Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Miscellaneous

ข้อควรรู้เรื่องประกันภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใบขับขี่

(1/3) > >>

พี่ไซ:
Cradit : https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1587893578152829&set=a.1402054393403416.1073741828.100007966055911&type=1





อดิศักดิ์ กาลคะนี


1. ใบขับขี่กับประกันภัย หลายคนคิดว่าขับรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ เรียกประกันมา ใบขับขี่ไม่มีทำไงดี บางคนยัดเงินพนักงานเครม บางคนเปลี่ยนคนขับ ผมอยากชี้แจงให้ทราบว่าใบขับขี่จำเป็นต้องมีในกรณีเดียวคือเมื่อเกิดเหตุแล้วรถเจ้าของประกันภัยต้องการซ่อมรถตัวเอง นอกนั้นไม่ต้องใช้ อาจไม่เห็นภาพนะครับลองมาดูกันต่อ

*** รถมีปะะกันชั้น 1 แล้ว ไปชนรถหรือทรัพย์สินคนอื่น ไม่ว่าอะไรก็ตาม ประกันจะต้องรับผิดชอบคู่กรณีแทนท่านทุกกรณี ไม่ว่าท่านจะชนรถ ชนรั้วบ้าน ชนคน ชนอะไรก็ได้ที่เป็นทรัพย์สินของคนอื่น ไม่ว่าท่านจะมีใบขับขี่หรือไม่ ประกันต้องจ่ายหมด สิ่งที่แตกต่างระหว่าง มี กับไม่มี ใบขับขี่คือ ถ้าท่านไม่มีใบขับขี่ประกันจะไม่ซ่อมรถให้ท่านแค่นั้น ถ้าท่านขับรถไปชนท้ายเค้า แล้วมีใบขับขี่ประกันจะซ่อมรถให้ทั้ง 2 คัน แต่ถ้าไม่มีประกันจะซ่อมแต่รถคู่กรณีไม่ซ่อมรถท่าน กรณีที่ท่านเปิดเคลมแห้ง (ไม่มีคู่กรณี) ท่านที่มีชั้น 1 อยู่ อย่าปล่อยสิทธิให้เสียไป หากรถมีรอยขีดข่วน สะเก็ดหิน อยากได้สีใหม่ เพียงแค่ใช้บุคคลที่มีใบขับขี่ โทรแจ้งขอเคลมสีของท่านได้ *** รถมีประกันชั้น 2 -3 ธรรมดา ไม่ต้องกังวลใดๆ ท่านจะขับชนอะไรก็ตาม ไม่ต้องมีใบขับขี่ประกันต้องรับผิดชอบหมด ยกเว้นชั้น 2 กรณีรถหายหรือไฟไหม้จำเป็นต้องมี*** รถที่มีประกันชั้น 2-3 พลัส หรือ ประเภท 5 ลักษณะเดียวกับประกันชั้น 1 แต่จะแตกต่างตรงที่จะต้องเป็นรถชนรถ รถที่มีป้ายทะเบียนเท่านั้น จักรยาน ซาเล้ง ไม่เกี่ยว รถชนรถ มีใบขับขี่ก็ซ่อมทั้งคู่ ไม่มีก็ซ่อมเฉพาะทรัพย์ที่เราชน

2. เมาสุรากับประกันภัย ไม่ต้องกังวลใดๆครับ เงื่อนไข ของประกันภัย จะไม่รับผิดชอบให้ท่านต่อเมื่อท่านเมาในระดับแอลกอออล์เกิน 150 เพราะฉนั้นท่าท่านเมาไม่มากสิ่งที่ระวังคือตำรวจ พยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นโรงพัก การเป่าอลกอฮอล์ เมื่อเกิดเหตุ รุนแรงขนาดเข้าโรงบาล อย่าให้พยาบาลเจาะเลือดท่าน ถ้าไม่มีหลักฐานการตรวจประกันต้องจ่ายสถานเดียว จำไว้ถ้าท่าน ไม่เมาจนเกินลิมิตประกันจ่ายคุณแน่แต่ระวังข้อหาเมาแล้วขับก็พอ (ผมเคยเมาแล้วโดนเป่า ออกมาได้ 187 เรียกว่าขับรถไม่ได้แล้วครับ) ใบขับขี่ไม่ต้องซีเรียส โดนจับก็แค่ปรับ

3. โดนชนแล้วหนีท่านที่มีประกันชั้น 1 หรือ 2--3 พลัส หากโดนชนแล้วหนีท่านต้องจำทะเบียนรถคันนั้นให้ได้ แล้วเตรียมใบขับขี่ ถ้าไม่มี ให้หาคนมีใบขับขี่เอาไว้แล้วไปแจ้งความที่ สน ท้องที่นั้น นำใบแจ้งความมาแล้วโทรแจ้งประกัน ประกันจะส่งพนักงาน เครมมาเครมให้ ถ้าท่านไม่ทราบเลขทะเบียนของคนที่ชนท่าน สำหรับประกันชั้น 1 ให้แจ้งเป็นชนโน่นชนนี่ไม่มีคู่กรณี ตามสภาพบาดแผลที่น่าจะเป็น สำหรับ 2-3 พลัส .... อดไป

4. เลขทะเบียน เลขเครื่อง สีรถ ภาษีขาด อธิบายสั้นๆง่ายๆว่าประกันยึดถือเลขตัวถังรถเป็นหลัก ไม่ว่าป้ายไม่ตรง เลขเครื่องไม่ตรง สีไม่ตรง ภาษีขาดต่อ ไม่เกี่ยวข้อง กับประกันภัย ไม่ต้องซีเรียส ไม่ต้องกลัวประกันไม่จ่าย หากเลขตัวรถท่านตรงเป็นอัน แฮปปี้ ยกเว้นกรณีที่ประกันหาเลข ตัวถังรถท่านไม่เจอ ประกันอาจขูดเลขเครื่องของท่านแทน

5. ใบขับขี่โดนยึด หมดอายุ หายหากใบขับขี่โดนยึดให้แสดงใบสั่งแทน ประกันยึดถือแค่ว่าจะไม่คุ้มครองผู้ที่ไม่เคยได้รับใบอนุญาติ เท่านั้น หากหมดอายุก็แสดงไปใช้ได้ไม่มีปัญหา หากโดนยึดก็แสดงใบสั่ง หากหายถ้ามีสำเนาก็แสดงสำเนาหรือหากไม่มีในวันนั้นในวันที่เอารถเข้าซ่อมก็เตรียมไปด้วยไม่งั้นอดซ่อม และหากหายและไม่มีสำเนาก็ไปทำมาซะแต่ตอนเกิดเหตุต้องแจ้งว่ามีไว้ก่อน ไม่ได้เอามาหรืออะไรก็ว่าไป มีเวลาเรื่อยๆจนกว่าท่านเอารถเข้าซ่อม

6. เวลาเกิดเหตุกลางถนนหากตกลงกันได้ว่าใครผิดใครถูก คนผิดยอมรับผิด ให้เคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุทันที อย่าไปจอดเกะกะชาวบ้าน ไม่จำเป็นต้องรอประกันมาถึง หากไม่รู้ใครผิดให้ตำรวจตัดสินแล้วย้ายรถออกได้ หรือไม่มีตำรวจหากบังเอิญพกสีสเปร์มา ให้พ่นตำแหน่งที่ล้อทั้ง 2 คัน และบริเวณหน้า+ท้าย+ข้างของรถทั้ง 2 คัน ไม่จำเป็นต้องไปโรงพักหากคุยกันได้ ยกเว้นการชนที่มีคู่กรณีมากกว่า 2 คัน ถึงต้องไปโรงพัก และคนที่ผิดต้องโดนปรับข้อหาขับรถโดยประมาท

7. ช่วงล่างกระแทกพัง แมกซ์ดุ้ง ยางระเบิด และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ประกันชั้น 1 ต้องจ่ายให้ท่านทุกกรณีแต่ต้องมีใบขับขี่ หากท่านมีอุปกรณ์ตกแต่งราคาแพงต้องการคุ้มครองกรณีสูญหายให้ท่านเตรียมใบเสร็จจากที่ร้านที่ท่านติดตั้ง เช่น แมกซ์ เครื่องเสียง แล้วโทรสอบถามเงื่อนไขการประกันภัย ให้ประกันเพิ่มสลักหลังคุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งนั้นๆ ประกันจะคิดเบี้ยท่านเพิ่มแต่ไม่มาก แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องหายก็ไม่ต้อง เพราะหากแค่เสียหายก็ยังเหลือซากให้เห็นอยู่แล้ว ยางที่ถูกกระแทกจนระเบิดประกันจะจ่ายครึ่งเดียวครับ พวกยางแพงๆขอบ 19-20 ก็จัดไปส่วนที่เป็น 2-3 พลัส อดครับ เว้นแต่ความเสียหายนั้นสืบเนื่องมากจากการชนกับของรถที่มีทะเบียน -เช่น รถท่านโดนปาดหน้าจนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ ตกคลอง กระแทกฟุตบาต แบบนี้ประกันก็ต้องวซ่อมให้ท่านครับไม่ใช่แค่แผลที่เกิดจากการปะทะระหว่างรถกับรถ

8. ชั้น 1 เคลมสีรถแล้วจะเปลี่ยนสีสามารถทำได้ครับโดยให้แจ้งประกันว่าจะเปลี่ยนสี ประกันยึดหลักการว่า เกิดเหตุจริง ซ่อมจริง หากคุณจะเปลี่ยนสีก็ไม่ใช่ปัญหา

9. เคลมอะไหล่แล้วอยากเปลี่ยนเป็นอะไหล่แต่งสามารถทำได้ครับ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย กันชน สเกิร์ต โดยการเพิ่มเงิน ส่วนต่าง ถ้าอู่นั้นโอเคกับท่าน หรือมีอู่ที่ใช้ประจำก็ให้อู่ทำใบเสนอราคาแล้วนำรถไปที่บริษัทเพื่อคุมราคา (ตกลงราคา) แล้วก็จัดซ่อมเอง ทีนี้จะเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนโลด เสร็จแล้วประกันจะโอนเงินค่าซ่อมคืนให้กับท่าน

10. ทุกครั้งที่รับใบแจ้งความเสียหาย หรือใบเคลม ท่านต้องตรวจสอบความเสียหายให้ตรงตามจำนวนชิ้นให้แน่นอนก่อนเซ็นรับ ผิดถูกให้แย้งและแก้ไขในรายการทันที ไม่งั้นส่วนที่ไม่ได้ลงท่านต้องซ่อมเองนะ ในกรณีที่ในชิ้นนั้นมีบาดแผลมาก่อนไม่เกี่ยวกับเหตุครั้งนั้น ประกันจะวงเล็บว่า (แผลเก่า) แปลว่าประกันจะให้ครึ่งราคาเพราะชิ้นส่วนนั้นไม่สมูรณ์ประกันจะไม่รับผิดชอบเต็มท่านต้องร่วมจ่ายด้วย

บังมะ-Bangma:
สาระความรู้ล้วนๆเป็นประโยชน์มากขอบคุณครับพี่ไซ  :sd23:

หนู [นินจา]:
 :sd23: :sd23: :sd23: ขอบคุณมากครับพี่ไซ  :sd23: :sd23: :sd23:

พี่นะ [Na ratchada]:
อ่านของพี่ไซแล้วได้ข้อคิด  เดี๋ยวนี้ต่างคนต่างหาวิธีฉกฉวยโอกาสใส่ตน  หรือความเห็นแก่ตัวกันมากเกินไปเนอะ

- เรื่องประกันภัยผมคิดว่าคนคิดคนออกแบบระบบ  คงออกแบบซึ่งยึดถือความตรงไปตรงมา  ต่างตอบแทนแบบแชร์ริ่งค่าใช้จ่าย

- พอฝ่ายบริหารเห็นเป็นธุกิจ  ฝ่ายการตลาดเห็นเป็นโอกาส  ก็สร้างยอดขายเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าคอมมิชชิั่นแก่ตัวเอง  โดยมุ่งเน้นสร้างกำไร

- ฝ่ายบริหารมองเห็นเป้าหมาย

- ฝ่ายการตลาดมองเห็นวิธีการ

- ฝ่ายขายมองเห็นโอกาส

- ยอดขาย   กำไร  การลดต้นทุนค่าใช้จ่าย  ทุกอย่างคือ เงิน.....ด้วยวิธีการต่างๆ

- การดึงเรื่องให้ล่าช้า   การทำให้ยุ่งยากเพื่อให้เรื่องเล็กน้อยไม่ร้องเรียกตามสิทธิ์  ........ จุดอ่อนของผู้บริโภคที่ไม่ชอบวุ่นวายกลายเป็นการลดค่าใช้จ่ายของเขา

- การต่อรอง การเจรจา   การเสนอแนะชี้ช่อง   การไม่เสนอในสิ่งที่ผู้บริโภคควรมีควรได้ ........ เพราะการ save ค่าใช้จ่ายคือผลกำไรในเชิงตัวเลข

- ผู้บริโภค เห็นช่อง พยายามหาทางเอาสิทธิ์นั้นมาให้ได้ ทุกวิธีการ...เพื่อประโยช์นของตัวเอง

- สุดท้ายก็คือสังคมแ่งการแข่งขัน  การเอารัดเอาเปรียบ  การแก่งแย่งชิงดี  การที่ไม่ยอมโดนเอาเปรียบ ของกันและกัน

- ลองคิดอีกทีว่า  คนไม่มีใบขับขี่แล้วมาขับรถมันสมควรไหม ???

- ถ้าทุกคนมีวินัยจราจร  ทุกคนเคราพสิทธิ์ เคารพกฏหมาย  บ้านเมืองเราคงไม่วุ่นวายหรอก   จิงป่ะ ???

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สมาชิกปามาเนียไม่ต้องคิดหรือมองหาหรอกว่า คนพวกนั้นเป็นใคร   ทำไมไม่เคารพกฏจราจร  ทำไมไม่ทำสังคมให้น่าอยู่  ลองมองตัวเราเอง ว่า ????

* ทุกวันนี้เราเห็นไฟเหลืองที่สี่แยกไฟแดง  เราเร่งเครื่องเพื่อให้พ้น  หรือ เราเตรียมตัวจอดเพื่อรอสัญญาไฟแดงที่จะขึ้น ?
* เราขับรถเปลี่ยนเลน ยังทับเส้นทึบหรือไม่ ?
* เราจอดรถในที่จราจรขับคั่ง  เราทิ้งระยะห่างจากคันหน้าหรือไม่ ?
* ในขณะรถไหลช้าๆ เคลื่อนตัวแบบติดขัดสลับหยุดนิ่ง  หากต้องจอด  เรายังสามารถจอดรถโดยไม่ทับทางม้าลายได้ไหม ?
* รถติดๆ  เราเว้นระยะไม่ทับเส้นเหลืองหรือไม่ ?
* เราเคยไหมที่รถติดแล้วเปิดทางไหม เลนซ้ายสุด ?
* หยุดรถให้รถขวาไปก่อน ทำไหม ?
* เมื่อรถติดช่วงทางรถไฟ   เราจอดรถหลังเส้นหยุดได้ไหม ?
* เราให้สัญญานไฟเลี้ยว ก่อนเลี่ยวมากกว่า 5 เมตรไหม ?
* เราจะเลี้ยวเราชิดเลนที่จะเลี้ยวมาก่อนไหม ?

แค่สิ่งที่ว่ามานี้  ผมยังทำได้ไม่หมดเลยในบางครั้งแต่พยายามลองทำนะ   ผลดังนี้
1. ไฟเหลืองผมเตรียมตัวจอด  คันหลังแมร่งเปิดทั้งไฟหน้า  บีบแตรไล่ยาวเลย  5555
2. เจอทางม้าลายรถติดๆ   ผมจอดหลังเส้น  คันหลังเบรคบีบแตรแล้วแซงขึ้นมาเพื่อเข้าแทรกที่ทางม้าลายที่ผมเว้นไวนั้นแหละ 5555
3. เส้นเหลืองก็เช่นกัน   จะมีแท็กซี่  รถตู้  วิ่งสวนเลนเพื่อมาเข้าเสียบ
4. ผมเปิดไฟเลี้ยวก่อนเลี้ยวสัก 20-30 เมตร   รอไปเถอะว่าส่วนใหญ่จะเบรคชะลอให้ผม  เจอแต่รีบเร่งมาอยู่ข้างประตูด้านที่จะเลี้ยว 555

---- หากมีเวลา หรืออารมณ์ดีๆ  ลองทำตามกฏจราจรดูซิ  รับรองว่าเจอเพื่อนรวมทางแบบที่ว่าแน่ๆ   แล้วแบบนี้จะไปพัฒนาบ้านเมืองหรือถนนหนทางกันทำไม  แก้ที่คนนี่แหละลดงบประมาณเยอะเลย -----

เสนอวิธีการแก้ปัญหาจราจร แบบง่ายๆ  ด้วยเทคนิค ผลประโยช์นต่างตอบแทน
- เลิกตั้งด่าน ตรวจอาวุธ
- เลิกตั้งด่าน  ตรวจแอลกอฮอร์
- ยกเลิกกล้องตามแยก
- ยกเลิกอุปกรณ์ จับความเร็วบนทางด่วน  หรือทางหลวง
- เมาเกินปริมาณกำหนด  แล้วขับรถเกิดอุบัติเหตุ  ให้รับผิดชอบหมด  ประกันไม่จ่าย  และรับผิดชอบคู่กรณี 10 เท่าความเสียหาย + ติดคุก 5 ปี
- ไม่มีใบขับขี่  รถไม่จดทะเบียน  รถไม่มีใบตรวจสภาพ ....... ติดคุก 2 ปี - ปรับสูงสุดไม่น้อยกว่า 20%ของตัวรถ -  ยึดรถ
- ให้ประชาชน เอามือถือถ่ายรูปรถที่ทำผิดกฏจารจรทุกประเภท รวมถึงทับเส้นบนถนน   ส่งเข้า face หรือ บอร์ดจราจร   แล้วตามล่าปรับจริงเต็มจำนวน  โดยมีส่วนแบ่งแชร์ริ่งดังนี้
      1.1  ผู้แจ้ง  รับ  20%  จากค่าปรับ
      1.2  เจ้าหน้าที่ข้อมูล  รับ 5%  จากค่าปรับ
      1.3  กรมขนส่ง    รับ 15%  จากค่าปรับ
      1.4  จราจร     รับ 30%  จากค่าปรับ
      1.5  รัฐบาล    รับ 30%  จากค่าปรับ
    * รับรองได้ว่าแบบนี้  จะมีรายได้ไหลเข้าแต่ละส่วนเพียบ   หากรายได้ลดลงก็แสดงว่าประชาชนเคารพกฏมากขึ้น   แล้วมาดูว่าการจราจรจะมีปัญหาอีกไหม    รถตู้ วินมอไซค์ แท็กซี่  รถเมล์   โดนก่อนแน่

ยิ่งพิมพ์ยิ่งฟุ้ง  ไปก่อน  :L2901: 

อั๋น ราชพฤกษ์:
 :sd23:  ขอบคุณพี่ไซ ขอบคุณพี่นะคับ   ได้ข้อคิดและความรู้เพียบคับ    :L2900:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version