Pa Mania Tales (เรื่องเล่าปามาเนีย) > Exterior & Interior Accessories & Car Cares

****(หยุดเจ้านี้ ภาคแรก)มีอะไรจะปรึกษา ต้องการคำถามเยอะ เพื่อการตัดสินใจ

<< < (6/13) > >>

อั๋น ราชพฤกษ์:

--- อ้างจาก: พี่ปรี บางบ่อ ที่ 27 พฤษภาคม 2014, 09:46:30 ---พี่โต้ง ผมคงแน่นำให้ได้เฉพาะเรื่องแรงงานต่างชาติครับ
วันดีคืนดี มีปัญหากับตำรวจ เรานายจ้างมี่แต่เสียกับเสีย
พี่โต้งลองไปปรึกษา ที่แรงงานจังหวัด หรือเขตดูนะครับ เรื่องขึ้นทะเบียนแรงงานให้ถูกต้อง
ส่วนเรื่องการบริหารแรงงานต่างด้าวให้อยู่กับเรานานๆ ถ้าพี่โต้งว่างๆมานั่งกินกาแฟกัน จะพาไปรู้จัก
กับพี่คนที่หนึ่ง อยู่บางบ่อนี่แหละ เป็น นักวิทยุสมัครเล่นด้วยกัน เขาทำคาร์แคร์มาหลายปีแล้ว
รถเยอะทุกวัน ลูกน้องไม่ค่อยออก น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งได้ครับ :sd27: :sd27:

--- End quote ---
พี่ปรี ช่วยได้เยอะเลยคับ.  ถ้าถามจากคนที่เค้าเปิดอยู่แล้ว คงได้คำแนะนำเพิ่มเติมคับ.  โชคดีเลยคับ
เดี๋ยวเหมือน เพื่อนผมคับ ลงทุนเปิดขัดสี กับล้างรถคับ. ผิดทำเลไปหน่อยคับ. อยู่หลังเมืองทองคับ.
ไม่มีลูกค้าเข้าสุดท้าย. ต้องหาลูกค้าที่เป็น taxi เเทนคับ ล้างtaxi เหลือคันล่ะ 30 บาท จนสุดท้ายต้องปิดตัวลงคับ
 เพราะtaxi ก้อไม่ค่อยมีเข้ามาน่ะคับ.   :L4386:     :L4386:    :L4386:

ตูมตาม:
ลองมานั่งดูข้อมูลที่พี่โต้งให้มา ผมลองเสนอมุมมองแบบนี้นะครับพี่โต้ง

พี่โต้งต้องทำความเข้าใจก่อนเลยว่า ข้อมูลที่เจ้าของเดิมให้มานั้น เป็นข้อมูลแบบ Optimistic Scenario แปลง่ายๆ ข้อมูลแบบโลกสวย หมายความว่า รายได้มักจะบอกมาเกินจริง และรายจ่ายมักจะบอกมาต่ำกว่าความเป็นจริง ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสในการขายครับ เป็นธรรมดาของการเซ้งต่อธุรกิจ

ทีนี้มาลองดูกันว่า ข้อมูลที่เจ้าของเดิมให้มาในแบบโลกสวยนี้ เอามาคิดคำนวนดูว่ามันน่าสนใจมั๊ย เพราะถ้าโลกสวยแล้วยังไม่น่าสนใจก็เตรียมพับเก็บโครงการได้เลย

รายได้ เจ้าของเดิมบอกว่าได้จากการล้างสี ดูดฝุ่น ขัดเคลือบบ้าง เฉลี่ยนเดือนละ 6-7 หมื่นบาท เอาเป็นว่าเราเชื่อเขานะ ผมตีไปเลยรายได้ 70000 บาทต่อเดือน

มาดูฝั่งรายจ่ายบ้าง
1. ค่าเช่า 25000
2. ค่าคนงาน 3 คน (แบบโลกสวยนะ) คนละ 330/วัน ตีไปวันละ 1000 เฉลี่ยตกเดือนละ 30000 หย่อนนิดหน่อย
3. ค่าเช่าบ้าน (สำหรับคนงาน) + ค่าน้ำ ค่าไฟ จากข้อมูลโลกสวยที่ให้มาตกประมาณ 10000
4. ค่าต้นทุนสินค้า พวกแชมพู น้ำยาขัดเคลือบ อะไรพวกนี้ รวมกับค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด ผมตีให้แบบโลกสวย 5000

รวมค่าใช้จ่ายแค่ 4 อย่างนี้ 25000+30000+10000+5000 = 70000

ค่าใช้จ่ายกับรายได้แทบจะเท่ากันพอดีเลย  :L2739: :L2739: :L2739:

เน้นอีกทีนะครับพี่โต้ง ... นี่คือข้อมูลแบบโลกสวยนะ ... โลกแห่งความจริงจะโหดร้ายแค่ไหนเรายังไม่รู้นะ

ตูมตาม:
จากข้อมูลข้างบน ... ผมว่ายังไม่ต้องไปคิดไกลถึงว่าถ้าลงทุน 420000 บาท แล้วจะคืนทุนเมื่อไหร่ เอาแค่ให้รอดไปเดือนต่อเดือนนี่ก็น่าจะมีเหนื่อยแล้วนะ

ผมคิดว่าธุรกิจของเขานี้แค่พอเลี้ยงตัวเองอยู่ได้ คือได้จากลูกค้าที่เข้ามาล้างสี ดูดฝุ่น เคลือบบ้าง ลูกค้ากลุ่มนี้พอเลี้ยงธุรกิจไปรอดดได้ (เรียกว่าเสมอตัว)

ส่วนกำไรนั้นน่าจะมาจากที่เขาเคลือบแก้ว หรือพวกลูกค้าขัดเคลือบสีชุดใหญ่ ซึ่งนานๆคงมีซักคัน ซึ่งผมเดาว่าเจ้าของเริ่มเล็งเห็นแล้วว่า trend ของเคลือบแก้วกำลังตก ร้านเปิดใหม่เยอะมาก คุณภาพต่างกันไม่มาก (หรือต่างกันลูกค้าก็ดูไม่เป็น) ที่สำคัญแนวโน้มราคาลดลงอย่างแรง เพราะผู้เล่นเยอะเกิน ทำให้กำไรของเขาเริ่มตกลง

จังหวะที่ยังพอประคองธุรกิจไปได้แบบนี้ ... ถ้าขายต่อได้เงินมาซักก้อน หมุนเอาไปทำอย่างอื่นๆได้ เขาก็คงเอาละครับ

 :L6419: :L6419:

ตูมตาม:
มีจุดที่พี่โต้งต้องคำนึงถึง และสำคัญมากอีก 2 จุดนะครับ

1. พี่โต้งจะสามารถลงไปควบคุมคุณภาพของลูกน้องได้ใกล้ชิดเหมือนเจ้าของเดิมหรือไม่ เจ้าของเดิมหนุ่มๆ ลุยได้ แต่พี่โต้งจะไหวหรือเปล่าที่จะต้องถือผ้าไปเช็คงานลูกน้องทุกคัน ก่อนปล่อยรถกลับไปให้ลูกค้า ถ้าไม่ไหว พี่โต้งอาจจะต้องหาผู้ช่วย ซึ่งนั่นจะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น เพราะคนที่จะมาช่วยคุมคุณภาพได้ คงไม่ใช่ค่าตัวแค่ 330 บาาทต่อวัน แน่ๆ

2. อย่างที่ผมเดาไว้ตอนต้น กำไรของเจ้านี้น่าจะมาจากเคลือบแก้ว หรือขัดเคลือบชุดใหญ่ (ประเภทจอดทิ้งเป็นวัน) ถ้าพี่โต้งไม่สามารถเสนอบริการตรงนี้ รายได้ส่วนนี้ก็หายไปด้วย ผมไม่คิดว่าไอ้เด็ก 3 คนในร้านนั่นจะทำเองได้ คิดว่าเจ้าของคงลงไปโม่เองซะมากกว่า ... ซึ่งมันก็วนไปที่จุดเดิมครับ ถ้าพี่โต้งลงไปโม่เองไม่ได้ ก็ต้องหาคนมาช่วย ... ก็เข้าวังวนเดิม ต้นทุนสูงขึ้น และคนที่จะสามารถเคลือบแก้วได้ ขัดเคลือบชุดใหญ่ได้ ค่าตัวไม่ใช่ 330 บาทแน่ๆ

พี่โต้งต้องคิดเผื่อมุมนี้ไว้ด้วยครับ

ตูมตาม:
ถามว่า ถ้าพี่โต้งจะเซ้งร้านนี้ สิ่งที่พี่ต้องทำก่อนตัดสินใจคืออะไร

ส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าพี่โต้งไม่จำเป็นต้องไปเฝ้าดูร้านเขาหรอกครับ จากข้อมูลที่เขาให้มาก็พอจะเห็นเค้าโครงธุรกิจเขาได้แล้ว เฝ้าดูไปก็เท่านั้น ธุรกิจเขาก็ทรงๆ เรื่อยๆ ถ้ามีวินัยทางการเงิน ก็พอจะหมุนเอาตัวรอดไปได้เป็นเดือนๆไป ถ้าขาดวินัยทางการเงินเดี๋ยวก็ขาดสภาพคล่อง เงินสดขาดมือ สุดท้ายก็ขาดใจตาย

สิ่งที่ที่โต้งควรจะทำก่อนตัดสินใจคือ พี่โต้งต้องการคิดว่าพี่โต้งจะสามารถทำให้ร้านนี้มันดีกว่านี้ได้หรือเปล่า หมายถึงจะทำให้ลูกค้าเข้ามามากกว่านี้ หรือลูกค้าเข้ามาแล้วใช้เงินกับพี่โต้งมากกว่าได้หรือเปล่า นี่คือสิ่งที่ต้องคิดครับ มันเป็นเหมือนกลยุทธของธุรกิจ รวมกับแผนการตลาด ถ้าพี่โต้งคิดว่าสามารถทำให้มันดีกว่านี้ได้ ผมว่าโอเค แต่ถ้าพี่โต้งกะว่าจะเซ้งมาแล้วทำต่อในแบบที่เขาทำ บอกตรงๆครับว่าเก็บเงินไว้ดีกว่า

ส่วนกลยุทธ หรือแผนการตลาดนั้น หาพี่โต้งคิดไม่ออก หรืออยากได้มุมมองมาจุดประกาย แนะนำให้ปรึกษาพ่อมดแห่งบ้านปามาเนียครับ เดี๋ยวฟิลมา อารมย์บรรเจิด รับรองแผนออกมาเพียบ ... แนะนำประมาณนี้นะครับพี่โต้ง ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ

ทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นของผมครับ ส่วนการตัดสินใจอยู่ที่พี่โต้ง ... ตัดสินใจอย่างไรน้องๆก็สนับสนุนครับ

 :L2736: :L2736:

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version