Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => Performance Talks & Engine Modifications => ข้อความที่เริ่มโดย: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 21 กันยายน 2012, 15:14:00
-
(เครดิต ทีมที่ปรึกษา รั้วสังกะสี)
ตอน5 - -แต่งเครื่องแล้วกินน้ำมันมากกว่าเดิมไหม ??
รถแรงแล้วไม่กินน้ำมัน รถวิ่งมันส์แต่ไม่สร้างความร้อน เป็นความเชื่อและความเข้าใจที่ผิด
ข้อมูลนี้เขียนแบบเรื่องเล่าให้ฟัง ไม่จำเป็นต้องเชื่อถือหรือจดจำ อยากให้อ่านผ่านๆและเข้าใจให้ได้ ใครอ่านครบอาจได้รู้อะไรหลายอย่าง ใครอ่านผ่านๆ ข้ามๆอาจจะเสียเวลาอ่านมากกว่า 1 รอบ จะเข้าใจยิ่ง
รถจะแรงมีพลัง หากไม่พึ่งพาน้ำมันจะเอากำลังมาจากไหน หลักในความแรงหนีไม่พ้นกฎทั้ง 5 ข้อนี้
1. อากาศทำให้รอบขึ้นไว
2. น้ำมันทำให้รถมีแรง
3. เชื้อเพลิงที่ดีทำให้รถมีกำลัง
4. การควบคุมที่ดี ทำให้เกิดความต่อเนื่องของกำลัง
5. จังหวะของความแรง แต่ละรอบเครื่องในรถคันนั้น สร้างความได้เปรียบได้ หากรู้จังหวะรถตัวเอง
ก่อนจะไปถึงเรื่อง กล่องข้าวน้อย(ดันราง) สร้างการเปลี่ยนแปลงอะไรกับเครื่องยนต์นั้น เรามาทำความเข้าใจเรื่องพื้นฐานกันก่อน
-
ความเข้าใจเรื่องพื้นฐานเรื่องเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาจากการถอดแบบเทคโนโลยีของการสร้าง Engine Lab ของรถแข่ง โดยที่ลดค่าพิกัดต่างๆลง เพื่อความคงทน เพื่อลดการสึกหรอ เพื่ออายุการใช้งาน เพื่อลดการดูแลรักษา เพื่อเชิงการค้า เพื่อความได้เปรียบของการช่วงชิงตลาดของคู่แข่ง จากการทดลองทดสอบการทำงานหลายๆอย่าง ทั้งภาคทฎษฎีและปฏิบัตินั้น บางครั้งอาจจะไม่ตรงกันเสมอไป แต่ก็ไม่ได้ต่างกันชัดเจนจากการคำนวณเท่าไหร่ เพราะตัวแปรหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ความสึกหรอของเครื่องยนต์ อายุการใช้งาน การดูแลรักษา ความพร้อมของ engine temp ในการใช้งานทุกครั้ง และความไม่บันยะบันยังของผู้ใช้งาน ทำให้ค่าในกระดานทดสอบหรือค่าแนะนำ สูงกว่าค่าที่เล่นกันจนเครื่องยนต์หลุดกระจายเป็นชิ้นๆ (สาเหตุอาจมาจากแรงม้าเหลือเฟือ เลยพยศดีดเครื่องจนกระจายก็ได้)
เมื่อเครื่องยนต์เชิงพานิชออกสู่ตลาดผู้บริโภค แฝงด้วยกำไรและ margin อะไรก็ตามอย่าเพิ่งไปสนใจหรือนำประเด็นมาถกเถี่ยงกัน ว่าซื้อรถราคาเป็น ล้าน ทำไมได้มาแบบนี้ ถ้าคิดดีๆมันก็แค่ 10 กว่าแสนเองนะครับ มาสนใจในสิ่งที่เราเลือกมาแล้วดีกว่า ว่าสามารถต่อยอดอะไร ได้อย่างไร กันบ้าง
เมื่อเราจะเอารถมาเสริมพลังให้เครื่องยนต์ ก็คือการเพิ่มกำลังให้รถ การเพิ่มการทำงานให้เครื่องยนต์ การบังคับให้รถทำงานหนักขึ้น เพื่อหวังเอาท์พุท ที่ได้มาคือความแรง แต่แปลกทำไมไม่หวังเอาท์บาว กันบ้างเลย (เอาท์พุท = ผลลัพท์ , เอาท์บาว = ผล+ประสิทธิภาพ ) ดังนั้นการจะเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์นั้นสามารถดึงค่าเซฟตี้กลับมาใช้งานได้ แต่ควรเหลือเผื่อไว้บ้าง และการเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์นั้นให้เน้นไปที่อุปกรณ์(hardware)และการควบคุมคู่กันไป อย่าไปเน้นอย่างไดอย่างหนึ่งมากเกินไป เพราะความง่ายของการตกแต่งบางอย่างเช่นเปลี่ยนการควบคุมของระบบนั้นทำได้ไม่มากเท่าไหร่ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการเปลี่ยน hardware ให้รองรับ แต่การทำแบบแรกมักสร้างผลกำไรให้ง่ายกว่าการจับประแจรื้อเครื่องยนต์ ที่อาจจะต้องใช้เวลานานกว่าใส่กล่องเทพต่างๆ ไม่ต้องแปลกใจอะไรหรอกว่าทำไมร้านค้ามักไม่พูดทำนองนี้ เพราะถ้าพูดไปก็ต้องเปลี่ยนป้ายร้านค้าเป็นชมรม โรงเรียน หรือศูนย์ช่วยเหลือฯ แล้วของที่วางอยู่ในร้านจะไปขายใครล่ะทีนี้
การที่เราให้เครื่องทำงานมากขึ้น ก็คือการเพิ่มความสิ้นเปลืองและเพิ่มความร้อนจากการทำงานที่มากขึ้นของเครื่องยนต์นั่นเอง ฉะนั้นหากเราจะเพิ่มการทำงานของเครื่องยนต์แล้วนั้น เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามันเพิ่มไปถึงจุดไหน เพิ่มได้เท่าไหร่ ตรงไหนคือจุดพัง แล้วในการเพิ่มแต่ละครั้งตรวจวัด ปรับค่ากันด้วยอะไร ให้โปรดคำนึงถึงสิ่งพวกนี้เป็นหลัก หากเป็นรถเราเองจะใช้วิธีจูนจนชิ้นนั้นพังแล้วบอกว่านี้คือจุดสูงสุด ก็ไม่น่าจะใช่เพราะหลายอย่างมีองค์ประกอบที่กล่าวมาแล้ว จะบอกว่ารู้สึกว่ามันแรงกว่าเดิมหรือวัดด้วยปลายรองเท้า ก็ต้องดูอีกว่าช่วงที่วัดกลางวันหรือกลางคืน ความหนาแน่นของอากาศต่างกันไหม พื้นรองเท้าหนาบางไม่เท่ากัน สุดท้ายก็ต้องพึ่งเครื่องวัดหรือไปยืนหน้าสลด จ่ายตังค์หน้าไดโนเทสนั้นแหละ ถึงจะรู้ หรือได้ข้อมูลลับจากที่ไหนสักที่ว่าค่าที่ได้มานี้เป็นค่าที่ทดสอบมาแล้วจากการทดลองจริง พังจริง ก็อาจจะไม่มีใครเชื่อว่าจาก 100 คนจะเชื่อถึง 80 คนหรือป่าว แบบนี้ก็ต้องพิจารณาจากข้อมูลที่จะแชร์ให้อีกครั้ง ก็แล้วกัน ถึงบอกว่าอ่านผ่านๆอย่าท่องจำแต่ให้เข้าใจ
คำถาม : การแต่งเครื่องยนต์ ให้มีแรง ให้มีกำลัง ให้อัตราเร่งดี กินน้ำมันไหม ????
ตอบง่ายๆ : โอ่กินแน่นอนครับ ! ( แต่กินสั้น )
Note : รถที่แต่งจนมีกำลังและอัตราเร่งดี สามารถใช้เชื้อเพลิงได้คุ้มค่ากว่าเมื่อวิ่งทางยาวและความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่อเนื่อง , แต่หากใช้ในเมืองต้องระวังอย่าเร่งบ่อย เพราะความรวดเร็วรุ่นแรงที่ได้มา ต้องแลกกับน้ำมันที่เผาทิ้งไปเสมอ , ฉะนั้นต้องเรียนรู้รถ เรียนรู้เครื่องยนต์ และเรียนรู้วิธีการและหลักการ จะได้รู้ทันช่างที่ชอบแนะนำและพูดจาไม่ค่อยเคลียเรื่องแต่งเครื่องยนต์แล้วไม่กินน้ำมัน หรือประหยัดกว่าเดิม
เอาแค่นี้ก่อน เดี๋ยวว่างๆมาต่อ ตอนต่อไป
-
มาหาความรู้ก่อนใส่กล่องครับ,
ผมไล่อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วและตอนนี้เลยตามมา
ขอบคุณผู้ให้ความรู้และเป็นการโน้ตไปด้วยว่าอ่านแล้ว(ถึงแม้จะตามไม่ค่อยทัน)
ขอบคุณ พี่นะสำหรับความรู้ครับ
-
เอาภาพมาให้ดูครับ อาจไม่ประหยัดที่สุด
แต่เป็นระดับที่ผมทำได้และพอใจมากๆครับ
(http://i1251.photobucket.com/albums/hh557/TuiYindee/null-44.jpg)
-
ขอบคุณสำหรับความรู้และข้อมูลครับพี่นะ :L6428:
-
:sd23: ขอบคุณมากครับพี่นะ กับความรู้และรายละเอียดที่ดีมากๆครับ :sd27:
-
คำถาม : การแต่งเครื่องยนต์ ให้มีแรง ให้มีกำลัง ให้อัตราเร่งดี กินน้ำมันไหม ????
ตอบง่ายๆ : โอ่กินแน่นอนครับ ! ( แต่กินสั้น )
คำว่า(แต่กินสั้น) หมายถึงอะไรครับ
กระทู้นี้อ่านแล้วพร้อมสอบถามข้อข้องใจ
-
ตอบพี่ศักดิ์ - คำว่า "กินสั้น" น่าจะหมายถึงช่วงตั้งแต่รถออกตัวและเร่งความเร็วจนถึงระดับลอยตัวซึ่งต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน แต่หลังจากรถเข้าสู่ความเร็วระดับ "ลอยตัว" แล้วก็จะลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงลงมาก เพราะเพียงแค่ประคองให้อยู่ในความเร็วระดับเดิมจะไม่กินน้ำมันมากนั่นเองครับ ผิดถูกอย่างไรคงต้องให้พ่อหมอมายืนยันอีกทีครับ :L2736:
-
ตอบพี่ศักดิ์ - คำว่า "กินสั้น" น่าจะหมายถึงช่วงตั้งแต่รถออกตัวและเร่งความเร็วจนถึงระดับลอยตัวซึ่งต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน แต่หลังจากรถเข้าสู่ความเร็วระดับ "ลอยตัว" แล้วก็จะลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงลงมาก เพราะเพียงแค่ประคองให้อยู่ในความเร็วระดับเดิมจะไม่กินน้ำมันมากนั่นเองครับ ผิดถูกอย่างไรคงต้องให้พ่อหมอมายืนยันอีกทีครับ :L2736:
ขอบคุณครับพี่หยก สมมุติ ผมต้องการความเร็ว 140 จากจุด 80 การที่รถสามารถไปถึง 140 ได้เร็วกว่าทำให้ประหยัดกว่าเพราะรถไม่ต้องแบกน้ำหนักนาน ผมเข้าใจถูกไหม :L6428:
-
ขอบคุณครับพี่หยก สมมุติ ผมต้องการความเร็ว 140 จากจุด 80 การที่รถสามารถไปถึง 140 ได้เร็วกว่าทำให้ประหยัดกว่าเพราะรถไม่ต้องแบกน้ำหนักนาน ผมเข้าใจถูกไหม :L6428:
ผมคิดว่าจุดที่จะ่ช่วยประหยัดได้มากกว่าคือหลังจากที่พี่ขึ้นถึง 140 และรักษาความเร็วคงที่ไว้ที่ระดับนั้นมากกว่าครับ สำหรับผมแล้วความประหยัดก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ถูกนำมาพิจารณาร่วมด้วย แต่ประสิทธิภาพและกำลังของเครื่องยนต์ที่สามารถตอบสนองสไตล์การขับขี่ในแบบที่ตรงใจเราคือสิ่งที่ผมพิจารณาเป็นอย่างแรกครับพี่ศักดิ์ :L4399:
-
มาหาความรู้เพิ่มเติมคับ. :L2904:
-
:L2758: :L2758: :sd23:
-
:L4365: :sd23:
-
:L2894: :L2736:
-
:sd23: พี่นะมากครับ สำหรับข้อมูลและเทคนิคดี ๆยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจไดด้ลึกซึ้ง
-
:sd23: ทีนี้ต้องเก็บตังไว้แต่งรถให้แรงแล้วครับหลังจากโทรคุยกับพี่นะ มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแต่งรถไห้แรง :L2901: :L2901: :L2900:
-
เอาภาพมาให้ดูครับ อาจไม่ประหยัดที่สุด
แต่เป็นระดับที่ผมทำได้และพอใจมากๆครับ
(http://i1251.photobucket.com/albums/hh557/TuiYindee/null-44.jpg)
อยากได้แค่ใกล้เคียงพี่ตุ้ยบ้างต้องทำไงดีครับ :L2753:
-
อยากได้แค่ใกล้เคียงพี่ตุ้ยบ้างต้องทำไงดีครับ :L2753:
พี่อาท ตามที่แนะนำครับ ตามหาพ่อหมอให้เจอ แล้วพยายามโขมยผีให้เข้ากล่องให้ได้..เอา..อี22..มาด้วย.....แล้วลองดู..
-
พี่อาท ตามที่แนะนำครับ ตามหาพ่อหมอให้เจอ แล้วพยายามโขมยผีให้เข้ากล่องให้ได้..เอา..อี22..มาด้วย.....แล้วลองดู..
ครับพี่ทูต..ขอบคุณครับ :sd23:
-
พี่อาท ตามที่แนะนำครับ ตามหาพ่อหมอให้เจอ แล้วพยายามโขมยผีให้เข้ากล่องให้ได้..เอา..E22..มาด้วย.....แล้วลองดู..
:sd42: :sd42: :sd42: อย่าดังไปพี่ทูต เดี๋ยวเสกกันไม่ทัน
-
:sd42: :sd42: :sd42: อย่าดังไปพี่ทูต เดี๋ยวเสกกันไม่ทัน
ไม่ทันแล้วพี่นะ ข่าวนี้ดังไปไกลมากนานแล้วด้วย รอๆหาเวลาจังหวะแจ่มๆก่อน ช่วงนี้สงบเสงี่ยมเจียมตัวไปก่อนให้ ผบ. ชะล่าใจเผลอๆล่ะเสร็จโจร อาท :sd42: :sd42: :sd42:
-
จากวันนั้นเริ่มแต่งเครื่อง ปี 10-12 ถึงวันนี้ปี 16 เอาเป็นว่าประมาณ 4-5 ปีแล้วกันครับ!
* แต่งเครื่องใส่กล่อง ดันราง กล่องคันเร่ง ยกหัวฉีด Switch on ตลอดเวลา ไม่มีเปิดปิด ใช้งานเพียง start เครื่องยนต์ กับเครื่อง 2500cc 140 แรงม้า (ก่อนนำมาแต่ง)
* ใส่ท่อ HKS Hi power / แคทยังอยู่ / กรองอากาศเดิม (สงสัยต้องไปทำดีทอคแคทและท่อสักครั้งดีมั่ง หลายปีล่ะเขม่าคงจะเต็มแคท)
* ล้อหน้ากว้างกว่า 10 นิ้ว ขอบ 22 ยาง AT 305/40R22 Cooper LTZ
* น้ำหนักรถรอบคันนะหรือ 5555 เกาะเหล็กเพียบ + NRB V2 อีก ไม่ต้องถามถึง
เลยมาอัพเดทอัตราสิ้นเปลืองกันก่อนกับการใช้งานปกติบนทางยาว กรุงเทพ - ระยอง - ตราด - กรุงเทพ + ความเร็วปกติ 110 -150 km/h
จบขีดแรก..รับไป 220
(http://i975.photobucket.com/albums/ae236/somchai_5458_2/F451FBF6-85FE-48F9-9557-681FDFF77E7E_zpsgsbszjoe.jpg) (http://s975.photobucket.com/user/somchai_5458_2/media/F451FBF6-85FE-48F9-9557-681FDFF77E7E_zpsgsbszjoe.jpg.html)
จบขีด 2 รับไป 370.........หน้าปัดLED ขาวแดง ทนดีจัง 5ปีไม่มีขาด
(http://i975.photobucket.com/albums/ae236/somchai_5458_2/6505AC96-85A4-4EE0-8608-C91E001D2B94_zpsddeu5dea.jpg) (http://s975.photobucket.com/user/somchai_5458_2/media/6505AC96-85A4-4EE0-8608-C91E001D2B94_zpsddeu5dea.jpg.html)
แตะขีด 4 ได้มาอีก 432
(http://i975.photobucket.com/albums/ae236/somchai_5458_2/01243907-7287-49CB-B276-4EEB50DB9185_zpsgurlff3n.jpg) (http://s975.photobucket.com/user/somchai_5458_2/media/01243907-7287-49CB-B276-4EEB50DB9185_zpsgurlff3n.jpg.html)
จอดละ 438 กับการสูบเชื้อเพลิงไป
(http://i975.photobucket.com/albums/ae236/somchai_5458_2/93220954-A89C-4583-895E-4776475C66DB_zpsqqdowutk.jpg) (http://s975.photobucket.com/user/somchai_5458_2/media/93220954-A89C-4583-895E-4776475C66DB_zpsqqdowutk.jpg.html)
คาดว่าถังนี้ก็คง 5ร้อยกว่าตามเดิมเช่นกัน + ชดเชยไมล์แข็ง คิดเฉลี่ยโดยไม่หนีกับรถเดิมๆเท่าไหร่ แต่มันส์กว่าเยอะเลย
**รอไรกันจ๊ะ ได้ขับ pajero sport กันจริงหรือยัง ของเดิมนั้นมัน pajero turtle 5555555
(http://upic.me/i/0z/turtle1.jpg)
:L2739: :L2739: :L2739: :L2739: :L2739: :L2739:
-
ประหยัดกว่าผมเยอะเลยครับพี่นะเข็มชี้ระดับเกจ์รูปสุดท้ายรถผมมีแค่ 380-400 เอง
-
แวะ.. มาส่งหลักฐาน
(http://uploads.tapatalk-cdn.com/20160604/f6cce547e77954b151b6b0d0174f6f37.jpg)
Sent from my SM-A500F using Tapatalk
-
ขอบคุณครับพี่นะสำหรับข้อมูล :L4399: ส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่เลยครับ ยังไม่คิดเรื่องใส่กล่องยกหัวฉีดเลยคิดว่าจะขับไปให้ได้โลเยอะๆก่อนไว้คิดอีกที ของผมเป็นรถบ้านนานๆเที่ยวทีฮะขับมาปีกว่าๆจะสองปีเเล้วนี่ยังไม่ถึงหมื่นโลเลยครับ :sd42:
-
ขอบคุณครับพี่นะสำหรับข้อมูล :L4399: ส่วนตัวไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่เลยครับ ยังไม่คิดเรื่องใส่กล่องยกหัวฉีดเลยคิดว่าจะขับไปให้ได้โลเยอะๆก่อนไว้คิดอีกที ของผมเป็นรถบ้านนานๆเที่ยวทีฮะขับมาปีกว่าๆจะสองปีเเล้วนี่ยังไม่ถึงหมื่นโลเลยครับ :sd42:
ถ้าพี่โชคได้อ่านข้อมูลในบ้านนี้อย่างละเอียด จะมีคำแนะนำให้ทำตั้งแต่รถและเครื่องยนต์ยังใหม่ๆสดๆอยู่ เหตุผลคือเมื่อเครื่องยนต์อายุมากขึ้นอันเกิดจากการใช้งานตามระยะเวลา มันจะเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ให้ตัวได้ต่างๆจะลดความยืดหยุ่นลง ดังนั้นการแต่งเครื่องเมื่อผ่านไปแล้วหลายปีหรือมีเลขไมล์มากๆ เช่น เกินกว่า 50,000 กม.ขึ้นไปอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับระบบต่างๆได้มากกว่ารถใหม่ ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นข้อมูล
:L2904:
-
ถ้าพี่โชคได้อ่านข้อมูลในบ้านนี้อย่างละเอียด จะมีคำแนะนำให้ทำตั้งแต่รถและเครื่องยนต์ยังใหม่ๆสดๆอยู่ เหตุผลคือเมื่อเครื่องยนต์อายุมากขึ้นอันเกิดจากการใช้งานตามระยะเวลา มันจะเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ให้ตัวได้ต่างๆจะลดความยืดหยุ่นลง ดังนั้นการแต่งเครื่องเมื่อผ่านไปแล้วหลายปีหรือมีเลขไมล์มากๆ เช่น เกินกว่า 50,000 กม.ขึ้นไปอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับระบบต่างๆได้มากกว่ารถใหม่ ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นข้อมูล
:L2904:
ผมนี่ได้แต่คิดครับพี่หยก แตยังไม่มีโอกาสครับพี่ :L2739: :sd27: :sd27:
-
ถ้าพี่โชคได้อ่านข้อมูลในบ้านนี้อย่างละเอียด จะมีคำแนะนำให้ทำตั้งแต่รถและเครื่องยนต์ยังใหม่ๆสดๆอยู่ เหตุผลคือเมื่อเครื่องยนต์อายุมากขึ้นอันเกิดจากการใช้งานตามระยะเวลา มันจะเกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนต่างๆ โดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ให้ตัวได้ต่างๆจะลดความยืดหยุ่นลง ดังนั้นการแต่งเครื่องเมื่อผ่านไปแล้วหลายปีหรือมีเลขไมล์มากๆ เช่น เกินกว่า 50,000 กม.ขึ้นไปอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายกับระบบต่างๆได้มากกว่ารถใหม่ ประมาณนี้ครับ เพื่อเป็นข้อมูล
:L2904:
ยืนยันตามพี่หยกครับ ถ้าจะแต่งแนะนำให้แต่งตั้งแต่ตอนใหม่ๆไปเลย การสึกหรอของอุปกรณ์จะมีอายุพอๆกัน หากมาแต่งตอนอายุรถเยอะๆระวังจะจ่ายเพิ่มอีกจากอาการแทรกซ้อนที่รถไม่เคยแรงมาก่อน
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลการบริโภคน้ำมันครับพี่นะ ประหยัดดีนะครับ ถ้าเทียบกับของแต่งที่ใส่ไป :L4399:
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลการบริโภคน้ำมันครับพี่นะ ประหยัดดีนะครับ ถ้าเทียบกับของแต่งที่ใส่ไป :L4399:
สวัสดีครับพี่ตุ้ย ถ้าในเมืองหลวงรถติดๆประจำ เส้น พระราม9 รัชดา ศรีนครินทร์ พัฒนาการ จะเหลือประมาณถังละ 4xxโลเองครับ
(เฉลี่ย กิโลละ 5 บาท ครับ)
-
สวัสดีครับพี่ตุ้ย ถ้าในเมืองหลวงรถติดๆประจำ เส้น พระราม9 รัชดา ศรีนครินทร์ พัฒนาการ จะเหลือประมาณถังละ 4xxโลเองครับ
(เฉลี่ย กิโลละ 5 บาท ครับ)
[/quot]
;D