Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Technics, Maintenance & Problem solving
เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ เราควรทำอย่างไร
ตูมตาม:
--- อ้างจาก: ปุ้ย ปาขาวบางแก้ว ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 16:47:00 ---เพื่อนผมส่งมาให้ ผมก็ลงมาให้อ่าน ถ้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีประโยชน์ก็ลบทิ้งได้ทันทีคราบพี่เหน่ง
--- End quote ---
ไม่ว่าเรื่องที่เอามาลงจะเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องแต่งตามที่สงสัยกันใน Pantip มันก็มีประโยชน์ครับพี่ปุ้ย อย่างน้อยก็ทำให้พวกเราได้คิด ได้วิเคราะห์ ว่าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นกับเรา เราจะทำอย่างไร เราอาจจะทำแบบในเรื่องที่เล่ามาในบางประการ บางอย่างที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทำ นี่ละครับประโยชน์ อย่างน้อยก็ได้คิดวิเคราะห์กันครับ ถ้าพี่ปุ้ยไม่เอามาลงก็คงไม่ได้มาคิดวิเคราะห์กันหรอกครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆที่มาจุดประกายให้ใช้ความคิดกันครับ
:sd23: :sd23: :sd23:
หม่อง Pamania:
:sd23: :sd23: :sd23:
เหน่ง V6:
--- อ้างจาก: ปุ้ย ปาขาวบางแก้ว ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 16:47:00 ---เพื่อนผมส่งมาให้ ผมก็ลงมาให้อ่าน ถ้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่มีประโยชน์ก็ลบทิ้งได้ทันทีคราบพี่เหน่ง
--- End quote ---
พี่ปุ้ย อย่าเข้าใจเจตนาผมผิดนะครับ การพิมพ์อาจไม่ได้สื่อเจตนาตรงๆของผม
จริงๆ แล้ว มันมีประโยชน์มากครับ เพียงแต่ผมเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกัน เลยแชร์ประสบการณ์ของตัวเอง
ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าเรารู้สาเหตุและเข้าใจวิธีแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง มันก็ช่วยรักษาชีวิตของเราไว้ได้ครับ
ที่ผมติดใจเป็นที่เนื้อหาที่คลาดเคลื่อนในความเข้าใจ กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง ขณะ รถวิ่ง130 ถ้าไม่ขับรถเก่งจริงๆ หรือมีสติมาก รอดอยากครับ
ซึ้งผมเกรงว่าถ้าเกิดเหตุการณ์จริงแล้วมีคนนำวิธีนี้ไปใช้จริงจะมีอัตรายถึงชีวิตได้
แล้วที่ผมพิมพ์ไปนั้น เพราะพี่ปุ้ยตั้งหัวข้อว่า "เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ เราควรทำอย่างไร" ขอชี้แจงตรงนี้นะครับ ผมก็ไม่ได้ขับรถเก่งมากมายอะไร แค่แชร์ประสบการณ์ และพยายามตั้งข้อสงสัยในเรื่องที่คิดว่ามันไม่น่าจะทำได้ เพื่อที่จะได้ต่อยอดความคิดที่ได้อ่านจากบทความที่พี่ปุ้ยนำมาแบ่งปันว่า สิ่งไหนทำได้จริง สิ่งไหนควรระวัง ไม่ควรทำครับ
หวังว่าพี่ปุ้ยคงเข้าใจในเจตนาของผมมากขึ้นนะครับ ถ้าทำให้ขุ่นเคืองจากกการพิมพ์อะไรที่ไม่ครอบคุม ก็ขออภัยด้วยนะครับ :sd23:
พี่นะ [Na ratchada]:
--- อ้างจาก: ปุ้ย ปาขาวบางแก้ว ที่ 21 กรกฎาคม 2014, 23:40:13 ---"สำหรับคนใช้รถเกียร์ AUTO"
บทความนี้อยากส่งต่อให้ทุกคนที่ขับรถอ่าน กรุณาอ่านให้จบนะคะ. เพื่อความปล อดภัยและมีสติ...
เป็นวันที่ผมมิอาจลืมได้ ในชีวิตนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ผมได้ขับรถขึ้นทางด่วนพิเศษจาก ถนนจันทน์ มุ่งหน้าไปถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อที่จะไปทำบุญบริจาคสิ่งของ ที่บ้านเด็กอ่อนพญาไท ติด ถ.แจ้งวัฒนะ- ปากเกร็ด
ขณะขับรถไปได้ประมาณ 20 นาที และมองไปที่คันเร่ง เห็นหน้าจอ ที่ 140 กม.ผมก็ได้ถอนคันเร่งและแตะเบรก 2 ครั้งเพื่อลดความเร็ว
แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผมได้ลองใหม่อีก 3 ครั้ง คราวนี้กระชากเบรกมือด้วยอีก 2 ครั้ง เบรกเท้าอีกก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ความเร็วอยู่ที่ 130 กม/ชม. ผมได้พยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนสนิทที่นัดแนะไปทำบุญด้วยกัน
เพื่อนแนะให้ลดเกียร์ จาก D เป็น 2 และ L ความเร็วลดจาก 130/ชม. เป็น 120- 110 ซึ่งลดลงได้เพียงเท่านี้
ความพยายามในการชะลอรถมากกว่า 10 นาที และลองเกียร์ว่าง 1 ครั้ง ไม่มีผลเลย ผมคิดว่าคงอาจจบชีวิตบนการทางพิเศษแล้ว
เพื่อนได้แนะอีกครั้ง และสมาธิเริ่มรวบรว ม ความพยายามประมาณครั้งที่ 7 โยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่างแล้วดับเครื่อง
คราวนี้รถได้ชะลอความเร็วลงมาก ผมได้ประคองขับรถต่อไปอีกประมาณ 5 กม.. กว่ารถจะหยุดได้ ซึ่งผมก็สามารถหยุดชิดขอบทางได้ เหมือนรอดตายพ้นนรก ผมรีบโทรบอกที่บ้านเพราะตอนแรกนึกว่าคงไม่ได้โทรสั่งเสียหรือสั่งลา ผมได้เดินอีกประมาณ 100 เมตรไปบอกเจ้าหน้าที่เก็บเงินที่ ด่านเก็บเงินใกล้แจ้งวัฒนะเพื่อขอความช่วยเหลือ
รอประมาณ 10 นาที ก็มาช่วย ผลปรากฏว่าสาเหตุที่คันเร่งค้าง เพราะกล่องสัญญาณกันขโมยซึ่งหนักประมาณเกือบครึ่งกิโลไปทับอยู่ที่ ก้านของคันเร่งและเกิดการล็อคขึ้น
ได้สอบถามกับอู่รถแล้ว อู่แจ้งว่า มีโอกาสเป็นไปได้ที่คันเร่งค้างจากสาเหตุดังกล่าว เนื่องจากกล่องสัญญาณกันขโมยจะติดตั้งอยู่เหนือคันเร่งติดตัวถังรถสิ่งที่ควรกระทำคือ ตั้งสติแล้วโยกเกียร์มาที่ช่อง N เป็นเกียร์ว่าง จากนั้นปิดสวิทช์กุญแจดับเครื่องยนต์และเปิดไฟฉุกเฉิน รถก็ยังวิ่งอยู่แล้วค่อย ๆ เหยียบเบรคเป็นระยะ ๆ ความเร็วรถจะค่อยลดลง จนสามารถจอดรถได้
การปิดสวิทช์กูญแจรถยนต์ดับเครื่องเลยในขณะที่เกียร์รถไม่อยู่ที่ N รถก็ยังวิ่งอยู่เครื่องยนต์และระบบเกียร์จะเสียหายมากกว่าที่อยู่ช่อง N ครับ
ขอเพิ่มเติมให้อีกหน่อยครับ ถ้าวิธีนี้ใช้ได้จริง
ดับเครื่องเฉย ๆ นะครับ อย่าดึงกุญแจออกจากรูกุญแจ เดี๋ยวพวงมาลัยล็อค จะยิ่งแย่เข้าไปอีก เพราะถ้าดับเครื่องโดยที่กุญแจยังเสียบอยู่ เรายังบังคับเลี้ยวได้
พวงมาลัยจะไม่ล็อค เราจะเปลี่ยนเลนเพื่อหลบรถคันหน้าได้
ไม่รู้ว่าซำ้หรือเปล่า ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสมก็ลบทิ้งได้ทันทีนะคราบ
พอดีเพื่อนส่งมาทาง line ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ได้คราบ
:sd23: :sd23: :sd23:
--- End quote ---
ขอขอบคุณข้อมูลครับพี่ปุ้ย จากเหตุการณณ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่าเชื่อได้ว่าคนขับรถคันนี้ไม่ใช่มือใหม่เพราะลักษณะการเหยีบบยาวขึ้นทางด่วนจนไมล์แจะ140นั้นไม่ใช่มือใหม่อย่างแน่นอน แต่มาเหยีบบเบรค 2 ครั้งเพื่อชลอความเร็วลงนั้นจุดนี้ไม่ต้องแตะเบรคก็ได้เพราะส่วนใหญ่แค่ยกคันเร่งก็ลงแล้ว(ยกเว้นรถคันนี้คันเร่งค้างมาตั้งแต่กดชขึ้นทางด่วนและรถวิ่งไปเรื่อยๆจนความเร็วสูงขุึ้นจนเจ้าของรถต้องลดความเร็ว) แต่จากที่บอกว่าขณะเกิดเหตุนั้นมีการโทรหาเพื่อน จุดนี้ต่างหากที่บอกว่าไม่น่าใช่มือใหม่แน่นอน ลำพังมือเก่าๆอย่างพวกเราก็คงไม่มีอารมณ์ละมือและสายตาในการประคองรถมากดโทรศัพท์โทรหาใครหรอก (ยหกเว้นรถหยุดแล้ว จึงใส่ไข่อีก2ฟอง)
เอาน่าจะอะไรก็ตาม จากคนโพสที่แนะนำเรื่องสิ่งแรกที่ควรทำนั้น ผมขอแนะนำทับว่าอย่าทำเช่นนั้นเช่นดับเครื่องยนต์ที่ gear N เพราะ
- คุณจะกดเบรคได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ลมเบรคจะหมดและเบรคจะหนักต้านแรงกดและตื้อมากๆ เพราะระบบเบรคถูกตัดแรงดันน้ำมันเบรค จนคุณตกใจแน่ๆ
- พวงมาลัยจะบังคับลำบากเพราะจะหนักแรงเพราะน้ำมันเพาว์เวอร์ไม่มีปั๊มช่วยส่งแรงอัดน้ำมันในระบบ ประคองรถไม่ได้อีก
- หากดึงกุญแจออก พวงมาลัยอาจจะล็อคแกนได้
- การควบคุมรถจะลำบากมากๆ ไม่เหมาะกับมือใหม่อย่างแน่นอน
วิธีแนะนำหากบังเอิญเกิดเหตุคล้ายๆกันนี้
1. ตัดกำลังส่งเครื่องยนต์ ด้วยการดันปลดเกียรมาที่ N (ปกติจาก D มา N จะดันได้ทุกขณะโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ)
2. ถ้ากดเบรคแล้วรถไม่มีแรงเสียดทานจากระบบเบรค ให้เอามือซ้ายจับคันเบรคมือแล้วเอานิ้วหัวแม่มือกดปุ่มปลายคันเบรคมือค้างไว้แล้วเหนี่ยวเบรคขึ้นเป็นระยะๆสู้แรงเสียดทานพร้อมเท้ากดช่วยแรงๆ ย้ำๆ (อย่าปล่อยนิ้วหัวแม่มือนะ)
3. ถ้าคันเร่งค้างจริง จะมีเสียงเครื่องยนต์ดังลั่นๆ ช่างมันอย่าไปสนใจหรือห่วงว่ามันจะพัง ห่วงตัวเราก่อนรีบประคองรถเข้าข้างทาง (และอย่าลืมเปิดไฟเลี้ยว หากสามารถเปิดกระจกยื่นมือไปนอกรถแล้วยกมือชี้ไปทางอ้อมหัวไปทางซ้าย เพื่อส่งสัญญานขอจอดซ้ายด่วน) ....เลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินตอนอยู่กลางถนนเพราะรถหลังจะเดาไม่ได้ว่าเราจะเอาอย่างไร ส่วนใหญ่จะคิดว่ารถเสียจอด
4. หากรถเข้าเลนซ้ายได้ก็เอื้อมปิดกุญแจได้เลย แต่ระวังว่าพวงมาลัยจะหนัก (ฉะนั้นควรเข้าเลนซ้ายให้เรียบร้อยก่อน)
5. หลังเครื่องดับ เบรคจะหนักๆ สามารถกดได้เต็มแรงจะค่อยๆชะลอรถลงได้ด้วย
:L2739:
เด่น บางนา:
ขอบคุณครับ สำหรับ ข้อมูล :sd23:
แต่รู้สึกว่า เมื่อปีก่อน ในพันทิป ก็เคยมีคนเอามาลงแล้ว :sd10:
ที่เค้าสรุปว่า น่าจะเป็นเรื่องแต่ง เพราะข้อมูลมันขัดแย้งกันครับ :sd21:
เช่นขับรถบนท่างด่วน แต่คันเร่งค้าง ความเร็วประมาณ 130-140 แต่กดโทรหาเพื่อน ผมว่า ความเร็วขนาดนั้น กับสภาพถนน มันไม่สามารถหละสายตา หรือมือจากพวงมาลัยได้เลยน๊ะครับ
ถ้าคันเร่งค้างจริงๆ เข้าเกียร์ว่าง แล้วเหยียบเบรก หรือค่อยๆ ดึงเบรกมือยังไง ความเร็วก็ต้องลดครับ เพราะเครื่องยนต์ ไม่สามารถถ่ายทอดกำลังไปยังเกียร์ได้แล้ว ความเร็วจะต้องค่อยๆ ลดลง ถึงไม่ได้เหยียบเบรกก็ตาม แล้วยิ่งเหยียบเบรก นี้ยังงัยก็ต้องหยุด
ความคิดเห็นส่วนตัวน๊ะครับ ผิดถูกต้องขออภัย :sd23:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version