สวัสดี วันแรงงาน ครับ พี่ๆ ทุกท่าน พร้อมกับ มินิรีวิว..หลังจากเดินทาง ไป-กลับ 3 วัน รวมๆ 1.5 พัน กม.
สรุปเท่าที่พอจดจำความรู้สึก ในการขับขี่ การใช้งาน เจ้า ยาง Deegan 38 AT ชุดแรก ของผมนะครับ
1.) ออกเดินทางด้วย ลมยาง 33 ทั้ง 4 ล้อ พร้อมกับ ผดส. 3 พัน ตัว (พันธ์ปลาไปลงบ่อ) + สิ่งของนิดหน่อย ตีซะว่า นั่งไป 3 คน
2.) บททดสอบแรก จาก สระบุรี - โคราช ฝกตก หนัก สลับ เบา ถนนเปียกตลอดทาง + ถนนก่อสร้าง โคลนเปียกบนถนนดำ ใบปัดน้ำฝนทำงาน เบอร์ 1-2
เปิดระบบ 4H+กันลื่น ความเร็วที่พอจะวิ่งได้ 80 - 100 ช่วงขึ้นทางลาดชัน เจอน้ำหลาก ชุดใหญ่ และแอ่งน้ำ ประมาณท่วมหลังเท้า ผ่านได้
รถไม่มีอาการลื่น ส่าย หรือหน้าไว มองจากกระจกข้างดูหลัง และสังเกตุ ด้านหน้า 2 ข้าง น้ำกระเด็นออกจากซุ้มล้อเยอะดี
ด้วยร่องรีดน้ำ 4 ร่อง ช่วยได้เยอะครับ
3.) ถนนแห้ง + โค้ง ความเร็ว 100 - 120 +- พบว่า ล้อยางแบบนี้ ทำให้พวงมาลัยมันแน่น ตึ่งๆ และนิ่ง ดีขึ้นกว่า HT อาจด้วยรุ่นที่ผมใช้ น้ำหนัก ล้อละ 18.x กก.
ข้อนี้ผมก็ยัง ขับขี่ด้วยระบบ 4H + กันลื่น
4.) ทางตรงๆ มองสุดสายตาด้านหน้า และ ดูกระจกหลัง ว่างๆ..ด้วยรหัสยาง T=เต็มที่ 200 นะ ผู้ผลิตสั่งไว้

ข้อนี้ผมก็ยัง ขับขี่ด้วยระบบ 4H+กันลื่น จบที่ 17 ยกเท้า พอๆ....ด้วยน้ำหนักยาง และไม่ลงกล่อง อะไรก็ขึ้นยากหน่อย
ถามว่ารีบไหม รีบครับ เพราะกลัว อ๊อกซิเจน ปลา 3 พันตัวใส่มาในถุง 10 ถุงจะหมดก่อน ช่วงจอดพักเห็น หงายท้องหลายตัว
5.) ถนน ฝุ่นแดง + ทางลูกรัง + ถนนคลื่นฟันปลา ตจว. มันเป็นคลื่น เล็กๆ ถี่ๆ + โค้ง วิ่งได้ไม่เกิน 80 ไม่ได้มีปัญหาอะไร ออกนุ่ม ด้วยครับ
คือถ้าเอา ขอบ 22 + ช่วงล่างเดิม ไปวิ่งนี้ สะเทือนยัน ตับ...

และผู้ผลิตเขียนไว้เกี่ยวกับ ลดเม็ดหิน ติดในในช่องดอกยาง พบว่า 90% ไม่มีเกาะเลย
ข้อนี้ผมขับขี่ด้วยระบบ 4HLc+กันลื่น
6.) เข้าทางโคลนใน ไร่ ร่องรถแทร็กเตอร์ ข้อนี้ผมขับขี่ด้วยระบบ 4HLc+โหมด MUD + กันลื่น มีล้อฟรีบ้าง แต่ก็สบายมาก
หลังขึ้นจากโคลน การสลัดออกเร็ว รถไม่ค่อยเบื้อน เนื่องจาก มันอยู่ใน ซุ้มล้อ พอดีๆ
7.) ทดสอบแบบจริงจัง บนถนนดำ+ ปูน เรื่องของเสียงยาง เฉพาะรถผมนะครับ อายุ 2.5 ปี พวกยางขอบประตู ยังแน่น
ตัวรถสูงปกติ เบาะนั่ง ปรับสูงสุด ผมคนตัวเล็ก หู ผมได้ยินดังนี้
0 - 60 ได้ยินแต่เสียงเครื่องยนต์
60 - 100 ได้ยินเสียงยางบดถนน คือทั่วๆ ไป
100 ++ สารพัดเสียง เครื่อง + ลม + ยาง รถวิ่งสวนกัน ยางรถคันอื่น ดังกว่ารถเรา อันนี้ แล้วแต่ นะครับ
คุยกันได้ ฟังเพลง สบายๆ...คือมันดีกว่าที่ผมคิดไว้เยอะผมเลยว่ามันดี แต่ถ้ารถใคร ต่ำๆ อยู่ใกล้ๆ ล้อ ยางทั่วไปก็คงได้ยินนะผมว่า
8. ) ระยะเบรค สั้นลง คือถ้าระยะเดิม 5 เมตร หยุด หลังเปลี่ยนยางตัวนี้ ประมาณว่า จะเหลือ 4 เมตร ได้ครับ ใช้ความคุ้นเคย กะเอา
0-40 ยกคันเร่งนี้เห็นได้ชัดครับ รถจะเฉื่อยลง การออกตัวอย่างที่ผมบอกวันแรกที่เปลี่ยนต้อง กดคันเร่ง เพิ่มอีกนิดหน่อย ถ้าคันเร่งไฟฟ้า อาจไม่มีปัญหา
265/60/18 ล้อ ละ 18 กก. สำหรับเครื่อง 2.0 อาจหนักเกินไปหรือเปล่า ไม่แน่ใจนะครับ แต่ผม 2.4 ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร
9.) การหักเลี้ยว พวงมาลัย ด้วยยางตัวนี้ ที่ความเร็ว 0 - 40 สำหรับคุณผู้หญิง อาจมองว่าหนัก ปวดข้อมือได้ครับ ถ้าเติมลม 35++อาจช่วยได้ แต่จะแข็งเกินไปหรือเปล่า
ผมลงตัวที่ ลมยาง 33
10. ขากลับ เจอฝนตก 80% ของการเดินทาง จาก เบา จนถึง ใบปัด วิ่งเบอร์ 3....
จบการ ริีวิวแบบฉบับผู้ใช้งาน ระยะยาว ถ้ามีอะไร ก็จะมาเล่าสู้ พี่ๆ ฟัง นะครับ


