ผลสรุปกับการใช้งานเทียบกับกล่องข้าวน้อย 2การติดตั้งและการดูแลติดตั้งด้วยวิธีตัดต่อพ่วงสายหน้ากล่อง ECU หลัก แต่สำหรับคนที่ติดตั้งกล่องข้าวน้อย 1 มาแล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ มาต่อยอดได้เลย หรือสำหรับรถที่หมดประกันแล้วหรือผอมรับจุดนี้ได้ก็สามารถทำได้เลย และรถที่ใหม่อยู่และยังไม่แน่ใจในเรื่องการรับประกันนั้นแนะนำให้ใช้กล่องข้าวน้อย2 - step2 ใช้งานแทนซึ่งให้ผลดีเหมือนกัน การดูแลรักษาก็คือติดตั้งไว้และใช้งานปกติ หากอยากเปลี่ยน mode ก็กดที่เปลี่ยนที่SMGได้ 3 mode สำหรับกล่อง2 โดยดูmodeที่ปรับได้จากSMG และกดเปลี่ยน mode ที่กล่องได้ 2 modeสำหรับกล่อง 3 โดยดู mode ที่ใช้งานได้จากสีของไฟที่กล่อง ทั้งนี้ไม่นับรวม mode std ที่มีอยู่อีกที่กล่องทั้ง 2
ผลการใช้งานให้ผลการใช้งานเทียบเท่ากล่องข้าวน้อย2 แต่มีลูกเล่นในการจูนเพิ่มน้ำมันตามบูสเพิ่มขึ้นมาให้ สำหรับรถที่ทำ step2 ในรุ่น turbo ธรรมดาอาจจะได้เพิ่มอีกสัก 5-10% แต่สำหรับรถที่เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่หรือรถที่เป็น Turbo VG อาจดึงประสิทธิภาพตรงนี้ได้มากถึง 15%+ ทั้งนี้อยู่ที่การปรับจูนโดยรวม แต่ที่สังเกตุก็คือเมื่อเราจูนเพิ่มน้ำมันตามบูสแล้วเราสามารถลดการดันรางลงได้เพื่อเพิ่ม safety factor ให้กลับเครื่องยนต์ได้อีก รวมถึงการปรับจูนบางช่วงได้ตามใจเราปราถนา ถ้าจะถามว่าดีกว่ากล่อง2 อย่างไร ขอตอบว่าแค่มีลูกเล่นเพิ่มเติมมาให้อีกอย่าง และมีผลเรื่องอัตราเร่งและกำลังที่ปรับเพิ่มขึ้นได้
ผลการทดสอบเรื่องความร้อนการทดสอบการใช้งานทุกจังหวะการขับขี่ เกิดความร้อนตามปกติที่เราเคยอธิบายไปแล้ว กับเครื่องปาเจโร่ สปอตในรุ่น 2500cc ที่วาว์ลน้ำเปิดช้าเพราะช่วงชัดสั้น รอบจัดจ้านกว่าในรุ่น 3200 cc ซึ่งในรุ่น 3.2 นั้นไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนขึ้นไว ลองอ่านที่กระทู้นี้ post #3 ครับ
http://www.pajerosportmania.com/forum/index.php/topic,84.msg18986/topicseen.html#msg18986 ผลการทดสอบเรื่องอัตราสิ้นเปลืองอัตรการสิ้นเปลืองได้ทดสอบแล้ว ใกล้เคียงกับกล่องข้าวน้อย 2 ไม่ต่างกันมากมายหากขับขี่ปกติ แต่ที่ผมได้ทดสอบ Style Na-ratchada นั้นคือ ขับตามที่ใจอยากขับ เหยีบบยืนพื้นถนนโล่ง 130-150 ขับในเมืองก็กดเร่งทันทีที่แรงบิดมาและมีช่องว่างให้แซง ออกตัวปล่อยรถลอยตัวออกมาแล้วกดส่งไปเลย การขับขี่ของผมแบบนี้ยังมีอัตราสิ้นเปลืองพอๆกับกล่องข้าวน้อย2 แต่กำลังที่ได้มามากกว่าเดิมในช่วงบูสทำงาน หากโดยเฉลี่ยแล้วอาจจะกินมากกว่าเดิมสัก 5-10% สำหรับผมคิดว่าเพียงพอและคุ้มค่ากับเชื้อเพลิงที่เสียไปครับ และสำหรับรถติดไม่ต้องห่วงครับ เทียบเท่ารถเดิมๆเพราะผมจูนเลี่ยงจังหวะเดินเบาเป็นแบบปกติครับ
คำแนะนำและส่วนที่ต้องแก้ไขเพิ่มเติม- Mode STD “เขียว” ควรแก้ไขเรื่อง check boot cut สำหรับรถที่ปลดบูส เพราะว่าหากเปิด mode std แล้วเหยีบบจนบูสชู๊ด จะเกิดไฟengine show code P0234 แต่สามารถใช้ SMG clear ได้ ในจังหวะเร่งแซงเท่านั้น รถจะวูบเข้า engine show
- รถเดิมๆที่ไม่ปลดบูสจะไม่เกิดอาการที่กล่าวมา
- หลอดไฟ LED เป็นแบบ 3 สี ในจังหวะสีแดงจะโชว์เป็นแดงอมชมพู เพราะวางหลอดตะแคง ไม่ยื่นหัวหลอดออกมา ทำให้มองดูไฟแล้วไม่สวย เนื่องจากเห็นข้างหลอดแทน ส่วนไฟเขียว ไฟฟ้า สวยงามดี
- สาย interface ควรบัดกรีและหยอดกาวยางเพื่อความแน่นหนา เพราะของผมสายหลุดมาแล้ว
- เทอร์โบติดรถ ควรจูนแต่พอเหมาะในการเพิ่มน้ำมันตามบูส เพราะเพิ่มเยอะไปก็เปล่าประโยช์น เพราะเทอร์โบลูกเล่น แต่สำหรับเทอร์โบใหญ่จะเห็นผลชัดกว่า
- เครื่องเทอร์โบ VG ได้เปรียบอย่างมาก ในการใช้ function เพิ่มน้ำมันตามบูสนี้
ความคิดเห็นส่วนตัวระหว่าง กล่องข้าวน้อย 2 กับ กล่องปิ่นโต (ถ้าให้คะแนน)สำหรับการทดลองที่ผ่านมา ลองทดสอบสลับไปสลับมาจนเห็นว่า มีความแตกต่างกันและส่วนที่เราจะใช้ประโยช์นได้ก็ตรงเพิ่มน้ำมันตามบูสนี่แหละ และปรับเลี่ยงเสียงเขกตอนเดินเบาให้เงียบลงได้ แต่การใช้งานโดยรวมไม่หนีกันมากสำหรับรถที่ทำ step2 ในรุ่น turbo ธรรมดาอาจจะได้เพิ่มอีกสัก 5-10% แต่สำหรับรถที่เปลี่ยนหัวฉีดใหญ่หรือรถที่เป็น Turbo VG อาจดึงประสิทธิภาพตรงนี้ได้มากถึง 15%+ และถ้าจะให้คะแนะรีวิวจากการใช้งาน ด้วย 10 คะแนน ขอให้ดังนี้
- กล่องข้าวน้อย 1 5-7 คะแนน (มีการตัดพว่งสายไฟหน้ากล่อง ECU)
- กล่องข้าวน้อย 2 8-10 คะแนน (ไม่ตัดสาย เป็นแบบปลั๊กเสียบ)
- กล่องปิ่นโต (3) 8-10 คะแนน + Plus (มีการตัดพว่งสายไฟหน้ากล่อง ECU)
***************************************** จบการทดลองและผลการรีวิวครับ**************************************
**************************************** รอภาคต่อไปจากพี่อ๊อด อีกคร้ั้้ง ***************************************