Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Wheels, Tires, Brakes & Suspension Systems
สงสัยเรื่องการสลับยาง ถ่วงล้อครับ
แม็ค magarapong:
--- อ้างจาก: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 18 กรกฎาคม 2014, 17:33:01 ---ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
--- End quote ---
:L2900: ขอบคุณพี่นะสำหรับข้อมูลดีๆ เพื่อเป็นแนวทางในการสลับยางครั้งต่อไปครับ :L2758:
พี่เจ ปาดำ เชียงราย:
--- อ้างจาก: พี่นะ [Na ratchada] ที่ 18 กรกฎาคม 2014, 17:33:01 ---ถึงถ่วงมา 4 ล้อแต่พอใช้งานไปแล้วมีการสลับล้อ ก็ควรจะตรวจเช็คศูนย์ล้อยางหน้าใหม่เพราะการสึกหรอของหน้ายาง ล้อหน้ากับล้อหลังต่างกัน
เช่น
- รถที่ขับขึ้นลานจอดทุกวัน ไหล่ยางล้อหน้าจะกินเยอะกว่าล้อหลัง
- หน้ายางล้อหน้าจะสึกเสมอกว่าล้อหลังเพราะน้ำหนักบรรทุกคงที่กว่า (หากยางที่มีค่าทนสึกของดอกยางสูง อาจจะมีผลน้อย)
- การถ่วงล้อจำเป็นที่ล้อหน้ามากกว่า 90% ล้อหลังดุ้ง สั่น หากไม่มากยังไม่รับรู้อาการชัดเจนหรอก
- การปะยางแบบสตรีม ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย ถ่วงเฉพาะล้อนั้นก็ดีครับเพราะจุดที่สตรียมจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น
- การถ่วงเพื่อแก้ปัญหาล้อสั่น อาจจะต้องทำถึงขนาดแคะหินที่ติดตามดอกยางออกให้หมดและล้างยางก่อนถ่วง
- หลีกเลี่ยงการถ่วงจี้ หากไม่มีอาการมากมายจนรับไม่ได้เพราะการถ่วงแบบจี้จะทำความสเียหายกับไหล่ยาง ยิ่งยางดอกสวยๆรับรองว่าไหล่ยางเรียบเตียนเลย
- การปะยางแบบแทงตัวหนอน ไม่ต้องถ่วงก็ได้ครับ
- หากรถวิ่งไม่มีอาการพวงมาลัยเต้น (ไม่ใช่สั่นนิดๆนะ) ปล่อยมือกินขวามากเกินไป(กินซ้ายนิดๆพอรับได้) หน้าหนักควบคุมพวงมาลัยกำลังดีไม่เบาว่อกแว่ก ก็ไม่ต้องไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้เปืองเงินหรอกครับ ทำเฉพาะที่มีปัญหาหรือเมื่อเปลื่ยนยางใหม่เท่านั้น
- การดูแลรักษารถก็อย่าบริหารความสเี่ยงตามตารางซ่อมบำรุงของศูนย์มากนัก บางอย่างเสียค่อยเปลี่ยน บางอย่างบำรุงรักษาเพื่อป้องกัน บางอย่างควรUpgradeเพื่อความปลอดภัยและการทรงตัวในการขับขี่ บางอย่างราคาสูงก็หาเทียบพิจารณาของมือสองแล้วมาบิ้วใหม่ก็ทดแทนได้เช่นกัน ส่วนใหญ่เวลาเข้าศูนย์เขาจะเปลี่ยนยกรายการตามระยะเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้าไปเลย จนบางครั้งทำให้ค่าใช้จ่ายสูงมากเกินไปก็มี
--- End quote ---
มาเก็บข้อมูลครับ
เป็นประโยชน์มากเลยครับพี่ๆ
ขอบคุณครับ
นันทวิทย์:
เคยได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อาจารย์แนะนำว่ารถที่ใช้งานตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องสลับยางให้เปลืองเงิน แถมการสลับยางยังมีความเสี่ยงต่ออาการพวงมาลัยสั่นจากการกินยางของล้อหลังที่นำมาใส่ที่ล้อหน้าอีกแม้ว่าจะถ่วงล้อแล้วก็ตาม รวมถึงคุณภาพของยางในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานระยะการใช้งาน 5-6 หมื่นกิโลเมตรได้สบายอยู่แล้ว ไว้ถ่วงล้ออีกครั้งตอนเปลี่ยนยางใหม่ทีเดียวเลย
แม้ว่าผมจะได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช (ซึ่งผมก็นับถือในความรู้และความเป็นอาจารย์ของท่าน) แต่ผมก็ยังคงสลับยางถ่วงล้อหน้าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความสบายใจอยู่ดีครับ :L2901:
พี่เจ ปาดำ เชียงราย:
--- อ้างจาก: นันทวิทย์ ที่ 13 สิงหาคม 2015, 12:00:22 --- เคยได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ อาจารย์แนะนำว่ารถที่ใช้งานตามปกติไม่มีความจำเป็นต้องสลับยางให้เปลืองเงิน แถมการสลับยางยังมีความเสี่ยงต่ออาการพวงมาลัยสั่นจากการกินยางของล้อหลังที่นำมาใส่ที่ล้อหน้าอีกแม้ว่าจะถ่วงล้อแล้วก็ตาม รวมถึงคุณภาพของยางในปัจจุบันสามารถรองรับการใช้งานระยะการใช้งาน 5-6 หมื่นกิโลเมตรได้สบายอยู่แล้ว ไว้ถ่วงล้ออีกครั้งตอนเปลี่ยนยางใหม่ทีเดียวเลย
แม้ว่าผมจะได้อ่านบทความของอาจารย์พัฒนเดช (ซึ่งผมก็นับถือในความรู้และความเป็นอาจารย์ของท่าน) แต่ผมก็ยังคงสลับยางถ่วงล้อหน้าทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อความสบายใจอยู่ดีครับ :L2901:
--- End quote ---
ตามนั้นเลยครับพี่นันทวิทย์ :sd42:
ติงลี่..:
ผมเองก็ .. สลับยางแล้วถ่วงล้อใหม่หมดครับ
เอาสบายใจไว้ก่อนครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version