเวลาอัตราตอบสนองของเกียร์และรอบเครื่องห่างกันมาก ระบบจะรู้ทันทีว่าขณะนี้รถกำลังอยู่ในสภาวะต้องการแรงฉุดลากจึงคงเกียร์นั้นไว้ แต่หากเราไปเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่ง ระบบจะพยายามเร่งเครื่องเพื่อเปลี่ยน step gear แต่ด้วยเงื่อนไขนั้นคงอยู่ระบบ gear จึงยังไม่เปลี่ยน( gear hold to safe mode) บางคนชอบเรียกว่าเกียร์ล็อค บางทีถึงกับเอ๋อ งง ไปเลยก็มี ผลคือมีการตอบสนองแต่รอบเครื่องแต่เครื่องเร่งไม่ไป แต่หากวิ่งมาด้วยรอบเครื่องที่สูงกว่าพอประมาณและนิ่งจะได้ความสัมพันธ์ของเกียร์กับแรงฉุดลากในรอบต่ำขณะเข้าเกียร์ D ได้การตอบสนองที่ดีกว่า แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือป่าว ต้องอยู่ที่จังหวะและโอกาศเท่านั้น ( วิธีแก้ไข : หากพบอาการนี้ ให้เปลี่ยน Gear มาที่ select mode แล้วลดลง 1 step เครื่องจะกลับมามีแรงทรงตัวขับเคลื่อนขึ้นไปได้ ด้วยการคงที่รอบเครื่องไว้ จนพ้นทางลาดชันนั้น)
ระบบนี้จะเอาเงื่อนไขจาก speed sensor กับ รอบเครื่องยนต์ มาเข้าเป็นเงื่อนไขกับช่วง 1 หน่วยเวลา โดยลักษณะการเกิดจากการใช้งานจริงจะมีลักษณะดังนี้
2.1 รถกำลังไต่ขึ้นทางชัน ความเร็วต่ำ รอบเครื่องสูง ห่างกันเกินไป (สาเหตุจากการเร่งส่งเพราะกลัวไม่ขึ้น กลัวรถไหล)
2.2 ใช้เกียร์ D ขึ้นทางชันมา หากความเร็วพอจะไปได้แต่หากความเร็วไม่พอ รอบเครื่องตกจึงจำเป็นเร่งส่ง พอไม่ขึ้นสับเกียร์เป็น +/- โอกาสที่จะเกิด
การ hold gear ก็ยังเกิดขึ้นได้เพราะรถรับรู้เงื่อนไขแล้ว
2.3 ใช้เกียร์ +/- ก่อนขึ้นทางชัน แต่เร่งจนรอบสูงไม่สัมพันธ์กับความเร็วก็อาจจะเกิดอาการได้ แต่โอกาสน้อยกว่ามาก
2.4 รถที่ติดตั้งกล่องคันเร่ง แต่จังหวะแบบนี้แล้วกดคันเร่งจะยิ่งเป็นการเพิ่มระยะห่างของความสัมพันธ์ โอกาสเกิดง่ายมาก ต้องประคองจังหวะดีๆ
2.5 รถรุ่น 4wd หากใช้ 4hi 4low ก็รักษาระดับความเร็วกับรอบให้รถมีกำลังก็สามารถขึ้นได้ด้วยเกียร์ D แต่หากแรงตกรอบสูงเมื่อไหร่ ลดเกียร์ด้วย
ระบบ +/- ได้ 1-2 step อาจไม่พบอาการดังกล่าว เพราะรถมีแรงหน่วงรอบจากการขับเคลื่อน 4 ล้อ
2.6 รถกำลังลงทางชัน ความเร็วดีกว่า รอบเครื่องต่ำลง (แบบนี้ไม่ค่อยเกิด แต่ระวังเบรคเฟด อย่ากดเบรคบ่อย หากรู้ว่าเบรคไหลอย่าตกใจ ใช้เบรค
มือช่วยประคองได้โดยการกดปุ่มที่ปลายก้านค้างไว้ แล้วดึงขึ้นเป็นจังหวะ ทดแทนแบบประคอง)
2.7 ให่พิจารณาเลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสม ก่อนเข้าหาอุปสรรค รับรองจะไม่เจออาการดังกล่าว
3. หลังจาก ผ่านอุปสรรคในข้อ 2 แล้วลงมาบนพื้นราบหรือแนวระนาบ หากพบหรือมีอาการเกียร์ค้างไม่ยอมเปลี่ยน อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเครื่องยนต์จะไม่รู้ว่าคุณยังต้องการสภาวะฉุดลากอยู่หรือป่าว ให้ทำดังนี้
a. ขับไปปกติแบบนั้นแหละ ใช้รอบเครื่องปกติ วิ่งด้วยระยะทางยาวสักนิด อย่าเร่งมาก เดี๋ยวระบบจะคืนกลับมาเอง
b. ขับด้วยรอบเครื่องนิ่งๆไปสักพัก อย่าเร่งมาก ระบบจะกลับสู่สภาวะปกติ
c. หรือจอดรถเข้าเกียร์ N ปล่อยเดินเบาสักพัก ค่อยเข้า Gear D ออกตัวไป
d. หรือจอดรถดับเครื่อง สักพักแล้วค่อย start ใช้งานใหม่
e. หรือให้เลือกตัดสินใจใช้เกียร์ให้ถูกต้อง ก่อนเข้าสู่อุปสรรคหมายเหตุ: การดัดแปลงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังต่างๆมีผลต่อการปฎิเสธ การรับประกันของศูนย์บริการรถยนต์ โปรดคำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย และข้อจำกัดเรื่องการใช้งานให้มากๆ ก่อนพิจารณาตัดสินใจ โดยขอให้ตกแต่งอยู่ในกรอบสีแดงนี้เท่านั้น
อาจเป็นไปได้ว่า ผมไม่ได้ ยัดแรง แต่อาศัย เลี้อง ไป เลี้อง มา ลัดตัดโค้ง ถ้าเห็นข้างหน้าว่าง [/color][/size]
คุณ พ่อ และ คุณ แม่ ผม 70 กว่าแล้ว คงจะฉวัดเฉวียงไม่ได้ เด๋ยวคนแก่เมารถ
เวลาที่เกียร์ล็อคนี่ เสียงเครื่องยนต์มันดังอื้อๆใช่ไม๊ครับ เหมือนมันตื้อไป ผมลองผลักเกียร์มาดูมันก็แสดงเป็นเกียร์สี่อยู่นะครับ แต่เสียงเครื่องยนต์ยังกับว่ามันยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ หรือว่ามันล็อคไปแล้วผมยังวิ่งยัดอยู่ล็อคที่เกียร์ 2 ครับ ถ้าล็อคที่เกียร์ 4 คงตายแน่ๆ
อ่อ งั้นทุกโค้ง ทุกเขา ผมปฏิบัติถูกแล้ว ยังไม่เคยถูกเกียร์มันขี้เกียจเปลี่ยนเลยครับ มีแต่อาการที่ผมว่าล่ะครับ :L4373:เวลาที่เกียร์ล็อคนี่ เสียงเครื่องยนต์มันดังอื้อๆใช่ไม๊ครับ เหมือนมันตื้อไป ผมลองผลักเกียร์มาดูมันก็แสดงเป็นเกียร์สี่อยู่นะครับ แต่เสียงเครื่องยนต์ยังกับว่ามันยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ หรือว่ามันล็อคไปแล้วผมยังวิ่งยัดอยู่ล็อคที่เกียร์ 2 ครับ ถ้าล็อคที่เกียร์ 4 คงตายแน่ๆ
เวลาที่เกียร์ล็อคนี่ เสียงเครื่องยนต์มันดังอื้อๆใช่ไม๊ครับ เหมือนมันตื้อไป ผมลองผลักเกียร์มาดูมันก็แสดงเป็นเกียร์สี่อยู่นะครับ แต่เสียงเครื่องยนต์ยังกับว่ามันยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ หรือว่ามันล็อคไปแล้วผมยังวิ่งยัดอยู่
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณพี่นะครับ :L4398:เวลาที่เกียร์ล็อคนี่ เสียงเครื่องยนต์มันดังอื้อๆใช่ไม๊ครับ เหมือนมันตื้อไป ผมลองผลักเกียร์มาดูมันก็แสดงเป็นเกียร์สี่อยู่นะครับ แต่เสียงเครื่องยนต์ยังกับว่ามันยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ หรือว่ามันล็อคไปแล้วผมยังวิ่งยัดอยู่
อาการที่พี่คมว่านั้น เกิดจากรอบเครื่องและความเร็วเหมาะสมแล้ว เครื่องยนต์เข้าเกียร์ 4 ให้ในขณะที่เราใช้ gear D จะลดอย่างไรก็ไม่ลง
ยกเว้นพี่คมผ่อนคันเร่งลงหน่อย จะลดลงมาที่3 ได้ครับ สำหรับรุ่น auto 4 gear
สำหรับรุ่น VG Turbo ที่มีเกียร์มือนั้นมี 5 เกียร การลดเกียร์อาจทำได้ง่ายกว่ารุ่น 4 เกียร์เพราะช่วงอัตราทดละเอียดและมี scale ใกล้เคียงกว่า ลดรอบเล็กน้อยปลดได้เลย
อาจเป็นไปได้ว่า ผมไม่ได้ ยัดแรง แต่อาศัย เลี้อง ไป เลี้อง มา ลัดตัดโค้ง ถ้าเห็นข้างหน้าว่าง [/color][/size]
คุณ พ่อ และ คุณ แม่ ผม 70 กว่าแล้ว คงจะฉวัดเฉวียงไม่ได้ เด๋ยวคนแก่เมารถ
ขับแบบพี่โต้งแสดงว่าความเร็วเดิน และเลี้ยงความเร็วได้รอบเดินมีกำลัง โอกาสเกิดน้อยครับ แต่ถ้าเร่งรีบเมื่อไหร่ยัดตอนกำลังไต่แบบนั้นเมื่อไหร่ก็คงเจอครับ
แต่การยัดครั้งแรกๆรถยังไม่ hold gear นะครับ ครั้ง 2 ครั้ง 3 นู๊นแหละมันถึงจะช่วยประคองเกียร์ไว้ให้ครับ
ในที่สุดก็รู้ว่าเกียร์ล็อคเป็นยังไง :sd42:ไม่ต้องตกใจ พี่จูนก็เป็นครับ น้ำมันเกียร์ออโต้ร้อนเกินกำหนด หาจุดพักสักคู่ก็หายครับ // เคยเอาพี่จูนไปเที่ยวเหนือ
วันนี้ขึ้นห้วยคอกหมู สวนผึ้ง ราชบุรี ใช้เกียร์ 4HL + D ลุยลูกเดียว ลองดูว่าเป็นไง (ปกติเวลาขึ้นเขาจะใช้ +/-) สรุปโดนจนได้ วิ่งขึ้นเขาประมาณ 3.5โล อีก 2โลถึงที่หมาย
จึงรู้อ้อ..มันเป็นอย่างนี้นี่เอง จะเปลี่ยนเกียร์ก็ไม่ได้ แถมไฟโชว์ A/T TEMP อีก พอถึงที่หมาย จอดรถดับเครื่อง เดินชมวิว กลับมาสตาร์ทใหม่ก็เป็นปกติครับ
แต่สงสัย A/T TEMP นี่ความร้อนเกียร์ใช่ไหม ,เป็นเพราะอะไร ,แก้อย่างไร เห็นเขาไปติด OIL GEAR COOLER กัน จะช่วยได้ไหมครับ วานผู้รู้ตอบที :sd23:
ใช้กล่องคันเร่งปามาเนีย เบอร์2 ครับ
ในที่สุดก็รู้ว่าเกียร์ล็อคเป็นยังไง :sd42:ไม่ต้องตกใจ พี่จูนก็เป็นครับ น้ำมันเกียร์ออโต้ร้อนเกินกำหนด หาจุดพักสักคู่ก็หายครับ // เคยเอาพี่จูนไปเที่ยวเหนือ
วันนี้ขึ้นห้วยคอกหมู สวนผึ้ง ราชบุรี ใช้เกียร์ 4HL + D ลุยลูกเดียว ลองดูว่าเป็นไง (ปกติเวลาขึ้นเขาจะใช้ +/-) สรุปโดนจนได้ วิ่งขึ้นเขาประมาณ 3.5โล อีก 2โลถึงที่หมาย
จึงรู้อ้อ..มันเป็นอย่างนี้นี่เอง จะเปลี่ยนเกียร์ก็ไม่ได้ แถมไฟโชว์ A/T TEMP อีก พอถึงที่หมาย จอดรถดับเครื่อง เดินชมวิว กลับมาสตาร์ทใหม่ก็เป็นปกติครับ
แต่สงสัย A/T TEMP นี่ความร้อนเกียร์ใช่ไหม ,เป็นเพราะอะไร ,แก้อย่างไร เห็นเขาไปติด OIL GEAR COOLER กัน จะช่วยได้ไหมครับ วานผู้รู้ตอบที :sd23:
ใช้กล่องคันเร่งปามาเนีย เบอร์2 ครับ
ขึ้นเขาขึ้นดอย ก็เจออาการนี้ครับ
:L2736:
ในที่สุดก็รู้ว่าเกียร์ล็อคเป็นยังไง :sd42:ไม่ต้องตกใจ พี่จูนก็เป็นครับ น้ำมันเกียร์ออโต้ร้อนเกินกำหนด หาจุดพักสักคู่ก็หายครับ // เคยเอาพี่จูนไปเที่ยวเหนือ
วันนี้ขึ้นห้วยคอกหมู สวนผึ้ง ราชบุรี ใช้เกียร์ 4HL + D ลุยลูกเดียว ลองดูว่าเป็นไง (ปกติเวลาขึ้นเขาจะใช้ +/-) สรุปโดนจนได้ วิ่งขึ้นเขาประมาณ 3.5โล อีก 2โลถึงที่หมาย
จึงรู้อ้อ..มันเป็นอย่างนี้นี่เอง จะเปลี่ยนเกียร์ก็ไม่ได้ แถมไฟโชว์ A/T TEMP อีก พอถึงที่หมาย จอดรถดับเครื่อง เดินชมวิว กลับมาสตาร์ทใหม่ก็เป็นปกติครับ
แต่สงสัย A/T TEMP นี่ความร้อนเกียร์ใช่ไหม ,เป็นเพราะอะไร ,แก้อย่างไร เห็นเขาไปติด OIL GEAR COOLER กัน จะช่วยได้ไหมครับ วานผู้รู้ตอบที :sd23:
ใช้กล่องคันเร่งปามาเนีย เบอร์2 ครับ
ขึ้นเขาขึ้นดอย ก็เจออาการนี้ครับ
:L2736:
ขอบคุณพี่ทศครับ แล้ว OIL GEAR COOLER ติดดีไหมครับ
ขึ้นเขา ปีนดอยมาก็เยอะ แต่ไม่เคยเจอ A/T TEMP โชว์เลย
ขึ้นเขา ปีนดอยมาก็เยอะ แต่ไม่เคยเจอ A/T TEMP โชว์เลย
ความเห็นผมคงเป็นแนวพี่กิตติครับ ถ้านานๆไปเล่นปีนเขาทีก็ไม่ต้องติดเพิ่มก็ได้ครับ การใช้งานปกติจะไม่โชว์ไฟตัวนี้ครับในที่สุดก็รู้ว่าเกียร์ล็อคเป็นยังไง :sd42:ไม่ต้องตกใจ พี่จูนก็เป็นครับ น้ำมันเกียร์ออโต้ร้อนเกินกำหนด หาจุดพักสักคู่ก็หายครับ // เคยเอาพี่จูนไปเที่ยวเหนือ
วันนี้ขึ้นห้วยคอกหมู สวนผึ้ง ราชบุรี ใช้เกียร์ 4HL + D ลุยลูกเดียว ลองดูว่าเป็นไง (ปกติเวลาขึ้นเขาจะใช้ +/-) สรุปโดนจนได้ วิ่งขึ้นเขาประมาณ 3.5โล อีก 2โลถึงที่หมาย
จึงรู้อ้อ..มันเป็นอย่างนี้นี่เอง จะเปลี่ยนเกียร์ก็ไม่ได้ แถมไฟโชว์ A/T TEMP อีก พอถึงที่หมาย จอดรถดับเครื่อง เดินชมวิว กลับมาสตาร์ทใหม่ก็เป็นปกติครับ
แต่สงสัย A/T TEMP นี่ความร้อนเกียร์ใช่ไหม ,เป็นเพราะอะไร ,แก้อย่างไร เห็นเขาไปติด OIL GEAR COOLER กัน จะช่วยได้ไหมครับ วานผู้รู้ตอบที :sd23:
ใช้กล่องคันเร่งปามาเนีย เบอร์2 ครับ
ขึ้นเขาขึ้นดอย ก็เจออาการนี้ครับ
:L2736:
ขอบคุณพี่ทศครับ แล้ว OIL GEAR COOLER ติดดีไหมครับ
ผมเห็นว่าถ้าตั้งแต่ซื้อรถมาเพิ่งเคยเจอไฟตัวนี้เตือน หรือโอกาสเจอเส้นทางลักษณะนี้ไม่บ่อย ก็คงไม่จำเป็นต้องติดมังครับพี่หนึ่ง ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ :L2736:
เจลเกียร์คครับ ศูนย์ทำให้ แต่ยังไม่ได้ไปลองขึ้นเขา ว่าอาการนี้จะหายมั้ย...ครับคือ อะไร ครับ :L2761: :L2759:
ช่างบอกว่าเป็น firmware ของเกียร์ตัวใหม่่ แก้ปํญหาเรื่องเกียร์ล๊อกที่อุณหภูมิสูง ครับ เลยถามเค้าว่ามันร้อนมากๆ จะพังมั้ย! ช่างบอกว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะหยุดรถแล้วมันใช้ต่อได้ทันที !เป็นที่ program! ผมก็ว่างัน ตอนมันล๊อกพอหยุดรถมันก็หาย วิ่งต่อได้ แต่ถ้าเป็นที่ความร้อนเพิ่ม พอรถหยุด อุณหภูมิคงไม่ลดไวขนาดนั้น ถ้าผิดพลาดอย่างงัย พี่ๆแนะนำด้วยครับ...อ๋อ Lernning gear :L4399: :L2758:
ขอบคุณพี่ตูมตาม สำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ครับ เป็นประโยชน์มากๆครับ
ผมรบกวนสอบถามพี่ๆเกี่ยวกับน้องปา 4WD ในการป้องกันเกียร์ล็อค เมื่อขับขี่ในทางลาดชัน ด้วย 4HL ครับ
ว่าตามที่ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่
4WD Mode
ทางขึ้นลาดชัน = (4HL) + (Manual +/-)
ขอบคุณคร้าบบบ
พอดียังไม่ได้รถครับ ประกอบกับเพิ่งเคย Test Drive ที่ศูนย์ฯ ครั้งเดียวคร้าบบ :L4387:
ช่างบอกว่าเป็น firmware ของเกียร์ตัวใหม่่ แก้ปํญหาเรื่องเกียร์ล๊อกที่อุณหภูมิสูง ครับ เลยถามเค้าว่ามันร้อนมากๆ จะพังมั้ย! ช่างบอกว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะหยุดรถแล้วมันใช้ต่อได้ทันที !เป็นที่ program! ผมก็ว่างัน ตอนมันล๊อกพอหยุดรถมันก็หาย วิ่งต่อได้ แต่ถ้าเป็นที่ความร้อนเพิ่ม พอรถหยุด อุณหภูมิคงไม่ลดไวขนาดนั้น ถ้าผิดพลาดอย่างงัย พี่ๆแนะนำด้วยครับ...
ขอบคุณพี่ตูมตาม สำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ครับ เป็นประโยชน์มากๆครับ
ผมรบกวนสอบถามพี่ๆเกี่ยวกับน้องปา 4WD ในการป้องกันเกียร์ล็อค เมื่อขับขี่ในทางลาดชัน ด้วย 4HL ครับ
ว่าตามที่ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่
4WD Mode
ทางขึ้นลาดชัน = (4HL) + (Manual +/-)
ขอบคุณคร้าบบบ
พอดียังไม่ได้รถครับ ประกอบกับเพิ่งเคย Test Drive ที่ศูนย์ฯ ครั้งเดียวคร้าบบ :L4387:
ช่างบอกว่าเป็น firmware ของเกียร์ตัวใหม่่ แก้ปํญหาเรื่องเกียร์ล๊อกที่อุณหภูมิสูง ครับ เลยถามเค้าว่ามันร้อนมากๆ จะพังมั้ย! ช่างบอกว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะหยุดรถแล้วมันใช้ต่อได้ทันที !เป็นที่ program! ผมก็ว่างัน ตอนมันล๊อกพอหยุดรถมันก็หาย วิ่งต่อได้ แต่ถ้าเป็นที่ความร้อนเพิ่ม พอรถหยุด อุณหภูมิคงไม่ลดไวขนาดนั้น ถ้าผิดพลาดอย่างงัย พี่ๆแนะนำด้วยครับ...
เพิ่งทราบครับว่ามี firmware ของเกียร์ตัวใหม่ออกมา.....เดี๋ยวเข้าไปสอบถามเช็คช่างที่ 0 ดูครับ
มีหลายคนครับชอบเอาอาการเกียร์ล็อคไปเชื่อมโยงกับอุณหภูมิ......โดยละเลยเรื่องของการกดคันเร่งไป....คือไปสรุปว่ามันล็อคเวลาอุณหภูมิสูง......เท่าที่ผมทดสอบมา ผมยังยืนยันนะครับว่าเกี่ยวกับการกดคันเร่งระหว่างทางชันมากกว่า.......เพราะเวลาเราวิ่งทางราบ วิ่งเร็วๆ อุณหภูมิก็ขึ้นสูง เกียร์ไม่เห็นเคยล็อค.....ผมเคยขับน้องปาที่อุณหภูมิ 102 องศา (ตามเลขที่ขึ้นใน SMG) เป็นระยะทางประมาณ 50 km ไม่เคยเจออาการเกียร์ล็อคเลยครับ.....กลับกันตอนผมทดสอบอาการเกียร์ล็อค....ที่อุณหภูมิประมาณ 90 ต้นๆ...ผมก็สามารถทำให้เกียร์ล็อคได้แล้ว
ส่วนสาเหตุจะมาจาก firmware หรือไม่นั้น....ผมคิดว่ามีโอกาสเป็นไปได้ เพราะ firmware พวกนี้ควบคุมการทำงานของเกียร์ รวมถึงควบคุมการวัดค่าต่างๆ และการคำนวนว่ารถควรอยู่ที่เกียร์ไหนด้วย......จึงมีโอกาสที่ firmware เดิมนั้นทำให้เกิดอาการเกียร์ล็อคเร็วไปหน่อย จากการคำนวนค่าต่างๆ....หากมีการเปลี่ยน firmware ไปจริง อาการเกียร์ล็อคก็อาจจะเปลี่ยนไปด้วย
:sd23: :sd23:
ขอบคุณพี่ตูมตาม สำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ครับ เป็นประโยชน์มากๆครับ
ผมรบกวนสอบถามพี่ๆเกี่ยวกับน้องปา 4WD ในการป้องกันเกียร์ล็อค เมื่อขับขี่ในทางลาดชัน ด้วย 4HL ครับ
ว่าตามที่ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่
4WD Mode
ทางขึ้นลาดชัน = (4HL) + (Manual +/-)
ขอบคุณคร้าบบบ
พอดียังไม่ได้รถครับ ประกอบกับเพิ่งเคย Test Drive ที่ศูนย์ฯ ครั้งเดียวคร้าบบ :L4387:
ไม่ถูกครับ พี่แบ็งค์ คนละเรื่องกันครับ
วิธีการใช้เกียร์ 4X4 มีอยู่ในบ้านนี้แล้ว ไม่มีเวลาหาว่ากระทู้ใหน ลองไปดูกระทู้ 4X4 ก่อนครับ
ขอบคุณพี่ตูมตาม สำหรับประสบการณ์ที่นำมาแชร์ครับ เป็นประโยชน์มากๆครับ
ผมรบกวนสอบถามพี่ๆเกี่ยวกับน้องปา 4WD ในการป้องกันเกียร์ล็อค เมื่อขับขี่ในทางลาดชัน ด้วย 4HL ครับ
ว่าตามที่ผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่
4WD Mode
ทางขึ้นลาดชัน = (4HL) + (Manual +/-)
ขอบคุณคร้าบบบ
พอดียังไม่ได้รถครับ ประกอบกับเพิ่งเคย Test Drive ที่ศูนย์ฯ ครั้งเดียวคร้าบบ :L4387:
เมื่อวันที่ 22 กย. ไปน่านเส้นทาง น่าน - บ่อเกลือ เส้นทางเป็นเขาตลอด
เกิดอาการเกียร์ล๊อดถึง 3 ครังจะเกิดขึ้นเฉพาะทางชันมาก พอจะจับได้ว่า น่าจะเกิดจากการเหยียบ
คันเร่งมากเกิน ขณะที่ขับก็ใช้ เกียร์ธรรมดา + / - ปรับมาไว้ที่เกียร์ 2 แล้วเหยียบคันเร่งส่ง
กลัวว่าจะไม่ขึ้น ผลปรากฎว่าล๊อคทันที
ต้องขึ้นด้วยเกียร์ 2 แล้วหาที่จอดทำการรีเซ็ดเกียร์ ไปที่เกียร์ ว่าง แล้ว ใส่เกียร์เดินหน้าก็จะเป็นปกติ
ปัญหาอีกอย่างเมื่อเกียร์ล๊อคขณะลงเขาทางชันนี่ซิ ไม่สามารถเข้าเกียร์ 1 ได้ ก็เลยต้องลงด้วยเกียร์ 2
หาทางจอดรถให้สนิท แล้วรีเซ็ดเกียร์ ด้วยการเข้าเกียร์ว่าง
:L4399: ดว้ยความเคารพครับ เท่าที่ผมใช้งาน เส้นทางเที่ยว ทีลอซู แม่ฮอ่งสอน ปางอุ๋ง ปาย อา่งขาง
สำหรับผมใช้วิทีขับแบบลื่นไหลไม่ลากยาว ฟังเสียงเครื่ง ดูรอบใช้ - + ขับแบบรถเบาไม่หนัก
แบบว่า อย่าคร่อมจังหวะ เบาเข้าโค้ง รีบส่งออก ปาเราขั บขึ้นเเขา เข้าโค้ง มันสุดๆ :L4398: :L4399:
ดีใจครับพี่กระทู้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับพี่ๆหลายๆท่านครับ :L4398: :L4398: :L4399: :L4399::L2900: :L2900: :L2900: พี่ตูมตาม ผมมีโครงการ จะขึ้นเหนือ คงได้ใช้ แน่ๆ :L2734:
เมื่อก่อน ก่อนมาใช้น้องปา ผมเป็นคนที่แต่งรถบ้าง แต่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะใช้อย่างเดียว เวลาแต่งก็แค่ถามเพื่อนๆ เวลาเอาไปทำจริงๆ ก็ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้เรียนรู้ เวลาใช้รถ แล้วไม่ได้ดั่งใจส่วนใหญ่ก็จะโทษรถหรือของแต่งว่ามันไม่ดี
พอมาใช้น้องปา พี่ๆหลายๆท่านได้ให้ความรู้กับผมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง concept ที่ว่า ซื้อรถมา ต้องเข้าใจรถ และต้องปรับตัวเองให้เข้ากับรถ จึงจะสามารถใช้รถได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ปัญหาเกียร์ล็อค ถ้าเข้าใจต้นเหตุแห่งปัญหา เราก็สามารถป้องกันปัญหาได้ โดยไม่ต้องเสียเงินไปแต่งอะไรแม้แต่บาทเดียว แต่ถ้าเข้าใจผิด บางคนคิดว่ารถทำมาไม่ดี Temp สูงทำให้เกียร์ล็อค จริงๆมันก็อาจเป็นอาการเกี่ยวเนื่องกัน แต่มันไม่ใช่ต้นเหตุแห่งปัญาซะทีเดียว เวลาแก้ปัญหาก็ต้องไปหาซื้อชุด gear oil cooler มาติดตั้ง เสียเงินเสียทองไป ถ้าแก้ได้ก็ดีไป แก้ไม่ได้ก็เสียเงินฟรี
ปัญหานี้แค่ปรับวิธีการขับให้เข้ากันกับรถ แค่นี้เราก็ป้องกันปัญหาได้แล้ว โดยไม่ต้องเสียเงินซักบาทเลยครับ
:L2734: :L2734: :sd23: :sd23:
ผมยังแก้ไม่หายเลยครับ นิสัยการขับแก้ไม่หาย ทดลองทำอย่างที่พี่ตามแนะนำแล้ว
พี่แมน...มันล็อกได้...เราก็ปลดได้....ปามาเนี่ยเราปลดกันกลางอากาศเลย....ปลดมันขณะขึ้นเขา..
วิธีการคือ ปลดไปที่เกียร์ N แล้วโยกกลับมาที่ D โดยทันที..มันจะหายล็อค แต่เกียร์รถเราจะอยู่ที่เกียร์ 3 หรือ 4 ทำให้ไม่มีพลังไปต่อ...เราจะต้องช่วยด้วยการใช้ paddle shift - ให้มาที่เกียร์ 1 หรือ 2 ตามเหมาะสม.......แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยๆขึ้น อย่าหักโหมมาก....
โอ้ว...ขอบคุณพี่ทูต ผมเจอทางออกแล้ววววว....
เอาละครับ....หลังจากได้ลองทดสอบกับ 2400 โค้ง ช่วงไป-กลับ แม่สอด-อุ้มผาง...และบวกด้วยขากลับจาก แม่สอด-ตาก.....ผมมีข้อแนะนำสำหรับการขับรถขึ้นเขา และป้องกันอาการเกียร์ล็อคดังนี้ครับ
1. ให้ใช้เกียร์ + - หรือ Paddle Shift แล้วแต่ใครจะมีตัวไหนนะครับ......ให้ใช้อุปกรณ์นี้ตั้งแต่ยังขับอยู่บนทางราบ ก่อนขึ้นเขาครับ.....ไม่ใช่ใช้ตอนก่อนขึ้นทางที่ชันนะครับ.....ใช้ตั้งแต่ทางราบก่อนขึ้นเขาเลย.....คือเมื่ออยู่ที่ตีนเขาก่อนขึ้นเขาซัก 4-5 กิโล ให้ปรับมาใช้อุปกรณ์เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองเลยครับ.....เพื่อให้ ECU อันแสนฉลาดโคตรของเรารู้เลยว่า.....ต่อไปนี้กรูจะเปลี่ยนเกียร์เองแล้วนะ......มรึงไม่ต้องเฉือก
2. เมื่อขึ้นทางชัน ไม่ว่าจะชันมาก หรือชันน้อย......ให้ลดเกียร์ลงมาที่เกียร์ 2 (เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองนะครับ).....ถ้าทางชันไม่มากนัก แล้วเปลี่ยนลงมาเกียร์ 2 แล้วรอบสูงเกิน....ค่อยเปลี่ยนกลับไปที่เกียร์ 3 แล้วค่อยขึ้นต่อครับ
3. ระมัดระวังในเวลาเติมคันเร่งเมื่อขึ้นทางชัน......ระลึกว่าขึ้นทางชันควรขึ้นช้าๆ....ไม่ใช่ขับขึ้นทางชันเหมือนขับพื้นราบ....ค่อยๆเติมคันเร่ง....อย่ายัดคันเร่ง......ถ้าค่อยๆเติมคันเร่งแล้ว รถยังไม่มีแรงขึ้น (กรณีทางชันมาก)....ให้ใช้การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำช่วย แทนการยัดคันเร่ง
4. ใช้เกียร์ให้มากกว่าคันเร่ง.......ในการขับขึ้นทางชัน การควบคุมความเร็วของรถ ไม่ว่าจะเพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็วในขณะขึ้นทางชัน ให้ใช้เกียร์ในการช่วยควบคุมให้มากไว้ครับ.....อย่าพึ่งพอเพียงการเติมคันเร่งเท่านั้น....ถ้าไม่ใช้เกียร์ เดี๋ยว ECU มันจะฉลาด เห็นว่าไม่ใช้เกียร์ เลยล็อคไว้ให้ใช้เกียร์เดียวมันซะเลย
5. ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์กล่องคันเร่งไฟฟ้า....ให้ปิด หรือปรับลงมาอยู่ในโหมดต่ำๆ....เพื่อให้ ECU ทราบการกดคันเร่งจริงๆของเรา....ไม่งั้น ECU จะโดนหลอกจากกล่องคันเร่งไฟฟ้า (กล่องคันเร่งไฟฟ้าจะหลอกว่าเรากดเยอะแล้ว ทั้งๆที่เรากดน้อย) พอเราหลอก ECU มากๆ ไปๆมาๆ ECU มันเลยหลอน พาลล็อคเกียร์ให้เราซะเลย
ด้วยวิธีการนี้....ผมสามารถขับ 164โล ขึ้น-ลงเขา กับ 1219โค้ง ระหว่างแม่สอด-อุ้มผาง ได้โดยไม่มีอาการเกียร์ล็อคเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ
ตอนสับมาเกียร์ N และจะกลับไปที่เกียร์ D อย่าใช้ความเร็วนะครับ แนะนำจังหวะที่ล็อคแล้วเบาคันเร่งพอรถไหลๆแล้วสับเลย D >>>> N >>>> D รับรองหายแล้วดันเลื่อนไปที่ +/- แทนและรักษาระดับการกดคันเร่งไปเรื่อยๆจนพ้นอุปสรรค อย่าเร่งส่งเพราะรถทำความเร็วไม่ได้เดี๋ยวECU Gear จะจับได้ว่าใช้ริอบไม่สัมพันธ์ความเร็วเคลื่อนตัวจะพาเข้าสู่ Gear Hold mode อีกครั้ง ถ้าเข้าก็แก้ไขใหม่อีกที จบ...ครับ
ข้อมูลดีมากพี่ตาม
:L2734:
ปกติเวลาขึ้นเขา หรือทางวิบากและโค้งมากๆ ผมจะใช้เกียร์แมนนวลตลอด ( + - ) ขับมันกว่าเกียร์ออโต้ รอบมาใสไป
สนุกกว่าออโต้เยอะเลย เลยไม่เคยเจออาการเกียร์ล็อก
:L2900:
โห... แก้กลางอากาศกันเลยนะครับพี่นะ
แต่คนขับต้องตั้งสติดีๆ นะครับ :L6428:
ตอนสับมาเกียร์ N และจะกลับไปที่เกียร์ D อย่าใช้ความเร็วนะครับ แนะนำจังหวะที่ล็อคแล้วเบาคันเร่งพอรถไหลๆแล้วสับเลย D >>>> N >>>> D รับรองหายแล้วดันเลื่อนไปที่ +/- แทนและรักษาระดับการกดคันเร่งไปเรื่อยๆจนพ้นอุปสรรค อย่าเร่งส่งเพราะรถทำความเร็วไม่ได้เดี๋ยวECU Gear จะจับได้ว่าใช้ริอบไม่สัมพันธ์ความเร็วเคลื่อนตัวจะพาเข้าสู่ Gear Hold mode อีกครั้ง ถ้าเข้าก็แก้ไขใหม่อีกที จบ...ครับ
เห็นด้วยกับพี่ทศครับ ขึ้นเขาผมก็ชอบขับ manual ครับ
paddle shift ใช้งานสะดวกดีครับ
พอดีจะถามต่อครับว่าความเร็วและรอบเครื่องเท่าไรที่ควรเป็น จะกระโดดไหมตอนเรากลับไป D อีกครั้ง ได้คำตอบแล้วครับ ขอบคุณพี่นะมาใหัขัอมูลครับจังหวะแบบนี้ต่ำกว่า 30km/h อาการของเกียร์ไม่รู้สึกอะไรหรอกเพราะเรายกคันเร่งออกหากมีคงนิดๆ
รถผมวิ่งขึ้นลงเขา มาตลอดเกือบห้าปีแล้ว จนเลขไมล์ 120000 โล คิดไม่ต่ำกว่าครึ่งที่เป็นทางเขา ยังไม่เคยเจอเกียร์ล็อกครับ รึผมไม่รู้ว่ามันล็อกก็เป็นได้ครับ :L4398: :L4398:
การขับขี่ลองใช้ทั้ง D และ + - มาหมดแล้วครับ จากประสบการณ์ที่คิดว่าดีและเหมาะสม สะดวกสบาย ในการขับขี่สำหรับผม คือ ขาขึ้น D อย่างเดียว ส่วนขาลง ถ้าลงเร็วหน่อย ก็จะใช้ + - ช่วยครับ :L4398: :L4398:
รถผมวิ่งขึ้นลงเขา มาตลอดเกือบห้าปีแล้ว จนเลขไมล์ 120000 โล คิดไม่ต่ำกว่าครึ่งที่เป็นทางเขา ยังไม่เคยเจอเกียร์ล็อกครับ รึผมไม่รู้ว่ามันล็อกก็เป็นได้ครับ :L4398: :L4398:
การขับขี่ลองใช้ทั้ง D และ + - มาหมดแล้วครับ จากประสบการณ์ที่คิดว่าดีและเหมาะสม สะดวกสบาย ในการขับขี่สำหรับผม คือ ขาขึ้น D อย่างเดียว ส่วนขาลง ถ้าลงเร็วหน่อย ก็จะใช้ + - ช่วยครับ :L4398: :L4398:
ผมก็ไป TEST Gear lock ที่ขุนสถานมาครับพี่อุเทน
ว่างๆลองขับขึ้นไปเที่ยวขุนสถานเล่นๆดูครับ แล้วยัดแต่คันเร่งดูครับ
แป๊ปเดียว เจอพงศ์พัฒน์ เลยครับ (ร๊อคนีหว่า) :sd42: :L2905: :L2905:
มันไม่ล็อคก็ดีแล้วครับพี่อุเทน น่าจะเป็นเพราะพี่อุเทนมีประสบการณ์ในการขับรถขึ้นทางชันบ่อยๆครับ ดังนั้นการใช้คันเร่ง รอบ และเกียร์ น่าจะสัมพันธ์กันจนมันไม่ล็อค
:L2734: :L2734: :L2734:
หรือพี่อุเทนอยากให้มันล็อก ... เดี๋ยวแนะนำให้ได้นะครับ :L2754: :L2754: :L2754:
ผมก็ไป TEST Gear lock ที่ขุนสถานมาครับพี่อุเทน
ว่างๆลองขับขึ้นไปเที่ยวขุนสถานเล่นๆดูครับ แล้วยัดแต่คันเร่งดูครับ
แป๊ปเดียว เจอพงศ์พัฒน์ เลยครับ (ร๊อคนีหว่า) :sd42: :L2905: :L2905:
ผมไม่ถนัดครับพี่เจ เพราะทางขึ้นเขาเจอโค้ง ช่วงหมุนพวงมาลัยแล้วแตะ paddle shift ไม่ถนัดครับ
น่าไปเที่ยวมากเลยครับพี่อุเทน :L4384: :L4384: :L4384:
ฝนตก ขับรถระมัดระวังนะครับพี่อุเทน ^^
:L2758: ขอบคุณครับพี่เจ ระบบความปลอดภัยสูงสุด สัณญาณเตือนข้างหูตลอดทางจากเบาะข้างๆครับ :L4398: :L2905: :L2905:
:L2758: ขอบคุณครับพี่เจ ระบบความปลอดภัยสูงสุด สัณญาณเตือนข้างหูตลอดทางจากเบาะข้างๆครับ :L4398: :L2905: :L2905::sd42: ขอผม มีการกระทืบพื้นเหมือนจะเหยียบเบรค ซ่ะเองด้วยคับ. แล้วร้อง เบรก เบรกๆๆ. เหยียบ ลึกๆ. เหยียบเบรกลึกๆ.
ถ้าไม่ชินในทางขึ้นเขา ส่วนตัวผมว่าน่าจะลองฝึกทางราบก่อนก็ได้ครับพี่แมน
paddle shift ก้านค่อนข้างกว้างนะครับ ไม่แข็งด้วย ใช้นิ้วก้อย + นิ้วนางเกี่ยวแล้ว แล้วดึงเข้าหาตัวก็ได้อยู่นะครับในจังหวะนั้น
แต่ถ้าจริงๆ แล้วตามที่พี่นะ, พี่ตูมตามบอกก็เข้า mode manual ไว้ซักระยะก่อนขึ้นเขาครับ ช่วงขึ้นเขาก็เป็นเกียร์ 2-3-4 น่าจะไม่เกินนี้ครับ
... ฝึกไว้ได้ประโยชน์จริงๆ ครับ confirm ^^
:sd42: ขอผม มีการกระทืบพื้นเหมือนจะเหยียบเบรค ซ่ะเองด้วยคับ. แล้วร้อง เบรก เบรกๆๆ. เหยียบ ลึกๆ. เหยียบเบรกลึกๆ.
ไอ้ที่ผมตกใจน่ะคับ ไม่ใช่รถหรอกคับ. ผ.บ. ผมนี่ แหล่ะ. ร้องจนตกใจน่ะคับ. เล่นซ่ะรถ เป๋. ไปเลยคับ. :sd42:
แหะๆ ผมก็มีครับพี่อุเทน
แรกๆ ขับไม่ดีก็ใช้ ระบบเตือนด้วยเสียงอัตโนมัติ ครับ
ยังไม่ดีอีก เจอ ระบบสัมผัส เลยครับทีนี้ 5555
:L2739: ผมขอรบกวนพี่ตามเรื่องอื่นดีกว่าครับ ยังไม่อยากโดนล็อกครับมันอึดอัด :L2905: :L2905:
ครับพี่ไซ ผมแนะนำพี่มาที่บ่อเกลือดีกว่าครับ ทางขุนสถานง่ายไปหน่อยครับ สภาพเส้นทางไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่เส้นบ่อเกลือยาวกว่า ผ่านจุดชมวิวดอยภูคาซึ่งสูงที่สุด 1715 ม. (รูปข้างล่างสุดท้ายครับ วันนี้หมอกหนามองไม่เห็นวิว) ทางชันจะมากกว่าครับ :L2901: :L2901:
(http://upic.me/i/4d/img20140707003_resize.jpg)
:L2736:
ที่นี่ใช่ป่าวครับ :L2739:
ยอดดอยภูคา
:L2888: มุมรูปบนเห็นตอนแรกไม่แน่ใจครับ แต่รูปล่างใช่เลยครับพี่ไซ :L2904: แล้วทริปนั้นลงมาต่อที่บ่อเกลือ หรือ อช.ขุนน่าน รึเปล่าครับพี่ :L2734:
เทียบกันทางขุนสถานแล้วพอกันมั้ยครับ :L4398: :L4398:
(http://upic.me/i/z3/imag3526.jpg)
หรือจะเอาแบบนี้ไปแว้น จะได้ไม่โดน Gear lock :sd42: :L2905:
แบบนี้ต้องเจอกันตัวๆกับลูกชายผมครับ :L6428: :L6428:
(http://upic.me/i/61/imag3541.jpg)
:sd23: สวัสดีคับพี่ตาม เจ้าของกระทู้ และพี่ๆ สมช ทุกท่านที่มาแชร์ประสบการณ์ ผมเพิ่งมีโอกาศเข้ามาศึกษาข้อมูลเรื่องเกียร์ล็อคครับ มีประโยชน์เป็นอย่างมากครับ ได้รับรู้ปัญหาและแนวทางแก้ไขถ้าหากเกิดขึ้น จะได้แก้ไขได้ถูกต้องอย่างมีสติครับ ข้อมูลยอดเยี่ยมเลยครับ :L2734: :L2734: :L6428:
สอบถาม...เรื่องเกียร์ล๊อคครับ
จากที่ได้ใช้ปา 2014 เจอเกียร์ล๊อคครั้งแรกตอนที่ไปขึ้นห้วยคอกหมู ตอนนั้นยังไม่รู้สาเหตุ และข้อมูลเท่าที่ควร ก็ไต่ระดับด้วยเกียร์ 2 ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมาย...
นั่งคุยกับพี่เขย เค้ายังงงเลยว่ามันล๊อคได้อย่างไร :L4387:
หลังจากนั้นก็กลับมาศึกษาหาข้อมูลรวมถึงในกระทู้ของพี่ตูมตามด้วย ล่าสุดได้มีโอกาสไปภูทับเบิกครั้งแรกขึ้นทางเพชรบูรณ์ พอแยกเข้าเส้นเขาค้อก็ใช้ Paddle shift ทันที
(ไม่ได้ปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า) ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เพราะเส้นทางนั้นไม่ชันมากเท่าไหร่...
อีกวันที่ต้องขึ้นไปภูทับเบิกออกจากวัดผาซ่อนแก้วไปตามเส้นทางพอถึงแยกเข้าภูทับเบิกก็ใช้ Paddle shift เหมือนเดิม ใช้เกียร์ 1, 2, 3 +- ตามความชันของเส้นทาง และความเร็วรอบไม่เกิน 2000-2200 แต่ถ้าทางเรียบยาวหน่อยก็มีเกียร์ 4 บ้าง วิ่งมาได้ครึ่งทางใกล้จุดพักรถ อาการเกียร์ล๊อคก็เกิดขึ้นเลยแวะจุดพักรถดับเครื่องพักรถ 10 นาที เริ่มใหม่ตามสูตรเดิม (คราวนี้ปิดกล่องคันเร่งไฟฟ้า) วิ่งมาได้ไม่เกิน 5 กิโลล๊อคอีกแล้ว งง....เลยแวะจุดพักรถอีกครั้ง คิดทบทวนต่างๆ นานาจะแก้ปัญหายังไง???? :sd06:
คราวนี้เปลี่ยนวิธีจากที่เลี้ยงรอบเครื่องไม่ให้เกิน 2000-2200 ในแต่ละรอบเกียร์ ลองใช้วิธีเหยียบคันเร่งส่งในช่วงขึ้นเนิน เช่นเกียร์ 2 รอบ 2000-2300 หรือเกียร์ 3 ก็เหยียบคันเร่งส่งรอบ 2300-2500 เพื่อให้รถมีกำลัง รู้สึกได้ถึงพลังเครื่อง 2.5 GT Turbo จนถึงยอดภูทับเบิก... :sd10:
แต่วิธีการที่บอกมาอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง แต่ลองทำดูก็ไม่เกิดเกียร์ล๊อคอีก ขากลับลงทางภูหินร่องกล้าทางไม่ชันเหมือนขาขึ้นแต่ก็ขับด้วย Paddle shift ตลอดทางจนเข้าเมืองจึงเปลี่ยนมาขับ Auto เหมือนเดิม... :L2754:
เกิดจากความสัมพันธ์ของ 3 ส่วนมันตรงกับเงื่อนไขการ Hold step gear positions ของ ECU ครับ รอบเครื่อง+ความเร็ว+ระยะคันเร่งไฟฟ้า
* ถ้าวิ่งด้วยรอบ 2500-2800 โอกาส Hold น้อย สำหรับขับ 2
* ถ้าวิ่งด้วยรอบ 2300 +/- กับเกียร์สูงไม่นานจะshipลง2 แล้ว Hold
* ถ้าวิ่งด้วยรอบสูงมากเกียร์ต่ำมาก ไฟน้ำมันเกียร์จะโชว์
* ต้องเลี้ยงจังหวะความสัมพันธ์ 3 ส่วนให้ดีและเข้าใจเงื่อนไขการ hold
* เมื่อ Hold ก็ปลดกลางอากาศได้ >>> ship to N >> Ship D >>> Ship +/- แล้วรักษาความสัมพันธ์ต่อไปจนพ้นอุปสรรค
* ขับ 4 จะได้เปรียบเรื่องความถี่ในการ Hold จะน้อยกว่า แต่ก็ไม่รอด
ลองดูครับ
............ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีโอกาศไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนครับ ไปถึงบ้านรักไทย ปางอุ๋ง ก็ทุกที่ที่เขาไป ไม่ปรากฏว่าเกียร์ล้อคช่วงที่อัดขึ้นเขากับยี่ห้ออื่นก็เสียวๆอยู่กลัวล้อค แต่ก็ไม่ล้อค ผมไม่ได้เสียบคันเร่งไฟฟ้า ใช้ +/- ตลอด มันดี เบรค,คลัสไม่ไหม้ แต่เวลาลงเขานี่ด้วยน้ำหนักที่ค่อนข้างมากกว่าจะเอาอยู่ดึงรอบไปอยู่ที่ 3500 - 4000 รอบ แต่ก็ผ่านได้ด้วยดีครับ..... :L2760: :L2760: :L2760:ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับพี่. :sd23: เด่ว ลองมั้งคับ. :L4373:
เอาละครับ....หลังจากได้ลองทดสอบกับ 2400 โค้ง ช่วงไป-กลับ แม่สอด-อุ้มผาง...และบวกด้วยขากลับจาก แม่สอด-ตาก.....ผมมีข้อแนะนำสำหรับการขับรถขึ้นเขา และป้องกันอาการเกียร์ล็อคดังนี้ครับ
1. ให้ใช้เกียร์ + - หรือ Paddle Shift แล้วแต่ใครจะมีตัวไหนนะครับ......ให้ใช้อุปกรณ์นี้ตั้งแต่ยังขับอยู่บนทางราบ ก่อนขึ้นเขาครับ.....ไม่ใช่ใช้ตอนก่อนขึ้นทางที่ชันนะครับ.....ใช้ตั้งแต่ทางราบก่อนขึ้นเขาเลย.....คือเมื่ออยู่ที่ตีนเขาก่อนขึ้นเขาซัก 4-5 กิโล ให้ปรับมาใช้อุปกรณ์เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองเลยครับ.....เพื่อให้ ECU อันแสนฉลาดโคตรของเรารู้เลยว่า.....ต่อไปนี้กรูจะเปลี่ยนเกียร์เองแล้วนะ......มรึงไม่ต้องเฉือก
2. เมื่อขึ้นทางชัน ไม่ว่าจะชันมาก หรือชันน้อย......ให้ลดเกียร์ลงมาที่เกียร์ 2 (เปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเองนะครับ).....ถ้าทางชันไม่มากนัก แล้วเปลี่ยนลงมาเกียร์ 2 แล้วรอบสูงเกิน....ค่อยเปลี่ยนกลับไปที่เกียร์ 3 แล้วค่อยขึ้นต่อครับ
3. ระมัดระวังในเวลาเติมคันเร่งเมื่อขึ้นทางชัน......ระลึกว่าขึ้นทางชันควรขึ้นช้าๆ....ไม่ใช่ขับขึ้นทางชันเหมือนขับพื้นราบ....ค่อยๆเติมคันเร่ง....อย่ายัดคันเร่ง......ถ้าค่อยๆเติมคันเร่งแล้ว รถยังไม่มีแรงขึ้น (กรณีทางชันมาก)....ให้ใช้การเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำช่วย แทนการยัดคันเร่ง
4. ใช้เกียร์ให้มากกว่าคันเร่ง.......ในการขับขึ้นทางชัน การควบคุมความเร็วของรถ ไม่ว่าจะเพิ่มความเร็ว หรือลดความเร็วในขณะขึ้นทางชัน ให้ใช้เกียร์ในการช่วยควบคุมให้มากไว้ครับ.....อย่าพึ่งพอเพียงการเติมคันเร่งเท่านั้น....ถ้าไม่ใช้เกียร์ เดี๋ยว ECU มันจะฉลาด เห็นว่าไม่ใช้เกียร์ เลยล็อคไว้ให้ใช้เกียร์เดียวมันซะเลย
5. ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์กล่องคันเร่งไฟฟ้า....ให้ปิด หรือปรับลงมาอยู่ในโหมดต่ำๆ....เพื่อให้ ECU ทราบการกดคันเร่งจริงๆของเรา....ไม่งั้น ECU จะโดนหลอกจากกล่องคันเร่งไฟฟ้า (กล่องคันเร่งไฟฟ้าจะหลอกว่าเรากดเยอะแล้ว ทั้งๆที่เรากดน้อย) พอเราหลอก ECU มากๆ ไปๆมาๆ ECU มันเลยหลอน พาลล็อคเกียร์ให้เราซะเลย
ด้วยวิธีการนี้....ผมสามารถขับ 164โล ขึ้น-ลงเขา กับ 1219โค้ง ระหว่างแม่สอด-อุ้มผาง ได้โดยไม่มีอาการเกียร์ล็อคเลยแม้แต่ครั้งเดียวครับ