Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Performance Talks & Engine Modifications

ว่าด้วยเรื่องหม้อ....คร้าาาาาบ....ฟ้้วววววววว

<< < (25/43) > >>

พี่ลีโจ:
ขอบคุณครับพี่ตาม ผมได้มีPM ไปถามพี่โอ๋แล้ว(แต่ยังไม่ได้ตอบกลับ) ซึ่งถ้าผมจำไม่ผิดนะครับ พี่โอ๋ใช้ล้อ20 และพึ่งจะติดกล้องข้าวน้อยเมื่อมิตติ้งที่ผ่านมาแต่วันนั้นSMGไม่มีของไม่รู้ว่าพี่เค้าได้หามาติดหรือยัง

--- อ้างจาก: Pat ที่ 21 มีนาคม 2013, 08:14:15 ---สงสัย งานนี้พี่ลีโจได้เปลี่ยนหม้อใหม่ไฉไลกว่าเดิมแหงๆ  ;D ;D ;D

--- End quote ---
ไม่อยากจะไฉไลเลยครับพี่สุภัท :sd21:

พี่นะ [Na ratchada]:

--- อ้างจาก: Leejoe ที่ 18 มีนาคม 2013, 13:51:34 ---ปาผมกำลังตัวร้อนอยู่ :L2905: :L2905: :L2905: ยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะฮยั๋ง
ความร้อนมาไวกว่าปกติทั้งเปิดกล่องและปิ๊ด กดออกตัวก็ไม่ได้มากนะครับวันก่อนทางขึ้นลอยฟ้าบรม ความเร็วที่ 80-100 กม/ชม SMGโชว์ความร้อนขึ้นไป90แล้ว ถ้าเบาลงก็จะขึ้นต่อที่110-120=90-92องศา ตอนยังปกติความเร็วที่ 120ก็ไม่เคยเห็นความร้อนขึ้นจนถึง 90-91นอกจะกดแซงแต่ยกคันเร่งก็จะลงมาอยู่ที่89องศา ถ้าจะเห็นความร้อนขึ้นไปที่90+ก็จะอยู่ที่ความเร็วเกิน130ไปแล้ว ความร้อนจะขึ้นมากกว่าปกติที่เคยๆๆใช้รถประมาณ2-3องศา :sd06: ลองเอารถไปวิ่งยาวๆต่อเนื่องดูเข็มความร้อนของรถก็ไม่ขึ้น อยากให้เข็มที่รถขึ้นจะได้ไปคุยกะศูยน์ให้ตรวจเช็ค :sd21:

--- End quote ---

เห็นพี่ตามทักเรื่องล้อเพิ่งนึกออกง่า  พี่ลีโจเปลี่ยนมาเป็นล้อ 20นิ้ว และยางขนาด 32นิ้ว(275/55/R20)  ซึ่งใส่กว่ายางขนาด 265/50R20 อยู่มาก   

จำได้ตอนผมใส่ยาง size นี้ใหม่ๆ  จากแมวป่าผมที่กระโจนไปกระโจนมาได้ดังใจปราถนา   กลับกลายเป็นแมวเชื่องลดความปาดเปรียวช่วงต้นไปเยอะ
และด้วยน้ำหนักล้อยางที่มากขึ้นทำให้แรงเสียดทานมากขึ้น  ฉะนั้นรถจึงต้องใช้แรงฉุดลากมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน   นี้ก็เป็๋นสาเหตุหนึ่งในการเกิดความร้อนเร็ว

ระดับความร้อนของพี่ลีโจหากเทียบกับรถผมอาจจะใกล้เคียงกัน  แต่ไม่ได้หมายถึงว่ามันร้อนเกินไปนะ  เพราะหากแต่พี่ลีโจเทียบว่าแต่ก่อนกับตอนนี้อาจจะดูสูงกว่า
แบบนี้อาจเป็นไปได้บ้าง   และต้องถามว่าพอรถลอยตัวความร้อนลดลงอย่างเร็วเลยใช่ไหมถ้าใช่ยิ่งมีส่่วนมากๆ

การแก้ไขยังไม่ต้องแก้อะไร  หากยังมีล้อเดิมอยู่ลองสลับกลับมาใส่แค่ชั่วโมงเดียวก็รู้ผลแล้วครับว่าปกติไหม   หลังจากนั้นก็เอาล้อ20มาใส่เพื่อความสบายใจต่อไปได้อีก

สำหรับการระบายความร้อนที่ความเร็วปลายหรือเวลาเค้นอัตรเร่งยาวๆนั้น  ผมได้สั่งทำ made to order กันไปแล้วเป็นแบบ fin พิเศษจากญี่ปุ่นหลอดสำเร็จขนาด26มม.  ขยายขึ้นมากกว่าเดิมเกือบเท่าตัว  แต่ทั้งนี้ยังคงสภาพอะไหล่เดิมทั้งหมดที่ต่อร่วม   ประกอบกับงานเชื่อมมือทีละใบ  ความเนีนยความเรียบร้อยอาจสู้ไม่ได้กับของตลาดแต่คุณภาพน่าจะตรงวัตถุประสงค์อย่างแน่นอน  และตอนนี้เราให้แก้ไขเป็น รุ่น R2 สำหรับ 2500cc  แล้วนะครับ   เพราะ R1 ที่ส่งมามี comment เรื่องมุมหักโค้งนิดหน่อย    แต่เท่าที่ลองกันเบื้องต้นแค่ไม่กี่ชั่วโมงนั้น   ผมสั่งจองใบที่2 รุ่น R2 สำหรับเจ้าแมวป่าของผมทันทีครับ 

***รุ้แบบนี้แล้ว  ไม่ทราบว่าพี่ลีโจจะฝากเพิ่ม Order เลยไหมครับ   ไม่ต้องรอ  ไม่ต้องทดสอบ  ไม่ต้องลองผิดลองถูก  ตามได้เลย      และหากคุณตัดสินใจช้ากว่านี้อาจจะมีคำว่าเหงือกแห้ง  เพราะที่ที่เราสั่งทำนี้แนะนำตรงมาจากรั้วสังกะสีเลย    แต่รอกันนานมากเพราะมัวแต่ไปทำรถเบนซินกันหมด  :L4363:

ตูมตาม:
เอาละครับขอมาเพิ่มเติมจากพี่นะหน่อยนะครับ

จากอาการที่พี่ลีโจเล่ามา....ช่วงออกตัว + ทำความเร็วเพิ่ม เครื่องจะร้อนกว่าที่เคยเป็น.....ส่วนในช่วงที่รถลอยตัวแล้ว และใช้ความเร็วคงที่ ความร้อนจะกลับลงมาอยู่ที่ประมาณ 90

จากอาการนี้....เหมือนกับรถผม หรือรถที่เป็น VG Turbo 4x4 จะเป็นกันนะครับ.....อาการเป็นแบบนี้แหละครับ.....แล้วปัญหาอยู่ที่ไหน.....เหมือนอย่างที่ผมได้เล่าให้ฟังในกระทู้นี้นะครับ.....ปัญหาน่าจะมาจาก "การระบายความร้อนไม่ทัน" ..... ต้นเหตุมันเป็นอย่างงี้ครับ

จะสังเกตุเห็นว่าในช่วงออกตัว + ทำความเร็วเพิ่ม.....เราต้องกดคันเร่งมาก บูตสูง ECU จ่ายน้ำมันเยอะ แรงดันในรางสูง ประกอบกับรถพี่ลีโจติดกล่องข้าวน้อย + ทำท้ายราง.....ในช่วงที่กดคันเร่งมาก หรือบูตสูงนี้แหละครับ ความร้อนมันจะมามาก....ทีนี้ระบบระบายความร้อนของน้องปาออกแบบมาให้เพียงพอกับเฉพาะรถ "สแตนดาร์ด" .... รถที่ไม่สแตนดาร์ดอย่างพี่ลีโจ ระบบระบายความร้อนก็เลยระบายไม่ทัน.....เมื่อระบายไม่ทันมันก็สะสม.....คือความร้อนที่เกิดขึ้นตลอดเวลาช่วงที่กดมันมากกว่าความสามารถของระบบที่จะระบายความร้อนออกได้ ส่วนที่เหลือของความร้อนที่ระบายไม่ทันก็เลยไปสะสมอยู่ในระบบ....และเจ้าความร้อนสะสมนี่แหละครับที่ทำให้อุณหภูมิมันสูงขึ้นตามการสะสมของมัน.....อย่างที่พี่ลีโจเห็นบนสมาร์ทเกทนั้นแหละครับ

ต่อมาพอพี่ลีโจทำความเร็วได้ในระดับที่ต้องการ (ที่เราคุยกันคือประมาณ 140-160) แล้วลองยกคันเร่งให้ความเร็วอยู่แค่คงที่ ให้ลอยตัวอยู่แบบนั้นยาวๆ........จะเห็นว่าความร้อนจะลดลง.....เพราะในช่วงที่ขับแบบความเร็วคงที่ หรือประคองความเร็วไว้นิ่งๆ.....เราจะไม่ต้องกดคันเร่งมากนัก.....บูตจะไม่สูงเหมือนตอนแรก....แรงดันในรางไม่มากเหมือนตอนเพิ่มความเร็ว.....ความร้อนที่เกิดขึ้นมาก็มี แต่ไม่มากเท่าตอนแรก......ทีนี้รถอยู่บนความเร็วสูง....ลมที่เข้ามาปะทะที่หน้าหม้อน้ำช่วยระบายความร้อนได้มาก.....มากกว่าอัตราการเพิ่มของความร้อน...เมื่อระบายได้ในอัตราที่มากกว่าความร้อนที่เกิด.....ความร้อนสะสมก็น้อยลงเรื่อยๆ....อย่างที่เห็นคืออุณหภูมิลดลง.....เป็นอาการปกติของน้องปาครับ แต่จะพบมากในรุ่น VG Turbo 4x4 เพราะรุ่นนี้น้ำหนักมากกว่า และมีระบบขับเคลื่อนที่ซับซ้อนมากกว่า ทำให้ถึงแม้จะอยู่ใน mode ขับ 4x2 ก็ยังมีการเสียกำลังไปบ้าง....ส่งผลให้ผู้ที่ใช้รุ่น 4x4 ต้องกดคันเร่งมากขึ้นเพื่อเรียกกำลังรถมากกว่าในการขับเคลื่อนรถออกไป (จะสังเกตุเห็นว่ารุ่น 4x4 มักจะกินน้ำมันมากกว่า 4x2 ก็ด้วยเหตุนี้เช่นเดียวกัน)....ดังนั้นความร้อนที่เกิดในรุ่น 4x4 จึงมากกว่า 4x2 จึงพบเห็นอาการนี้ได้ในรุ่น 4x4 มากกว่า

แต่รถที่ลีโจเป็น 4x2 ทำไมถึงมีอาการแบบนี้.......สมมติฐานของผมหลังจากเห็นข้อมูลพี่ลีโจแล้ว ผมยังยืนยันว่าเป็นเพราะ ล้อ+ยางที่พี่ลีโจเปลี่ยนมาใหม่.....ขนาดของล้อ + ยางใหม่พี่ลีโจ ใหญ่กว่าล้อ+ยางเดิมค่อนข้างเยอะ.....อย่างที่พี่นะบอกไว้ (ผมเพิ่งทราบขนาดยาง+ล้อใหม่ของพี่ลีโจตอนคุยกับพี่นะ).....ดังนั้นล้อ+ยางใหม่พี่ลีโจจึงมาเพิ่มแรงเสียดทาน หรือแรงในการยึดเกาะถนนเพิ่มขึ้น.....ดีขึ้นในเรื่องของการทรงตัว และการขับขี่.....แต่ก็ต้องเปลืองกำลังเครื่องมากขึ้น.....ทีนี้พอพี่ลีโจ "ขับเหมือนเดิม" คือขับด้วยอัตราเร่ง + ความเร็วเท่าเดิม.....สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือการกดคันเร่งที่มากขึ้น (บางทีอาจไม่รู้สึกตัวนะพี่ลีโจ เพราะคนเราส่วนใหญ่จะชินกับการขับรถที่ อัตราเร่ง+ความเร็วเหมือนเดิม มากกว่าการ กดคันเร่งเท่าเดิม).....นั่นก็แปลว่า รถพี่ลีโจที่เป็น 4x2 กำลังกลายร่างไปเป็น 4x4 ในเรื่องของน้ำหนักและความต้องการกำลังเครื่องที่มากเพื่อดันรถให้เคลื่อนที่ไปครับ......อาการความร้อนพี่ลีโจก็เลยมีอาการคล้ายๆกับที่ 4x4 มักจะเป็น

แต่จากระดับความร้อนที่พี่ลีโจบอกมานั้น ยังถือว่าไม่ร้อนเท่ารถผมที่เป็น 4x4 จริงๆนะครับ ดังนั้น พี่ลีโจยังสบายใจใช้งานได้ปกติ....เพียงแต่มองระดับความร้อนไว้บ้าง ถ้ามันขึ้นมาก็ยกคันเร่งซักนิด....ผ่อนหน่อย ให้ระบบระบายความร้อนมันระบายออกไปซักหน่อยก่อนแล้วค่อยเติมคันเร่งต่อ แค่นี้ก็ใช้งานได้สบายทุกสภาพการณ์แล้วครับ.....ระดับความเร็วที่ควรยกคันเร่งให้ระบายความร้อนซักนิดนึงคือที่ 120 กม/ชม นะครับ สำหรับรถผม.....เผื่อเป็นแนวทางให้พี่ลีโจในการยกคันเร่งครับ

ถ้าพี่ลีโจไม่แต่ใจว่าสมมติฐานนี้จะถูกหรือไม่....พิสูจน์ได้ง่ายๆอย่างที่พี่นะบอกครับ คือเอาล้อเดิมมาใส่กลับเข้าไป (ถ้าล้อ+ยางเดิมยังอยู่)....ลองขับดูซัก 1-2 อาทิตย์ ดูว่าพฤติกรรมความร้อนมันกลับไปเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้ากลับไปเหมือนก่อนเปลี่ยนล้อ+ยาง....ก็ชัวร์ครับ....เป็นเพราะล้อ+ยางนี่แหละ......แต่ถ้าไม่อยากถึงขนาดพิสูจน์.....จริงๆก็มีกรณีตัวอย่างรถที่เปลี่ยนล้อ+ยางใหญ่แล้วความร้อนจะขึ้นมากกว่ารถที่เป็นล้อ+ยางเดิมนะครับ......คือแมวป่าพี่นะ กับฉลามขาวพี่อ๊อด.....รถทั้ง 2 คันนี้ทำมาใน step 4 เท่ากัน.....ทุกอย่างเกือบจะเหมือนกัน.....แมวป่าล้อ+ยางใหญ่เบิ๊ม....ฉลามขาวล้อ+ยางเดิม......สังเกตุดู ผมเห็นพี่นะร้อนก่อนทุกที....สมาร์ทเกทร้องลั่นก่อนตลอดครับ

ดังนั้นผมว่า hardware ทุกอย่างของพี่ลีโจน่าจะปกติ......เพราะน้ำในหม้อพักไม่พร่อง....แสดงว่าไม่รั่วหรือไม่มีอากาศไปค้างอยู่ในระบบ....เมื่อรถลอยตัวความร้อนลดลง....แสดงว่าระบบระบายความร้อน (การเวียนน้ำ + พัดลม) ยังทำงานอยู่ ไม่มีตัวไหนหยุดทำงาน......ผมจึงคิดว่ามันน่าจะปกตินะครับ

สุดท้ายคือการดูแลรักษา....เมื่อรถพี่ลีโจกำลังกลายพันธ์มากลายเป็น 4x4 สิ่งที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือหม้อน้ำนะครับ....อย่าให้มีฝุ่นเกาะมากๆ.....2-3 อาทิตย์ ผมจะเอาเครื่องเป่าลมมาเป่าซะที (อย่าเป่าแรงมากนะครับ เดี๋ยวครีบหม้อน้ำล้ม)....และเอาน้ำเบาๆ ล้างบริเวณหม้อน้ำซักหน่อยครับ....แค่นี้ก็ใช้กันได้ยาวๆครับพี่ลีโจ

แต่ถ้าพี่ลีโจอยากลดความร้อนลง....คือเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนให้ดีขึ้น...ความร้อนสะสมมันจะได้มีไม่มากนัก (อุณหภูมิมันจะได้ขึ้นช้าลง) และระบายความร้อนได้เร็วขึ้น.....ถ้าอยากได้แบบนี้......ก็ตามลายแทงพี่นะไปเลยครับ.......เดี๋ยวเสร็จงาน ผมจะเอาตัวเป็นๆมาให้ชมกัน.....Prototype ของตัวนี้อยู่ที่ผมเองแหละครับ.....กำลังทดสอบระบบอยู่ ที่อยู่กับผมตอนนี้เป็น R1 ชิ้นแรกที่สั่งผลิตออกมา....ส่วน R2 เป็น version แก้ไขข้อบกพร่องที่จะสามารถทำให้นำมาใช้กับเครื่อง 2500 ได้เหมาะสมยิ่งขึ้น เพราะ R1 เป็นงานชิ้นแรกที่ทำ และเข้ากันกับเครื่อง 3200 มากกว่าคับ.......ถ้าสนใจโทรตรงหาพี่นะได้เลยครับท่าน  :L4399: :L4399:

 :L4399: :L4399: :L4399: :L4398: :L4398: :L4398: :L2900: :L2900: :L2897: :L2901:

พี่นะ [Na ratchada]:
อ่านกระทู้พี่ตามจบมี PM ยิงตรงมาทันที    ไม่ทราบว่าพี่ลีโจจะพักผ่อนก่อนซักใบไหมครับ  2500 เหมือนกัน  แนวทางเดียวกัน   จะได้หล่อไปพร้อมๆกันนะครับ

ตัดสินใจช้า  ไม่มีเพื่อนนะครับ   ถามพี่ตามดูว่า  ทุรนทุรายกับ R2 ขนาดไหน 5555555

ตูมตาม:
ส่วนอาการที่พี่ลีโจบอกว่า....น้าปิงเอารถมาจอดหลังจากไปลองรถแล้ว....พอพี่ลีโจมาสตาร์ทรถแล้วความร้อนขึ้นไป 97 พอสตาร์ทแป๊บเดียวความร้อนก็ลงมา.....อันนี้ไม่ต้องแปลกใจครับ ปกติครับผม รถทุกคันก็เป็นครับ

สมมติฐานได้ว่าน้าปิงเอารถไปลอง ก็คงลองอัด ลองเบรก ลองเข้าโค้งแรงๆ พอสมควร.....ตอนกลับมาร้านความร้อนคงอยู่ประมาณ 90 กลางๆ....ซึ่งเป็นระดับความร้อนที่เครื่องยังต้องการให้ระบบระบายความร้อนช่วยระบายความร้อนอยู่....ยังต้องการให้พัดลมหน้าเครื่องทำงาน.....วาล์วน้ำยังเปิดอยู่ เพื่อให้น้ำไหลเวียนช่วยระบายความร้อน......ทีนี้พอมาถึงร้านก็คงดับเครื่องทันที.......เกิดอะไรขึ้น......ระบบทั้งหมดก็หยุดทำงานซิครับ.....พัดลมก็หยุด....ระบบเวียนน้ำก็หยุด...ทุกอย่างหยุดหมด.....แล้วอะไรจะช่วยระบายความร้อนในเครื่องละครับ.....คำตอบคือไม่มี......เมื่อไม่มีระบบช่วยระบายความร้อน ความร้อนมันก็สะสมค้างเติ่งอยู่ในระบบ....มันก็ค่อยๆพาอุณหภูมิค่อยๆขึ้นไป.....มันจะขึ้นไปบ้างครับ แต่ไม่มากนักจากระดับที่เป็นอยู่ตอนดับเครื่อง......ตอนพี่ลีโจสตาร์ทรถอีกทีความร้อนมาอยุ่ที่ 97 ผมเดาว่าตอนน้าปิงเอารถมาจอดความร้อนน่าจะอยู่ประมาณ 93-94 ประมาณนี้แหละครับ.......ผมก็เคยเป็นครับ...ขับมาความร้อนอยู่ 96 ดันลืมครับ มาถึงรีบดับเครื่องจะไป 7-11 พอซื้อน้ำเสร็จออกมาสตาร์ทรถ....ความร้อนที่สมาร์ทเกทปาเข้าไป 100 หละครับ

กลับกัน พอพี่ลีโจสตาร์ทรถ.....ระบบระบายความร้อนทุกอย่างก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม.....มันก็ช่วยระบายความร้อนออกไปต่อ.....อุณหภูมิก็เลยลดลงเร็ว (เร็วกว่าจอดรถทิ้งไว้เฉยๆ)......ดังนั้นผมสรุปให้ว่าปกติครับ และนี่เป็นอีกจุดนึงที่ผมคิดว่าระบบระบายความร้อนของรถพี่ลีโจยังปกติอยู่ครับ เพราะยังสามารถระบายความร้อนสะสมได้ดีอยู่.....ถ้ามีอะไรบางอย่างในระบบพัง....รับรองระบายความร้อนได้ไม่เร็วแบบนี้หรอกครับ

เปลี่ยนวิธีการจอดรถด้วยนิดนึงนะครับพี่ลีโจ....รถที่มีอาการแบบนี้ ผมแนะนำให้ก่อนออกจากบ้านตอนเช้า (หรือตอนไหนก็แล้วแต่ที่สตาร์ทรถใหม่หลังจากจอดไว้นานๆ) วอร์มเครื่องซัก 5 นาทีนะครับ  (อันนี้จริงๆควรทำสำหรับรถทุกคัน).....และที่สำคัญมากสำหรับน้องปาที่มีอาการแบบรถพี่ลีโจ หรือรถผม....คือพอขับรถมาถึงที่หมายแล้ว....จอดแล้ว.....อย่าเพิ่งดับเครื่องนะครับ.....วอร์มดาวเครื่องซักหน่อย......วอร์มดาวน์นานแค่ไหน......ให้ลองสังเกตุที่เสียงพัดลมหน้าเครื่องครับ.....ถ้ายังมีเสียงดังอยู่แสดงว่าเครื่องยังต้องการระบายความร้อนอยู่.....ให้วอร์มดาวน์จนกว่าเสียงพัดลมจะเบาลงครับ....ให้เครื่องมันได้ระบายความร้อนก่อนที่จะดับมันนะครับ......แบบนี้ช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้ครับ

 :L4399: :L4399: :L4399: :L4398: :L4398: :L4398: :L2897: :L2897:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version