รอบนี้ให้ทางอู่จัดการเปลี่ยนชุดซ่อมคาลิเปอร์ทั้ง 2 ข้าง ถอดมาเจอแปลกๆ 2 รายการ
1 ผ้าเบรคกินไม่เท่ากันข้างซ้าย ด้านในกับด้านนอกหนาบางไม่เท่ากัน
2 ผ้าเบรคไม่มีแผ่นรองด้านในมาด้วย มีแต่แผ่นด้านนอกดำๆ
ระหว่างที่ถอดทำความสะอาดก็พบว่าลูกสูบข้างนึงเป็นรอยครับ น่าจะข้างที่ผ้าเบรคไม่เท่ากันแน่ๆ
ส่วนจานก็ลองพลิกดูทั้ง 2ฝั่ง ทั้ง2ใบ
รูปจานครับ
ข้างซ้ายจานด้านในร่องจะหายเกือบหมด แต่ด้านนอกยังมีลายร่องอยู่นิดๆ


ผ้าเบรคด้านซ้าย

ผ้าเบรคขวา

ส่วนจานอีกฝั่งนี่หมดเรียบเลยครับ


ผ้าเบรคใหม่เทียบความหนา

รอบนี้โชคดีที่เอาเข้าไปทำเรียบร้อยครับจะได้ใช้ทดสอบยาวๆไปว่าชุดใหม่จะเป็นยังไง
รายการที่เปลี่ยนก็ชุดซ่อมข้างละ 450บาท มีลูกสูบ 1 ลูกอีก 450บาท
สปริงดันผ้าเบรคก็จัดของใหม่ไป 350, กะแผ่นรองผ้าเบรคอีกชุด 400
ค่าแรงทำทั้งหมด 800 บาท
เบ็ดเสร็จจ่ายไปทั้งหมด 2900บาท ตัวเบาเลย

ผมกะว่ารอบนี้ก็จัดการซ่อมให้มันชัวร์ไปเลยว่าคาลิเปอร์หน้าทำงานปกติ สภาพสมบูรณ์จะได้รู้ว่ารอบนี้ผ้ากะจานมันจะอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน




ระหว่างประกอบเบรคก็เจอจุดติดขัดอีกครับ ปรากฎว่าตัวผ้าเบรคเมื่อประกอบเข้าไปแล้วไม่สามารถใส่คาลิเปอร์ได้
สาเหตุก็เนื่องจากว่าผ้าเบรคของ Dixcel มันมีความหนามากกว่าผ้าเบรคเดิม พี่นกวัดเทียบกับของ NSport Pro เห็นว่าของทาง Dixcel หนาว่าประมาณครึ่งมิล
ทำให้ไม่สามารถใส่คาลิเปอร์ได้ นี่อาจจะเป็นสาเหตุนึงที่ตอนถอดผ้าเบรคออกมาเจอว่าตัวผ้าเบรค Type X ชุดแรกนั้นไม่มีแผ่นรองผ้าเบรคด้านในมาให้ทั้ง 2แผ่น
คาดว่าทางศูนย์ เห็นว่ามันแน่น ช่างของทางศูนย์บริการจึงเอาแผ่นรองผ้าเบรคออก เพื่อให้สามารถใส่คาลิเปอร์ได้ ซึ่งอันนี้แย่ครับ มันทำให้ผ้าเบรคดัง
แทนที่ช่างจะขัดตัวผ้าเบรคให้บางลงนิดเพื่อที่จะสามารถใส่ได้ ดันไปเอาแผ่นรองออกแบบมักง่าย อันนี้เด๋วรอบแสนโล จะไปบ่นแรงๆกับทางหัวหน้าช่างสักรอบ

สรุปผลตอนนี้ก็คือประกอบเรียบร้อยครับ ช่างของพี่นก จัดการให้เรียบร้อย ประกอบเสร็จ เหลือเพียงแต่การทดลองใช้กันอีกชุดนึงเพื่อดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับผ้าเบรคชุดก่อน กับจานเบรคของ Dixcel นั้นผิดปกติหรือไม่อย่างไร
รอบนี้ผมว่าผลที่ออกมาก็ไม่น่าจะมีปัญหาคาใจใดๆแล้วเพราะเบรคหน้าถูกซ่อมบำรุงให้สมบูรณ์ และเบรคหลังก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถูกปรับตั้งให้ระยะห่างผ้าเบรคเข้าที่เข้าทางแล้วครับผม
ส่วนตัวแล้วการรีวิวประสิทธิภาพของผ้าเบรค Dixcel Type X และจานเบรค Type SD สำหรับ Pajerosport ขอย้ำนะครับ สำหรับ PajeroSport นะค๊าบบบบบ นั้นผมเรียนตรงๆว่า มันทำงานได้ดีครับ ดีมากในเรื่องของประสิทธิภาพการเบรค และฟิลลิ่งในการแตะเบรค กับการหยุดรถที่มั่นใจได้มากทั้งที่มีการบรรทุกเต็มๆ หรือรถเปล่าๆนั่งแค่ 2-3คน อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ผมเจอเรื่องของการสึกหรอที่ดูผิดปกติและเกี่ยวกับอายุการใช้งานที่สั้นมากในชุดนี้ ก็ต้องรอดูและพิสูจน์กันต่อไปครับ ว่าจะสามารถใช้งานได้ถึงระดับที่เรียกว่าคุ้มค่า คุ้มราคาไหม กับเงิน หมื่นปลายๆ สำหรับค่าผ้าเบรคและค่าจานเบรค อันนี้รอชมกันได้ครับ ผมจะพยายามกลับมารีวิวให้ทุกๆหมื่นกิโลเมตรครับส่วนเรื่องประสิทธิภาพของจานเบรค Dixcel Type SD กับผ้า Type ES อีกชุดที่ผมใส่ในรถ CRV นั้นคงต้องรอดูกันต่อไปครับ ว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง คร่าวๆหมื่นโลผ่านไปผ้าเบรคยังหนาอยู่ครับตอนนี้วิ่งไป 9หมื่นกว่าๆ เด๋วครบแสนโลจะถ่ายรูปมาแชร์กัน
แต่ส่วนตัวแล้วไม่ห่วงสำหรับ CRV เพราะเพื่อนใช้ Type SD กับผ้าเบรค Type X ผ่าน 35,000 โลไปเรียบร้อย ส่วนอีกคนผ้าเบรค Type ES เหมือนผม แต่จานเดิมๆ ก็ผ่านหลัก 45,000โลไปได้สบาย
รอบนี้รอลุ้นครับกับ PajeroSport ของพ่อ ส่วนประสิทธิภาพการเบรค วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมาก็เอารถไปวิ่งได้ 100กว่าโล สัก 3-4ร้อยโล ก็น่าจะพ้นช่วงรันอินสำหรับผ้าเบรค ความรู้สึกก็เหมือนเดิมครับ ยืนยันว่าเบรคดีมาก
รอบนี้ใส่ล้อใหญ่ขึ้นเป็น 18" ก็ไม่รู้สึกว่าเบรคไหลกว่าเดิมแต่อย่างไรครับ จะมีก็แค่ความรู้สึกทางใจว่าจานไม่มีร่อง ไม่เท่ห์ 5555 แล้วก็อีกอารมณ์คือความคาใจเล็กๆว่าถ้ารอบนี้ได้ลองจานร่องเหมือนเดิมก็คงจะดี จะได้รู้กันไปว่าร่องมันจะหายอีกไหม
มารอดูกันต่อไปครับ ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าถ้าผ้าเบรคชุดนี้มันได้เกิน 40,000 ก็น่าจะถือว่าผ่าน ส่วนจานอย่างน้อยๆน่าจะอยู่ได้หนาพอสำหรับผ้า 2ชุด ไม่งั้นรอบหน้าผมก็คงหนีไป DBA จับกับ N Pro ดูว่าเป็นอย่างไร
สั้นๆสำหรับผมถ้าคนถามว่า Dixcel ดีไหม คงตอบได้ว่า ประสิทธิภาพการเบรคดีมากครับ แต่คุ้มราคาไหมกับหมืนปลาย หมื่นกว่าโล อันนี้ไม่คุ้มครับไม่คุ้มอย่างแรงเลยยยยยยยย แต่ก็ต้องรอทดสอบกับชุดนี้ละครับดูว่าที่สุดแล้วจะเป็นไง
