เรื่องประเดนเสียงดีกว่าคงจบแล้วครับ เพราะคนที่ฟังมาจริงๆมายืนยันแล้ว คือไม่ได้ฟังเองคงไม่รู้ คนที่ให้คำตอบดีที่สุดคือคนที่ได้ฟัง
แต่เหตุผลลึกๆในเชิงเทคนิคอันนี้คงอยู่ที่ประสบการและการวิเคราะทดลอง อันนี้ขึ้นอยู่กับบุคคน
ส่วนทางด้านเทคนิค (อันนี้คิดไปเอง)
-อุปการณ์แตกต่างกัน หรือคนละเกรดกัน
-เฟิร์มแวร์ อาจเป็นคนละเวอร์ชั่นกัน (แต่ปุ่มแดงมาหลัง น่าจะเฟิร์มแวร์ใหม่กว่า)
-สุดท้าย น่าจะอยู่ที่คนปรุง(ปรับแต่งเสียง) เพราะตัวควบคุมเป็นระบบ MCU ได้เก็บและใส่ค่าคอนฟิกเทพๆเอาไว้

สวัสดีครับพี่ทศ
ช่วงนี้ผมกำลังสนุกกับ player ขอยกตัวอย่าง player Hi-res รุ่นหนึ่ง ที่มีการ up firmware แล้วเสียงแย่กว่าของเดิมจนมีการปรับ downgradeกลับไปใช้ของเก่าโดยยอมรับกับปัญหาและเรียนรู้วิธีอยู่กับปัญหาเพื่อที่จะใช้ firmware ตัวนั้นก็มี เช่น
V 1.1,1.2,1.3,1.4,1.5 ซึ่งแต่ละ versions ยังมีย่อยตามหลังอีกเป็น 01 / 02 /05 06/ 08 กลายเป็นตัว 1.2 เสียงแหลมดีเป็นประกายเสียงกลางดีโปร่งฟังสบาย พออัพกลับกลายเป็นเสียงร้องดีแต่เสียงแหลมเป็นประกายหายไป เสียงกลางไม่โปร่งแบบเดิม ต้องย้อนกลับไปใช้ V1.2 ก็มีครับ
ผมก็เพิ่งลองด้วยตนเองนี่แหละ กลายเป็น V1.2 ใช้ mem speed ต่ำไม่ได้แต่เสียงดีเลยต้องยอมต้องเล่น mem เร็วๆ / ตัวใหม่ใช้ mem speed ต่ำได้แต่เสียงไม่ดีแบบแรก เปลี่ยน mem เร็วๆก็ไม่ช่วยอะไร
ทั้งนี้ต้องเป็นหูฟังหรือแอมป์ที่คุณภาพดีๆจะเห็นชัดเจนเลยครับ แต่ถ้าเป็นหูที่ไม่มีอะไรมากหรือแอมป์ที่ไม่มีเอกลักษณ์อะไรพิเศษจะเข้าไม่ถึงสัญญานเสียงพวกนั้น ฉะนั้นเมื่อมีอยู่หรือหายไปเราอาจไม่เคยได้ยินเสียงนั้น เลยเข้าใจว่าเป็นปกติ
เรื่องอุปกรณ์ที่เหมือนกัน เกรดเดียวกัน บางกลุ่มเขาโมให้เสียงต่างกันได้เพียงแค่เปลี่ยนยี้ห้อและชนิดตะกั่ว เติมตะกั่ว เปลี่ยนสายนำสัญญาน ไลท์ลายปริ้นใหม่ เปลี่ยนแจ๊ค ทาน้ำยา silver gold เสียงออกมาต่างกันเลยแบบชัดเจน ยิ่งหูที่เฉพาะหน่อยจับได้ง่ายมาก บางคนเอาหูราคาพัน ไปอัพสายกับแจ๊คราคาหมื่นก็มีครับ สายขายกันเป็น cm.
อีกเรื่องคือ จุกยางสำหรับใส่หูฟัง แข็ง อ่อน ท่อเล็ก ท่อบาน โฟม ยางแข็ง ยางอ่อน ล้วนแล้วมีผลชัดเลยเหมือนปรับจูนเครื่องเสียงเพียงแค่เปลี่ยนยางที่หูฟัง ตอนแรกผมก็แปลกใจว่าหูฟังทำไมให้ยางมาเยอะจังคล้ายๆกันหมด หรือกลัวเปลื่อย หรือกันหาย ที่แท้เอามาเพื่อเปลี่ยนบุคลิกเสียง
สำหรับกรณีจอนี้ผมก็คิดแบบเดียวกับพี่ทศเลยว่าแค่ module control panel แค่เปลี่ยนปุ๊บแล้วเสียงจะเปลี่ยนตามเลยหรอ ปุ่มโวลลุ่มส่งผลอะไรไหม ตะกั่วที่ใช้ทำจอฟ้าเกรดดีกว่าหรือป่าว และอื่นๆ เพราะผมเจอมากับตนเองหลายอย่างที่ทฤษฎีอธิบายไม่ได้
อีกเรื่องที่ผมเจอเองคือสายสัญญาน เหมือนกัน 2 เส้น เส้นหนึ่งเอาไปburn 100-200 ชม อีกเส้นไม่ต้องทำอะไร พอถึงวันหนึ่งเอามาเสียบสลับเห็นชัดเจนว่าอะไรที่แตกต่าง
หูฟังอีก พอเชื่อเรื่องเบรินละยังมีแยกไปอีกว่าจะเบรินโฟกัสอะไร โฟกัสดนตรีแจ๊ส โฟกัสดนตรีเคาะสีตีเป่า โฟกัสดนตรีจังหวัมันส์ เพราะหากหูฟังเบรินมาเสียโฟกัสจนสุกแล้ว มันอาจจะแก้ไขไม่ได้ดีเท่าไหร่ แบบนี้มีให้ลองผมก็ไปลองมาแล้ว ยอมรับว่าหูฟังจับอาการง่ายมากกับเรื่องเสียง
ตอนนี้ผมบ้าไปแล้ว ขนเครื่องเล่น หูฟังติดตัว เปิดเครื่องทิ้งที่ทำงานใส่ถุงปิดเสียงเปิดช่องระบายความร้อนเพื่อเปิดทิ้งในเพลงจังหวะเดียววนหลายๆรอบได้สัก 6-8 ชม กลับบ้านเปิดไว้หัวนอนเสียบชาร์ทใช้ timerตั้งเวลาตัดไฟได้อีก 6-8 ชม ตื่นเช้าเปิดทิ้งช่วงรอไปทำงาน 1-3 ชม วันหนึ่งได้ประมาณสัก 10-15 ชม ประมาณสัก 10- 15 วันก็สุกได้ที่ 5555
ทั้งหมดนี้พอเอาไปใส่ในรถฟังยากครับตอนเสียบกับหูฟังมันจับง่ายกว่ามาก
สำหรับกรณีหน้ากากตัวนี้ หากผมมีโอกาสเจอรถใครมีจอส้มผมจะขอสลับทดสอบเลย หรือพี่ทศสามารถทดสอบได้ช่วยอีกแรง แต่หากเป็นไปได้ขอเป็นสัญญาน output แทน hi-power นะครับ และอีกอย่างน่าจะเป็นเรื่องสายสัญญานที่มีคุณภาพดีๆจนมีเสียงบางความถี่ผ่านไปได้ พอมีการเปลี่ยนแปลงจนความถี่พวกนี้หายไปจะจับอาการได้ง่ายกว่าสายที่ไม่เคยมีความถี่นี้วิ่งผ่าน พอมาจับสลับเทียบอย่างไร ก็จะยืนยันว่าไม่มีผลการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย อีกตัวที่น่าสนใจคือชุดโวลลุ่มกับสัญญาุดรับรีโหมดนี่แหละที่จะทำให้ผลของเสียงอาจแตกต่างกันได้
------------------------------------------------------------------
สำหรับเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เนื่องจากตัวหนังสือมันไม่สามารถแสดงอารมณ์ภาษาออกมามากมายแบบนั่งคุยกันต่อหน้า ฉะนั้นอย่าอ่านแล้วตีความว่าเถียงกันจนเป็นประเด็นหรือไม่ชอบหน้ากันเลยนะครับ
- เอาแบบว่าไม่เชื่อเพราะอะไร
- เชื่อเพราะอะไร
- ลองแล้วเป็นไง
- จะทำไงให้เชื่อ
- จะชวนมาลองได้อย่างไร
- แล้วเปลี่ยนความเชื่อแล้วหรือยัง
- เสร็จแล้วช่วยกันหาว่าทำไมถึงเปลี่ยนแปลงได้
*** แบบว่าช่วยกันค้นหา ก็จะดีมากๆเลยครับ ส่วนลองแล้วแฮปปี้ไปตามๆกัน ผมว่าต่อไปนี้ตลาดสลับหน้ากากคงคึกคักน่าดู
