Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) > Pa Mania On Tour & Meetings
+++ เรียนเชิญพี่ๆผู้มีจิตกุศล ร่วมบริจาคทั้งทุนทรัพย์และข้าวของ เพื่อนำไปบริจาคให้ชาวบ้านนาสะอุ้ง ++
ตูมตาม:
สวัสดีพี่ๆชาวปามาเนียทุกท่านครับ ก่อนอื่นผมขอมาแนะนำให้รู้จักกับ "บ้านนาสะอุ้ง" หมู่บ้านที่เราจะไปบริจาคของ ในทริบภูทับเบิกของเรากันก่อนครับ
Credit ภาพจาก www.puburapha.com
Credit ภาพจาก supon2010.blogspot.com
หมู่บ้านนาสะอุ้ง เป็นหมู่บ้านของชน "เผ่าถิ่น" มีประชากรประมาณ 200กว่าคน เป็นหมู่บ้านที่ขึ้นกับบ้านทับเบิก หมู่ที่ 14 ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นหมู่บ้านที่เกิดขึ้นจากการนำผู้อพยพที่ย้ายถิ่นฐานมาจากประเทศลาว เข้ามาทางจังหวัดนครพนม และในปี 2538 ตามมติครม. ได้ย้ายผู้อพยพ 50 ครอบครัวจากจำนวนหลายพันคน เข้ามาอยู่ในพื้นที่บ้านนาสะอุ้งตามที่ศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์ได้ทำการสำรวจและเห็นว่าเหมาะสมที่จะจัดเป็นพื้นที่สำหรับผู้อพยพ
แต่ความเป็นมาของชน "เผ่าถิ่น" เหล่านี้นั้น จริงๆแล้วพวกเขาก็เป็นคนไทย ไม่ใช่คนที่ลาวที่อพยพเข้ามาแต่อย่างใด......ชน "เผ่าถิ่น" เหล่านี้เดิมนั้นมีถิ่นอาศัยอยู่แถวทุ่งหัวช้าง เชียงกลาง และปัว ในเขตจังหวัด ซึ่งในช่วงปี 2511-2513 ในบริเวณนี้เป็นเขตพื้นที่สีแดง ที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ปฏิบัติการอย่างรุนแรง คนเหล่านี้ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งจากการรุกรานของกลุ่มผู้ก่อการร้าย การถูกบังคับให้เลือกสนับสนุนผู้ก่อการร้าย และได้รับผลกระทบหนักยิ่งขึ้นจากการปฏิบัติการทางทหารในการปราบปรามผู้ก่อการร้าย จากการคุกคามดังกล่าวทำให้ชาวบ้านเหล่านี้อพยพเพื่อหนีภัยคอมมิวนิสต์เข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศลาว ได้เข้าไปพักอาศัยทำมาหากินกันอยู่ในเขตเมืองสายะบุรีประเทศลาว แต่หลังจากที่ประเทศลาวได้เปลี่ยนการปกครองไปสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้ชาวบ้านเหล่านี้ต้องอพยพลี้ภัยอีกครั้ง แต่จะกลับไปที่ถิ่นที่อยู่เดิมนั้นก็ไม่ได้ เนื่องจากการปะทะกันระหว่างทหารกับผู้ก่อการร้ายในบริเวณนั้นยังมีอยู่ จึงอพยพเข้ามาในเขตประเทศไทยโดยยอมเข้าไปอยู่ในศูนย์อพยพที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลายแห่งในช่วงนั้น
เมื่อชาวบ้านเหล่านี้อพยพเข้ามาในศูนย์อพยพแล้ว ก็พยายามแสดงตัวว่าเป็นคนไทย มิใช่คนลาวที่หลบหนีอพยพเข้าเมือง แต่ด้วยหลักฐานการยืนยันความเป็นคนไทย เช่นใบเกิด ใบสมรสนั้น ได้สูญหายไปหมดจากการอพยพ และจากสงคราม ทำให้ชาวบ้านเหล่านี้ถูกกักกันไว้ในศูนย์อพยพหลายปี มีการย้ายศูนย์อพยพหลายต่อหลายครั้ง พออยู่ศูนย์นี้ได้พักนึง ศูนย์นี้จะปิดก็ต้องย้ายไป ระหว่างการย้ายศูนย์อพยพไปตามศูนย์ต่างๆนั้น มีการพลัดหลง พลัดพรากจากครอบครัวกันมาก บางคนพลัดพรากจากครอบครัวและไม่ได้กลับมาพบหน้ากันอีกเลย เนื่องจากเอกสารแสดงความเป็นพลเมืองไทยได้สูญหายไปหมดแล้ว การคัดแยกว่าคนใดเป็นคนไทยคนใดเป็นคนลาวจึงทำได้ยาก ในสมัยนั้นถึงกับต้องมีการให้เจ้าหน้าที่ทางราชการที่เกษียณอายุไปแล้ว แต่เคยทำงานในเขตพื้นที่เดียวกับชาวบ้านเหล่านี้มาชี้ตัวกันเลย.....เรียกว่าจำหน้ากันได้ว่างั้น......แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้เนื่องจาก การอพยพต่างๆนั้นใช้เวลานานหลายปี....เด็กที่เกิดใหม่ก็ไม่มีใบเกิด คนที่แต่งงานกันก็ไม่มีหลักฐาน เด็กที่สูญเสียพ่อแม่ไปแล้วก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นลูกใคร.......ปัญหาเรื่องนี้จึงยังมีต่อไป ทำให้ชาวบ้านแทนที่จะได้กลับถิ่นฐานเดิม หรือได้รับการปฏิบัติเยี่ยงพลเมืองไทยอื่นๆ กลับได้รับการปฏิบัติเยี่ยงผู้อพยพ.....พลัดพรากจากถิ่นที่อยู่ พลัดพรากจากครอบครัว พลัดพรากจากคนที่รัก
จนกระทั่งปี 2536 หรือประมาณ 20กว่าปี หลังจากชาวบ้านเหล่านี้ได้อพยพหนีภัยสงครามจากถิ่นที่อยู่เดิม คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ชาวบ้านเหล่านี้เป็น "คนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย" และได้รับรองคำร้องขอแปลงสัญชาติเป็น "ไทย" ในภายหลัง หลังจากมีการแก้ไขปัญหาเรื่องสัญชาติแล้ว คนเหล่านี้ก็ยังต้องการความช่วยเหลือในเรื่องของที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน จนในปี 2537 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการที่จะให้ชาวบ้านเหล่านี้มีถิ่นที่อยู่ที่ทำกินอย่างถาวร ตามโครงการรองรับชาวเขาอพยพจากศูนย์อพยพ เข้ามาในพื้นที่นิคมสร้างตนเองสงเคราะห์ชาวเขาจังหวัดเพชรบูรณ์
โดยในระยะแรกนั้น ได้มีการเสนอพื้นที่ในนิคมสร้างตนเองฯ และพื้นที่ที่ถูกบุกรุกโดยคนพื้นราบ ให้เป็นที่อยู่ของชาวบ้านเหล่านี้ แต่ถูกคัดค้านจากราษฎรพื้นราบอย่างหนักจนทำให้ต้องยกเลิกไป และได้ทำการสำรวจพื้นที่ใหม่จนได้ข้อสรุปว่ามีพื้นที่ 2 แห่งสำหรับชาวบ้านกลุ่มนี้คือ ที่บ้านหมันขาว อ.ด่านซ้าย และบ้านนาสะอุ้ง อ.หล่มเก่า ชาวบ้านจึงได้อพยพเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้
สำหรับที่บ้านนาสะอุ้งนั้น ถึงแม้จะได้ถิ่นที่อยู่แล้ว แต่ชาวบ้านก็ยังประสบปัญหาเรื่องที่ทำกินอยู่ เนื่องจากพื้นที่บริเวณทับเบิกนั้น ส่วนใหญ่ถูกจับจองเป็นพื้นที่ทำกินของชาวม้งที่อพยพมาอยู่ที่นี่ก่อนแล้วไปเกือบทั้งหมด พื้นที่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นพื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งเป็นป่าต้นน้ำที่สำคัญที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทำให้ชาวบ้านนาสะอุ้งขาดพื้นที่ทำกิน ถนนหนทางก็ไม่ได้รับการพัฒนาเนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก เคยมีโรงเรียนก็ปิดไปเนื่องจากประชากรมีน้อย เด็กๆต้องเดินทางมาเรียนที่บ้านทับเบิกแทน ที่บ้านนาสะอุ้งเหลือเพียงศูนย์ที่รับเลี้ยงเด็กเล็กเท่านั้น จากการไม่มีที่ทำกินจึงทำให้ชาวบ้านอยู่กันในสภาพอดอยากจนก่อปัญหาในเรื่องการตัดไม้ทำลายป่าตามมา เนื่องจากได้รับการจ้างให้ไปตัดไม้มาขาย และตัดไม้เพื่อบุกรุกหาพื้นที่ทำกิน นอกจากนั้นเนื่องจากถนนหนทางยังไม่ได้รับการพัฒนา ดังนั้นการเข้าถึงจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าฝน การเดินทางค่อนข้างลำบาก การบริจาคข้าวของจากผู้ที่มีใจกุศลจึงมักมาไม่ค่อยถึงชาวบ้านในหมู่บ้านนี้
นี่แหละครับ เรื่องราวคร่าวๆของชาวบ้านนาสะอุ้ง ที่เป็นคนไทย แต่ต้องมากลายเป็นผู้อพยพจากไฟสงคราม และยังได้รับความลำบากอยู่จนทุกวันนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจากพี่ประสิทธิ์ และเนื้อหาบางส่วนจาก supon2010.blogspot.com
ผมเอาภาพเส้นทางการเดินทางระหว่างบ้านทับเบิก มาบ้านนาสะอุ้งมาให้ชมกันครับ......นี่แหละครับเป็นเส้นทางที่เราจะได้ทดสอบน้องปาร่วมกัน......เห็นภาพไม่ต้องตกใจนะครับ......พี่ประสิทธิ์ยืนยันว่าน้องปาขับเคลื่อน 2 ล้อผ่านได้สบายครับ (เฉพาะในหน้าแล้งนะจ้า)
Credit ภาพจาก คุณkobkadkad จาก www.weekendhobby.com
ตูมตาม:
สรุปง่ายๆครับ สำหรับบ้านนาสะอุ้ง
1. ชาวบ้านเป็นคนไทย เคยมีที่ทำกิน ถูกไฟสงครามทำให้ต้องกลายเป็นผู้อพยพ พลัดถิ่นฐาน พรากครอบครัว มาอยู่ที่ภูทับเบิก
2. ขาดที่ทำกิน เพราะที่ดินมีเหลือให้ทำกินไม่มาก
3. อยู่ห่างไกล หนทางไม่สะดวก ผู้เข้าไปบริจาคมีไม่มากนัก (แต่หลังๆก็คงเริ่มเยอะ)
ทั้งหมดนี้ทำให้ชาวบ้านอยู่กันอย่างไม่เพียงพอครับ พี่ประสิทธิ์จึงแนะนำให้เราจัดทริบเพื่อนำข้าวของไปบริจาคให้ชาวบ้านกัน
ตูมตาม:
สำหรับสิ่งของที่เราจะนำไปบริจาคกันนั้น หลังจากที่ทางทีมจัดงานปามาเนียของเรา ได้ประสานงานกับพี่ประสิทธิ์ คุณหมอวิเชียร และผู้นำชุมชนบ้านนาสะอุ้งแล้ว สรุปได้ดังนี้ครับ
1. เครื่องเล่นสำหรับเด็ก พวกชิงช้า ไม้ลื่น เพื่อจัดเป็นพื้นที่สันทาการสำหรับเด็กในหมู่บ้าน เครื่องเล่นทั้งหมดมี 5 ชิ้น (เดี๋ยวมาลงรายละเอียดให้นะครับ) ใช้งบประมาณประมาณ 24000 บาท ทั้งค่าผลิต ค่าขนส่ง (จากหล่มเก่าขึ้นทับเบิก) และค่าติดตั้งครับ
2. อาหารแห้ง เครื่องกระป๋อง โดยได้รับข่าวสารจากคุณหมอวิเชียร หัวหน้าอนามัยทับเบิกเล่าว่า มีบางช่วง ชาวบ้านแร้นแค้น อดอยากพอสมควร ได้แต่ไปเก็บผักตามป่ามากินกับน้ำพริกเท่านั้น อาหารเหล่านี้สามารถช่วยชาวบ้านได้ในช่วงดังกล่าวครับ อาหารที่คุณหมอแนะนำคือ พวกมาม่า และปลากระป๋องครับ
3. เสื้อผ้าทั้งธรรมดาและกันหนาว บนทับเบิกอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีครับ เสื้อผ้าพวกนี้ชาวบ้านได้ใช้แน่นอน ใครมีเสื้อผ้าเก่าที่ยังใช้ได้ ทั้งเสื้อผ้าธรรมดา และเสื้อกันหนาว สามารถนำมาร่วมบริจาคได้เลยครับ รายการนี้เราคงไม่ได้ซื้อนะครับ ขอรับบริจาคเป็นเสื้อผ้าเก่าของพี่ๆทุกท่านนะครับ
สำหรับพี่ๆท่านใดสะดวกบริจาคเป็นทุนทรัพย์ เรายินดีรับและนำไปจัดสรรเพื่อซื้อรายการที่ 1 และ 2 นะครับ เราจะมีบัญชีรายรับรายจ่ายมาแจ้งให้พี่ๆทุกท่านทราบอย่างชัดเจนครับ (เบอร์บัญชี เดี๋ยวรอพี่สุมาแจ้งอีกทีนะครับ)
สำหรับพี่ๆท่านใดสะดวกบริจาคเป็นสิ่งของในรายการที่ 2 หรือ 3 เราก็ยินดีรับเช่นเดียวกัน....ถ้าพี่ๆจะบริจาคเป็นสิ่งของ ขอให้แจ้งมาได้เลยครับ ผมจะจัดคนไปรับของมารวมกันไว้ที่ผมก่อน......และก่อนวันเดินทาง จะมีรถของบริษัทที่รู้จักกันเขารับอาสาเอาของไปส่งไว้ให้พี่ประสิทธิ์ครับ.....พวกเราจะได้ไม่ต้องขนกันไปเอง
พี่ๆทุกท่านที่มีจิตกุศลร่วมบริจาคกับเรา ลงชื่อไว้ได้เลยครับ....
สำหรับการบริจาคทุนทรัพย์ ของให้ลงชื่อพร้อมจำนวนเงินที่ต้องการบริจาคไว้ได้เลยครับ (เดี๋ยวผมได้หมายเลขบัญชีจากพี่สุ จะแจ้งให้ทราบอีกทีครับ)
สำหรับการบริจาคสิ่งของ ขอให้ลงชื่อพร้อมกับประเภทสิ่งของและจำนวนคร่าวๆ และรบกวน PM เบอร์โทรมาที่ผมก็ได้ครับ....จะได้ติดต่อเพื่อส่งคนไปรับของจากพี่ๆได้ครับ
ในนามทีมจ้ดงานปามาเนีย ผมขอขอบคุณพี่ๆผู้มีจิตกุศลทุกท่านแทนชาวบ้านนาสะอุ้งไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยครับ :L4399: :L4399:
ตูมตาม:
รายการเครื่องเล่นที่เราจะนำไปบริจาค เพื่อสร้างเป็นพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็กๆกันนะครับ....เครื่องเล่นผลิตจากเหล็ก มีทั้งหมด 5 ชิ้น ดังนี้ครับ
1. ชิงช้า แบบ 4 ที่นั่ง ขนาด กว้าง 1.30ม. ยาว 3ม. สูง 2ม.
2. ม้าหมุน แบบ 4 ที่นั่ง กว้าง 1.5ม. สูง 1ม.
3. ไม้ลื่น (มีถัง) กว้าง 0.65ม. ยาว 2.8ม. สูง 1.3ม.
4. ปีนป่ายลอดถัง กว้าง 0.65ม. ยาว 2.8ม. สูง 1.3ม.
5. เกาะเหล็ก กว้าง 1.25ม. สูง 2.5ม.
ดังที่ได้แจ้งไว้แล้วนะครับ งบประมาณสำหรับเครื่องเล่นทั้ง 5 ชิ้น พร้อมค่าขนส่ง และค่าติดตั้งทั้งหมด 24000 บาทครับ
โครงการพื้นที่สันทนาการสำหรับเด็ก@บ้านนาสะอุ้งนี้ จะเป็นจริงได้หรือไม่ขึ้นกับพวกเราชาวปามาเนียทุกคนนี่แหละครับ
ขอบคุณครับ
ตูมตาม:
ขออนุญาติ รวบรวมรายชื่อผู้ที่ร่วมบริจาคนะครับ :L4399: :L4399:
สำหรับผู้ที่ร่วมบริจาคทุนทรัพย์ (เพื่อจัดซื้อรายการ 1 และ 2)
1. ผู้ร่วมงาน meeting ปามาเนีย@กรุงธน ทุกคน จำนวน 2600 บาท
2. พี่อ๊อด ดอนเมือง จำนวน 2000 บาท (ฝากมากับพี่นะ)
3. ตูมตาม จำนวน 2000 บาท
4. พี่บิล จำนวน 2000 บาท
5. พี่วี พระนคร จำนวน 1000 บาท
6. พี่บอย จำนวน 1000 บาท
7. พี่กิตติและครอบครัว จำนวน 1700 บาท
8. พี่ย้ง 2000 บาท
สำหรับผู้ที่ร่วมบริจาคสิ่งของ (รายการ 2 และ 3)
1. พี่วี พระนคร - มาม่า 3 ลัง ปลากระป๋อง 3 แพ็ค + เสื้อผ้า
2. พี่บอย - เสื้อผ้า
3. พี่ย้ง - อาจมีอาหารแห้งหรือเสื้อผ้า (จัดได้จะฝากผมมาอีกที)
4.
5.
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
Go to full version