Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications

!ค่าซ่อมมันแพง อยากแรงพึงระวัง...ตอน14-ทำไมเกียร์ทำงานไม่ตรงความต้องการของเรา ?

(1/5) > >>

พี่นะ [Na ratchada]:
(เครดิต ทีมที่ปรึกษา รั้วสังกะสี)

ตอน14-ข้อสงสัยเรื่องทำไมเกียร์เหมือนทำงานไม่ตรงความต้องการ  เหมือนเกียร์ค้าง  ในบางครั้ง ??



จากระบบเกียร์ IGS ( intelligent gear system ) ที่เราเรียกกันเสมอๆนั้น   มีการออกแบบที่มีเงื่อนไขซับซ้อนอยู่พอสมควร  ซึ่งในแต่ละเงื่อนไขนั้นเป็นการออกแบบการทำงานของระบบให้สอดคล้องกับประเภทรถ  ประเภทการใช้งาน  และประเภทการดูแลรักษา  รวมถึงความนุ่มนวลในการทำงาน

ในเกียร์ของปาเจโร่ สปอต รุ่นที่เป็นระบบออโตเมติก  นั้นออกแบบมาสำหรับการใช้งานทั่วไป  เน้นการตอบสนองที่นุ่มนวล  ไม่มีแรงกระตุกหรือกระชากระหว่างการเปลี่ยนเกียร์  สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่ออุณหภูมิน้ำมันเกียร์สูงได้ระดับพร้อมใช้งาน  น้ำมันเกียร์จะถูกอุ่นจากความร้อนของหม้อน้ำและจะใช้ความร้อนของหม้อน้ำรักษา temp ของ oil gear และใช้ลมอากาศพัดผ่านเสื้อเกียร์ช่วยระบายความร้อนจากข้อดีที่รถสูง   เมื่อน้ำมันเกียร์มีอุณหภูมิสูงพร้อมใช้งานจะมีแรงดันจากน้ำมันกียร์มาช่วยให้ระบบทำงานได้ดีขึ้น   แรงดันและอุณหภูมิของน้ำมันเกียร์ในรุ่นที่ไม่มี oil gear ให้สังเกตุจาก engine temp หรือ water temp (ค่าที่เหมาะสมคือช่วงประมาณ   185-205 องศา F หรือประมาณ  83-96 องศา C ) สำหรับเครื่อง 4D56 Ti (Turbo intercooler)   และทนแรงบิดสูงสุดใช้งานได้มากกว่า  600 Nm  ในรอบใช้งานปกติ   แต่ไม่ได้หมายถึงว่าพอแรงบิดสูงกว่า 600 Nm แล้วจะพังในทันทีนะครับ  ยังมีตัวแปรอื่นๆอีก

แต่จากการทดสอบและใช้งานจริง  จะมีตัวแปรเรื่องความเสื่อมสภาพของเครื่องยนต์  คุณภาพของน้ำมันหล่อลื่น   น้ำหนักบรรทุก  จากดูแลรักษา   ความร้อนสะสม  การตกแต่งสมถนะเครื่องยนต์มาเป็นตัวแปรร่วมด้วยมากมาย   หากจะปรับแต่งกล่องอะไรก็แล้วแต่   ให้ระวังเรื่องผลจากกาปรับแต่งให้มาก  ว่าวางเป้าหมายไว้ที่อะไรและคาดหวังอะไรในการปรับแต่ง  และหากต้องการปรับจริงแนะนำให้ปรับแต่งจากแรงบิดเดิมในรุ่นดังเดิม (140แรงม้า)หรือรุ่น Turbo ธรรมดา   ไม่เกิน  70%  และในรุ่นที่ปรับแต่งเครื่องยนต์มาจากโรงงาน(178แรงม้า)  ไม่เกิน 35 %   ทั้งนี้ให้ระวังเรื่องแรงบิดในรอบต่ำไม่ควรเกิน  520-580 Nm  ในช่วงรอบไม่เกิน  1400 - 2100 rpm และระวังเรื่องการออกรถด้วยแรงบิดสูงๆในรอบต่ำบ่อยๆจะสร้างความเสียหายให้กับระบบเกียร์อย่างมาก

คราวนี้มาเข้าปัญหาเรื่องการใช้งานเกียร์ในเงื่อนไขของการทำงานของเครื่องยนต์ที่มีความแตกต่างจากการใช้งานปกติ  ในสภาวะต่างๆ 
1.   เมื่อความกดอากาศมีการเปลี่ยนแปลง  อุณหภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลง   การทำงานของเกียร์กับความสัมพันธ์ของรอบเครื่องอาจมีความผิดปกติอันเนื่องมาจาก  ตัวแปรภายนอก   บ้างแต่อาจไม่มากนัก   วิ่งสักพักจนเครื่องร้อน   อาการจะดีขึ้น

2.   การใช้รถบนทางลาดชัน  ด้วยเกียร์ D โดยการขับด้วยรอบเครื่องที่ต่ำและเพิ่มความเร็วคันเร่งในขณะที่รถอยู่ในลักษณะการฉุดลากเครื่องยนต์   หรือน้ำหนักบรรทุกเยอะหรือกำลังไต่ทางชันที่มีระยะทางยาว   จนมีผลทำให้ในหนึ่งช่วงเวลาอัตราตอบสนองของเกียร์และรอบเครื่องห่างกันมาก    ระบบจะรู้ทันทีว่าขณะนี้รถกำลังอยู่ในสภาวะต้องการแรงฉุดลากจึงคงเกียร์นั้นไว้   แต่หากเราไปเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่ง    ระบบจะพยายามเร่งเครื่องเพื่อเปลี่ยน step gear แต่ด้วยเงื่อนไขนั้นคงอยู่ระบบ gear จึงยังไม่เปลี่ยน( gear hold to safe mode)   บางคนชอบเรียกว่าเกียร์ล็อค   บางทีถึงกับเอ๋อ  งง ไปเลยก็มี    ผลคือมีการตอบสนองแต่รอบเครื่องแต่เครื่องเร่งไม่ไป    แต่หากวิ่งมาด้วยรอบเครื่องที่สูงกว่าพอประมาณและนิ่งจะได้ความสัมพันธ์ของเกียร์กับแรงฉุดลากในรอบต่ำขณะเข้าเกียร์ D ได้การตอบสนองที่ดีกว่า   แต่ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือป่าว  ต้องอยู่ที่จังหวะและโอกาศเท่านั้น  ( วิธีแก้ไข : หากพบอาการนี้  ให้เปลี่ยน Gear มาที่ select mode แล้วลดลง 1 step  เครื่องจะกลับมามีแรงทรงตัวขับเคลื่อนขึ้นไปได้  ด้วยการคงที่รอบเครื่องไว้  จนพ้นทางลาดชันนั้น)

ระบบนี้จะเอาเงื่อนไขจาก speed sensor กับ รอบเครื่องยนต์ มาเข้าเป็นเงื่อนไขกับช่วง 1 หน่วยเวลา    โดยลักษณะการเกิดจากการใช้งานจริงจะมีลักษณะดังนี้
                      2.1  รถกำลังไต่ขึ้นทางชัน  ความเร็วต่ำ  รอบเครื่องสูง   ห่างกันเกินไป (สาเหตุจากการเร่งส่งเพราะกลัวไม่ขึ้น  กลัวรถไหล)
                      2.2  ใช้เกียร์ D ขึ้นทางชันมา  หากความเร็วพอจะไปได้แต่หากความเร็วไม่พอ รอบเครื่องตกจึงจำเป็นเร่งส่ง  พอไม่ขึ้นสับเกียร์เป็น +/-  โอกาสที่จะเกิด
                             การ hold gear ก็ยังเกิดขึ้นได้เพราะรถรับรู้เงื่อนไขแล้ว
                      2.3  ใช้เกียร์ +/- ก่อนขึ้นทางชัน   แต่เร่งจนรอบสูงไม่สัมพันธ์กับความเร็วก็อาจจะเกิดอาการได้  แต่โอกาสน้อยกว่ามาก
                      2.4  รถที่ติดตั้งกล่องคันเร่ง  แต่จังหวะแบบนี้แล้วกดคันเร่งจะยิ่งเป็นการเพิ่มระยะห่างของความสัมพันธ์  โอกาสเกิดง่ายมาก  ต้องประคองจังหวะดีๆ
                      2.5  รถรุ่น 4wd หากใช้  4hi   4low  ก็รักษาระดับความเร็วกับรอบให้รถมีกำลังก็สามารถขึ้นได้ด้วยเกียร์ D  แต่หากแรงตกรอบสูงเมื่อไหร่  ลดเกียร์ด้วย
                             ระบบ +/- ได้ 1-2 step   อาจไม่พบอาการดังกล่าว   เพราะรถมีแรงหน่วงรอบจากการขับเคลื่อน 4 ล้อ
                      2.6  รถกำลังลงทางชัน   ความเร็วดีกว่า  รอบเครื่องต่ำลง  (แบบนี้ไม่ค่อยเกิด  แต่ระวังเบรคเฟด  อย่ากดเบรคบ่อย   หากรู้ว่าเบรคไหลอย่าตกใจ  ใช้เบรค
                             มือช่วยประคองได้โดยการกดปุ่มที่ปลายก้านค้างไว้  แล้วดึงขึ้นเป็นจังหวะ  ทดแทนแบบประคอง)
                      2.7  ให่พิจารณาเลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสม  ก่อนเข้าหาอุปสรรค รับรองจะไม่เจออาการดังกล่าว
                             

3.   หลังจาก  ผ่านอุปสรรคในข้อ 2 แล้วลงมาบนพื้นราบหรือแนวระนาบ   หากพบหรือมีอาการเกียร์ค้างไม่ยอมเปลี่ยน  อย่าเพิ่งตกใจ   เพราะเครื่องยนต์จะไม่รู้ว่าคุณยังต้องการสภาวะฉุดลากอยู่หรือป่าว  ให้ทำดังนี้
                a.   ขับไปปกติแบบนั้นแหละ  ใช้รอบเครื่องปกติ  วิ่งด้วยระยะทางยาวสักนิด  อย่าเร่งมาก  เดี๋ยวระบบจะคืนกลับมาเอง
                b.   ขับด้วยรอบเครื่องนิ่งๆไปสักพัก  อย่าเร่งมาก  ระบบจะกลับสู่สภาวะปกติ
                c.   หรือจอดรถเข้าเกียร์ N ปล่อยเดินเบาสักพัก   ค่อยเข้า Gear D ออกตัวไป
                d.   หรือจอดรถดับเครื่อง   สักพักแล้วค่อย start ใช้งานใหม่ 
                e.   หรือให้เลือกตัดสินใจใช้เกียร์ให้ถูกต้อง  ก่อนเข้าสู่อุปสรรค


หมายเหตุ: การดัดแปลงเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังต่างๆมีผลต่อการปฎิเสธ การรับประกันของศูนย์บริการรถยนต์  โปรดคำนึงถึงข้อดี ข้อเสีย  และข้อจำกัดเรื่องการใช้งานให้มากๆ  ก่อนพิจารณาตัดสินใจ  โดยขอให้ตกแต่งอยู่ในกรอบสีแดงนี้เท่านั้น

พี่ตุ้ย_Yindee:
มาหาความรู้ก่อนใส่กล่องครับ,
ผมไล่อ่านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วและตอนนี้เลยตามมา
ขอบคุณผู้ให้ความรู้และเป็นการโน้ตไปด้วยว่าอ่านแล้ว(ถึงแม้จะตามไม่ค่อยทัน)
ขอบคุณ พี่นะสำหรับความรู้ครับ

 :L2900:

อ่านข้อนี้จบเลยเข้าใจเรื่องเกียรล็อคตอนขึ้นเขาเป็นยังไงเลยครับ

มิ้ว_mania_sp:
กระทู้ดีมี ประโยชน์  วันนี้เจอกับตัว เลยครับ  รถเดือนเดียวเองครับ
ต้องคุณพี่โย กับพี่นะ  มากนะครับ ที่ช่วยไขข้อสงสัย :L2904: :L6419: :sd23: :L2901:

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: มิ้ว_mania_sp ที่ 31 สิงหาคม 2013, 13:43:17 ---กระทู้ดีมี ประโยชน์  วันนี้เจอกับตัว เลยครับ  รถเดือนเดียวเองครับ
ต้องคุณพี่โย กับพี่นะ  มากนะครับ ที่ช่วยไขข้อสงสัย :L2904: :L6419: :sd23: :L2901:

--- End quote ---

เจออาการอะไรมาหรือครับ และแก้ไขอย่างไร  รบกวนมาเล่าให้ฟังหน่อยครับเพราะจะได้เป็นแนวทางกับเพื่อนสมาชิกด้วยครับ
 :L2736:

มิ้ว_mania_sp:
สวัสดีครับพี่นะ อาการที่ผมเจอ คือวัน ขับออกจากบ้าน แต่วันนี้ผมติดเครื่อง แล้วขับออกจากบ้านเลย
โดยทุกวันปกติ ผมจะติดฟรี เครื่องเพื่อให้ แอร์เย็น สักประมาณ 3-5 นาทีครับ
แต่วันนี้ รีบไปหน่อย  คือมีอาการ ขับ ออกมา มีรอบสูง เกียเหมือนมันไม่เปลี่ยน step ครับ
ความเร็วอยู่ที่ 20-30 ครับ มันตื้อๆ ที่จริงเกียร มันต้องเปลี่ยนแล้ว แต่พอผม กดคันเร่ง เพื่อที่จะให้มันเปลี่ยน
รถกับมีอาการ กระตุก และเกียรก็เหมื่อนจะเปลี่ยน แต่ว่า อาการเร่ง ก็ยังคงอยู่ ผมจึง จอดรถ ข้างทาง ซะพัก
ในขณะที่รถหยุดนิ่ง ผมปรับ ไปที่โหมด +/- ดู ปรากฎว่า สถานะ แสดงที่อยู่ที่เกียร 3 ผมตกใจ ผมจึงกด +/- ขึ้นลง และมัน ก็ไม่ทำงาน
จากนั้น ผมจึงดับเครื่อง แล้วโทรหาพี่ โย ขอคำ ปรึกษาดูครับ พี่โยให้ข้อมูลโดย คราวๆ และก็ให้เบอ โท พี่นะมา ครับ
ตอนแรก ว่าจะโทร แต่กลัวพี่นะติดงานครับ เลย พิมใน google  หาข้อมูล และก็เจอ กระทู้นี้ ครับ ในขณะที่อ่าน ผมก็ ติดเครื่องไว้
พออ่านจบ ลองขับดู มันก็ปกติ ทุกอย่าง โหมด +/-  ใช้งานได้ปกติ ครับ นี้ครับข้อมูลคราวๆ รายงานจากสถานะการจริง

มิ้ว_มาเนีย_เอสพี รายงาน ครับ  :sd23: :sd23: :L6419: :L2901: :L2901: :L2901:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version