Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications
ว่าด้วยเรื่องหม้อ....คร้าาาาาบ....ฟ้้วววววววว
พี่เล็ก-หลังเขา:
:L2900: :L2734: :L2734: :L2734:
สุภัทร (Pat):
เรียน พี่ตาม
หลายครั้งที่อ่านบทความ แล้วรู้สึกว่า ตัวเราเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราว เป็นบทความที่ถ่ายทอดจากผู้ได้รับประสบการณ์จริงที่น่าติดตามมากครับ
รออ่านตอนต่อไป
ขอบคุณครับ ;) ;) ;)
ตูมตาม:
ตอนที่3 เรียนรู้ปัญหา แล้วค่อยหาวิธีแก้ไข
เอาละครับพี่ๆ มาต่อกันกับมหากาพย์หม้อน้ำตอนที่ 3 กันต่อเลย....หลังจากติดตั้งกล่องข้าวน้อยเสร็จแล้ว....ก็มานั่งทำใจว่าจะต้องอยู่กับไอ้อาการร้อนๆของเครื่อง....ผมก็เริ่มสนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับไอ้ความร้อนของเครื่องให้มากขึ้น....แต่ข้อมูลที่มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับเรื่องนี้มีไม่มาก....เพราะเป็นเรื่องเฉพาะรุ่น และน้องปาเองในรุ่นอื่นๆที่ไม่ใช่ 2.5VG Turbo 4x4 ก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องความร้อนกันมากนัก จึงทำให้ข้อมูลที่ได้มานั้นค่อนข้างจำกัด
แหล่งข้อมูลแรกเลยคือเพื่อนผมที่อยู่ออสเตรเลีย เจ้าเพื่อนคนนี้เป็นฝรั่งครับ เป็นเจ้าของอู่ทำรถพวก EVO ทั้งลงแข่ง และแต่งทั้งเครื่องทั้งช่วงล่างให้กับลูกค้าที่ซื้อ EVO แล้วยังแรงกันไม่พอ....เจ้าเพื่อนคนนี้คุ้นเคยกับ Mitsu เป็นอย่างดี เพราะถือว่าเป็นคู่ค้ากับพวก Dealer คือพอมีลูกค้าซื้อ EVO แล้วอยากแต่งเพิ่ม Dealer ก็จะส่งมาให้ที่อู่ของเพื่อนผมคนนี้....ผม email ไปสอบถามเรื่องเกี่ยวกับความร้อนของเครื่องน้องปา (ที่ออสเรียกว่า Challenger) เจ้าเพื่อนผมมันอธิบายว่า เครื่องของน้องปาเป็นเครื่อง 2.5 ซึ่งจริงๆแล้วขนาดมันจะเล็กไปสำหรับเอามาใส่ในรถคันใหญ่ยักษ์แบบนี้ ทาง Mitsu จึงออกแบบเจ้า VG Turbo มาเพื่อเพิ่มกำลังให้น้องปา และยังมีการเปลี่ยนอะไหล่อีกบางอย่าง (ผมจำไม่ได้ละ เพราะอ่านไม่รู้เรื่อง มันบอกชื่อมาเป็นภาษาอังกฤษ) เพื่อให้น้องปามีกำลังมากขึ้น....ว่าง่ายๆคือ โรงงานมันโมมาให้แล้วว่างั้น....นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ความร้อนของเครื่องตัวนี้ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว....พอเราเอาไปโมเพิ่ม ติดกล่องเพิ่ม เพิ่มแรงดันที่ราง ความร้อนมันก็เลยสูงมากขึ้นไปอีกเป็นธรรมดา....ยังงัยก็ตามเจ้าเพื่อนผมมันไม่ค่อยคุ้นเคยกับเครื่องดีเซล จับแต่เครื่อง EVO มันก็เลยแนะนำวิธีแก้ลำบาก......ก็ได้ความรู้จากมันมาบ้าง แต่ก็ยังต้องหาข้อมูลต่อไป :L2756:
โดยข้อมูลที่ได้เห็นบ่อยที่สุดเกี่ยวกับการแก้ปัญหาเรื่องความร้อนก็คือ "การเปลี่ยนวาล์วน้ำ" .... แรกๆ ผมก็งงๆ ว่าไอ้วาล์วน้ำนี่มันคืออะไรฟระ.....ค้นข้อมูลต่อไปเรื่อยๆค่อยรู้ว่า เจ้าวาล์วน้ำนี่เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่หลักในการเปิดน้ำให้วนในระบบเครื่องเพื่อกระจาย และระบายความร้อน....หรือเรียกง่ายๆว่าเป็นจุดเริ่มต้นของระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์.....จากการไปพูดคุยกับพี่หน่อยหัวหน้าช่างที่ศูนย์ที่รู้จักกัน (เพราะเข้าศูนย์นี้ประจำ คุยกับช่างบ่อย จนรู้จัก สามารถปรึกษาได้) จึงทราบว่าน้องปา 4x4 วาล์วน้ำจะเปิดในช่วงอุณหภูมิประมาณ 85-87 องศา (ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วถูกต้องหรือเปล่าเหมือนกัน).....ดังนั้นบางค่ายบางสำนักที่ทำการแต่งเครื่องกันจะบอกว่า ในเมื่อเครื่องมันร้อน ก็เปลี่ยนวาล์วน้ำ เพื่อให้วาล์วน้ำเปิดเร็วขึ้น อาจจะที่ 70 กว่าๆ องศา.......เมื่อเปิดวาล์วน้ำเร็วขึ้น รถก็ระบายความร้อนเร็วขึ้น อุณหภูมิก็ต่ำลง ไม่ร้อนละ.....เออ ฟังดูเหมือนจะตรงประเด็น.....พวกนี้เขาแนะนำว่าให้เอาวาล์วน้ำของเซฟฟิโร่ ที่เปิดเร็วกว่ามาใส่ รับรองใส่ปุ๊บ หายร้อนทันที ราคาประหยัด ค่าตัวไม่แพง......ครั้งแรกที่ผมอ่านข้อมูลนี้ก็คิดว่า...เออเข้าท่า....แต่มาเฉลียวใจตรงที่....ถ้ามันง่ายอย่างงี้...ทำไมพี่นะ พี่อ๊อด หรือ พี่ปอนด์ พี่ต้อมที่ IFRIT ไม่แนะนำเราหว่า.......พี่ๆเขามีความรู้กันมากมาย ดูแล้วเล่นอะไรกันมาเยอะก็น่าจะรู้เรื่องนี้ ไหงไม่แนะนำเรา.....หรือจะหมกเม็ดไม่ยอมบอกฟระ :L6419:
ใจจริงก็อยากโทรไปถาม เพราะเคยได้เบอร์พี่นะไปแล้ว....แต่...ค่อนข้างเกรงใจ ทราบมาว่าคนโทรไปหาแกเยอะ PM ก็ท่วม ตอบไม่รู้จักหมดจักสิ้น......เลยเก็บคำถามไว้ในใจ และขับน้องปาแบบประคองความร้อนต่อไปก่อน ยังไม่ตัดสินใจว่าจะแก้วิธีไหน...ไม่เดือนร้อน เพราะขับประคองความร้อนไปก็พอขับได้......จนในที่สุด...สวรรค์บันดาล บุพเพสันนิวาศ ทำให้มีโอกาสได้คุยกับพี่นะ :L2734:.....พอมีช่องรีบหยอดคำถามเกี่ยวกับการเปลี่ยนวาล์วน้ำเพื่อแก้ปัญหาเรื่องความร้อนทันที......พี่นะอธิบายให้ฟังยาวเหยียด....เอาเป็นว่าโดยสรุปคือ....เปลี่ยนวาล์วน้ำอุณหภูมิลดลงจริง....แต่มันจะลดลงมากกว่าอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของเครื่องยนต์ จะทำให้เกิดการสึกหรอสูงมาก.....และอีกอย่างนึงคือน้ำมันเกียร์....คือน้องปาเราใช้ความร้อนจากหม้อน้ำไปอุ่นน้ำมันเกียร์ด้วย ซึ่งถ้าอุณหภูมิของน้ำไม่ได้ จะทำให้ประสิทธิภาพของน้ำมันเกียร์ลดลง (เหมือนขับตอนเครื่องเย็นๆ แล้วเกียร์มันไม่ค่อยจะเปลี่ยน).....เอาละซิโว้ยยยยยยย...จะแก้ปัญหาเรื่องความร้อน.....ดันเฉือกมาเจอปัญหาเรื่องความเย็นอีก....น้ำมันเกียร์อีก....โอ้วววววว แมร่งจะ Go So Big กันไปใหญ่ละทีนี้ :sd06:
หลังจากได้ความรู้จากพี่นะแล้ว..... :sd42: :sd42: ยังไม่เชื่อครับ....ท่าทางแกขี้โม้หน่อยๆ โม้เราหรือเปล่าก็ไม่รู้ :sd42: :sd42:.....ไปถามพี่หน่อยช่างที่ศูนย์ และอีเมล์ไปหาเพื่อนที่ออสเตรเลีย.....ได้รับการยืนยันในหลักการว่าถูกต้อง ถึงแม้ว่าในรายละเอียดอาจไม่เหมือนพี่นะเล่าให้ฟังทั้งหมด.....แต่โดยหลักการแล้วใช่เป็นแบบนั้นจริงๆ.....เพื่อนผมยังบอกว่าในอุณหภูมิที่ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสม เครื่องยนต์จะสึกหรอมากกว่าตอนเครื่องร้อนเสียอีก.....และถ้ามีอาการเครื่องเย็นเกินไป....จะมีผลต่อระบบเกียร์ ในระยะยาวเกียร์อาจจะพังได้...... :L2739: :L2739:
จึงกลายเป็นว่า แทนที่ผมจะได้วิธีแก้ปัญหาเรื่องตัวร้อน.....กลับได้เรียนรู้ระบบการกระจายความร้อน และระบายความร้อนของเครื่องยนต์มาแทน (เรียนแบบผิวเผิน snakeๆ fishๆ นะครับ).....พร้อมทั้งเพิ่มปัญหาเข้าไปอีก แทนที่จะแก้เรื่องร้อนอย่างเดียว ทีนี้ต้องมามีข้อแม้ด้วยว่า.....ต้องไม่ร้อนและไม่เย็นเกินไป....... :sd42: :sd42: :sd42: โจทย์แรกว่ายากแล้ว โจทย์หลังนี่ยากกว่าหลายเท่า :sd27: :sd27:
(โปรดติดตามตอนต่อไป ไปทำงานก่อนนะคร้าาาาาบ)
ทอม:
อ่านเพลินเลยครับพี่ตาม :L2900: รอตอนต่อไปนะครับ :L6419:
พีชิน ปาดำ บุรีรัมย์:
มารอฟังด้วย ผมอ่านในกระทู้ต่า่ง ๆ ใน web ความร้อนรุ่นก่อน ยังไงก็ไม่เกิน 95 ของผมเดิมๆ ไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเครื่องทั้งนั้น 2.5 vg 4x4 เหยียบไม่ทันไร ความร้อนทะลุ 100 ไปแล้ว (ผมตั้ง smart gauge ไว้ที่ 100 ).... อยากลอง กล่องข้าวน้อย... ปิ่นโต.... อะไรของพวกพี่เหมือนกัน แต่ผมอยู่ไกล กลัวมีปัญหาแล้ว หาคนช่วยแก้ลำบาก เลยกะว่าอีกซักปี 2 ปี ค่อยว่ากัน.... DIY ตัวกระจุ๊กกระจิ๊ก แก้เสี้ยนไป พลาง ๆ ก่อน
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version