Pa Mania General (เรื่องทั่วไปปามาเนีย) > Pa Mania On Tour & Meetings
Caravan Camper Van in New Zealand
ตูมตาม:
การเที่ยวที่ประเทศนิวซีแลนด์นี้ จะเป็นลักษณะของการขับรถเที่ยวครับ คือต้องขับรถเอง ไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งก็ห่างกันพอสมควร หลังจากได้รับการอนุมัติจากผบ. ผมก็ลงมือวางแผนทริบทันที
อันดับแรก อยากให้พี่ๆรู้จักกับประเทศนี้กันก่อนนะครับ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นหมู่เกาะ มีเกาะเยอะแยะมากมาย และมีเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือเกาะเหนือ และเกาะใต้
เกาะเหนือ เป็นเกาะที่มีเมืองใหญ่ๆหลายเมือง เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เช่น Auckland และศูนย์กลางหน่วยงานราชการอย่าง Wellington ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศด้วย แต่สำหรับการท่องเที่ยวนั้น เกาะเหนือยังเป็นรองเกาะใต้อยู่พอสมควรครับ
เกาะใต้ เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอย่างมาก มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเยอะมาก มีเมืองที่สำคัญคือ Christchurch ที่เป็นเมืองท่าหลักของประเทศ และถือว่าเป็นเมืองหลวงของเกาะใต้ด้วย นอกจากนี้ยังมีเมือง Queenstown ซึ่งถูกขนานนามว่า Resort Town เพราะเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว และเป็นเมืองที่ถูกเรียกว่า Capital of Adventure เนื่องด้วยเป็นเมืองที่ถือกำเนิด Bungee Jump เป็นที่แรก และมีกิจกรรมแนว Adventure อีกมากมายในเมืองนี้
ทริบแรกของผมในประเทศนิวซีแลนด์นี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ผมไปทั้งเกาะเหนือ และเกาะใต้ โดยเริ่มที่เมือง Auckland ทางตอนเหนือของเกาะเหนือ ขับรถล่องลงมาทางใต้จนถึง Wellington แล้วเอารถขึ้นเรือ Ferry ข้ามมาที่เกาะใต้ต่อ เที่ยวเกาะใต้ได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะเวลาไม่พอ
ดังนั้นทริบนี้ผมจึงเลือกไปที่เกาะใต้ โดยเที่ยวแบบเจาะลึกเลยครับ หลังจากศึกษาข้อมูลต่างๆทั้งจาก website การท่องเที่ยวของ New Zealand และ Pantip โดยเฉพาะ Pantip นี่มี review การเที่ยวนิวซีแลนด์เยอะมาก ใช้เวลาอ่านข้อมูลทั้งหมดอยู่เป็นเดือน จนวางแผนทริบออกมาได้ครับ เป็นทริบที่เราจะขับรถเที่ยวกันรอบเกาะใต้ ระยะทางขับรถทั้งหมด 2000 กว่า กม. ใช้เวลาในการเที่ยว 12 วัน รวมวันเดินทางไปและกลับ รวมเป็น 14 วัน
กิต <Black Angel>:
เต็มที่เลยครับพี่ตาม ต้นฉบับมาเอง พี่ๆจะได้รับข้อมูลความรู้อย่างครบถ้วน เผลอๆอาจมีการเรียกร้องให้พี่ตามจัดทริป Pa Mania in New Zealand :sd42:
ตูมตาม:
แรกเริ่มเดิมทีนั้นผมเองก็วางแผนไว้ว่าจะไปกันครอบครัวเดียวนี่แหละครับ เพราะการเที่ยวแบบยาวไกล 14 วันขนาดนี้ หาเพื่อนไปด้วยยาก เพื่อนๆที่สนิทกันก็มีแผนไปเที่ยวที่อื่นๆกันแล้ว เราก็เลยกะว่าจะไปกันครอบครัวเดียวครับ
แต่พอมาใกล้ๆช่วงที่จะจองตั๋วเครื่องบิน มีรุ่นพี่ที่สนิทกัน (พี่โอ ที่มาช่วยขนของไปบริจาคที่พุเข็มกับพวกเราด้วยครับ) เกิดเปลี่ยนแผน เดินพี่เขาจะเดินทางไปเที่ยวอเมริกา แต่เกิดเหตุขัดข้องทำให้ต้องยกเลิกทริบไป พี่แกเลยมาถามผมเกี่ยวกับทริบนิวซีแลนด์ ผมก็เล่าแผนคร่าวๆให้ฟัง พี่แกสนใจ ก็เลยสมัครเข้าร่วมทริบด้วย
หลังจากนั้น ก็มีพี่อีกบ้านนึง พอรู้ว่ามีพี่โอไปกับผมด้วย แกก็เลยอยากไปด้วย ข่าวก็เลยแพร่ไปในกลุ่ม จนมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บวกกับผมเคยสัญญากับพี่กิตติไว้ว่า ถ้าผมวางแผนเที่ยวที่ไหนจะกระซิบพี่กิตติให้รู้ เผื่ออยากจะไปด้วยกัน ผมก็เลยโทรไปหาพี่กิตติเล่าเรื่องทริบนี้ให้ฟังคร่าวๆ ก็ไม่นึกว่าพี่ท่านจะไปหรอกครับ เพราะมันเป็นทริบยาว แต่วันรุ่งขึ้นพี่กิตติโทรกลับมาบอกว่าไปด้วย ก็เลยจัดไปครับ
เลยกลายเป็นว่าจากทริบที่วางไว้สำหรับแค่ครอบครัวผมครอบครัวเดียว กลายเป็นเราไปกันทั้งหมด 5 ครอบครัว ประกอบด้วย ผู้ใหญ่ 10 เด็ก 9 รวมเป็น 19 ชีวิตครับ ที่ไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้
พี่ๆคิดดูนะ มีอีก 18 ชีวิต ที่เอาชีวิตมาฝากไว้กับ trip plan ของผม มันจะน่าเครียดขนาดไหน ถ้าพาไปแล้วไม่สนุกนี่ คงรับคำด่าไม่ไหว ผมนี่เครียดถึงขนาดต้องไปรื้อข้อมูลทั้งหมดที่รวบรวมมา มานั่งอ่านใหม่ อ่านแล้วอ่านอีก ทบทวนแล้วทบทวนอีก แทนที่จะเป็น trip plan แบบคร่าวๆ ผมเลยต้องลงรายละเอียดทั้งหมดแบบเจาะลึก ถึงขนาดที่ว่าผมต้องระบุไปหมดเลยครับ ว่ามื้อไหน กินข้าวที่ไหน เอาแบบละเอียด เพื่อกันการผิดพลาด และผมไม่อยากจะไปลังเล ตัดสินใจหน้างาน เพราะมีอีก 18 ชีวิตที่จะมารอผมคนเดียวตัดสินใจนี่คงจะแย่เหมือนกันครับ
ตูมตาม:
เอาละครับ trip plan ได้มาแล้ว สมาชิกก็มากันครบแล้ว ทีนี้มีอีกสิ่งหนึ่งที่ผมต้องตัดสินใจก็คือรถที่จะใช้ในทริบครั้งนี้ครับ
มันมี 2 ทางเลือกคือ
1. เช่ารถธรรมดา (อาจเป็นพวกรถตู้ หรือรถ SUV)
2. เช่ารถบ้าน หรือที่เรียกว่า Camper Van
ผมใช้เวลาตัดสินใจอยู่นานทีเดียวครับสำหรับเรื่องนี้ เพราะทั้ง 2 ทางเลือกมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และการเลือกนั้นต้องระวังมากๆ เพราะรถเป็นปัจจัยสำคัญในการเที่ยว เราจะใช้เวลาอยู่ในรถค่อนข้างมาก โดยเฉพาะวันที่ต้องเดินทางข้ามเมือง บางวันนี่อยู่แต่ในรถเกือบทั้งวัน ดังนั้นจะเลือกอย่างไร ผมต้องคิดหลายด้านเลยครับ
สุดท้าย ผมตัดสินใจเลือกเช่ารถบ้านครับ ด้วยเหตุผลหลักๆ 2 ข้อ
1. การเที่ยวในประเทศ New Zealand นั้นเป็นการขับรถเที่ยวที่จะต้องมีการขับรถข้ามเมือง มีหลายๆช่วยที่ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ ออกเดินทางเช้า ไปถึงจุดหมายก็ช่วงเย็นๆแล้ว ดังนั้นจะต้องมีหลายวันที่เราจะต้องหาข้าวกินกลางทาง ซึ่งเมืองในประเทศนี้เล็กมากๆ บางเมืองไม่มีร้านอาหารเลย หรือมีก็เป็นพวก local pub เล็กๆเท่านั้น ซึ่งเราไม่สามารถกำหนดได้เลยว่าเราจะได้กินอะไร เพราะแต่ละร้านมันก็ขายอาหารแตกต่างกันไป และการที่เรามีเด็กไปด้วยจำนวนมาก ถ้าเกิดร้านที่แวะมีแต่อาหารที่เด็กๆกินไม่ได้ เราจะลำบากมาก และยิ่งไปกว่านั้น ประเทศนี้นี่ร้านเขาปิดเร็วมากครับ 5-6 โมงก็เริ่มปิดกันหมดแล้ว ร้านอาหารอย่างมากก็ประมาณ 2 ทุ่ม ก็ปิดแล้ว ดังนั้นการเดินทางของเรา หากเกิดข้อผิดพลาด ทำให้ไปถึงจุดหมายช้า ถ้าเราขับรถธรรมดานี่อดกินข้าวแน่ๆครับ ผมเลยเลือกรถบ้าน ที่มีครัว มีตู้เย็น ครบครันครับ ดังนั้นทริบนี้ส่วนใหญ่ผมจึงวางแผนไว้ว่าเราจะทำอาหารกินกันเอง ทีนี้ จะไปจอดตรงไหนก็ไม่ต้องกลัวไม่มีกินครับ อยากจอดตรงไหน ก็จอด เอากับข้าวมาอุ่นกินกันได้เลย
2. อันนี้เป็นความต้องการส่วนตัวครับ คือผมคิดไว้ว่า ชีวิตนึง อยากมีประสบการณ์ในการขับรถบ้านเที่ยวกะเขาซักทีเหมือนกัน และประเทศที่เหมาะสมกับการขับรถบ้านเที่ยวก็ไม่มีที่ไหนเกิน New Zealand อีกแล้วครับ ประเทศนี้เขาโปรโมตเรื่องการขับรถบ้านเที่ยวเป็นจุดขายหลักของเขาเลย ดังนั้นเรื่องจำนวนรถ สภาพรถนี่พร้อมกว่าประเทศอื่นๆครับ รวมถึงสถานที่พักสำหรับจอดรถบ้าน ประเทศนี้มีอยู่ทุกเมืองครับ ดังนั้นหากอยากจะลองซักครั้งก็คงต้องลองที่นี่แหละครับ
จากทั้ง 2 ข้อ ผมก็เลยตัดสินใจใช้รถบ้านในการท่องเที่ยวคร้้งนี้ครับ และพี่ๆทุกคนในทริบก็โดนผมกล่อมจนเชื่อกันหมด :sd42: :sd42: :sd42:
Credit ภาพจาก Pantip.com
ตูมตาม:
เอาละครับ ก่อนจะพาพี่ๆทุกท่านไปเที่ยวกับผม ผมอยากมาแนะนำให้รู้จักเจ้ารถบ้านกันก่อนครับ มันเป็นรถขนาดใหญ่ ยาวประมาณ 7 เมตรกว่าๆ ความกว้างพอๆกับรถตู้ใหญ่ๆหละครับ ขนาดพอๆกับรถบรรทุก 4 ล้อใหญ่ หรือ 6 ล้อเล็กประมาณนั้น
Credit ภาพจาก Pantip.com
เจ้ารถบ้านนี่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบเลยครับ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เตาแก๊ซ สำหรับชุดครัว มีห้องน้ำในตัวพร้อมเครื่องทำน้ำร้อน (ใช้เป็นระบบแก๊ซ) นอกจากนี้ยังมีชุด Home Entertainment ทั้ง TV DVD มากันครบครับ เหมือนอพาร์ทเม้นต์เคลื่อนที่เลย
ภายในรถ สามารถปรับเบาะนั่งให้กลายเป็นเตียงนอนได้ โดยรถมีหลายขนาด ขึ้นกับจำนวนที่นอนภายในรถ มีตั้งแต่ 2 ที่นอน 4 ที่นอน และ 6 ที่นอน ในทริบนี้ของเรานั้น เราใช้รถขนาด 6 ที่นอน 3 คัน และขนาด 4 ที่นอน 1 คัน คันที่เป็น 4 ที่นอนนี่เป็นรถของพี่กิตติครับ เพราะมีแค่ 3 คน พ่อแม่ลูก ส่วนผมใช้รถขนาด 6 ที่นอน เพราะนอกจากครอบครัวผม 3 คนแล้ว ยังมีหลาน ลูกพี่ชาย พี่ชายผมฝากมาเที่ยวด้วยอีก 1 และยังมีเพื่อนผบ. + ลูก ตามมาด้วย ในรถผมก็เลยกลายเป็น 6 คน เต็มพิกัดรถเลยครับ
การใช้รถบ้านนี่ เวลาเราจะจอดนอน จะต้องจอดในสถานที่เฉพาะนะครับ ไม่ใช่อยากนอนตรงไหนก็จอดนอนได้นะ ที่จอดรถนอนสำหรับรถบ้านพวกนี้จะเรียกว่า Camp Site ซึ่งมีอยู่ทั่วๆไปทั้งประเทศ Camp Site พวกนี้จะมีพื้นที่โล่งๆให้จอดนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นของอุทยานแห่งชาติของที่นั่น เสียค่าจอดถูกมาก แต่ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้นะ ส่วนใหญ่จะมีห้องน้ำให้เข้า แต่เป็นเฉพาะห้องส้วมเท่านั้น ไม่มีห้องอาบน้ำ แต่ในทริบนี้เนื่องจากมีเด็กมาด้วยเยอะ ผมจึงเลือกที่พักอีกแบบนึงที่เรียกว่า Holiday Park ที่พักพวกนี้จะมีที่จอดรถบ้านให้ โดยมีไฟฟ้าให้ใช้ เราสามารถเอาปลั๊กไฟจากรถเราไปเสียบได้ จะได้สามารถเปิดไฟในรถได้ สามารถใช้ microwave ได้ครับ นอกจากนี้ที่พักแบบ Holiday Park นี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้เราใช้ได้อีกด้วยเช่น ครัวกลาง ห้องอาบน้ำ สนามเด็กเล่น พวกนี้ใช้ได้หมดครับไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
Credit ภาพจาก Pantip.com
เอาละครับ ข้อมูลเบื้องต้นครบละ ทีนี้เรามาออกเดินทางไปเที่ยวกัน :sd01: :sd01: :sd01:
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version