Pajero Sport Mania ปาเจโร่สปอร์ตมาเนีย
Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) => D.I.Y. (Do It Yourself) => ข้อความที่เริ่มโดย: ปุ้ย ที่ 3 กันยายน 2013, 22:31:07
-
ไม่รู้จะลงห้องไหนดี ขอลงห้อง DIY นี่ละนะครับ เพราะการติดตั้งส่วนมากผมทำเอง หากเห็นสมควรย้ายห้องแจ้งได้เลยครับ
----------------------------------------
อันนี้แนะนำสำหรับปา GLS ที่ไม่มีจอ Alpine ติดมาครับ
ปาผมเป็น GLS 4WD ปี 2011 ติดจอ 7 นิ้วต่อ HDMI ได้ (รถคันเก่าใช้จอแบบนี้ ต่อคอมพิวเตอร์ในรถ)
ก่อนหน้านี้ผมใช้ HD Player ของ Cube Pro100 กล่องเล็กมากๆขนาดแค่ประมาณซองบุหร๊่ ต่อ HDMI พร้อม AVOut ได้ (สำหรับจอกลางและเสียงออก) การทำงานรวดเร็ว ภาพสวย พอใจมากครับ
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ชักอยากเล่นอะไรเพิ่ม คิดอยู่นานแล้วว่าอยากได้ Android มาใช้ในรถเพราะว่า...
- Dashcommand และ Touque บน Android ใช้ดูค่าต่างๆผ่าน OBDII interface (Bluetooth adapter) อ้อ Dashcommand มีแดชบอร์ดสวยๆหลายตัว หลักๆเลยคืออันนี้ :sd10:
- ฟังเพลงได้ทุกฟอร์แมท (mp3, flac) ดูหนัง ดู MV ได้ (ไม่สะดวกเท่า HD Player แต่ก็ใช้ได้ดี)
- ต่อ 3G, Wiifi ดู TV ได้ ภาพชัดแน่นอน (ถ้ามีสัญญาณ 3G) เข้าเน็ตแก้ขัดก็พอได้
- ใช้ Google map, iGO ได้
- อื่นๆอีกหลายอย่างที่ทำได้ใน Android
แรกๆก็เอา tablet มาวางในรถ แต๋ก็ไม่ค่อยโอ ค่อนข้างเกะกะ ตอนไปติดปิ่นโต+ พี่ใหม่ที่ไปลองรถด้วยก็ทักว่าน่าจะติดเข้าไปในจอได้นะ
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/P1060999-sm.jpg)
ดูไปดูมาก็ไปเจอเจ้า Android TV หาข้อมูลอยู่ซักพักก็เลยลงตัวกับอันนี้
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/cs848_zps341f0c1b.jpg)
ต่อ HDMI และ AVOut ได้
เพิ่ม micro SD ได้
ต่อเมาส์ คีย์บอร์ดได้
มี Wifi, Bluetooth ไม่มี GPS
อันนี้เป็น Home screen บนเจ้า Android TV ที่ผมใช้อยู่ ต่อสาย HDMI เข้าจอหน้าในปา (ถ้าจำไม่ผิดเป็นจอ Lilliput 669GL)
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv1_zpsadb2d889.jpg)
------------------
ต่อครับ
รูปนี้เพิ่ม Torque Widget เพื่อดูค่าต่างๆจาก Home screen ได้ด้วย (เหตุผลหลักที่ใช้ Torque) ผมใช้ดูค่าความร้อนเวลาเหยียบหนักหน่อยครับ
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-TorqueWidget_zps0305cf27.jpg)
โปรแกรม Dashcommand + แดชบอร์ดที่ผมทำเอง (เอาของชาวบ้านมาแก้ ;)) และอัพโหลดไว้บน dashxl.net
อันนี้ใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS ครับ ใครใช้ Dashcommand ลองโหลดแดชบอร์ดตัวนี้ไปใช้แล้วช่วยคอมเมนต์ด้วยครับ
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-dashcommand2_zpsf8d7dea8.jpg)
GPS navigator ผมใช้ iGO
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-iGO_zpsb3372a96.jpg)
ใช้โทรศัพท์ 3G แชร์ Wifi ให้ ดู TV ชัดๆ (เผื่อใครติดละคร) เข้าเว็ป เข้า youtube ได้
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-aisTV_zps0c1a7873.jpg)
กลัวไม่คุ้มก็เพิ่มนาฬิกาเรือนใหญ่ๆอีกซักอัน
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-clock_zps289536e9.jpg)
อันนี้ออก 2 จอ จอกลางผ่าน AVOut ถาพที่ได้จาก HDMI ที่จอหน้าชัดกว่าพอประมาณ
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/adtv-2monitor_zps0f0dda2b.jpg)
รูปหมดละครับ
สรุปอุปกรณ์ที่ผมใช้ณตอนนี้ เฉพาะที่เกี่ยวข้องในกระทู้นี้ครับ
- Android TV box
- จอหน้า 7 นิ้ว ต่อ HDMI ได้
- จอกลาง น่าจะ 10 นิ้ว ต่อ AVIN
- วิทยุ Kenwood (เกี่ยวกับกระทู้นี้ไหม)
- OBDII Adapter Bluetooth
- Bluetooth GPS
- โทรศัพท์ 3G ปล่อย Wifi ได้
- แอร์เมาส์, คีย์บอร์ดไร้สาย
น่าจะหมดละครับ
-
:L4365: :sd10: :sd10: :sd10:
-
:L4365: :L4365: :L4365: มาลอยคอและรอคอย :L4398:
-
:L4365: อยากรู้ทำอะไรได้บ้าง
-
แจ่มเลยครับพี่ปุ้ย สงสัยมานานแล้วว่าเจ้า Lilliput เวลาต่อกับ Android มันจะใช้ Touch Screen ได้เลยหรือเปล่า แหม...ถ้าได้นี่แจ่มไปเลยครับ
ผมก็ใช้จอหน้าที่มี HDMI เหมือนกันครับ แต่เลือกแบบไม่ Touch Screen เพราะกลัวว่ามันจะใช้ไม่ได้
เดี๋ยวรอของมาครบเมื่อไหร่จะมาร่วมแชร์ด้วยครับ ตอนนี้รอชมของพี่ปุ้ยก่อนละกันครับ
ของผมกำลังรอเจ้าตัวนี้อยู่ครับ
(http://upic.me/i/rd/original.jpg) (http://upic.me/show/46870991)
ฟังก์ชั่นก็ DVB-T2, Android, HD Player, DLNA, XBMC มีไวเลสและบลูทูธในตัว ว่าจะเอามาสตรีมวีดีโอจากฮาร์ดดิสไว้ดูทั้งจอหน้าและจอหลัง รวมทั้งผู้โดยสารบนรถที่สามารถดูหนังได้จากอุปกรณ์ของตัวเอง ใครอยากดูเรื่องอะไรก็ดูได้เลย อิสระ โดยดึงเอาหนังจากฮาร์ดดิสที่ต่ออยู่กับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้แหละครับ
ก่อนอื่นขอแจก :L6428: ให้พี่ปุ้ยก่อนเลยครับ สำหรับแนว D.I.Y. ที่มีแนวคล้ายๆผม :L2897:
ปูลาย...... Dashcommand และ Touque บน Android ใช้ดูค่าต่างๆผ่าน OBDII interface (Bluetooth adapter)
ผมก็กำลังสนใจอยู่พอดีเลยครับเจ้า OBDII Adapter ที่ว่าอ่ะครับ ผมกะจะเอามาใช้กะไอโฟน แต่ก็กลัวๆว่ามันจะเจ๊งง่ายหรือเปล่า คิดมานานละ ยังงัยจะรอรีวิวจากพี่ปุ้ยนะครับผม :sd23: :sd23:
-
แจ่มเลยครับพี่ปุ้ย สงสัยมานานแล้วว่าเจ้า Lilliput เวลาต่อกับ Android มันจะใช้ Touch Screen ได้เลยหรือเปล่า แหม...ถ้าได้นี่แจ่มไปเลยครับ
ผมก็ใช้จอหน้าที่มี HDMI เหมือนกันครับ แต่เลือกแบบไม่ Touch Screen เพราะกลัวว่ามันจะใช้ไม่ได้
เดี๋ยวรอของมาครบเมื่อไหร่จะมาร่วมแชร์ด้วยครับ ตอนนี้รอชมของพี่ปุ้ยก่อนละกันครับ
ของผมกำลังรอเจ้าตัวนี้อยู่ครับ
(http://upic.me/i/rd/original.jpg) (http://upic.me/show/46870991)
ฟังก์ชั่นก็ DVB-T2, Android, HD Player, DLNA, XBMC มีไวเลสและบลูทูธในตัว ว่าจะเอามาสตรีมวีดีโอจากฮาร์ดดิสไว้ดูทั้งจอหน้าและจอหลัง รวมทั้งผู้โดยสารบนรถที่สามารถดูหนังได้จากอุปกรณ์ของตัวเอง ใครอยากดูเรื่องอะไรก็ดูได้เลย อิสระ โดยดึงเอาหนังจากฮาร์ดดิสที่ต่ออยู่กับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้แหละครับ
ก่อนอื่นขอแจก :L6428: ให้พี่ปุ้ยก่อนเลยครับ สำหรับแนว D.I.Y. ที่มีแนวคล้ายๆผม :L2897:
ปูลาย...... Dashcommand และ Touque บน Android ใช้ดูค่าต่างๆผ่าน OBDII interface (Bluetooth adapter)
ผมก็กำลังสนใจอยู่พอดีเลยครับเจ้า OBDII Adapter ที่ว่าอ่ะครับ ผมกะจะเอามาใช้กะไอโฟน แต่ก็กลัวๆว่ามันจะเจ๊งง่ายหรือเปล่า คิดมานานละ ยังงัยจะรอรีวิวจากพี่ปุ้ยนะครับผม :sd23: :sd23:
พี่แม็ค Iphone ไม่ support OBDII bluetooth นะครับถ้าจะซื้อต้องเป็นตัว Wifi เท่านั้นนะครับ
-
แจ่มเลยครับพี่ปุ้ย สงสัยมานานแล้วว่าเจ้า Lilliput เวลาต่อกับ Android มันจะใช้ Touch Screen ได้เลยหรือเปล่า แหม...ถ้าได้นี่แจ่มไปเลยครับ
ผมก็ใช้จอหน้าที่มี HDMI เหมือนกันครับ แต่เลือกแบบไม่ Touch Screen เพราะกลัวว่ามันจะใช้ไม่ได้
เดี๋ยวรอของมาครบเมื่อไหร่จะมาร่วมแชร์ด้วยครับ ตอนนี้รอชมของพี่ปุ้ยก่อนละกันครับ
ของผมกำลังรอเจ้าตัวนี้อยู่ครับ
(http://upic.me/i/rd/original.jpg) (http://upic.me/show/46870991)
ฟังก์ชั่นก็ DVB-T2, Android, HD Player, DLNA, XBMC มีไวเลสและบลูทูธในตัว ว่าจะเอามาสตรีมวีดีโอจากฮาร์ดดิสไว้ดูทั้งจอหน้าและจอหลัง รวมทั้งผู้โดยสารบนรถที่สามารถดูหนังได้จากอุปกรณ์ของตัวเอง ใครอยากดูเรื่องอะไรก็ดูได้เลย อิสระ โดยดึงเอาหนังจากฮาร์ดดิสที่ต่ออยู่กับเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้แหละครับ
ก่อนอื่นขอแจก :L6428: ให้พี่ปุ้ยก่อนเลยครับ สำหรับแนว D.I.Y. ที่มีแนวคล้ายๆผม :L2897:
ปูลาย...... Dashcommand และ Touque บน Android ใช้ดูค่าต่างๆผ่าน OBDII interface (Bluetooth adapter)
ผมก็กำลังสนใจอยู่พอดีเลยครับเจ้า OBDII Adapter ที่ว่าอ่ะครับ ผมกะจะเอามาใช้กะไอโฟน แต่ก็กลัวๆว่ามันจะเจ๊งง่ายหรือเปล่า คิดมานานละ ยังงัยจะรอรีวิวจากพี่ปุ้ยนะครับผม :sd23: :sd23:
พี่แม็ค Iphone ไม่ support OBDII bluetooth นะครับถ้าจะซื้อต้องเป็นตัว Wifi เท่านั้นนะครับ
รับทราบครับพี่ไซ แสดงว่าพี่ไซก็เล่นอยู่ล่ะสิครับถึงรู้ อิอิอิอิ แต่รู้สึกว่ามันจะมีรุ่นที่ใช้ได้ทั้ง Wifi และ Bluetooth ในตัวเดียวกันด้วยนะครับ ว่าแต่พี่ไชใช้แล้วเป็นยังงัยบ้างครับ มีปัญหาอะไรบ้างมั้ยครับ
-
:L4365: :L4365: มาปูเสื่อรอชมตอนต่อไปครับ :sd10: :sd10:
-
น่าสนใจนะครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ :sd23:
-
ตอบพี่แม็คสำหรับ OBDII adapter สำหรับ IOS ต้องใช้แบบ Wifi เท่านั้นครับ และโปรแกรมบน IOS ก็จะมี Dashcommand เหมือนกัน แต่ Torque มีบน Android เท่านั้น
ในเรื่องของ OBDII adapter ผมมีใช้ทั้งแบบ Bluetooth และ Wifi (รถอีกคันใช้ Android Tablet ที่ไม่มี BT เลยใช้อแดปเตอร์แบบ Wifi)
ข้อเสียของอแดปเตอร์แบบ Wifi คือกินไฟเยอะ ขณะที่เสียบอยู่ตัวอแดปเตอร์ร้อนพอประมาณ
ในปาผมเสียบอแดปเตอร์แบบ BT ทิ้งไว้ตลอดไม่เคยถอดออก ตัวอแดปเตอร์ไม่ร้อน ถ้าเป็นแบบ Wifi คงไม่เสียบทิ้งไว้ครับ
ในด้านการทำงานทั้งสองแบบความสามารถเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องจอผมสั่งแบบไม่มีทัชมา ตอนนั้นตั้งใจว่าจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์ติดรถแล้ว อยากได้แค่จอความละเอียดสูงภาพสวยหน่อย ต่อ HDMI และกล้องหลังได้
หลังจากเอา Android มาใช้เดี๋ยวคงกลับไปรื้อจอทัชสกรีนที่เคยใช้ในรถคันเก่ามาลองดูครับ เห็นตามเว็ปต่างๆเหมือนว่า touch panel ที่ใช้ในจอ 7 นิ้วแบบนี้ไม่มี Driver บน Android ครับ เดี๋ยวต้องลองดู
ในปาผมตอนนี้ใช้แอร์เมาส์อยู่ครับ + คีย์บอร์ดพิมพ์ไทยได้
----------------------
รูป+ข้อมูลเพิ่มขอลงตอนค่ำๆนะครับ
-
ตอบพี่แม็คสำหรับ OBDII adapter สำหรับ IOS ต้องใช้แบบ Wifi เท่านั้นครับ และโปรแกรมบน IOS ก็จะมี Dashcommand เหมือนกัน แต่ Torque มีบน Android เท่านั้น
ในเรื่องของ OBDII adapter ผมมีใช้ทั้งแบบ Bluetooth และ Wifi (รถอีกคันใช้ Android Tablet ที่ไม่มี BT เลยใช้อแดปเตอร์แบบ Wifi)
ข้อเสียของอแดปเตอร์แบบ Wifi คือกินไฟเยอะ ขณะที่เสียบอยู่ตัวอแดปเตอร์ร้อนพอประมาณ
ในปาผมเสียบอแดปเตอร์แบบ BT ทิ้งไว้ตลอดไม่เคยถอดออก ตัวอแดปเตอร์ไม่ร้อน ถ้าเป็นแบบ Wifi คงไม่เสียบทิ้งไว้ครับ
ในด้านการทำงานทั้งสองแบบความสามารถเหมือนกันครับ
ส่วนเรื่องจอผมสั่งแบบไม่มีทัชมา ตอนนั้นตั้งใจว่าจะไม่ใช้คอมพิวเตอร์ติดรถแล้ว อยากได้แค่จอความละเอียดสูงภาพสวยหน่อย ต่อ HDMI และกล้องหลังได้
หลังจากเอา Android มาใช้เดี๋ยวคงกลับไปรื้อจอทัชสกรีนที่เคยใช้ในรถคันเก่ามาลองดูครับ เห็นตามเว็ปต่างๆเหมือนว่า touch panel ที่ใช้ในจอ 7 นิ้วแบบนี้ไม่มี Driver บน Android ครับ เดี๋ยวต้องลองดู
ในปาผมตอนนี้ใช้แอร์เมาส์อยู่ครับ + คีย์บอร์ดพิมพ์ไทยได้
----------------------
รูป+ข้อมูลเพิ่มขอลงตอนค่ำๆนะครับ
ขอบคุณครับพี่ปุ้ย ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลเรื่อง Wifi adapter มันกินไฟมากกว่าครับ ไม่งั้นผมคงสั่งแบบ wifi แน่นอนเลย :sd23: :sd23:
-
ต้องระวังตัวนี้ไว้ด้วยนะครับ OBDII interface เพราะมันจะเข้าไปกวนกล่อง ECU กล่องหลัก
ใครทดลองแล้วไม่เจอ error (ไฟเครื่องโชว์) ก็แนะนำมาด้วยนะครับ พี่ๆท่านอื่นจะได้ไม่ต้องซื้อมาลองผิดลองถูกกัน
เท่าที่เจอมาแล้วของผม 2 กล่องจะมีปัญหากับกล้อง ECU (ประมาณบางครั้งเจอโค๊ต error) หลังๆถอดออกไม่ได้ใช้แล้วครับ
:L2734:
-
พอดีผมก็ทำอะไรเล่นๆ เหมือนกัน กะลองนั่นลองนี่ให้เรียบร้อยก่อน ตอนนี้ก็เลยซื้อเจ้าตัวในรูปนี้ไป เอามาติดตั้งกับเจ้า Altis น้อยที่บ้าน เผื่อได้ไอเดียแปลกใหม่จะเอามาโมด์ใส่น้องปาบ้าง
http://www.aliexpress.com/snapshot/261555032.html
(http://img.alibaba.com/img/pb/926/428/525/525428926_396.jpg)
-
พอดีผมก็ทำอะไรเล่นๆ เหมือนกัน กะลองนั่นลองนี่ให้เรียบร้อยก่อน ตอนนี้ก็เลยซื้อเจ้าตัวในรูปนี้ไป เอามาติดตั้งกับเจ้า Altis น้อยที่บ้าน เผื่อได้ไอเดียแปลกใหม่จะเอามาโมด์ใส่น้องปาบ้าง
http://www.aliexpress.com/snapshot/261555032.html
(http://img.alibaba.com/img/pb/926/428/525/525428926_396.jpg)
ของพี่ปอสวยงาม ๆๆ น่าสน ๆๆ ของพี่ปุ้ยก็น่าสน ๆๆๆ รอดูรีวิวครับงานนี้ :sd10: :sd10:
-
ผมเคยใช้ตัวนี้ครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/11.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/11.png.html)
ถามว่าทนไหม ผมตอบได้เลยครับว่าไม่ทนผมใช้ไม่ถึง 5 ครั้งกลับบ้านเก่าไปซะแหละ(อาจจะเป็นตัวที่ผมใช้ผลิตมาไม่ดีก็อาจเป็นได้ครับ)
อาการที่เสียคือ ตัว OBD2 WIFI ไม่ส่งสัญญาณ WIFI ออกมาครับ
และตัว Program ที่ผมใช้คือตัว Torque pro ครับ สามารถเลือก Tool ต่างๆที่อยากดูออกมาได้ด้วยตัวเอง
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371917994264.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371917994264.png.html)
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371918901162.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371918901162.png.html)
และปัญหาต่อมาที่เจอเหมือนกับพี่ทศเจอครับ มันกวนกันครับทำให้เกิด Fault ขึ้นมาแต่ไฟ Engine ไม่ขึ้นนะครับ และก็สามารถลบได้ด้วยเจ้าตัว OBD2 Wifi ครับ
Connect ครั้งแรก Scan มาตัวนึงครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371917865369.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371917865369.png.html)
เล่นไปเล่นมากลับมา Scan เจอมาอีกเพียบครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371919732498.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371919732498.png.html)
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371919846591.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371919846591.png.html)
แล้วก็ลองเข้าไปลบก็ลบออกครับแต่ไม่หมดคงค้างมา 2 ตัวครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371922976020.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371922976020.png.html)
สุดท้ายผมว่ากลับไปคบกับ Smart gauge น่าจะดีที่สุดครับ (แต่ยังไม่ได้ติดครับ)
-
ตอบพี่ทศเรื่อง error ไฟเอนจิ้นโชว์
OBD อแดปเตอร์ผมใช้มาประมาณ 3-4 ปี (เมื่อก่อนในรถคันเก่าใช้กับคอมพิวเตอร์)
ก็เจอปัญหาไฟปัญหาเอนจิ้นโชว์อยู่บ้าง (รีเซ็ทได้เองโดยใช้เจ้าอแดปเตอร์+โปรแกรม)
ปัญหาปัจจุบันที่ผมเจอในปาจะอยู่ที่โปรแกรมเป็นหลักครับ เช่น
หากเปิดโปรแกรมติดต่อกับอแดปเตอร์ไว้ก่อนที่จะสตาร์ทเครื่อง หลังจากสตาร์ทเครื่องแล้วเกียร์จะทำงานผิดปกติ ดับเครื่องสตาร์ทใหม่เมื่อไหร่ไฟโชว์ครับ
ทางแก้ของผมคือไม่เปิดโปรแกรมทิ้งไว้ในช่วงก่อนสตาร์ท แต่อแดปเตอร์เสียบอยู่ตลอดไม่เคยถอดและไม่เคยเจอปัญหาในขณะที่ไม่เปิดโปรแกรมครับ
อันนี้เจอกับโปรแกรม Torque บางครั้งครับ ใน Dashcommand ยังไม่เคยเจอ (ใช้น้อยกว่าด้วยครับ)
สำหรับปัญหาที่น่าจะเกิดจากอแดปเตอร์เมื่อก่อนก็เคยเจออยู่บ้างครับ อแดปเตอร์สมัยนี้ที่ผมใช้อยู่สองสามตัว (ราคาถูก จากจีน) ไม่น่าจะมีปัญหาครับ
ตอบพี่ปอ เจ้า Android ที่เป็น 2din รู้สึกว่าสำหรับปาเราก็มีครับ
แต่เนื่องจากปาเราแยกช่องติดตั้งวิทยุกับจอมาให้แล้ว :L2900: ดังนั้นผมเลยเลือกติดแยกตามคุณภาพและราคาที่ต้องการครับ
พวกวิทยุจีนเสียงไม่ค่อยโอสำหรับผม แต่มีดีที่ฟังก์ชั่นเพียบ หากใครไม่เน้นเรื่องเสียงก็ถือว่าคุ้มค่าน่าลงทุนครับ
ถ้าเป็นรถรุ่นอื่นๆผมคงสนใจติดเจ้า Android 2din แบบนี้เหมือนกัน ได้ครบๆครับ :L2904:
-
ผมเคยใช้ตัวนี้ครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/11.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/11.png.html)
ถามว่าทนไหม ผมตอบได้เลยครับว่าไม่ทนผมใช้ไม่ถึง 5 ครั้งกลับบ้านเก่าไปซะแหละ(อาจจะเป็นตัวที่ผมใช้ผลิตมาไม่ดีก็อาจเป็นได้ครับ)
อาการที่เสียคือ ตัว OBD2 WIFI ไม่ส่งสัญญาณ WIFI ออกมาครับ
และตัว Program ที่ผมใช้คือตัว Torque pro ครับ สามารถเลือก Tool ต่างๆที่อยากดูออกมาได้ด้วยตัวเอง
และปัญหาต่อมาที่เจอเหมือนกับพี่ทศเจอครับ มันกวนกันครับทำให้เกิด Fault ขึ้นมาแต่ไฟ Engine ไม่ขึ้นนะครับ และก็สามารถลบได้ด้วยเจ้าตัว OBD2 Wifi ครับ
Connect ครั้งแรก Scan มาตัวนึงครับ
(http://i115.photobucket.com/albums/n312/ppsai/screenshot-1371917865369.png) (http://s115.photobucket.com/user/ppsai/media/screenshot-1371917865369.png.html)
เล่นไปเล่นมากลับมา Scan เจอมาอีกเพียบครับ
แล้วก็ลองเข้าไปลบก็ลบออกครับแต่ไม่หมดคงค้างมา 2 ตัวครับ
สุดท้ายผมว่ากลับไปคบกับ Smart gauge น่าจะดีที่สุดครับ (แต่ยังไม่ได้ติดครับ)
ตามที่แจ้งเลย ***สำหรับผมนะครับ***
สุดท้ายผมว่ากลับไปคบกับ Smart gauge น่าจะดีที่สุดครับ (แต่ยังไม่ได้ติดครับ)
ก็คือขี้เกียจปวดหัวกับไอ้เจ้าโค๊ดที่มันขึ้นเกือบทุกวัน สุดท้ายก็มาเล่นแบบสายอินเตอร์เฟสแบบธรรมดานี่แหละครับ
ก็จะมีเจ้า SMG / V-Checker แบบสายเสียบนี่แหละครับเสถียนดี
(ไม่ใช่ว่าไม่แนะนำให้เล่นนะครับ)บางที่อาจจะเจอกล่องอินเตอร์เฟส+โปรแกรมดีๆที่มันเสถียนก็เอามาแนะนำกันบ้างนะครับ
ถ้าไม่เล่นก็ไม่รู้อีกว่ามันใช้ได้+ดีไม่ดีใช่มัยละครับ ส่วนผมจบแล้วลองมาแล้ว 2 ตัวของจีน
:sd06:
ปล.ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า ระบบส่งข้อมูลของมิตซูบิชิ (Can/Lin Bus) มันจะส่งข้อมูลต่างกับของชาวบ้าน (อย่างเช่น โตโยต้า/อีซูซุ/มาสด้า)
เพาะผมลองเล่นกับตัว Wifi อินเตอร์เฟสกับรถค่ายอื่นจะไม่คอยเจอปัญหากับโคต error เวลาเสีบเจ้ากล่อง wifi ครับ
ทดลองแล้วใช้ได้ค่อนข้างดี (มันก็แปลก)
-
กลับมาอัพข้อมูลครบละครับ :sd27:
สำหรับเรื่อง OBD adapter ก็ต้องเสี่ยงหน่อยตามที่พี่ไซ พี่ทศลองไปละครับ (แต่ความเสียหายไม่ร้ายแรง)
เวปฝรั่งเค้าบอกว่าให้ใช้อแดปเตอร์ที่มีคุณภาพหน่อย ไม่แนะนำของจีน
แต่จากที่ผมใช้มาก็โอเคครับ ไม่มีปัญหามากกว่าที่บอกไปแล้ว ของจีนถูกมากๆด้วย ถือว่าอุดหนุนเอเชียด้วยกัน ;D แต่ถ้ามีของไทยแพงหน่อยก็จะซื้อของไทยครับ
ของฝรั่งไม่เคยลอง ไม่รู้ดีกว่าแค่ไหน
-
กระทู้นี้มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ ขอบคุณพี่ปุ้ย พี่ทศ และพี่ไซ ที่ให้ข้อมูลดีๆตรงนี้ครับ เพราะผมดูในเวปแล้วเกิดสนใจอยู่แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจเพราะเรื่องที่ว่ามันไปพ่วงกับ OBDII นี่แหละ กลัวมันจะไปทำให้ระบบชองรถรวนหรือเปล่า หรือมันจะทนทานหรือเปล่า เพราะราคาก็อยู่ในขั้นจับต้องได้ แต่ก็ไม่อยากขว้างทิ้งไปเฉยๆเวลามันเสียขึ้นมา เพราะถ้าจะส่งคืนจีนเพื่อเปลี่ยนตัวใหม่ ค่าส่งมันจะไม่คุ้มครับ :sd23: :sd23: :sd23:
-
กระทู้นี้มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ ขอบคุณพี่ปุ้ย พี่ทศ และพี่ไซ ที่ให้ข้อมูลดีๆตรงนี้ครับ เพราะผมดูในเวปแล้วเกิดสนใจอยู่แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจเพราะเรื่องที่ว่ามันไปพ่วงกับ OBDII นี่แหละ กลัวมันจะไปทำให้ระบบชองรถรวนหรือเปล่า หรือมันจะทนทานหรือเปล่า เพราะราคาก็อยู่ในขั้นจับต้องได้ แต่ก็ไม่อยากขว้างทิ้งไปเฉยๆเวลามันเสียขึ้นมา เพราะถ้าจะส่งคืนจีนเพื่อเปลี่ยนตัวใหม่ ค่าส่งมันจะไม่คุ้มครับ :sd23: :sd23: :sd23:
ผมเคย claim ครั้งนึงครับส่งกลับไปจีน 150 บาทครับ
ค่าตัว wifi น่าจะประมาณ 900กว่าๆ นะถ้าจำไม่ผิด
-
กระทู้นี้มีประโยชน์กับผมมากเลยครับ ขอบคุณพี่ปุ้ย พี่ทศ และพี่ไซ ที่ให้ข้อมูลดีๆตรงนี้ครับ เพราะผมดูในเวปแล้วเกิดสนใจอยู่แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจเพราะเรื่องที่ว่ามันไปพ่วงกับ OBDII นี่แหละ กลัวมันจะไปทำให้ระบบชองรถรวนหรือเปล่า หรือมันจะทนทานหรือเปล่า เพราะราคาก็อยู่ในขั้นจับต้องได้ แต่ก็ไม่อยากขว้างทิ้งไปเฉยๆเวลามันเสียขึ้นมา เพราะถ้าจะส่งคืนจีนเพื่อเปลี่ยนตัวใหม่ ค่าส่งมันจะไม่คุ้มครับ :sd23: :sd23: :sd23:
ผมเคย claim ครั้งนึงครับส่งกลับไปจีน 150 บาทครับ
ค่าตัว wifi น่าจะประมาณ 900กว่าๆ นะถ้าจำไม่ผิด
ขอบคุณครับพี่ไซสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม พี่ไซส่งทางไหนครับ ไปรษณีย์ธรรมดาเลยหรือเปล่าครับ ถ้าราคาค่าส่งขนาดนี้ผมว่าก็โอเคนะครับ ทีแรกคิดว่าค่าส่งจะพอๆกับราคาค่าตัวซะอีก ว่าแต่เราออกค่าส่งไปกลับเลยหรือว่าขากลับผู้ขายออกให้ครับ ที่ถามเนี่ยเพราะผมมีของจีนหลายรายการเลยครับ :sd42: :sd42: :sd42:
-
เข้าไปส่งที่ไปรษณียไทยปกตินี่เลยครับ อาจเป็นเพราะน้ำหนักน้อย Package เล็ก ค่าส่งเลยถูกครับ
Case ของผมส่งใครส่งมันครับ แต่สุดท้ายอยู่ที่เราตกลงกับ Seller ครับ
-
:sd27: :sd27:
-
เข้าไปส่งที่ไปรษณียไทยปกตินี่เลยครับ อาจเป็นเพราะน้ำหนักน้อย Package เล็ก ค่าส่งเลยถูกครับ
Case ของผมส่งใครส่งมันครับ แต่สุดท้ายอยู่ที่เราตกลงกับ Seller ครับ
:L2758: :L2758: :L2758: แจ๋วไปเลยยยยยยยย
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับพี่ไซ
ผมสั่งของจากจีนมาเล่นเยอะเหมือนกันแต่ยังไม่เคยส่งคืน เจอของไม่ดีบ้างนานๆทีแต่เป็นของราคาถูกก็ผ่านไป
สำหรับ OBD adapter หากเราอยากลองเกจ, แดชบอร์ดสวยๆ ก็เลี่ยงไม่ได้ครับ
แต่หากอยากใช้แบบสบายใจ มีคนให้คำแนะนำเยอะก็ SMG ดีกว่าแน่นอน
ถ้าพี่แม็คมี Android ลอง Bluetooth ดีกว่าตรงที่ไม่ร้อนครับ
ส่วนโปรแกรมลอง Torque ตัว Free ก่อนครับ สำหรับ Torque Pro ปัญหาที่ผมเขียนไว้ก่อนหน้านี้น่าจะเป็นปัญหาเดียวกับพี่ไซ
เจอบน Torque Pro เหมือนกัน แต่ปัจจุบันผมก็ยังใช้ Torque Pro อยู่ครับ เพราะความสามารถมันเยอะจริง แต่ผมก็ยังไม่ค่อยได้ลองเท่าไหร่
ส่วนวิธีเลี่ยงปัญหาก็ตามที่บอกไปครับ
-
ผมว่าตัวนี้ก็น่าสนใจน่ะครับ
(http://upic.me/i/0n/572279748_414.jpg)
เห็นที่ IT Mall อยู่ที่ 2,200 บาท ตัวเล็กดี spec ok แล้วก็เป็น android 4.2 ด้วย ใช้ xbmc เปิดหนัง HD เอาแค่ 720P พอ และสามารถเล่นไฟล์เพลงแบบ lossless ได้ผมว่า ok เลยครับ
-
ขอต่อยอดจากพี่ พี่มัติ ณ.จรเข้บัว หน่อยแล้วกัน บางที่พี่ๆบางท่านอาจจะไม่ถนัดทางด้าน IT
ขอขยายคำว่า ไฟล์เพลงแบบ lossless ว่ามันคืออะไร
***ก่อนหน้านี้ผมเคยบอกไปแล้วว่า file MP3 มันโดนตัดลายละเอียดของเสียงไป แนะนำให้เล่น ipod แล้วเสียงจะดีกว่า file PM3 จาก USB***
หามาให้อ่านผมขี้เกียจพิมท์อีกเช่นเคย :L4396:
--------------------------------------------------------------
คุณภาพไฟล์เพลงนั้นสำคัญไฉน ?!? LOSSLESS คืออะไร ?!?!
แน่นอนครับต้นฉบับก็เป็นอีกเรื่องนึงที่สำคัญที่หลายๆคนอาจจะมองข้าม อันนี้กล่าวได้ง่ายๆกับทฤษฏีคอขวดครับ
ต่อให้ซื้อหูฟังตัวละหลายหมื่น เครื่องเล่นตัวละหลายพัน แต่กลับมาตกม้าตายตรงเครื่องเล่น ฟังเพลง Bitrate ต่ำๆกันก็เยอะ
ออันนี้เป็นอีกข้อที่ผมเจอสำหรับลูกค้าเลย บางคนซื้อไปแล้วว่าทำไมเสียงมันแตกๆ เสียงมันอับๆ เรามาดูกันเลยว่าทำไม
ปัจจุบันถ้าให้ผมสรุปแบบง่ายๆด้านคุณภาพไฟล์เพลงที่นิยมเล่นกันจะแบ่งได้ 2 แบบ
1. LOSSY Audio
ไฟล์ประเภทนี้ก็คือไฟล์ที่ถูกลดบั่นทอนคุณภาพลงมา เพื่อแลกกับขนาดไฟล์ที่เล็กลงนั่นเองครับ(เหมือน Winzip นั่นละ)
นามสกุลที่เรามักได้เจอกันบ่อยๆก็คือ .MP3 นั่นเอง ถึงแม้จะบอกว่า .MP3 เหมือนกันแต่ก็มี Bitrate ที่แตกต่างกัน
อาทิเช่น 93kbps , 126kbps . 198kbps อันนั้นก็คือระดับคุณภาพของไฟล์นั่นเองครับ ยิ่งมีเลขที่เยอะ ก็คุณภาพดีขึ้นตาม
แต่ก็แลกมาด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
(สังเกตุง่ายๆครับพวกแผ่นผี Vampire อะไรงี้ มักจะยัดเพลงลงได้เยอะๆ เพราะเน้นแต่ Bitrate ต่ำๆนั่นเอง)
ถามว่าเอ้าาาา แล้วแตกต่างเหรอ ตอบได้เลยครับว่าแตกต่างมากกก เพราะเพลงที่ Bitrate ต่ำ มันก็เหมือนอัดมาไม่ละเอียด
บางครั้งแล้วเราจะรู้สึกเสียงอับๆ เสียงแตกๆบ้างก็มีครับ
พูดมาถึงขนาดนี้แล้วหลายๆคนคงจะเกลียด .MP3 กันไปเลย แต่จริงๆแล้วนั้นคุณภาพ ไฟล์ MP3 ก็ไม่ขี้เหร่มากนักครับ
เพราะถ้าหาก Rip มาที่ 320kbps นั้นก็ถือว่าคุณภาพใช้ได้เลยทีเดียวนะ ไม่ขี้เหร่ หรอกครับ
ถ้าหูไม่เมพพก็แยกกันไม่ออกหรอกครับ 55555
ปล. อ้ะ มาถึงนี่หลายๆคนคงคิดจะลักไก่เอา โดยการเอาไฟล์ Bit Rate ต่ำๆมาแปลงเป็น Bit rate สูงๆ อันนี้ผมบอกเลยว่าเปล่าประโยชน์ครับ เพราะการทำแบบนี้คุณภาพเสียงที่ได้ก็อ้างอิงจากต้นฉบับ Bitrate ต่ำๆเหมือนเดิม แถมขนาดไฟล์ใหญ่ขึ้นด้วย อย่าทำเลยครับ - -"
2.LOSSLESS Audio
มาถึงด้านดีกันบ้าง Lossless Audio นั้นก็แน่นอนว่าเป็นไฟล์เพลงที่ไม่ได้บีบอัดก็มี และพวกกูรูทั้งหลายนิยมเล่นกัน
ก็ คือไฟล์พวก Lossless Audio ที่ตรงตามชื่อเลยว่าปราศจากการสูญเสียนั่นเอง คุณสมบัติเด่นอันนี้ก็พูดง่ายๆก็คุณภาพเท่าเทียมกับพวกแผ่น CD ต้นฉบับที่วางขายเลยครับ สมมุติCDแผ่นนึงมีความจุ 500mb ไฟล์ Lossless 1อัลบั้มก็มีขนาด 500mb เกือบเท่า CD 1แผ่นเลยนั่นเอง
แต่แตกต่างกับ Lossy หน่อย (Lossy จะมีไฟล์เด่นๆคือ MP3 ที่เป็นที่นิยม) แต่ไฟล์นามสกุล Lossless นั้นก็จะค่อนข้างเยอะ
แตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ที่ผู้ผลิตเครื่องเล่นนั้นๆรองรับครับ
ที่คนทั่วไปนิยมหน่อยก็จะมี
1.FLAC (Free Lossless Audio Codec) อันนี้จะเป็นที่นิยมที่สุด เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานเลยก็ได้(มั้ง)
2.M4A ( Apple Lossless) อันนี้สาวก iPhone น่าจะเคยได้ยินบ้าง ใช่ครับ มันคือ Lossless ของ Apple นั่นเอง
3.THM (Sony Lossless) อันนี้คงเป็นที่นิยมในสาวก Walkman จาก Sony แต่ก็ไม่เป็นที่นิยมนักซักเท่าไร
4.Aiff , .Wav อันนี้คนทั่วไปจะไม่ค่อยนิยมนักเพราะใส่ปกไม่ได้(ฮา) แต่พวกเซียนๆทั้งหลายจะนิยมกันเพราะขนาดใหญ่และมีคุณภาพที่ดีสุด
ข้อดีของไฟล์ Lossless นั้นนอกจากจะได้คุณภาพเสียงที่ดีเลิศเลอเพอเฟคแล้วนั้น ยังมีข้อดีที่ Lossy ทำไม่ได้อีกก็คือ
การแปลงไฟล์จาก Lossless ไป Lossless นั้นไม่บั่นทอนคุณภาพลดลงไป
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติผมมีต้นฉบับเป็น .FLAC แปลงไปเป็น .M4a คุณภาพก็จะเท่ากันครับ
สำหรับการหาไฟล์ Lossless นั้นก็สามารถ Rip ได้จากแผ่น CD ต้นฉบับโดยตรงเลยครับ ผ่านโปรแกรมต่างๆเช่น
iTunes แต่โดยส่วนตัวผมแนะนำโปรแกรม EASY CD-DA Extractor จะดีกว่าครับ :)
ปล. อ้ะ ขอเตือนอีกรอบนะครับ การแปลงไฟล์จาก MP3 ไปเป็น Lossless นั้นไม่มีประโยชน์ครับ
เพราะเหมือนกับเอาผ้าขาดๆออกมาขยายให้ใหญ่ขึ้น สุดท้ายยังไงมันก็ขาด เสียงไม่ดีอยู่เหมือนเดิม - -*
ที่มา
http://www.holysai.com/catalog.php?idp=321
:L2760:
-
ข้อมูลมาเพียบครับพี่ทศ :sd10: ขอบคุณครับ
ผมก็เคยเล็งๆ mini Android TV คล้ายๆที่พี่มัติแปะไว้เหมือนกัน แต่เห็นเขาบ่นกันเรื่องร้อน (อาจจะไม่ทุกรุ่น) ก็เลยสั่งตัวใหญ่หน่อยมาลองครับ
ส่วนฟังก์ชั่น ถ้าจะเอามาใช้กับปาควรมีอย่างน้อยตามที่ผมลงไว้
หลักๆที่ต้องดูคือ Bluetooth กับ AVOUT หลายรุ่นไม่มีสองฟังก์ชั่นนี้ครับ
-
พี่ทศหาข้อมูลมาให้พร้อมเลย
:L2900:
ผมลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ ครับ คงเป็นเพราะความเคยชินมั้งครับ
เพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งนะครับ ในกรณีที่เราแปลงเพลงจาก CD Audio เป็นแบบ lossless ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ โดยเฉลี่ยแล้วไฟล์จะมีขนาดประมาณ 25-50MB โดยประมาณ ซึ่งจะต่างจาก MP3 ที่ต่อไฟล์จะตกประมาณ 3-5MB เท่านั้น เนื่องจากมันไม่ได้ลดทอนอะไรเลยเพียงแค่แปลงจาก Audio ที่เป็น analog ให้อยู่ในรูปแบบของ digital เท่านั้นดังที่พี่ทศนำรายละเอียดมาแชร์กันครับ หากต้องการเก็บเพลงที่เป็นแบบ lossless ก็ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับเพลงโปรดมากพอสมควรครับ
:sd42:
-
มารับสาระก่อนเข้านอนครับ ขอบคุณพี่ทศมากมายเลยครับสำหรับข้อมูลเรื่องบีบอัดเสียง ขอบคุณพี่ปุ้ยและพี่มัติสำหรับข้้อมูลเรื่องอุปกรณ์ครับผม :sd23: :sd23: :sd23:
-
พี่ทศหาข้อมูลมาให้พร้อมเลย
:L2900:
ผมลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ ครับ คงเป็นเพราะความเคยชินมั้งครับ
เพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งนะครับ ในกรณีที่เราแปลงเพลงจาก CD Audio เป็นแบบ lossless ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่ โดยเฉลี่ยแล้วไฟล์จะมีขนาดประมาณ 25-50MB โดยประมาณ ซึ่งจะต่างจาก MP3 ที่ต่อไฟล์จะตกประมาณ 3-5MB เท่านั้น เนื่องจากมันไม่ได้ลดทอนอะไรเลยเพียงแค่แปลงจาก Audio ที่เป็น analog ให้อยู่ในรูปแบบของ digital เท่านั้นดังที่พี่ทศนำรายละเอียดมาแชร์กันครับ หากต้องการเก็บเพลงที่เป็นแบบ lossless ก็ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับเพลงโปรดมากพอสมควรครับ
:sd42:
ในนี้ สว. มีเยอะครับ(รวมทั้งผมด้วย)ส่วนมากจะตามเทคโนโลยีกันไม่ทันเอามาเสริมๆกัน ผู้สูงวัยจะได้ไม่ตกยุกจะได้เอาไปคุยกับหลานๆได้รู้เรื่องครับ
:sd42:
-
ในนี้ สว. มีเยอะครับ(รวมทั้งผมด้วย)ส่วนมากจะตามเทคโนโลยีกันไม่ทันเอามาเสริมๆกัน ผู้สูงวัยจะได้ไม่ตกยุกจะได้เอาไปคุยกับหลานๆได้รู้เรื่องครับ
:sd42:
เห็นด้วยครับ เรื่องเทคโนโลยีนี่เด็กสมัยใหม่เค้าไปไวกันจริงๆ :sd06:
----------------------------
มาอัพเดทสถานะหน่อยครับ
ผมทดลองเสียบทัชสกรีนดูแล้ว (USB interface) เจ้า Android TV ไม่ขยับเลยครับ
เห็นเขาว่าต้องบิ้วไดรเวอร์เข้าไปในเคอร์แนลของ Android ผมหาๆดูก็ยังไม่เห็นประสบความสำเร็จกันเท่าไหร่
มีใครพอมีความรู้ด้านนี้บ้างครับ
-
ติดตั้งโปรแกรม Torque ใช้มานานแล้วเพิ่งเห็นว่ามันมีความสามารถแบบนี้ด้วย (ปกติสนใจดูแต่ความร้อน)
ผมเลยเตรียมแดชบอร์ดอันนี้ไว้ใช้ทดสอบ...
ได้ผลยังไงจะเปิดกระทู้ใหม่ลงไว้เป็นข้อมูลครับ :L2901:
(http://i1194.photobucket.com/albums/aa368/stream4550/webshare/pjstablet/torque1_zps5c933845.jpg)
-
:sd23: ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่นำความรู้มาให้ สว. แบบผมได้ศึกษา :L2900: ขอบคุณมากครับ
-
:sd23: ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านที่นำความรู้มาให้ สว. แบบผมได้ศึกษา :L2900: ขอบคุณมากครับ
พี่หมูสว. ยินดีต้อนรับครับ ผม สุ หลักห้าอ่ะ 555